“เหี้ยแซ๊ก มึงจะรีบไปตายไหนวะ”
“อยู่ให้โง่ดิวะ พี่แม่งจะจับกูเป็นหลีดอยู่นั่นแหละ ก็บอกไปแล้วว่าเป็นนักดนตรีต้องเล่นดนตรีเปิดงานอีก มึงจะให้กูเอาเวลาที่ไหนไปซ้อม”
“อื้อหือ..บ่นยาว” มันพยักหน้ารับรู้ “สาวเยอะนะโว้ย~ แถมหลีดสวยๆทั้งนั้น”
“เฮ้อ....” ผมถอนหายใจ “กูจะบอกอะไรให้มึงฟังนะไปป์ คนหน้าตาดีจริงๆเขาไม่เป็นกันหรอก เพราะมันเหนื่อย พวกที่เป็นน่ะคือหน้าตางั้นๆแต่อยากเด่น...เข้าใจ๊?”
“มึงจะบอกว่ามึงหน้าตาดีงั้นสิ”
“หรือมึงว่าไม่”
ไปป์ตอบผมด้วยหน้าแข้งที่เตะป้าบเข้าตูด “ไอ้ห่าเอ๊ย...โคตรหลงตัวเองเลย”
“ว่าแต่กูเหอะ มึงลงอะไรไปบ้าง”
“วิ่ง ที่จริงก็อยากลงบาสนะแต่กูหมันไส้ไอ้พี่ประธานฝ่ายกีฬาของสีเรา เดี่ยวจะกลายเป็นว่ากูให้ความร่วมมือมากเกินไป....ไม่ดีๆ”
“อ้าว...ไม่ได้อยากลงวอลเลย์??”
“เชี่ยแซ๊ก!!!!!!!!!!ตายซะเหอะมึง!!!!!!!!!!!!!”
ผมหัวเราะแล้ววิ่งหนีไอ้แห้งบ้าเลือดที่ไล่เตะเหมือนกูเป็นลูกบอลก็ไม่ปาน....
เทศกาลกีฬาสีเป็นเทศกาลที่พวกผมเกลียดที่สุด...แม้ว่าจะอยู่ม.4แล้วมันก็ยังตามมาหลอกหลอนไม่จบไม่สิ้น แค่คิดว่าม.6ต้องเป็นหัวหน้างานสมองผมก็แทบจะระเบิดตายแล้ว มันเป็นเทศกาลที่ผลาญเงินโดยไร้สาเหตุมาก บางคนบอกว่าเพื่อความสามัคคี.... ถามจริงเถอะ...ตอนทำงานกีฬาสีพวกคุณก็ทะเลาะกันแทบตายไม่ใช่เหรอ?
แต่ดูเหมือนไอ้ตัวเล็กนี่จะตื่นเต้นเสียเต็มประดา ไปป์มันชอบเล่นกีฬานี่นา ถึงจะฝีมือไม่ได้ดีขนาดเป็นนักกีฬาของโรงเรียนแต่เรื่องความชอบมันนำโด่งเลยล่ะ
หลังจากโดนล้ออย่างหนักหน่วงมาตลอดสามปีเต็ม ไปป์มันก็ฮึดสู้กับคำว่า ‘ไอ้ตุ๊ด’ ด้วยการดื่มนมต่างน้ำครับ ดื่มมันเข้าไป ดื่มทั้งวันทั้งคืน ผู้ชายผอมๆคนนึงต้องต่อสู้กับชะตากรรมอันโหดร้ายที่พ่อแม่หยิบยื่นให้ ฮ่าๆๆ พูดแล้วก็ตลก...ตอนนี้มันสูงถึง170แล้วนะครับ มันยิ้มกว้างตอนวัดส่วนสูงแล้วบอกว่า ‘กูยังยืดได้อีกเว่ย’ มองโลกในแง่ดีชะมัดเลย แต่ที่ไหนได้พอเริ่มเรียนรด.เท่านั้นแหละมันก็ได้ฉายาใหม่เป็น ‘ตุ๊ดรด.’ แทน เรียกได้ว่าความพยายามทั้งหมดสูญเปล่าเลยแฮะ
