มาแล้วสำหรับตอนพิเศษตอนต่อจากหน้าโน้นนนน! ฮาๆๆ
สามวันผ่านไปแล้วครับ ไวเหมือนโกหกนับตั้งแต่ความทรงจำของผมได้จารึกคนชื่อวัชเอาไว้ในสมอง ไม่รู้ทำไมผมถึเฝ้าแต่นึกถึงพี่วัช แม้กระทั่งตอนซ้อมจนผมไม่มีสมาธิ แต่นับจากวันนั้นผมก็ไม่ได้เห็นพี่วัชเลยครับหรือเพราะผมไม่ได้สังเกตก็ไม่ทราบ แต่ก็ดีแล้วครับ....ผมจะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่าน แต่รู้มั้ยครับว่าทุกเย็นที่ผมมาซ้อมและฝึกเสร็จผมจะไม่เคยนอนหลับเล่นในห้องนี้อีกเลย....มันเหมือนตราบาปติดอยู่ในใจอะไรสักอย่าง =_=;
“ยูวันนี้พี่ต้องกลับก่อนนะ”พี่ต้นมาสะกิดบอกผมครับในขณะที่ผมมานั่งอ้อยอิ่งอยู่หน้าห้องฝึกที่เป็นระเบียงไม้ปาเก้ยื่นออกมาซึ่งข้างหน้าก็เป็นสวนหย่อมเล็กๆ สไตล์ญี่ปุ่นจ๋าเลยครับ
“ไม่เป็นไรครับพี่ ผมอีกสักครู่คงจะกลับแล้วเหมือนกัน”
“งั้นพี่ไปก่อนนะ ^^”
“ครับพี่!”
“นี่ยูห้องยูโดรึเปล่า?”จู่ๆ ก็มีคนมาสะกิดผมอีกแล้วครับ แต่คนที่มาผมคุ้นหน้าแต่ไม่รู้ชื้อครับ คงเพราะเรียนคนละห้องกัน
“ใช่ครับมีอะไรเหรอ?”
“ครูฝึกบอกมีคนมาหา รออยู่ที่ห้องรับรองแขกน่ะ”ผมได้ยินเท่านั้นก็สงสัยครับว่าใครจะมาหาผม แต่ที่ผมมาที่นี่เพื่อนผมที่โรงเรียนก็ทราบนะครับ แต่จะให้เดาผมเดาไม่ออกหรอกครับว่าเป็นใคร
“มาแล้วครับ”ผมเดินเข้าห้องรับรองแขกก่อนจะชะเง้อคอมองหาว่าใครกันที่มาหาผม และผมก็เห็นแล้วครับถึงกับยิ้มแก้มตุ่ยเมื่อคนที่มาหาทำเอาผมดีใจ
“ฉันมาหานายคิดว่าจะไม่เจอซะแล้ว”ว่าแล้วเพื่อนผมก็กระโจนเข้ากอดผมครับ แต่กอบแบบเพื่อนน่ะครับตามธรรมเนี่ยม แต่ว่าเพื่อนผมไม่ได้มาคนเดียวแต่มากับผู้ชายอีกคนที่หล่อมากครับ แต่เสียอย่างเดียวเค้าทำหน้าดุใส่ผมตอนที่เพื่อนผมกอดผม
“เฮ้ยเดย์! ฉันแปลกใจมากนะที่นายมาหาเนี่ย”เดย์เพื่อนผมเองครับมันหน้าตาน่ารักเอาการเลยล่ะ คงไม่ต้องบอกว่าผู้ชายที่ยืนเป็นเงามือด้านหลังนั่นเป็นใครผมพอจะเดาได้จากที่เดย์มันเล่าให้ผมฟัง
