แม้ปากจะบอกว่าเลี้ยงแต่ไอ้ภคินมันก็เลี้ยงแค่เบียร์ล่ะครับ จะเอาอะไรกับมันล่ะ...ไอ้คู่หูลูกกรอกช่วยทุบน้ำแข็งเทใส่กะละมัง ส่วนผมก็เรียงขวดเบียร์อย่างสวยงามประหนึ่งกำแพงเมืองจีน ขอโทษเถอะ...ซื้อมาแค่นี้เดี๋ยวได้เกี่ยงกันออกไปซื้อเพิ่มแน่ ผมเกี่ยวเหล็กเข้าไปใต้ฝาจีบก่อนจะงัดขึ้น
ป๊อกกกกกกกกกกก... “เอาล่ะครับ” ไอ้กันทำมือเป็นไมโครโฟน “คุณนายไปป์เปิดงานแล้วก็เชิญท่านส.ส.คินตัดริบบิ้นด้วยครับ”
“คุณนายพ่องมึงสิไอ้กัน” มันไม่สนใจคำด่าแล้วหยิบเส้นปลาทาโร่ที่ผูกเป็นเส้นยาว ๆ มายื่นให้ไอ้โจ้เมียรักถืออีกฝั่ง
“เชิญครับท่าน”
ไอ้ภคินดัดจริตขยับปกเสื้อยืดคอย้วย ๆ ของมันเล็กน้อย (ขยับทำเชี่ยไร..กูไม่เข้าใจ) ตอนแรกผมคิดว่ามันจะดึงให้ทาโร่ขาด แต่ไม่ครับ มันกัดทาโร่แดกแม่มเลย !! แล้วยังซู้ดทั้งเส้นเข้าปากไปอย่างเอร็ดอร่อยไม่ได้สนใจว่ากว่าไอ้ปลาทาโร่นั่นจะเป็นเส้นได้มันผ่านขี้มือไอ้กันไอ้โจ้มามากแค่ไหน
ไอ้ภคินเทเบียร์ลงในแก้วที่แถมฟรีมากับโอวันติน มันยกแก้วขึ้น “เอาแดก ๆ วันนี้กูรวย”
“พรุ่งนี้ก็ค่อยจนสินะครับ”
“ไอ้อาร์ทมึงมาพูดเรื่องจริงกลางวงเหล้าแบบนี้ก็แดกไม่อร่อยพอดีดิวะ”
“ไปป์...มึงหัดเข้าข้างผัวตัวเองบ้างดิ๊” เอ้า...กูผิดตรงไหนเนี่ยยยยยย “ใช่ซี่..กูมันจน...กูมันเป็นหนี้”
“อู้วววววววววววว ดราม่า”
“ครอบครัวล่มสลาย แหล่ว ๆ ๆ ๆ” ไอ้โจ้และไอ้กันส่งเสียงเชียร์ดั่งสโลแกนความฉิบหายของเพื่อนคือความสุขของเรา ผมตวัดไปมองค้อนมันซึ่งแน่นอนว่าไม่มีผลอะไรต่อชีวิตพวกมันนัก มันยังส่งเสียงต่อไป
“เกิดมามีแฟนเป็นพระเอกเงินกู้ก็ลำบากงี้แหละครับไปป์” ไอ้อาร์ทกรีดยิ้มหวาน
“แต่งกันไปก็ช่วยกันผ่อนนะครับ” อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...ทำไมชีวิตกูต้องมาเจออะไรแบบนี้ ไอ้ฟาร์แกะเลย์รสเกลือมาเคี้ยวกร้วม ๆ แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ในขณะที่คนอื่นคีบน้ำแข็งใส่แก้วแล้วเทเบียร์เย็น ๆ ลงไป ผมยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปาก...น้ำสีอำพันรสขมปร่าไหลลงคอไป อ๊า...สดชื่นโคตรรรร หลังจากช่วงสิ้นเดือนยากแค้นแดกแต่น้ำเปล่า
และพอแอลกอฮอล์ลงกระเพาะและซึมเข้ากระแสโลหิตเท่านั้น....ไฟในกายพวกมันก็เดือดพล่านราวกับมีสายเลือดของนักเต้นเท้าไฟ เชี่ยกันจูงมือเมียรักขึ้นมาเซิ้งโดยไม่มีเพลงประกอบจังหวะ คือผมว่าสองแก้วไม่น่าเมานะ...ไอ้ห่านี่เมาดิบแน่
“หมั่นแน๊นอก เย้! ต้องยกออก” นมแบนจะตายห่ามึงเอาที่ไหนมายกวะไอ้โจ้ “ให้แบกเอาไว้นานไปเดี๋ยวใจถะหล๋อก..ออก...ออก...”
