Fantasy "Frozentear" [เรท PG-15] 21/3/2511,-15-การจากลา,-16-บทส่งท้าย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Fantasy "Frozentear" [เรท PG-15] 21/3/2511,-15-การจากลา,-16-บทส่งท้าย  (อ่าน 41120 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
Re: Fantasy "Frozentear" [เรท PG-15] 16/3/2511 -10- ทางเลือก
«ตอบ #120 เมื่อ16-03-2011 21:20:46 »

 :เฮ้อ:นั่นสิเนอะ ถึงจะมีพลังวิเศษหรืออายุยืนกี่หมื่นปี แต่ถ้าไม่มีคนที่เรารัก อายุี่ยาวนานเท่าไหร่ก็ทำให้เวลาที่เจ็บปวดมันยาวออกไปเท่านั้นเอง
+1 ให้ป้าค่ะ โทษฐานทำให้อิน อิอิ :3123:
ปล. แวะไปชิมมาม่ามาเหมือนกัน แต่เลิกแล้ว กินมากเดี๋ยวผมร่วง

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: Fantasy "Frozentear" [เรท PG-15] 16/3/2511 -10- ทางเลือก
«ตอบ #121 เมื่อ16-03-2011 23:01:44 »


 


-11-ความทรงจำ
---Alaska: 19 Apr. 2010---



Sunny part:



เสียงตะกุยประตูห้องนอนที่ดังสลับกับเสียงเท้าของเจ้าไลท์นิ่ง

ปลุกให้ฉันต้องลุกจากที่นอนอันอบอุ่น

ไปเปิดประตูเพื่อถามความต้องการของมันแต่เช้าตรู่



"เป็นอะไรไปไลท์นิ่ง"



ท่าทางลุกลี้ลุกลนของมันที่เอาแต่วิ่งขึ้น-วิ่งลงบันไดและจ้องมองไปที่ประตู

ทำให้ฉันรู้ได้ในทันทีว่าประสาทรับรู้ของมันกำลังจับสัมผัสอะไรบางอย่างได้

ฉันสาวเท้ากลับไปที่เตียงเพื่อปลุกคนที่นอนร่วมห้อง

ก่อนที่ฉันกับอายูมิจะช่วยกันปลุกคนที่เหลือซึ่งพักอยู่ในห้องข้าง ๆ

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ฉัน ซาโตะ และยูกิ ในชุดแต่งกายพร้อมเดินทางก็ออกมาสมทบกับทีมค้นหา

ที่เตรียมพร้อมรอเราอยู่หน้าเต้นท์พักของพวกเขา

ก่อนที่ GMC คันใหญ่ซึ่งยูกิเช่ามาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

จะเคลื่อนที่ตามฝูงอลาสกันของฉันซึ่งมีเจ้าไลท์นิ่งวิ่งนำทางอยู่หัวขบวน



GMC ขับเคลื่อนด้วยความเร็วพอประมาณ

จนผ่านจุดค้นหาหลักซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่เราอยู่กับยุนวันนั้น

ผ่านไปได้สักระยะ กระทั่งมาถึงจุดที่รถไม่สามารถเคลื่อนผ่านไปได้

พวกเราทั้งหมดจึงลงจากรถมาสมทบกับฝูงอลาสกันที่ยืนรอเราอยู่

เจ้าไลท์นิ่งส่งสัญญานให้ฉันตามมันไปในเส้นทางสายเล็ก ๆ ซึ่งฉันไม่คุ้นเลย

ไม่รู้ว่าถนนสายนี้หลงหูหลงตาพวกเรามาได้อย่างไรตั้งสองเดือน



ทางเดินที่เหมือนจะเกิดขึ้นจากการใช้งานของใครบางคนหรือบางกลุ่ม

ซึ่งผ่านการใช้มาอย่างสม่ำเสมอนี้

พาเราลัดเลาะไปตามความโค้งของเทือกเขา เราผ่าน 2 เนินแรกมาจนถึงลานโล่ง

และกำลังขึ้นเนินที่ 3 ซึ่งดูจะสูงกว่า 2 เนินแรกอยู่พอสมควร



ซาโตะยังคงกุมมือฉันมาตลอดทางเหมือนอย่างทุกครั้งที่เราออกทำการค้นหา

เขาช่างเสมอต้นเสมอปลาย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้พิสูจน์ให้ฉันเห็นว่า

ถึงแม้จุดเริ่มต้นของเราจะเกิดจากความผลั้งเผลอ

แต่ความสัมพันธ์ของเราไม่ใช่ความสัมพันธ์ฉาบฉวย...



เหตุการณ์ที่ทำให้ยุนหายตัวไปสะกิดใจฉันเข้าอย่างจัง

มันทำให้ฉันนึกถึงครั้งสุดท้ายที่ฉันยังอยู่กับพ่อ

ฉันกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังเล็ก

พ่อส่งฉันไปอยู่กับป้าในเมืองเพื่อให้ฉันได้เรียนหนังสือ

แต่ฉันก็กลับมาเยี่ยมพ่อเสมอในช่วงปิดเทอม

และทุกครั้งเรามักจะใช้เวลาร่วมกันด้วยการสำรวจ



จนวันหนึ่ง... พ่อพาฉันขึ้นรถเลื่อนไปสำรวจพื้นที่รอบ ๆ เหมือนทุกที

แต่ที่ต่างไปจากทุกครั้งก็คือ...

คราวนี้เราแพลนกันไว้ว่าจะตั้งแคมป์ค้างคืนเพื่อส่องสัตว์

แล้วเหตุการณ์ที่ไม่ได้อยู่ในแผนก็เกิดขึ้น



ระหว่างที่ฉันกำลังยืนดูพ่อทำห้างบนต้นไม้ ฝูงอลาสกันที่พ่อเลี้ยงไว้ก็ส่งเสียงขู่กรรโชกขึ้นมา

ฉันหันไปตามทิศทางที่พวกเด็ก ๆ ของพ่อกำลังจ้องมองอยู่

แล้วฉันก็ได้เห็นฝูงหมาป่าสีเทาจ้องกลับมา

พ่อร้องเรียกให้ฉันปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้กับพ่อ

ฉันรีบทำตามทันที แต่ความตกใจทำให้ฉันพลาด

ฉันพลัดตกจากกิ่งไม้ในขณะที่ฝูงหมาป่ากรูกันเข้ามา

พ่อรีบกระโดดลงจากห้างมาหาฉัน

ท่านหยิบปืนของท่านออกมายิงขู่

แต่มันเปล่าประโยชน์ หมาป่าพวกนั้นไม่ได้เกรงกลัวเลยสักนิด

พ่อจึงเล็งปืนเข้าใส่พวกมัน

ขณะเดียวกันก็ประคองฉันซึ่งข้อเท้าแพลงอยู่ไปขึ้นรถเลื่อน



พ่อส่งสัญญาณเรียกฝูงอลาสกันของพ่อที่กำลังต่อสู้กับฝูงหมาป่าอยู่อย่างสุดกำลัง

ให้กลับมารวมกลุ่มแต่พวกมันกลับมาได้แค่สี่ตัวเท่านั้น

ส่วนที่เหลือ... ฉันเห็นร่างของพวกมันกำลังถูกฝูงหมาป่าฉีกทึ้ง

พ่อรีบจัดการสวมสายรัดให้กับพวกที่เหลือซึ่งตามเนื้อตัวของพวกมันมีบาดแผลอยู่หลายแห่ง



"กลับบ้านไป!!!" คำสั่งที่พ่อตะโกนสั่งฝูงอลาสกันที่เหลือคือครั้งสุดท้ายที่ฉันได้ยินเสียงของพ่อ

ในขณะที่รถเลื่อนเคลื่อนจากมา



ใช่... พ่อทำเพื่อฉัน ที่พ่อทำแบบนั้นเพราะอลาสกันบาดเจ็บ 4 ตัว

ไม่สามารถรับน้ำหนักของคน 2 คนได้

พ่อยอมตายเพื่อให้ฉันรอด และใช่...

ฉันหนีรอดมาได้ แต่ฉันกลับหนีความจริงอย่างหนึ่งไปไม่ได้

ความจริงที่ว่า... เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน

ผิด... ที่ฉันช่วยอะไรพ่อไม่ได้ ผิด... ที่ฉันไม่เข้มแข็งพอ

ผิด... ที่ฉันเป็นต้นเหตุทำให้พ่อต้องตาย



ฉันแอบร้องไห้อยู่ตามลำพังในห้องนั่งเล่น

ร้องไห้ให้กับความรู้สึกผิดที่กัดกินใจฉันมาตลอด 4 ปี

จู่ ๆ ซาโตะก็มานั่งลงข้าง ๆ ฉัน

ฉัน... ซึ่งกำลังต้องการใครซักคนเป็นที่ระบาย จึงโผเข้าสู่อ้อมอกของเขา

คืนนั้น... เราปลอบโยนซึ่งกันและกัน

และนับจากวันนั้น... เขาก็คอยดูแลเอาใจใส่ฉันมาตลอด



ยิ่งเราเดินขึ้นมาสูงเท่าไหร่ อุณหภูมิก็ยิ่งต่ำลงเรื่อย ๆ มันเป็นธรรมชาติของภูมิประเทศในแถบนี้

เราใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะมาถึงลานโล่งบนเนินนี้ได้

พวกเราจึงตัดสินใจนั่งพักเอาแรงกันสักหน่อย

แต่แล้ว... จู่ ๆ ฝูงอลาสกันของฉันก็ลุกขึ้นทำขนตั้งหางฟู...



"ระวังตัวนะ" ฉันเตือนเพื่อนร่วมคณะเดินทางพร้อมกับหยิบ .22 แม๊กนั่มออกจากซองเก็บ

และคนที่เหลือก็หยิบอาวุธของตัวเองขึ้นมาเตรียมพร้อมไว้เช่นกัน

มีบางอย่างอยู่หลังแนวไม้นั่น

ฉันจ้องมองการเคลื่อนไหวของมันไม่วางตา

ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะเมื่อทีมค้นหาคนหนึ่งสืบเท้าเข้าไป



"แค่หมาจิ้งจอกหนะ... เชื่องซะด้วยสิ ผมเห็นมันกำลังเล่นไล่จับกับผีเสื้อสีฟ้าอยู่"



สิ่งที่เขาอุ้มติดมือออกมาทำให้ฉันคลี่ยิ้มได้เต็มหน้า ใช่... มันคือเจ้าหนูของฉัน

เจ้าหนูที่หายไปซะนาน

ฉันดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้พบมันอีกครั้ง และมันเองก็คงจะดีใจมากแน่ ๆ

เพราะตั้งแต่ที่ฉันอุ้มมันมาจากมือของทีมค้นหาคนนั้น

เจ้าตัวเล็กยังเลียหน้าเลียตาฉันไม่หยุด

ส่วนฝูงอลาสกันของฉันก็เข้ามาดมมาเลียน้องเล็กของพวกมันกันใหญ่



"แบบนี้ก็แสดงว่ายุนต้องอยู่ใกล้ ๆ หนะสิ"

คุณแฟนร่างโย่งของฉันตั้งข้อสังเกตด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า



"ถ้าเขายังอยู่กับเจ้าหมานี่... ก็น่าจะไม่ไกลจากที่ผมเจอมันซักเท่าไหร่"



"งั้นเรารีบไปกันเถอะ"



ความเห็นของหนึ่งในทีมค้นหาทำให้ยูกิตื่นตัวเต็มที่ สายตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความหวัง

ท่าทางมุ่งมั่นและกระตือรือร้นที่ฉันไม่ได้เห็นมานานปรากฏขึ้นอีกครั้ง

หลังจากที่คว้าน้ำเหลวมาหลายที

หวังว่าคราวนี้เขาคงสมหวังนะ ฉันภาวนาให้เป็นอย่างนั้น

 เพราะฉันเองก็รู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้ยุนหายไป

.

