^^ เรื่องย้อนไปย้อนมาอาจมีงงๆ บ้าง ขอโทษทีนะ ช่วงนี้คนแต่งมึน
เรื่องมันเลยเถิดจนเกือบจะเกิดเรื่องใหญ่ก็เพราะรัศมิ คู่หมั้นที่แม่บังเกิดเกล้าบังคับยัดเยียดให้มาเมื่อสองเดือนก่อน คนที่กิตกำลังจะต้องแต่งด้วย อย่างจำทนและขมขื่น เกิดมีเพื่อนผู้หวังดีมาเป่าหูตลอดว่าให้ระวังเขามีคนอื่นแอบซุกซ่อนเอาไว้ ช่วงก่อนงานแต่งจะมีขึ้นในอีกสามเดือน เธอเลยโทรตามจิกตลอด แล้วคอยให้เพื่อนๆ เป็นหูเป็นตาให้ส่วนตัวเองก็ได้แต่ซุกตัวบ่มผิวอยู่กับบ้านเพราะการออกมาโดนแดดโดนลมจะทำให้ผิวเธอเสีย และที่สำคัญเธอมีความเชื่อว่าคนที่กำลังจะมีงานมงคล ไม่ว่าจะงานอะไรก็แล้วแต่มักมีเคราะห์ เกิดเธอออกจากบ้านแล้วเกิดอะไรขึ้นมันจะทำให้เสียฤกษ์ซะเปล่า ซึ่งมันก็ดีเพราะไม่งั้นเธอคงมาตามเกาะเป็นปลิงควายเผือก ให้ยิ่งอึดอัดไม่เป็นอันทำอะไร แค่เดือนเดียวกิตก็อยากจะบ้าอยู่แล้ว........
.
.
วันเสาร์อาทิตย์ รวมถึงวันธรรมดาบางวัน กิตจะมาค้างที่บ้านเรือนหอ โดยบอกว่าจะมาคุมการตกแต่งบ้าน เธอก็เกือบๆจะไม่เชื่อ แต่กิตให้เหตุผลว่าเพื่อจะได้นอนสบายๆ บ้างเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่ห้องเขาคงนอนไม่ค่อยสบายนัก เธออาจจะสบาย แต่เขานี่สิ ทั้งหลบทั้งเลี่ยง ยอมนอนโซฟา นอนพื้นทุกวันที่มานอนห้องนี้
“บ้านยังไม่เสร็จก็จริง แต่พี่เป็นผู้ชายนอนที่ไหนก็ได้ รัศไม่ต้องห่วง ดีซะอีกจะได้ดูเขาทำบ้านไปด้วยเลย” กิตบอกเสียงอ่อน เธอเลยยอม แล้วกิตก็ได้มาอยู่กับเอและบัสได้อย่างสบายใจ กิตซื้อบ้านหลังนี้ไว้เกือบปีแล้วตั้งแต่มีเอกับบัส เรื่องแต่งงานนี่ตอนแรก กิตกะจะหนีไม่แต่ง แต่เอเป็นคนห้ามเพราะกลัวเป็นเรื่อง และสงสารแม่ของกิต เอกับบัสตกลงใจให้กิตใช้บ้านเป็นเรือนหอด้วยความจำใจ แล้วทั้งสองคนจะย้ายไปอยู่หอเก่าที่อยู่ใกล้ๆกัน แล้วทั้งสามคนก็จะยังได้อยู่ใกล้กันต่อไป บ้านนี้ใกล้ทั้งโรงเรียนของบัสและมหาวิทยาลัยของเอ เอกับบัสเลยต้องเตรียมตัวขนย้าย
“ย้ายไปแล้วพี่กิตอย่าลืมไปหาพี่เอกับบัสนะ” บัสออดอ้อน
“พี่จะไปทุกวันเลย ถ้าเป็นไปได้นะพี่อยากไปอยู่กับเอกับบัสเลยด้วยซ้ำ”
“จริงนะพี่กิต ดีจังไม่งั้นนะบัสคงคิดถึงพี่กิตจนนอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือสอบ ส่วนพี่เอนะ ขนาดบัสนอนกอดอยู่ทั้งคน ก็ยังบ่นคิดถึงพี่กิตจนบัสหูแทบอื้อทั้งคืนเลย” ดูมัน เจ้าหนูบัส เดี๋ยวอ้อนเดี๋ยวหยอดตลอด