แล้วไอ้กันก็มารับช่วงต่อ “สิทธิผู้ชายสมัยนี้อ๊า! อยู่ไหนก็ไม่ทราบ......)_%$^###^^$*(*_(%%#@@$%&^(” ใครก็ได้ทำซับไตเติ้ลให้กูด้วยครับ กูชักไม่มั่นใจว่าวุ้นแปลภาษาจะเอาอยู่ ณ จุดนี้
ใจนึงก็กลัวห้องข้างล่างมาเคาะด่าว่าเสียงดัง....แต่ดื่มเบียร์ดูจินตลีลามันก็เพลินตาไม่น้อยอะ เอิ๊กกกกกกกก เอาวะทนดูไปนิดหน่อย อย่างมากก็มีกระดาษแปะด่าหน้าห้องเหมือนที่เคยเจอห้องอื่น ห้องผมยังไม่เคยโดนครับ....เรารักสงบ อะไร?...ผมกับภคินไม่เคยทะเลาะกันครับ สาบานเลยจริงจริ้งงงงงงงงง
“หูยยยยยยย..คืนนี้กูเยี่ยวเป็นเหรียญแน่ ๆ ได้แดกเงินไอ้ภคินเนี่ย” ผมบ่นกับไอ้ฟาร์ตัวแดกกับแกล้มชั้นดีที่ตอนนี้กำลังล้วงมือลงในถุงทวิตตี้รสชีส
“ไอ้คินมันไม่เก็บตังเหรอวะ เอามาเลี้ยงเพื่อนนี่ผิดวิสัยมันมาก” เอ๊ะ..ไอ้ฟาร์นี่มันก็เลวพอตัวนะแดกของเขาฟรีแต่แอบนินทาเขา....แต่จะไปว่ามันฝ่ายเดียวก็คงไม่ถูก
“กูก็งง ๆ กับมันอยู่ นึกว่าจะเอาไปจ่ายดอกที่ไหนซะอีก” ผมนั่งขัดสมาธิบนพื้นแล้วเท้าคางมองไปที่ฝั่งตรงข้าม ไอ้ภคินกำลังช่วยไอ้กันแร็ป เพราะไอ้โจ้มันจะเป็นทั้งใบเตยและป็อปปี้ 321 ไอ้ห่านี่กูว่ามึงเอามาดีด้านนี้เถอะโจ้....อินเนอร์มึงมาเต็มมาก
“เอ้า...มองใหญ่ ๆ สีหน้าแบบภูมิใจในผัวมึงมากอะไปป์” ไอ้ฟาร์แสยะยิ้ม (ผมเดาว่ามันไปเรียนจากไอ้อาร์ทมา) แล้วโบกมือไปมาตรงหน้าผม คืออารมณ์เหมือนถูกจับได้..ผมก็ประหม่าหน้าขึ้นสีไม่น้อย “นั่น..นั่น...เขินอีก เขินนนนนน”
“ไม่ได้เขินเว้ย!!”