วันกีฬาสีจริงทำเอาพวกผมแทบไม่ได้กระดิกตัวไปไหน ผมขลุกอยู่กับวงโยของโรงเรียนทั้งวัน ไปป์กับเวฟ(ที่หนีหลีดเหมือนกัน)ก็ลงแข่งกีฬาเป็นบ้าเป็นหลัง ส่วนโอ๊ตมันได้รับหน้าที่เป็นเบ้ให้พี่ๆใช้ไปซื้อของ เรียกได้ว่าเหนื่อยกันคนละแบบน่ะครับ
พวกผมอยู่สีแสดครับ คอนเซ็ปที่พี่ม.6ตั้งไว้คือเด็กแว้น... เออ...คือมันอารมณ์ออกแนวฮาเล่ย์เพื่อชีวิตอะไรทำนองนั้น แต่ภาพที่ออกมาพวกผมลงความเห็นแล้วว่าใกล้เคียงคำว่า “เด็กแว้น” มากกว่า
อย่างที่บอกครับ...ม.ปลายโรงเรียนผมเป็นสหฯ ดังนั้นกีฬาสีจึงเป็นที่เจริญหูเจริญตาในหมู่นักเรียนชายยิ่งนัก แต่ผมไม่มีอารมณ์มาสนใจหลีดหรือดรัมเมเยอร์สีไหนทั้งนั้นแหละ แค่ไอ้คนข้างๆนี่ก็เอาซะวุ่นวายจนไม่มีเวลาไปมองใครแล้วล่ะ
“ตาย....ไม่มีเหลือน้ำในตัวแล้ว” ไปป์มันบ่นพลางยกแก้วเกลือแร่ขึ้นดื่ม ไอ้เวฟที่เดินตามหลังมาหัวเราะลั่นก่อนจะยิงมุกเด็ด...
“ก็บอกแล้วว่าอย่าแอบว่าวในห้องน้ำโรงเรียน”
พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
น้ำเกลือแร่รสส้มพุ่งกระจายแถมกระเด็นมาโดนแขนผมอีก โห..สกปรกได้โล่ห์ครับ แม่งไอแค่กๆสำลักไม่เลิก ส่วนไอ้เวฟก็ลงไปหัวเราะดิ้นพราดๆอยู่บนพื้น โอ๊ตส่ายหัวเอือมๆ สุดท้ายก็เป็นผมอีกตามเคยที่ต้องหาทิชชู่มาเช็ดหน้าเช็ดตาให้มัน...เด็กจริงๆ
“แล้วผลบอลเป็นไงมั่งวะ” ผมเงยหน้าถามเวฟในขณะที่เช็ดหน้าไปป์ไปด้วย
“แพ้...” เวฟเองก็เอือมเหมือนกัน ดูจากสีหน้ามันตอนทิ้งตัวลงนั่งก็รู้ “ไม่น่าแพ้เลย ไปถึงรอบชิงแล้วแท้ๆ”
“เอาน่าอย่างน้อยก็เหรียญเงิน” โอ๊ตเหมือนจะปลอบใจ ถ้าไม่มีประโยคหลัง “เวฟ....มึงจะเครียดไปทำไม เหรียญมันเอาไปทำอะไรได้ จบงานก็คืนโรงเรียนเก็บไว้ใช้ปีหน้า หรือถ้ามึงอยากถ่ายกับเหรียญทองนักกูไปขอยืมสีน้ำเงินมาให้ก็ได้”
ไปป์หัวเราะลั่นกันคำตอบเกรียนๆจากเด็กแว่น ใครว่าโอ๊ตมันเนิร์ดครับ...ใครบอก!!!!
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย เพราะไอ้หน้าหล่อนั่นแท้ๆ”
“ใครวะ” คราวนี้ไปป์มันเริ่มสนใจเรื่องคนอื่น ซึ่งเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว
“ไอ้นั่นไง...คนที่วันก่อนมึงชี้ให้กูดูแล้วบอกว่าหมันไส้อยากเดินเข้าไปเตะไข่อ่ะ”
“รายละเอียดเยอะจริงวุ้ย” คู่กรณีเกาหัวอย่างมึนงง
“โอ๊ยยยยยย...ก็ไอ้คนที่วันก่อนมันเปิดประตูห้องมาเฉียดดั้งมึงแล้วไม่ขอโทษสักคำน่ะ”
“อ๋ออออออออออออ....ไอ้ห่านั่นเอง ที่ทำหน้าเหมือนมันหล่อที่สุดในโลกอ่ะนะ” ไปป์ขมวดคิ้ว “เป็นนักบอลด้วยเหรอวะ”
“เออดิ....อย่างเก่งเลยไงมึง เลี้ยงหลบแว๊บไปแว๊บมา แบบนี้มีหวังโค้ชเรียกเข้าชมรมแหงมๆ”
“โอ๊ย...พูดแล้วหมันไส้ว่ะ มึงไปแพ้มันทำไมวะเวฟ”
“ใครมันอยากแพ้วะ ไอ้ไปป์แม่งเกรียนว่ะ”
มันเปิดสงครามน้ำลายกันไปสักพักสุดท้ายทุกคนก็หมดสภาพ ผมมองบรรยากาศโดยรอบ ตอนนี้ก็ราวๆสี่โมงครึ่งแล้วล่ะครับ พวกเราอยู่ที่เต้นท์หลังสแตนที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย เพราะทุกคนไปรวมตัวรอฟังประกาศผลกันที่สนามกลางกันหมดแล้ว ลมพัดเอื่อยๆในยามเย็นชวนให้เคลิ้มหลับเสียจริง แต่คงช้าไปหน่อยเพราะไปป์มันชิ่งทิ้งหัวลงบนตักผมแล้วทำท่าหลับน่ารักซะจนผมไม่กล้าขยับตัวมาก ส่วนไอ้สองคนที่เหลือก็คว้ากระเป๋าชาวบ้านแถวนั้นหนุนนอนเรียบร้อยแล้ว
ลมเย็นสบายดีจัง....
คนบนตักก็คงคิดไม่ต่างจากผมหรอก เพราะมันหลับพร้อมกับรอยยิ้มบางๆที่ฉาบริมฝีปากไว้ ผมมองใบหน้านั้นอย่าเนิ่นนานเหมือนมันมีอะไรให้ค้นหา....
คิดถึงวันแรกที่ผมได้พบมัน.... ฮะๆตอนนั้นมันยังพูดเพราะเรียกนายเรียกเราอยู่เลย ภาพเด็กตัวเล็กๆหัวเกรียนๆคนนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ รวมถึงมือเล็กๆที่ยื่นเข้ามาในตอนที่ผมไม่มีใครนั่นด้วย....
ไปป์เป็นมนุษย์แห่งความสุข.....ผมจะใช้คำนี้ได้มั้ยนะ... ไม่ว่าใครที่อยู่ข้างๆมันก็ต่างมีรอยยิ้มบนใบหน้าทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ผมตอนนี้...
สายตาผมจับจ้องไปที่ริมฝีปากเล็กๆที่เผยอออกเล็กน้อยอย่างละสายตาไม่ได้....เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างให้โน้มกายลงไปใกล้ๆ......ใกล้เสียจนลมหายของมันเป่ารดบนใบหน้าผม ผมกำลังจะจูบสินะ.....
จูบ...’เพื่อน’ ของผม....
แต่ก่อนที่จะได้สัมผัสริมฝีปากนั่นผมก็สะดุ้งเฮือกเพราะคนบนตักขยับตัวก่อนจะเปลี่ยนข้างตะแครง ผมมองท่าทีเหมือนเด็กนั่นขำๆก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปจุ๊บเบาๆบนหน้าผากนั่นแทน...
“ชอบไปป์จริงๆด้วยสินะ...”
ผมผงะ...ตกใจแทบช็อคเมื่อเวฟกับโอ๊ตที่ไม่รู้ว่าตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่จ้องหน้าผมตาไม่กระพริบ เวฟหรี่ตามองอย่างจับผิด
“.........” ผมไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเพราะไม่คิดว่าจะถูกจับได้คาหนังคาเขาแบบนี้
“ไม่ต้องตกใจนาดนั้นหรอก...พวกกูก็กะไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้” โอ๊ตดูจะตลกกับท่าทีลนลานของผมนิดหน่อย..ดูจากแววตานั่น...
“ไม่มีอะไรหรอก แค่จะบอกให้ดูแลมันดีๆด้วย” เวฟยักไหล่ “ไปป์มันก็เหมือนน้องชายกู ถ้ามึงดูแลมันไม่ดี กูเชือดมึงทิ้งแน่ๆ”
“ไม่ต้องบอกกูก็ทำอยู่แล้วน่า” มันสองคนยิ้มให้ผมโดยไม่ต้องมีคำพูดใดออกจากปาก มันเดินมาตบบ่าผม ก่อนจะขอตัวไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำ ทิ้งให้ผมอยู่กับคนที่ทำให้หัวใจเต้นแรงตามลำพัง....