.

.

.

.

.

.

.

.
Talk:
เหลืออีกไม่กี่ตอนแล้วนะคะ

ใกล้จบแล้วค่ะเรื่อนี้ หุๆ





ผลงานของอีป้าแก่ ๆ (Red RhyNo)

อยากอ่านเรื่องไหนก็จิ้มได้ตามรูปเลยค่ะ




ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
Re: Fantasy "Frozentear" [เรท PG-15] 16/3/2511 -10- ทาง
«ตอบ #122 เมื่อ17-03-2011 06:39:48 »

อ้าว กรรม ซาโตะเสร็จไปซะแล้ว
แต่ซึ้งคุณพ่อซันนี่อ่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
 


-12- การเผชิญหน้า
Yoon part III:



ฉันกำลังจ้องมองใบหน้าของคนที่ฉันรัก ที่กำลังพริ้มตาหลับอยู่ในอ้อมกอดของฉัน

ในขณะที่เราทั้งคู่แวะพักระหว่างทางโดยอาศัยแผ่นหลังของเจ้าทีต่างพนักโซฟา

ฉันนึกขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้โจเซฟเปลี่ยนใจ และที่สำคัญ

ฉันต้องขอบคุณโจเซฟที่เลือกฉัน



เปลือกตาบางปรือขึ้นมองฉันก่อนที่รอยยิ้มอ่อนโยนจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ฉันหลงใหล



"หลับสบายมั๊ย" ฉันถามอย่างอยากจะแหย่เล่น



โจเซฟพยักหน้ายึกยักพร้อมกับเปิดยิ้มกว้างได้อย่างน่าเอ็นดู

จนฉันอดใจไม่ได้ที่จะฝังจมูกลงบนแก้มใส

กลิ่นกายของโจเซฟช่างเย้ายวนจนเกินต้านทาน

ฉันเลื่อนหน้าลงซุกไซร้ซอกคอระหงที่หอมกรุ่น

ฉันมักเป็นแบบนี้อยู่เรื่อย ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับโจเซฟ

ร่างกายของฉันมันก็ร่ำร้องแต่จะสัมผัส



อย่างตอนนี้...พอรู้ตัวอีกทีมือซุกซนของฉันก็สอดพ้นชายผ้า

เข้าไปลากไล้โคนขาด้านในของโจเซฟซะแล้ว

แต่ฉันก็ไม่คิดที่จะหยุดมัน แน่หละ... ฉันพอใจที่เป็นแบบนี้

และโจเซฟก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธสัมผัสของฉัน

ใช่... ฉันรู้ว่าโจเซฟเองก็พอใจ

ร่างกายของโจเซฟสั่นไหวในทุกขณะที่ริมฝีปากร้อนของฉันทาบลงบนผิวนวล

ฉันเลื่อนหน้าลงคลุกเคล้ายอดอกที่แอ่นขึ้นรับสัมผัสหนักหน่วงจากริมฝีปากของฉัน

ซึ่งกำลังฝากรอยรักไว้



"ท่านโจเซฟ" "ท่านยุน" "เจ้าแทงกู" "พวกมนุษย์" "สุนัขใหญ่"



เสียงงุ๊งงิ๊งฟังไม่ได้ศัพท์ของพวกบลูแฟรี่

ทำให้ฉันต้องละมือจากกิจกรรมที่เพิ่งจะเริ่มต้นไปอย่างน่าเสียดาย


"ไว้กลับถึงบ้านพักแล้วค่อยต่อนะ"



ใบหน้างามของโจเซฟซึ่งขึ้นสีเรื่อด้วยเลือดลมที่สูบฉีดเพราะกิจกรรมเมื่อครู่เข้มจัดด้วยความอาย

เพราะคำพูดของฉันที่กระซิบอยู่ข้างหู

และโจเซฟก็ทำให้ฉันยิ้มร่าด้วยการพยักหน้าตอบรับเพียงเบา ๆ

แล้วเจ้าแทงกูก็วิ่งหน้าตั้งกลับมาก่อนจะกระโจนขึ้นนั่งบนตักฉัน

มันถูไถตัวเองตามนิสัยช่างประจบ ฉันไม่ได้ใส่ใจกับมันนัก

เพราะสิ่งที่น่าสนใจกว่าคือฟูงอลาสกันคุ้นตาที่วิ่งนำกลุ่มคนคุ้นหน้าเข้ามา

โดยมีชายร่างใหญ่แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่ 4 คน ที่ฉันไม่เคยเห็นหน้าก้าวตามมาด้วย



"พี่ยูกิ!" "ซาโตะ!"



ฉันตะโกนเรียกคนคุ้นเคยก่อนจะพยุงโจเซฟให้ลุกขึ้นตามฉัน แล้วเจ้าทีก็ลุกขึ้นยืนตามเราด้วย

และนั่นทำให้กลุ่มที่กำลังจะเข้ามาชะงักกึก ทุกสายตามองมาที่เจ้าทีอย่างหวาด ๆ

ยกเว้นก็แต่ซันนี่ ที่คลี่ยิ้มมองมันอย่างเอ็นดู



"ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ดูสิ... มันเชื่องจะตาย" ซันนี่บอกพลางดึงแขนซาโตะให้ก้าวมาหาฉัน

ซึ่งซาโตะดูจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ ฉันจึงเป็นฝ่ายจูงมือโจเซฟไปหาซะเอง



พี่ยูกิโผเข้ากอดฉันทันทีที่ฉันเข้าใกล้ ฉันนิ่งค้างไปครู่หนึ่งก่อนจะยกแขนขึ้นกอดตอบเขา

เราไม่ได้กอดกันมานานเท่าไหร่แล้วฉันเองก็จำไม่ได้เหมือนกัน รู้แต่ว่ามันนานมาก

อ้อมกอดของพี่ยูกิแน่นมากเลยหละ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอึดอัด ที่จริงฉันรู้สึกดีมาก ๆ เลยหละ

พี่ยูกิกำลังร้องไห้ ฉันเองก็เหมือนกัน ฉันเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่าฉันคิดถึงพี่ยูกิมาก

และเขาก็คงไม่ต่างกัน



แล้วซาโตะก็เข้ามากอดฉันกับพี่ยูกิไว้ มันร้องไห้ได้น่าเกลียดมาก

ไอ้เพื่อนขี้แย มันคงคิดถึงฉันมากเลยสิท่า

เพราะฉันเองก็คิดถึงมันมากเหมือนกัน

เราสามคนกอดคอกันร้องไห้อยู่ครู่หนึ่งฉันก็ผละออก

เพื่อแนะนำคนสำคัญ



"น้องสะใภ้... ชื่อโจเซฟ"



ฉันคลี่ยิ้มพลางยักคิ้วอย่างอยากอวดพร้อมกับกระชับวงแขนที่โอบเอวบางให้แน่นขึ้นอีกหน่อย

พี่ยูกิกับซาโตะเขวี้ยงค้อนใส่ฉันอย่างหมั่นไส้ก่อนจะพากันปั้นยิ้มหวานแนะนำตัว



"กรรร!!" เสียงขู่คำรามของฝูงอลาสกันทำให้การสนทนาของพวกเราชะงัก



"คราวนี้ของจริง" ซันนี่พูดขึ้นลอย ๆ แล้วทุกคนก็หยิบปืนออกมา



"แวร์วูฟ!!!"



เสียงแตกตื่นของกลุ่มแฟรี่ทำให้ฉันกับโจเซฟรู้ได้ทันทีว่าเรากำลังจะเผชิญกับอะไร

ฉันหันไปสบตากับโจเซฟพร้อมกับยื่นมือไปกุมมือเขาเอาไว้



"ตามท่านคริสตอฟกับท่านอีริคให้ที!"



ฉันร้องบอกพวกแฟรี่ และภูติจิ๋วก็หายวับไปทันทีที่ได้รับคำสั่ง



"พระเจ้า!" "นั่นมันอะไรหนะ?" "บ้าน่า!" "เมื่อกี๊มันอะไรกัน?" "ผีเสื้อพูดได้~" "มันหายไปแล้ว!"



หลายเสียงหลากอารมณ์ของคนที่เพิ่งจะเคยได้สัมผัสกับเรื่องเหลือเชื่อด้วยตาตัวเอง

หลุดร้องขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่ทุกคนจะตะลึงตาค้าง

เมื่อเห็นอะไรที่น่าทึ่งและน่ากลัวกว่ามากตีวงล้อมพวกเราอยู่

แต่คราวนี้... ไม่มีใครสักคนที่จะกล้าปริปาก แล้วโจเซฟก็ร่ายมนต์บางอย่าง

ครู่เดียวก็ปรากฏสายน้ำที่โอบอุ้มด้วยลำธารน้ำแข็งขึ้นด้านหลังเรา



"ไปเร็ว!"



