ตอนที่ 31สภาวะหลังศึกสงบ
“จะกินอะไรหน่อยมั้ย เดี๋ยวพี่เอาให้”
“..........”
“ผลไม้ล่ะ ส้มก็เห็นมีอยู่ หรือจะเอาแอบเปิ้ล”
“พี่กรณ์ครับ.........”
“อะไรเหรอ?”
“คิดว่าพี่ไนท์จะพูดอะไรกับพี่ทิวาเหรอครับ”
“จะไปรู้หมอนั่นได้ไงล่ะ.....”แผละ....เสียงส้มในมือพี่กรณ์ที่ทำท่าจะปอกให้ผมถูกกำซะเละไม้เหลือเค้าความเป็นส้มเลยครับ“อ่ะ! ขอโทษทีมือพี่หนักไปหน่อย เหอะๆ”
“ไม่เป็นไรครับผมไม่อยากทานอะไรเลย”ผมมองเหม่อออกไปทางหน้าต่างห้องก่อนที่สายลมเย็นๆ จะผัดลอดช่องระหว่างประตูที่ปิดไม่สนิทเข้ามา
นานจังเลนครับ.....ทำไมพี่ไนท์ถึงยังไม่กลับมา ท่าทางจริงจังแบบนั้นต้องมีเรื่องสำคัญแน่ๆ เรื่องของผมรึเปล่านะ
“น้องเดย์.....อย่าคิดมากเลยนะ พี่คิดว่าไอ้สองคนนั่นไม่ทำอะไรที่มันรุนแรงหรอก.....ถึงอีกฝ่ายจะเป็นหมอนั่นก็ตาม”มือพี่กรณ์วางทาบบนบ่าผมให้กำลังใจแต่สีหน้าเหมือนผมเองต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายปลอบพี่กรณ์
“อึ้มๆ! เอาล่ะกรูจะไม่พูดอะไรให้มันยืดเยื้อ”ชายร่างสูงสีหน้าประหม่ากำลังรวบรวมสมาธิและสติเข้าด้วยกัน สายตาที่กวาดมองรอบๆ ห้องพยายามหยุดอยู่ที่คนตรงหน้าซึ่งนั่งพิงพนักเตียงที่ปรับขึ้นให้สบายตัว อีกฝ่ายที่เป็นผู้รับฟังนิ่งสงบมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยแววตานิ่งงัน
“อืม.....”
“ขอบคุณ!”
“หืม! อะไรของมึง?”
“ก็กรูพูดว่าของคุณไงเล่าอย่ามาทำเป็นหูหนวกตอนนี้จะได้มั้ยวะ! รู้ซะด้วยว่ามันยากที่จะได้ยินคำพวกนั้นออกมาจากปากคนอย่างกรูนะ เหอะ!”
“หึ! ไม่จำเป็นหรอก....คนอย่างกรูก็ไม่ได้อยากได้ยินคำพวกนี้จากปากมึงเหมือนกัน”
“ไอ้ทิวา!”
“เสียงดังนะมึงไอ้ไนท์”
“อย่ามากวนตีนกรูตอนนี้จะได้มั้ยวะ! อึ๊ย!......เอาล่ะประเด็นสำคัญไม่ใช่เรื่องนั้น กรูมีสิ่งที่สำคัญกว่าอยากจะพูดกับมึงตัวต่อตัว แบบตรงไปตรงมาอย่างลูกผู้ชาย”ไนท์ลากเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุดเข้ามาหาตัวก่อนจะนั่งลงแต่ยังคงทิ้งระยะห่างระหว่างอีกฝ่ายเอาไว้
“เรื่องอะไรก็พูดมากรูพร้อมเสมอ”
“เรื่องเดย์........มึงคิดยังไงกับน้องกรู”สีหน้าไนท์เปลี่ยนไป เมื่อดวงตาคู่คมสบตาคนตรงหน้าอย่างไม่กระพริบด้วยความจริงจัง จากคำถามดังกล่าวถึงกับทำให้ทิวาแปลกใจ.....ทิวาไม่ได้แปลกใจที่ถูกถามคำถามนั้น แต่แปลกใจที่คำถามนั้นหลุดออกมาจากปากไนท์ที่ทำท่าเคร่งเครียดแบบนั้นต่างหาก
“.....ยอมได้ เจ็บได้ ตายแทนได้แค่นี้ยังตอบคำถามมึงไม่ได้อีกรึไง กรูบอกตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วไงว่ากรู‘รักเดย์’และถึงตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง มันมากกว่าแค่การหลงใหล มากกว่าการลุ่มหลง แต่เป็นการยอมรับคนอีกคนหนึ่งให้เข้ามาในชีวิตนี้โดยไม่มีเงื่อนไขแลกเปลี่ยน.....”
