สวัสดีค่า... นิยายรายเดือนมาแล้วจ้า!!
จริงๆ ควรจะเสร็จหลายวันแล้ว แต่ก็ลบแล้วแก้อยู่หลายรอบ กว่าจะได้ดั่งใจ... (ไม่รู้ได้ดั่งใจคนอ่านไหมนะ)
ปล. คำผิดเดี๋ยวกลับมาแก้นะคะ
++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 18
“นี่นั่งเบียดกันขนาดนี้ แสดงว่าเข้าใจกันดีแล้วสินะ” ช่วงสายๆ ค่อนบ่ายจัด พี่สาวของที่รักผมก็กลับมาจากภูเก็ต ไม่ใช่ว่าไม่ได้ยินเสียงรถ ก็เพราะได้ยินเสียงรถและจำเสียงได้ เลยไม่ได้เดินออกไปดูว่าใคร… ผมก็เลยนั่งอุทิศไหล่หนาให้น้องรันได้ซบซุกระหว่างดูซีรีย์ด้วยกัน
“พี่ริน! เป็นยังไงบ้างฮะ ที่โรงแรมเรียบร้อยไหม” กลายเป็นเด็กน้อยของผมที่ดีดตัวผละออก แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดเอวพี่สาว
“เรียบร้อยแล้ว ฝีมือพี่ซะอย่าง… ว่าแต่เราเถอะ เรียบร้อยเหมือนกันใช่ไหม?” ไอ้รินหอมแก้มน้องมันฟอดใหญ่ พร้อมกับคำถามที่เล่นเอาน้องชายหน้าขึ้นสีเลือดฝาดอย่างเห็นได้ชัด
“ก็… เอ่อ… บ้านก็เรียบร้อยดีฮะ”
“เรียบร้อยโรงเรียนกูไปแล้วล่ะเมียจ๋า” ผมเดินไปหิ้วกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมดังใบใหญ่ ที่ไอ้รินใส่เสื้อผ้าสำหรับลงไปภูเก็ตมาไว้ในมือ ก่อนจะเดินขึ้นไปเก็บให้บนห้องโดยไม่ต้องเอ่ยปากอาสา ถึงผมจะเป็นแบบนี้ แต่ผมก็สุภาพบุรุษกับผู้หญิงอย่างสม่ำเสมอนะครับ
หลังจากขึ้นไปเก็บกระเป๋าให้ภรรยาคนสวยเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินลงมาหาสองศรีพี่น้องด้านล่าง ตอนนี้กลายเป็นไอ้รินที่พลีบ่าให้น้องชายซบ สงสัยกำลังจะอ้อนพี่สาวอยู่แน่ๆ
“อ้อนอะไรพี่รินล่ะเนี่ย…” ผมเดินไปนั่งโซฟาตัวเล็กข้างๆ กัน ปล่อยให้พี่น้องเขาได้ออดอ้อนให้สมใจ
“แหม ก็ปล่อยให้มันอ้อนพี่สาวซะบ้าง เดี๋ยวก็จะไปอ้อนหนุ่มอื่นแทนแล้วนี่” ไอ้รินแซวน้องชายตัวเองเล่นเอาซะเขินบิดไปอีกรอบ
“…อยากโดนอ้อนบ้างจังเลย”
“หึ ดูยังไงมึงก็เหมือนหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่กำลังหลอกล่อลูกแกะน้อยๆ อยู่ดี” น้องรันของผมก็ยังคงนั่งกอดแขนซุกหน้ากับไหล่ของพี่สาว มองผมสองคนโต้ตอบกันด้วยรอยยิ้ม
“หมาป่ารูปหล่อขอจำศีลแล้วครับ… ถอดเขี้ยวเล็บหมดแล้ว ตอนนี้ศิโรราบกับลูกแกะน้อยตัวเดียวเท่านั้น… เนอะๆ” ท้ายประโยคผมหันไปพยักหน้าขอแนวร่วมจากลูกแกะ เอ๊ย! น้องรัน ก็ได้รอยยิ้มหวานๆ มาเป็นแรงใจ
“ขอให้มันจริงเถอะ อย่าให้เห็นว่าใครโผล่มาร้องไห้โฮ หรือทำตัวซังกะตายอีกแล้วกัน แม่จะไม่สนใจใครทั้งสิ้นแล้ว… เหนื่อยโว้ย!!!” อาเมน!