ฉันตะโกนบอกทุกคนพร้อมกับจูงมือโจเซฟไถลลงบนลำธารน้ำแข็งซึ่งทอดตัวลงสู่ลานโล่งเบื้อล่าง

แน่หละ... ทุกคนกระโจนตามเราลงมา ไม่เว้นแม้แต่เจ้าทีและพวกหมา ๆ

ทุกชีวิตไถลไปตามสายน้ำราวกับเล่นไสลเดอร์ในสวนสนุก

จะต่างกันก็ตรงที่กระแสน้ำในลำธารน้ำแข็งนี้มันทั้งเชี่ยวและเย็นจัดจับขั้วหัวใจ



"ให้ตายเหอะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย แล้วเมื่อกี๊มันตัวอะไร" ซาโตะโวยวายตามประสาคนขี้บ่น



"ไว้รอดไปได้จะอธิบายให้ฟังละกัน" ฉันบอกปัดไปแบบนั้นเมื่อสิ่งที่สำคัญกว่าคือหาทางหนีทีไล่

เพราะตอนนี้พวกแวร์วูฟมันกำลังไถลตามเราลงมาจากทางต้นน้ำโน่นแล้ว



เมื่อพวกเราลงมาถึงแอ่งน้ำเบื้องล่างโจเซฟก็รีบร่ายมนต์ขึ้นอีกครั้ง

แล้วลำธารน้ำแข็งก็หายวับไปกับตา

รวมทั้งน้ำในแอ่งที่ท่วมเราอยู่เกือบจะครึ่งตัวนี่ด้วย

และนั่นทำให้พวกแวร์วูฟที่ยังค้างอยู่บนธารน้ำแข็ง

ลอยละลิ่วแหวกอากาศร่วงลงตรงที่ไหนสักแห่งในผืนป่าข้างบนนั่นแหละ



พวกเราวิ่งตามฝูงอลาสกันไปตามเส้นทางลาดชันสายเล็ก ๆ

โดยมีทีมค้นหาทั้ง 4 คนคอยระวังหลังให้

ราว 20 นาที เราก็มาถึงปลายทาง แน่หละ... ทุกคนกรูกันเข้าไปที่รถโดยไม่ต้องรอให้ใครบอก

เว้นก็แต่โจเซฟซึ่งดูจะงง ๆ กับพาหนะที่ไม่คุ้นตา แต่เธอก็ตามฉันขึ้นรถโดยไม่ถามไถ่อะไร

โดยมีเจ้าแทงกูถืออภิสิทธิ์กระโดดขึ้นมานั่งอยู่บนตักฉันได้ทันท่วงทีก่อนที่ฉันจะปิดประตู

แล้วมันก็นอนพังพาบเกยคางพาดไปบนตักของโจเซฟอย่างสบายใจเฉิบ



ระหว่างที่รถวิ่งอยู่เจสสิก้าก็คอยหันมองกระจกหลังไปเรื่อย

เธอคงห่วงเจ้าทีที่วิ่งตามรถของพวกเรามาห่าง ๆ

ซันนี่เองก็คอยหันกลับไปมองพวกเด็ก ๆ ของเธอเช่นกัน

ฉันว่าความผูกพันระหว่างสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก ๆ เลยหละ



"ซวยฉิบ!" หนึ่งในทีมค้นหาซึ่งทำหน้าที่เป็นพลขับสบถออกมาพร้อมกับใช้เท้าแตะเบรก



เราที่เหลือรู้ความหมายได้โดยไม่ต้องเอ่ยถาม

ก็เพราะเห็นอยู่ตำตาว่าฝูงหมาป่ากำลังกรูกันเข้ามาที่รถ

ไม่ใช่แค่ฝูงเดียว แต่พวกมันมาจากทุกสารทิศ



"ลุยเลยโค้ช!"



"แหงอยูแล้ว" คนขับตอบเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ก่อนกระชาก GMC

เข้าบดฝูงหมาป่าที่วิ่งมาทางด้านหน้า หมาป่าหลายตัวถูกชนกระเด็นออกไป

GMC ส่ายไหวเล็กน้อยเมื่อบดทับร่างของบางตัวที่เคราะห์ร้าย

ฉันได้แต่เวทนาพวกมัน แต่ก็นั่นแหละ... จะว่าคนพวกนี้โหดร้ายก็คงจะไม่เหมาะ

เพราะเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ใครมัวมาใจดีกับมันอยู่ ถ้าไม่บ้าก็โง่เต็มที



"แปลกแฮะ" ซันนี่เปรยขึ้นมาก่อนจะขยายความถึงข้อสังเกตของเธอ


"นี่ไม่ใช่เวลาออกล่าของพวกมันซะหน่อย แล้วก็ดูเหมือนว่าพวกมันจะตั้งใจตามเรามากกว่า"



ฉันหันกลับไปมองฝูงหมาป่าที่วิ่งไล่หลังพวกเรามา ถึงแม้ว่าพวกมันบางตัวจะยังติดพันกับการต่อสู้

อยู่กับฝูงอลาสกันของซันนี่ แต่ส่วนใหญ่ที่เหลือก็ยังวิ่งตามเรามาไม่หยุด

ถึงแม้ว่าจำนวนของพวกมันจะลดลงเรื่อย ๆ เพราะพลังฝ่ามือหมีของเจ้าทีก็เถอะ

จะว่าไป ฉันทึ่งในตัวเจ้าทีมากจริง ๆ พลกำลังของมันช่างมหาศาล

มันฉีกหัวเจ้าหมาป่าหลุดออกจากคอได้ด้วยการดึงเพียงครั้งเดียว

ที่จริง... แค่มันสะกิดเบา ๆ ก็ส่งเจ้าหมาป่าบางตัวลอยละลิ่วไปไกลได้หลายเมตรเชียวหละ



"พวกมันเป็นบริวารของฟิลิปส์"



คำพูดของโจเซฟทำให้ทุกสายตาหันมาจ้องมองเธอ

ฉันจึงต้องช่วยอธิบายให้คนอื่นเข้าใจซะหน่อย


"เธอหมายถึงแวร์วูฟเมื่อกี๊หนะ ฟิลิปส์เป็นเจ้านายของพวกมัน"



"ไอ้มนุษย์หมาป่าหน้าตาน่าเกลียดเมื่อกี๊หนะเหรอ" ซาโตะถามพลางทำหน้าเหวอ



"ก็แปลว่าแกไปมีเรื่องกับมนุษย์หมาป่างั้นสิ"



"ก็ทำนองนั้น"



ฉันตอบพี่ยูกิพลางเสหลุบตาลงต่ำ รู้สึกผิดจริง ๆ ที่เป็นต้นเหตุให้พวกเขาต้องตกอยู่ในอันตราย



"บึ๊ก!" เสียงอะไรบางอย่างที่หล่นลงบนหลังคาทำให้การสนทนาของพวกเราชะงัก

น้ำหนักของมันมากจนหลังคา GMC ยุบตัวลงมา

และนั่นทำให้เจ้าแทงกูกระโดดลงจากตักฉันไปนอนหมอบคุดคู้อยู่ที่พื้น



"เพล้ง!" กระจกด้านข้างที่นังคนขับแตกละเอียด ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกกระชากออกจากรถ



"เฮ้ย!!!" หลายเสียงในห้องโดยสารหลุดร้องออกมาพร้อมกัน



"อ๊ากกก!!!" เสียงร้องโหยหวนที่ดังอยู่ด้านนอกทำให้พวกเราขนลุกเกรียว

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเสียงใคร

ร่างของเขาที่ถูกโยนลงมากระแทกกระโปรงหน้ารถยืนยันความคิดของพวกเราได้ชัดเจน

และนั่น... ทำให้คนในที่นั่งข้างคนขับได้สติ

เขาย้ายตำแหน่งไปนั่งหลังพวงมาลัยก่อนจะบังคับรถให้ส่ายไปมา

ด้วยหวังจะสลัดไอ้ตัวที่อยู่บนหลังคาออกไป

เขาเบี่ยงรถเข้าหาต้นไม้ข้างทางซึ่งมีกิ่งไม้ใหญ่ยื่นออกมา



"บึ๊ก!" ใช่... มันได้ผล เจ้าแวร์วูฟนั่นกระแทกเข้ากับกิ่งไม้

ก่อนที่ทั้งมันและกิ่งไม้หักจะร่วงลงกระแทกพื้น



"เฮ้!!!" หลายเสียงไชโยโฮ่ร้องกันใหญ่ เว้นก็แต่ฉันกับโจเซฟซึ่งรู้ดีว่ามันยังไม่จบแค่นี้



เสียงโห่ร้องเงียบลงทันทีเมื่อทุกคนรู้ว่าดีใจเก้อ เพราะเพียงครู่เดียวเจ้าแวร์วูฟนั่นก็ลุกขึ้นมาใหม่

มันวิ่งเข้ามากระแทกด้านข้างของรถจนสั่นไปทั้งคัน ก่อนที่พวกของมันอีกตัวจะพุ่งชนอีกข้าง

ตามมาด้วยอีก 2 ตัวที่พุ่งเข้ากระแทกรถของพวกเราทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง

โชคยังดีที่ GMC เสริมคานเหล็กกล้า ไม่งั้นพวกเราคงถูกอัดรวมกันเหมือนปลากระป๋อง

พลขับมือ 2 พยายามเหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

ในขณะที่พวกมันยังคงโถมแรงใส่มาไม่ยั้ง



"ปัง! ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ" 2 คนที่เหลือในทีมค้นหา

ช่วยกันกระหน่ำยิงตัวที่อยู่ด้านหน้ารถด้วยบาเร็ตต้าในมือ

ขณะที่ซันนี่ปีนข้ามเบาะมาหาฉันกับโจเซฟที่นั่งอยู่ตอนหลังสุดก่อนจะเอื้อมคว้าอะไรสักอย่าง

จากช่องเก็บของที่อยู่หลังเบาะของเรา

แล้วเธอก็หันกลับมาพร้อมกับประทับเล็งลูกซองแฝดกระบอกยาว



"เอานี่ไปกินซะไอ้ตัวทุเรศ!" ซันนี่แหกปากร้องลั่นอย่างระบายอารมณ์ก่อนจะเหนี่ยวไก



"ตูม!!"



