ขนมต้มแป้งเหนียว ขบฟันเคี้ยวเจอไส้ร่วน
หลอกต้มด้วยหน้านวล สิ้นระวังจึ่งเสียที....
จากการจับสังเกตตั้งแต่เมื่อวานนี้ทำให้ผมรู้ว่า เวลาเรามีประเด็นคุยเรื่องเกี่ยวกับพี่อ๋องกัน แม่ผ่องจะต้องหาเรื่องเนียนเข้ามาใกล้ผมมากกว่าปกติทุกที ไม่ต้องจับให้มั่นคั้นให้ตายก็รู้ครับ ว่าโทรศัพท์เครื่องเล็กทีแม่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อคอกระเช้านั่นต้องเปิดลำโพงรับเสียงส่งตรงถึงหูไอ้ลิงยักษ์เจ้ามารยาอยู่แน่ๆเชียว
ได้ครับ อยากจะเล่นบทพระเอกแสนงอนให้น้องตัวต่อไปง้อมันก็ย่อมได้อยู่แล้ว เรื่องง้อคนนี่ผมถนัดมากอะครับ ฮั่นแน่.....เตรียมจะบอกว่าเพราะผมทำให้คนรอบตัวโกรธเป็นกิจวัตรกันล่ะสิ ชิๆ ไม่ใช่สักหน่อย น้องตัวต่อก็แค่ไม่ชอบให้คนที่อยู่ใกล้ชิดอารมณ์ไม่ดีเท่านั้นเองแหละครับ เพราะงั้น ถ้าเห็นว่าใครอารมณ์เสีย หรือไม่พอใจอะไร ผมก็จะคอยเข้าไปพยายามทำให้เขายิ้มได้กันถ้วนทั่วทุกตัวคน ฮี่ๆๆ
กรณีไอ้ลิงพี่อ๋องเนี่ย ถ้าจู่ๆเข้าไปจ๊ะเอ๋บอกว่าจับได้แล้วนะคนโกหกเรื่องมันก็จะจบครับ แต่จะไม่สนุก ดังนั้น น้องตัวต่อจึงตัดสินใจว่าจะตามน้ำไป ดีซะอีกจะได้เป็นการฝึกการแสดงไปด้วยในตัว คิดดูสิครับ เห็นหน้าซื่อๆเป็นลิงแบบนั้น ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ ว่าพี่อ๋องของผมจะเล่นละครเก่งขนาดนี้
แหม....เราสองคนนี่เกิดมาเพื่อกันและกันจริงๆเลยนะ คิดเหมือนผมมั้ยครับพี่น้อง?
“น้อง....มัวเหม่ออะไรอยู่ลูก น้ำตาลจะไหม้แล้วมั้งนั่น”
“อ๊ะ! อือ น้องขอโทษนะแม่...”
ผมทำเป็นสะดุ้งมองน้ำตาลที่เคี่ยวอยู่ในกระทะ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มบางๆเหมือนกับอยู่ในอารมณ์เศร้าโศกสุดบรรยายให้แม่เสียหนึ่งครั้ง จากนั้นจึงหยิบเอาแป้งที่นวดกับน้ำอุ่นแล้วปั้นเป็นก้อนเล็กๆด้วยปลายนิ้ว แล้วจึงแผ่ออกเป็นแผ่นแป้งรีๆบางๆ ขนาดเท่าปลายนิ้วหัวแม่มือที่ต้มในน้ำเดือดจัดจนสุกใส่ลงไปในกระทะ ใช้ไม้พายเคล้าแป้งกับน้ำตาลที่เคี่ยวผสมกับมะพร้าวทึนทึกขูดฝอยให้เข้ากันอยู่สักพักแล้วจึงตักขึ้นพักไว้ในโถแก้วเนื้อหนา
อ๋า....ทำเองก็อยากจะกินเองจังเลยครับ ความจริงขนมต้มแดงขนมต้มขาวเนี่ยเป็นขนมที่ทำง่ายมากเลยนะครับ แต่แม่ก็ไม่ค่อยทำขายบ่อยๆ ส่วนมากจะทำก็ต่อเมื่อบ้านไหนมีงานแล้วมาสั่งให้ทำมากกว่า เพราะถือว่าเป็นขนมมงคลครับ มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยพวกพราหมณ์โน่น
พอผมกวาดขนมต้มแดงที่เพิ่งทำเสร็จลงโถเรียบร้อยเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าแม่กำลังจับตามองอยู่ก่อนแล้ว น้องตัวต่อรีบกดอาการลั้ลลาเพราะขนมตรงหน้ามันช่างหน้ากินลงไปเก็บไว้ที่สุดไส้ติ่ง สูดลมหายใจเอากลิ่นขนมแสนอร่อยลงไปจนเต็มปอดแล้วจึงถอนหายใจออกมายาวเหยียด ลอบจับสังเกตสีหน้าแม่ครัวใหญ่ท่านก็เห็นความห่วงกังวลระบายอยู่ทั่ววงหน้า
