[นิยายขนาดสั้น] ผู้ชายคนนี้ดีที่สุดในโลก : ตอน(สั้น)พิเศษ ๑๑ กรกฏาคม ๒๕๕๖
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายขนาดสั้น] ผู้ชายคนนี้ดีที่สุดในโลก : ตอน(สั้น)พิเศษ ๑๑ กรกฏาคม ๒๕๕๖  (อ่าน 78555 ครั้ง)

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออก ไปด้วยนะครับ


สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคล ที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อ ความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

==============================

บทที่ ๑

          ช่วงเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงเช้าของวันธรรมดา เป็นเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่อยู่ในที่ทำงาน หรือสถานศึกษา ร้านค้าในย่านชอปปิ้งกลางเมืองแห่งนี้ ก็เพิ่งจะเปิดร้านกันเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนว่าแทบทุกร้านเหมือนจะยังไม่มีลูกค้าเลย หรือถ้ามีก็ยังน้อยอยู่ เช่นเดียวกับร้าน P&B ที่เป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ร้านหนึ่งในย่านนี้ ถ้ามองผ่านเข้าไปทางช่องประตู จะเห็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่ง นั่งก้มหน้าทำอะไรอยู่หลังเคาเตอร์เก็บเงินหน้าร้าน  เมื่อมองลึกเข้าไปหลังเคาเตอร์ ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งกำลังขมักเขม้นทำงานอยู่ในห้องที่มีลักษณะเหมือนครัวแบบเปิด และหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่กำลังจัดของตามโต๊ะภายในร้าน

ติ๊ง ... ต่อง
          เสียงที่ดังขึ้นแสดงให้รู้ว่ามีคนเดินเข้ามาในร้าน แต่เสียงฝีเท้าที่ดังแผ่วๆจากประตูทางเข้า กลับมาหยุดหน้าเคาเตอร์ ห่างออกไปเล็กน้อย
           “ลุง ... ป้ายเนี๊ยเห็นติดมาตั้งหลายสัปดาห์แล้ว ยังไม่มีคนมาสมัครอีกเหรอ” เสียงค่อนข้างดัง ทำให้คนที่นั่งอยู่หลังเคาเตอร์ เงยหน้าจากสิ่งที่ทำอยู่ขึ้นมาอง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองดูเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มอยู่ทางด้านหน้าของเคาเตอร์ ในมือถือแผ่นกระดาษที่เคยถูกแปะไว้บนแผ่นกระจกด้านหน้า ใกล้ประตูเข้าร้าน
           “ผมว่าต้องยังไม่มีแน่ๆเลยใช่ป่ะลุง ก็ดูดิ” เด็กหนุ่มก้มลงอ่านข้อความบนแผ่นกระดาษที่อยู่ในมือ “รับสมัครพนักงานที่สามารถทำงานได้สองกะ กะแรกสิบเอ็มโมงเช้าถึงบ่ายสองโมง กะที่สองห้าโมงเย็นถึงสองทุ่ม” อ่านแล้วก็เงยหน้าขึ้นมาส่ายหัวเบาๆสองสามที “เวลาแบบนี้ใครจะมาทำ”
           “ทำไมไอ้หนูเปี๊ยก” ชายหนุ่มพูดเสียงแข็ง “ทำสามชั่วโมง พักสามชั่วโมง แล้วทำต่ออีกสามชั่วโมง ไม่ดีตรงไหน” พูดจบริมฝีปากบางก็เม้มแน่น ดวงตากลมโตใต้คิ้วดกหนาฉายแววไม่ค่อยพอใจนัก
           “อ้าว ... ก็พักตั้งสามชั่วโมงจะให้เค้าไปทำอะไรล่ะลุง” เด็กหนุ่มก้าวเข้าไปยืนชิดเคาเตอร์มากขึ้น “คนเค้าไปทำงานเป็นกะหกชั่วโมง เหนือยเที่ยวเดียว ดีกว่ามาเหนื่อยสองรอบแบบนี้” เด็กหนุ่มเบ้ปาก ทำให้ใบหน้าค่อนข้างกลมนั้น ดูยียวนกวนอารมณ์มากขึ้น ในความรู้สึกของชายหนุ่ม
           “แล้วน้องชายไปดึงประกาศของร้านพี่ออกมาทำไมล่ะครับ” เสียงนุ่มๆดังขึ้น พร้อมกับชายหนุ่มผิวขาวรูปร่างสันทัด ที่เดินมาจากครัวด้านหลังเคาเตอร์ มายืนอยู่ข้างชายหนุ่มที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ดวงตาเรียวบนใบหน้าค่อนข้างเหลื่ยมของเจ้าของเสียง ประดับด้วยรอยยิ้มที่ส่งให้เด็กหนุ่มอย่างเป็นมิตร
           “พี่ต้องเป็นเชฟของร้านนี้แน่เลย” เด็กหนุ่มยิ้มตอบ ดวงตาแฝงไว้ด้วยความซุกซน
           “ฮ่าๆๆ” ชายหนุ่มผิวขาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “สมพรปากเหอะไอ้น้อง แต่ร้านเล็กๆแค่นี้ มีแค่กุ๊กก็พอแล้ว ว่าแต่น้องรู้ได้ไง”
           “ก็ดูเอ็งแต่งตัวสิวะ” ชายหนุ่มผิวสองสีที่นั่งอยู่ หันมาใชมือข้างหนึ่งตบลงไปบนตะโพกของคนที่คาดผ้ากันเปื้อนไว้ พร้อมกับไล่สายตามองดูชุดเสื้อกางเกงสีขาวสะอาด ที่ทำให้ชายหนุ่มที่สวมชุดนั้นดูขาวสะอาดตามากขึ้นไปอีก
           “พี่เป็นกุ๊กประจำร้าน ชื่อบัว” บุณฑริกแนะนำตัว บนใบหน้ายังประดับด้วยรอยยิ้ม “ส่วนนี่เจ้าป๊อป เป็นผู้จัดการร้าน ควบตำแหน่งแคชเชียร์”
           “งั้นพี่ก็เป็นเจ้าของร้านด้วยดิ ชื่อร้านมาจากชื่อพี่อะสิ” เด็กหนุ่มถาม
           “พี่แค่หุ้นส่วน หุ้นใหญ่เจ้าของร้านน่ะนั่งอยู่นี่” บุณฑริกยกมือขึ้นตอบไหล่ปรมินทร์หรือป๊อปเบาๆ “ถ้าจะสมัครงานล่ะก็ ต้องกับคนนี้”
           “แหะๆ ... เจ้าของเหรอครับ ผมนึกว่าลุงเป็นแค่แคชเชียร์” ถึงน้ำเสียงของเด็กหนุ่มจะดูมีความนอบน้อมขึ้น แต่ดวงตายังฉายแววซุกซนเหมือนเดิม “รับผมทำงานนะลุงนะ ผมทำได้สองกะตามทีลุงต้องการเลย”
           “หึ” ปรมินทร์แค่นเสียง “จะดีเหรอ งานนี้น่ะทำแล้วพักแล้วมาทำอีก เหนื่อยสองรอบเชียวนะ แล้วไอ้เวลาพักน่ะ ตั้งสามชั่วโมง จะไปทำอะไรล่ะ” คำพูดด้วยเสียงที่ไม่เบานักของปรมินทร์ ทำให้หญิงสาวที่เดินเข้ามาใกล้อมยิ้ม
           “โหย ... ได้ทีละย้อนเลยนะ” เด็กหนุ่มเบ้หน้า แล้วก็ต้องรีบพูดต่อเมื่อเห็นว่าปรมินทร์ชักสีหน้าขึ้นมาอีก “ไอ้งานหกชั่วโมงผมไม่มั่นใจอะ กลัวจะเหนือ่ยไป แต่ไอ้สามชั่วโมงเนี่ย ผมทำไหวแน่ๆ ส่วนเวลาพักผมก็อยู่ที่ร้านนี่แหละ มีอะไรทำเยอะไป”
           “แล้วเราจะมาทำได้ไง หนังสือหนังหาไม่เรียนเหรอเรา” ปรมินทร์ซัก
           “โหลุ๊งงงง ...” เด็กหนุ่มลากเสียง “ปิดเทอมอะ รู้จักเปล่า ปิดเทอม รับรองได้เลย ไม่ได้โดดเรียน หนีเรียนมาเด็ดขาด รับรอง”
           “ปิดเทอมได้ไง นี่มันเดือนมิถุนายน เพิ่งเปิดเทอมมาได้เดือนกว่าๆ” ปรมินทร์แย้ง ไม่สนใจการสะกิดของบุณฑริก
           “ลุงนี่น๊า ... ทำไมเข้าใจอะไรยากจริง” เด็กหนุ่มจุ๊ปาก พร้อมกับมีเสียงหัวเราะเบาๆของหญิงสาวที่มายืนอยู่ข้างเคาเตอร์ “โรงเรียนนานาชาติอะลุง โรงเรียนนานาชาติช่วงนี้เค้าปิดเทอมกัน โอเค๊” เด็กหนุ่มยกมือข้างหนึ่งขึ้น ทำมือเป็นสัญลักณ์ประกอบคำพูด
           “แล้วเราชื่ออะไรล่ะ” บุณฑริกเอ่ยปากถามขึ้น พร้อมกับยกมือกดไหล่ปรมินทร์ไว้ เมื่อเห็นท่าทางเหมือนจะอาละวาดของเพื่อน
           “ชนกครับ เรียกผมนกก็ได้พี่” ชนกยิ้มกว้าง
           “พี่ชื่อสาวิตรีนะ เรียกพี่สาก็ได้จ๊ะ” หญิงสาวแนะนำตัว พร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน
           “ครับพี่สา” ชนกหันไปยิ้มตอบอย่างถูกชะตา
           “นี่เดี๋ยว ... จะแนะนำตัวกันไปทำไม ชั้นยังไม่ได้ตกลงรับไอ้เด็กนี่ทำงานเลย” ปรมินทร์ยกมือขึ้นโบกเหมือนจะห้ามเพื่อนและลูกน้อง ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้มือข้างหนึ่งท้าวสะเอวไว้ ส่วนมืออีกข้างชี้หน้าชนก “แล้วชั้นไม่เข้าใจอยู่อีกอย่าง”
          ชนกเบิกตามองปรมินทร์อย่างตั้งใจ ว่าชายหนุ่มกำลังจะพูดอะไร
           “ชั้นไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเรียกสองคนนี้ ...” นิ้วที่ชี้ชนกเลื่อนไปชี้บุณฑริก แล้วเลื่อนไปที่สาวิตรี “ ... ว่าพี่ แต่แกเรียกชั้นว่าลุง”
           “อ้าว ... ตกลงที่แกหน้าบูดเป็นตูดหมาอยู่เนี่ย เพราะคำว่าลุงแค่เนี๊ย” บุณฑริก มองเพื่อนแล้วอมยิ้ม
           “กูเพิ่งยี่สิบแปดนะเว๊ย ... ยี่สิบแปด”ปรมินทร์ส่งเสียงรอดไรฟัน
           “ยี่สิบแปดสำหรับพวกผมก็ลุงน่ะแหละถูกแล้ว” ชนกพูดพลางยักคิ้ว “ว่าแต่ลุงรับผมทำงานนะ”
          พูดแล้วชนกก็โผตัวเข้าไปเกาะเคาเตอร์ เบิ่งตากลมโตมองปรมินทร์พร้อมกับรอยยิ้ม
           “เอ้า ... ว่าไงไอ้ป๊อบ” บุณฑริกเอ่ยปากถาม เมื่อเป็นปรมินทร์มองดูชนกนิ่งไป
           “ให้น้องเค้าลองทำดูก่อนสิคะพี่” สาวิตรีเสนอความเห็น “ถ้าทำได้พอใจแล้วค่อยรับ ดีมั๊ยคะ”
           “เอางั้นก็ได้” ปรมินทร์คิดอยู่ชั่วครู่ก็ตอบเห็นด้วย “สาจัดการหยิบผ้ากันเปื้อนกับหมวกให้ไอ้เด็กนี่ด้วย แล้วให้คอยเก็บล้างจานชามอยู่ในครัวก่อน ยังไม่ต้องให้ออกมารับลูกค้า”
           “ได้ค่ะ น้องนกมาทางนี้” สาวิตรีหันไปยิ้มหวานให้ชนก แล้วชวนเดินไปทางด้านในของร้าน ชนกยักคิ้วพร้อมกับยิ้มกว้างให้ปรมินทร์ ก่อนจะเดินตามสาวิตรีไป
           “กวนจริงไอ้เด็กบ้า ท่าทางคุณหนูซะขนาดนั้น แค่ล้างจานจะรอดรึเปล่าไม่รู้” ปริมนทร์พึมพัม
           “แต่ก็น่ารักดีนะ เดี๋ยวก็ดูไปก่อนแล้วกัน ถ้าได้ก็จ้างไว้ สามันทำคนเดียวทำซะเกือบทุกอย่าง เหนื่อยจะแย่ สงสารมัน” บุณฑริกพูดจบก็เดินกลับเข้าไปด้านหลังที่เป็นส่วนของครัวแบบเปิด
          ปรมินทร์เองก็เห็นด้วยกับคำพูดของบุณฑริก ถึงแม้ชนกจะดูยียวนกวนใจไปบ้าง แต่รอยยิ้มบนใบหน้าใสๆ ตอนที่มาเกาะเคาเตอร์แล้วจ้องมองเขานั้น ดูน่ารักจนเขาพูดไม่ออกไปพักหนึ่งทีเดียว
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2013 10:07:46 โดย บุหรง »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
แนวเรื่องน่าจะไสๆ วัยรุ่น ฉีกแนวป่าวคุณบุหรง ชอบแนวนี้นะ อิอิ รอตอนที่สองจ้า  :impress2:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
+1 รับเรื่องใหม่ค่ะ แอร๊ยยยยยย งานเขีบนคุณบุหรงแนวๆนี้ไม่เคยอ่านเลยค่ะ ปกติจะลึบลับๆเสียส่วนใหญ่ รอๆตอนต่อๆไปนะคะ

kadass

  • บุคคลทั่วไป
ฝันๆดีจังครับ น่ารักดี  o13



+1

ออฟไลน์ ✪PATTY✪

  • เมี๊ยวววว~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
    • http://facebook.com/NKM.SNK

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
มาแนวแปลกๆนะครับพี่  จะแปลกจะเรื่องเก่าๆทั้งหมดมั๊ยนะ ต้องติดตามอีกแล้ว

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :mc4:มาแนวน่ารักบ้างก็ดี


อะไรจะได้ผ่อนคลาย สบายอารมณ์ :กอด1:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
แนวแปลกไป
แต่น่าติดตามเช่นเคย o13
+1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2011 23:39:06 โดย Little Devil »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เข้ามาเพราะชื่อคนแต่ง  แต่กลัวตอนจบจะโศกจริง จริ๊งงง

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
ดูใสกิ๊ง น้องนกน่ารักน่าหยิก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๒

           “ใส่หมวกนี่อะนะ” ชนกทำหน้ายุ่ง มองดูหมวกสีตุ่น ๆ ในมือ
           “ใส่ไปก่อน...” สาวิตรีบอกพลางนึกขำท่าทางของเด็กหนุ่ม “ถ้าไม่ชอบใบนี้ พรุ่งนี้ก็เอาของตัวเองมาใส่ก็ได้”
           “เอามาเอง” ชนกทำตาโต หมุนหมวกในมือ สำรวจหมวกทั่วทั้งใบ ก็มองเห็นรอยดำเป็นปื้นอยู่ด้านใน “นี่ตาลุงไม่คิดจะซื้อใหม่เหรอไง ดูดิ๊ เป็นคราบเชียว”
           “อ๋อ คราบซอสมันหกใส่น่ะจ๊ะ ไม่ใช่คราบสกปรกอะไรหรอก พี่ซักกับมือ ไม่มีใครใช้ต่อเลย หลังจากที่คนเก่าลาออกไป”
           “คนเก่าอยู่ถึงสัปดาห์มะพี่” ชนกสำรวจด้านในของหมวกอีกครั้งพร้อมกบับเบ้หน้า เมื่อเห็นคราบด่างดำเหมือนเชื้อราอยู่ด้านใน
           “แหม ... เรานี่ก็พูดอะไรตลก” พูดแล้วสาวิตรีก็หัวเราะเบาๆ โบกมือไปมก “สองสัปดาห์จ๊ะ”
           “ตั้งนานแล้วยังไม่ใส่หมวกให้เรียบร้อยอีกเหรอเรา” บุณฑริกเดินเข้ามา แล้วคว้าหมวกในมือชนกสวมลงบนศีรษะของชนก ขยับไปมาเล็กน้อยให้เข้าที่ พลางจ้องมองดวงตากลมโตที่เหมือนจะโตยิ่งขึ้น เมื่อผมรองทรงสั้นถูกปิดทับด้วยหมวก
           “ก็ด๊ะ” ชนกยกมือขึ้นขยับหมวกให้ปีกหมวกไปอยู่ข้างหลัง แล้วยิ้มกว้าง “ผมใส่แบบนี้นะ”
           “อื้อ ... ตามใจสิ อย่าถอดแล้วกัน” บุณฑริกพูดยิ้มๆ “สาออกไปเตรียมรับลูกค้าไป เดี๋ยวพี่สอนงานน้องนกเอง”
            “ค่ะ” สาวิตรีรับคำ แล้วหันไปยิ้มให้ชนก ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป พอดีกับเสียงกริ่งที่ดังขึ่นจากหน้าร้าน แสดงว่ามีลูกค้าเข้ามาในร้านแล้ว
           บุณฑริกสอนงานให้ชนกได้ครู่เดียว ก็ต้องไปทำอาหารให้ลูกค้า ชนกจึงเดินดูของภายในครัวไปเรื่อยๆ ว่าอะไรจัดวางอยู่ตรงไหนบ้าง แล้วเมื่อลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น ชนกก็กลายมาเป็นลูกมือของบุณฑริกไป ราวกับรู้งานภายในครับแบบนี้อยู่แล้ว ทั้งการหยิบของส่งให้ หรือการเก็บล้าง ชนกทำได้อย่างถูกต้อง โดยที่บุณฑริกแทบจะไม่ต้องบอกเลย
           ปรมินทร์เองนอกจากจะนั่งประจำอยู่ที่เคาเตอร์แล้ว บางครั้งก็ต้องออกมารับออเดอร์จากลูกค้า หรือเสริฟอาหารด้วย ในช่วงที่มีลูกค้าเข้าร้านเยอะ เช่นในช่วงเที่ยงเหมือนตอนนี้ มันจึงเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างวุ่นวาย แต่วันนี้เมื่อมีชนกมาช่วยงานในร้านเพิ่มขึ้นอีกคน ทำให้สาวิตรีไม่จำเป็นต้องปลีกตัวเข้าไปช่วยงานบุณฑริกในครัว จึงสามารถต้อนรับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ หรือแม้แต่บุณฑริกเองก็ทำอาหารออกมาเสริฟให้ลูกค้าได้เร็วกว่าที่ผ่านมา จนปรมินทร์เองสังเกตได้ ชายหนุ่มมองเข้าไปในครัวอยู่บ่อยครั้ง เพื่อดูการทำงานของชนก ก็มองเห็นความคล่องแคล่วจนรู้สึกแปลกใจ ดูเหมือนชนกจะคุ้นเคยกับงานแบบนี้ เพราะทำแม้กระทั่งรินน้ำจากกระติกใส่แก้วเรียงไว้ พร้อมที่จะให้สาวิตรีนำไปเสริฟลูกค้าได้ทันที รอยยิ้มน้อยๆจึงผุดขึ้นมาบนใบหน้าของชายหนุ่ม เพราะรู้สึกพอใจในการทำงานของเด็กหนุ่ม