แรงอัดของกระสุนลูกปลายกระแทกไอ้ตัวทุเรศของเธอที่อยู่หน้ารถของเราจนผงะออกไป

จังหวะนั้น คนขับก็พุ่งรถเข้าใส่จนมันกระเด็นไปหลายเมตร ก่อนจะหักพวงมาลัยวนรถเป็นวงกว้าง

เพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของอีก 3 ตัว



"ตูม!!" ซันนี่สอยตัวที่อยู่ทางด้านข้างฝั่งคนขับไปอีกหนึ่ง

แต่พวกเราก็ต้องตะลึงจนตาค้างเมื่อไอ้ตัวที่ถูกสอยไปตอนแรกลุกขึ้นมาอีกทั้งที่เลือดท่วมตัว

ซันนี่บรรจุกระสุนเข้าไปใหม่ก่อนจะเหนี่ยวไกซ้ำมันอีกครั้งเมื่อมันวิ่งมาจากทางด้านข้าง



"ตูม!!" ลูกปลายของซันนี่แตกกระจายใส่หัวมันไปเต็ม ๆ

รวมทั้งลูกตาของมันก็แตกไปด้วย และคราวนี้มันถึงกับล้มทั้งยืน



"บรู๊วววววววววว!" มันแหงนหน้าขึ้นส่งเสียงโหยหวนก่อนจะค่อย ๆ ยันกายขึ้นมาอีกครั้ง



"จะอึดไปไหนของมันวะเนี่ย" ซาโตะบ่นออกมาอย่างเกรง ๆ



"เพล้ง!!" กระจกด้านข้างที่ซันนี่สอดปลายปืนออกไปแตกละเอียด

ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกดึงออกไปพร้อมกับลูกซองแฝดในมือ



"ซันนี่!!" ซาโตะร้องพลางโผเข้ารวบเอวซันนี่ไว้ส่วนพวกเราที่เหลือก็ช่วยกันออกแรงรั้ง

รวมทั้งเจ้าแทงกูที่ใช้ฟันของมันงับชายกางเกงของซันนี่เอาไว้แน่น

แต่สุดท้ายซันนี่ก็ถูกดึงออกไปจนได้



"ซันนี่!!" ซาโตะแหกปากร้องพลางโผตามร่างของซันนี่ออกไป

ฉันกับพี่ยูกิจึงโผตามไปรั้งเขาเอาไว้



"บึ๊ก!!" เสียงการกระแทกดังขึ้นจากด้านนอก แต่คราวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับรถของเรา



แวร์วูฟตัวหนึ่งพุ่งเข้าโจมตีพวกของมันตัวที่จับซันนี่ไปก่อนที่ร่างของซันนี่จะกระเด็นไปอยู่ที่พื้น

ไอ้ตัวที่ถูกยิงตอนแรกแยกเขี้ยวโง้งของมันอย่างแสยะยิ้มแล้วกระโจนเข้าใส่ซันนี่ทันที

แต่ในขณะที่กรงเล็บของมันจะถึงตัวซันนี่ ร่างของมันก็กระเด็นออกไปด้วยน้ำมือของพวกเดียวกัน

ใช่... มันคือตัวเดียวกับที่โจมตีเจ้าตัวแรก และนั่นทำให้พวกเราประหลาดใจมากทีเดียว



"ทำไมมันถึงได้สู้กันเองซะล่ะ"



"ไม่รู้สิ!" ฉันตอบพี่ยูกิไปแบบนั้น ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเป็นเพราะอะไร แต่จากการทำของแวร์วูฟตัวนั้น

ฉันรู้สึกได้ว่า... มันต้องการปกป้องซันนี่



พวกเราช่วยกันดึงซันนี่กลับเข้ามาทางกระจกข้างทันทีที่คนขับวนรถไปถึงตำแหน่งที่เธออยู่

และทันทีที่ซันนี่กลับเข้ามาอยู่ในรถได้อย่างปลอดภัยซาโตะก็กอดเธอเอาไว้แน่น

โดยมีเจ้าแทงกูกระโดดขึ้นมาเลียหน้าเลียตาเจ้าของของมันพลางกระดิกหางไหว ๆ



แวร์วูฟตัวที่ช่วยซันนี่เอาไว้กำลังป้องกันไม่ให้อีก 3 ตัวที่เหลือเข้าใกล้รถของเราได้

จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้มันเปลี่ยนใจมาช่วยฝ่ายเรา ฉันก็ต้องขอบคุณมันอยู่ดี

แต่ดูเหมือนว่า... ตอนนี้มันกำลังถูกรุม



ซันนี่ปีนข้ามเบาะมาอีกครั้ง

ก่อนจะหยิบสิ่งที่เธอต้องการออกจากช่องเก็บของที่อยู่หลังเบาะของฉัน


"จอดรถ!" เสียงเล็กที่ตะคอกออกมานั้นไม่สั่นเลยแม้แต่น้อย

 เช่นเดียวกับลูกซองสั้นที่อยู่ในมือของซันนี่

ซึ่งกำลังเล็งไปที่คนขับ และนั่นทำให้ทีมค้นหาอีก 2 คน เล็งบาเร็ตต้าในมือมาที่ซันนี่



"เฮ้ ๆ ๆ ใจเย็นก่อนสิ พวกเรากำลังหนีตายกันอยู่นะ" คนขับยอมจอดรถและหันมาเตือนสติเพื่อน ๆ

ซึ่งก็ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลงไปได้ เมื่อซันนี่ยอมลดปืนลง รวมทั้งเพื่อนของเขาทั้ง 2 คนด้วย



"เธอคิดจะทำอะไรหนะซันนี่"



"ฉันจะกลับไปช่วยพ่อ" ซันนี่ตอบซาโตะก่อนจะเปิดประตูลงไป



"จะบ้าเหรอซันนี่! พ่อเธอตายไปตั้งนานแล้วนะ" ซาโตะเตือนพลางรั้งข้อมือซันนี่ไว้



"ไม่! พ่อยังไม่ตาย! พ่อช่วยฉันไว้เมื่อกี๊ เธอก็เห็น"

ซันนี่เถียงกลับก่อนจะสะบัดข้อมือออกจากมือของซาโตะแล้ววิ่งย้อนกลับไปตรงจุดต่อสู้ทันที



"เวรเอ้ย!" ซาโตะสบถอย่างหัวเสียก่อนผลุบออกจากรถแล้ววิ่งตามซันนี่ไปอีกคน



ฉันหันไปเปิดช่องเก็บของหลังเบาะและหยิบสิ่งที่ใช้ประโยชน์ได้ออกมา

ก่อนจะหันกลับมามองโจเซฟ ที่มองตอบฉันพลางส่ายหน้า

ดวงตาสีอ่อนของโจเซฟเริ่มรื้นด้วยน้ำตา



"ขอโทษนะโจเซฟ แต่ฉันทิ้งเขาไม่ได้" ฉันคลี่ยิ้มบอกก่อนโน้มหน้าไปกดจูบที่เปลือกตาบาง



"เฮ้ย! เอาก็เอาวะ" ฉันได้ยินเสียงของคนขับแว่ว ๆ

ก่อนที่รถของเราจะเคลื่อนถอยหลังด้วยความเร็ว

คิดว่างั้นนะ... เผอิญว่าสมาธิของฉันมันไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไหร่

ก็เพราะที่รักของฉันไม่ยอมละริมฝีปากออกจากปากฉันเลยหนะสิ



"บึ๊ก!!" เสียงอะไรบางอย่างที่หล่นลงบนหลังคาทำให้จูบแสนหวานของเราสะดุดลงจนได้



"คราวนี้อะไรอีกล่ะ" หนึ่งในทีมค้นหาในที่นั่งแถวหน้าถามเปรยออกมา



"สวบ! ๆ" กรงเล็บแกร่งที่ทะลวงหลังคาเข้ามาพร้อมกับมือน่าเกลียดตอบคำถามของเขาได้ทันที



"ฟิลิปส์" ใช่... เป็นเขาจริง ๆ อย่างที่โจเซฟบอก ฉันจำขนสีเงินกระด้างของเขาได้ดี



"ปัง! ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ"



สองหนุ่มในที่นั่งแถวหน้ากระหน่ำกระสุนเข้าใส่มือของฟิลิปส์ที่กำลังแหวกหลังคารถของเราออก

แต่มันเปล่าประโยชน์ กระสุน.45 ของบาเร็ตต้า ทำอะไรเขาไม่ได้แม้แต่รอยขีดข่วน

นั่นทำให้ฉันนึกย้อนกลับไปถึงการต่อสู้เมื่อคืน ดูเหมือนว่าจะไม่มีอาวุธอะไรระคายผิวของเขาได้เลย



"บ้าฉิบ!"



ชายหนุ่มทางด้านขวามือสบถพลางย่อตัวลงต่ำเรี่ยกับเบาะรถเพื่อหลบมือของฟิลิปส์

ที่ล้วงลงมาควานหา 'เหยื่อ' ก่อนที่ผู้เคราะห์ร้ายซึ่งเป็นคนที่นั่งอยู่ด้านซ้ายจะถูกคว้าคอ

เล็บคมเจาะเข้าตัดเส้นเลือดใหญ่จนของเหลวสีแดงสดทะลักออกมา

และเมื่อกรงเล็บแกร่งกางออกมันก็กระเซ็นไปทั่ว แล้วร่างของคนเป็นเหยื่อก็ร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น

โดยที่เขาไม่มีโอกาสจะร้องสักแอะ เราได้แต่จ้องมองภาพเหตุการณ์อันน่าสะพรึงนั่นกันจนตาค้าง

กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว สร้างความสยดสยองและสะอิดสะเอียนจนเส้นขนของฉันตั้งชัน



โจเซฟร่ายมนต์ขึ้นทันทีที่เห็นฟิลิปส์ควานหาเหยื่อรายใหม่

ก่อนที่ผลึกน้ำแข็งหนาจะแผ่ไปทั่วหลังคาจนปิดทับรอยโหว่ที่ถูกฉีกจากกรงเล็บเมื่อครู่

และนั่นทำให้แขนของฟิลิปส์ถูกล็อก



"ลงจากรถเร็ว!" ฉันตะโกนบอกพร้อมกับฉวยมือโจเซฟวิ่งนำคนที่เหลือออกจากรถ

โดยมีเจ้าแทงกูวิ่งตามฉันมาติด ๆ



พวกเราวิ่งย้อนกลับไปที่จุดต่อสู้ซึ่งตอนนี้มีแวร์วูฟ 2 ตัวกำลังต่อสู้กับแวร์วูฟตัวหนึ่งอยู่

ขณะที่ซันนี่คอยช่วยยิงสกัดให้แวร์วูฟที่ถูกรุม ส่วนไอ้ตัวที่ตาแตกก็ปะทะกำลังอยู่กับเจ้าที

ซึ่งมีฝูงอลาสกันเป็นกองหนุน พวกมันผลัดกันโฉบเข้าจู่โจมราวกับฝูงบินกองโจร

ที่น่าทึ่งไปกว่านั้น เขี้ยวของพวกมันเจาะผ่านหนังหนา ๆ ของแวร์วูฟได้สบาย

แม้จะไม่ใช่แผลฉกรรจ์ แต่ก็สร้างความรำคาญได้ และที่สำคัญ... ผิวหนังของเจ้าแวร์วูฟนั่น

บริเวณที่ถูกคมเขี้ยวของพวกอลาสกันบาดแผลไม่ประสานกันเหมือนอย่างบาดแผลจากอาวุธอื่น ๆ



หนึ่งในสองตัวที่กำลังรุมเพื่อนเก่าของมันอยู่เปลี่ยนเป้าหมายทันทีที่เห็นกลุ่มของพวกเรา

มันกระโจนมายืนจังก้าอยู่ตรงหน้าฉันกับบาดแผล นั่นทำให้เจ้าทีเปลี่ยนคู่ต่อสู้ในทันที

เจ้าทีวิ่งมาแต่ไกลและพุ่งชนเข้าใส่ด้านข้างของมันเต็มแรง และด้วยขนาดที่พอฟัดพอเหวี่ยง

ทำให้เจ้าแวร์วูฟกระเด็นไปกระแทกกับต้นสนใหญ่ก่อนจะร่วงลงมานั่งที่พื้น

แต่ครู่เดียวมันก็ลุกขึ้นมา โจเซฟร่ายมนต์อีกครั้ง

ก่อนที่จะเกิดผลึกน้ำแข็งหนาล้อมร่างของมันไว้กับต้นสน

เจ้าทีก้าวเข้าหาเจ้าแวร์วูฟติดกับก่อนจะลุกขึ้นยืนสองขา

และขย้ำกรงเล็บหมีลงบนปากยาว ๆ ของมัน

ก่อนที่เจ้าแวร์วูฟเคราะห์ร้ายจะโดนแหกปากออกจนกว้าง ด้วยพละกำลังอันมหาศาลของเจ้าที

ไม่นานทั้งปากบนปากล่างของมันก็ถูกฉีกออกจากกันจนหัวแบะ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่ตาย

มันยังคงดิ้นรนเอาตัวเองออกจากพันธนาการ

ฉันยืนมองภาพน่าสะอิดสะเอียนนั้นอย่างพะอืดพะอม



"พวกเจ้าคิดรึว่าจะรอดพ้นเงื้อมือข้าไปได้!"



เสียงของฟิลิปส์ที่ตะคอกมาจากทางด้านหลังเรียกให้พวกเราหันกลับไปมอง

ฉันยอมรับว่าฉันทึ่งจริง ๆ กับการที่ได้เห็นฟิลิปส์กัดแขนของตัวเองทิ้งไว้บนหลังคารถ

ก่อนจะทึ่งกว่าเดิมอีกหลายเท่า เมื่อเห็นแขนข้างที่ขาดค่อย ๆ งอกออกมาใหม่



"เฮ้ย!" "พระเจ้า!" "บ้าน่า!" หลายเสียงจากหลายคนอุทานขึ้นพร้อม ๆ กัน รวมทั้งฉันด้วย



ฟิลิปส์กระโจนเข้าใส่พวกเราก่อนจะปะทะเข้ากับร่างของเจ้าทีที่กระโจนเข้ามาขวาง

แล้วทั้งคู่ก็กระดอนออกจากกันจากแรงกระแทก ฟิลิปส์ผงะไปด้านหลังประมาณ 2-3 ฟุต

แต่เจ้าทีกระเด็นไปไกล 2-3 เมตร ซึ่งทำให้เรารู้ได้ทันทีว่ากำลังของเจ้าทีด้อยกว่ากำลังของฟิลิปส์



"ถึงเวลาตายของเจ้าแล้วเจ้ามนุษย์ชั้นต่ำ!" ฟิลิปส์ประกาศกร้าวพร้อมกับกระโจนเข้าใส่ฉัน



โจเซฟเอาตัวเองเข้ามาขวาง ฉันจึงรวบตัวเอาไว้แล้วหมุนตัวหันหลังให้ฟิลิปส์

ฉันหลับตาลงอย่างปลงใจยอมรับกรงเล็บคมของเขา

แต่ในขณะที่กอดโจเซฟอยู่นั้น ฉันได้ยินเสียงเขาร่ายมนต์

และเมื่อลืมตาขึ้นมา ฉันก็พบว่าตัวเองกับโจเซฟ และพี่ยูกิ กับทีมค้นหาอีก 2 คนที่เหลือ

รวมทั้งเจ้าแทงกูถูกล้อมอยู่ในโดมน้ำแข็งขนาดพอประมาณ

และแขนของฟิลิปส์ก็ติดอยู่ในกำแพงน้ำแข็งหนานี่ด้วย

เขาควานมือไปทั่วอย่างพยายามไขว่คว้าทุกสิ่ง

แขนที่แกว่งไกวเรียกความสนใจของเจ้าแทงกูได้ทันที

สายตาของมันจ้องมองอยู่ที่มือซึ่งมีขนดกหนา



"แทงกู!"



ฉันตะโกนห้ามมันทันทีที่เห็นมันกระโจนเข้าใส่มือของฟิลิปส์ด้วยห่วงว่ามันจะเป็นอันตราย

แต่เจ้าแทงกูกลับงับมือนั้นไว้เต็มปากเต็มคำก่อนที่ตัวของมันจะถูกเหวี่ยงไปมา

ขณะที่ฟิลิปส์พยายามสะบัดมันออก

ฉันจึงละอ้อมกอดออกจากโจเซฟเพื่อจะไปดึงเจ้าแทงกูออก

แต่แล้วฉันกลับพบว่า... คนที่อยู่ในอ้อมแขนของฉันกระอักเลือดออกมาและหมดสติไปแล้ว



"โจเซฟ! โจเซฟ! โจเซฟฟฟ!!"



ฉันตกใจจนแทบจะทำอะไรไม่ถูก ฉันร้องเรียกอยู่หลายครั้งแต่โจเซฟก็ไม่มีปฏิกริยาตอบรับ

ฉันจึงประคองร่างของโจเซฟวางลงบนตักก่อนจะสำรวจร่างกายเพื่อหาบาดแผล

แต่เปล่าเลย... ร่างกายของโจเซฟไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่



อาการของโจเซฟทำให้ฉันร้อนใจที่สุด หน่วยตาของฉันร้อนผ่าว แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาจนได้

ฉันยกมือขึ้นปาดน้ำตาและประคองโจเซฟไว้ในอ้อมกอดแล้วโน้มหน้าลงแนบหน้าผากมน

ก่อนจะแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากเปื้อนเลือดของโจเซฟและกดจูบเบา ๆ แล้วฉันก็ได้รู้ว่า...

ลมหายใจของโจเซฟแผ่วเบาเหลือเกิน



"ที่รัก... อย่าเป็นอะไรไปนะ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ ได้โปรดเถอะโจเซฟ

ได้โปรด... ลืมตาขึ้นมามองฉันที"

ฉันอ้อนวอนกับร่างไร้สติของผู้ที่ฉันรักที่สุด แต่มันก็ไม่เป็นผล +

ทั้ง ๆ ที่โจเซฟไม่เคยปฏิเสธคำขอของฉัน

แต่ว่าคราวนี้...



ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ ทุกคนในโดมน้ำแข็งไม่มีใครปริปากเลยสักคำ

แล้วพี่ยูกิก็ก้าวมาหยุดอยู่ข้าง ๆ และวางฝ่ามือลงบนบ่าฉัน

ฉัน... ซึ่งกำลังจะสูญเสียคนรักของฉันไป

ได้แต่ปล่อยน้ำตาให้รินไหลโดยไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย



"พี่ยูกิ... ยุนรักโจเซฟ ยุนไม่อยากเสียโจเซฟไป... ยุนจะทำยังไงดี"



พี่ยูกิไม่ได้ตอบคำถามของฉัน เขานั่งลงชันเข่าและโอบกอดฉันเอาไว้

มือของเขาบีบลงบนไหล่ฉันอย่างให้กำลังใจ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกดีขึ้นเลย

.

.

.

.

.

.

.

.

.


Talk:
พยายาอัพส่วนที่เหลือทั้งหมดให้จบวันพรุ่งนี้

ไม่รู้จะสำเร็จไหมลองดูสักตั้งว่าจะพิมพ์ได้เร็วแค่ไหน

เหลืออีกไม่กี่ตอนเองจริง ๆ  กระซิก ๆ

แล้ววันเสาร์ว่าจะต่อเพียงใจเสน่หา ให้จบตอน

วันอาทิตย์ กะจะต่อ Before & Lover เหมือนกัน

ได้ข่าวว่าพยายามขยันน่าดูนะ 555 สู้โว๊ย!!!!!!!

โดนโปรเจ็คใหม่  anajulia บังคับว่าให้จบภายใน 2 อาทิตย์ ถ้าเลท ปรับ วันละ 38 บาท เท่าอายุ

ผลงานของอีป้าแก่ ๆ (Red RhyNo)

อยากอ่านเรื่องไหนก็จิ้มได้ตามรูปเลยค่ะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-03-2011 20:38:43 โดย PEENAT1972 »

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
ม่ายยย..ย โจเซฟ :serius2:
ตอนนี้มาแบบยาวสะใจมาก แต่จะจบแล้วหรอคะ เร็วไปไหมอ่ะ
ปล. รอโปรเจ็คใหม่ +1 :L2:

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
เข้ามาอ่านรวดเดียว ลื่นไหลมาก ชอบแทงกูกีบที
ลุ้นว่าโจเซฟจะเจ็บมากมั้ย จะขาดใจตามยุน  :กอด1:

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
แวะเข้ามาอ่าน.....
ได้ความเศร้าซึมกลับไป.....ม่ายยยยนะคุณนัท
ไม่เอาเศร้ากว่านี้แล้วน้า...... :monkeysad:

 :L1: คุณนัท + ให้อารมณ์ซึมเศร้า

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106

 


-13-เพราะอะไร
YuKi part II:



ดวงตาสีดำขลับที่เคยสดใสตอนนี้แดงก่ำและชุ่มไปดวยน้ำตา...

คำถามของยุนทำให้ฉันสะท้อนใจ ฉันไม่รู้ว่าจะตอบคำถามยุนยังไง... ไม่รู้จริง ๆ

ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโจเซฟเป็นอะไร แล้วฉันจะช่วยอะไรได้ล่ะ...

ฉันโอบไหล่ยุนที่กอดโจเซฟไว้ไม่ยอมปล่อย แม้จะรู้ว่ามันไม่ช่วยอะไร

แต่นี่เป็นสิ่งเดียวที่ฉันพอจะทำให้น้องได้... ในเวลาแบบนี้



"บึ๊ก!" อะไรบางอย่างกระแทกไหล่ฉันอย่างจังจนฉันต้องหันไปมอง



เจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นกลิ้งหลุน ๆ ไปชนกับผนัง มันสะบัดหัวทันทีที่ตั้งหลักได้

จากนั้นก็ลุกขึ้นสะบัดตัวแล้วมันก็เดินเข้ามา

ก่อนจะเอาอะไรบางอย่างที่มันคาบไว้ในปากมาวางลงบนตักโจเซฟ

กลุ่มขนสีเงินกระด้างที่มีชิ้นเนื้อเปื้อนเลือดติดมาด้วย น่าขนลุกชะมัด

มันนั่งลงข้าง ๆ ยุนพลางกระดิกหางไหว ๆ แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะใส่ใจกับมัน



"โบ๊ว! ๆ"



เสียงแหลมเล็กของมันดังก้องโดม ใช่... มันกำลังเรียกร้องความสนใจ แล้วก็ได้ผล...

ยุนเงยหน้าขึ้นมองมัน มันจึงก้มหน้าลงแล้วใช้จมูกไถชิ้นเนื้อน่าขยะแขยงนั่นให้เขาดู

เขายกมือขึ้นปาดน้ำตาลวก ๆ ก่อนจะก้มลงมองเศษเนื้อนั้น

แล้วเงยหน้าขึ้นมองมือเจ้ามนุษย์หมาป่า

มือนั่นมีเลือดข้นสีแดงเข้มย้อยลงมาจากแผลที่สันมือ

น่าแปลกที่เนื้อตรงแผลนั่นไม่งอกขึ้นมาใหม่



"เจ๋งหนิเจ้าเปี๊ยก" จัสติน หนึ่งในทีมค้นหาที่รอดชีวิตชมเปาะพลางลูบหัวมันเบา ๆ



เจ้าหมาหันไปมองเขานิดหน่อยก่อนจะละความสนใจกลับมาที่ยุน

มันพยายามเอาหัวของมันไปถูไถ กระแซะกับมือของยุนเหมือนกับจะบอกว่า...

'เห็นมั๊ย... ฉันทำได้ ชมฉันสิ... ให้รางวัลฉันหน่อย' หรืออะไรประมาณนั้น



"เฮ้ นิกซ์! มาดูนี่สิ" จัสตินร้องเรียกเพื่อนของเขาที่นั่งอยู่ห่างออกไป



"ขอยืมหน่อยนะเจ้าหนู" เขาบอกกับเจ้าหมาก่อนจะปลดปลอกคอของมันออกมา



"ฉันว่าฉันพอจะรู้แล้วหละว่าทำไมหมาของซันนี่ถึงกัดไอ้พวกแวร์วูฟนี่เข้า"

จัสตินบอกพลางพลิกป้ายชื่อที่ติดอยู่กับปลอกคอของเจ้าหมา



"เห็นนี่มั๊ย" เขาถามพลางชี้นิ้วลงบนตัวเลขเล็ก ๆ ที่สลักอยู่บนป้ายชื่อ



"92.5 แล้วไง?" นิกซ์ถามกลับพลางขมวดคิ้ว



"ก็หมายความว่ามันเป็นเงินไง... ป้ายชื่อของพวกมันทำจากเงิน" จัสตินบอกก่อนขยายความ


"ก็เหมือนอย่างในหนังไง ไอ้พวกแวร์วูฟนี่มันแพ้แร่เงิน

เรื่องไหน ๆ ก็ใช้กระสุนเงินยิงมันทั้งนั้นแหละ"



"แค่มีเครื่องเงินก็จัดการมันได้งั้นเหรอ!" ฉันโพล่งถามออกไปอย่างมองเห็นทางรอด



"คงไม่ง่ายแบบนั้นหรอก อย่างพวกหมานี่... ผมว่าเป็นเพราะเขี้ยวของพวกมันมีแร่เงินติดอยู่"

จัสตินแก้ความเข้าใจของฉันใหม่



"ยังไง" นิกซ์ถามพลางตีหน้างง ฉันเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน



"ก็ธรรมชาติของหมา เวลามันเล่นกันมันก็จะใช้ฟันขบกันใช่มั๊ย ดูอย่างป้ายชื่อของเจ้านี่...

มีรอยเขี้ยวขนาดใหญ่อยู่ ซึ่งน่าจะเป็นของหมาตัวอื่น

และเจ้าหมานี่ก็คงจะแทะของตัวอื่นเหมือนกัน

แล้วเงินก็เป็นแร่เนื้ออ่อน พอหมามันแทะเข้าไปเศษของเงินก็ไปติดตามเขี้ยวของมัน"

จัสตินอธิบาย



"โว้ว... แกคิดได้ไงเนี่ย" นิกซ์มองเพื่อนของเขาอย่างทึ่ง ๆ



"ก็คิดตามความน่าจะเป็นหนะ" จัสตินตอบพลางยักไหล่



ฉันว่าจัสตินก็น่าทึ่งจริง ๆ นั่นแหละ

เพราะถ้าก่อนหน้านี้เขาไม่ตัดสินใจย้ายไปนั่งหลังพวงมาลัย GMC

ป่านนี้พวกเราอาจจะตายไปแล้วก็ได้

.

.

.

.

.

.

.

.

.

แปะไว้แค่นี้่ก่อน อีกเดี๋ยว จะมาแปะเพิ่ม ว่าแต่ว่า เงียบเหงาดีจริง ๆ พรุ่งนี้จบจ้าาาาาาาาาาาาา

ผลงานของอีป้าแก่ ๆ (Red RhyNo)

อยากอ่านเรื่องไหนก็จิ้มได้ตามรูปเลยค่ะ



ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
 


-14-ทางรอด
Krystof part III:



ฉันและท่านอีริคนำเอลฟ์อัศวินตามพวกแฟรี่มาจนถึงลานโล่งด้วยความร้อนใจ

เพราะระหว่างทางเมื่อครู่ฉันจับสัมผัสพลังเวชมวลใหญ่ของท่านพี่ได้

ก่อนหน้านี้เราเสียเวลาไปพอสมควรกับการผลิตหัวธนูใหม่ตามคำแนะนำของลูน่า

บรรณารักษ์ประจำหอสมุดกลางซึ่งเป็นเพื่อนของฉัน

ลูได้ข้อมูลมาจากวรรณกรรมหลายเรื่องที่เขียนตรงกันเกี่ยวกับอาวุธที่ใช้กำจัดแวร์วูฟ

แต่ด้วยเวลาที่จำกัด เราจึงหล่อหัวธนูได้เพียง 10 ดอก ซึ่งฉันกับท่านอีริคแบ่งกันเก็บไว้คนละครึ่ง



ที่ลานนี่ ฉันเห็นเจ้าทีกับฝูงสุนัขใหญ่กำลังต่อสู้กับแวร์วูฟองค์รักษ์ของฟิลิปส์อยู่

ถัดออกไป มีแวร์วูฟองค์รักษ์ 2 ตัวกำลังต่อสู้กันเอง

โดยมีมนุษย์ 2 คนใช้อาวุธในมือช่วยป้องกันแวร์วูฟองค์รักษ์ตัวหนึ่ง

เมื่อฉันพบฟิลิปส์กำลังพยายามทำลายโดมน้ำแข็งอยู่

ฉันจึงพาแอมนำเหล่าเอลฟ์อัศวินเข้าโจมตีทันที



"จับเป็นนะท่านคริสตอฟ" ท่านอีริคเตือนฉันทันทีที่เห็นฉันหยิบลูกธนูพิเศษออกจากซอง



"วางใจเถิด เราเองก็มิได้ปราถนาให้เกิดสงคราม"



ฉันตอบรับคำเตือนของหัวหน้าอัศวินก่อนประทับลูกธนูเข้าแล่ง

หมายตาที่ตำแหน่งสำคัญซึ่งไม่ทำอันตรายถึงชีวิต แต่สร้างบาดแผลฉกรรจ์ได้



"สวบ!"


"สวบ!"



ร่างแวร์วูฟผงะทันทีที่ลูกธนูพุ่งเข้าทะลวงช่องท้องบริเวณข้างลำตัว

ก่อนจะทรุดลงกับพื้นเพราะลูกธนูอีกดอกของท่านอีริคที่เจาะทะลุปลีน่อง

ขณะที่แขนของเขายังฝังอยู่ภายในผนังโดมน้ำแข็ง



"บรู๊วววววววววว!"



ฟิลิปส์ส่งสัญญาณเรียกแวร์วูฟองครักษ์ก่อนที่เขาจะหมดสติ

แล้วร่างของเขาก็กลับกลายเป็นร่างมนุษย์

นั่นทำให้แขนของเขาหลุดออกจากผนังน้ำแข็งและฟิลิปส์เองก็รูดลงไปนอนกองอยู่กับพื้น

ในขณะที่แวร์วูฟองครักษ์ทั้งหมดยุติการต่อสู้แล้วกระโจนมาล้อมร่างของฟิลิปส์ไว้



"พานายของพวกเจ้ากลับไป และจงทูลราชาของพวกเจ้าไปตามสัตย์"



จบคำของฉัน... เหล่าแวร์วูฟองครักษ์ก็พาฟิลิปส์กลับไป แต่ไม่ทั้งหมด...

แวร์วูฟองครักษ์ตัวหนึ่งยังอยู่ และมันพุ่งเข้าโจมตีพวกเรา



"สวบ!"


"สวบ!"


"ไม่! พ่ออออออ!!"



ลูกธนูทั้งของฉันและท่านอีริคพุ่งเข้าใส่ร่างของมันตรงจุดสำคัญบนลำตัว

ก่อนที่เสียงกรีดร้องของหญิงสาวร่างเล็กจะดังก้องลานกว้าง...

ด้วยคำที่ทำให้ฉันนิ่งค้างไปชั่วคณะ

เธอวิ่งเข้ามาประคองร่างของเขาซึ่งบัดนี้กลับคืนร่างมนุษย์

ฉันมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกเวทนา



"พ่อคะ... หนูขอโทษ... หนูช่วยพ่อไว้ไม่ได้ หนูขอโทษ..."



"อย่าร้องไห้... มันไม่ใช่ความผิดของลูก ซันนี่"



ชายวัยกลางคนปลอบโยนหญิงสาวที่ประคองร่างของเขาอยู่บนตัก

เมื่อครู่เขาจู่โจมแบบไม่ทันให้ตั้งตัว ทั้งฉันและท่านอีริคจึงไม่คิดเผื่อทางรอดให้เขาไว้



"เหตุใดเจ้าจึงทำเช่นนี้"



"ความตายคือหนทางแห่งการหลุดพ้น" เขาตอบฉันพร้อมรอยยิ้มบาง...

รอยยิ้มที่เป็นดั่งคำขอบคุณ สำหรับการปลดปล่อยเขา... จากสิ่งที่เขาเป็น



"เช่นนั้น... เราขออวยพรให้เจ้าสู่สุขติ"



"ขอบคุณ" เขาขอบคุณฉันพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง แล้วร่างของเขาก็กระตุกเบา ๆ ก่อนที่เขาจะจากไป



หญิงสาวคนนั้นยังคงร่ำไห้ เธอกอดร่างของเขาไว้ไม่ปล่อย... ความสูญเสียเป็นเรื่องโศกเศร้า

และฉันเองก็กำลังกังวลว่าจะต้องเผชิญกับมัน...



ฉันมองโดมน้ำแข็งอยู่ครู่หนึ่งเพื่อทำใจ ก่อนร่ายมนต์สลายมนต์ของท่านพี่ แล้วฉันก็พบว่า...

สิ่งที่ฉันเป็นกังวลได้เกิดขึ้นแล้ว ภาพที่ปรากฏต่อหน้าทำให้ฉันแทบหยุดหายใจ

ฉันตรงเข้าไปนั่งคุกเข่าต่อหน้าท่านยุนที่ประคองร่างของท่านพี่อยู่บนตัก

แล้วคว้าข้อมือของท่านพี่ขึ้นมาคลำชีพจร



"ท่านพี่ใช้พลังเวชมากเกินไปทำให้ภายในบอบช้ำ

โชคดีที่ยังหายใจอยู่ ยังพอมีทางรอด...

เราต้องรีบพาท่านพี่ไปรักษา"


.

.

.

.

.

.

.

.

.

พรุ่งนี้ตอนจบแล้วนะคะ

แต่ความเงียบเหงายังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

รึมันจะเศร้าไปหว่า...

แต่ก็เหมือนเดิม

ไม่มาบอกแล้วอีคนเขียนจะรู้ได้ไงหว่า งง?

ผลงานของอีป้าแก่ ๆ (Red RhyNo)

อยากอ่านเรื่องไหนก็จิ้มได้ตามรูปเลยค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2011 19:07:15 โดย PEENAT1972 »

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
โชคดีที่ยังหายใจอยู่ ยังพอมีทางรอด...

หมายถึงจบแบบมีสุขถ้วนหน้า ใช่ไหม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
รออ่านแล้วจะรู้เองแหละคะ 555 (หัวเราะดัง ๆ ได้เลย)

ออฟไลน์ acorntan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +566/-34
แปะไว้ก่อน   หนูไป รพ. ห่อนนะคะ  คิดถึงแม่นะ จุ๊บ

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
ไม่เศร้าไปหรอกค่ะ เพราะเรารู้ว่าคนเขียนไม่ชอบมาม่า :laugh:
พรุ่งนี้จะจบแล้วหรอ :monkeysad: เร็วเนอะ
ปล. +1 รอโปรเจ็คใหม่ค่า :L2:

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
 :L1: +1 ให้ลมหายใจรวยริน
ต้องรอดชิมิ รอๆ อ่าน

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
อิอิ กำลังอิน  ใกล้จบแล้วเนอะ o13

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
 


-15-การจากลา
Yoon part IV:



สิ่งที่คริสตอฟลบอกทำให้ฉันมีความหวังขึ้นมาทันที ฉันรีบช้อนร่างโจเซฟของฉันขึ้นจากตัก



"ท่านจะไปไหน ท่านยุน!"



"โรงพยาบาล!" ฉันตอบคริสตอฟโดยไม่คิดจะหันหลังกลับไป



"ท่านพี่ต้องกลับไปรักษาตัวที่โฟรเซนเทีย!" คำพูดของคริสตอฟลทำให้ฉันต้องชะงักฝีเท้า



"กว่าจะขึ้นไปถึงโฟรเซนเทียโจเซฟก็แย่พอดี จากนี่ขับรถไปโรงพยาบาลใกล้กว่า"

ฉันหันกลับไปตอบคริสตอฟตามที่คิด



"ทุกสรรพชิวิตในโฟรเซนเทียไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้บนดินแดนที่ปราศจากหิมะ"



ประโยคที่ได้ยินทำให้ฉันชาวาบไปทั้งตัว ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ฉันนี่มันแย่ชะมัด...

ฉันหลงดีใจว่าเราจะได้อยู่ด้วยกัน โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังจะพาโจเซฟไปตาย

การที่โจเซฟเลือกฉัน... เท่ากับเขาเลือกที่จะยอมแลกด้วยชีวิต



ฉันก้าวกลับไปหาคริสตอฟอย่างช้า ๆ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ร้อนใจ แต่ทุกย่างก้าวของฉันมันหนักอึ้ง

น้ำตาที่เพิ่งจะหยุดกลับไหลออกมาใหม่อย่างควบคุมไม่ได้

ฉันส่งโจเซฟให้กับคริสตอฟ แล้วก้มลงแตะริมฝีปากลงบนกลีบปากสีซีด

ก่อนจะละริมฝีปากออกมาเพื่อกล่าวลา แม้จะรู้ว่าโจเซฟไม่มีสติรับรู้คำพูดของฉัน



"ขอโทษที่ฉันไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับท่านได้ ลาก่อน... ที่รักของฉัน"



สุดท้ายฉันก็ต้องปล่อยมือจากผู้ที่ฉันรักมากที่สุด เพียงเพื่อให้เขามีชีวิตอยู่

และฉัน... คนที่โจเซฟรักมากจนยอมสละให้ได้แม้แต่ชีวิต

ทำได้เพียงยืนมองแผ่นหลังของคริสตอฟ... ที่กำลังพาโจเซฟจากไป


V
V
V
V


ฟังเพลงประกอบ คลิ๊ก!  http://www.youtube.com/watch?v=RIKCxRQNj3A


Translation


The light and wind pour through,

all the snow on the trees on the side of the road.

Even if I'm filled with pride or looking down at myself,

I won't stop walking through the seasons.


I want to see our fingers coming together,

as I say the words "see you" or "later".

I've foolishly forgotten my past experiences,

and headed towards the wrong future.


If this "farewell"is the begining of my journey

I'll smile as much as I can for you.

Even the fact that we met, even the streets we've walked,

would turn our hearts back.


I'll never, ever forget,

even if I can't fly towards you.

No matter how hard it hails

I'll still hang on to you,

without getting separated.


Even if I'm forced to forget,

My next self will empty

and as she begins to do her regular activites,

you'll become small.


When I was in pain, for my sake,

you told me it'll be alright thru my tears.

And from that night I've become strong.

Promise me that our dreams will come true.


I'm not making a sound, but my tears

are pouring out of my heart.

I'll take a step forward holding this pain

I'm so in for your gentleness,

until I see you once again.



Special Thank to Kingofbeer/ Credit: Takumi@beatofboa.15.forumer.com

.

.

.

.

.

.

.

.

.

Talk : ไม่มีอะไรจะพูด อ่าน ๆ กันไปเถอะเนาะ 55+

ผลงานของอีป้าแก่ ๆ (Red RhyNo)

อยากอ่านเรื่องไหนก็จิ้มได้ตามรูปเลยค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2011 19:35:30 โดย PEENAT1972 »

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
 


-16-บทส่งท้าย

---Korea: 11 Feb. 2011---
Ending part:

ชายหนุ่มร่างสูงเพรียวในเครื่องแต่งกายเรียบหรูจรดปลายปากกาลงบนหน้าสุดท้าย

ของหนังสือนวนิยายแนวแฟนตาซีที่แฟนคลับวัยรุ่นของเเขานำมาให้เซนต์



"ขอบคุณนะคะ"



"ยินดีครับ" เจ้าของผลงานตอบคำสาวน้อยพร้อมรอยยิ้ม

ก่อนจะหันไปตอบรับคำทักทายของแขกเหรื่อที่มาร่วมงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม



วันนี้เป็นวันเปิดตัว Im Possibleland สวนสัตว์และสวนสนุกแห่งใหม่ที่

อิม เอ็นเตอร์ไพรซ์ บริษัทของครับครัวยุน ร่วมหุ้นกับ บริษัทสัญชาติเกาหลี ทุ่มทุนสร้าง

ด้วยงบมหาศาลหลังจากที่จัดการเทคโอเวอร์สนามกอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในอินชอลมาได้



"น่าทึ่งมากเลยนะครับเนี่ย สวนสนุกสี่ฤดู ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้"



"ที่อิม พอสซิเบิ้ลแลนด์ ยังมีอะไรให้คุณทึ่งอีกเยอะค่ะ"



หญิงสาวที่ยืนอยู่ใกล้ละความสนใจจากโทรศัพท์ในมือมาตอบคำสนทนาของชายหนุ่มด้านข้าง

ก่อนจะโน้มหน้าไปกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูของยุน

ก่อนที่ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของนามปากกา 'เรนเดียร์' จะออกปากขอปลีกตัวจากงาน


"ขอตัวนะครับ"



ร่างสูงโปร่งที่เพิ่งจะออกมาจาก Autumn Zone ซึ่งเป็นพื้นที่จัดงาน

ก้าวขึ้นบัคกี้สีขาวที่จอดรออยู่ก่อนมุ่งหน้าไปยังโซนที่ครอบคลุมพื้นที่มากเป็นอันดับ 1

หรือ 3 ใน 5 ของพื้นที่ทั้งหมด

ทว่า... พื้นที่กึ่งหนึ่งของโดมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนี้กลับถูกกั้นเอาไว้ด้วยกำแพงสูง



คนขับจอดบัคกี้ไว้ริมกำแพงที่อยู่ด้านในสุดของ Winter Zone ก่อนหยิบการ์ดขนาดหัวแม่มือ

เสียบเข้าไปในปากของสิงโตปูนปั้น

ทันใดนั้น... ผนังซึ่งมีสิงโตปูนปั้นประดับอยู่ก็เลื่อนเข้าไปด้านหลัง



"นายไปเถอะ... ฉันไม่กลับไปที่งานแล้วหละ พรุ่งนี้พบกันนะริวอิจิ"



ชายหนุ่มที่ก้าวลงจากบักกี้คลี่ยิ้มบอกแล้วลอดผ่านช่องประตูเข้าไป

ก่อนที่ชายหนุ่มผู้เป็นพลขับส่วนตัวจะปลดการ์ดออกจากปากสิงโตปูนปั้น

ซึ่งทำให้ผนังกลับเข้าที่ตามเดิม



ร่างสูงก้าวผ่านทางเดินของสวนกว้างซึ่งทอดไปยังเคหาสน์หลังงามขนาดพอเหมาะ

ใบหน้าคลี่ยิ้มสดใสเมื่อนึกถึงคนที่อยู่ด้านใน

มือหนาคว้าจับที่เปิดประตูอย่างเบามือก่อนที่เจ้าตัวจะปรับฝีเท้าของตัวเอาให้เบาที่สุด

ขณะก้าวเข้าไปในตัวบ้าน กระทั่งขึ้นบันไดไปยังห้องพักผ่อนชั้นบน

เจ้าของมือหนาค่อย ๆ บิดลูกบิดประตูอย่างช้า ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเสียง

ก่อนจะโผล่หน้าเข้าไปมองด้านใน



"ไหนว่าตื่นแล้วไง"



เจ้าตัวเปรยกับตัวเองพลางทำไหล่ลู่ก่อนจะก้าวไปนั่งลงข้างร่างบางที่พริ้มตาหลับอยู่บนเตียง

เขายกหลังมือขึ้นไล้แก้มนุ่มก่อนใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือแตะสัมผัสริมฝีปากบาง

ตาคู่ใสพิจารณาใบหน้านั้นอย่างแสนรักก่อนโน้มหน้าลงจรดริมฝีปากกับกลีบปากสีชมพูระเรื่อ



"อืม~ ยุน..." คนถูกรบกวนการนอนส่งเสียงครางพึงใจออกมาเบา ๆ

พลางปรือตาขึ้นมองเจ้าของปลายลิ้นที่แทรกผ่านเข้ามาไล้สัมผัสทั่วโพรงปากของเขาอย่างโหยหา