ผมมองรอยยิ้มบางๆยามหลับอย่างเป็นสุขนั่น.......
ชีวิตนี้ผมไม่ขออะไรแล้วนอกจากแซกโซโฟนสักตัวกับสายลมอ่อนๆ
และรอยยิ้มของไปป์เท่านั้น
END
ตอนนี้เป็นอดีตนะคะ แจกมาม่าให้แซ๊กเบาๆ(แต่คนอ่านคงไม่ดราม่ามาก โดนเฉพาะเอฟซีน้องฟาร์ เพราะมันเป็นแซ๊ก)
ส่วนตัวสงสารแซ๊กออกนะคะ ผู้ชายอะไรจะแอบรักได้นานขนาดนั้น แถมโดนคาบไปแดกก่อนอีก(ตกลงคินมันเป็นตัวอะไร?) เรื่องหาคู่ให้แซ๊กนี่มีอยู่แล้วค่ะ...รับรองว่าท่านจะคาดไม่ถึง เพราะฉะนั้นอย่าเดามา...มันผิดแน่ๆค่ะ หึหึหึ
แต่ถามคนเขียน ชอบเขียนถึงเวฟนะ อิมเมจเหมือนเพื่อนที่โรงเรียนดี เขียนไปนึกภาพออกเลย เออ...แล้วทำไมโอ๊ตบทน้อยจังวะ ...มีความสามารถต่ำในการกระจายบทแน่ๆ= =
ไอ้วงกลมตอนที่แล้วคนเขียนเอามาจากคณิตตอนม.ปลายเรื่องเซตนั่นหละค่ะ เรียนสายศิลป์เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวในคณิตที่เข้าใจ...อนาถยิ่งนัก...
เปิดเทอม
เปิดเทอมแล้ว อาจาย์สั่งงานตั้งแต่อาทิตย์แรกเลย อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก..อยากตายยยยยย
PS.คนเขียนลงทะเบียนได้หมดแล้วนะคะ แต่ตัวคณะที่บังคับลงดันไม่เปิดซะนี่ เฮ้อ..เกิดมาเพิ่งเคยเจออาจารย์มปัญหากันแล้วมาปิดเซคเนี้ย เสียวเป้อมากค่ะ//ซีด
ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป
Zurruz-ท่อนนั้นพี่โดมแย่งซีนค่ะ ร้องไม่กี่ประโยคแต่หล่อมาก
Rafael-ขอบใจจ้าน้องสาว
river-มหาลัยไม่ได้อยู่ภาคกลางน้ำไม่ท่วมค่ะ เปิดเทอมตามปกติT T
ordkrub-ดีใจที่คนอ่านอิ่มใจค่ะ
londoneye-อ่านเม้นนี้แล้วตัวลอยค่ะ เปรียบเทียบซะคนเขียนปลื้มมาก
EoBen-ฮาตรงจะเอาไปบอกแฟนเนี้ยแหละ 555555
momoshiro-ไม่ตอบเม้นท่านไม่ได้จริงๆนะ คราวหน้าเราเขียนกระดานชนวนส่งกันเลยดีกว่า เม้นภาษาอะไรคะแปลไม่ออก/โดนตบ/ ใจ๋เย็นๆเน้อ คนเฮามันจะเสียตั๋วต้องใจ้เวลา มอมเหล้านี่ขอกิ๊ดผ่อก่อน คินมันบ่ามีซะตางซื้อหล้านัก...เฮ้อ เอ็นดูอิเฮ้ย
pp4-อ่านเม้นแล้วงง คินร้องไห้นะคะ ไม่ใช่ไปป์..เราเขียนงงรึเปล่าคะ
casper75-เดินไปหาทรายไว้เขียนวงกลมค่ะ กร๊ากกกกกกกกก//แถ
day9day-มีนะคะ...แต่รอไปก่อนค่ะ ฮ่าๆๆๆ
patwo-ไม่เป็นไรค่า ไม่ซีเรียสเรื่องเม้น เม้นเฉพาะตอนที่ชอบก็ได้ค่ะ
Cacao-ดีใจที่ชอบนะคะ...ไว้ไปบอกแฟนได้ผลว่าไงบอกกันมั่งนะคะ ฮ่าๆๆๆ
MinKKniM-คนนี้ทันมุกเราตลอดอ่ะ เอิ๊กกกกกกกกกกกกก