            “ไง หมดแรงเลยเหรอคุณหนู” ปรมินทร์ตะโกนถามด้วยน้ำเสียงเหมือนจะเยาะเย้ย เมื่อเห็นชนกนั่งฟุบหน้า แขนทั้งสองวางพาดเหยียดยาวอยู่บนโต๊ะ
            “ง่า ...” ชนกส่งเสียงเบาๆแล้วเงียบไป
            “มานอนฟุบแบบนี้ ทำความสะอาดครัวเรียบร้อยแล้วเหรอไง” ปรมินทร์ถามพร้อมกับเดินออกมาจากหลังเคาเตอร์ มายืนอยู่ข้างๆขนกที่นั่งฟุบโต๊ะอยู่
            “เสร็จแย้ว” เสียงตอบดูอ่อนแรงจนปรมินทร์นึกขำ
            “ทำได้เรียบร้อยดีซะด้วย” เสียงของบุณฑริกดังขึ้น พร้อมกับเจ้าของเสียงที่เดินเข้ามายืนอยู่ข้างชนกอีกด้านหนึ่ง บุณฑริกเอื้อมมือไปขยี้ผมของชนกเบาๆ “ถึงกับสลบเลยเหรอ ฮ่าๆๆ” แล้วชายหนุ่มก็เลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง
            “กาแฟร้อน ๆ ยามบ่ายพร้อมขนมมาแล้วค่ะ” สาวิตรีเดินมาพร้อมกับถาดในมือ พอมาถึงโต๊ะก็ยกแก้วกาแฟวางลงบนโต๊ะพร้อมกับจานคุกกี้ “น้องนกตื่นมาทานกาแฟก่อน จะได้สดชื่น” พูดพลางขยับเก้าอี้ด้านตรงข้ามชนกออกมานั่ง
            “มิ ... อาว ...” ชนกพูดเสียงอู้อี้ ขยับตัวจากการฟุบนอนเป็นนั่งยืดแขนขึ้น บิดขี้เกียจไปมา ท่าทางและใบหน้าของเด็กหนุ่ม ทำให้บุณฑริกหัวเราะเบาๆ พลางมองดูปรมินทร์ที่นั่งลงบนเก้าอี้ด้านตรงข้าม ซึ่งส่ายหัวพร้อมกับทำหน้าเหมือนเอือมระอา
            “ร้องเป็นแมวไปได้ ยังกับเด็ก ๓ ขวบ” ปรมินทร์พูดไม่เบานัก
            “หือ ... แมว?” ชนกหรี่ตามองปรมินทร์ “แก่แล้วก็เงี๊ยะ บอกว่ามิเอา...มิเอา ดันฟังเป็นเสียงแมวร้องไปได้ ลุงนะลุง” แล้วชนกก็ส่ายหัวเบาๆ ทำหน้าเอือมระอาแบบที่ปรมินร์ทำเมื่อสักครู่
            “น้องนกทานกาแฟกับคุกกี้สิ เมื่อกี้เห็นบอกว่าหิว” บุณฑริกรีบพูดขึ้น เมื่อเห็นปรมินทร์ขยับปาก
            “อ๊ะ ... จริงด้วย หิวอะ” ชนกยกมือลูบท้อง “พี่ ๆ ไม่หิวกันเหรอ”
            “พวกพี่ทานข้าวกันไปตอนเกือบสิบเอ็ดโมงน่ะจ๊ะ ก็เลยไม่หิว” สาวิตรีพูดพลางหยิบคุกกี้ในจานขึ้นมาใส่ปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย “แล้วเดี๋ยวมื้อเย็นก็ทานกันตอนสี่โมงครึ่ง จะได้ไม่หิวตอนทำงานอีก”
            “อื้อ ๆ แต่ตอนนี้ผมไปหาอะไรกินก่อนนะ”
           พูดแล้วชนกก็หมุนตัวกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในครัว โดยไม่รอคำตอบจากใคร ไม่นานก็เดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าสะพาย ทำท่าจะเดินออกจากร้านไป
            “แล้วกลับมาก่อนสี่โมงครึ่งล่ะ”
           ปรมินทร์ตะโกนไล่หลังไป ก่อนที่ชนกที่เดินออกจากร้านไป เด็กหนุ่มได้ยินก็หันตัวกลับแล้วตะโกนถาม
            “เวลางานมันห้าโมงไม่ใช่เหรอลุง”
            “ก็เมื่อกี้บอกว่าข้าวเย็นสี่โมงครึ่ง ... หรือจะไม่กิน” ปรมินทร์ตะโกนตอบ
            “ฟรีเหรอ” ชนกถามพร้อมกับเบิกตาโต
            “เออ ... สวัสดิการสำหรับพนักงาน อาหาร๒มื้อ หรือจะไม่เอา”
            “เอาดิ๊ ... งั้นผมจะมาก่อนสี่โมงครึ่ง” ชนกตอบแล้วยิ้มกว้าง ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปจากร้าน
            “ตกลงรับน้องเค้าทำงานเหรอคะพี่” สาวิตรีถามอย่างกระตือรือร้น
            “นายว่าไง” ปรมินทร์ถามบุณฑริก
            “แล้วแต่นาย” บุณฑริกตอบยิ้มๆ
           ปรมินทร์มองรอยยิ้มกวนๆของบุณฑริก ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวังของสาวิตรี แล้วกลับมามองบุณฑริกอีกครั้ง
            “เหมือนพวกนายอยากให้รับไว้ ... งั้นรับก็ได้วะ” พูดแล้วปรมินทร์ก็ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ
            “เฮอะ ... ไม่ต้องโยนเลย ถ้าเอ็งอยากรับก็รับ ไม่อยากรับก็ไม่ว่าอะไร” บุณฑริกยกแก้วกาแฟขึ้นจิบบ้าง
            “แต่ถ้าไม่รับ ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีใครมาสมัครอีก แล้วหนูว่าน้องเค้าทำงานดีนะคะ รู้งานแทบจะไม่ต้องสอนเลย” สาวิตรีออกความเห็น
           ปรมินทร์ไม่พูดอะไร หยิบคุกกี้ขึ้นมากินกับกาแฟไปเงียบๆ ทำให้สาวิตรีกับบุณฑริกหันไปยิ้มให้แก่กัน

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ว้าว น้องนกได้งานแล้ว รอลุ้นต่อไป  :impress2:

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
ท่าทางจะสนุก มาขอตามอ่านด้วยคนค่า ^^

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
ได้งานแล้ว อีกหน่อยก็ได้ สามี เริ่ดๆ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
มีเด็กน่ารักๆ กับรอยยิ้มใสๆ ให้เห็นทุกวัน มันก็สดชื่นดีนะ  :-[

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
ความน่ารักและกวนของน้องนกคงจะทำให้เกิดเรื่องราวดี ๆ
ขึ้นในร้านอาหารของลุงป๊อปนะ +1 เป็นกำลังใจคุณบุหรงค่ะ
 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๓

          ปรมินทร์มาเปิดร้านตั้งแต่ ๙ โมงเช้า เพื่อรอรับของสดและเครื่องปรุงต่างๆ จากร้านเจ้าประจำที่มาส่งตามปรกติ รวมทั้งไอศครีมที่มาส่งในช่วงเช้าอีกด้วย พอเวลา ๙ โมงครึ่ง บุณฑริกก็มาถึงร้านเป็นคนที่สอง เพื่อจัดเตรีมอาหารบางอย่างให้พร้อม บางครั้งก็สลับกับปรมินทร์ทำความสะอาดร้านในช่วงเช้า จากนั้นก็จะเตรียมอาหารเพื่อรับประทานก่อนร้านจะเปิดในเวลา ๑๑ โมง เพื่อท้องจะได้ไม่หิวในเวลาเที่ยง ช่วงเวลาที่มีลูกค้าเข้าร้านมากที่สุดช่วงหนึ่งของวัน
          สาวิตรีเปิดประตูร้านเข้ามา เมื่อนาฬิกาบนข้างฝาบอกเวลา ๑๐ โมง เธอมักจะมาถึงร้านในช่วงเวลานี้เกือบทุกวัน พร้อมกับชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ วันนี้ผมยาวสลวยของเธอถูกมันเป็นเปียใหญ่ ทำให้วงหน้ารูปไข่ดูสดใส สาวิตรีเดินเข้าไปเก็บกระเป๋าไว้ในตู้ลอคเกอร์ หยิบผ้ากันเปื้อนออกมาผูกกับตัว แล้วเดินออกมาหยิบถาดเครื่องปรุงที่วางเรียงรายอยู่บนเคาเตอร์ไปวางไว้ตามโต๊ะ เช็คดูความสะอาดของร้านให้พร้อมที่จะรับลูกค้า ก่อนจะเดินไปรับประทานอาหารร่วมกับปรมินทร์และบุณฑริกเหมือนเช่นทุกวัน
          ๑๐ โมง ๔๕ นาที ... ชนกเปิดประตูร้านเข้ามา ก็พบกับสายตาดุ ๆ ของปรมินทร์ ที่เงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ตรงหน้าขึ้นมามองเขา
          “ผมไม่สายนะลุง” ชนกออกตัว
          “เออ” ปรมินทร์ตอบเสียงห้วน “มาเอาจวนเวลาแบบนี้ กินอะไรมารึยัง เดี๋ยวก็ได้หิวซ่กแบบเมื่อวานหรอก”
          “วันนี้เรียบร้อย ผมกินมาตอนก่อนจากบ้านตอน ๑๐ โมงกว่า ๆ” ชนกตอบก่อนจะเอนตัวไปเกาะเคาเตอร์ แล้วยิ้มกว้าง “ขอบคุณที่เป็นห่วงนะลุง”
          “ใครห่วงแกวะไอ้เด็กบ้า ฉันห่วงว่าจะไม่มีคนทำงานต่างหากเว๊ย” ปรมินทร์ตะโกนไล่หลังชนกที่เดินกึ่งวิ่ง พลางหัวเราะร่วนตรงไปยังประตูเข้าครัวทางด้านในของร้าน ชายหนุ่มฮึดฮัดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะก้มหน้าลงอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ
          ชนกเก็บกระเป๋าสะพายไว้ในลอคเกอร์ หยิบผ้ากันเปื้อนคาดทับชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ แล้วหยิบหมวกของตัวเองออกมาจากกระเป๋า สวมลงบนศีรษะ พอหมุนตัวหันตัวกลับ ก็มองเห็นบุณฑริกยืนเอามือปิดปากไว้ เหมือนจะกลั้นหัวเราะ เด็กหนุ่มยักคิ้วให้ก่อนจะเดินออกจากบริเวณครัว
          “ต๊าย ... น้องนก” สาวิตรีอุทาน เมื่อเห็นหมวกบนศีรษะชนก “นี่นกจะใส่หมวกใบนี้ทำงานเหรอ”
          “อื้อ มันเด่นดีอะพี่ ลูกค้าจะได้มองเห็นเราชัด ๆ ไง” ชนกตอบพลางยกมือขึ้นขยับหมวกให้เข้าที่ “มีอะไรให้ผมทำมั้ยอะพี่”
          “ไม่มีจ๊ะ พวกพี่ทำกันเรียบร้อยหมดแล้ว ตอนนี้ก็เตรียมรับลูกค้า เมื่อกี้พี่ป๊อบเปลี่ยนป้ายเปิดร้านแล้ว” สาวิตรีหมายถึงป้ายที่แขวนไว้ตรงประตูทางเข้าร้าน ที่มีตัวอักษรว่า Close ตอนนี้ถูกพลิกเป็นด้านที่มีอักษร Open แทน เพื่อให้คนที่เดินผ่านไปมารู้ว่า ขณะนี้ร้านพร้อมให้บริการแล้ว
          ติ้ง ... ต่อง
          “แนะ ลูกค้าเข้าร้านแล้ว คนเดียวซะด้วย นกลองไปรับออเดอร์ดูนะ” สาวิตรีพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงจากด้านหน้าของร้าน
          “ได้เลยพี่”
          ชนกตอบแล้วรีบหยิบแก้วน้ำที่มีน้ำรินใส่ไว้เรียบร้อย วางลงบนถาดเล็กๆ พร้อมกับหยิบเมนูอาหารที่เป็นกระดาษแผ่นใหญ่เคลือบพลาสติกอย่างดี เดินตรงไปยังโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งจะนั่งลง
          “สวัสดีครับ” ชนกทักทายเสียงใสพร้อมกับรอยยิ้ม ยื่นเมนูให้ลูกค้า หยิบแก้วน้ำวางลงบนโต๊ะ แล้วหยิบสมุดเล็กๆกับปากกาที่อยู่ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนออกมาเตรียมจดรายการอาหาร
          “เอาข้าวผัดแฮมมาจานนึงนะ แล้วก็กาแฟเย็น” ลูกค้าหนุ่มใหญ่ส่งเมนูอาหารคืนให้เด็กหนุ่ม แล้วต้องอมยิ้มเมื่อมองเห็นหมวกบนศีรษะชนก
          “ทวนรายการอาหารนะครับ มีข้าวผัดแฮมกับกาแฟเย็น รอสักครู่นะครับ”
          ชนกฉีกกระดาษรายการอาหารแปะลงบนที่รับออเดอร์บนเคาเตอร์หน้าครัว แล้วเดินเอาสำเนาอีกแผ่นไปให้ปรมินทร์ที่เคาเตอร์ด้านหน้าของร้าน
          “เฮ้ย ...นี่เอาหมวกอะไรมาใส่” ปรมินทร์อุทานเมื่อมองเห็นหมวกสีเหลืองสด มีลายสีน้ำตาลบนศีรษะของชนก ด้านหน้าของหมวกถูกตกแต่งเป็นใบหน้าของแมวตาโต มีหนังตาปิดอยู่เกือบครึ่ง จนดูเหมือนแมวที่กำลังง่วงนอน ยิ่งกว่านั้น ทางด้านหลังของหมวกยังมี่หางแมวประดับอยู่ด้วย
          “หมวกกาฟิลด์ไง ลุงไม่รู้จักเหรอ ออกจะดัง คนรู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมือง” ชนกเบ้หน้า
          “รู้จักเว๊ย” ปรมินทร์ยื่นหน้าไปพูดเบา ๆ เพราะเห็นว่ามีลูกค้าอยู่ในร้าน “หมวกธรรมดามี ทำไมไม่รู้จักใส่”
          “ใครจะใส่ลงอะ” ชนกยื่นหน้าเข้าหา ส่งเสียงรอดไรฟันล้อเลียนชายหนุ่ม “เก่าก็เก่า แถมมีราขึ้นอีก ใส่มากี่คนแล้วก็ไม่รู้ เป็นเจ้าของร้านก็ห่วงสวัสดิภาพคนในร้านมั่งดิ เปลียบนคนทำงานแล้วก็ควรเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เขาด้วย เอาของคนเก่ามาให้คนใหม่ใส่ แล้วไม่ถูกสุขลักษณะของการแต่งกายพนักงานในร้านอาหาร ระวังเหอะ สาธารณะสุขมาตรวจเจอจะหนาว”  พูดแล้วก็แลบลิ้นใส่ชายหนุ่ม แล้วเดินออกไปจากเคาเตอร์อย่างรวดเร็ว
          “ไอ้ ... ไอ้ ...” ปรมินทร์อ้าปากค้าง
          แล้วชายหนุ่มก็รีบเดินเข้าไปในครัว โดยใช้ทางเข้าออกหลังเคาเตอร์ ตรงไปยังลอคเกอร์ของชนก หยิบหมวกออกมาสำรวจดู แล้วก็ต้องเลิกคิ้ว เมื่อเห็นรอยกระดำกระด่างอยู่ทั่วหมวก บางส่วนยังมีเชื้อราตามที่ชนกบอกอีกด้วย
          “มีอะไรเหรอไง” บุณฑริกตักข้าวผัดใส่จานแล้ววางลงบนเคาเตอร์ รอให้สาวิตรีนำไปเสริฟลูกค้า หันมาถาม
          “เปล่า” ปรมินทร์ตอบเสียงขุ่น เดินเอาหมวกทิ้งลงถังขยะ “เห็นหมวกไอ้เด็กนั่นรึยัง”
          “เห็นแล้ว” บุณฑริกตอบกลั้วหัวเราะ เดินไปตบบ่าเพื่อนเบา ๆ “ก็น่ารักดีนี่นา เหมาะกับนายนกออก ชั้นว่าปล่อยไปเหอะ ไม่ได้เสียหายอะไร เห็นมันคุยว่าลูกค้าจะได้เห็นมันชัดขึ้น  แล้วชั้นว่าพวกลูกค้าวัยรุ่นน่าจะชอบด้วยซ้ำ”
          ปรมินทร์ถอนหายใจไม่ตอบอะไร เดินออกจากครัวไปนั่งที่เคาเตอร์เหมือนเดิม
          มันคงจะจริงอย่างที่เพื่อนเขาพูด เพราะวันนี้ลูกค้าหลายรายเรียกหาแต่การ์ฟิลด์ เจ้าเด็กจอมกวนของปรมินร์ก็ยิ้มรับแขกดีเสียด้วย เขารู้สึกว่าลูกค้าวันนี้มีสีหน้ายิ้มแย้มผิดปรกติ ... เขาคิดไปเองหรือเปล่าหนอ

          “ลุง ผมเอามาฝาก”
          วันรุ่งขึ้นชนกมาถึงร้านเวลาเดิม แล้วก็ส่งเสียงดังพร้อมกับวางถุงใบเล็กลงบนเคาเตอร์ ก่อนจะวิ่งไปทางหลังร้านด้วยความรวดเร็ว ปรมินทร์ค่อยๆเปิดถุงแล้วหยิบสิ่งที่อยู่ข้างในออกมาดู มันเป็นหมวกที่ทำเป็นหน้าเสือทิกเกอร์ ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวมองเข้าไปในครัวผ่านทางเข้าที่อยู่หลังเคาเตอร์ ภาพที่เห็นทำให้อดอมยิ้มไม่ได้
          สาวิตรีใส่หมวกสีชมพูสด เป็นรูปเจ้าเสือพิงค์แพนเตอร์ บุณฑริกกำลังขยับหมวกรูปหมีพูห์ให้เข้าที่ โดยมีชนกส่งเสียงเจื้อยแจ้วชวนคุยไม่หยุดปากด้วยสีหน้าร่าเริง ชายหนุ่มจึงสวมหมวกสีเหลืองสดลงบนศีรษะแล้วกลับไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ตามเดิม

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
Re: [นิยายขนาดสั้น] &#
«ตอบ #21 เมื่อ20-04-2011 19:10:06 »

ชอบค่า สนุกอ่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-04-2011 19:13:02 โดย love2y »

hahn

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
เปิดตัวมาได้น่ารักจังเลยนะครับนายนก  :man1:

ออฟไลน์ Me_kame_nishi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 917
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1
น่ารักจัง น้องนก
เรื่องนี้ดูใสๆนะค่ะ ชอบๆๆ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ร้านอยู่แถวไหนนิจะได้ลองไปนั่งดู ขนมาทั้งดิสนี่ย์หรือป่าวเนี่ย  :laugh: วันนี้เสียดายจิ้มคุณบุหรงไม่ทัน

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
ชนกน่ารักอ่ะ
รออ่านนะคะ



ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
น้องนกใจดีเอาหมวกมาฝาก


แต่ละลายน่ารักทั้งนั้น :กอด1:

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
น้องนกน่ารักมาก......ลุงปากร้ายยังต้องใจอ่อน ^^

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
ตายแล้ว หมวกแบ๊วมากกกกกกกกกกกกกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด