“เมย์..ไม่ใช่เรื่องผัดเผ็ดหมูป่า” เขากระซิบ “แต่เป็นเรื่องที่เรา..ร่วมรักกัน”
“อ๊ากกกกกกกก” พฤษภาแหกปากโหยหวน กระโดดประชิดตัวอีกหนึ่งหนุ่มแล้วตะครุบปากวินาทีนั้น “จ๊ากกกกกกกก”
เฟรดยกมืออุดหู พวกลูกน้องพ่อครัวใหญ่สะดุ้งเฮือกกันเป็นแถบ
“ถอนคำพูด ถอนคำพู้ดด!!” กุ๊กเมย์หายใจหอบ หน้าเดี๋ยวดำเดี๋ยวแดง อีกประเดี๋ยวก็เขียวเหมือนถูกบีบของสงวน “ไอ้คนปาก
เสีย ไอ้ปากปีจอ กินหมามุ่ยเข้าไปทั้งต้นเรอะ!” เขาทั้งลากทั้งดึงคู่กรณีออกมานอกครัว
โชคชัยเหมือนจะได้ยินเสียงโวยวายเลยเดินออกมานอกห้องทำงาน เห็นน้องเขยกำลังฉุดกระชากลากถูฝรั่งตัวโตออกมาก็ได้แต่ยืนงง พฤษภ์ตัวเล็กกว่าเป็นฟุตแต่หิ้วปีกคนตัวเท่าตึกได้ง่ายดายสบายบรื๋อ
“มีอะไรกันรึเปล่า” เขาถามด้วยความเป็นห่วง
เฟรดเหลือบมองเจ้าของร้าน แอบกระหยิ่มในใจด้วยความเผลอไผล
“คุณเป็นแฟนของโชคชัยงั้นเหรอ”
“เปล่า..พี่โชคน่าร๊าก พี่เมียเมย์เอง”..แค่พี่เมีย..
“เปล๊า!” พฤษภาส่ายหัวหวือ เอื้อมมือสุดแรงแขนเพื่อปิดปากศัตรูตัวฉกาจ(ต่อพรหมจารีด้านหลัง)ให้เงียบ “ไม่มีอะไรพี่โชค แบบว่า..ไม่มีอะไร”
เฟรดปรายตาลงมองคนตัวเล็กกว่าที่เผลอเบียดเขาจนชิด มือที่มีขนาดสองในสามของมือเขายังตะครุบแน่นอยู่บนปาก นึกสงสัยว่าถ้าแกล้งเลียไปจะถูกชกด้วยหมัดข้างไหน
..ว่าแต่..ได้กลิ่นตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว..
ชายหนุ่มสูดดมเบาๆ กลิ่นแป้งเด็กจากตัวกุ๊กเมย์ลอยอวลอยู่รอบด้าน เขาเห็นภาพอีกฝ่ายลงไปคลุกผงแป้งตอนจับน้องเมษอาบน้ำแต่งตัว
..หอม..
“ไม่มีอะไรแล้วเราจะไปจับคุณเฟรดแบบนั้นทำไม เขาหายใจไม่ออกไม่แย่เรอะ” คุณโชคเดินเข้ามาใกล้ ส่ายหัวด้วยความขบขัน
พฤษภาเบะปาก “หมอนี่มันคางคก หายใจทางผิวหนังได้”
“ไปว่าเขาอีก!”
เฟรดยืนมองคนที่เถียง ‘พี่เมีย’ ปาวๆ ถ้าไม่สนิทกันคงไม่มีทางรู้เลยว่ากุ๊กเมย์น่ะพูดมาก ซ้ำยังชอบฝอยน้ำลายแตกฟอง
..น่ารักชะมัด..
“ตกลงจะปล่อยคุณเฟรดได้รึยัง มีอะไรทำไมไม่ค่อยพูดค่อยจา ลูกหนึ่งแล้วยังอาละวาดเป็นเด็กอีกนะพฤษภ์”
“ผมเปล่าซะหน่อย” พฤษภาชี้โบ๊ชี้เบ๊ “โอ๊ะ! ลูกค้ามา”
โชคชัยหันไปมองหน้าร้าน หันกลับมาอีกที คนทั้งคู่ก็หายไปจากลานสายตาแล้ว “บ้าได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ”
เฟรดเดินตามแรงลากของกุ๊กตัวน้อยโดยไม่ขัดขืน อีกคนผลักเขาเข้าไปในดงต้นโมก ชี้หน้าด้วยแววตาอาฆาตแล้วหันซ้ายหันขวาดูลู่ทางว่าไม่มีใคร
“คุณห้ามพูดแบบนั้นอีก! เข้าใจมั้ย!” กุ๊กกำชับหนักแน่น
“พูดว่า?”