ฮี่ๆๆๆ อย่าเพิ่งอินไปกับแม่ผ่องนะครับ ไอ้เจ้าอาการเหม่อเนี่ย มันก็แค่แอ็คชั่นที่ผมจงใจแสดงให้แม่เห็นเท่านั้นแหละ เชื่อสิครับ ว่าอีกสักแป๊บแม่ก็ต้องเนียนๆออกไปจากครัว ไปรายงานให้ไอ้พี่อ๋องมันรู้แน่ๆ
ตอนเย็นเมื่อวานที่ผมอ้อนให้แม่พาไปส่งขนมประจำวันผมแอบจำรายละเอียดทุกอย่างไว้แล้วล่ะครับ แม่ผ่องน่ะ พอผมเริ่มล้างหน้าล้างมือเตรียมกล่องเครื่องบรรณาการก็จะหายไปสักพัก ทำท่าว่าจะไปล้างหน้าทาแป้งเตรียมสวยออกนอกบ้านเหมือนกัน แต่ที่ผมย่องไปเห็น คือแอบไปหลบๆซ่อนๆคุยโทรศัพท์อยู่หลังบ้าน
หลังจากนั้นพอคุยกับผมก็มักจะแกล้งทำเป็นคนแก่หูตึง ฟังอะไรก็ไม่ชัด แล้วก็หาเรื่องให้ผมพูดซ้ำๆไม่ก็พูดเสียงดังขึ้น
ช่วงเวลานั้นแหละ ผมคิดว่าหลังจากโทรคุยกับไอ้พี่อ๋องแล้วไอ้ลิงนั่นมันต้องบอกให้แม่เปิดโทรศัพท์ทิ้งไว้ แล้วก็นั่งฟังสิ่งที่ผมพูดกับแม่ไปตลอดทางแหงๆ แล้วตัวมันก็จะเตรียมพร้อมรอเวลาที่ผมจะขึ้นไปง้อมันที่หน้าประตู แหม....คนรักที่ชอบเล่นละครเหมือนกันแบบนี้ผมจะไปหาได้จากไหนอีกครับ ผมล่ะดีใจจังที่ได้มาเจอแล้วก็มารู้จักกับมัน
หึๆ คุณนายผ่องพรรณเดินกลับเข้ามาแล้วครับ แถมยังเข้ามาใกล้จนแทบจะตัวติดกับผมอยู่แล้วด้วย อืม....ผมคงต้องใช้วิธีนี้สื่อสารให้ไอ้ลิงยักษ์ที่ปลายสายมันรับรู้ข้อมูลบางอย่างแล้วล่ะครับ
“แม่.....น้องคิดถึงพี่อ๋อง......” “เฮ้อ.....น้องเอ๊ย แล้วจะให้แม่ทำยังไงล่ะลูก แม่จะช่วยน้องได้ยังไง”
แหม...เนียนจริงๆคุณนายผ่องพรรณ นี่ถ้าผมไม่บังเอิญไปได้ยินเมื่อวานนี่ไม่มีทางรู้เลยนะครับ ว่าคุณนายท่านเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดกับไอ้พี่อ๋องน่ะ มันน่าเก็บภาพแล้วเอาส่งไปพวกกองละครที่เขาเปิดรับคัดเลือกนักแสดงหน้าใหม่จริงๆเลย
“น้องแค่อยากเจอพี่อ๋องสักครั้ง หลายวันแล้วนะแม่ ที่น้องไม่ได้เห็นหน้าแถมยังไม่ได้ยินเสียงพี่อ๋องด้วย แม่จ๋า....ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเราไม่ได้เจอหน้ากันนานๆเข้า พี่อ๋องมันจะลืมน้องรึเปล่า? น้องกลัวจังเลยแม่.....กลัวว่าในที่สุดความห่างเหินจะทำให้เราสองคนกลายเป็นคนแปลกหน้า.....” โอ๊ะ เกือบไปแล้ว เมื่อกี้ตอนที่แม่ดึงผมเข้าไปกอดให้ซบกับอกนิ่มๆของแม่ ผมเกือบจะหันหน้าหากล้องแล้วยกมุมปากยิ้มแบบตัวร้ายแล้วสิครับ แหม.....ลืมไปเลยว่าตอนนี้ปรับบทใหม่ และบทเดียวที่ผมต้องรับเล่นอย่างเต็มใจคือบทนางเอกต่างหาก
แล้วนางเอกที่ไหนกันล่ะจะจิกตาใส่กล้อง จริงมั้ย?
“...ใครๆก็บอกว่าความรักมีรสหวาน แต่ทำไมสำหรับน้องความรักมันกลับทั้งขมทั้งขื่นขนาดนี้ล่ะแม่?” “โถ......ลูก...เฮ้อ........น้องเอ๊ย......” หึๆๆๆ แค่การแสดงไม่กี่นาทีกับบทพูดกระแทกใจไม่กี่ประโยคเท่านั้น แต่ผมก็ได้ทั้งความสงสารจากแม่ แถมด้วยความรู้สึกผิดจากไอ้กอริลลาที่ปลายสายมาเต็มๆอย่างไม่ยากเย็น ให้มันรู้ไปสิครับว่าขนมต้มที่จะแบ่งไปเป็นเครื่องมือสำหรับขอโทษวันนี้จะไม่ได้ผล
เ
อ๊ะๆ ไหนใครว่าน้องตัวต่อร้ายนะครับ แหม....ผมไม่ร้ายสักหน่อย ผมก็แค่คิดก่อนทำ ประเมินสถานการณ์เพื่อให้ได้เปรียบสูงสุดก็เท่านั้นเอง
เราแม่ลูกทำขนมต้มตามสั่งเรียบร้อย แม่ก็โทรตามให้ลูกค้ามารับครับ วันนี้ที่บ้านเขามีทำบุญบ้าน แล้วก็จะเลี้ยงพระเพล ผมกันขนมต้มขาวไว้สามลูกเท่านั้นแหละครับ ขนมต้มนี่หวานมากเพราะด้านในใส่หน้ากระฉีก ไอ้พี่อ๋องมันไม่น่าจะชอบ แต่เพราะนานๆทีถึงจะทำน้องตัวต่อเลยอยากให้มันได้ลองชิมดู ผมเอาผ้าขาวบางคลุมไว้โดยที่ยังไม่ได้เอาลงหม้อต้ม เอาไว้ตอนบ่ายแก่ๆใกล้เวลาเลิกงานพี่อ๋องมันก่อน แล้วค่อยต้มใหม่ๆไปให้มันกิน ไม่งั้นทิ้งไว้นานๆแล้วมันจะชืดครับ ต้องต้มสุกแล้วทิ้งให้เย็นแค่พักเดียวกินเลย แบบนั้นแหละถึงจะอร่อยที่สุด
ตกเย็นผมก็อาบน้ำประแป้งเด็กแคร์กลิ่นออริจินัลหอมฟุ้งรอแม่ควบอีแก่มาเทียบหน้าบ้าน เดี๋ยวนี้แม่เริ่มสบายใจที่จะให้ผมซ้อนมอเตอร์ไซค์แล้วครับ อีกอย่างถ้าวันไหนไม่ได้ไปตลาดเพื่อจะซื้ออุปกรณ์มาทำขนมผมก็คิดตรงกันกับแม่ว่าการขับกระบะไปมันเปลืองทั้งเงินในกระเป๋า และทรัพยากรพลังงานโดยใช่เหตุ
“แม่ อวยพรให้น้องหน่อย”
ถึงฉากสำคัญแล้วครับ ตอนนี้แม่ผ่องควบอีแก่มาจอดหน้าร้านขายเหล็กแล้ว แถมยังมีพิรุธทำทีหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลาที่หน้าจอด้วย ฮ่าๆๆๆๆ
“
จ้ะ....ขอให้น้องสมหวังนะลูก ขอให้รักกันนานๆ คราวหน้าคราวหลังมีอะไรกระทบกระทั่งให้ต้องหมองใจกันอีกก็คุยกันดีๆ นะลูกนะ” หืม.....นี่มันคำอวยพรหรืออะไรกันแน่ครับ? นี่น้องไม่ได้บอกให้ให้โอวาทก่อนเข้าหอนะแม่ เอ๋...แม่ผ่องของผมเป็นอะไรมากรึเปล่าเนี่ย? นี่ไม่ใช่ไปงุบงิบตกลงขายลูกชายตัวน้อยๆให้ไอ้พี่อ๋องไปแล้วนา ผมไหว้งามๆขอบคุณคุณนายท่านไปหนึ่งครั้งถ้วน แล้วโขยกเขยกเดินเข้าไปในร้านขายเหล็ก แปลกใจนิดๆที่วันนี้ร้านเงียบผิดปกติ เห็นแต่ลูกจ้างในร้านนั่งหน้าง่วงอยู่คนเดียว
น้องตัวต่อพยักหน้าพร้อมยกมือทักทายพี่แกแกก็ยิ้มกว้างตอบ จากนั้นผมจึงเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน ขนมในกล่องที่ใส่มาในถุงผ้าลดโลกร้อนเพราะผมรักโลกนี้มากๆคล้องอยู่ที่ข้อมือก็แกว่งไกวไปตามจังหวะเหวี่ยงตัว ยอมรับอย่างใจชื่นแต่สีหน้าโศกสลดตามบทว่าถึงจะคาดคะเนว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่พี่อ๋องมันจะหลบหน้าผม แต่ใจผมก็ยังเต้นตุ๊มๆต่อมๆอยู่ดี