“พอดีมาที่นี่เลยนึกได้ว่านายเรียนอยู่ที่นี่น่ะ แปลกใจเหมือนกันว่าบังเอิญขนาดนี่ได้ไง”จากเท่าที่ผมสังเกต เดย์มันดูมีความสุขขึ้นครับ เพื่อนมีความสุขแบบนี้ผมก็ดีใจ
“ไม่แนะนำให้ฉันรู้จักคนๆ นั้นหน่อยเหรอ”ผมกระซิบกระซาบให้เดย์รู้
“แหะๆ ลืมบอกไป....นี่พี่ทิวานะยู”
“ฉันเป็นแฟนเพื่อนนาย.....”ใจกล้าและมันใจสมกับหน้าตามากครับ ทำเอาผมอึ้งไปเล็กน้อยเลยสำหรับผู้ชายคนนี้
“ผมชื่อยูครับเป็นเพื่อนเดย์ตั้งแต่มัธยมต้นแล้ว ยินดีที่รู้จักครับ”
“นายไม่ได้คิดอะไรกับไอ้เดย์ใช่มั้ย?”อยู่ๆ พี่ทิวาก็ยิงคำถามแปลกๆ ใส่ผมครับ ทำเอาผมอึ้งไปสามวินาที
“พี่ทิวาครับพูดอะไรน่ะ นั่นมันเพื่อนผมนะ....ถามคำถามที่มันสร้างสรรค์กว่านี้ไม่ได้เหรอครับ”เดย์หันไปค้อนใส่พี่ทิวา เล่นเอาผมทำตัวไม่ถูกเลยครับ
“ก็กรูอยากรู้ ถามไปตรงๆ ไม่ได้รึไงวะ”
“ก็ผมเพิ่งบอกพี่นี่ครับว่าเราเป็นเพื่อนกัน”
“แล้วเมื่อกี้มึงไปกอดมันทำไมวะ กอดกรูคนเดียวไม่พอรึไง”
“พี่ครับ!”
“เอ่อ....ผมเป็นเพื่อนเดย์นะครับ เรื่องนอกจากนี้ไม่มีหรอกครับพี่”ผมยิ้มเจื่อนๆ ให้พี่ทิวาและเดย์อย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูกครับ สองคนนี้กำลังทำให้ผมจิตนาการล้ำเลิศครับ เหอะๆ
“มากันแล้วเหรอวะเร็วจริงๆ ว่ะ!”
“เออ! กรูรีบแต่มึงเสือกช้านะ - -”พี่ทิวากำลังทักใครสักคนที่เข้ามาใหม่ครับ
“สวัสดีครับพี่วัช”เท่านั้นล่ะครับผมถึงกับหันไปมองดูคนอีกคนถึงกับตกใจสะดุ้งครับ นั่นพี่วัชนี่ครับ รู้จักกับทุกคนที่อยู่ตรงนี้เหรอครับ ละแล้วก็เดย์ด้วยงั้นเหรอ
“พี่วัชครับผมจะแนะนำเพื่อนผมให้รู้จักครับเรียนอยู่ที่นี่ด้วยล่ะครับ.....นี่ยูครับเพื่อนผมเรียนห้องเดียวกันสนิทกันด้วยครับ ^^”ผมมองพี่วัชด้วยท่าทางมึนๆ ครับ พี่วัชก็ยิ้มๆ เหมือนแปลกใจเช่นกัน
“สะสวัสดีครับ”ผมก้มทักทายพี่วัชทำตัวไม่ถูกเลยครับ จะเอายังไงดี
“โลกกลมจริงๆ ไม่คิดว่านายเป็นเพื่อนกับน้องเดย์ด้วย แต่สองคนนี้ฉันคงไม่ปฏิเสธล่ะว่าเพื่อนกัน”พี่วัชพูด
“พี่วัชรู้จักเพื่อนผมด้วยเหรอครับ?”
“อื้มรู้จัก ^^”
“งั้นก็ดีเลยครับเราไปกินข้าวด้วยกันหมดนี่เลยนะครับ”
“เอาสิ”
“ไม่ถามกรูหน่อยรึไงห๊ะ”
“ผมรู้ครับว่าพี่ทิวาตกลง ใช่มั้ยครับ”
แล้วอีกคนที่ต้องถามคือผมไม่ใช่เหรอครับ ทำไมไม่ถามผมบ้าง บอกตรงๆ ผมรู้สึกอายครับที่อยู่ต่อหน้าพี่วัชแบบนี้ ครั้งก่อนที่ผมค้างที่นี่ผมก็รีบออกไปแต่เช้าตอนที่พี่วัชยังหลับอยู่แถมไม่ได้บอกเอาไว้ด้วย แอบเสียมารยาทไว้ตอนนี้เลยรู้สึกแปลกๆ เหมือนจะเข้าหน้าไม่ติดครับ
“ขอบคุณมากนะครับที่เลี้ยง”ผมขอบคุณรอบโต๊ะครับเพราะมื้อนี่กินฟรีเห็นๆ
“ไม่เป็นไรหรอกยูพี่วัชเต็มใจอยู่แล้ว ใช่มั้ยครับ”
“อื้ม...มาทานกันหลายคนมันก็อร่อยขึ้นอีก ขาดไอ้สองตัวนั่นอีกสองมาครบคงจะกินไม่ลง”
“งั้นก็กลับเถอะกรูอยากกลับบ้านแล้ว”พี่ทิวาลุกพรวดลากแขนเดย์ออกไปเลยครับ แต่เดย์ก็รั้งไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวสิครับพี่ทิวา ผมยังคุยกับยูไม่เสร็จเลยนะครับ”
“ค่อยไปเสร็จกับกรูที่บ้านก็ได้....”
พะพูดแบบนั้น...ได้ด้วยเหรอครับคนๆ นี้ (O////o)
“เอ่อ...เดย์ นายกลับก่อนเถอะเดี๋ยวเรากลับเองได้ไม่เป็นไร”
“ขอโทษด้วยนะ งั้นฉันกลับก่อนแล้วกัน พี่ทิวาครับฝากยูด้วยนะครับบ้านยูอยู่ไกลจากที่นี่”ว่าแล้วเดย์ก็ถูกพี่ของมันลากไปแล้วครับ ผมรู้สึกช๊อคหน่อยๆ กับพี่ทิวาคนนี้จริงๆ มันทำให้ผมรู้ว่าอะไรก็เป็นไปได้ครับ
“จะกลับเลยรึเปล่าพี่จะไปส่ง”
“ไม่เป็นไรหรอกครับผมกลับเองได้ รบกวนพี่วัชเปล่า”จริงๆ ผมไม่อยากอยู่สองต่อสองกับพี่วัชครับ กลับคนเดียวจะง่ายกว่าเยอะ
“ไม่เป็นไรพี่รับปากเดย์ไว้แล้ว และถ้ายูกลับคนเดียวพี่รู้สึกผิดจริงๆ ด้วย”พี่วัชมองผมหน้านิ่ง นั่นทำให้ผมรู้สึกกดดันทันทีเลยครับ สีหน้าแบบนั้นผมมองไม่ออกจริงๆ ครับว่าคนตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่ คงมีแต่ผมนี่ล่ะครับที่แสดงออกทางสีหน้าซะมากกว่าคำพูด ถึงแม้จะพยายามปกปิดแค่ไหนก็ตามที....มันเป็นเรื่องที่แย่มากครับสำหรับผม
“ก็ได้ครับ....งั้นผมรบกวนด้วยครับ”ผมก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนตรงหน้าครับ ยิ่งอยู่ใกล้ใจมันยิ่งเต้นแรง
“บ้านอยู่แถวนี้เหรอไม่ยักจะรู้”ตลอดทางพี่วัชพูดกับผม มีแต่ผมนี่แหละครับที่ถามคำตอบคำ ไม่ได้ตั้งใจจะรังเกียจหรืออะไรทั้งนั้นล่ะครับ แต่ผมพูดอะไรไม่ออกจริงๆ
“ครับ...จริงๆ แล้วผมอยู่อพาทเม้นที่เช้าไว้น่ะครับ”
“งั้นเหรอ แล้วตอนเย็นๆ ยูกลับบ้านคนเดียวเหรอ?”
“ครับ”
“ที่ห้องคงอยู่กันหลายคนสินะ”
“ผมอยู่คนเดียวน่ะครับ”
“ไม่เหงาแย่หรอกเหรออยู่คนเดียวแบบนั้น”
“ไม่หรอกครับ”
“พี่เห็นยูชอบอยู่ซ้อมคนเดียวตอนเย็นๆ บ่อยๆ ก็คิดว่ายูขยันดี แถมเคยได้ยินจากคุณชินว่ายูตั้งใจจะไปแข่งระดับเขต เพราะงั้นเลยชอบซ้อมหนักอยู่คนเดียว มันก็เป็นเรื่องดีนะที่เราขยัน....แต่อย่าลืมเอาเวลาไปพักผ่อนบ้างนะเดี๋ยวจะไม่สบาย”
ยิ่งพี่วัชพูดเหมือนแสดงความเป็นห่วงผม เหมือนจับตาดูผมมาตลอดมันยิ่งทำให้ผมทำตัวไม่ถูกครับ ผมชักจะคิดไปเองว่าพี่วัชเป็นห่วงผมจริงๆ มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกครับที่ผมคิดเพ้อไปเอง......แต่มีอีกหลายอย่างที่ผมพยายามห้ามใจ
“..........”
“ถ้ายูคิดว่ามีอะไรที่อยากให้พี่ช่วยล่ะก็บอกได้ พี่ชอบนะคนที่พยายามทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างอุตสาหะไม่ยอมแพ้ ยูก็อายุยังน้อยแต่ทำได้ถึงขนาดนี้พี่ล่ะยอมแพ้จริงๆ”
“แกล้งชมผมเล่นเหรอครับ....”
“แกล้งอะไรกันพี่พูดเรื่องจริงนะ ทั้งเรื่องการทุ่มเทให้กับสิ่งที่ตัวเองรัก และเรียนไปด้วยพี่คิดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่คนอื่นหรือใครๆ ก็ทำได้”
“..........”
ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปผมอาจทนไม่ไหวแน่ๆ ครับ >_<
“อาจเพราะเป็นยูก็ได้มั้ง ถึงได้ทำทุกอย่างได้ดีแบบนี้”
ทำไมครับ...ทำไมถึงต้องปากหวานกับผมถึงขนาดนี้ มันทำให้ผมหวังเรื่องลมๆ แล้งๆ ที่ไม่สามารถเป็นไปได้ ยิ่งอยู่ใกล้คนๆ นี้มันยิ่งทำให้ผมควบคุมความรู้สึกของตัวเองแทบไม่อยู่....ผมกำลังคิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้.....
ผมคงจะหลงคนๆ นี่ซะแล้วสิครับ ทำไงดี!
“..........”
“ถ้าเป็นไปได้....ว่างๆ ฉันจะเทรนนายให้เองเอามั้ย ถึงฉันจะดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ก็นะ แต่ตั้งแต่เด็กฉันก็ถูกฝึกมาหนักเหมือนกัน”
“..........”
“เป็นนายล่ะก็คงจะเก่งขึ้นได้ง่ายๆ เพราะความพยายามของนายแน่ๆ”
พี่วัชชมผมจนมากเกินไปแล้วล่ะครับ มันทำให้ผมรู้สึกว่ารอบๆ ตัวผมมันอื้ออึงไปหมดจนได้ยินเพียงเสียงพี่วัชคนเดียว
อยากจะสัมผัสคนๆ นี้ อยากรู้สึกครับว่าจะทำให้ผมรู้สึกยังไงกันแน่.....ผมคงบ้าไปแล้วที่คิดเรื่องน่าอายแบบนั้น >/////<
......หน้าผมมันร้อนผ่าไปหมด มันคงแดงจนแทบจะเหมือนถูกสีสาดใส่เลยแน่ๆ
“ยูเป็นอะไรรึเปล่า?”
ทำยังไงดี ถ้าเกิดความคิดของผมมันถูกล่วงรู้ขึ้นมาล่ะจะทำยังไงดี
“ยู! บ้านนายอยู่ที่นี่ใช่รึเปล่าถึงแล้วนะ ฉันจะขับไปต่อถ้าไม่ได้หมายถึงที่นี่”
ผมกำลังคิดเรื่องไม่ดีพวกนี้ได้ยังไงกัน!
“..........”
“ยูนาย......”
“อะ....อะไรเหรอครับ มีอะไร.....อุบ”
ผมกำลังเหม่อและผมไม่รู้ว่าพี่วัชกำลังพูดอะไรไปบ้าง แต่ทันทีที่ผมได้สติกับเสียงเรียกที่แล่นเข้าหูผมเท่านั่นล่ะครับ พี่วัชก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้ผมที่เพิ่งจะหายเหม่อแล้วเข้าประกบริมรีปากเข้ากับผมแนบนิ่งและเนิ่นนาน.....ผมเปิกตากว้างอย่างตกใจรับรู้ถึงไออุ่นจากลมหายใจที่รดรินอยู่ตรงหน้าที่บ่อบอกผมว่าทุกอย่างคือความจริง ไม่ใช่ผมคิดไปเอง
ตึกตัก ตึกตัก!
แต่ทำไม....พี่วัชถึงทำแบบนั้นกับผมล่ะ ทะทำไม่กัน!
“..........พะพี่ครับ....”ตาผมยังคงเปิดกว้างพร้อมเสียงหัวใจที่เต้นรัว
“ฉันขอโทษ.....ฉันเห็นนายแล้วไม่รู้ทำไมถึง......”
“ถะถึงห้องของผมแล้วผมต้องขอตัวไปก่อนนะครับ ขอบคุณมื้อเย็นนะครับที่เลี้ยง”ผมไม่รอให้พี่วัชพูดอะไรทั้งนั้นครับ เหตุผลที่พี่วัชทำแบบนั้นผมไม่ได้อยากรู้หรอกครับ อาจแค่เผลอหรือเพราะอะไร
แต่ผม....แต่ผมก็ยังรู้สึกดีใจ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะทั้งที่มันเป็นเรื่องที่น่าอายและน่าตกใจซะด้วยซ้ำ!!!!!
:z13:นักอ่านทิ้งท้าย
ท่าทางตอนพิเศษตองนี้ยังไม่จบแฮะ ฮาๆๆๆ แอบยาวจนตกใจตัวเอง
อาจเพราะเป็นแรกพบสบตากันของตัวละครอีกคู่หนึ่ง
ข้าพเจ้าเลยคิดว่าถ้าจะจบในสองตอนมันคงใจด่วนกันเกินไปแล้ว(สร้างบ่วงให้ตัวเองอีกตอนจนได้ >_<;; )
แต่ยังไงก็ยินดีจะโดนบ่วงรัดคอ ฮาๆๆ เพื่อนักอ่านทุกท่าน แต่อีกไม่นานจะโดนนักอ่านรัดคอมากกว่าบ่วง
เพราะท่าทางไนท์กับกรณ์เป็นเหตุ เอิ๊กๆ คู่นี่แสบกันสองคนไม่พอ สะเทือนมาถึงคนแต่งให้ต้องร้อนใจอีกแล้ว
หลายท่านยังติดใจกันอยู่ประมาณ 99.999999% ฮาๆๆๆ
(เว่อร์อีกแล้ว)
จะเอายังไงดีล่ะที่นี้.......
เอาแบบนี้มั้ยฮับนักอ่านที่รักทุกท่าน ไว้เสร็จคู่พี่วัชแล้วจะเพิ่มตอนพิเศษคู่กรณีคู่นั้นให้ก็แล้วกันนะฮับ ^^
แต่ไม่สัญญาว่าจะลงแบบจ่อตูดจากตอนนี้เลย เพราะยังไงซะภาระทางโลกก็ยังมีตารางงานหนักหนาสาหัสอยู่มาก
เพื่อเป็นกำลังใจให้คนแต่งผู้นี้....ก็เซ่นรีพลายงามๆ (เราไม่เอาน้ำแดงหรือหัวหมู,ไข่ต้ม)มาแทนของบรรณาการแล้วกันนะฮับ
ปล. ขอบคุณสำหรับกำลังใจเสมอมานะฮับที่ทำให้เกิดเรื่องดีๆ ขึ้น ^^
การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า.....แต่ข้าพเจ้ารักคุณเท่าจักรวาล
(ปากหวานทิ้งท้าย 5555++)