“ทำไม..มึงจะเล่นมุกอากาศมันร้อนแบบนางเอกรึไง”
“เปล่า...” ผมหลบตา “ขะ..เขินก็ได้วะแม่ง”
“ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววว” ทีนี้เสือกหูดีแห่กันมาแซวนะครับ....แหม่
“ไปป์เขินผัว...เอ๊ย! ไอ้คินทำไมอะคร้าบบบบบบบบบบ” ไอ้กันยิงกูเข้าดอกแรก ไอ้โจ้ไม่รอช้าซ้ำดาบสอง
“ว้ายยยยยยยยยยยยย...คิดอะไรไม่ซื่ออยู่แน่ ๆ เลยค่ะแบบนี้” มันบีบ ๆ นวด ๆ ที่บ่าไอ้ภคินเป็นการประจบ “แต่เอาเถอะค่ะ...โจ้มันเป็นแค่อนุของท่าน”
โว้ยยยยยยยยยยยยย...นี่มันภคินไม่ใช่ท่านพินิจนะไอ้ห่า (อ้าว...แล้วทำไมผมดูละครทุกเรื่องเลยวะ)
“อนุพ่อมึงสิไอ้โจ้” มันยักคิ้วหลิ่วตาให้ผม “เมียกูมีคนเดียวเว้ย”
“ว้ายยยยยยยยยยยยย” กรี๊ดเข้าไปสิมึง แล้วหน้าผมจะแดงทำไมวะ โอ๊ยยยยยยยยยย....เลือดลงไปเลี้ยงนิ้วตีนมั่งเหอะ
“แบบนี้เขาเรียกมีด้ายแดง กิ้ว ๆ” ไอ้กันกระดิกนิ้วก้อย
“ด้ายแดงมีไม่มีไม่รู้” ภคินกระตุกยิ้มโลโก้ที่มุมปาก “แต่ได้กันแล้วอะมีแน่ ๆ”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
“เคี๊ยก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”
ฮือออออออออออออออออออออ...ผมอยากจะแหวกพุงพี่เดียวดายแล้วยัดหัวลงไปให้ตายห่าแม่งเลย ไอ้ฟาร์หัวเราะอย่างสะใจเป็นแบ็คกราวน์ด้านหลังชวนจิตใจสลดหดหู่หนักกว่าเดิม หางตาผมเห็นไอ้อาร์ทขยับเข้าไปนั่งใกล้มันพร้อมทิชชู่ในมือ พอเงี่ยหูฟังก็ได้ยิน...
“กินแต่ขนมถุงระวังผงชูรสจะทำผมร่วงนะครับ” ไอ้อาร์ทเอื้อมมือไปจับผมที่ข้างแก้มไอ้เห็ด
“ผมกู...ไม่ต้องยุ่ง” ว่าแต่กูเล่นตัว...มึงก็ใช่ย่อยนะ ปากก็ว่าแต่นั่งให้ไอ้อาร์ทจับเล่นเฉย ๆ แรดกว่าผมอีกนะขอบอก “แล้วไอ้เบียร์ที่อยู่ในมือนี่มันดีนักรึไง ?”
“เป็นห่วงสุขภาพผมอีกแล้ว”
“..........” ไม่เถียงเท่ากับยอมรับอย่างสงบ ไอ้ฟาร์ก้มหน้างุดแล้วจกขนมแดกต่อแก้เขิน
“เลอะปากหมดแล้วครับ...” ไอ้เชี่ยอาร์ทมึงคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกซีรีย์เหรอ ทำเป็นยิ้มผู้ดีแล้วเอาทิชชู่ไปเช็ดปากไอ้ฟาร์ แล้วถูเบาขนาดนั้นกลัวปากมันหลุดรึไงวะ
ไอ้ฟาร์หลบตามันแล้วหน้าแดงเป็นเห็ดผักพริกเผา ผมขยับตัวเข้าไปอีกนิดเผื่อว่ามันกระซิบอะไรกันจะได้ยิน
“ฟาร์ครับ” ไอ้อาร์ทเอ่ยเสียงเบาจนผมต้องเงี่ยหูฟัง
“อะไร...”
“มีคนแอบฟัง......” ชั่วพริบตามันตวัดสายตามาที่ผม
“ซึ่งมันเสียมารยาท...” เฮือกกกกกกกกกกกกก...ทำไมหลังกูมันหนัก ๆ วะ....
ไอ้อาร์ทแผ่รังสีห้องกับจิตพลางส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่เอานะครับน้องหนูดี..
.เป็นเด็กเป็นเล็กอย่านั่งบนหัวผู้ใหญ่แบบนั้นครับ”
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ผมแทบหลุดกรี๊ดกลางวงเหล้า ความเสือกมันเป็นภัยต่อชีวิตจริง ๆ เมื่อตั้งสติได้ก็รีบถ่อดแถ่ดไปหาไอ้ภคินที่อยู่ใกล้ที่สุด
“ภะ...ภคิน...”
“ประตูห้องเช่ามีรองเท้าสองคู่เคียงกัน....คู่หนึ่งนั้นเป็นรองเท้าเธอพี่จำได้ดี อีกคู่หนึ่งไม่เคยเห็นเลยก่อนนี้ แปลกใจอะไรกันนี่....หน้าห้องน้องมีรองเท้าผู้ช้ายยยยยยยย~” ฮ่วยยยยยยยยยย...ไอ้ห่านี่ก็ยังอินกับบทเพลงขวัญใจผู้ใช้แรงงานไม่เลิก กูจะโดนเพื่อนมึงส่งลูกกรอกมาหักคออยู่แล้ว!!
“ภคินโว้ยยยยยย ภคิน” ผมตรงปรี่เข้าไปเขย่าแขนมัน “ไปข้างนอกกัน”
“อ้าว...ไปไหนอะ ไปทำไม”
“ไปซื้อเบียร์เพิ่ม” มันขมวดคิ้ว...ไม่ใช่อะไรนะกูรู้ว่ามึงไม่อยากจ่ายเพิ่ม “มาเถอะน่า...มึงอยากให้ลูกไอ้อาร์ทหักคอกูตรงนี้รึไง”
“อ๊ะ...ตามใจเมีย ๆ” นี่ถ้าไม่ติดว่ากำลังลี้ภัยทางการเมืองอยู่มีหันไปด่ามันละ ไอ้ภคินกอดคอผมก่อนหันมาบอกคนในห้อง “กูออกไปซื้อเบียร์เพิ่มนะเว้ย”
“ตามสบายค่ะป๋าขา” แหม่...แดกซะเปรมเชียวนะไอ้โจ้
มีเวลาไม่มากนักเพราะผมชักเริ่มจะหายใจไม่ออก ผมแทบคลานออกจากห้องไปในขณะที่ไอ้ภคินดูร่าเริงเสียจนน่าหมั่นไส้ มินิมาร์ทใต้หอก็เสือกมาปิดวันนี้อีก (นี่เป็นสาเหตุที่ภคินมันโทรให้ไอ้อาร์ทซื้อเบียร์เข้ามา)
“เซเว่นสาขามึงก็ต้องเดินตั้งหลายซอย”
“ก็ใครมันชวนออกวะล่ะวะ” เถียงไม่ออกเลยผม “ช่างมันเหอะ...ไกล ๆ ก็ดีละ จะได้เดินกับมึงนาน ๆ”
“เชี่ย...เลี่ยนไปนะ” เมื่อกี้ใครกรอกน้ำตาลลงปากมัน บอกผมมาซะดี ๆ
“เขินอีกละ...เอ้า ๆ ๆ” โอ๊ยยยยยยยยยย...มึงเลิกมาแซวกูได้ไหมห๊ะ? “มึงนี่อยู่กับกูมาตั้งนานทำไมหน้าไม่หนาขึ้นเลยวะ”
“ภคิน...อย่าเอาหนังหน้ากูไปเทียบกับระดับหินผาของมึงเลย” แอบต่อในใจว่าชาตินี้กูคงไม่เจอคนหน้าหนาไปกว่ามึงแล้ว....เอ่อ...ถ้าไม่นับเพื่อนมึงอะนะ
เราเดินเถียงกันไปตลอดทางจนมาถึงเซเว่น และที่เชี่ยสุดคือเมื่อประตูเปิดออกคำถามแรกที่เพื่อนเด็กเซเว่นของไอ้ภคินยิงมาคือ ‘อ้าว...มากับแฟนเหรอวะ ?’
มันไม่ชินเวลาออกจากปากคนอื่น มันเขินน่ะพวกเอ็งเข้าใจไหมวะแม่มมมมมมมมม “เอาฮานามิไปด้วย” ผมบอกมันที่กำลังรอคิดตังหน้าเคาน์เตอร์
“อยากแดกก็ไปหยิบดิวะ” มึงไม่มีจิตใจบริการเลยใช่ไหมไอ้พระเอก !!
ผมเดินกลับไปที่โซนขนมถุงอีกครั้ง....แล้วพอเห็นเยอะ ๆ จะเริ่มลังเลว่าจะกินอะไรดี แล้วฮานามิกับคาลบี้นี่อันไหนอร่อยกว่ากัน? เอ๊ะ...จะว่าไปข้าวเกรียบมโนราห์ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ
“แฟนมึงเหรอ” เด็กเซเว่นเพื่อนมันเขย่งเท้าพยายามชะเง้อมองผม ไอ้นี่มึงนินทายังไงให้กูรู้ตัววะ
“ใช่...” คนพูดมันยืดอก “น่ารักล่ะสิ”
“เออ...ก็น่ารักดี”
“มึงมาชมแฟนกูแบบนี้คิดอะไรเปล่าวะไอ้ต้น”
“อ้าว...ไอ้ห่านี่ งั้นไม่น่ารักก็ได้วะ”
“ไอ้ตาถั่ว ไปป์แม่งน่ารักจะตายห่า”
“ไอ้คิน...มึงจะเอายังไงกับกูวะ” ไอ้คนชื่อต้นแทบเอาเครื่องสแกนทุ่มลงหัวไอ้พระเอก เออ...จริงของมัน มึงจะเอายังไงวะ
“ไม่เอายังไง สรุปว่าแฟนกูน่ารัก แต่ไม่ต้องมายุ่งด้วย” แล้วมันก็หันมาตะโกน “ไปป์โว้ยยยยย ไปหยิบขนมที่ซิมบับเวเหรอวะแม่ง”
สาบานได้ว่านี่คือผู้ชายที่ชมกูเมื่อสามวินาทีก่อนหน้านั้น... ผมเดินหน้าบูดกลับไปที่แคชเชียร์พร้อมด้วยขนมอีกห้าถุงในมือ
“นี่กะแดกให้หัวล้านเลยใช่ไหมวะ”
“เปล่า...กะแดกให้มึงหมดตัวน่ะ”
“ใจคอจะกินกูให้หมดตัวเลยเหรอ” นั่นไงล่ะ! ไอ้การยักคิ้วหลิ่วตากวนประสาทสัมผัสที่ปลายตีนนี่มันน่ายันโครมติดข้างฝาชิบ....
“จ่ายตังสิวะ” ผมสั่งมันกลบเกลื่อน ซึ่งมันคงจะสงสารไม่อยากแกล้งผมต่อมันเยยอมหันไปจ่ายตังแต่โดยดี
“โห...มึงไปรวยจากไหนมาวะไอ้คิน” เดี๋ยวนะ...จ่ายแบงค์ห้าร้อยบ้านมึงเรียกรวยกันเหรอ
“กูถูกหวย” คนตอบยืดอกภูมิใจ
“เฮ้ยยยยยยย แม่งเจ๋งวะ มีเลขเด็ดไม่แบ่งปันเพื่อนฝูงมั่งวะ” เพื่อนมันก็บริการไปถามไป
“ถ้ากูถูกแดกมึงคงไม่พูดงี้ใช่ไหมไอ้ต้น”
“ฮ่า ๆ ทั้งหมดสามร้อยยี่สิบสามบาท”
ภคินจ่ายเงินเสร็จสรรพก็หิ้วถุงเดินตัวลอยออกไป เห็นแบบนี้ก็ก็ต้องรีบตามไปแย่งถือ...อย่างน้อยถุงขนมก็ยังดีวะ
“เอามา เดี๋ยวช่วยถือ” ผมดึงถุงพลาสติกที่มือซ้ายของมัน แต่ไอ้พระเอกก็กำแน่นไม่ยอมปล่อย ผมเลยต้องเสียงเข้มใส่มัน “ภคิน...ไม่เอาน่า”
“งั้นเอาหลัง”
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก...กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่าเล่นมุกลาโม๊กกกกกกกกกกกก “ภคิน” ผมกัดปากทำเสียงจริงจัง “เอามา”
“โอ๋ ๆ อย่างอนดิวะ” ไอ้พระเอกยอมยื่นถุงขนมมาให้ผมถือแต่โดยดี ส่วนมันก็ถือถุงเบียร์หนัก ๆ “มึงนี่เป็นโรคไม่ชอบให้คนอื่นดูแลจริง ๆ ว่ะ”
“รู้ก็ดี”
“ที่จริงกูก็ไม่ชอบดูชาวบ้านหรอก” ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วปะ? “แต่เพราะเป็นมึง...”
ในใจผมต่อ.....
‘กูเลยอยากดูแล’ “มึงไม่ชอบ...กูเลยอยากแกล้งดูแล” “ไอ้เหี้ย!!” ผมเตะตัดขามันแต่เชี่ยนี่แกร่งดั่งควาย มันจึงยืนหยัดเดินต่อไป แถมยังหัวเราะอย่างสะใจ
หัวสมองผมเต็มไปด้วยแผนการเอาคืนมัน...แต่จู่ ๆ ก็เกิดสงสัยบางอย่างขึ้นมา
“ภคิน” ผมสะกิดแขนมัน “ทำไมมึงถึงเอาเงินมาเลี้ยงพวกกูวะ ตอนแรกกูคิดว่ามึงจะเก็บไว้ซะอีก”
“โอ๊ย...กูรวยไง จบปะ ?”