“อ๊ะ!!”“
โอ๊ะ! เฮ้ย!!!” โอ๋.......นี่เองสินะครับ เหตุผลว่าทำไมแม่ผ่องถึงได้ดูจะกะเกณฑ์เวลาการมาง้อไอ้พี่อ๋องวันนี้ของผมให้มันพอดิบพอดีแบบนี้ ผมก็นึกว่ากำลังจะเลี้ยวพ้นชานพักแรกของบันไดแล้วมีสิ่งมีชีวิตในตำนานอะไรตัวแข็งๆพุ่งเข้าชนเสียอีก พอตั้งสติถึงได้รู้สึกว่าไอ้แขนแข็งๆอกแข็งๆที่ซบอยู่มันให้ความรู้สึกคุ้นเคยชะมัด แถมกลิ่นสบู่เหมือนไอศกรีมวานิลลาแบบนี้ยิ่งคุ้นเข้าไปใหญ่
“พะ....พี่อ๋อง” แหม...เนียนนะครับ ก็เห็นอยู่ว่าไม้ค้ำในมือขวาน่ะกระเด็นหลุดมือไปตั้งแต่ตัวต่อน้อยๆปะทะกับลิงกล้ามปูแล้ว ยังมีการทำท่าจะปล่อยผมลงยืนเองอีกแต่มีหรือที่นักแสดงที่ดีอย่างผมจะยอม นางเอกน่ะมันต้องบอบบาง น่าทะนุถนอม แล้วก็อ่อนแอๆสิครับ ผมเลยแกล้งทำเป็นเสียขวัญโอบแขนสองข้างรัดคอไอ้พี่อ๋องไว้แน่นเลย
โธ่ มันชัดเจนจะตายว่าเป็นการจัดฉาก ไม่งั้นทำไมจะต้องเดินเร็วๆลงมาพอดีให้ป๊ะกันตรงชานพักด้วยเล่า ท่าทางจะกลัวว่าถ้าชนกันตรงบันไดชันๆ แล้วผิดคิวรับน้องตัวต่อไว้ไม่ทันแล้วผมจะเจ็บตัวอีกล่ะสิ ฮี่ๆๆๆๆ
“ปล่อย คุณไม่เจ็บไม่ใช่หรือ?”“พี่อ๋อง....น้องขอโทษ.....” ไอ้พี่อ๋องมันไม่ยอมมองหน้าผมเลยอะครับ แง้ๆๆๆๆ ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่ามันคือละคร แต่ผมก็ไม่ชอบแบบนี้เลยจริงๆนี่นา พอมันไม่ยอมมองกันสักนิดแถมทำท่าตั้งอกตั้งใจปลดมือผมออกจากคอแบบนี้ กำลังใจก็หดลงดื้อๆ ผมเลยซุกหน้าเข้ากับอกมันแล้วนอกจากกอดรอบคอแล้วสองมือผมยังขยุ้มยึดกับเสื้อยืดตราห่านคู่ของมันแน่นเลย
ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองขยับไกวขึ้นลงเป็นจังหวะ ก่อนที่จะมีเสียงประตูฝืดๆที่คุ้นเคยดังขึ้น พอแอบๆลืมตาขึ้นดูก็พบว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในอาณาจักรส่วนตัวของพี่อ๋องมันเสียแล้ว
โอว....นี่ไม่ใช่ว่าพี่อ๋องมันตั้งใจจะรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัวน้องเป็นการดัดนิสัยหรอกนะครับ?! น้องตัวต่อยังไม่ได้ศึกษาเตรียมพร้อมเลย เดี๋ยวเกิดท่าร่างลีลาไม่ประทับใจขึ้นมาแล้วมันได้แล้วทิ้ง ลูกชายแม่ผ่องจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน??? อ๊ะ....นี่ไง ไอ้พี่อ๋องมันวางผมลงบนเตียงแล้ว น้องตัวต่อหลับตาปี๋เลยอะครับ รู้สึกหัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ระทึกมากครับ พี่อ๋องมันจะเริ่มตรงไหน มันจะสวมวิญญาณพระเอกคุณลุงพิศาลรึเปล่า น้องตัวต่อไม่ชอบแบบตบจูบนะครับ ผมพรีเฟอร์แบบนุ่มนวลๆ ค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า