ก่อนจะถามเย้าเมื่อริมฝีปากของเขาเป็นอิสระ



"กลับมาถึงก็หื่นเลยเหรอ"



"หื่นที่ไหน... ผมปลุกคุณดี ๆ แล้วคุณไม่ยอมตื่นเองต่างหากล่ะ"

ยุนโบ้ยกลับก่อนทักถามถึงคำที่สะดุดหู


"ว่าแต่ไปหัดไอ้คำว่า 'หื่น' นี่มาจากที่ไหน"



"หนังที่ยุนเปิดให้ดูเมื่อวานไงล่ะ

ก็เรื่องที่พระเอกเอะอะก็ขอทำเหมือนอย่างที่ยุนชอบทำนั่นแหละ"

ร่างบางตอบคำก่อนจะกลายเป็นเสียงอุบอิบในประโยคท้ายพร้อมกับที่ใบหน้าขึ้นซับสีเรื่อ



"โหย... ผมยังไม่ถึงขนาดหมอนั่นซะหน่อยนะโจเซฟ" ยุนแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ พลางส่งยิ้มเจื่อน ๆ ไปให้



"แล้วใครกันที่กวนอยู่ทุกคืนจนไม่ได้หลับได้นอนหนะ"

โจเซฟย้อนถามก่อนขยายความการกระทำของคนใกล้ตัวที่แถไปเรื่อยจนอารมณ์เริ่มจะขุ่น


"ตั้งแต่ที่ฉันเข้าพิธีศักดิ์สิทธิ์แล้วตามมาอยู่กับยุน

เกือบสองสัปดาห์มานี่ฉันเคยได้นอนเต็มตื่นบ้างมั๊ย"



"ก็กว่าท่านแม่จะยอมยกโจเซฟให้ ผมต้องเทียวไปเทียวมาอยู่ตั้งเกือบปี

กว่าที่จะทำตามสัญญานั่นได้ แถมไปหาทีไรก็ไม่เคยจะได้อยู่ค้างคืนสักครั้ง

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมทบต้นทบดอกได้ยังไงล่ะ"

ยุนสาธยายความอัดอั้นก่อนจะเลิกคิ้วมองโจเซฟที่โชว์เครื่องหมายคำถามหราเต็มใบหน้า

แล้วเจ้าตัวก็ยิ้มกริ่มเมื่อโจเซฟยิงคำถามมาเข้าทาง


"ทบต้นทบดอกมันเป็นยังไงเหรอ?"



"ก็..."



"ฟุ่บ!"



ยังไม่ทันที่ยุนจะได้อธิบายกรรมวิธีทบต้นทบดอกอย่างที่ตั้งใจก็โดนหมอนโปะใส่ไปเต็มหน้า

ก่อนที่มือโปะจะเผ่นแผล๋วออกไปจากห้องนอน



"เดี๋ยวนี้ชักจะรู้มากใหญ่แล้วนะ นึกว่าจะหนีพ้นรึไง"

ยุนเปรยกับตัวเองก่อนโยนหมอนที่หล่นลงบนมือทิ้งไว้ที่เตียงแล้วก้าวตามโจเซฟออกจากห้อง

ก่อนจะตามมารวบเอวจากด้านหลังได้ตรงโซฟาในห้องรับแขก



"ไงที่รัก ไม่หนีแล้วเหรอ" เจ้าตัวกระเซ้าถามชิดใบหูก่อนวางคางบนไหล่บาง



"เจ้าแทงกูมันกำลังทำอะไรเหรอ?"



คำถามของโจเซฟเรียกให้ยุนไล่สายตาไปตามนิ้วมือที่ชี้ออกไปทางนอกหน้าต่าง

ก่อนจะกลั้นขำกับสิ่งที่เห็น



เจ้าแทงกู น้องหมาแสนก๋ากั่นที่ซันนี่ยกให้เขา กำลังปฏิบัติการภาระกิจเกินตัวไปสักหน่อย

ก็ไอ้สิ่งที่มันกำลังตั้งอกตั้งใจสไลด์อยู่นั่นก็คือบั้นท้ายไซส์บิ๊กเบิ้มของเจ้าที

ที่กำลังหลับอุตุอยู่ในสวน



"มันกำลังฝึกภาคปฏิบัติอยู่หนะ" ยุนบอกกลั้วหัวเราะก่อนร้องขอสานต่ออารมณ์ที่คั่งค้าง


"อย่าไปสนใจมันเลยที่รัก เรามาคุยเรื่องทบต้นทบดอกกันต่อดีกว่า"



"อ๊ะ! อืม~" เสียงทัดทานแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางพึงใจทั้งที่ร่างกายกำลังถูกช่วงชิงอากาศ

กระทั่งส่วนอ่อนไหวถูกรุกด้วยสัมผัสปลุกเร้า โจเซฟจึงท้วงเรื่องสถานที่


"อื้ม~ ยะ... ยุน~ ขึ้นห้องเถอะ... ตรงนี้มัน..."



"ตรงนี้แหละ... บ้านเราก็ไม่มีใครซะหน่อย นะ... ที่รัก"



เดินเครื่องมาจนถึงขนาดนี้แล้ว มีเหรอที่ยุนจะยอมปล่อยให้เสียจังหวะ

ดังนั้น... การสาธิตกรรมวิธีทบต้นทบดอกแบบฉบับของยุน จึงยังคงดำเนินต่อไป

สุดท้าย... ไม่ว่าจะอย่างไร... โจเซฟผู้ไร้เดียงสาก็ไม่เคยปฏิเสธความปราถนาของยุนได้สักที


------------------------------------------------------

Talk:  หวังไว้ว่าฉากสุดท้ายของเรื่องจะทำให้คนอ่านอารมณ์ดีกันนะคะ 555
พบกันในเรื่องใหม่นะคะ

อะ ๆ ๆ ห้ามขอตอนพิเศษ เพราะไม่มีเวลามาต่อเรื่องนี้อีกแล้ว
รักเสมอคุณคนอ่านที่น่ารักทุกคน  +1 ค่ะ จุ๊ฟๆๆ ไปล่ะนะคะ


ผลงานของอีป้าแก่ ๆ (Red RhyNo)

อยากอ่านเรื่องไหนก็จิ้มได้ตามรูปเลยค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2011 19:31:58 โดย PEENAT1972 »

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
 :m3: :m3: จบได้น่ารักมากค่ะป้าขา +1  :กอด1: :จุ๊บๆ: :oo1: ยกให้ป้าครบเซ็ต 5555
ขำแทงกูอ่ะ คิดจะเล่นรุ่นใหญ่  ขอบคุณมากค่ะที่แต่งนิยายดีๆ มาให้อ่าน ภาษาสวยลื่นไหลดี
บรรยายแล้วเห็นภาพตามเลย แถมเป็นแนวแฟนตาซีอีกต่างหาก เป็นแรร์ไอเท็มเลยนะเนี่ย 5555

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
 :laugh:แอบฮา  และ :-[ แอบหวานอ่ะป้า

หนูไม่ได้ตามอ่านอาทิตย์เดียวจบซะแล้วอ่ะ :sad4:
แต่หนูรอโปรเจคใหม่อยู่นะคะ


 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
^
^
^
แวะมา + 2 รีบน เฉย ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ดิฉันไม่อยู่ 5วัน กลับมาได้อ่านถึงตอนจบพอดี
ดีจังเลยค่ะคุณนาย
อาการสะบัดร้อนสะบัดหนาวดิฉันคงหายแน่ๆค่ะ
 :กอด1:และจุ๊ฟ จุ๊ฟ คุณนายนะจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2011 21:21:10 โดย yayee2 »

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
คุณนายแก้วก้อ.... อิฉันก็เขินเป็นนะคะ เล่นมากอดมาจูบกันต่อหน้าธารกำนัลแบบนี้ อิ ๆ

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
คุณนัท.....อย่าน้อยใจน้า....เพิ่งเข้ามาอ่าน
ตอนนี้งานยุ่งมากกกก.....เลยห่าง ๆ เรื่องนิยายไปหน่อย
เข้ามาอ่าน....สามตอนรวด.....ไม่อ่านตอนจบก่อนด้วย...
ตอนแรกสงสัยว่า....ยุนจะตัดใจจากลาโจเซฟง่าย ๆได้งั๊ย.....
สุดท้าย....ก็หาทางให้ได้อยู่ด้วยกันจนได้....มีความสุขไปกับทั้งคู่
ความรักชนะทุกสิ่ง....อุปสรรคกลายเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ.. :กอด1:

 :L2: คุณนัท  :กอด1:   :pig4:
กด + ให้กับความสุขที่ได้รับ  รอเรื่องต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
ไปเจอกันที่เรนโบว์โปรเจคนะคะ แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะได้คิวไหน จะได้อ่านกันเมื่อไหร่ แต่คงไม่นานเกินที่จะรอเหรอค่ะ
แล้วอย่าลืมร่วมเกมส์ทายนามปากกานักเขียนทั้ง 7 ชิงรางวัลใหญ่กันด้วยนะคะ
รักทุกคนค่ะ

ออฟไลน์ DeJavu~ ★

  • มาเฟียแสนซน กะชีคผู้เคร่งขรึม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-9
โอยยย น่ารักมากๆๆเลยอ่า

แถมเป็นแนวแฟนตาซี อีกชอบแนวนี้มากๆๆครับ

คุณพีนัืทแต่งเก่งมากๆครับ

ชอบ โจเซฟ อ่า น่ารักใสๆๆ ไร้เสียงดา

ส่วน ยุน ก้อ หื่นมากๆๆ แถมยังเจ้าเลห์อีก

แต่ตอนจบ นี้เล่นเอาเสียเลือดไปเยอะ :jul1: :jul1: :jul1:

ตอนแรกคิดว่าจะจบแบบดร่ามาเลย แอบหยิบผ้าเช็ดน้ำมา

แต่ที่ไหน กับ ต้องทิชชูมาซับเลือด โอยยน่ารักมากมายครับ

ขอบคุนมากๆๆครับผม :กอด1: :กอด1: :กอด1:



ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
ขอบคุณที่ชอบนะคะ

jujill8

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณค่า  สนุกดีค่ะ อ่านแล้วรุสึกเหมือนอยุแถวเมืองหนาวกะพวกเค้าเลยค่ะ อิ อิ สรุป อ่านแล้วเย็นดี 55

aozakub

  • บุคคลทั่วไป
ชอบอ๊าคับ

ขอบคุณค๊าบบบ

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
สนุกดีค่ะ
เริ่มแรกเหมือนจะงงๆ o2
แต่พอใกล้จะจบก้อไม่อยากหั้ยจบเลย
แหะๆ  :try2: แต่จบรวบรัดไปหน่อยนะคะ
ยังงัยก้อขอบคุนนะคะ o1

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
วรั๊ยยยยยยย โจเซฟ น่าร๊ากกกกกกก :mc4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด