“อ๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ผมแหกปากร้องสุดเสียง สองมือยกขึ้นเหนือหัว ปล่อยให้ตัวเองลอยขึ้นจากที่นั่งนิดๆ
แค่เสี้ยววินาทีก็ได้สัมผัสถึงอิสระจากพื้นโลก ก่อนจะถูกดึงลงมาอย่างแรงจนเสียววาบในท้อง
“กรี๊ดดดดดดด...” สาวๆร้องหวีดว้ายกระตู้ฮู้กันสนุก กว่าเครื่องเล่นจะเบาลงและพาทุกคนลงมาอย่างปลอดภัย
ผมเดินออกมาตัวเบาหวิว มีความสุขที่สุดที่ได้เอาความอัดอั้นข้างในออกมาได้
“เป็นไงล่ะ”
“ค่อยยังชั่วหน่อย แต่ยังไม่ถึง 100 แค่ 40 ”
“เห้อะ” ก้องหัวเราะเยาะ
“งั้นไปนั้นดีกว่า” สิททำมือเหนี่ยวไก ผมพยักหน้าเห็นด้วย
อะไรก็ได้ที่ทำให้ผมไม่ต้องอยู่เฉยๆให้สมองว่างอย่างไร้ประโยชน์
พวกเรา 3 คนไปสนามเล่นบีบีกัน เล่นไล่ยิงถล่มกันสนุกไปเลย
ผมยิงโดนไปหลายคนไม่สนหรอกว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกันหรือเปล่า ผมกระหน่ำไม่ยั้ง
“ตายๆๆๆๆ!!!!”
“พอแล้ว เจ็บนะ” ไอ้เด็กที่ผมยิงซะพรุนร้องเสียงหลง ผมสะใจจริงๆ
ยิงจนหมดแม็คก็รีบเผ่นก่อนพ่อเขาจะมาเอาคืน เฮ่อ......สะใจชะมัด
ผมเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างตั้งแต่เช้าจนเกือบทุ่ม สวนสนุกก็ประกาศเปิด ทุกคนทยอยกลับอย่างไม่รีบเร่ง
ท้องฟ้าค่อยๆมืดลงพร้อมๆกับอากาศที่เย็นขึ้น ผมมองฝูงนกส่งเสียงให้กลับรัง ทำให้นึกถึงบ้านของตัวเอง
กลับไปแล้วยังไงล่ะ....ผมก็ต้องฝันร้ายอีกไม่จบไม่สิ้น หันมาข้างหลังก้องกับสิทตามข้างหลัง
ระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งคู่ลดลงแล้ว บรรยากาศโดยรวมก็ดีขึ้น เข้าใกล้แล้วไม่อึดอัด ผมรู้สึกค่อยยังชั่วหน่อย
“หิวไหม”
ผมส่ายหน้า “ไม่หิว....แต่อยากดื่มมากกว่า”
สองหนุ่มมองหน้ากันเหมือนไม่เชื่อที่ผมพูดเท่าไร แต่ก็ยอมตามใจอยู่ดี
ขณะนี้ผมรู้สึกตัวเองเป็นเด็กที่ต้องการการตามใจทั้งที่อายุมากกว่า
แต่ช่วยไม่ได้นี่....เวลานี้ผมต้องการการเอาใจเหลือเกิน
และผลของเรื่องนี้ทำให้ผมวิตกเล็กๆขึ้นมาเมื่อที่ๆพวกเรามาคือโรงแรมของสิท
มันหรูหราไฮโซเกินไปหน่อยผมนึกว่าพวกเขาจะไปร้านอาหารกัน
เหมือนก้องจะรู้สึกถึงความตื่นเต้นของผม เขาโอบไหล่พาไปที่ลิฟต์ทำให้รู้สึกผ่อนคลายลง
ส่วนสิทไปคุยกับพนักงานที่ฟร้อนอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ได้คีย์การ์ดมาใบ
“ถึงขนาดเปิดห้องเลยเหรอ ไม่ไปที่ร้านอาหารเอา”
“เป็นส่วนตัวดีกว่า” น้ำเสียงก้องห้วนเหมือนมีบางอย่างในใจ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเขาสงสัยอะไรในตัวผมหรือเปล่า
ส่วนสิทนั้นก็เงียบขรึม แลตามองผมอยู่มีคำถามปรากฏกอยู่ ผมชักเครียดแล้วสิ ในกล่องเหล็กเล็กๆนี้ชักอึดอัดไปแล้ว
ติ๊งงงงงง!!!
จู่ๆประตูลิฟต์เปิดออกหนุ่มสาวคู่หนึ่งจูงมือพรวดพราดเข้ามาหัวเราะร่าชื่นมื่นเบียดผม
ทำให้ต้องเขยิบใกล้ก้องอีกนิด สิทดึงแขนให้มายืนระหว่างพวกเขาสอง
“โทษคะ” สาวเจ้ายังรุ่นๆน่าจะยี่สิบต้นๆท่าทางจะมึนอยู่หัวเราะร่วนกับทุกอย่างที่อยู่รอบตัว
เธอโผเข้ากอดแขนผู้ชายพามา“ยืนดีๆสิ คุณก้อ”
“ดีแล้ว ดีจ้า ฮะฮะฮะ” สองคนกอดกันกลมซุกอยู่อีกด้านของลิฟต์
พวกผม 3 คนต่างไม่พูดมองไปคนล่ะทิศล่ะทางไปเรื่อยเปื่อย ทว่าสองคนหนุ่มสาวกับจ้องพวกเราเขม็งเลย
หล่อนซุกหน้ากับซอกคอแฟนกระซิบซะเสียงดังฟังชัดได้ยินกันหมดเลย
“....เขามาด้วยกันล่ะ”
“จ้า...จ้า” แฟนหล่อนก็แค่หัวเราะ ไม่รู้สึกเลยว่าพวกเราได้ยินหมด
“คู่ขากันแน่ๆ”
“จ้า...จ้า”
ยัยนี้.... ผมแลตามองให้รู้สึกตัวบ้าง สาวสวยหันมาแอบๆเหล่มองพวกเราอีก จู่ๆก้องกระชากแขนผมเข้าหาตัว
เฮ่ยยย... ผมแหกปากร้องในใจ ก้องรวบผมมากอดทั้งตัว ริมฝีปากประกบปากผมกลืนเสียงประท้วงลงคอเสีย
เขาดูดริมฝีปากล่างเปิดปากผมเพื่อจะสอดลิ้นร้อนผ่าวเข้ามาอย่างดุดันเหมือนนิสัยเอาแต่ใจของเขา
มันไล่ต้อนลิ้นผมแล้วเกี่ยวพันให้มารับรู้ถึงรสหวานซ่าน
เพียงแค่นี้ก็ทำให้ผมดื่มด่ำในเพศรสจนเผลอหลงเพลิดไปกับจูบที่เร่าร้อน
พอถูกปล่อยเป็นอิสระผมก็ถึงกับหอบ แฮ่ก
.....................................
...................
สติสตังค์ยังไม่ครบถ้วน ผมมึนงงและใบหน้าชาด้วยความอายสายตาคนทั้งคู่ ไม่เท่านั้นผมถูกกระชากมาอีกด้าน
สิทรัดตัวผมแน่น ริมฝีปากฉกเร็วปากงูเห่า บดเคล้าริมฝีปากรุนแรงทำให้ปากผมบวมเจ่อความรู้สึกไวไปหมด
ยิ่งรุนแรงก็ยิ่งวาบหวามรัญจวน ผมไม่รู้ว่ากอดรอบคอสิทตั้งแต่เมื่อไร ก้องเข้ามากอดอีกคน เขาจรดจูบนุ่มที่ซอกคอ
โอ้.....ผมชอบจัง
ขณะที่อารมณ์รักกำลังลุกไหม้เป็นไฟพลาญอยู่นั้น
ลิฟต์ส่งเสียงดังติ๊งงง...เป็นระฆังช่วยไม่ให้พวกเราเผาไหม้เป็นผงกันไปหมด
วงแขนโอบรัดรอบตัวผมคลายออก อาย...ขายหน้าขนาดไหนก็ไม่ทำให้ความร้อนลดลงเลย
ผมมองคนคู่นั้นทางหางตา พวกเขาอ้าปากหวอทั้งคู่เลย
อาย.....อายที่สุด
สิทดึงผมออกจากลิฟต์ เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงห้อง
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็เห็นหน้าต่างบานใหญ่มองเห็นเมืองกว้างแสงไฟส่องประกายระยิบระยับ
ผมก้าวเข้ามาไม่มีแก่ใจชื่นชมความโอ่อ่าของห้องหรือภาพวิวทิวทัศน์ภายนอกเลย
เพราะรู้สึกได้ว่าเบื้องหลังผมมีไอร้อนยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ส่งเปลวไอรินรดต้นคออยู่
ผมจะทำยังไงดี.....
ติดตามตอนต่อไป