“เออ… แล้วที่โรงแรมเสียหายมากน้อยแค่ไหน” ผมหันมาเปิดประเด็นจริงจังบ้าง เพราะปัญหาที่ไอ้รินลงไปจัดการที่ภูเก็ต แม้มันจะเอ่ยปากบอกว่า ‘เอาอยู่’ ก็ตาม แต่โรงแรมไฟไหม้แม้จะไม่ทั้งหมด มันก็ไม่ใช้เรื่องเล่นๆ นะครับ
“โซนฝั่งทางด้านห้องอาหารต้องปิดยาวมาจนถึงมีทติ้งรูม รวมไปถึงชั้นสองฝั่งเดียวกันด้วย… ไฟมันลามน่ะ แต่ยังดีที่พนักงานของเราหลายๆ คนมีสติพอสมควรช่วยกันดับ และควบคุมไม่ให้มันลุกลามมากขึ้น จนดับเพลิงมาก็จัดการต่ออีกไม่เยอะ…”
“ห้องอาหารนั้นเพิ่งจะทำใหม่ไม่ใช่เหรอ? นี่ก็เท่ากับต้องมาทำกันใหม่อีกรอบซ้ำ…”
“ใช่… ห้องอาหารใหม่ แต่ตรงส่วนเตาอาหารจีน เราใช้ของเก่า เฮ้อ… ประสบการครั้งนี้สอนให้รู้ว่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายจริงๆ… รู้อย่างนี้ไหนๆ ก็ทำห้องอาหารใหม่แล้ว ฉันก็น่าจะทิ้งของเก่าทุกสิ่งไปด้วยเลย… ดีนะที่ไม่มีใครบาดเจ็บถึงชีวิต มีแค่พ่อครัวอาหารจีนของเราที่ยืนอยู่หน้าเตาตอนมันระเบิด บาดเจ็บเพราะโดนไฟลวก แต่ตอนนี้โอเคแล้ว”
“แล้วพวกลูกค้าล่ะ…”
“ลูกค้าที่อยู่ในห้องอาหารก็ค่อนข้างตื่นกลัวนั่นแหละ… ฉันก็คงต้องทำเรื่องมอบบัตรกำนันเข้าพักโรงแรมในเครือเราฟรีกับทุกคู่ที่ใช้บริการห้องอาหารในวันนั้น เป็นการปลอบขวัญ… ส่วนแขกที่เข้าพักเกือบครึ่งขอเช็คเอ้าท์ออกก่อนกำหนด ถึงเราจะยืนยันว่าปลอดภัย ไม่มีใครเสียชีวิต และส่วนที่ไฟไหม้ ไม่ได้กระทบกระเทือนกับตัวตึกห้องพักเลยก็ตาม… แต่ก็นะ… คนส่วนใหญ่แพนิกกันอยู่แล้ว ก็ต้องยอม”
“มีอะไรให้ช่วยไหมริน… ตอนนี้ยอดเข้าพักคงจะลดลงไปเยอะแน่ๆ… เอาแบบนี้ดีกว่า… ฉันลงไปถ่ายแฟชั่นเซ็ทที่โรงแรมดีไหม เพราะตอนนี้ยังไม่ได้สรุปสถานที่ เดี๋ยวพรุ่งนี้เข้าประชุมฉันจะแจ้งเองว่าได้สถานที่แล้ว พร้อมด้วยคอลัมน์รีวิวโรงแรมดีไหม?”