“.......อย่างนั้นสินะ หึ!”สีหน้าที่เคร่งเครียดของไนท์เปลี่ยนเป็นกระตุกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนใบหน้านั่นจะก้มงุดมองฝ่ามือที่ประสานกันอยู่ของตัวเองอย่างใช้ความคิด“.....แล้วถ้าเกิด....กรูบอกว่าเรื่องนี้คงจะเป็นไปไม่ได้ล่ะมึงจะว่าไง”น้ำเสียงที่เย็นเยือกราวน้ำแข็งกระแทกลงกลางอกของทิวาถึงกับทำให้เจ้าตัวสะอึก
“เป็นไปไม่ได้งั้นเหรอ หึๆ......กรูก็จะซัดคำพวกนี้ให้คว่ำซะ! เพราะสำหรับกรู......มีแต่ความเป็นไปได้ทั้งนั้น!”เสียงหัวเราะหงึกๆ ในลำคอทำให้ท่าทีของไนท์มองทิวาอย่างจำนน
“มึงนี่หัวแข็งไม่เบาเลยนี่ ถ้ายืนยันแบบนั้นล่ะก็...............ฝากดูแลน้องกรูด้วยก็แล้วกัน กรูจะเชื่อมึงสักครั้งว่ามึงจะดูแลน้องกรูได้ อาจจะดีกว่าคนเป็นพี่อย่างกรูซะอีก แต่ถ้ามึงทำน้องกรูเสียใจวันไหนกรูจะมาทวงน้องของกรูคืน.....และมึง.....จะไม่ได้เจอน้องกรูอีกตลอดชาติ! กรูอาจเป็นพี่ที่ใจร้ายใจดำอย่างที่มึงเห็น แต่เพราะเดย์เป็นคนสำคัญในครอบครัวเรา พี่อย่างกรูก็ต้องหาทางที่จะปกป้องให้ถึงที่สุดมึงคงเข้าใจ อนาคตมึงจะยังไงก็ตามแต่ กรูไม่ได้คาดหวังว่ามึงกับน้องกรูจะรักกันตลอดอยู่แล้ว นี้อาจเป็นความรู้สึกดีๆ ครั้งแรกที่เดย์มีให้มึง หากความรู้สึกนี้ขาดลงวันไหน ขอให้ปล่อยน้องกรูไปซะ.....อย่าเป็นมารขวางชีวิตกรูขอเท่านี้ นี่อาจเป็นสัญญาลมปากแต่มึงจะรับปากให้กรูได้มั้ย”
“ถึงกรูจะไม่ใช่คนดีอะไร.....แต่กรูก็ขอรับปากมึงอย่างลูกผู้ชายเหมือนกัน”
“ก็ดี อย่ามาผิดสัญญาภายหลังแล้วกัน ไม่อย่างนั้นมึงตายแน่ ^^”
“ขู่กันรึไงวะ - -”
“คนอย่างกรูขู่ใครไม่เป็นหรอกนะ.....ถึงมึงไม่ตาย...ตอนนั้นมึงก็อาจจะเสียใจตายไปเองก็ได้”รอยยิ้มที่อาบไปด้วยยาพิษของไนท์ถึงกับทำให้ทิวารู้สึกได้ว่ามันอันตรายจริงๆ
“หึ!......ก็ได้กรูยอมตาย ถ้ากรูผิดสัญญา”
“หมดเรื่องของกรูแล้ว....รักน้องกรูให้เท่ากับที่กรูรักได้ก็ดี เพราะมึงไม่มีทางเทียบความรักพี่น้องอย่างกรูได้ติดฝุ่นอยู่แล้ว”
.....พี่ที่ชอบเพ้อเจ้อและขี้โม้อย่างมึงเนี่ยกรูไม่อยากจะเทียบจริงๆ ให้กรูเป็นอย่างไอ้ไนท์กรูขอยอมตายดีกว่า -_-;
“เอ๊อะ! กรูไม่คิดเทียบมึงหรอก”
“ก็นะ....กรูกับมึงมันคนละชั้นกันอยู่แล้ว”
“ไอ้ไนท์.....ถึงมึงจะเป็นพี่ที่ไม่ค่อยจะน่าเชื่อถือ.....แต่กรูรับปาก! กรูจะดูแลน้องมึงให้ดีกว่าพี่อย่างมึงเลย”สีหน้าจริงจังของทิวามองไนท์ที่ยืนอวดหุ่นสูงโปรงอยู่ข้างๆ ถึงกับทำให้ไนท์รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ในประโยคนั้นขึ้นมาทันที
“เชี่ย! มึงด่ากรูทางอ้อมว่ากรูเป็นพี่ที่ไม่เอาไหนเหรอวะ! พูดแบบนี้โทรไปจองศาลาตั้งศพมึงเลยดีกว่าไอ้ทิวา!
“กรูตายไปคนนึง ไม่สงสารน้องมึงรึไง”
“กวนตรีนรึไงมึง!!!!”ไนท์กัดฟันกรอดมองทิวาตาเป็นมัน ถ้าตัวเองสามารถกระโจนเข้าหักคอคนตรงหน้าได้เจ้าตัวก็คงทำไปแล้ว
“....ขอบใจมึงมากที่ไว้ใจกรู และขอบใจที่ให้โอกาส”
“กรูมันพี่ประเสริฐมึงไม่รู้รึไง เฮ๊อะ! กลับล่ะก่อนที่กรูจะเอาส้นตีนยัดปากมึงได้โค่ม่าอีกสักรอบ!”
“เดี๋ยว!”
“อะไรของมึงอีก!”
“ออกจากโรพยาบาลกรูอยากให้.............ได้มั้ยวะ”
“ถามกรูทำไม? ไอ้พวกได้วาจะเอาคืบ”
“หมายถึงได้คืบเอาศอกรึเปล่า...-_-; ”
เพล้ง! (หน้าแตก)
“ยะ..ยะอย่ามาโชว์ฟอร์มว่าตัวเองเก่งนะเฟ้ย! หุบปากไปเลยไอ้จิ้งจกเจ้าเล่ห์!!!!”
“จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ต่างหาก.....-O- ตกภาษาไทยเหรอมึงอ่ะ....”
“บอกให้หุบปากไงถ้ายังคิดถึงอนาคตตัวเองอยู่!!!!!!”
“ครับ คร้าบบบบบบ!!! หึๆ ^^”
ตอนนี้ผมกำลังไปรับพี่ทิวาที่โรงพยาบาลครับสี่วันมาแล้วที่พี่ทิวานอนอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะผมนอนพักฟื้นแค่สองวันเองครับเลยได้กลับบ้านก่อน อาจเพราะแผลพี่ทิวาที่โดนแทงคุณหมอเลยไม่อนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านตามอำเภอใจ แน่นอนครับว่าพอผมออกจากโรงพยาบาลพี่ทิวาก็จะออกด้วย ต่างคนต่างช่วยห้ามกันซะให้วุ่น ผมเลยสัญญาว่าจะมาเยี่ยมทุกวัน แล้วก็วันกลับก็จะมารับกลับด้วยครับ แถมพี่ไนท์ยังใจดีพาผมมาด้วยตัวเองเลย.....
“พี่ไนท์ครับสามสี่วันก่อนพี่ไปคุยอะไรกับพี่ทิวาไว้เหรอครับ....ผมถามตั้งหลายครั้งพี่ไม่ยอมบอกผมสักที”ผมก้มลงมองตะกร้าผลไม้ที่เตรียมไว้กับมืออย่างแก้เก้อ
“รู้ไปทำไม....ความลับน่ะ”
แต่ตอนนี้ผมเริ่มจะไม่อยากรู้แล้วล่ะครับในเมื่อทั้งสองฝ่ายรู้สึกจะเริ่มเข้าหากันได้แล้ว เจอหน้ากันก็ดูเหมือนจะไม่ทะเลาะกันแล้ว แต่เรื่องแขวะก็ยังมีบ้างประปรายครับ ถ้าพี่ทิวาไม่เจ็บอยู่พี่ไนท์คงไม่ออมแรงเรื่องฝีปากให้แน่ๆ เลยครับ
“แล้วเดี๋ยวพี่ไนท์จะไปไหนต่ออีกรึเปล่าครับ”
“ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ”
“ครับ....พี่ไนท์ครับเรื่องพี่กรณ์......”
“เราดีกันไม่มีอะไร.....”
“แต่ว่าเท่าที่ผมสังเกต”
“คิดมากไปเองน่ะ....บอกแล้วไงว่าเราตกลงเป็นเพื่อนกัน มีอะไรต้องกังวลกลุ่มใจเป็นคนแก่อีก”ผมจะเชื่อที่พี่ไนท์พูดได้จริงๆ เหรอครับเนี่ย แค่ผมเห็นมองหน้ากันก็แทบจะกลืนกินกันอยู่แล้วด้วยซ้ำไป คงมีแต่พี่ไนท์ล่ะมั้งครับที่พยายามเข้าหาอีกฝ่ายจนถูกขู่ฟ่อออกมา เห้อ~ วันสงบๆ จะอยู่ไปกับพวกเราแบบนี้อีกนานเท่าไหร่นะ.....
“มาช้าจนกรูนั่งรอเป็นตะคริวอยู่แล้วนะ”ผมเปิดประตูเข้ามาก็เจอกับพี่ดินพี่กรณ์พี่วัชอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยครับ หลายวันมานี่จะว่าไป ผมไม่เห็นพี่วัชกับพี่ดินเลยเหมือนกัน ท่าทางจะมีธุระล่ะมั้งครับ
“ขอโทษนะครับพอดีรถมันติดนิดหน่อย อ่ะ! นี่ครับผมเตรียมผลไม่ที่มีประโยชน์ไว้ทั้งนั้นเลยพี่ทิวาจะได้เอาไปกินไงครับ ถือเป็นการแสดงความยินดีที่ออกจากโรงพยาบาลด้วยเลย”
“อื้มขอบใจมึงมาก”
“ไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ยเดย์ ขอโทษนะที่พี่ไม่ได้มาเยี่ยมเลย พอจะมาเยี่ยมก็ออกไปซะแล้ว”พี่วัชพูดขึ้นพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่อบอุ่นนั่นให้ผม ผมยิ้มรับอย่างยินดี
“พี่ก็เหมือนกัน กะจะเอาดอกไม้มาเยี่ยมเลยเฉาเก้อเลยเนี่ยสิ”
“ขอโทษด้วยนะครับ”ผมคัมนับขอโทษพี่ๆ ทั้งสองคน
“ไม่ต้องไปขอโทษมันหรอก พวกมึงกลับไปได้แล้ว ไปขวางหูขวางตา!”
“เหอะ! พอพวกกรูหมดประโยชน์ก็โบกมือไล่อย่างกับหมูกับหมา เพื่อนเวรจริงนะมึง”พี่กรณ์ว่างพลางโยนสัมภาระใส่พี่ทิวา
“เฮ้ย! กรูเจ็บแผลอยู่นะเว้ยยิ่งยังไม่หายดี!”
“แม่ง!สำออย - -”
“พูดอะไรวะไอ้ดิน!”
“อย่ามาทะเลาะกันที่นี่ได้มั้ยวะนี่มันโรงพยาบาลนะเว้ย....ปวดหัวๆ กรูไปแล้ว”พี่วัชลุกขึ้นก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้“ไอ้ทิวา....มึงจะกลับกับเดย์ใช่มั้ย กรูได้ไปแล้วไปลับไม่ต้องรอ”
“เออ.....”
“จะกลับกันได้ยัง!”
“พี่ไนท์ครับพี่ทิวาจะกลับกับผมด้วย”พี่ไนท์มาพอดีครับผมเลยบอกเรื่องนี้ให้พี่ไนท์รู้ไว้ก่อน เพราะเดี๋ยวเกิดจลาจลย่อมๆ ขึ้นมาอีก
“อืม....ก็ได้”ปากพูดกับผมแต่ตาดันมองไปทางอื่น ถ้าผมสังเกตเห็นไม่ผิดเป้าหมายสายตาพี่ไนท์คือพี่กรณ์ครับที่กำลังคุยงุบงิบทำทีเป็นไม่สนใจอะไรอยู่กับพี่ดินที่ยิ้มเห่ยๆ อยู่ใกล้ๆ พี่วัช
“ประคองหน่อย กรูเดินเองไม่ไหว”
“เฮ้ย! ไอ้ทิวาเดินไม่ไหวช่วยกันหน่อย”
“ไอ้ดิน.....”พี่ทิวากัดฟันกรอดมองพี่ดินที่กำลังจะแสดงน้ำใจเข้ามาช่วย แต่ทว่าเหมือนถูกอะไรบางอย่างทำให้พฤติกรรมดังกล่าวชะงักกึก
“อ่า....งั้นกรูกลับก่อนแล้วกัน แหะๆ”ผมมองอย่างไม่เข้าใจครับก่อนจะหันไปสบตากับพี่ทิวาที่จ้องผมเขม่นอย่างกับจะสะกดจิตยังไงอย่างงั้นแหละครับ
“ประคอง.....กรูหน่อย”
“ผมช่วยแล้วกันครับ...”ผมวิ่งเข้าไปช่วยพยุงพี่ทิวาที่นั่งอยู่ตรงของเตียงแต่พอเข้าไปปั๊บตัวของผมก็เสมือนถูกดูดติดกับพี่ทิวาทันที ก็เพราะพี่ทิวาน่ะสิครับที่รวบผมเข้าไปใกล้ถึงขนาดนี้
“ทำแบบนี้แล้วผมจะช่วยประคองได้ยังไงล่ะครับพี่ทิวา....”ดวงตากลมโตของผมเปิดกว้างไม่เข้าใจความต้องการที่มันซับซ้อนนี่จริงๆ ครับ ดูไปดูมาเหมือนพี่ทิวาจะพยุงผมซะมากกว่า
“แบบนี้ล่ะดีแล้ว จะได้อยู่ใกล้ๆ กัน....แค่นี้กรูก็แทบวิ่งได้แล้ว”
“พะพูดอะไรอย่างนั้นครับพี่....”
อาการเขินที่ห่างหายไปพักนึงก็หวนกลับมาอีกแล้วครับ แต่ก็รู้สึกดีทุกครั้งเลยครับที่ตัวเองมีความรู้สึกสุขใจแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบที่หัวใจตัวเองเต้นเร็วรัวจนแทบคลั่งก็ตาม
“อย่าให้มากนักกรูยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ไม่เห็นรึไง”
“ขะขอโทษครับพี่แต่ผม....”ผมพยายามจะละช่วงระยะห่างระหว่างผมกับพี่ทิวาแต่ทว่าอีกฝ่ายกลับรัดผมแน่นเป็นงูจะเขมือบเหยื่อเลยครับ อาจจะเปรียบเทียบซะน่ากลัวแต่ของจริงน่ากลัวไม่แพ้กันเลยครับ ยิ่งเห็นสีหน้าแสนมีความสุขสุดๆ ของพี่ทิวาแล้วความกลัวของผมก็เริ่มมาเยือนตงิดๆ เลยครับ
“ตัวอุ่นไอรักแบบนี้ กรูอยากจะกอดมานานแล้ว....โคตรคิดถึง”แต่เราเพิ่งเจอกันล่าสุดก็เมื่อคืนเองนะครับ -*-
“ไอ้ทิวา!!!!”
“ยะอย่าเพิ่งทะเลาะกันนะครับผมขอร้อง.....”
เหนื่อยครับ....เหนื่อยทั้งกายและใจ เพราะพี่ทิวาที่เล่นไม่เห็นหัวใครแบบนี้ แม้กระทั่งพี่ไนท์ที่ยืนขู่อยู่......ผมว่าอีกไม่นานพี่ทิวาหายดีเมื่อไหร่คงมีมวยสดแน่นอนเลยครับ เห้อ เห้อ เห้ออออ....จะถอนหายใจสักกี่รอบก็ไม่หายสักที
“นิ่มจัง....”
“พี่ทิวา! จะ..จะจับตรงไหนของพี่กันครับเนี้ย! O////O”ผมถึงกับสะดุ้งครับที่จู่ๆ พี่ทิวาก็เผลอเอามือไปจับๆ ลูบๆ ที่ก้นผม
“มึงอยากเป็นศพตอนนี้เลยใช่มั้ยห๊ะไอ้บ้า!!!!!!!”ผมเห็นแล้วครับ หมัดแน่นๆ ที่แอบอยู่ข้างๆ ลำตัวพี่ไนท์ นี่เหรอครับที่พี่ทิวาต้องการ....
ตอนนี้ผมกับพี่ไนท์เราก็พาพี่ทิวามาถึงบ้านแล้วครับ ดูเหมือนว่าคนในบ้านจะออกมาต้อนรับกันหลายคนเลยรวมถึงป้าแม่บ้านด้วยครับ แต่ผมก็ไม่ได้เห็นคุณลุงอยู่ดีครับ ผมได้ยินข่าวแว่วๆ ว่าคุณลุงไปต่างประเทศในช่วงที่ให้พี่ทิวาบริหารงานแทน นั่นอาจเป็นสาเหตุที่คุณลุงไม่มาเยี่ยมพี่ทิวาที่โรงพยาบาลเลย หรืออาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกชายตัวเองเข้าโรงพยาบาล.....
“ขอบคุณมากครับ....ผมสบายดีครับป้าขอโทษนะครับที่ไปโดยไม่ได้ล่ำลา”
“ป้าคิดถึงมากเลยล่ะค่ะ ป้าจัดห้องทำความสะอาดไว้ให้ทุกวัน....คิดว่าคุณคงจะได้กลับมา”
“ระเหรอครับ แหะๆ”ผมคงบอกไม่ได้หรอกครับว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมถึงไม่ไดกลับมาที่นี่อีกหลังจากวันนั้น....แต่มันผ่านไปแล้วผมก็ไม่ควรคิดถึงมันอีก“ขอโทษครับที่ทำให้เป็นห่วง....”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ....ถ้าอย่างนั้นป้าขอตัวไปทำงานก่อนนะคะตั้งของไว้บนเตาเดี๋ยวจะไหม้ซะก่อน”
“เห้อ....ดูเหมือนว่าคนที่นี่จะรักมึงเข้าไส้มากกว่ากรูที่เป็นเจ้าของบ้านซะอีก”พี่ทิวาพูดขึ้นผมถึงกับแทบสำลักน้ำที่กำลังดื่ม
“คนดีๆ ใครก็อยากรัก คนไม่ดี ใครๆ ก็รังเกียจ มันเป็นระเบียบของโลก กฎของจักรวาล....มึงไม่รู้รึไงไอ้ทิวา ^^”พี่ไนท์นั่งกอดอกไขว่ห้างทำตัวสบายๆ พูดจาลอยๆ ออกมา
“กรูก็เพิ่งรู้เมื่อมึงพูดออกมานี่แหละ ขอบใจมากที่บอก....อ่ะ! ใกล้เวลาทานยาพักผ่อนแล้วสิเนี่ย”ท่าทางยโสเกาะจับตัวพี่ทิวาอย่างร้ายกาจ ก่อนที่พี่ทิวาจะยกข้อมมือมาดูนาฬิกาเรื่อนหรูที่ใจกลางตัวเรือนนาฬิกาฝังเพชรเม็ดงามเอาไว้ ผมเหลือบตามองนาฬิกาข้อมือของตัวเองดูบ้างแต่ว่า......ผมลืมไปเลยครับว่าตัวเองไม่ใส่นาฬิกาจึงต้องถามเอากับพี่ทิวา
“เที่ยงแล้วเหรอครับ......”
“อื้ม....เที่ยงแล้วก็กลับไปได้แล้ว จะพักผ่อน”ผมสะดุ้งตกใจเล็กน้อยครับที่พี่ทิวาพูดออกมาแบบนั้น จะบอกว่าเสียใจก็คงปฏิเสธไม่ได้หรอกครับ ผมเลยลุกขึ้นเตรียมจะกลับ
“จะจริงสินะครับ.......พี่ไนท์ครับ เรากลับกันเถอะครับพี่ทิวาจะได้พักผ่อน”
“อื้ม!”พี่ไนท์ลุกขึ้นผมก็เลยเดินจะออกมาจากโซฟาใกล้ๆ พี่ทิวาครับแต่ทว่า...
หมับ! พี่ทิวาเดินมาคว้าแขนผมไว้ซะก่อน
“คนที่กลับ.......ไอ้ไนท์ไม่ใช้มึง -O-”
“อะไรนะครับ!”
“ขอบคุณมึงมากที่มาส่ง นานๆ ครั้งมาเยี่ยมก็ได้นะไม่ต้องมาบ่อย น้องมึงกรูดูแลเอง”
ผมงงไปหมดแล้วครับว่ามันยังไงกันแน่!
“อย่าทำวางกาม เดี๋ยวกรูก็ได้สับก้ามมึงขาดเอาสักวัน”พี่ไนท์พูดกับพี่ทิวาเสร็จก็พลันหันมาพูดกับผมต่อ“......อยู่ดูแลมันหน่อยก็แล้วกันนะ ให้มันกินมื้ออดมือบ้างก็ได้ ของดีๆ ก็ไม่ต้องประเคนให้มันกินมากนัก แล้วก็....ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะมีอะไรโทรมาหากรูก็แล้วกัน อ้อ! ถ้าไอ้บ้านั่นรังแกมึงล่ะก็บอกกรูได้เลยจะมาจัดการมันให้ ^^”
“พะพี่ไนท์.......”ผมมองพี่ชายที่เดินออกไปพร้อมมือที่โบกลาทิ้งท้ายเอาไว้อย่างมึนงง พี่ไนท์ให้ผมอยู่ที่นี่งั้นเหรอครับ ปะเป็นไปได้ยังไงครับเนี่ย!
“โอ๊ะ! จะ..จะเจ็บๆ!”
“อ่ะ! พี่ทิวา! เป็นอะไรเหรอครับ OoO+ ”ขณะที่ผมกำลังมองพี่ไนท์ที่เดินหายออกไปจากบ้านด้วยอาการเหม่อลอยจู่ๆ ตัวพี่ทิวาก็ล้มมากอดผมแถมยังร้องเสียงหลงจนผมตกใจเลยครับ
“เจ็บแผลที่หลัง...อ่า....เจ็บจริงๆ ด้วยเดินไม่ไหว ขามันอ่อนแรงขึ้นมา”
“ยืนดีๆ สิครับ....แบบนี้ผมประคองไม่ไหวหรอกนะครับ”ผมพยายามดันตัวพี่ทิวาที่โผเข้ากอดผมจนแน่นแถมแรงที่โถมลงมาบนตัวผมไม่ใช่เบาๆ เลยนะครับ ผมหนักนะครับเนี่ย!
“แต่กรูเจ็บอยู่นะ....กอดกรูไว้แน่นเลยไม่อย่างนั้นกรูหล่นหัวฟาดพื้นตายมึงจะรับผิดชอบมั้ยล่ะ”
“ตะแต่.....ผม หนัก นะครับ!”ขาผมแทบจะหยัดยืนไว้ไม่ไหวแล้วนะครับ พี่ทิวาเล่นอะไรกันครับเนี่ย
“หึ!....อ่ะ! หนาวขึ้นมาซะงั้น กอด กอดๆ”
“แน่น....แน่น!เกินไปแล้วนะครับพี่......แล้วผมก็ขยับตัวไม่ได้ด้วยผมพูดจริงๆ นะครับ!”พี่ทิวาไม่ได้เป็นอะไรแต่ที่ทำแบบนี้จะแกล้งผมเล่นใช่มั้ยครับเนี่ย
“หึ หึๆ เปล่าแกล้ง.....ก็แค่.......”น้ำเสียงมีเลศนัยแบบนั้นมันขัดต่อคำพูดที่พูดอย่างร้ายกาลเลยครับ แล้วตอนนี้พี่ทิวาก็ดันผมทั้งๆ ที่โถมตัวใส่ผมไว้แบบนี้ผมก็...ก็หล่นน่ะสิครับ!
ผลัก!
ตัวผมถอยหลังกรูจนขาผมหมดหนทางถอยเมื่อถูกกั้นไว้ด้วยโซฟาตัวยาว ผมเลยเสียหลักหงายหลังลงบนโซฟาไม่เป็นท่าส่วนพี่ทิวาก็เข้าทับผมเต็มๆ
“ผมบอกแล้วไงครับว่าผมไม่ไหว....”
“หึ หึ......”
“หัวเราะ? หัวเราะอะไรงั้นเหรอครับ หรือหัวเราะเยาะผม!”พี่ทิวาผงกหัวขึ้นใบหน้าของเราอยู่ห่างกันแค่นิดเดียว แต่จู่ๆ พี่ทิวาก็หัวเราะขึ้นมาจนผมตั้งรับแทบไม่ทัน
“มีความสุขต่างหากล่ะ.....ไม่อยากจะเชื่อว่ามึงจะอยู่ตรงหน้ากรูใกล้ๆ แบบนี้ได้ เหมือนกับความฝัน”ดวงตาสีน้ำทะเลลึกคู่นั้นกำลังจ้องมองผมจนผมแอบเขินจนแก้มแดงเลยครับ แถมคำพูดขนลุกแบบนั้นมันทำให้ผมรู้สึกจักจี้ยังไงก็ไม่รู้สิครับ
“ความฝันเหรอครับ......”
“อื้ม.....ฝันดีซะด้วย ในฝันมีมึงกับกรูสองคนแบบนี้ไง”ผมเผลอยิ้มออกไปกับคำพูดนั้นซะแล้วล่ะครับ
ตึกตัก ตึกตัก หัวใจผมเต้นแรงอีกแล้วครับ แต่เต้นแรงเพาะคนตรงหน้าคนนี้ จะเต้นแรกไปสักกี้ครั้งผมก็ยอมครับ...
“แล้วผม....ในฝันของพี่.....ทำแบบนี้รึเปล่าครับ”
“อะไรเหรอ?”
“ก็แบบนี้ไงครับ.......”ผมใช้มือเล็กของผมที่เย็นเล็กน้อยเพราะตื่นเต้นขึ้นประคองใบหน้าพี่ทิวา ก่อนจะโน้มหน้าขึ้นไปเอาริมฝีปากของตัวเองขึ้นจรดริมฝีปากของคนตรงหน้าเบาๆ ด้วยหัวใจที่พองโต ถึงกับทำให้พี่ทิวานิ่งและเงียบไปเลยครับ
อ่ะ! เขินจังเลยครับ ไม่รู้ว่าผมรวมรวมความกล้าทำแบบนั้นไปได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ >////<
“หืม........คิดจะยั่วกรูทางอ้อมรึไง”รอยยิ้มบางๆ กระตุกตรงมุมปากคนตรงหน้า จนผมเผลอหัวเราะหงึกๆ ออกไป
“หึหึๆ”
“หัวเราะอะไร? บอกมาเดี๋ยวนี้นะไม่งั้นโดนดี!”
“ก็หัวเราะเพราะมีความสุขไงครับ ^^”
“เดี๋ยวนี้กล้าย้อนกรูรึไง.....งั้นก็รับโทษที่กล้าย้อนกรูเลยแล้วกันเป็นไง”
“ดะเดี๋ยวสิครับ......”
กึก!