“รวยพ่อง !! เดือนที่แล้วคืนเงินค่าไฟกูช้าเกือบครึ่งเดือน”
“ฮ่า ๆ ๆ” มันหัวเราะแล้วเดินแกว่งถุงจนขวดเบียร์ชนกันเสียงก๊องแก๊ง “หวยน่ะมันเป็นโชคเว่ย เหมือนโบนัสของชีวิต”
“ก็เลยไม่คิดจะเก็บเลย ?”
“มึงก็มีให้ยืมนี่หว่า กูเลี้ยงวันนี้พวกมันก็เป็นหนี้บุญคุณกู คราวหน้าขอยืมเงินจะได้ง่าย ๆ หน่อย”
โห...นี่แม่มวางแผนชั่วมาแต่แรกเลยเหรอวะ ฟังแล้วอยากกลับบ้านไปอ้วกคืนให้มัน “ทำหน้าแบบนั้นด่าสุดที่รักในใจล่ะสิ”
“เปล่า!!” ผมแว้ด “แล้วก็เลิกพูดอะไรเลี่ยน ๆ ได้ละ...อยากอ้วก”
“ไม่บอกก่อน จะได้ขับไอ้เน่าออกมารวดส่งแวะฝากครรภ์ไปเลย”
“ตอนนี้เอาคันตีนไปก่อนนะมึง” ว่าแล้วก็แตะป้าบเข้าไปที่หน้าแข้ง เล่นเอามันร้องหวยหวน สาแก่ใจผมยิ่งนัก ฮ่า ๆ ๆ
“ไปป์”
“อะไร”
“ที่มึงถามน่ะ....เจอพวกมัน....เป็นโชคยิ่งกว่าถูกหวยอีก” ภคิน...มันก็รักเพื่อนเหมือนกันนี่หว่า “หวยน่ะนาน ๆ ทีใช้แล้วก็หมด แต่ไอ้พวกนั้นมันมีให้ยืมเรื่อย ๆ”
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย....ปวดตับโว้ยยยยยยยยยย โอเค...เลิกซึ้งงงงงงงงงงง!! “ฮ่า ๆ” มันขยี้หัวผมจนยุ่งไปหมด “เจอมึงก็โชคดียิ่งกว่าถูกหวยเหมือนกันนะเว้ย”
“ทำไม...เพราะกูจ่ายค่าไฟให้ก่อนได้ทุกเดือนเหรอ”
“เปล่า” มันยิ้ม
“เพราะเป็นมึงไง” ความหมายคลุมเครือ แต่ผมเขินจนอยากจะเอาถุงเซเว่นครอบหัว ทำไมไอ้หน้าด้านนี่มันขยันทำร้ายหัวใจผมนักวะ....ถ้าเป็นโรคหัวใจขึ้นมามึงจะรับผิดชอบไหมวะภคิ้นนนนนนนนนน!!
ผมเดินขนาบข้างมันไปตลอดทาง....ไหล่ชนกัน....ไล่เหยียบเท้ากัน หรือผมจะมีความสุขมากเกินไป...อยู่กับมันทีไรเวลาผ่านไปเร็วทุกที
อะไรวะ แป๊บเดียวก็มาถึงหน้าห้องแล้วเหรอ....END
ไม่ได้เจอกันในกระทู้นี้นานเลยนะคะ

เป็นตอนพิเศษฉลองแฟนเเพจมีคนกดไลค์ 1,500 คนค่ะ ใครยังไม่ได้กดไปกดตามข่าวกันได้นะคะ นานๆที(ย้ำว่านาน....)มีอัพบทสนทนาสั้นๆด้วย ลิ้งค์อยู่ที่ลายเซ็นต์คนเขียนเลยจ้า
กลับมาเขียนใหม่แล้วคิดถึงเรื่องนี้ชะมัด
ถ้ามีโอกาสจะกลับมาเขียนตอนพิเศษอีกนะคะ

ปล.ฝากติดตามผลงานปัจจุบันด้วยนะคะ โพสในเล้าที่เดียว เรื่องใส่ รัก ป้าย สี ค่ะ
