บทที่ ๑๑
ปรมินทร์วิ่งตามชนกทีกึ่งเดินกิ่งวิ่งจนทัน แล้วจับแขนเด็กหนุ่มไว้แน่น
“นก ... จะรีบไปไหน”
“ก็ไปร้านไง” ชนกหันมาตอบแล้วหันตัวทำท่าจะเดินต่อ
“ไม่ต้อง กลับไปกับพี่ก่อน” ปรมินทร์บอกเสียงเข้ม
“จะไปอะ ปล่อยดิ ... ปล่อย” ชนกพยายามดึงแขนออกจากการเกาะกุมของปริมนทร์ แต่ไม่เป็นผล “ปล่อยอะ ลุง ... ปล่อยยยยยย ...” ชนกส่งเสียงดังขึ้น
“เด็กบ้านี่ พูดอะไรไม่ยอมฟังกันเลย” ปรมินทร์พูดเสียงดุ แล้วทำในสิ่งที่ชนกคาดไม่ถึง
ปรมินทร์จับตัวชนกขึ้นพาดไหล่ แล้วหันตัวเดินกลับร้านของตัวเอง ไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างที่ต่างก็หันมามองด้วยความสนใจ
“ตาลุงทำไร ปล่อยยยยยยยย .......” ชนกส่งเสียงดัง พยายามดิ้นรนจนเวียนหัว เพราะหัวห้อยลงกับพื้น มือสองข้างทุบรัวลงบนหลังปรมินทร์ไม่ยั้ง
“เจ็บนะไอ้เด็กบ้า อยู่นิ่งๆหน่อย หนักนะเฟร้ย” ปรมินทร์พูดเสียงดุ
“เจ็บก็ปล่อยเดะ” ชนกไม่ยอมแพ้ นอกจากทุบแล้วพยายามถีบขาดิ้นรนหนักขึ้น
“ไม่หยุดเหรอ ไม่หยุดใช่มะ” ปรมินทร์ยกมือข้างหนึ่งขึ้นตีก้นชนก มือหยาบใหญ่กระทบกางเกงยีนส์อย่างแรง
ป้าบบบบ ....
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ... ตาลุงบ้า”
“พี่บัวคะ พี่บัว” สาวิตรีเข้ามาในห้องครัว ร้องเรียกบุณฑริก
“อะไร ... เรียกซะเสียงดังเชียว” บุณฑริกหันมาตามเสียง แล้วก็ต้องแปลกใจกับสีหน้าเลิกลักของหญิงสาว
“ตีกันใหญ่แล้วค่ะ ตีกันใหญ่เลย” สาวิตรีพูดอย่างตื่นเต้น
“อะไร ... ใครตีกับใคร” บุณฑริกขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นเท้าเอว
“น้องนกกับตาลุง ... เอ๊ย” สาวิตรียกมือข้างหนึ่งขึ้นแตะปาก ยิ้มแหย ๆ “น้องนกกับพี่ป๊อบน่ะคะ พี่รีบออกไปห้ามเร็ว”
สาวิตรีไม่รอคำตอบ จับข้อมือบุณฑริกแล้วดึงตัวให้เดินตามออกมานอกครัว แต่ที่ชายหนุ่มเห็นกลับเป็นชนกนั่งอยู่บนตักของปรมินทร์ แทนที่จะเป็นภาพของคนทะเลาะกันอย่างที่สาวิตรีบอก
“ไหน ... ทะเลาะกันที่ไหนกัน ออกจะสวีท” บุณฑริกกันไปพูดกับสาวิตรีที่ทำหน้างง
“ก็เมื่อกี้นี้ ...”
“สวีทบ้านแกนะสิ มาช่วยกันจับไอ้เด็กบ้านี่ไว้หน่อย” ปรมินทร์พูดขัดขึ้นมาด้วยเสียงดังปนหอบ
“ปล่อยดิ ตาลุงบ้า ปล่อย ปล่อย ปล่อย ปล่อยยยยย ...” ชนกที่เงียบอยู่ส่งเสียงโวยวายขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มพูดจบ พร้อมกับขยับตัวดิ้นรนอย่างแรง
“อ้าว” บุณฑริกอุทานได้คำเดียว ก็พุ่งตัวเข้าไปจับไหล่ชนกไว้ พอเข้าไปใกล้จึงเห็นว่าจริง ๆ แล้วปรมินทร์ใช้ขาทั้งสองข้างหนีบขาของชนกไว้ไม่ให้ขยับ พร้อมกับลอคแขนของเด็กหนุ่มไว้อย่างแน่นหนา มิหนำซ้ำยังมีเม็ดเหงื่ออยู่บนหน้าผากของคนทั้งสองด้วย
“สา ... มาจับนายนกไว้” ปรมินทร์เรียกเสียงดังเมื่อเห็นว่าบุณฑริกเพียงแค่จับไหล่ชนกไว้หลวม ๆ หญิงสาวรีบเข้ามาจับแขนชนกไว้ข้างหนึ่ง “จับให้แน่นล่ะ ถ้านายนกหลุดวิ่งออกไปได้ จะไล่เธอออก”
“หา” สาวิตรีเบิกตาโต
“ตาลุง...” ชนกเรียกชายหนุ่ม แล้วทำท่าจะพูดอะไรต่อ
“ไม่ต้องพูด ถ้านายหนี ฉันไล่ออกหมด ทั้งยายสา ทั้งไอ้บัว” ปรมินทร์พูดสียงเข้ม
“อ้าว ฉันโดนด้วยเหรอ” บุณฑริกถามด้วยความสงสัย
“เออ” ปรมินทร์ตอบห้วน ๆ แล้วคลายมือและขาออก ลุกขึ้นเดินไปที่เคาเตอร์ เปิดลิ้นชักออกเพื่อหยิบของข้างใน
“น้องนก ไอ้ป๊อบมันเอาจริงนะ พี่ว่าน้องนกเงียบ ๆ ดูไปก่อนดีกว่า ว่ามันจะทำอะไร” บุณฑริกพูดเบาๆกับชนก เมื่อเห็นเด็กหนุ่มขยับตัว
ชนกฟังแล้วก็ยอมอยู่เฉยๆ แต่สีหน้าแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“เอ้า ... นี่” ปรมินทร์ที่เดินกลับมายื่นกล่องกำมะหยี่ให้ชนก
“อะไร” ชนกถามเสียงห้วน ปรมินทร์จึงจับมือของเด็กหนุ่มขึ้นมาข้างหนึ่ง วางกล่องกำมะหยี่ที่ดูคุ้นตาลงบนมือชนก แล้วเดินกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้หลังเคาเตอร์ ก่อนจะส่งเสียงบอกบุณฑริกกับสาวิตรี “ปล่อยไอ้เด็กบ้าได้แล้ว”
บุณฑริกปล่อยมือออกจากไหล่ชนก ส่งสายตาให้สาวิตรีเป็นสัญญาณให้ตามไป แล้วทั้งสองคนก๋เดินหายเข้าไปในครัว ปล่อยให้ชนกมองดูกล่องกำมะหยี่อย่างครุ่นคิดอยู่ตามลำพังกับปรมินทร์ซึ่งยังนั่งอยู่หลังเคาเตอร์
ชนกจำได้ดีว่ากล่องกำมะหยี่ใบนี้เอง ที่เขาเฝ้าวนเวียนไปดูที่ร้านอยู่ประจำ และตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อจะได้มันมา แต่ปรมินทร์บอกว่ามีคนแย่งกันซื้อไป แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ ... ทำไม
“พี่ป๊อบ” ชนกเรียกเสียงเบา พร้อมกับเดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่หลังเคาเตอร์ “ไหนบอกว่ามีคนซื้อไปแล้วไง”
“นี่ไงคนซื้อ” ปรมินทร์ยกมือขึ้นชี้หน้าตัวเอง ส่งสายตาดุ ๆ ให้เด็กหนุ่ม “ยังพูดไม่ทันจบก็วิ่งออกไปซะแล้ว เด็กบ้า”
“ก็ผมตกใจนี่ พี่ไม่รู้หรอกว่ามันสำคัญสำหรับผมขนาดไหน” ชนกตอบเสียงอ่อน
“ใช่สิ ... คงสำคัญมากสินะ ของที่จะให้ผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกของเราน่ะ” ชายหนุ่มพูดเสียงแข็ง
“อื้อ” ชนกยอมรับพร้อมกับรอยยิ้มพราว ดวงตาทอประกายใสซื่อ ผิดไปจากท่าทางหงอย ๆ เมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง
ปรมินทร์มองดูรอยยิ้มของเด็กหนุ่มด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบแก้มใสของชนกเบาๆ โดยไม่รู้ตัว
“พี่เห็นมีคนแย่งกันซื้อ เลยซื้อมาให้ แล้วเอาไว้หักเงินจากค่าจ้างแล้วกัน” ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อนโยน ต่างจากเมื่อครู่
ชนกเงียบไป แววครุ่นคิดปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าแว่บหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง
“งั้นผมฝากไว้กับพี่ป๊อบก่อนนะ วันรับเงินค่อยเอา”
ชนกจับมือของปรมินทร์ที่แตะผิวแก้มของตัวมาแบไว้ตรงหน้า แล้ววางกล่องกำมะหยี่ลงบนมือของชายหนุ่ม
“ผมกลับบ้านก่อนนะลุง เดี๋ยวดึก”
พูดจบก็หันหลังเดินออกไป ทิ้งให้ปรมินทร์มองตามจนเด็กหนุ่มออกจากร้าน ชายหนุ่มก้มหน้าลงมองโต๊ะถอนหายใจยาว
“ลุง” เสียงเรียกทำให้ปรมินทร์เงยหน้าขึ้น ก็เห็นชนกมายืนอยู่ข้างหน้า
“หือ”
“ขอบคุณครับ” ชนกพูดแล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มชายหนุ่มอย่างแรงจนมีเสียงดัง ‘ฟอด’ แล้ววิ่งออกจากร้านไปด้วยความรวดเร็ว