“เอ่อ! ปะป้าขอโทษค่ะ พะพอดี....เห็นว่าเที่ยงแล้วคิดว่าต้องกินยา..เลยเอาน้ำมาให้ ถ้าไม่ว่างป้าไปก่อนแล้วกันนะคะ ^^ ตามสบายนะคะ...ชะเชิญต่อค่ะ”
อายครับ อายแบบอับอาย! โดนเห็นแบบนี้แล้ว ผมจะทำยังไงดี พอผมดีดตัวจะลุกพี่ทิวาก็กดไว้ซะอีก
“ป้า!”
“คะคุณทิวา!”ดูท่าทางป้าแกจะตกใจเลยล่ะครับ แต่คุยกันในท่านี้ทำไมกันครับ ผมอาย!!!! ลุกแล้วนั่งคุยกันดีกว่านอนคุยกันไม่ดีกว่าเหรอครับพี่ทิวา T^T
“ปิดห้องรับแขกทุกห้อง”
“ละแล้วห้องคุณเดย์ล่ะคะ...จะให้ป้า”
“มันจะนอนห้องผม เข้าใจนะ”
“ค่ะ!”ป้าแม่บ้านรับคำสั่งเสร็จก็รีบเดินเร็วหายไปเลยครับ ผมกลัวเหลือเกินว่าป้าแกจะไปหกล้มที่ไหน แต่เมื่อกี้พี่ทิวาบอกว่าผมจะนอนห้องเดียวกับพี่ทิวาเหรอครับ! ผมพูดแบบนั้นไปตอนไหน? พี่ทิวาต้องเข้าใจอะไรผิดไปแน่นอนเลยครับผมสาบาน!
อ่า....ตอนที่สามสิบเอ็ด มาเยื่อน ฮูวเล ฮูวเล~~
เห็นริบหรี่รำไรถึงความสำเร็จ เฮือกกก! (แสงนั่นกำลังส่องสกาว!)
ทุกท่านเห็นเหมือนข้าพเจ้ารึเปล่าฮับ (ชี้มือชี้ไม้ให้มองไปในท้องฟ้าด้วยกัน) เริ่มเพ้อละเมอเป็นเรื่องแล้ว กลับเข้าสู่ปัจจุบันด่วน!
ตอนนี้ก็พยายามแต่งให้มันอ่านสบายๆ ไม่เครียดกัน
ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง ชินแต่จะดราม่าซะแล้ว ฮาๆๆ
จริงๆ เสร็จตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 แล้วล่ะฮับ แต่ไม่ได้เอามาลงให้เพราะเกิดอุบัติเหตุกับตัวซะก่อน
ก็ดันไปล้มมอเตอร์ไซต์มาสิฮับ เข่าถลอก ศอกเป็นรอย ไหล่ช้ำเป็นอยู่ด้านซ้ายด้านเดียวทั้งตัว
ตอนล้มดันเจือกเอาหน้าลงด้วย! T^T แต่ดีที่แค่ช้ำนิดเดียว โล่งไป...เกือบเสียโฉมซะแล้วเรา
ตอนนี้ก็ปวดระบบไปทั้งตัวช้ำในรึเปล่าก็ไม่รู้......
ดีนะที่ยังมีแรงมาอัพนิยาย กลัวจะรอกันนานนะเนี่ย >< (รีบมอบโล่ให้เร็วๆ ฮับนักเขียนผู้ผ่านชีวิตทรหด 5555+)
เอาล่ะไร้สาระมาพอควรแล้ว....ก็มาต่อกัน ม่ายช่ายยย! มาเริ่มจบกัน(จริงจัง)
ปล.1 เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ตัวเองแต่ง และอยากขอบคุณนักอ่านทุกท่านมากนะฮับที่ได้เข้ามาอ่านกัน ซึ้งตอนแรกไม่ค่อยมีความมั่นใจที่จะลงเรื่องหรอกฮับ กลัวห่วยแตก กลัวไม่ได้เรื่อง สารพัดจะบั่นทอนความมั่นใจ แต่พอลงแล้วก็รู้สึกว่า....ไม่เห็นเป็นไรเลย คำว่าไม่เป็นไรเลยทำให้มองข้ามความกลัวพวกนั้น....จนตอนนี้ก็มาได้ไกลอย่างภาคภูมิและ ^^
ปล.2 ถ้าไม่เชื่อว่าผีมีจริง......แต่ให้เชื่อเถอะฮับว่ากำลังใจมีจริง....เจอมากับตัว....ก็นักอ่านทุกท่านไง...เขินจัง
(กระซิบๆ อิอิ ^^)
ปล.3 ขอบคุณจากน้ำใสใจจริงฮับ ที่ติดตามและรีพลายกันให้ได้เห็นถึงการมีตัวตนและกำลังใจหลังเงา รับทั้งนั้นล่ะฮับ คิกๆ
เอาไว้เจอกันตอนหน้าอีกนะฮับ