นั่งแช่น้ำวนอุ่นๆ แกล้มไวน์พอเพลินๆ ก็เล่นเอาเคลิ้มไปได้เหมือนกัน… ไม่รู้ว่าผมแอบหลับไปนานแค่ไหน แต่มารู้สึกตัวอีกที ก็มีคนตัวนุ่มๆ มาโอบรอบคออยู่ด้านหลัง… กลิ่นตัวหอมอ่อนๆ ผสมกับกลิ่นแอลกอฮอลล์กรุ่น ยิ่งกระตุ้นและปลุกความง่วงงุนของผมได้เป็นอย่างดี
“รอนานจนหลับเหลยเหรอ” เจ้าตัวเอ่ยเสียงอ้อแอ้เล็กๆ แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือจากรอบคอผม
“ก็คนมันแก่แล้ว เจอเหนื่อยๆ มาทั้งวัน อยู่ดึกมากๆ มันก็ต้องมีแอบงีบกันบ้างแหละ” ผมเบี่ยงตัวหันไปโน้มคอเจ้าของห้องเข้ามารับจูบ กลิ่นแอลกอฮอลล์ กับลมหายใจอุ่นถูกถ่ายทอดออกมาจากเจ้าตัวยิ่งกระตุ้นความกระหาย
“อืมม!... นี่นะคนเหนื่อย จูบทีเล่นเอาจะหมดลม” เจ้าตัวบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะปล่อยมือจากคอผม และเดินมาข้างๆ อ่าง แล้วกระทำการที่ทำให้เลือดลมผมสูบฉีดขึ้นกว่าเดิม…
น้องค่อยๆ เปลื้องเสื้อผ้าออกทีละชิ้นอย่างช้าๆ เหมือนจงใจจะยั่วกันซึ่งๆ หน้า สายตาวาววับถูกส่งออกมาอย่างเชิญชวน… ผมเองก็ทำใจเย็นรอดูคนช่างยั่วว่าจะทำอะไรต่อ แม้อุณหภูมิในร่างกายผมจะระอุขนาดลาวาพร้อมประทุได้ทุกเมื่อ!
ผิวสีน้ำผึ้งอาบแสงจันทร์ที่สาดเข้ามาผ่านประตูกระจก สะท้อนให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง และความนวลเนียนของเนื้อกาย… ขาเรียวค่อยๆ ก้าวเข้ามาในอ่าง ผมแอบกลั้นหายใจด้วยความตื่นเต้น ไม่ใช่ไม่เคยเห็นร่างเปลื่อยของน้องมาก่อน แต่ไม่รู้ทำไม กี่ทีๆ ร่างกายนี้ก็ทำให้ผมร้อนรุ่มได้ตลอดเวลา
เมื่อทั้งร่างก้าวเข้ามาอยู่ภายในพื้นที่เดียวกันกับผม ชั่วพริบตาร่างนุ่มนิ่มก็โผเข้ามากอดผมไว้เต็มแรง พร้อมกับปากบางที่ซอกซอนชิมผมไปทั่วลำคอ ไล่เรื่อยลงมาถึงหน้าอกที่ยังโผล่พ้นระดับน้ำ แล้วเจ้าตัวก็เงยหน้าขึ้นยิ้มให้ผมแว้บหนึ่ง และสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่จะหายลงไปใต้น้ำ จุดมุ่งหมายคือบางสิ่งที่กำลังตั้งตัวต้านทานแรงโน้มถ่วงของโลกอยู่
หมดลมหายใจหนึ่งที น้องก็เงยขึ้นมารับอากาศ ก่อนจะดำลงไปต่อ… เป็นอย่างนี้อยู่สามสี่ครั้ง จนผม ต้องแอ่นส่วนกลางให้โผล่พ้นน้ำ เพื่อให้คนที่กำลังเอนจอยอีทติ้งได้ดูดดื่มมันอย่างถนัดถนี่
“อะ… อืม!!!!” เสียงครางอย่างสุขสมออกมาจากปากผมอย่างไม่รู้ตัว ผ่านไปจนได้ที่ ผมจึงจัดการรวบตัวคนที่ยังอร่อยอยู่เต็มปากขึ้นมาแนบอก พร้อมระดมฟัดคนตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว ทั้งรอยดูด รอยขย่ำ ผมทำอย่างไม่สนใจว่าเจ้าตัวจะกลัวใครมาเห็น เพราะถ้าไม่ถอดเสื้อคงไม่มีใครรู้ว่ารอยรักที่ผมฝากเอาไว้มันเยอะมากขนาดไหน