“เอบ่นหรือครางจนบัสหูอื้อกันแน่ฮึ๊ เห็นเอฟ้องพี่ว่าไม่รู้เราจะคึกอะไรนักช่วงนี้ เอแทบไม่ค่อยได้นอนเลย”
“โธ่ บัสก็ต้องหัดทำบ่อยๆ สิจะได้เก่งๆ เหมือนะพี่กิต แหมบัสอุตส่าห์ทำแทนส่วนของพี่กิตด้วย พี่เอจะได้หายคิดถึง นอนหลับเป็นตาย” บัสเดินเข้ามากอดอย่างที่ชอบทำประจำ
“ฝึกรุกเยอะแล้วงั้นวันนี้รับเยอะๆ ละกัน แทนส่วนของเอด้วยดีมั้ย ให้พี่เอพักมั่ง”
“เฮอะ พี่เอคงยอมหร๊อก บัส รับพี่กิตทั้งคืนก็ยังไหว พี่กิตเถอะ ไหวเปล่า” บัสยักคิ้วอย่างท้าทาย
“เก็บของไม่เสร็จ ไม่ต้องลุก ...เลยทั้งสองคน” เอเน้นคำว่าลุกจนรุกทั้งสองรีบลงมือเก็บของอย่างเร็ว
กิตดีใจที่ทั้งสองคนเข้าใจ และไม่คิดจะเลิกรักกัน กิตก็ตั้งใจรักษาสัญญาที่เคยบอกกับทั้งสองคนเอาไว้ .....
เก็บของเสร็จก็เที่ยงพอดี พอได้นั่งพัก มองสองคนที่ช่วยกันอยู่ในครัว ทำให้กิตนึกถึงตอนที่เขาเจอเอกับบัส.........
ตอนนั้น เอเป็นนิสิตปีสอง ไปเช่าแผงขายเสื้อผ้าตอนเย็นอยู่ในตลาดนัดที่แบ่งส่วนเช่าที่ในลานจอดรถบริษัทอาทิตย์ละสองวัน เจอกันเย็นๆ เห็นเสื้อสวยดี แถมคนขายยังโดนใจ ก็เป็นเดือนหละกว่าเอกับบัสจะเริ่มสนิทด้วย เอตัวเล็ก ผิวขาว ปากบางเฉียบ นิสัยออกแนวขี้บ่นนิดๆ แต่ก็ดูนิ่งๆ น่ารัก ติดขี้อายหน่อยๆ ส่วนบัสตอนแรก กิตนึกว่าน้องชาย ตัวพอๆกับ ขาว แต่ดูแข็งแรงเป็นผู้ชายมากกว่า ออกแนวชอบปกป้อง บัสเป็นคนเล่าถึงตัวเองให้ฟัง บัส เพิ่งจะอยู่ม. 5 ที่บ้านมีเงิน แต่ที่มีบ้านก็เหมือนไม่มี พ่อมีเมียน้อย แม่มีชู้ บ้านมีไว้แค่ให้กลับไปอาบน้ำ
“บัสชอบมาอยู่กับพี่เอฮะ พี่เอใจดีชอบมีคนไม่ดีเข้ามาตีซี้ บัสเลยต้องคอยกัน แต่พี่เอชอบไล่บัสไปเรียนประจำแหละ” บัสเล่าไปก็ยิ้มไป ที่กิตผ่านด่านบัสมาได้คงเพราะกิตมาแนวพี่ชายใจดี ขี้เหงาหละมั้ง น้องๆ เขาเลยเห็นใจ
“บัสชอบโดดเรียน เอไล่ก็ไม่ไป โดดเรียนบ่อยเอกลัวบัสจะเรียนไม่จบ เลยสัญญาว่าถ้าไม่เกเร เอจะยอมให้บัสมาช่วยขายของถึงได้ฟังกันบ้างครับพี่กิต แต่ก็ยังไม่วายมีต่อลองอีก”
“ต่อลองอะไรเพิ่มหรอบัส” หวังว่าจะไม่ใช่ขอเป็นแฟน ถ้าใช่ล่ะเซ็งเลย
“อ๋อ บัสขอมาอยู่ที่ห้องพี่เอด้วยครับ ก็บัสเป็นห่วงพี่เอ ยิ่งมึนๆ เอ๋อ กลัวใครมาดักฉุดเอา”
“ เอเลยต้องดูแลให้ที่อยู่ที่กิน จนคนเค้านึกว่าน้องแท้ๆ กันทั้งซอยแล้ว”