“เฮ้ยไม่เอา… มันดูเหมือนเส้นยังไงไม่รู้… ถ้าจะทำแบบนั้นก็ต้องให้ฉันจ่ายเงินค่าคอลัมน์โฆษณาให้นิตยสารด้วย”
“แกเป็นเมียเจ้าของหนังสือนะเว้ย ยังไงก็มีสิทธิ์… ถ้าแกกังวล ฉันจ่ายให้แกเองเรื่องฆ่าโฆษณา ให้ฉันได้ช่วยอะไรแกบ้างเถอะ” ปกติแล้วโรงแรมในเครือของบ้านริน ก็ลงโฆษณากับนิตยสารในเครือผมเกือบทุกเล่มอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นการ tie in คือการนำสินค้ามาผูกโยงกับเรื่องราวต่างๆ เหมือนที่ซิทคอมถ่ายให้เห็นว่านางเอกกำลังยกชาเขียวยี่ห้อดังขึ้นดื่ม หรือหน้าปกนิตยสารบางเล่มที่มีการถ่ายนางแบบคู่กับรถเก๋งแบบเห็นโลโก้จะๆ ในกรณีสถานที่ก็เหมือนกัน เราก็จะใช้สถานที่แล้วถ่ายให้เห็นป้าย โลโก้ หรือบรรยากาศโดยรวมให้รู้ว่าสถานที่นั้นๆ คือที่ไหน เรียกง่ายๆ ว่าโฆษณาแฝงนั่นแหละครับ… แบบนี้ก็อาจจะตกลงกับเจ้าของสถานที่ว่าต้องจ่ายเงิน หรืออาจจะไม่ต้องจ่ายก็ได้ ส่วนพวกคอลัมน์รีวิว ส่วนใหญ่เจ้าของสถานที่เขาก็จะแจก Gift Voucher สำหรับให้ทางนิตยสารเอาไปเล่นเกม หรือแจกผู้อ่าน ถือเป็นการแลกเปลี่ยนแทนการจ่ายเงินสด
“เฮ้อ… อย่างที่คุณแม่เคยบอกจริงๆ ด้วย… ผู้หญิงเรา มีผัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง… จำไว้นะรัน…” อ้าว พี่สาวหันไปเล่นน้องชายซะแล้ว… ส่วนตัวน้องชายก็สะดุ้งเล็กๆ ทำหน้าเหลอหลาตาเบิกโต น่ารักจริงๆ นะ เด็กใครเนี่ย!
“ให้รันจำว่ายังไงล่ะพี่ริน… จำว่าหาเมียให้ดีเหมือนพี่รินเหรอ” แหม มีการต่อปากต่อคำน่าตีจริงๆ
“จะได้หาเหรอ! เมียเนี่ย… หะว่าไงไอ้ภพ เด็กแกจะหาเมียซะแล้วว่ะ” หึหึ นั่นสิมีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้ว อย่าหวังว่าจะมีเมียเลยที่รัก
“หาเมียที่ดี… หรือเป็นเมียที่ดี… สงสัยน้องแกคงสับสนในภาษาไทยนิดหน่อยละมั้ง หึหึ” หัวเราะเหมือนตาแกบ้ากามเลยกู
“รันไปหาขนมมาให้พี่รินกินดีกว่า รองท้องก่อนทานมื้อเย็นนะฮะ เดี๋ยวค่อยขึ้นไปอาบน้ำ” สงสัยจะเขิน เลยหาเรื่องหนี ไม่เป็นไร้! หนีได้หนีไป คืนนี้ก็หนีไม่พ้น…
“นี่สรุปว่าเคลียร์กันแล้วใช่ไหม… ถามไอ้ตัวนั้นก็เอาแต่ยิ้ม แล้วบอกว่าตอนนี้รันมีความสุขที่สุด ไหนแกเล่ามาซิว่าไอ้รันมันทำยังไง ตาแก่หน้าโง่ ขี้งอนอย่างแกถึงยอมคืนดีกับมัน…” พอลับร่างน้องชายสุดที่รัก คุณพี่สาวเค้าก็จัดการซักฟองน้องเขยอย่างผมทันที
“ก็… กลัวหมาคาบไปแดกซะก่อนน่ะสิ… จริงๆ ก็ไม่ได้งอนอะไรแล้วล่ะ ก็แค่พยายามทำทุกอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไป อยากให้ครั้งนี้เราสองคนกลับมาคบกันอย่างมั่นคงมากกว่าเดิม อยากเห็นน้องโตและก็มีเหตุผล ครั้งที่แล้วมันพลาดเพราะอารมณ์ล้วนๆ ครั้งนี้ก็ต้องเจือด้วยความมีสติเข้าไปด้วย… แล้วรันเองก็แสดงให้เห็นมาตลอดว่าน้องอดทน มีเหตุผล และโตขึ้นกว่าเดิมจริงๆ ก็เลยกลับมาคุยกันเรื่องของเราอีกครั้ง แล้วก็จบลงด้วยดี” อธิบายได้หล่อมากๆ เลยกู แต่ไอ้รินกับทำหน้าเหมือนยี้ๆ ใส่
“จบลงบนเตียงน่ะสิ… เบาๆ หน่อยเหอะ ยังไงรันมันก็ยังเด็กนะเว้ย ถึงฉันจะโตเมืองนอกเมืองนา แล้วก็ทำใจมานานแล้วว่าน้องชายตัวเองเป็นเกย์ แต่ก็ยังอดใจแป้วๆ ทุกทีไม่ได้เวลาคิดว่าน้องตัวเองได้เรียนรู้ประสบการณ์ทางเพศเร็วเกินกว่าวัย…” ผมก็เข้าใจไอ้รินมันนะ ยังไงซะมันก็เป็นพี่ ต่อให้รับได้ แต่ก็อดใจหายไม่ได้
“สัญญาว่าจะเบาๆ ไม่ทำให้เจ็บ… อ๊ะ โอ๊ย!!! กุญแจรถนี่ปาหัวหมาแตกได้นะเว้ย เจ็บนะ” ก็แค่พูดกำกวมนิดเดียวเอง กุญแจรถหรูพร้อมพวงกุญแจคริสตัล ลอยมากระทบหน้าผากด้วยความแม่นยำ
“เออ…ก็กะปาให้หัวหมามันแตกนั่นแหละ ไอ้ทะลึ่ง… เดี๋ยวแม่ก็ยึดน้องคืนซะเลยนี่”
“โอ๋ๆ คุณพี่สาว ผมขอโทษครับ…ซีด เจ็บจริงนะเนี่ย”
“รอไปอ้อนไอ้รันนู่น ไม่ต้องมาทำน้ำเสียงอ้อนตีนใส่เมียหลวงอย่างดิฉันเลยค่ะ” กูเปล่าอ้อนมันนะเว้ย ก็มันเจ็บจริงๆ นี่นา
“คุยอะไรกันเสียงดังไปถึงครัว… พี่ริน เหลือแต่คัพเค้กจากเมื่อวาน แต่ยังอร่อยอยู่เลย ทานอันนี้ไปก่อนนะ”
“ว้าย! เค้กเชียวนะ แป้งและก็น้ำตาล พี่ขอบายดีกว่า ค่อยรอทานมื้อเย็นทีเดียวเลย”
“ไม่ได้นะ… พี่รินเป็นโรคกระเพาะ ทานรองท้องก่อน นี่บ่ายสี่โมงกว่า กว่าจะมื้อเย็นก็หกโมง รันรู้ว่าตอนเที่ยงพี่รินไม่ได้ทานอะไรแน่ๆ” เห็นความน่ารักของน้องชายกับพี่สาวแบบนี้ ผมก็อดจะยิ้มตามไม่ได้
“พี่ทานบนเครื่องมาบ้างแล้วล่ะ…” เสียงอ้อมแอ้มตอบน้องชาย คิดว่ารันมันจะเชื่อไหม?