ผมยกคนเก่งของผมให้นั่งบนขอบอ่าง จับขาข้างขวาชันขึ้นเพื่อเปิดเผยทุกทางให้ผมได้ลิ้มชิมได้อย่างลึกซึ้ง… ผมลุกหนักทะลวงทุกพื้นที่อย่างรวดเร็วและค่อนข้างรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จนเจ้าตัวต้องเท้าแขนสองข้างไปข้างหลังเพื่อเป็นหลักให้กับตัวเอง พร้อมทั้งแหงนหน้าขึ้นซู้ดปาก สลับเสียงครางระงมที่ฟังกี่ทีๆ ก็รู้สึกเซ็กส์ซี่เสมอ
“อ้ะ ซีด!!! พะ พี่ภพ…อ่ะ… พี่ภพ… เข้ามา อ๊ะ… รันอยากได้ อ๊ะ อยากได้มากกว่านี้… เข้ามาหารันนะ…” เมื่อเจ้าตัวเอ่ยปากร้องขอซะขนาดนี้ มีเหรอที่ผมจะไม่สนองตอบโดยทันที ผมจัดการอุ้มคนที่อยู่บนขอบอ่างลงในน้ำอีกครั้ง ก่อนจะจัดแจงท่าทางตัวเองให้นั่งพิงไปกับอ่าง แล้วยกตัวคนที่เรียกร้องจากผม ให้สวมทับลงมา นี่เป็นครั้งแรกที่เรามีอะไรกันแบบไม่ได้ใช้เครื่องป้องกัน!
“อ๊ะ รันพี่ขอโทษ! พี่ไม่ได้ใส่ถุงยาง” ผมสารภาพผิดกับคนตรงหน้า แต่สองมือก็ยังคงจับสะโพกคนที่กำลังค่อยๆ ควบทะยานอยู่บนตัวผม
“อือ!! ครั้งเดียวรันคงไม่ท้องหรอก แล้วพี่ภพก็เลิกมั่วแถมไปตรวจเลือดมาให้รันดูแล้วไม่ใช่เหรอ อ๊ะ!! เดี๋ยวรอบสองขอบนบก แล้วค่อยสวมก็ได้ อ้าาาา!!! ลึกจัง อ๊ะ!!” ขอบคุณที่เชื่อใจกัน!
จ็อกกี้หนุ่มที่กำลังควบอยู่อย่างเมามันตอบผมเสร็จก็หันไปหยิบแก้วไวน์ของผมที่ยังมีไวน์ค้างอยู่เกือบครึ่งแก้ว น้องกระดกทีเดียวหมด แล้วโน้มตัวมาแบ่งปันผมถึงปาก สีแดงเข้มของไวน์ไหลย้อยตามมุมปากของเราทั้งคู่ แต่ก็ไม่มีใครจะใส่ใจ เราจูบกันรุนแรงขึ้น พร้อมทั้งเซ็กส์ที่ร้อนระอุ ผมบอกได้เลยว่าครั้งนี้มันหนักหน่วงกว่าที่ผ่านๆ มา อาจด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์ที่คนบนตัวผมได้รับมาค่อนข้างมาก ทำให้ความใจกล้า และการอยากรู้อยากลองช่วยผลักดันให้เราได้ลิ้มรสชาติใหม่ๆ ซึ่งกันและกันอย่างไม่มีเบื่อ… ผมชอบความดิบ หยาบ ที่หวานหอมแบบนี้จริงๆ!
แล้วก็เป็นไปตามนั้นครับ จบจากกิจกรรมทางน้ำ เราสองคนก็ไปต่อกันใต้ฝักบัว แล้วไปจบกันบนเตียง สภาพเตียงกลายเป็นสมรภูมิสงครามย่อยๆ ที่ทั้งเลอะเทอะเละเทะ และยุ่งเหยิง ทั้งรอยคราบไวน์ที่น้องหยิบมาราดลงบนตัวให้ผมได้เลียลิ้มชิมเนื้อนิ่มๆ แกล้มรสซ่านของไวน์ชั้นดี หรือรอยนมสดที่เจ้าของห้องไปเปิดมาจากตู้เย็น แล้วราดลงบนแก่นกลางของผม… เจ้าตัวบอกว่า หลังจากดื่มของมึนเมามาแล้ว น้องต้องดูดนมก่อนนอนทุกครั้ง… สาบานได้ว่าน้องพูดว่า ‘ดูด’ และก็กระทำการอย่างที่พูดจริงๆ!!