“ไอ้คำนั้นไงโว้ย”
“ที่ว่ากุ๊กไม่ยอมทำผัดไทให้ผมน่ะเหรอ” เขาตีหน้าซื่อ
“โอ๊ย! ปวดตับ” พฤษภาขยี้หัวจนยุ่ง กระชากคอเสื้อหนุ่มอีกคนลงต่ำ เค้นเสียงลอดไรฟัน “คำว่า..ร..ระ..รวม..ร่วม..ว้อย!”
เฟรดแอบหัวเราะในใจ กุ๊กพูดไปหน้าแดงไปมีอย่างที่ไหนกัน
“หมายถึงคำนี้น่ะเหรอ..” เขายักคิ้ว “ร่วม..รักน่ะ”
ผัวะ!
พูดจบปั๊บ แด๊ดดี้ลูกหนึ่งก็รู้สึกว่าตัวเองหัวหมุนจากหมัดอัปเปอร์คัทตรงปลายคาง ปากว่ามือถึงดีจริงๆกุ๊กเมย์เนี่ย “อูย..”
เฟรดล้มกลิ้งลงไปกับพื้น เงยหน้ามาอีกที เจ้าคนมือหนักอันตรธานหายไปแล้ว “เมย์..” เขาเรียกหา มุดออกมาจากดงต้นโมก “เมย์..ผมขอโทษ”
โชคชัยโผล่หน้ามาจากระเบียงร้าน ยกมือป้องปากบอกแขก
“คุณเฟรดครับ พฤษภ์เรียกแท็กซี่ออกไปแล้ว มีอะไรกันรึเปล่า”
อีกหนึ่งหนุ่มสีหน้าเจื่อน “เขาบอกมั้ยว่าจะไปไหน”
คุณโชคส่ายหัวหวือ เฟรดเลยได้แต่โทรหา ผลก็อย่างที่คาด เขาได้ยินเพลงควายเพิ่มมาอีกหนึ่งเพลงแล้วก็ตามด้วยการถูกตัดสายอย่างไร้เยื่อใย
“ปากหาเรื่องจริงๆ” เขาถอนหายใจ เงยหน้ามองเจ้าของร้านที่ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างอยากรู้คำตอบ “ถ้าเขาโทรหาคุณหรือว่าได้เจอกัน ฝากบอกเขาทีนะครับว่าผมอยากคุยด้วย”
โชคพยักหน้ารับ “ว่าแต่ บ่ายครึ่งแล้วยังไม่กลับไปทำงานเหรอครับ”
“นั่นสิ” เฟรดพึมพำ มัวแต่ง้อเจ้ากุ๊กบ้าจนได้เรื่อง
..ฝากไว้ก่อนเถอะน่า..
เจ้าของร้านถอนหายใจเฮือก เดินกลับเข้าไปในครัว ยืนกอดอกมองน้องเขยเอาไส้กรอกเยอรมันสีขาวมาฟาดตุบตับกับเคาน์เตอร์ครัว เนื้อหมูอัดแท่งกระจัดกระจายอย่างน่าสยดสยอง
“ฮึ่ย! นี่แน่ะ นี่แน่ะ!” พฤษภาเหวี่ยงซากไส้กรอกขึ้นกลางอากาศ ตวัดมีดฉับๆๆ ขาดเป็นสี่ซ้าห้าท่อนค่อยโยนลงกระทะ ทอดจนเกรียมเป็นตอตะโก
“เขาไปแล้ว” คุณโชคเสียววาบกลางเป้าอย่างบอกไม่ถูก
“ไหม้ด้วยไฟประลัยกัลป์ซะเถอะ!”
พี่อดีตภรรยาอย่างโชคชัยได้แต่ยืนลูบแขน “เอ่อ..เละตุ้มเป๊ะแล้วนั่น”
พฤษภาหอบตัวโยน พอโหมไฟใส่มันจนไหม้เป็นผงแล้วถึงยิ้มได้
“พี่พฤษภ์เป็นอะไรอ่ะ” เด็กในครัวสุมหัวคุยกันอย่างมึนๆ
“อา..” สาวน้อยไส้กรอกสารพัดยืนลูบคาง “ไวส์เวิร์สท์ ซอสเซจสีขาวทำจากเนื้อลูกวัวบดผสมเบคอน ปรุงรสด้วยหัวหอม ผักชีฝรั่ง ใบกระวาน ขนาดสิบสองเซน เส้นผ่านศูนย์กลางสองเซน นิยมกินตอนเช้าเท่านั้น”
“โธ่เอ๊ย ไม่ได้ถามประวัติไส้กรอก ถามว่าพี่พฤษภ์เป็นอะไร”
เด็กสาวส่ายหัว “รู้แต่ว่า..สีมันขาวเหมือนผิวคุณเฟรดจังเลย”
พวกที่เหลือฮาครืน “ไส้กรอกคุณเฟรด เป็นไปไม่ได้หรอกน่า”
“นั่นสิ” เจ้าหล่อนพยักหน้าหงึก “เพราะว่าไวส์เวิร์สท์มันคงสั้นไป”
โชคชัยไล่เด็กๆที่ยืนเอาหัวพันกันอยู่ให้ไปทำงาน ตัวเขาตรงเข้ามาหาน้องเขยที่เพิ่งจะเลิกประทุษร้ายไส้กรอกดวงซวยแล้วค่อยๆดึงปังตอออกห่าง
“พี่ว่า..วันนี้เราพักสักหน่อยดีมั้ยพฤษภ์”
“อะไร ผมไม่ได้ป่วย แค่หงุดหงิดนิดเดียว” พฤษภาหน้ามุ่ย
“เปล่าครับ พี่แค่คิดว่าพฤษภ์เหนื่อยเกินไป ไม่ได้หาว่าป่วยนะ”
“ลูกค้ามา” คุณพ่อตัวเล็กคว้าหัวหอมมาสับโครมๆ ถึงจะดูเหมือนไม่ตั้งใจแต่ก็แม่นราวจับวาง “น้ำพริกนรกลงอเวจีขุมที่สามสิบ!”
“ขอร้อง..ไปพักเถอะ” คุณโชคกึ่งขอกึ่งบังคับ วางมือลงบนบ่าเล็กแล้วบีบแผ่วเบา “พี่ไม่รู้ว่าพฤษภ์หงุดหงิดอะไรหรอกนะ ถ้าอยากเล่าก็เล่า ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร เพียงแต่อยากให้คิดเสมอว่าพี่จะอยู่ใกล้ๆพฤษภ์ ถ้าต้องการเพื่อนคุยเมื่อไหร่ก็เรียกหาได้ทุกเวลา โอเคมั้ยครับ”
พฤษภาน้ำตาคลอ ยอมปล่อยมีดแต่โดยดี “พี่โชค..” เจ้าตัวยกแขนขึ้นกอดพี่เมียหมับ ซุกหน้าลงกับอกคนสูงกว่า
“พฤษภ์..” คนที่ไม่ทันตั้งตัวได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง ถูกกลิ่นหอมของแป้งเด็กปะทะเข้าเต็มจมูกก็มีแต่นะจังงังเท่านั้นเอง
..หอม..
“พี่โชคใจดีจังเลย” พฤษภาอมยิ้ม
“พี่ก็เป็นของพี่แบบนี้แต่ไหนแต่ไรนี่นา” เขาอดแก้มแดงไม่ได้
“จริงอ่ะ” ไอ้กุ๊กตัวแสบยิ้มเผล่ “งั้น..ขอมรดกพี่โชคได้ป่ะ”
โชคชัยกะพริบตาปริบ พอตั้งสติได้ก็หัวเราะร่า
..ซื้อหวยทำไมไม่ถูกบ้างวะ..
“กลับบ้านไปเลยไปไอ้กุ๊กขี้เหนียว”
“โธ่เอ๊ย กลับก็ได้” พฤษภาอารมณ์ดีขึ้นทันตาเห็น “เดี๋ยวผมไปรับน้องเมษเองนะ พี่โชคไม่ต้องไปรับพวกเราก็ได้ จะพาน้องเมษไปกินไอติมด้วย”
“อือ..” เขาโบกมือบ๊ายบาย มองตามหลังคนที่วิ่งไปโบกแท็กซี่ สายตาคู่เดิมยังทอแววเอ็นดูเหมือนเคย “อยากได้มรดก..ก็มาใช้นามสกุลเดียวกันสิ”
......
ต่อเป็นเฮือกๆ อิอิ