“ก็บอกเค้าไปสิว่าน้อง จะต้องไปอะไร น้องจริงไม่จริงใครเค้าจะสนใจ อีกอย่าง บัสได้ลาภปากจากพวกคนไม่ดีอยู่บ่อยๆ พวกนี้นะต้องหลอกกินซะให้เข็ด” แม้จะสงสัยอยู่หน่อยๆ ว่าจริงบัสคงคิดอะไรกับเอบ้างหละ แต่ในเมื่อเขายืนยันว่าน้องก็น้องสิ
“คนไม่ดีของบัสนี่เป็นยังไงหรอครับ พี่จะได้ช่วยกันด้วยอีกแรง” กิตได้ยินบัสเรียกคนที่เข้ามาจีบว่าคนไม่ดีบ่อยๆ เลยต้องถาม
“ก็ไอ้จำพวกเดียวกับพ่อบัสไงพี่กิต”
กิตค่อยๆ แทรกเข้าไปอยู่ระหว่างสองคนนี้อย่างเนียนๆ จนเป็นเราสามคนได้อย่างไม่ขัดเขิน ส่วนใหญ่ก็แค่นั่งเล่นนั่งคุยกันจนเอเก็บร้าน เสาร์อาทิตย์กิตก็มักจะหาเวลาพาสองคนนี่ไปเที่ยวบ้าง เอก็คงพอจะดูออกว่ากิตคิดยังไง และในเมื่อน้องไม่ได้ปฏิเสธ บัสเองก็ไม่ได้ขวาง กิตก็มัดมือชกเอาว่าน้องเขาโอเค เอก็ชวนกิตไปฉลองวันเกิดบัสด้วยกันที่บ้านเช่า
“พี่กิตวันนี้เอจะเลี้ยงวันเกิดบัส พี่กิตไปกับเอมั้ย มีแค่เอ บัส รวมพี่กิตอีกคนก็เป็นสาม”
“ไปสิขอบใจที่ชวนพี่ แล้วจะกินอะไรกันล่ะ”
“เอเตรียมของไว้ที่ห้องแล้วครับแต่เป็นของพื้นๆ ธรรมดานะครับ พอดีบัสชอบกินพวกต้มยำ เอก็เลยว่าทำกินเองที่บ้านก็ได้ ทำแป๊บเดียวก็เสร็จ”
บ้านที่ว่าคือห้องแถวชั้นเดียว เป็นห้องโล่ง ฝั่งซ้ายมีสี มีสารพัดของใช้ในการเรียน อุปกรณ์ทำเสื้อ กองยาวตั้งแต่หน้าประตูไปจนชิดชั้นที่อยู่ติดกับผนังห้องน้ำ รกนะแต่ไม่สกปรก บนชั้นใช้วางหนังสือเรียนและกระเป๋านักเรียนที่น่าจะเป็นของบัส ที่นอนยางพาราแบนๆ สองอันปูด้วยผ้าปูสีน้ำเงินมืดๆ วางติดกันบนพื้นชิดฝั่งผนังทางด้านขวา มีโคมไปอ่านหนังสือดูแล้วน่าจะแพงใช่เล่นอยู่ข้างๆกองหนังสือการ์ตูน
“โคมไฟนั้นบัสเอามาจากบ้านเอาไว่อ่านการ์ตูนก่อนนอนครับพี่กิต” เสียงของเอทำเอากิตรู้ตัวว่าคงมองไอ้เจ้าโคมนั้นนานไปหน่อย
เลยจากที่นอนไป มีพื้นที่ว่างเล็กๆ ให้พอใช้นั่งเล่น นั่งกินข้าวกันได้สามสี่คนพอเบียดๆ มีโต๊ะเตี้ยวางทีวีที่ด้านล่างยัดที่คว่ำจานแบบมีฝากปิดเอาไว้ หน้าห้องน้ำมีราวแขวนเสื้อผ้าอยู่ติดกับตู้เย็น เลยออกไปเป็นลานซักล้างหลังห้อง มีเตาแก๊สที่มีผ้าพลาสติกคลุมกันฝน เอลงทำต้มยำไก่ที่ใส่เห็ดเยอะๆ ของโปรดบัส กับลาบหมูที่บังเอิญเป็นของชอบของกิต มีหมูเค็มกับข้าวสวยร้อนๆ หอมกรุ่น อาหารง่ายๆ แต่กลับสุขใจที่ได้คนถูกใจมาทำให้กิน ตามด้วยเค้กก้อนเล็กๆ ที่เอซื้อมาเพราะที่ห้องไม่มีอุปกรณ์จะทำเอง แถมท้ายด้วยเบียร์เย็นๆ ชื่นใจ ....
.
.
“...พี่เอชอบทำอาหาร ส่วนบัสชอบกิน พี่เอเลยยอมให้บัสมาอยู่ที่ห้องด้วยนะเนี่ย...” บัสคุยฟุ้ง พอเบียร์หมดกระป๋องก็ฟุ๊บหลับไป
“ฮึ ฮึ เจ้าเด็กคออ่อน” หลังจากลากบัสขึ้นที่นอน เอก็ออกไปล้างจานที่ด้านนอก
“เอ พี่ร้อนพี่ขออาบน้ำหน่อยนะ”
“ครับพี่ เดี๋ยวเอหยิบผ้าเช็ดตัวให้”
“อืมม ไม่ต้องรีบนะ เดี๋ยวพี่อาบรอ” เอหน้าแดงหรือเปล่านั้น เฮ้อ มีความสุข
.
“พี่กิตครับ” ก๊อกๆ
“เอเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ครับ เอเอาวางไว้หน้าห้องให้นะพี่จะได้หยิบได้.”
“ไม่เป็นไรเอ เดี๋ยวพี่เปิดประตูรับจากเอดีกว่าวางไว้เดี๋ยวเปี้ยน” แกร๊ก ประตูห้องน้ำ เปิดกว้างออก
“เฮ้ย พี่....” เอถูกกิตดึงเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัว ก่อนประตูจะปิดลงอีกครั้ง
“ชู่ เดี๋ยวบัสตื่น” ทั้งตัวผมมีแค่ความเปียกชื้นของน้ำเท่านั้นแหละที่อยู่บนผิว
“พี่กิต...” เอเรียกเสียงสั่นไม่กล้ามองสบตา
“เอเช็ดตัวให้พี่หน่อยสิ” กิตกระซิบที่ข้างหู ทั้งสองข้างยังกอดเอวเอเอาไว้หลวมๆ เอที่อยู่ให้อ้อมกอดของกิต ก้มหน้างุด แต่ค่อยๆ เอาผ้าในมือเช็ดเบาไปตามอกและไหล่ ก่อนผ้าจะหลุดไปกองกับพื้นอย่างไม่รู้ตัว
“พี่กิต อืมม อย่าครับ อื้ออ...” เอเหมือนจะผลักก็ไม่ใช่ จะโอนอ่อนก็ไม่เชิง กิตซุกไซร้ไปตามซอกคอ กกหู กระซิบเบาที่ทำเอาเอ สยิว
“เอ ไม่รังเกียจพี่ใช่มั้ย”
“ฮื้อ อ๊ะ ถ้า เอรังเกียจ อ๊ะ พี่กิต เอจะชวนพี่มาบ้านทำไมละครับ อื้อ” กิตครอบครอบปากหวานๆ นั้นทันทีที่พูดจบ เอตอบสนองแบบกล้าๆ กลัวๆ ดูแล้วก็น่ารักดี มือที่จับอยู่ที่เอวก็ลูบเรื่อยเข้าไปในร่มผ้าค่อยๆ ปลดออกที่ละชิ้นอย่างช้าๆ จนตอนนี้น้องเอ เหลือแต่ตัวเปล่า เหมือนกันซักที กิตดันเอให้ถอยห่างออกไปนิด ใช้มือเชยคางขึ้นให้มองสบตากัน เอหน้าแดงมากหลบตาตลอด มืออีกข้างที่ว่าก็เอื้อมไปวางอยู่ที่คอเอ แล้วไล้แผ่วลงมากลางอก หยอกเย้ายอดอกที่ตั้งขึ้นจนเห็นได้ชัด แค่เขี่ยเล่นเบา เจ้าของก็สยิวกายพร้อมครางเบาออกมาให้ชื่นใจ เอพยายามเบี่ยงหน้าหลบ แต่กิตก็ไม่ยอมปล่อย มือนึงก็รั้งหน้าเอให้หันมาสบตาด้วยตลอด มืออีกข้างก็หยอกเย้าอยู่กับตุ่มไตทั้งสองข้างอย่างมันมือ
“พี่กิต รังแกเอ” เอที่ต้องยอมสบตากับกิต เอ่ยตัดพ้อ
“ฮึ ฮึ รักหรอกจึงหยอกเล่น” พูดจบก็ปล่อยมือที่คางแล้วรั้งเอว ดึงเอเข้ามากอด ปากก็จูบไปตามกกหู ข้างแก้มละเรื่อยไปทั่ว มือทั้งสองข้างเปลี่ยนไปกำขยำอยู่ที่ก้นกลมเนียนนิ่มทางด้านหลัง ดันให้ร่างกายทั้งสองเข้ามาแนบกันจนชิด กิตขยับถอยไปอิงที่ขอบอ่างพร้อมกับรั้งร่างเอให้ตามมาด้วย
“อ๊ะ อือ พี่กิต” สะโพกน้องเอขยับส่ายอย่างเชิญชวน แขนกอดแผ่นหลังของกิต มือทั้งสองข้างเกาะแน่นอยู่ที่บ่า กลางลำตัวด้านหน้าของทั้งสองเสียดสีกันจนอารมณ์กระเจิง กิตส่งนิ้วเข้าสำรวจช่องทางด้านหลังของเอที่กำลังมัวเมา อย่างช้าๆ
“อ๊ะ พี่กิต ฮื้ออ ซี๊ดด” เอขยับสะโพกหนีการรุกราน ทางด้านหลัง ด้วยการแน่บด้านหน้าเข้าหาร่างกายกิตมากยิ่งขึ้น กิตรั้งร่างเอขึ้นจนกลาบป็นเกยทับอยู่บนร่างตัวเองกลายๆ ทำให้เอจะดิ้นหนีก็ไม่ถนัด ได้แต่เกาะกอดแผ่นหลังกิตอย่างจำยอม
“พี่กิต อือม อ๊ะ ซี๊ดด เอ เอเสียว อ๊า อ๊า อื้ม” เอขยับร่างกายเสียดสี เก้ๆ กังๆ สนองความพอใจของตัวเอง หาความสุขกับนิ้วกิตอย่างลืมตัวไม่นานเอก็ปลดปล่อยทลักทลายออกเต็มหน้าท้องกิต เสียงหอบหายใจดังก้องห้องน้ำแคบ......
.
.
“เอเสร็จแล้วแต่พี่ยังเลยนะ เอช่วยพี่หน่อยสอครับ” หลังลงเอ กลับมามีแรงยืนดีๆได้อีกครั้ง เอเลยยื่นมือไปที่กิตน้อยที่พร้อมรออยู่
“กิตน้อยของพี่มันอยากให้ปากน้องเอเอ็นดูมากกว่านะครับ” กิตไล้นิ้วไปบนริมฝีปากล่างของเออย่างช้าๆ
“เอ เอไม่เคย..” เอเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ
“น่า เดี๋ยวพี่กิตสอนน้องเอเองครับ น้า น้องเอทำให้พี่กิตหน่อยนะ น้าครับ” เอพยักหน้าตกลง ก่อนจะค่อยๆคุกเข้าลง....
.
.
“ซี๊ด เอ เก่งครับ อื้อม อย่างนั้นแหละครับ อ๊า อ๊าววว สุดยอด โอ๊ววว” กิตหลับตาร้องครางอย่างสุดเสียวกับสิ่งที่เอทำ ก่อนจะปลดปล่อยออกมาอย่างมากมายในปากของเอ ทั้งคู่ช่วยกันอาบน้ำอีกรอบ
“หัวไวอย่างงี้พี่รักตายเลยครับ” กิตดึงเอเข้าไปจูบ ก่อนจะออกมาจากห้องน้ำ เอหากางเกงบอลให้กิตใส่นอน ส่วนตัวเองใส่กางเลตัวเดียว เอเป็นคนนอนกลาง แสงจากด้านนอกสาดเข้ามาให้เห็นได้ลางๆ
“อ๊ะ พี่กิต” เอกระซิบปรามเบาๆ
“ชู่ เดี๋ยวบัสตื่น” กิตปลดกางเกงเลของเอแล้วเขี่ยมันหลุดไปทางปลายเท้า แล้วรูดกางเกงบอลของตัวเองลงอย่างเร็ว ดึงเอเข้ามาชิดในท่านอนตะแคง ยกขาเอขึ้นค่อยๆ ดันช้าๆ เอจิกเม้มปากแน่น
“เจ็บนิดนะครับคนเก่ง” กิตขยับตัวเอามือกอบกุมเอน้อย มันคงช่วยให้อพอเลือนความเจ็บด้านหลังลงได้บ้าง
“อ๊ะ ซี๊ดด” เอถึงกับเผลอหลุดออกมาเบาๆ ทำไปทำมา ตอนนี้กิตขึ้นไปคร่อมทับเอทางด้านหลัง เอจิกทึ้งผ้าปูแน่นมากพยายามกลั้นเสียงอย่างที่สุด
“อา..อ๊ะ” แม้นเสียงครางจะกลั้นไว้ได้บ้าง แต่เสียงเนื้อกระทบเนื้อก็ไม่ได้เบาเลย
“พี่กิต ..อุ อือ เอไม่ อ๊ะ ไหวแล้ว อ๊า” แล้วกิตก็ตามเอมาติดๆ สองร่างได้แต่นอนหอบอย่างแรง ค้างอยู่ในท่านั้น ไม่มีใครมีแรงจะขยับเขยื่อนตัวเอาจริงๆ
“ฮึก ฮึก ฮืออ ฮืออ” เสียงร้องไห้จากคนที่คิดว่าหลับดังออกมาอย่างสุดกลั้น
“บัสชอบละเมอหรอเอ” กิตกระซิบถาม
“ไม่นะพี่กิต ตั้งแต่อยู่กันมาเอไม่เคยเห็นนะ” เอก็ตอบกลับมาเสียงเบา ก่อนจะเผยอตัวเอื้อมมือไปหาบัส มือเอยังไม่ทันโดนตัวบัสเลยด้วยซ้ำ บัสก็หันกลับมาคว้ามือเอแล้วพลิกตัวเข้ามากอดซุกอยู่กับอกของเอ กลายเป็นว่าตอนนี้ด้านหน้าเอโดนบัสกอด แถมมีกิตแนบสนิทอยู่ที่ด้านหลัง
“บัส บัสเป็นอะไรครับ บอกพี่เอสิ” เอลูบหัวบัส แล้วเปลี่ยนมาตบไหล่ตบหลังอย่างปลอบโยน
“บัสยังสะอึกสะอื้นอยู่กับอก กิตเอื้อมมือไป ดึงผ้าห่มมาคลุมส่วนล้างของตนกับเออย่างลวกๆ ถึงไม่เห็นแต่ก็รู้สึกได้นี่หน่า แล้วยื่นมือลูบหัวบัสด้วยอีกคน สถานการณ์ล่อแหลม จะถอนออกตอนนี้ก็ไม่ได้ยังเสียดายความอบอุ่น เลยได้แต่เนียนๆ นิ่งๆ ไปตามเรื่อง
“พี่เอจะทิ้งบัสไปอยู่กับพี่กิตกันสองคน ฮืออ ฮืออ”
“เอครับ อย่าเกรงครับมันรัดพี่จะแย่แล้ว” กิตกระซิบเบาที่หูเอ เลยได้หยิกมาหนึ่งดอก
“ใครบอกครับ พี่เอไม่ทิ้งบัสหรอกนะ โอ๋ๆ อย่างร้องนะ มาคุยกันก่อนครับ”เอพยายามไม่สนใจคนด้านหลัง แล้วหันไปปลอบบัส
“ก็ ฮืออ ฮืออ พี่เอ กับฮึ๊ก พี่กิต มีไรกัน แล้วก็จะทิ้งบัสไป ฮึ๊ก เหมือน พ่อแม่ ฮืออ ฮืออ ใครฮึก ใครก็ไม่เอาบัส ฮืออ” โธ่เอ้ย นี่มันเด็กป.5 หรือม. 5 กันเนี่ย มันน่ารักนัก ไอ้เด็กขาดความอบอุ่น กิตที่นอนมอง ได้แต่คิดในใจ เฮ้อ ยิ่งคิดก็ยิ่งแข็ง.....
“อ๊ะ พี่เอไม่ทิ้งบัสแน่นอนครับ อือม พี่กิตด้วย ใช้มั้ยพี่” เอหันมาถาม ตาคว่ำ เพราะตอนที่เอปลอบบัสอยู่ กิตแอบขยับสะโพกให้มันแนบชิดเข้าไปอีกหน่อยสองหน่อยเอง
“ใช่แล้วบัสเป็นน้องพี่ กับพี่เอ เราไม่ทิ้งบัสหรอกครับ” เราสองคนพยายามปลอบบัสอยู่ครู่หนึ่งเด็กเจ้าปัญหาก็ยอมสงบลง เอก็ค่อยสะกิดให้กิตค่อยถอนตัวออกไป แหมเสียดายจริง เจ้ากิตน้อยกำลังได้ท่าเลย อยากดึงเอมาต่ออีกซักรอบ แต่ถึงจะออกมาแล้วแต่ก็ไปไหนไม่ได้ไกลเพราะยังหากางเกงไม่เจอเลย เจ้าบัสก็ยังนอนกอดเออย่างเหนียวแน่น
“บัสว่า บัสไม่เป็นน้องพี่เอ พี่กิตดีกว่า” อยู่เจ้าเด็กบัสก็เอ่ยขึ้น
“เอ๊า ไม่เป็นน้องแล้วจะเป็นอะไร” กิตได้แต่ถามอย่าสงสัยปนงุ่นง่านเต็มทน
“บัสไม่รู้....”
“อ้าว เฮ้ย...กวนกันป่ะเนี่ย บัส” กิตถามกลับอย่าง งงๆ ปนขำ
“เปล่านะพี่กิต บัสไม่รู้จริงๆ นะ งั้น...บัสเป็นเหมือนพี่เอก็ได้”
“ฮะ เป็นอะไรนะ....แล้วบัสรู้หรอว่าพี่เอเป็นอะไร” ตอนนี้เอได้แต่นอนนิ่งอยู่ตรงกลางกิตกับบัส
“เป็นเมีย..” บัสตอบเสียงเบาจนเกือบไม่ได้ยิน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” กิตหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น
“บัสพูดจริงนะพี่กิต บัสเป็นเมียได้จริงๆ นะ...ขอแค่ให้ได้อยู่กับพี่เอ” เสียงตอนท้ายสั้นเหมือนกับจะร้องไห้อีกรอบ
“เอ้า จริงก็จริง แต่พี่ว่าบัสไปถามเอเองแล้วกันว่าเอจะยอมให้พี่มีเมียสองคนเปล่า” กิตโป้ยไปหาเอ เพราะเรื่องแบบนี้เอคงคุยได้นุ่มนวลกว่าแน่ บัสหันไปหาเอ อย่างอ้นวอน
“นะพี่เอ ให้บัสอยู่ด้วยนะ ให้เป็นอะไรก็ได้ เป็นเมียพี่เอด้วยก็ได้ บัสยอมหมดเลย แค่พี่เออย่าทิ้งบัสนะ นะ” บัสลุกนั่งเข่ยาแขนเอ เหมือนเด็กเอาแต่ใจ เอดึงผ้าห่มมาพันปิดร่างกายเรียบร้อยก็เอื้อมมือไปเปิดโคมไฟอ่านหนังสือที่หัวที่นอน แสงสว่ากระจายเป็นวงรัศมีไม่กว้างจนเกินไปนักทำให้เราสามคนเห็นหน้ากันได้ถนัดขึ้น
“พี่ไม่ชอบเป็นผัวครับบัส...”