ผมว่าพรุ่งนี้แม่บ้านอาจคิดว่า ลูกชายเจ้าของโรงแรมแอบพาหญิงสาวมาฟัดกันที่ห้อง… แต่หารู้ไม่ว่า ลูกชายเจ้าของโรงแรมนั่นแหละ ถูกผมฟัดคาห้อง!!
ไม่รู้ว่าเราเล่นกันไปกี่รอบ… แต่สุดท้ายเราก็หมดแรงหลับพับไปด้วยกันบนเตียง… พรุ่งนี้ผมไม่ต้องรีบตื่นเช้านัก เพราะนัดกองเอาไว้อีกทีตอนบ่ายโมง เราจะมีถ่ายเซ็ทสุดท้ายในห้องของโรงแรมกัน…
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว แต่ผมจำได้ว่าผมตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ตอน 10 โมง แต่นี่ยังไม่มีเสียงนาฬิกา แต่เหมือนผมจะได้ยินเสียงแว่วๆ ของไอ้รินอยู่ใกล้ๆ
“ไอ้ภพ!!! ไอ้บ้าภพ!!!... โอ้ยยย แม่งเล่นอะไรกันบ้างวะเนี่ยเมื่อคืน ถ้าใครมาเห็นเข้านะมึง… ไอ้ภพตื่นสิโว้ย!!! ภพ!!!!!!!” เฮ้ย ไอ้รินจริงๆ ด้วย ผมหยีตาขึ้นมองคนที่กำลังเขย่าตัวผมอย่างเอาเป็นเอาตาย แล้วก็พบว่ามันคือภรรยาของผมนั่นเอง
“อ้าว… ฮ้าวววว!!! บุกมานี่มีอะไรวะ…” ผมเอื้อมมืออีกข้างที่ไม่ได้กอดคนตัวนุ่มที่เกยก่ายซุกหลับอยู่บนตัวผม ไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา แล้วก็พบว่ามันเพิ่งจะ 8 โมงเช้า
“โห เพิ่งแปดโมงเองไอ้ริน วันนี้มีถ่ายบ่าย ปลุกนาฬิกาไว้แล้วตอนสิบโมง… แค่นี้นะ” ผมตัดสินใจตัดปฎิสัมพันธ์กับภรรเมียที่รัก แล้วทำท่าจะหันไปนอนกกเมียบนเตียงต่อ แต่ก็โดนดึงไว้ด้วยประโยคบอกเล่าแบบตื่นๆ ของไอ้ริน
“พ่อกับแม่ฉันมา… เพิ่งมาถึงไฟลท์เจ็ดโมง แกออกไปอยู่ห้องฉันเลยเร็ว แล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวนะ เพราะเดี๋ยวฉันต้องออกไปรับพ่อกับแม่มานอนที่ห้องถัดไปจากเรา… ตื่นมาช่วยกันรับหน้าเลยเร็ว”
“หะ!!! ฉิบหายของจริง เออๆ แกออกไปก่อน เดี๋ยวฉันหยิบของแล้วตามไป” เอาจริงๆ คือผมโป๊อยู่ โชคดีที่ตอนนี้มีผ้าห่มปิดช่วงล่างไว้กันอุจาด แม้มันจะหมิ่นเหม่ก็ตาม
“เออ รีบตามมานะ ทางที่ดี บอกน้องชายฉันด้วยว่าพ่อแม่มา”
“ได้ๆ แกรีบไปรับหน้าก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันรีบตามไป” พอไอ้รินออกจากห้อง และยังไม่ทันที่ผมจะได้เก็บของหรือปลุกคนตรงหน้า ก็มีสายเรียกเข้ามาขัดจังหวะซะก่อน พอหยิบขึ้นมาดูก็เห็นเป็นน้องเลขากองฯ โทรมา คิดว่าคงเป็นเรื่องงานเลยจำเป็นต้องรับสาย
“ว่าไงแจง” ผมเอ่ยทักเสียงเข้มออกไป
“พี่ภพคะ… แย่แล้วค่ะพี่ เมื่อกี้หนูเดินสวนกับนายแบบของเรา แพทริกน่ะค่ะ คือ… หนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หน้าแพทเขาแบบ แบบเยินมากเลยค่ะพี่ เหมือนไปมีเรื่องกับใครมาเลยค่ะ เราจะทำไงดีคะ” ฉิบหายของจริงแล้วกู!!! เช้านี้มันเหี้ยอะไรนักหนาวะ…
“โอเคแจง… ใจเย็นๆ ตั้งสติก่อน เดี๋ยวพี่จะรีบออกไปดูให้เร็วที่สุด อย่าเพิ่งโวยวายไป… ทางทีดีแจงตามประกบแพทไว้นะ ถ้าสบโอกาสก็เข้าไปถามเขาว่าจะให้ช่วยพาไปหาหมอหรืออะไรไหม แล้วบอกแพทไปว่าแจ้งพี่มาแล้ว เดี๋ยวพี่ออกไป”
วางสายจากน้องแจง ผมก็จัดการใส่เสื้อผ้าลวกๆ ก่อนจะปลุกคนบนเตียง พอบอกน้องว่าพ่อกับแม่น้องมา น้องก็ทำตาโต แต่พอผมบอกต่อไปอีกว่าแพทโดนต่อยซะหน้าเละ คราวนี้คนบนเตียงถึงกับเด้งตัวขึ้นนั่ง ร้องเฮ้ยออกมาดังๆ ผมเลยบอกว่า จะกลับไปที่ห้องก่อน แล้วจะรีบอาบน้ำแต่งตัวและไปดูแพท น้องก็รีบไล่ให้ผมไป แล้วบอกว่าตัวเองจะรีบลุกขึ้นจัดแจงตัวเองแล้วไปหาพ่อกับแม่เช่นกัน เราเลยแยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่
ผมกลับห้องก็รีบอาบน้ำแต่งตัวใช้เวลารวมกันไม่เกิน 10 นาที… แล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องไป ทันสวนกับพ่อตาแม่ยายตรงโค้งก่อนจะเข้าถึงโซนห้องพัก ผมทักทายอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากขอตัวเพราะเรื่องงานที่กำลังมีปัญหา ทั้งคู่เข้าใจและรีบบอกให้ผมไปดูงานให้เรียบร้อย ผมกระซิบบอกไอ้รินก่อนไปว่าแพทโดนใครไม่รู้ต่อยมาซะหน้าเยิน ไอ้รินตกใจเช่นกัน เลยรีบเอ่ยปากไล่ให้ผมรีบไปดู
เมื่อไปถึงส่วนบริเวณโรงแรม ผมเจอน้องแจงยืนชะเง้อคอรอคอยอยู่แล้ว เธอเห็นผมเหมือนได้เจอขุมทรัพย์ รีบวิ่งโกยออกมาต้อนรับอย่างเร็ว
“พี่ภพ… มาทางนี้เถอะค่ะ แพทอยู่ที่ห้องอาหาร… ถามอะไรก็ไม่ตอบค่ะ บอกแค่ว่าเขามีเรื่องเข้าใจผิดกับคนอื่นนิดหน่อย พอหนูถามว่าจะให้พาไปทำแผลหรือหาหมอไหม เขาบอกขอแค่ยาทาแก้ฟกช้ำกับพวกพาราเท่านั้นค่ะ หนูเลยบอกว่าแจ้งคุณภพไปแล้วเดี๋ยวคุณภพจะตามมา แกก็พยักหน้าแล้วทำหน้านิ่งๆ ไม่พูดไม่จาอะไรต่อ หนูเลยขอตัวมายืนดักรอพี่ภพตรงนี้แหละค่ะ” น้องแจงพูดรวดเดียวจบแบบไม่พักเหนื่อย ผมพยักหน้ารับ แล้วพากันเดินไปหาเป้าหมายที่ห้องอาหาร
“แพท… เกิดอะไรขึ้นครับ ใครทำอะไรคุณ” ผมไปถึงก็นั่งลงตรงข้ามนายแบบหนุ่มที่ตอนนี้หน้าเยินไปด้วยรอยหมัด จนบางมุมก็บวมเป่ง ช้ำปูดจนน่ากลัว
“มีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยครับ ไม่มีอะไรหรอก” แพทตอบเหมือนที่น้องแจงเล่า และบางทีผมคิดว่าแพทอาจจะอยากคุยกับผมเป็นการส่วนตัว ผมเลยบอกให้น้องแจงไปหาอะไรทาน เดี๋ยวผมคุยกับแพทเอง น้องแจงถึงปลีกตัวไป
“คุณรู้ใช้ไหม ในฐานะที่ผมเป็นบก. และเป็นนายจ้างคุณอยู่ตอนนี้ ผมควรที่จะต้องรู้ความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น… และคุณสามารถไว้ใจผมได้” ผมจัดการกึ่งขู่กึ่งปลอบให้เขาสบายใจที่จะเล่าให้ผมฟัง เจ้าตัวยังคงนั่งมองถ้วยกาแฟของตัวเองบนโต๊ะ… ผมไม่เร่ง แต่ก็รอฟังด้วยใจจดจ่อ
“มัน… แค่เกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้นครับ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง” เขายังยืนยันคำตอบเดิม
“ผมควรต้องแจ้งความกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณไหม”
