สวัสดีค่า...
แหะๆ ก็นะ ตามสไตล์ ไม่มีอะไรแก้ตัวจริงๆ หายไปสองเดือนได้มั้งคะคราวนี้ 
ยังดีใจและขอบคุณที่ยังคงมีคนเข้าไปทวง หรือมาติดตามนะคะ 
คนแต่งยังอยู่ค่ะ ยังไม่ตายยังไม่หายไปไหน แต่ว่ามันอัพไม่ได้จริงๆ งานงอกตลอดต่อเนื่อง
ขอโทษอีกครั้งนะคะทุกคน
ปล. คำผิดเดี๋ยวกลับมาแก้นะคะ:pig4:+++++++++++++++++++++
ตอนที่ 19 ไม่เกินสองชั่วโมงจากกรุงเทพมหานคร เราก็มาถึงโรงแรมของไอ้รินที่ภูเก็ต พวกทีมงานและทีมของนายแบบ นางแบบ ถูกจัดให้พักในโซนของตัวโรงแรม ซึ่งตึกของโซนโรงแรมนี้จะถูกแยกออกไปทางด้านชายหาด โดยมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่กั้นกลางระหว่างตึกกับทะเล ส่วนผมและบรรดาเมียๆ ก็มาพักกันในส่วนของตัวรีสอร์ท ห้องพักสร้างเป็นวิลล่าทรงไทย ซุกซ่อนตัวท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ไทยๆ ใหญ่โต แผ่กิ่งก้านสาขาหนาแน่นให้ความร่มรื่น บ้านพักแต่ละหลังมีสระว่ายน้ำเป็นส่วนตัว และค่อนข้างใหญ่ ไม่ใช่แค่หย่อนตัวลงไปแช่ก็เต็ม และที่สำคัญทุกๆ หลังแม้จะโอเพนท์แอร์ ห้องนอนล้อมรอบด้วยประตูกระจก แต่ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ภายใต้รั้วรอบขอบชิด ไม่มีทางที่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาด้านนอกจะมองเห็น หึหึ… ผมชอบอะไรที่เปิดเผยภายใต้การปิดบังแบบนี้เสมอ
ไอ้รินเปิดห้องพักสองหลังติดกันโดยที่กระเป๋าผมจะอยู่กับห้องไอ้ริน และอีกห้องเป็นห้องของน้องรัน แบบนี้ก็ป้องกันข้อครหาใดๆ เอาไว้ดึกๆ ค่อยย่องไปนอนกอดเมียที่ห้องนู้น ไม่มีใครสงสัย
“จริงๆ ให้รันไปนอนกับพวกพี่ๆ ทีมงานก็ได้นะ” น้องรันที่เก็บของเสร็จก่อน เดินมาสมทบผมกับไอ้รินที่ห้อง
“ไม่ได้!!!!” ผมรีบตะโกนห้ามอย่างลืมตัว… แหม ถ้าน้องไปนอนกับทีมงาน มันเสี่ยงที่จะโดนไอ้ห่าเบนมาแทะโลมน่ะสิ ผมหวังดีนะ!
“แกนอนนี่แหละ เดี๋ยวคุณสามีของพี่เขาจะโดดน้ำตายซะก่อน… ไม่ต้องห่วงว่าเป็นเด็กฝึกงานแล้วได้นอนห้องหรูกว่าหรอกน่า แกเป็นเจ้าของโรงแรมนะโว้ย จะนอนที่ไหนใครจะมาว่า” นั่นสิ… มึงมีเหตุผลที่ดีมากริน กูนับถือ
“งั้น เป็นสามีใครก็นอนกับคนนั้นนะครับ” คล้อยหลังไอ้รินที่เดินเข้าไปเก็บของในห้องน้ำ น้องชายเจ้าของโรงแรมเขาก็เลยลุกขึ้นมากระซิบบอกผมเบาๆ ด้วยประโยคล้อเลียน พร้อมจุ๊บแก้มแถมท้าย… เก่งจริงจริ๊ง เรื่องยั่วให้คน ‘ขึ้น’ เนี่ย!
“งั้น รันเป็นเมียใครก็ต้องนอนกับคนนั้นนะครับ” สรุปว่าเข้าตัวนะจ๊ะเด็กน้อย…
“งั้นคืนนี้จะรอที่สระนะ” กะว่าจะเอาคืนให้ได้เขินอาย… แต่กลายเป็นผมจะตายกับน้ำเสียง และสายตาวาวๆ ของคนที่จงใจยั่วผมซะก่อน
........................
