รักของเราสนามหญ้าเขียวขจีมีเด็กหนุ่มหลายคนวิ่งแย่งลูกกลมกันขวักไขว่ เสียงหัวเราะ เสียงตะโกนเชียร์ดังไม่ขาด ชมรมฟุตบอลที่เตรียมซ้อมเพราะทันทีที่เปิดเทอมก็จะมีกีฬาสี นักกีฬาแต่ละคนเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายเพื่อชัยชนะของสีตัวเอง ภายในรั้วโรงเรียนมัธยมชื่อดังไม่ได้มีแค่ชมชรฟุตบอลเพียงชมรมเดียว แต่ยังมีชมรมอื่นที่มาซ้อมเพื่องานเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ทีม..บาสเกตบอล
ในโรงยิมที่เป็นของทีมบาสเกตบอลไม่มีเสียงซ้อมบาสกันเหมือนทุกวัน ทั้งที่ทีมอยู่กันพร้อมหน้า หลังจากที่ลูกทีมค่อนทีมได้รับโทรศัพท์จากกัปตันตอนมีอะไรกับลูกทีมอีกคนก็รวมตัวกันที่ชมรมทันที ณรงค์บินกลับจากภูเก็ต นิพนธ์เองก็รีบมาจากเขาใหญ่ ลูกทีมที่มีกัปตันเป็นหัวใจทุกคนรีบกลับมาที่ชมรมที่มีกัปตันรออยู่ ก้าวเท้าเข้ามาในชมรมก็เจอกัปตันกำลังซ้อมหนักอยู่คนเดียว ลูกทีมที่ทยอยมาที่หลังต่างก็นั่งมองกัปตันอยู่ข้างสนาม..เหมือนทุกครั้ง
กัปตันชูท 3 แต้มลงห่วงและยืนนิ่งมองลูกสีส้มที่ตกลงพื้น มองจนลูกบอลนิ่งสนิทอยู่ข้างสนาม ถอนหายใจทิ้งแล้วหันหน้ามามองลูกทีมที่นั่งมองตนอยู่ เดินเข้าไปหา ลูกทีมทั้งหมดลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาหา อ้าแขนเพื่อกอดกัปตันที่รัก กลางเบี่ยงหลบมือของพี่ป้องที่อยู่นครสวรรค์ยังอุตส่าห์ขับรถมาหา เพราะกลางเป็นคนเรียกออกมา ลูกทีมค่อนทีมที่รับโทรศัพท์สยิวที่มีเสียงกัปตันกำลังรักกับลูกทีมหน้าใหม่พยายามลืมเรื่องนั้นเพราะรักกัปตัน กลางปฏิเสธอ้อมกอดของทุกคน แล้วยืนนิ่งอยู่ตรงกลาง บรรยากาศกดดันล้อมรอบตัวชายหนุ่มผิวขาว รูปร่างสูงสมส่วน ดวงตาสีน้ำตาลมองลูกทีมที่ยืนรอบตัวแล้วบอกลูกทีมด้วยความรู้สึกที่มีทั้งหมด
“..กูไม่อยากเป็นสมบัติสาธารณะที่ใครอยากกอดเมื่อไหร่ก็ได้อีกแล้ว อย่าเป็นแบบนี้อีกเลยนะ ปล่อยกูไปเถอะ” กัปตันทีมเอ่ยขอร้องลูกทีมด้วยดวงตาอ้อนวอน โตที่ยืนอยู่หน้าสุดแค่นยิ้มแล้วถามเสียงเจ็บปวด
“เพราะไอ้เด็กนั่นเหรอกลาง? มันมีดีอะไร?! มึงอยากได้แบบไหนพวกกูก็จัดให้ได้ทุกครั้ง! กลาง..กลับมารักกันเหมือนเดิมเถอะ..นะ” โตเดินเข้าไปในขณะที่กัปตันทีมเดินถอยหลังหนี ป้องขยับเข้ามารวบกอด รงค์กับม่อนรีบกอดไว้อีกชั้นเพราะกัปตันดิ้นหนี แรงกอดจากลูกทีมทำให้กัปตันหมดความอดทน
“ปล่อยกูไปเถอะ..พวกมึงไม่ได้รักกูหรอก มันแค่อารมณ์หลงชั่ววูบเท่านั้น พวกมึงมีความสุขเหรอ?..เกือบปีที่พวกมึงต้องแบ่งกูออกให้เท่า ๆ กันโดยที่กูไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เพราะอะไรพวกมึงรู้มั้ย? เพราะพวกมึงรักกู กูถึงได้ยอมให้พวกมึงกอด แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว..” ป้องที่ยืนกอดอยู่ในสุดเงยหน้าขึ้นมองกัปตันที่มีน้ำตาคลอ กลางหันมาสบตาป้องก่อนจะบอกสิ่งที่อยู่ในใจ..
“กูใช้ความสงสารผิดมาตลอด กูสงสารพวกมึง..แต่กลับไม่สงสารตัวเองกับคนอีกคนที่กูรัก กูไม่อยากให้เราเป็นแบบนั้นอีกแล้ว! กูรักบี กูรักมัน..คนเดียว ปล่อยกูไปเถอะ..ขอร้อง..” น้ำตาของกัปตันไหลอาบแก้ม ป้องเจ็บปวดกับประโยคที่ได้ยินจนต้องคลายแรงกอด หันหน้าไปมองคนที่เหลือที่มีน้ำตาซึมกันทุกคนแล้วบอกเสียงแผ่ว..
“ทำไมไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งในนี้กลาง..ทำไมไม่ใช่พี่ ทำไมกลางไม่เลือกไอ้โต ทำไมกลางไม่รักไอ้รงค์..” กัปตันนิ่งมองหน้าคนที่ป้องพูดถึงทีละคน ก้มหน้า ทอดสายตามองแขนที่กอดตนนิ่ง ยิ้มอ่อนโยนให้ป้องกับลูกทีมทั้งหมด..
“เพราะพี่ป้อง รงค์ โต..ไม่ใช่บีไง เพราะผมรักบี ผมถึงไม่รักคนอื่นที่ไม่ใช่บี..” ป้องน้ำตาไหลอาบแก้ม เจ็บที่หน้าอกข้างซ้ายจนต้องปล่อยมือออกจากกัปตันช้า ๆ ลูกทีมที่เหลือเบือนหน้าหนีเมื่อฟังคำจากปากกัปตัน กัปตันเรียกชื่อลูกทีมทีละคนแล้วบอกเสียงจริงจัง
“ถ้าใครทำอะไรไอ้บี ข้ามศพผมไปก่อน ไอ้บีเจ็บ..คนนั้นต้องเจ็บกว่า 10 เท่า!” ลูกทีมกัดกรามแน่นก่อนจะโรยความโกรธเพราะหน้าหล่อของกัปตัน ไม่ใครอยากทำร้ายคนที่ตัวเองรักกันทั้งนั้น ม่อนเดินออกจากชมรมและไม่กลับเข้ามาอีก โตที่ร้องไห้กอดกัปตันแน่น อ้อนวอนให้เก็บไปคิดดูอีกครั้ง..
“ไม่ว่าจะให้กูเก็บไปคิดอีกกี่ครั้ง กูก็จะตอบเหมือนเดิม..กูรักบี ปล่อยกูไปเถอะโต..มึงเจ็บกูก็เจ็บเหมือนกัน เลือกอนาคตที่ไม่มีกูเถอะโต ลืมกูเถอะ” โตกลั้นเสียงสะอื้นแล้วเงยหน้ามองตาสีน้ำตาลของกัปตันทีม กลางเช็ดน้ำตาให้เบามือแล้วดันไหล่โตออก หันหลังให้กับความรักผิด ๆ ที่ลูกทีมมีให้ เดินออกจากโรงยิม..ไปหาหัวใจตัวเอง
ในโรงยิมปกคลุมไปด้วยความเงียบ ลูกทีมที่เหลือทยอยเดินออกไปทีละคน โตปาดน้ำตาทิ้งแล้วลุกขึ้นยืน หันไปคว้ามือโน้ตที่นั่งซึมอยู่ข้าง ๆ ให้ไปกินข้าวเที่ยงพร้อมกัน เสียงโตกับโน้ตเถียงกันเรื่องกับข้าวที่จะกินมื้อกลางวันดังล้งเล้ง อย่างน้อย..ก็ยังมีคนที่เจ็บปวดในเรื่องเดียวกัน พร้อมจะเข้าใจและช่วยเยียวยาหัวใจให้กัน
“พี่ป้องจะกลับบ้านเลยรึเปล่า?” รงค์ลุกขึ้นยืนและปัดกางเกงเบา ๆ หันไปมองคนที่นั่งน้ำตาไหลไม่หยุดตั้งแต่กัปตันเดินหายไปจากโรงยิม ป้องนั่งนิ่งแล้วส่ายหน้าตอบ ดวงตาสีดำรื้นน้ำตาเก็บภาพความทรงจำที่เคยได้อยู่กับกัปตันในยิมแห่งนี้ รงค์ถอนหายใจแล้วนั่งลงที่เดิม ใช่ว่าตัวเขาไม่เจ็บ แต่เพราะความเย็นชาก่อนหน้านี้มันทำให้ตัวเขาเริ่มจะทำใจยอมรับได้บ้าง ไม่เหมือนคนไกลอย่างคนที่นั่งร้องไห้ตอนนี้..