“ไม่ต้องครับ ผมบอกแล้วว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด” ผมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ เพราะจริงๆ แล้วผมมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะนายแบบมาเป็นแบบนี้ผมก็เสียงานเหมือนกัน
“คุณควรต้องบอกผมว่าใครเป็นคนทำ และเรื่องจริงมันคืออะไร… เหตุการณ์นี้มันกระทบกับงานของผมด้วย”
“ผมยินดีให้คุณหักเงินค่าตัวครับ… หรือไม่อย่างนั้นผมยอมถ่ายให้ฟรี ครั้งนี้ไม่ต้องจ่ายค่าตัวผม ถือเป็นความรับผิดชอบของผม แล้วเดี๋ยวผมจะคุยกับโมเดลลิ่งเอง”
“ผมไม่ได้อยากจะเอาเปรียบใครหรอกนะครับ เราก็ทำมาหากินอยู่ในวงการเดียวกัน ยังไงผมคงต้องจ่ายค่าตัวให้คุณสำหรับงานที่ผ่านไป… แต่ผมแค่อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นท่ามกลางความรับผิดชอบของผม… ผมต้องการแค่คำตอบ และความจริง!”
“ผมต่อยมันเองแหละบอส!” เสียงไอ้เบนแว่วเข้ามา ก่อนที่ตัวมันจะเดินมาถึงโต๊ะ ย่ิงทำให้ผมงงเข้าไปใหญ่ ไอ้เบนเนี่ยนะต่อยกับแพท เกิดอะไรขึ้นวะ เมื่อวานก็ยังทำงานด้วยกันดีๆ ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเขม่นกันเลยแม้แต่น้อย แถมไอ้เบนยังชมแพทไม่ขาดปาก… แต่สงสัยมันจะเป็นเรื่องจริง เพราะบริเวณกำปั้นไอ้เบนมีรอยช้ำ บวม และแผลแตกให้เห็นอยู่ตำตา
“เฮ้ย… แล้วมันเกิดอะไรขึ้นวะ… อะไรวะเนี่ยกูงงไปหมดแล้ว ไหนใครช่วยเล่าความจริงให้ผมฟังหน่อยเถอะว่าพวกคุณทะเลาะอะไรกัน เมื่อวานผมยังเห็นดีๆ กันอยู่เลย” แพทเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนที่ต่อยตัวเอง แต่ไอ้เบนไม่ได้มองตอบ มันเสมองไปทางอื่น แล้วแพทก็พูดขึ้นมา
“เพราะผมเอง… เพราะผม…”
“เหี้ย! มึงห้ามพูดออกมานะ ถ้ามึงพูดกูจะกระทืบมึงอีก” เอาล่ะ! กูว่ามันยังไงๆ แล้วนะ เกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนี้ แล้ววันนี้กูจะได้รู้ความจริงไหม
“เบน มึงปล่อยให้เขาพูด เขาควรต้องพูดความจริง และผมควรที่จะต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“บอส!!! ความจริงก็คือไอ้เหี้ยนี่เมา แล้วกวนตีนผม แล้วผมหมั่นไส้ ก็เลยต่อยกับมันไป… ก็เหมือนพวกช่างกลตีกันร้านเหล้าอะบอส ไม่ต้องมีเรื่องกันมาก่อน แค่กวนตีนกันด้วยคำพูด ก็เกิดเรื่องได้แล้ว… ผมกับมันเคลียร์กันแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก บอสไม่ต้องใส่ใจ ส่วนเรื่องที่ผมทำให้มันทำงานต่อวันนี้ไม่ได้ บอสหักเงินจากค่าตัวผมไปได้เลย ถือว่าผมมีส่วนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา” ต่อยกัน? ต่อยกันเหี้ยอะไรครับ กูเห็นหน้ามึงยังปกติดีไม่มีริ้วรอยอะไรแม้แต่น้อย แต่หน้าแพทมันนี่สิเยินซะขนาดนี้ กูว่าต้องเรียกว่ามึงต่อยมันมากกว่า มึงต่อยกันนะ!
ตอนแรกวันนี้ผมกะจะถ่ายน้องพิงค์ในชุดราตรีสวยพร้อมกับแพทที่อยู่ในชุดทักซิโด้หล่อเนี้ยบในห้องพักราคาแพงที่สุดของรีสอร์ท เพื่อเป็นการไทอิน และโปรโมทแบบเนียนๆ กลับต้องมาเปลี่ยนแผนใหม่ เป็นคอลัมน์รีวิวและสัมภาษณ์ผู้บริหาร นั่นก็คือไอ้รินแทน ผมรีบโทรบอกให้มันแต่งตัวสวยๆ เพราะสุดวิสัยจริงๆ แม้ไอ้รินจะไม่ค่อยยอมออกสื่อ แต่คราวนี้มันก็เห็นใจผม เลยยอมช่วย ผมเลยให้รันรับหน้าที่ถ่ายคอลัมน์นี้ไปซะพร้อมๆ กับที่ต้องถ่ายบทสัมภาษณ์น้องพิงค์ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้น้องได้แสดงฝีมือด้วย เพราะตอนแรกคิดว่าจะถ่ายแค่น้องพิงค์คนเดียว แต่มือของช่างภาพใหญ่เหวอะขนาดนี้ จะเอาแรงที่ไหนไปกดชัตเตอร์วะ!
เวรกรรมเหี้ยอะไรของกูเนี่ย งานที่คิดว่าจะราบรื่นกลับต้องมาสะดุดเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง ที่กูก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงมันคืออะไร… แต่ยังไงซะเรื่องนี้มันต้องมีความจริงให้ผมได้รู้แน่ๆ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ ระหว่างไอ้เบนและแพทริก!!
++++++++++++++++++++++++++
+ สวัสดีปีใหม่สำหรับเรื่องนี้นะคะ ฮ่าๆ... คาดว่าหลายคนที่ตามเมอร์ซี่มาหลายเรื่องคงชินกับนิยายรายเดือน สองเดือน สามเดือนของเราดี คราวนี้ 2 เดือนฟ่าๆ โผล่มาสักที... ใครที่ตามกันอยู่ในเฟสฯ คงเห็นว่าเมอร์ซี่บอกเป็นระยะๆ นะคะว่ายุ่งจริง อะไรจริง ส่วนคนอ่านใหม่ก็ขออภัยจริงๆ ค่ะ ที่นานๆ มาทีแบบนี้ เราพยายามเต็มที่แล้วจริงๆ (มีบางคนถึงกับมาตัดพ้อว่า ถ้าพี่ไม่ว่างจริง พี่จะอัพนิยายทำไม ก็ตอนพี่อัพพี่ว่างนี่คะ ไม่คิดว่าปัญหายุ่งเหยิงเรื่องงานมันจะตามมาติดๆ ขนาดนี้ พี่น้อมรับคำติจริงๆค่ะ)
+ เอาล่ะตอนนี้ก็ยาวนะ (เราว่า) พี่ภพกับน้องเมียก็ยังชื่นมื่นหวานร้อนแรงกันเหมือนเดิม แต่คุณพ่อคุณแม่เมียมานี่จะเกิดอะไรไหมนะ เราไม่อยากดราม่า แต่คิดดูก่อนแล้วกัน ฮ่าๆๆๆ
+ แต่ที่แน่ๆ ระหว่างเบนกับแพท มันต้องมีอะไรสักอย่างชัวร์ๆ ไวรอลุ้นกันตอนหน้า (อีกสามเดือน ฮ่าๆๆ ล้อเล่นนะ)
+ คำผิดเดี๋ยวกลับมาแก้นะคะ
+ คิดถึงทุกคนนะคะ แล้วก็ไม่แน่ใจว่ายังมีคนอ่านเรื่องนี้อยู่รึเปล่านะ แต่ยังไงก็จะอัพจนจบแหละค่ะ
+ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ทั้งในนี้และในเฟสนะคะ ขอบคุณที่ซัพพอร์ทกันมาเสมอๆ ช่วงต้นปีเมอร์ซี่ยังไม่ยุ่งมาก จะพยายามปั่นให้ได้เยอะที่สุดค่ะ
+ กอดทุกคน!!! ตอนหน้าเจอกันที่น้องพายนะคะ ฝันดีค่ะ