........................
“เซ็ทนี้เป็นชุดว่ายน้ำนะคะคุณพิงค์ ตามที่ได้บรีฟไป คือจะไม่โป๊ เน้นความสปอร์ต และเซ็กซี่เล็กๆ จะได้โชว์ผิวแทนๆ โกลว์ๆ ของคุณพิงค์แทนค่ะ” หลังจากให้เวลาไปเก็บของเข้าที่พักกัน 1 ชั่วโมง ทีมงานก็เริ่มต้นลุยถ่ายแฟชั่นเซ็ทกันทันที โดยที่วันนี้เราจะถ่ายเซ็ทเดี่ยวของน้องพิงค์กันก่อน และด้วยฟ้าฝนเป็นใจ แดดวันนี้กำลังดีเหมาะให้ถ่ายริมสระว่ายน้ำกลางแจ้งมาก น้องแป้งสไตลิสต์ก็กำลังทำหน้าที่อธิบายคอนเซ็ปต์เซ็ทนี้ให้นางแบบของเราฟัง
“เดี๋ยวเซ็ทนี้เป็นชุดว่ายน้ำของอีกแบรนด์ตามที่ได้คุยกับผู้จัดการน้องพิงค์ไปแล้วนะครับ ส่วนเซ็ทคู่จะเป็นเสื้อผ้าของแบรนด์น้องพิงค์ทั้งหมด” ผมชี้แจงย้ำอีกที เพราะบ่อยครับที่กรณีแบบว่า อ้าวไหนตกลงจะใส่ชุดของแบรนด์นี้ทั้งหมด ทำไมมีอีกแบรนด์โผล่มาด้วย ทั้งๆ ที่เราได้แจ้งไปแล้วตอนติดต่อ แต่พอหน้างานตัวนางแบบหรือผู้จัดการเองที่จะมีปัญหา
“ไม่มีปัญหาค่ะ ชุดว่ายน้ำของแบรนด์นี้พิงค์ก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ค่ะ มีเกือบทุกคอลเลคชั่นเลย ได้แอบเห็นที่ราวแขวนเมื่อกี้ คอลเลคชั่นใหม่นี้สวยทุกตัว สงสัยพิงค์จะได้เสียเงินอีกแล้ว”
“บอส เดี๋ยวผมถ่ายตรงริมด้านนี้นะ เราจะได้เห็นแลนด์สเคปส่วนนี้ด้วย แล้วเดี๋ยวช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก เราไปพานอราม่ากันริมหาด ตามที่เราคุยคอนเซ็ปต์กัน ตรงริมสระผมอยากได้อะไรที่สดใสๆ แต่ว่าริมหาดอยากจะคอนทราซกันไปเลย เป็นอารมณ์เศร้า หม่น เหงา” ไอ้ช่างภาพเดินเข้ามาแจมร่วมวงบรีฟงาน หลังจากที่หายไปหาโลเคชั่น และไปคุมผู้ช่วยช่างภาพในการจัดแสงให้ตรงตามที่ต้องการ
“อืม ตามนั้นแหละ เอาล่ะทุกคนเต็มที่นะครับผมเชื่อมือพวกคุณ” ผมพูดขึ้นเสียงดังท่ามกลางทีมงาน ผมมักจะพูดประโยคแบบนี้เป็นประจำก่อนเริ่มถ่าย ผมอยากให้พวกเขาเชื่อมั่นในตัวเอง และเชื่อว่าผมเชื่อใจพวกเขาเต็มที่
น้องพิงค์ในชุดว่ายน้ำสวยเซ็กส์ซี่จริงๆ ด้วย หุ่นที่เหมือนนาฬิกาทรายมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ถูกจังหวะ ทำให้น้องดูน่ามองและน่าหลงใหล อันนี้ผมพูดในสายตาคนทำงานในวงการนี้นะครับ ไม่ใช่ว่าชื่นชอบแบบผู้ชายชอบผู้หญิง… ถึงผมจะเป็นเกย์ แต่ไม่ใช่ว่าจะยี้! ใส่ชะนีตลอดเวลา ผมยังคงทราบดีว่าแบบไหนเรียกว่าสวย แบบไหนเรียกเซ็กส์ซี่
แม้ผิวน้องพิงค์จะบ่มแดดมาแล้วอย่างพอเหมาะ แต่ไม่แทนสะใจน้องแป้งและไอ้เบน เลยต้องลงครีมซันแทนแบบเปลี่ยนสีผิวให้แทนชั่วคราวเพิ่ม เห็นผิวแทนๆ แล้วก็พาลให้นึกถึงเด็กฝึกงานของผม รายนี้ผิวน้ำผึ้งนวลเนียนจริงๆ ไม่ต้องอิงตัวช่วย กิจวัตรประจำวันหยุดของรันที่ผมเคยสัมภาษณ์ก็คือ น้องชอบไปนอนอาบแดด ไม่ว่าจะเป็นริมหาด หรือในสวนสาธารณะ เลยทำให้ผิวเนียนละเอียดกลายเป็นสีแทนสม่ำเสมอ ยิ่งเวลาร่างน้ำผึ้งอยู่ในชุดว่ายน้ำสีขาว โอโห! อย่าให้พูดว่าผมรวดร้าวขนาดไหน เซ็กส์ซี่เป็นบ้า!
“น้องจ๊ะเดี๋ยวพี่ขอไดเอ็ทโค้กใส่น้ำแข็งเย็นเจี๊ยบเลยนะจ๊ะ” เสร็จจากเซ็ทริมสระว่ายน้ำ คุณน้องพิงค์เธอก็เดินเข้ามานั่งบนเก้าอี้ริมสระข้างๆ ที่ผมนั่ง โดยที่ยังคงสวมชุดว่ายน้ำทูพีชสีเขียวมิ้นท์ ที่ถึงแม้จะไม่ได้โป๊มาก แต่ก็เปิดเผยกว่าปกติ แล้วเธอก็หันไปกวักมือเรียกน้องรันที่กำลังช่วยพวกทีมผู้ช่วยช่างภาพเก็บอุปกรณ์เซ็ทไฟ เพื่อจะย้ายไปถ่ายตรงริมหาด มาสั่งให้เดินไปหาน้ำอัดลมมาให้เธอดื่ม
“เออ… เดี๋ยวผมไปหยิบให้ก็ได้ครับน้องพิงค์” ผมรีบอาสา เพราะเห็นว่าเด็กฝึกงานดีกรีลูกเจ้าของโรงแรมกำลังมือไม่ว่าง
“อุ๊ย พี่ภพอย่าลำบากเลยค่ะ ให้น้องทีมงานไปหยิบให้ก็ได้” ผมไม่รู้ว่าเธอรู้รึเปล่าว่าน้องรันเป็นใคร แต่ถึงรู้ผมคิดว่าเธอก็คงจะเรียกใช้เหมือนเดิม จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรเพราะยังไงซะน้องรันก็เป็นเด็กฝึกงาน ต้องทำทุกหน้าที่อยู่แล้ว แม้ว่าหน้าที่นี้ปกติน้องเลขากองก็มักจะเป็นคนจัดการเรื่องเสบียงของกอง กองถ่ายผมแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนก็จริง แต่อะไรที่เกื้อหนุนช่วยกันได้ก็ช่วยๆ กันไป แม้แต่ผมเองยังเคยต้องยกโต๊ะ ยกเก้าอี้ที่จะนำมาเข้าฉากเลยด้วยซ้ำ
“รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมไปยกมาให้… พี่ภพจะรับน้ำอะไรด้วยไหมครับ” ผมส่งยิ้มให้คนที่มีน้ำใจเผื่อแผ่มาถึงผม ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ แล้วบอกว่าไม่เอาอะไร น้องก็ยิ้มรับก่อนจะหายไปจัดหาน้ำอัดลมให้คุณน้องพิงค์เธอ
“เด็กฝึกงานเหรอคะ หน้าคุ้นๆ นะ” ไม่คุ้นสิแปลก หน้าแกะออกมาจากพิมพ์ไอ้รินซะขนาดนี้
“ครับ… น้องชายของรินเขาน่ะ เรียนศิลปะที่อิตาลี ตอนนี้ปิดเทอมเลยมาขอฝึกงาน”
“อ๋อ… ถึงได้ว่า หน้าตาคุ้นๆ คุณหนูของโรงแรมนี่เอง ไม่น่าเชื่อว่าจะอดทนทำงานหนักๆ ได้ด้วย หรือว่าเพราะเป็นโรงแรมของพี่สาว เลยมาช่วยเป็นพิเศษคะ”
“ไม่หรอกครับ รันเป็นเด็กเก่ง และขยัน เขาอยากจะเป็นช่างภาพแฟชั่น เลยมาขอฝึกงานในกอง แต่ขอเน้นไปที่ถ่ายภาพเป็นพิเศษ เห็นเบนมันบอกว่าภาพในคอลัมน์สัมภาษณ์จะให้น้องรันได้ลองแสดงฝีมือดู” ผมจัดแจงอวดสรรพคุณน้องเมียที่รักเสร็จสรรพ ก็รันของผมเก่งจริงๆ นี่ครับ ของดีก็ต้องอวดกันหน่อย
“จะดีเหรอคะ ให้เด็กฝึกงานถ่ายงานใหญ่แบบนี้ ถ้ารูปออกมาไม่ดีจะแย่เอานะคะ”
“น้องรันฝีมือดีจริงๆ ครับ ผมการันตีได้ น้องพิงค์ไม่ต้องห่วง” ผมอยากจะหันไปแยกเขี้ยวใส่ โทษฐานบังอาจมาดูถูกฝีมือสุดที่รักผม แต่ก็กลัวน้องพิงค์เธอจะฟ้อนเล็บใส่หน้าซะก่อน
“ถ้าพี่ภพยืนยัน พิงค์ก็มั่นใจค่ะ” อะไรมันจะเชื่อใจผมขนาดน้าน!
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มตอบ ขอขอบคุณแทนที่รักแล้วกัน
“คืนนี้หลังจากดินเนอร์แล้วพี่ภพจะทำอะไรต่อคะ พิงค์เห็นที่นี่มีผับด้วย มาดื่มกันสักหน่อยไหมคะ จะได้เต้นรำด้วย คืนนี้อยากขยับแข่งขยับขาจังเลย” ไปซิทอัพ หรือวิ่งเอาก็ได้ครับถ้าอยากขยับแข่งขยับขาเนี่ย…
“พี่ว่าจะรีบกลับไปนอนพักน่ะครับ ช่วงนี้อดนอนปิดเล่มมาหลายคืนแล้ว พักเอาแรงสักหน่อย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องตื่นมาลุยงานกันแต่เช้า” ประโยคผมแฝงความนัยในการเตือนสติเธอเล็กๆ ว่าพรุ่งนี้เรายังมีงานเช้ารออยู่ จะมามัวโอ้เอ้กินดื่มดึกดื่นจะเสียงานเอา
“ว่ายน้ำเย็นๆ ก่อนนอนดีไหมคะพี่ภพ พิงค์ว่ายเป็นเพื่อนเองค่ะ จะได้สดชื่นหลับสบาย”
“เอ่อ…”
“คืนนี้พี่มีนัดทำ ‘กิจกรรม’ ทางน้ำกับภพแล้วล่ะค่ะ เผอิญในห้องพักโซนพี่เป็นแบบมีสระว่ายน้ำส่วนตัว จะได้ทำอะไรแบบสามีภรรยาได้อย่างส่วนตั๊วส่วนตัว น้องพิงค์ไม่ต้องเป็นห่วงว่าพี่ภพจะไม่มีคนว่ายด้วยนะคะ ขอบคุณความหวังดีที่มีให้สามีของคุณพี่เสมอมา แต่ไม่เป็นไรค่ะ หน้าที่ภรรยาพี่ทำเองได้” ลุกขึ้นยืนปรบมือให้ภรรยาดีเด่นแห่งปีเลยดีไหม… เข้ามาถูกที่ถูกจังหวะถูกเวลามากๆ แถมยังเชือดเฉือนได้เจ็บแสบเลือดซิบดีจริงๆ
“น้ำครับคุณพิงค์” สงสัยสองคนพี่น้องเค้าคงนัดกันมา พี่มาเปิดน้องมาปิด
“อ๋อ… ขอบใจนะจ๊ะ… คุณพี่รินคงไม่ว่าอะไรนะคะที่พิงค์ดันใช้น้องชายเจ้าของโรงแรมมาเสิร์ฟน้ำให้” หลังจากที่นั่งอ้าปากหวอกับคุณภรรยาคนโตของผมไปแล้ว ก็ได้เรียกสติกลับคืนมาตอนภรรยาคนเล็กนำน้ำอัดลมมาให้นี่แหละ แต่แหม น้องพิงค์เธอคงซาดิส เลยไม่หุบปากไปสักที คงกะจะประดาบกับไอ้รินอีกรอบ… แต่งานนี้ผมไม่เก็บศพนางแบบนะครับ
“จะว่าอะไรได้คะ ทุกคนต่างก็มีหน้าที่ และก็รู้หน้าที่ของตัวเอง ถ้าคนที่เล่นตามบทที่ตัวเองได้รับ ไม่ล้ำเส้นไม่นอกบท พี่จะไปว่าอะไรได้…”
“แหม ใจกว้างจริงนะคะ”
“ก็ไม่ทุกเรื่องหรอกค่ะน้องพิงค์ บางเรื่องใจพี่ก็แคบซะจนไม่แคร์หน้าไหนเหมือนกัน” ท่ายืนกอดอกแบบสบายๆ กับการลอยหน้าลอยตาพูดแบบชิลล์ๆ แต่จริงจังของไอ้ริน ผมว่ามันดูคุกคามไม่น้อยอยู่นะ ณ จุดนี้ลี้ภัยก่อนดีกว่ากู
“เดี๋ยวผมขอตัวไปดูที่กองก่อนแล้วกันนะครับ ว่าจะคุยเซ็ทใหม่กับเบนมันสักหน่อย… เจอกันตอนดินเนอร์นะจ๊ะดาร์ลิงค์” ผมลุกขึ้นยืนพร้อมกับหันไปจุ๊บแก้มภรรยา (ตามกฏหมาย) หนึ่งที ก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ โชว์ความหวานให้น้องพิงค์เห็นซะหน่อย ผมทำแบบนี้บ่อยครับ ไอ้รินมันรู้ ไม่ตกอกตกใจอะไรหรอก จูบกันต่อหน้าชาวบ้านก็ทำมาแล้ว พวกผมน่ะแนบเนียนขั้นเทพ
“งั้นรันไปช่วยพวกพี่เค้าต่อนะครับ ถ้าเซ็ทไฟเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่ผู้ช่วยสไตลิสต์เขาจะมาตามนะครับคุณพิงค์” ผมได้ยินเสียงเด็กฝึกงานรีบขอตัวออกมาติดๆ กัน สงสัยจะกลัวสงครามกลางเมือง
“แอบเดินไปขอทัพเสริมจากพี่รินมาหรือไง” ผมพูดขึ้นลอยๆ ระหว่างที่เดินลงไปชายหาด และเห็นว่ามีอีกคนที่เดินตามออกมาพร้อมๆ กันเดินอยู่ข้างๆ
“ก็แค่ไปตามพี่รินมาทำหน้าที่ภรรยาที่ดีเท่านั้นแหละ” อีกคนก็ตอบอย่างลอยหน้าลอยตาไม่แพ้กัน
“ตามพี่รินมาทำหน้าที่ภรรยา หรือตัวเองทำหน้าที่ภรรยาที่ดีเลยไปตามคนมาช่วยกันแน่ หึงล่ะสิ หึหึ”
“หลงตัวเอง!” คนที่ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีหันมาเบะปากใส่ผมก่อนจะวิ่งนำลงไปที่โลเคชั่นที่เขากำลังจัดไฟกันอยู่ ผมก็ได้แต่แหยนหน้าขึ้นขำเบาๆ ให้กับความหล่อ เอ๊ย ความโชคดีของตัวเองที่มีคนน่ารักๆ แบบนี้มาตามหึง มีเมียเด็กมันกระชุ่มกระชวยแบบนี้นี่เองสินะ
............................
............................
กว่าเซ็ทแรกนี้จะจบก็พลบค่ำพอดี เมียผมใจดีจัดอาหารเป็นไลน์บุฟเฟต์ทั้งคาวหวาน เอาไว้ให้ทีมงานทุกคนได้อิ่มหนำ จบมื้อค่ำผมกำชับให้ทุกคนรีบนอนเอาแรง เพราะพรุ่งนี้เราจะตื่นกันตั้งแต่ตี 4 เพื่อรอถ่ายแสงแรกอรุณยามเช้า ให้อดใจไว้รอไปเที่ยวกันตอนคืนสุดท้ายดีกว่า
“บอส บอสจะไปดูรูปที่ถ่ายไปวันนี้ไหม” ไอ้เบนเดินเข้ามาหาผมที่โต๊ะอาหาร หลังจากที่ผมประกาศให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้ว
“อืม… ก็ดีเหมือนกันนะ จะได้คัดๆ ไปด้วยเลย… รินเดี๋ยวเราไปดูรูปที่ห้องเบนก่อนนะ รินนอนไปก่อนได้เลย” ผมหันไปบอกศรีภรรยาที่มานั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน ในฐานะผู้บริหารของโรงแรม
“ภพพกกุญแจห้องมาด้วยใช่ไหม” ผมพยักหน้าตอบ
“ให้น้องพิงค์ไปด้วยนะคะ น้องพิงค์ก็อยากดูรูปที่ถ่ายไปวันนี้ เผื่อทั้งบก. และช่างภาพจะมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมพิงค์” น้องสีชมพูยังคงเกาะติดสถานการณ์เสมอ อยู่ตรงไหน เธอต้องหาทางมาอยู่ใกล้ๆ ตลอด
“รันไปกับพี่ภพสิ เผื่อจะได้เรียนรู้เรื่องงานเพิ่มเติม” ขณะที่ยังไม่มีใครเอ่ยปากให้อนุญาตน้องพิงค์ ไอ้รินก็เอ่ยตัดเสนอให้น้องชายตามผมไปด้วยซะงั้น แต่ถือเป็นการเสนอแนะที่เข้าท่ามากๆ
“ส่งน้องชายไปเฝ้าสามีแทนเหรอคะคุณพี่” น้องพิงค์หันไปยิ้มหวานให้ไอ้รินพร้อมส่งน้ำเสียงเชิงหยอกเย้า แต่ผมเข้าใจว่าเป็นการกระแนะกระแหนซะมากกว่า แต่ใช่ว่าแค่นี้จะทำอะไรไอ้รินมันได้!
“สามีไม่ใช่นักโทษ ไม่ต้องตามเฝ้าหรอกค่ะ… แต่ถึงพี่จะตามเฝ้าก็ไม่ผิดนี่คะ ของๆ พี่ คนของพี่ พี่จะหวง จะห่วง จะดูแล มันก็เป็นสิทธิ์ ถ้าไปตามเฝ้าคนที่ไม่ใช่ของตัวเอง หรือของที่มีเจ้าของแล้วนี่สิคะ ถึงจะเรียกว่าผิด…” ถ้าคำพูดคนเราเป็นมีด ผมว่าตอนนี้น้องพิงค์คงเลือดซิบเต็มตัวไปแล้วแน่ๆ
“ผมว่าคุณน้องพิงค์ค่อยรอดูทีเดียววันสุดท้ายเลยก็ได้ครับ คืนนี้น่าจะแยกย้ายไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ผมว่าวันนี้ตาคุณพิงค์ดูล้าๆ เหนื่อยๆ นะครับ มีหลายรูปที่เห็นได้ชัดทีเดียว… พักผ่อนเถอะฮะ จะได้ไม่ต้องโปะคอนซีลเลอร์หนาๆ” นี่ไอ้เบนมันไปประจำหน่วยรบสังกัดไอ้รินตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย เล่นรัว M16 ใส่น้องพิงค์ซะขนาดนี้ ถ้ารอดไปได้คงพิการ
“อุ๊ย… จริงเหรอคะ… งั้นพิงค์ไปนอนดีกว่าค่ะ คือช่วงนี้งานเยอะมากจนพิงค์พักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอด้วย งั้นขอตัวเลยแล้วกันนะคะ… ไปก่อนนะคะพี่ภพ พี่ภพก็รีบทำงานแล้วก็รีบเข้านอนนะคะเดี๋ยวจะไม่สบาย ราตรีสวัสดิ์นะคะ” ผมก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ กลับไปตามมารยาท เมื่อไหร่ผู้หญิงจะเลิกชอบกูสักทีวะเนี่ย ไอ้ภพเป็นเกย์เว้ยเฮ้ย!
“เราก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะดึกดื่น” ผมหันไปหาผู้ร่วมทีมทั้งสอง ก่อนทั้งหมดจะพากันเดินไปที่ห้องไอ้เบน
ในห้องที่ไอ้เบนพักเป็นเตียงคู่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ข้าวของสำหรับการถ่ายภาพ ไอ้เบนนอนคนเดียว เพราะผู้ช่วยช่างภาพสองคนนอนด้วยกันอีกหนึ่งห้อง ห้องมันก็เลยกลายเป็นห้องเก็บของไปโดยปริยาย
“สักกรึ๊บไหมบอส” ไอ้เบนเดินไปหยิบขวดเหล้าแบนเล็กที่อยู่ในชั้นสแน็กของห้อง บิดเปิดฝาแล้วรินใส่แก้วเกือบครึ่ง ก่อนจะยกขึ้นจิบเพียวๆ และหันมาชูแก้วชักชวนผม
“สแน็กบาร์ไม่รวมค่าห้องที่ฟรีนะเว้ย เปิดกินแล้วจ่ายเองนะครับคุณช่างภาพ” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมเดินไปนั่งข้างๆ มันหน้าโต๊ะที่วางแลปท็อปอยู่ น้องรันเลยเดินไปลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งอีกข้างนึง
“กลัวอะไร น้องชายเจ้าของโรงแรมอยู่นี่ ถ้าไม่มีจ่ายก็จับเป็นตัวประกันเลย ฮ่าๆ” ไอ้เบนหันไปโยกหัวน้องรันเบาๆ แล้วทั้งคู่ก็พากันหัวเราะ… แหม สนิทสนมกันจริงนะ!
“ค่าตัวรันแค่เหล้าแบนเดียวเองเหรอพี่เบน น้อยจัง” ยังไม่เลิก ไอ้คนของเราก็ดันหันไปเล่นด้วยซะงั้น สนุกกันใหญ่… ท่องไว้ ไม่หึงไอ้ภพ ไม่หึง!
“โอ้ย ขืนถ้ารันโดนจับไปเรียกค่าไถ่จริงๆ พี่ว่าคงมีคนยอมจ่ายหมดตัว เพื่อเอาตัวน้องคืนอยู่แล้ว… จริงไหมวะบอส” ผมสะดุ้งกับประโยคคำถามเหมือนจะทีเล่น ของไอ้เบน บางครั้ง ผมก็รู้สึกว่ามันรู้อะไรๆ เป็นอย่างดี แต่ก็แสร้งเป็นไม่รู้ ไม่เห็น พูดบ้างไม่พูดบ้าง แบบนี้สู้ให้มันถามออกมาตรงๆ จะดีกว่า
“หึ… จะได้เริ่มงานไหมคืนนี้…” ผมรีบตัดบท
“โอเคๆ ทำเป็นเข้มนะบอส… อ่ะ มาๆๆ ทำงานๆ” ไอ้เบนกระดกแก้วเหล้าจนหมด แล้วเราก็เริ่มต้นคุยเรื่องงานกัน มีเสียงน้องรันเอ่ยถามเป็นพักๆ ถึงเทคนิคบางรูป ไม่ก็ถามว่าทำไมถึงไม่เลือกรูปนี้ ทำไมรันชอบรูปนี้แต่พวกผมถึงบอกว่าไม่ดี… รันเป็นเด็กใฝ่รู้คนหนึ่งทีเดียว จริงๆ อาจเพราะติดนิสัยเด็กนอกที่อยากรู้อะไรก็ถาม คิดต่างก็บอก ผมว่าถ้าเด็กไทยเราเป็นแบบนี้กันทุกคน ก็คงนำพาประเทศให้เจริญก้าวหน้าไปได้ไม่ยาก
กว่าจะสรุปเรื่องรูปกันเสร็จก็ปาไปเกือบห้าทุ่มครึ่ง ผมกับน้องรันพากันเดินกลับที่พักด้วยกัน คืนนี้อากาศดี ลมพัดเย็น อยากเดินกอดคอคนข้างๆ แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่เดินรับลม ชมดาวกันมาเงียบๆ
“นอนด้วยได้ไหมคืนนี้?” ไม่เกิน 50 เมตร จะถึงบ้านหลังที่รันพัก ผมเอ่ยถามขึ้นลอยๆ
“ไม่คิดว่าจะถามนะเนี่ย” น้องหันมาทำตาโตตอบ แต่มุมปากแอบยิ้มเจ้าเล่ห์
“ทำไมล่ะ ไม่คิดว่าพี่อยากจะนอนกับเมียคนนี้บ้างเหรอ”
“เปล่า… ที่บอกไม่คิดว่าจะถาม เพราะคิดไว้แล้วว่า ยังไงพี่ก็ต้องมานอนกับรัน แล้วปกติทำอะไรเคยถามซะที่ไหน” น้องหยุดยืนหน้าประตูบ้านพัก ยิ้มมุมปากตามสไตล์ ก่อนจะหันไปไขประตูห้อง… ผมก็ได้แต่ยืนเอ๋อๆ นิดหน่อย… นี่คือสรุปว่า น้องให้ผมนอนด้วยใช่ไหม หรือยังไงนะ? วันนี้แรมต่ำ สมองประมวลผลช้า… หรือว่ากูแก่?
“อ้าวจะเข้าไม่เข้า? หรือจะกลับไปนอนกับเมียหลวง… เดี๋ยวเมียน้อย เอ๊ย น้องเมียคนนี้นอนคนเดียวก็ได้ ไม่มีการไปรังควานบ้านใหญ่แน่ๆ ฮ่าๆ” ผมได้แต่ยืนกระพริบตาปริบๆ มองคนอารมณ์ดีกำลังสำบัดสำนวน กวนอารมณ์ผมอยู่
“จะไม่ให้พี่ไปเอาข้าวของเสื้อผ้าที่ห้องก่อนเหรอ”
“ปกตินอนด้วยกันเคยใช้เสื้อผ้าเหรอ” เออ ก็จริง… ว่าแต่… พูดแบบนี้มันยั่วกันชัดๆ นี่หว่า!!
“วันนี้พี่ภพดูงงๆ นะ รันว่ากลับไปนอนพักดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำงานกลางแจ้งจะเป็นลมเป็นแร้งไปซะก่อน” คนพูดยิ้มแป้มเหมือนล้อเลียน มากกว่าห่วงใย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมน้อยใจหรอกนะ กลับรู้สึกชอบน้องรันแบบนี้ น้องรันที่สดใส ร่าเริง น้องรันที่กล้าปากเก่ง ใจกล้า แต่ไม่กระด้างเหมือนเก่า… ถ้าตอนนี้อยู่ในที่ลับตา จะจับมาฟัดให้หายมันเขี้ยวเลยเชียว!
“หึหึ… เดี๋ยวนี้ช่างแขวะจริงนะเรา!... รันเข้าห้องไปก่อนเถอะ พี่ขอเอารูปจากไดร์ฟนี้ไปลงในแลปทอปก่อน เดี๋ยวจะกลับมานอนกอดนะครับ”
“งั้นรันว่ายน้ำรอนะ… รีบมาล่ะ ถ้ามาช้า เกิดว่ายๆ ไปแล้วง่วงนอน รันไม่รอแล้วนะ” เป็นคำขู่ที่ค่อนข้างน่ากลัวที่เดียว พอคนตรงหน้าปิดประตูปุ๊บ ผมก็รีบก้าวยาวๆ ไปที่บ้านพักตัวเองปั๊บ!
พอผมถึงในส่วนของห้องนอนก็ต้องค่อยๆ เดินเบาๆ ไปหยิบแลปทอปที่วางไว้ข้างหัวเตียง เพราะตอนนี้คุณภรรยาหลวงของผมหลับปุ๋ย ฝันถึงชู้ เอ๊ย ผมหมายถึงน้องหนูน่ะครับ…
ผมพาแลปทอปคู่ใจมานั่งโหลดไฟล์ในโซนห้องแต่งตัว เพราะโซนนี้อยู่คนละห้อง และคนละด้านกับห้องนอน แสงไฟจากเครื่องคอมพิวเตอร์จะได้ไม่สาดเข้าตาคนหลับไปแล้ว เดี๋ยวแม่จะตื่นมาแว้กแหวกแหกอกผมซะก่อน
ผ่านไปเกือบ 15 นาทีการโหลดรูป โหลดไฟล์งานทั้งหมดก็เสร็จสิ้นเรียบร้อย ผมจัดการปิดเครื่อง แล้วรีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่มั่นใจว่าคุณรรินภรรยาคนสวยเธอคงจัดการรื้อกระเป๋า และแขวนเอาไว้ให้แล้วอย่างเสร็จสรรพ… นี่เป็นอีกหนึ่งความน่ารักของไอ้รินมันนะครับ คนเราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แม้จะไม่ได้อยู่ในฐานะสามีภรรยา แต่การเป็นเพื่อนกันก็ควรที่จะมีน้ำใจหยิบยื่นไมตรีให้กันบ้าง บางครั้งผมทำกับข้าวเสร็จ ไอ้รินก็ล้างจาน หรือถ้าผมล้างรถก็จะล้างให้มันด้วย ส่วนมันก็ซักผ้า พับผ้าให้ผม เป็นเรื่องที่แชร์กันตั้งแต่สมัยที่ผมกับมันอยู่ต่างประเทศแล้วล่ะครับ เราถึงอยู่ด้วยกันได้อย่างไม่มีปัญหา
อ่านต่อด้านล่างค่ะ
V
V