“อย่ามาโม้พี่ริน… บินในประเทศเสิร์ฟอย่างมากก็พวกแซนด์วิช พี่รินไม่ทานแน่ๆ ทานนี่สักครึ่งชิ้นก็ยังดี เดี๋ยวรันไปรินนมให้อีกแก้วนึง นะฮะ ทานเถอะ” ใครเจอน้องรันอ้อน ก็ไปต่อแทบไม่เป็นทั้งนั้น ผมรู้ดี
“แหม… ก็ได้ๆ แต่พี่ขอปาดครีมทิ้งนะ” คำตอบเป็นที่น่าพอใจ คุณน้องชายก็เลยยิ้มกว้างทันที
“ได้เลย… เดี๋ยวรันกินครีมเอง” ‘เดี๋ยวรันกินครีมเอง’ ก้องกังวานในหัวมากๆ น้องรัน กับครีมเค้ก แค่คิดก็หวานลิ้นแล้ว!
“ไอ้ภพ… ไอ้ภพ… ไอ้บ้า! เป็นอะไร นั่งทำตาลอยแลบลิ้นเลียปากอยู่นั่น อยากกินบ้างหรือไง” เสียงไอ้รินตะโกนเรียก ผสานกับเสียงน้องรันหัวเราะเบาๆ กระตุกสติสตางค์ที่ลอยไปไกลให้กลับมา
“เออ… อยากเลีย เอ๊ย อยากกินครีม แต่เอาไว้ค่อยกินคืนนี้” ผมยักคิ้วให้ครีม เอ๊ย น้องรันที่เงยหน้าจากการพยายามปาดครีมหน้าเค้กออกให้พี่สาว ขึ้นมาสบตาผมอย่างเขินๆ แต่แววตาวาวๆ นั้นผมคงไม่ได้คิดไปเองนะว่า ‘ครีม’ ก็กำลังรอให้ผมได้ ‘ชิม’ อีกครั้งเหมือนกัน
“รันไปรินนมให้พี่รินดีกว่า” หึหึ ปล่อยให้หนีไปเขินก่อน คืนนี้ได้มองหน้าคนเขินทั้งคืนแน่ๆ
……………………
……………………
“ลงไปภูเก็ตด้วยกันนะ… ไปออกกองรันจะได้เรียนรู้เวลาถ่ายแฟชั่นนอกสถานที่ด้วย” หลังจากที่วันนี้ผมไปประชุมกับทีมกองบรรณาธิการ และบรรณาธิการฝ่ายแฟชั่นเรียบร้อย เลยตกลงกันว่าเล่มเดือนหน้าเราจะไปใช้สถานที่ถ่ายแฟชั่นที่โรงแรมออซั่มเพลส ภูเก็ต เป็นโรงแรมของบ้านไอ้รินมันครับ โรงแรม 5 ดาว ที่เน้นความเงียบ สงบ สบาย แต่แฝงความเรียบหรู ดูแพงเอาไว้ แขกส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และไฮโซเศรษฐีชาวไทย เพราะราคาต่อห้องต่อคืนแพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
“นึกว่าจะไม่ชวนซะแล้ว” เด็กน้อยที่นอนซุกซบเบียดกายอยู่บนไหล่ผม หลังจากที่เราเสร็จกิจ ‘ชิมครีม’ กันยามดึก ตอบด้วยน้ำเสียงงัวเงียน้อยๆ
“…อยากลองเปลี่ยนสถานที่ฮันนีมูนบ้าง… ริมทะเลก็ไม่เลว… อะ โอ๊ย!! ชอบแบบซาดิสหรือเรา” ก็นอนรูปเล่นแผงขนหน้าอกของผมอยู่ดีๆ พอบอกอยากเปลี่ยนที่นิ้วเรียวก็ฉกวาบหยิกเข้าที่หัวนมผมหนึ่งที… ไอ้เจ็บมันก็แปลบๆ อยู่เหมือนกัน แต่มันดันรู้สึกดีมากกว่าน่ะสิ… หรือกูมาโซคิสวะเนี่ย!
“ตลกและ… ไปทำงานไม่ใช่เหรอ พี่ภพก็ยังอุตส่าห์คิดเรื่องแบบนี้ได้อีก แถมคนก็เยอะแยะ พี่รินก็ต้องลงไป ยังไงพี่ภพก็ต้องนอนกับพี่รินอยู่ดี” คนที่ประทุษร้ายหัวนมผมเมื่อสักครู่เปลี่ยนกลับมาเป็นลูบเล่นเบาๆ เหมือนจะเป็นการปลอบ แต่หนูจ๋า อย่าปลอบพี่แบบนี้เลย ปล่อยให้พี่เจ็บตายไปซะ ทำแบบนี้ทรมานกว่ากันเยอะ…
“งั้นก็นอนห้องเดียวกัน สามคนผัวเมีย… โอ๊ย!!” คราวนี้บิดแรงกว่าเดิม ตาย… ขืนอยู่ด้วยกันอีกหน่อย หัวนมผมต้องขาดแน่ๆ ถ้าพูดอะไรผิดหูคุณชายเขา
“พี่ภพทำเป็นเล่นไปได้ คิดถึงตามหลักความจริงสิ รันเป็นลูกชายเจ้าของโรงแรมนะ รันจะต้องประหยัดห้องไปนอนเบียดกับพี่สาวและพี่เขยทำไม… แล้วถามหน่อย ถ้ารันเข้าไปนอนด้วยจริงๆ พี่ภพจะวางแผนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของเราโชว์พี่รินหรือไง พี่รินคงตบพี่จนกว่าเลือดจะกลบปากแน่ๆ” เออ…ก็จริง
“แต่… มันมีห้องพูล วิลล่า แต่ละหลังค่อนข้างจะกว้างและส่วนตัว ก็ถ้าเราอยู่หลังที่ใกล้ๆ กัน แล้วให้พวกพี่ๆ ทีมงานคนอื่นนอนโซนโฮเทล ก็คงไม่มีใครสงสัย ถ้าหากพี่ภพ จะเข้ามา… ว่ายน้ำเล่นในห้องของรัน!” ฟิน นา เล่! มีเมียฉลาดชาติเจริญจริงๆ เลยกู น้องเองก็คงอยากดื่มน้ำผม เอ๊ยน้ำผึ้งพระจันทร์กับผมเหมือนกันสินะ หึหึ เสร็จโจร!
“งั้นพี่ไม่เอาชุดว่ายน้ำไปนะ… เพราะยังไงก็สระส่วนตั๊วส่วนตัว” แก้ผ้าเอากันในสระท่าจะดี… เฮ้ย กูคิดไปไกลแล้ว ไปทำงานๆ ท่องไว้ไอ้ภพ
“ทะลึ่งเกินไปและ… หน้าไม่อาย” คนที่ว่าผมหน้าไม่อาย กำลังลงจากเตียงด้วยร่างเปลือยเปล่ายั่วสายตา ผมค่อยๆ มองตามร่างโค้งเว้า ที่บางมุมก็มีความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ แต่ความผาย และกลมกลึง ของบั้นท้ายมันช่างดึงจิตใจฝ่ายต่ำให้คิดแต่อยากจะกระโจนเข้าขย่ำให้หนำใจอยู่ตลอดเวลา
“ไม่ต้องมองเลย… ไม่เบิ้ลแล้วนะ พรุ่งนี้ทำงานไม่ใช่เหรอ… ถ้าพี่ภพต่ออีกรอบ รันจะวิ่งหนีไปนอนกับพี่ริน” พอเจ้าของบั้นท้ายกระชากใจเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็ดับฝันผมทั้งเสียงและสายตา น้องเดินออกมาพร้อมกางเกงนอนผ้าฝ้ายขายาวกับเสื้อกล้ามตัวที่เห็นจนชินตา… เออ ก็ได้วะ ยังมีเวลาฟัดกันอีกนาน นอนดึกตื่นเช้าความดันจะเล่นงานเอา… อะ กูแสดงความคิดในใจเหมือนคนแก่ไปได้ยังไงวะ
..…………………………
…………………………..
(ต่อข้างล่างค่ะ)