“งั้นบัสเป็นเองก็ได้” เอยังพูดไม่ทันจนเจ้าบัสก็สวนขึ้นทันที เอาละสิเฮ้ย กิตได้แต่เอ็ดอึงอยู่ในใจ
“แล้วทำเป็นหรือไง” เอสวนกลับ
“ให้พี่กิตสอนก็ได้ง่ายจะตาย ถึงไงโตไปบัสก็ต้องเป็นอยู่วันยังค่ำ เป็นซะตอนนี้จะเป็นไร” เจ้าเด็กบัสยังถียงต่อ หน้าตาจริงจังสุดสุด
“แล้วทำไมไม่เป็นซะตั้งนานแล้วล่ะบัส” กิตทะลุกลางปล้อง ได้ที่แก้ข้อสงสัยของตัวเองซะเลย
“ก็บัสยังเด็ก เป็นที่พึงให้พี่เอก็ไม่ได้แถมบางทียังเป็นภาระอีกต่างหาก สำหรับบัสถ้าจะเป็นผัวใคร บัสตั้งใจว่า จะเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นผู้นำที่ดี ดูแลคนที่เรารักได้ และต้อง ไม่ใช่อย่างพ่อ...” ท้ายประโยคแผ่วเบาอย่างน่าสงสาร
“แล้วทำไมบัสคิดว่าถ้าเป็น แล้วพี่จะไม่ทิ้งบัสล่ะ” ฟังจบ เอก็ถามบัส
“ก็พ่อยังทิ้งบัสแล้วไปอยู่กับเมียพ่อเลย ส่วนแม่ก็ทิ้งบัสไปอยู่กับผัวเหมือนกัน งั้นถ้าบัสเป็นผัวหรือเมียพี่เอก็ต้องอยู่กับบัสสิ” กิตได้แต่ถอนใจ
“บัสฟังพี่กิตนะ ถ้าบัสคิดอย่างนั้น พ่อกับแม่ก็เป็นผัวเมียเค้ายังเลือกไปอยู่กับคนอื่นเลยแล้วบัสไม่คิดว่าพี่กับพี่เอ....”
“ก็เพราะอย่างนั้นนะสิบัสก็เลยเลือกจะเป็นเหมือนพี่เอ พี่กิตกับพี่เอจะได้ไม่ทิ้งบัส แล้วอีกอย่าง พี่เอเป็นคนดี ไม่เหมือนพ่อกับแม่ พี่เอไม่ทิ้งบัสหรอก แล้วคนที่พี่เอเลือกก็คงเป็นคนดี...พี่กิตก็คงไม่ทิ้งพี่เอกับบัส...ใช่มั้ย” ความไม่มั่นใจที่แสดงออกมาทางแววตาอย่างชัดเจน ส่วนเอก็หันมามองอย่าคาดหวังด้วยเช่นกัน
“เฮ้ออ ไม่ทิ้งสิครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่จะไม่ทิ้งเอกับบัสแน่นอน.....เพราะพี่เป็นคนดี” กิตเว้นช่วงนิดนึงก่อนจะพูดต่อ ทำเอาสองคนที่นั่งจ้องหลุดยิ้มออกมา ก่อนจะโถมตัวเข้ามากอด เจ้าหนูบัสพยายามเริ่งอย่างกลัวๆ กล้าๆ แต่ก็น่ารักดี คนไม่เคย ต้องต้องค่อยสอน ค่อยบอก แต่หัวไวใช้ได้เลยทั้งคู่ ................
.
.
ยังมีต่อค่ะ