“อย่าเสียใจกับสิ่งที่กลางตัดสินใจเลยพี่ป้อง ที่จริงกลางเลือกแบบนี้มันก็ดีกับพวกเรานะ ความสัมพันธ์แบบนี้มันไม่ยั่งยืนหรอก กลางไม่ได้รักเรา..เหมือนที่เรารักกลาง ซักวันกลางก็ต้องไปอยู่ดี..เลิกร้องไห้ได้แล้วพี่ ตาบวมแล้ว” ป้องหันมามองดวงตาจริงใจแล้วยิ้มตอบ เช็ดน้ำตาแล้วสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามแผ่นหลังกว้างออกไปหาอะไรกินรวมกับพวกลูกทีมที่เหลือ
ความเสียใจที่มีถูกล้างออกไปจนหมดก่อนจะต้องมารวมทีมในวันเปิดเทอม กัปตันทีมเรียกลูกทีมซ้อมตามปกติ ลุกทีมและกับตันทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเคลียร์กันหมดเปลือกไปแล้ว แต่คนที่เงียบและไม่มีสมาธิที่สุดในทีมกลับเป็นเด็กใหม่
“ไอ้บี! มึงไม่มีสมาธิก็ออกจากสนามไป เสียเวลาคนอื่นซ้อม!” กัปตันตะโกนใส่หน้าแล้วหันหลังกลับไปซ้อมให้ลูกทีมที่เหลือต่อ บียืนก้มหน้าแล้วตบหน้าตัวเองแรง ๆ เงยหน้ามาก้มหัวขอโทษคนในทีมแล้ววิ่งเหยาะ ๆ มารวมทีม โตกอดคอเด็กใหม่แล้วกระซิบบอก..
“พี่ไม่เป็นไร..ไม่มีใครโกรธบีหรอก” บีเงยหน้ามองลูกทีมทุกคนก่อนจะยิ้มกว้างตอบรอยยิ้มจริงใจของลูกทีมของกัปตันที่ส่งมา ซ้อมจนถึงเวลา 6 โมงเย็นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน กัปตันเดินถือกระเป๋าให้เด็กใหม่แล้วเดินออกไปพร้อมกัน ลูกทีมที่เหลือก็แยกย้ายกันกลับบ้าน รงค์เดินออกมาจากโรงยิม ล้วงกระเป๋ากางเกงกดโทรหาใครบางคนที่ใช้เวลาด้วยกันทุกวันจนเปิดเทอม ปลายสายรับและคุยกันแค่ 2-3 คำ วางสายแล้วรีบเดินไปเลาะไปข้างหลังโรงยิม เดินผ่านตึกเรียน 2 ตึกแล้วรับโทรศัพท์ที่สั่นเป็นเจ้าเข้าองค์ลง
“ผมกำลังเดินออกไปครับ..” รีบบอกปลายสายแล้วสาวเท้าออกไปที่รั้วหลังโรงเรียน ปีนขึ้นไปแล้วกระโดดลงไปยืนรอ พักเดียวก็มีรถยนต์สีดำขับมาเทียบ ก้าวเท้าขึ้นรถแล้วเอ่ยปากทักทายคนขับที่อุตส่าห์ขับวนมารับทั้งที่เลิกจากติวอยู่ในโรงเรียนกวดวิชาชื่อดังแล้วขับรถกลับบ้าน ยอมขับกลับมารับเพียงเพราะคนที่เพิ่งเลิกจากซ้อมบาสบ่นว่าอยากเจอแล้วก็อยากกินไข่เจียวฝีมือตน คนอย่างพี่ป้องที่รักน้องทีมบาสเท่าเทียมกันทุกคนก็ต้องมารับทันที พี่ป้องยิ้มรับคำทักทายแล้วหันไปถาม..
“เป็นไงบ้าง..เจอกลางวันแรกหลังจากที่ทำเราเฮิร์ททั้งทีม” รงค์ยิ้มน้อย ๆ แล้วบอกก็ปกติ ไม่มีใครโวยวาย งี่เง่า ทำใจกันได้ดีเกินคาด รงค์ตอบยิ้ม ๆแล้วเหลือบมองพี่ป้อง เบือนมามองถนข้างหน้าแล้วถามย้อน
“พี่ป้องล่ะ..ถ้าตอนนี้เจอกลาง..จะเป็นยังไง?” พี่ป้องปรายตามามองหน้าด้านข้างของรงค์แล้วยิ้มบาง
“ก็คงเสียใจ..แต่ไม่มากพอจะทำให้นั่งร้องไห้ได้เหมือนวันนั้น อยากรู้ไปทำไม?” ดวงตาดำจับจ้องหน้าด้านข้างของคนถามนิ่ง รงค์กลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วเบือนหน้าไปมองข้างทาง ไม่ตอบคำถามที่พี่ป้องถาม พี่ป้องยิ้มบางแล้วหันมาสนใจเส้นทางกลับบ้าน ขับเข้ามาจอดในบ้านก็เดินนำเข้าไปในบ้าน หันมาบอกรงค์ให้เอากระเป๋าขึ้นไปเก็บที่ห้องก่อน เดินไปจนถึงประตูครัวก็นึกขึ้นได้ หันกลับมาบอกรุ่นน้องที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้องโถง
“พี่หมายถึง..ถ้าเราจะค้างกับพี่น่ะ ค่อยเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บ ถ้าไม่ค้าง..ก็จะไปส่ง” รงค์ยืนนิ่งมองหน้าหล่อของรุ่นพี่ก่อนจะยิ้มกว้าง
“ค้างดิพี่! พรุ่งนี้ไปจะได้มีคนขับรถให้นั่งไปโรงเรียนไง555” รงค์หัวเราะร่าแล้ววิ่งขึ้นชั้นบน ทิ้งให้พี่ป้องยืนยิ้มกว้างกับห้องนั่งเล่นอยู่คนเดียว หลังจากวันที่กลางขอยุติความสัมพันธ์แบบหมู่ รงค์กับตนก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่งรถมอเตอร์ไซค์ของรงค์ ไปเดินไนท์บาร์ซ่า ซื้อหนังสือด้วยกัน ดูหนัง ฟังเพลง หาอะไรทำด้วยกันเพื่อลืมเรื่องของกัปตันทีม
“ผมไม่เอาไข่เจียวแล้วนะพี่ป้อง อยากกินไข่ตุ๋น” รงค์วิ่งลงบอกพี่โป้งที่เพิ่งเทไข่ลงไปในน้ำมันร้อน พี่ป้องหันมายิ้มตอบก่อนจะยกตะหลิวโชว์ รงค์ทำหน้าเสียดายใส่กระทะ รุ่นพี่ที่รักน้องในทีมบาสอย่างเท่าเทียมก็เลยต้องทำไข่ตุ๋นให้ แล้วไข่เจียวในกระทะก็รับเอาไว้กินเอง
“พี่ป้อง ม.6 เทอมนี้ไม่ต้องมาโรงเรียนทุกวันเหมือนเทอมที่แล้วใช่มั้ย?” พี่ป้องพยักหน้ารับโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองหน้าหงอยของรงค์ กินข้าวไข่เจียวในจานจนหมดก็เงยหน้าขึ้นมาสบตาสีน้ำตาลที่มองอยู่ก่อน รงค์สะดุ้งที่พี่ป้องเงยหน้ามาสบตาพอดี เสไปตักไข่ตุ๋นมากินแก้เขิน..
“โอ้ยยยร้อนนนน พี่ป้องทำไมไม่รอให้เย็นก่อนแล้วค่อยให้ผมกินล่ะ อูย..” รงค์โบกมือในอากาศพัดลมเข้าหาลิ้นที่แลบเพราะความร้อนของไข่ตุ๋น ป้องหัวเราะเสียงดังแล้วยื่นแก้วน้ำให้ รับแก้วน้ำจากมือรุ่นพี่แล้วรีบล้างปากทันที ป้องดันขวดน้ำไปให้ตรงหน้า หยิบจานข้าวของตัวเองมาล้าง
รงค์กินน้ำจนหมดแก้วแล้วยกแขนเช็ดน้ำที่มุมปาก เหลือบไปมองแผ่นหลังกว้างที่ยืนล้างจานด้วยความรู้สึกแปลก..ในอกอยู่ชมรมเดียวกันมาตั้ง 2 ปี พี่ป้องหล่อ นิสัยดี มีคนปลื้มเยอะ เมื่อก่อนเห็นแล้วมันก็ธรรมดาเพราะตอนนั้นมองกลางคนเดียว แต่ตอนนี้..ใจสั่นทุกครั้งที่ได้สบตาสีดำคู่นั้น เห็นความน่ารักของรุ่นพี่ที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน นับวันยิ่งเห็นว่าเท่ขึ้นทุกวัน นอนก็ฝันถึง ตื่นก็ต้องมาเจอ นั่งมองแผ่นหลังกว้างจนพี่โป้งล้างมือเสร็จ หันมามองตาสีน้ำตาลที่มองค้างแล้วเลิกคิ้วมองตอบดวงตาคู่นั้น เดินยิ้มเข้าไปหาแล้วมองจานข้าวที่กินไปมากกว่าครึ่งของรงค์
“ไม่หิวเหรอ? นึกว่าอยากกินเพราะหิวซะอีก” รงค์มองรอยยิ้มของพี่ป้องแล้วส่ายหน้า..
“ของบางอย่างไม่จำเป็นต้องหิวถึงจะกินได้..” มองดวงตาสีดำของพี่ป้องนิ่งแล้วพูดให้จบประโยค
“ชอบถึงอยากกิน..ไม่ใช่เพราะหิวถึงได้กิน” พี่ป้องมองดวงตาสีน้ำตาลของรุ่นน้องแล้วเบือนหลบไปมองชามไข่ตุ๋น ถอนหายใจยาวแล้วถามว่าจะกินต่อรึเปล่า รุ่นน้องส่ายหน้าตอบแล้วอาสาล้างเอง ป้องมองมือใหญ่ที่เคยสัมผัสกัปตันทีมมาด้วยกัน ไล่สายตาขึ้นไปมองไหล่หนา หน้าหล่อที่ก้มหน้าก้มตาล้างจานอยู่ข้าง ๆ ก้มมองมือตัวเองที่เคยกอดกลางแล้วกำหมัดแน่น
“พี่ป้อง..ผมลืมกลางได้แล้วนะ แล้วผมก็เริ่มมองคนอื่นที่ไม่ใช่กลางได้แล้ว..พี่ป้องล่ะ ลืมได้รึงยัง?” รงค์ถามป้องแล้วหันมามองหน้าหล่อเต็มตัว ป้องกลืนน้ำลายเหนียวแล้วหันไปสบตาสีน้ำตาลที่มองอยู่ก่อน สบตาที่สื่อความหมายมาให้ว่าเริ่มมีใจอย่างชัดเจนแล้วเบือนหลบ หันหลังไปเช็ดมือแล้วเดินหนีออกจากครัว รงค์วิ่งตามแล้วดักหน้าไว้ก่อนจะขึ้นบันได
“พี่ยังไม่ได้ตอบผม!” ป้องเลี่ยงหลบแล้วเดินขึ้นบันได รุ่นน้องยืนนิ่งอยู่ที่เดิม กัดกรามแน่นแล้วตบราวบันไดเต็มแรง หันหลังวิ่งขึ้นข้างบน กระชากแขนป้องให้หันมามองตา
“ผมชอบพี่ ผมรู้ว่าพี่มองออก..ทำไมไม่ให้โอกาสผม ไม่ให้โอกาสตัวเองมองคนอื่นบ้าง?..หรือ..ให้คนอื่นได้รักตัวเองบ้างล่ะพี่ป้อง?” บีบแขนแกร่งแรงขึ้นเมื่อป้องไม่เงยหน้าสบตา ก้มหอมแก้มสากของรุ่นพี่แล้วไล่ควานหาริมฝีปากสีส้มอมชมพูของรุ่นพี่ที่เบี่ยงหนี
“รงค์!..” ป้องเรียกชื่อรุ่นน้องเพื่อเรียกสติ แต่ก็ไม่เป็นผล จูบดึงดันของรงค์ประกบแน่นกับริมฝีปากนิ่ม แทรกปลายลิ้น เบี่ยงหลบก็โดนประคองให้รับสัมผัส ลืมตามองขนตาสีดำเป็นแพของรงค์แล้วหลับตารับสัมผัสที่ริมฝีปาก เผยอริมฝีปากจูบตอบแล้วกอดเอวหนา
รงค์ลืมตาขึ้นมองตาสีดำของป้อง เลื่อนมือประคองท้ายทอยให้รับจูบของตนให้มากขึ้น แทรกปลายลิ้นเข้าดูดดุนกลืนความหวานจนป้องขออากาศเข้าปอด ผละให้ป้องได้หายใจได้สะดวกขึ้น มือลูบหลังกว้างแล้วกดปลายจมูกหอมเน้นที่แก้มสาก กระซิบข้างหูบอกความรู้สึกอีกครั้ง..
“ผมรักป้อง คบกันเถอะนะ..ผมรักใครแล้วรักเลย ไม่มีทิ้งขว้างแน่นอน..รักผมเถอะนะป้อง” ปลายจมูกหอมทั่วหน้า สบตาอ้อนขอความรักจากรุ่นพี่ ป้องมองดวงตาสีน้ำตาลแล้วหลับตาลงเพราะความใจอ่อน หลังจากผิดหวังเรื่องกลางตนก็ใช้เวลาเยียวยาหัวใจตัวเองกับรงค์มาตลอด รงค์เป็นคนน่ารัก ไม่แปลกที่หัวใจจะหวั่นไหว แต่จะให้มีรักครั้งใหม่อีกครั้ง..ก็ยังอดกลัวความผิดหวังไม่ได้
“ผมไม่สัญญานะป้อง..แต่ผมจะทำให้ป้องเห็น คบกับผมนะ” ลืมตามองดวงตาจริงจังของรุ่นน้องแล้วยิ้มกับริมฝีปากนุ่ม ‘ก็ได้..’ หัวใจของรุ่นน้องเหมือนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่มีหยาดฝนโปรยปรายให้ความชุ่มชื่น พร่ำกระซิบคำรักให้รุ่นพี่ได้รับรู้ ป้องจับมือที่ประคองหน้าออกแล้วจูงมือเดินเข้าห้อง ปิดล็อคแล้วหันมาถามว่าจะคืนนี้ค้างรึเปล่า..
รงค์ยิ้มบางแล้วเดินเข้ามากอด จูบริมฝีปากสีส้มอมชมพูแล้วสอดปลายลิ้นเข้าไปทักทาย ป้องยิ้มกับริมฝีปากแล้วจูบตอบ มือใหญ่ของรงค์ปลดกระดุมเสื้อป้องทีละเม็ด ดันไปจนติดเตียง ลูบหลังเนียนแล้วดันให้นอนลง ป้องลืมตามองสันจมูกโด่งแล้วหลับตารับสัมผัสจากปลายลิ้นที่ผละจากริมฝีปากไปจูบที่ซอกคอ หน้าอกกว้าง และยอดอกที่แข็งสู้ปลายลิ้น
“ป้อง..ผมจะรักป้อง..ได้รึเปล่า?” เงยหน้ามาถามรุ่นพี่เพราะกลัวว่ารุ่นพี่จะไม่ยอม คนเป็นรุกเหมือนกัน ใครมันจะยอมให้อีกฝ่ายทะลวงแบ็คง่าย ๆ แล้วยิ่งรุกแบบณรงค์ที่พกขวดมินิเมดไปไหนมาไหนด้วยตลอดแบบนี้..ยิ่งยาก
“พี่ขอเวลาอีกหน่อยนะ รอได้ใช่มั้ย?” ตอบรงค์แล้วยิ้มบางกับการพยักหน้ารับ รงค์คลานขึ้นมานอนฟังเสียงหัวใจของรุ่นพี่ หลับตานิ่งฟังจังหวะการเต้นของหัวใจ ป้องยิ้มกว้างแล้วลูบหลังรุ่นน้องที่กำลังจะเข้ามาเป็นครึ่งหนึ่งของหัวใจ ความสงบและความสุขที่มีลอยอบอวลอยู่รอบตัวทำให้ 2 หนุ่มมีรอยยิ้มประดับหน้าตลอดเวลา ป้องจับไหล่รงค์ขึ้นมาหอมหน้าผาก รุ่นน้องยิ้มแล้วยันตัวขึ้นมาจูบตอบที่ริมฝีปาก จูบหวานแลกลมหายใจจนร่างกายด้านล่างเริ่มมีปฏิกิริยาเคมี
“..ข้างนอกได้มั้ยป้อง?” ป้องหอบหายใจแรงแล้วบดจูบแทนคำตอบ เสื้อผ้าถูกถอดออกจากตัวอย่างรวดเร็ว รงค์พลิกตัวหันหัวมาครอบริมฝีปากลงที่แท่งร้อนของป้องแล้วจ่อความใหญ่แบบขวดมินิเมดที่ริมฝีปากนุ่มของป้อง รุ่นพี่กลืนน้ำลายเหนียวกับความใหญ่ตรงหน้า อ้าปากรับความใหญ่เข้าไปช้า ๆ รงค์เสียวจนครางอู้ในลำคอ รูดรั้งริมฝีปากขึ้นลงจนรุ่นพี่ทนไม่ไหว คายขวดมินิเมดออกมาครางเสียงต่ำ ยกก้นสวนริมฝีปากที่เร่งความเร็วแล้วจับขวดมินิเมดมาครอบริมฝีปากกลั้นเสียงครางอีกครั้ง ก่อนจะปล่อยน้ำรักขาวขุ่นออกมาใส่ปากรงค์ กดสะโพกของรุ่นน้องลงมาจนความยาวของขวดมินิเมดลงมาถึงโคนลิ้น ดูดดุนรอกลืนน้ำรักจนรงค์ต้องปลดปล่อยใส่คอป้องตามไปติด ๆ ต่างคนต่างงอตัวเพราะความเสียงจากปลายลิ้นที่ยังดูดกลืนน้ำรักของกันและกัน ผละออกมานอนแผ่หลาข้าง ๆ กัน รงค์ผุดลุกแล้วคลานขึ้นมานอนกอดรุ่นพี่ ป้องดึงหน้าหล่อมาแลกจูบก่อนผละออกจากกันเหมือนแม่เหล็กขั้วเดียวกันมาเจอกัน
“แหวะ!..ไปอาบน้ำกัน” ป้องหัวเราะเสียงดังเพราะตนก็แหวะน้ำรักตัวเองเหมือนที่รงค์แทบจะอาเจียนตอนริมฝีปากประกบกันเมื่อครู่ อาบน้ำพร้อมกันก็ช่วยกันจนขึ้นสวรรค์กันไปอีกคนละครั้งด้วยฝ่ามือสากของรงค์
กอดกันออกมาจากห้องน้ำ ผลัดกันเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กัน นอนหันหน้าเข้าหากัน แลกจูบส่งกันและกันเข้านอนด้วยความรัก..
หากไม่เจอความผิดหวังคงไม่มีโอกาสได้มองใครอีกคนที่อยู่ข้างกาย..
ความรัก..ไม่ว่าจะเกิดจากอะไร และกับใคร
มัน...งดงามเสมอ..
END.
……………………

กอดรวบ!
จัดให้เลยค่ะคุณซัม แต่ไม่สามารถจัดแบบสอดใส่เข้าไปได้ค่ะ จิสงสารพี่ป้อง กร๊ากกกกก
แล้วก็จัดให้สำหรับคนที่เชียร์พี่ป้องกับรงค์ให้คู่กับกลาง เอามารักกันเองให้แล้วนะคะ55+
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

ปล.เค้าทำงานทั้งวันอ่ะ เพิ่งจะว่างมานั่งจิ้นอ่ะ เค้าขอโทษนะคะถ้าคุณซัมรออ่านแต่เค้าพามาส่งช้าอ่ะ สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังอีกทีนะคะ
