แสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างแล้ว ร่างเล็กชันตัวขึ้นจากเตียงอย่างง่วงงุน ด้วยความที่มักเป็นความดันต่ำในตอนเช้า ทำให้เซี่ยเอ๋อร์ตัวน้อย ไม่เคยตื่นเต็มตาโดยง่ายเลยสักที พอนั่งจุมปุ๊กอยู่กลางเตียงแบบมึน ๆ งง ๆ ได้สักพัก ก็เริ่มโงนเงนหัวทิ่มลงกับเตียง ด้วยท่านอนคว่ำโชว์ก้นโด่งเสียอย่างนั้น
คุณชายจางมองมาพลางส่ายหน้าเบา ๆ อมยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดู ก็เพราะน่ารักแบบนี้ไง เขาถึงตัดใจไม่ได้สักที ดูซิ เชิญชวนกันเสียขนาดนี้ เป็นใครจะอดใจไหว
โชคดีนัก...ที่คนประมูลได้เป็นเขา แม้ว่าเมื่อคืน จะไม่ได้ทำอะไร...มากไปกว่านอนจับมือกันเลยก็เถอะ
นิ้วแกร่งทดลองจิ้ม ๆ ที่ก้นโด่งนั้นเบา ๆ เสียงครางแผ่วน่ารักชวนกด ทำให้คนมองชักเริ่มหวั่นไหว เซี่ยเอ๋อร์ก็ยังคงเอ๋อได้เสมอต้นเสมอปลาย บั้นท้ายกลมกลึงน่ารักน่าลูบนั้น ไม่ได้ระวังตัวเอาเสียเลย คุณชายจางมองมาแล้วสะดุ้ง กุมจมูกแทบไม่ทัน ยาดีเมื่อคืนหมดฤทธิ์ซะแล้วเหรอเนี่ย เลือดกำเดาชักเริ่มทะลัก ทำให้เขาต้องผงะถอยออกไปทั้งที่อยากจะทำต่อใจจะขาด
ร่างบอบบางขยับพลิกตัวอีกรอบ ม้วนหน้าไปเสียอย่างนั้น คนมองอดทึ่งไม่ได้ กับความสามารถในการนอนดิ้นของคนตรงหน้า ช่างมีลีลาที่เร้าใจเสียจริง คราวนี้กลับมานอนแผ่ อ้าขากว้างโดยไม่ได้ตั้งใจแทนที่ แล้วจนตอนนี้ เซี่ยเอ๋อร์...ก็ยังไม่ตื่น
เรียวขาสวยที่ตั้งขึ้น ทำให้ชุดที่เป็นผ้าบางเบา เปิดรั้งขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ โคนขาขาว...เย้ายวนใจ จนกลั้นไม่ไหวอีกแล้ว
เลือดกำเดาพุ่งอีกรอบจนได้ งวดนี้เล่นเอาคนบนเตียงเลอะไปด้วยเลยทีเดียว
หยดเลือดที่กระเซ็นมาโดนแก้ม ทำให้คนงัวเงีย ลืมตาขึ้นอย่างงง ๆ แล้วพอมือบอบบางนั้นแตะมาดู ก็สะดุ้งผุดลุกขึ้นนั่ง ตาสว่างแทบจะในทันที
"เลือด! มาจากไหนเนี่ย...อ๊ะ...คุณชาย! เป็นอะไรรึเปล่าครับ!!!!"
ร่างเล็กรีบเข้าไปประคอง ผลของมันทำให้เลือดไหลหนักกว่าเก่า คนมองชักตกใจจนทำอะไรไม่ถูก หลังจากหันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่ง ก็นึกถึงเจ้านายเก่าขึ้นมา
"ข้า...ข้าจะไปตามพี่เหลียนอิงเดี๋ยวนี้แหละ อย่าพึ่งเลือดหมดตัวตายเสียก่อนนะขอรับ" ว่าพลางวิ่งหน้าตาตื่นออกไปอย่างรวดเร็ว
คุณชายจางได้แต่ยืนโงนเงน ก่อนทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ด้านข้าง...อย่างหมดเรี่ยวแรง
วันคืนจากการประมูลของเขา...ช่างเป็นวันที่ใช้พลังงานมากกว่าที่คิดเสียจริง...
เขาคงหมดสติไปได้พักใหญ่แล้ว ในตอนที่รู้สึกว่าหายใจไม่ออก ร่างสูงผุดลุกขึ้นแล้วหายใจออกโดยแรง จนผ้าที่ยัดอยู่ในรูจมูกกระเด้งออกมาตามแรงหายใจนั้น เขาไอค้อกแค้กอย่างสำลัก ก่อนจะหายใจเข้าลึกอีกครั้ง เพื่อปรับสภาพ
เสียงหัวเราะคิกดังมาจากที่ด้านข้างเตียง ทำให้คุณชายจางมองไปยังเจ้าของเสียง ด้วยแววตาที่เขียวปัด ยังคงเป็นร่างสูงโปร่งแสนงดงามของเหลียนอิง ที่ยืนอมยิ้มกลั้นหัวเราะแทบตายอยู่ด้านข้าง โดยไม่ได้คิดจะช่วยอะไรเขาเลย
"นี่เป็นวิธีปฐมพยาบาลของเจ้างั้นรึ ข้าเกือบตายแล้วนะเมื่อกี้ อุดเข้าไปได้ มันหายใจไม่ออกนะ เข้าใจมั้ย" เขาโวยวายแทบจะในทันที อย่างหงุดหงิดกว่าเก่า ด้วยความที่พอจะคาดเดาพฤติกรรมเมื่อวานของเซี่ยเอ๋อร์ได้ ว่าอาจจะเกิดจากการสอนของจอมเจ้าเล่ห์เหลียนอิงนี้ก็เป็นได้ หลงชื่นชมอยู่เมื่อคืนแท้ ๆ ว่าสอนมาดี ไม่น่าเลย!
เซี่ยเอ๋อร์ที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังร่างสูงโปร่งของเหลียนอิง ทำตัวลีบเกาะคนด้านข้างแน่นกว่าเก่า ก่อนพึมพำเสียงอ่อย
"ข้า...ขอโทษ...คุณชายจาง ข้าไม่รู้ว่าจะทำยังไง ให้เลือดของท่านหยุดไหล...ฮึก...ข้ากลัว...กลัวท่านจะเสียเลือดจนตาย..." น้ำเสียงสะอึกสะอื้นน่าสงสาร ทำให้อารมณ์โกรธเมื่อครู่มอดดับสนิท คุณชายจางแทบจะลุกขึ้นไปกอดปลอบให้หยุดร้องแล้ว ทว่าเขาเสียเลือดจนหมดแรงมากไปหน่อย แค่ลุกอย่างกะทันหัน ก็เล่นเอาเกือบหน้ามืด
"คุณชาย!" ร่างนั้นรีบเข้ามาประคองเขาแทบจะในทันที น้ำตายังไหลเป็นสาย สะอื้นฮัก ๆ จนน่าสงสารยิ่งนัก "ข้าขอโทษจริง ๆ นะขอรับ...ท่านนอนลงก่อน...ข้าจะ...จะ..." ร่างเล็กเริ่มลังเล ไม่รู้จะช่วยอีกฝ่ายยังไงดี จึงจะถูกต้อง ได้แต่ส่งสายตาวิงวอนไปยังเหลียนอิง ผู้ยังคงยืนกลั้นหัวเราะอยู่ด้านข้างแทนที่
"ท่านพี่เหลียนอิง ช่วยข้าด้วย...ช่วยคุณชายด้วย..."
มืออ่อนแรงกุมมือบอบบางไว้ "ข้าไม่เป็นไร...เจ้า...อย่าร้องไห้เลย"
เซี่ยเอ๋อร์มองคุณชายจางอย่างซาบซึ้ง ด้วยรู้ดีว่าอีกฝ่ายพยายามฝืนตัวเองเพื่อปลอบใจเขา ร่างเล็กกอดชายหนุ่มไว้ แล้วร้องไห้โฮ มือเงอะงะของคุณชายจาง จึงได้แต่ลูบหลังสั่นสะท้านนั้นเบา ๆ จะอย่างไร...น้ำตาของเด็กน้อยน่ารัก ก็ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูกเสมอมา
"ข้าไม่เป็นไรจริง ๆ เสี่ยวเอ๋อ เจ้าไม่ต้องห่วงนะ"
ปกติแล้วใครเรียกเขาแบบนี้...เขาจะโวยวาย
แต่หนนี้ เซี่ยเอ๋อร์กลับแย้มยิ้ม
เป็นรอยยิ้มทั้งน้ำตาเลยทีเดียว
เขาเริ่มรู้สึกว่า ยามถูกเรียกด้วยชื่อนี้ หัวใจกลับพองโต
ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ!
ร่างเล็กเผลอกระแซะเข้าหาโดยไม่รู้ตัว พลางพึมพำเสียงแผ่ว "เรียกข้าอีกสักหนได้ไหมขอรับ ข้าอยากฟังเสียงท่านจัง"
คนบนเตียงกุมจมูกอีกครั้ง เลือดเกือบทะลักเพราะคำพูดประโยคเดียวอีกเช่นเคย
"เสี่ยวเอ๋อ..." คุณชายจางลองเรียกตามคำขอ ใบหน้าเปื้อนน้ำตายิ้มกว้าง โผเข้ากอดเขา อาจเพราะเสียเลือดไปเยอะแล้ว เลยไม่มีเลือดใหม่ให้พุ่งอีก บางทีในคราวเคราะห์ ก็มีโชคดีได้เช่นกัน ซึ่งในตอนนี้ คุณชายจาง ก็คิดว่ามันไม่เลวนัก
"ท่าทางท่านจะสบายดีแล้วสินะ ถ้างั้นข้าจะไปนอนต่อแล้ว" เสียงราบเรียบพูดขัดขึ้น ก่อนร่างงามจะหันหลังทำท่าจะจากไป
"เดี๋ยวก่อน เหลียนอิง ข้ายังไม่ได้คิดบัญชีกับเจ้าเลยนะ!" คุณชายจางร้องเรียกไว้ ที่เคืองก็ยังเคืองอยู่หรอก แต่ไม่กล้าโวยวายมากนัก เพราะกลัวเซี่ยเอ๋อร์ตัวน้อยในอ้อมอกของเขาจะตกใจ
คนถูกเรียกหันมายิ้มหวาน "บัญชีที่เราตกลงกันน่ะรึ ท่านจ่ายทีหลังก็ได้ ข้าไม่รีบหรอก" เขาว่าพลางหัวเราะอย่างขบขัน "เมื่อคืนลีลาเสี่ยวเอ๋อคงไม่เลวนักสินะ ข้าเห็นร่างกายท่าน ฟกช้ำไม่เบา แหมข้าเตือนเจ้าแล้วนะเด็กน้อย ว่าให้เพลา ๆ 'เรื่องอย่างว่า' ลงบ้าง ดูซิ เกิดคุณชายของเจ้าช้ำในตายขึ้นมา เจ้าจะทำอย่างไร"
เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นจากอกที่ซบอยู่แทบจะในทันที ด้วยใบหน้าอันแดงฉาน
"ก็...ก็ข้า...ข้าพยายามแล้ว..."
ว่าแล้วก็หันไปมองคุณชายจาง พลางพึมพำอย่างสำนึกผิด "ข้าขอโทษ...ที่รุนแรงกับท่าน...เมื่อคืนนี้....จะอย่างไร มันก็เป็นการทำ 'เรื่องอย่างว่า' ครั้งแรกของข้า....เอ่อ...." ดวงตากลมโตเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างเคอะเขิน "คุณชายจางคงไม่...ถือโกรธที่ข้าเผลอรุนแรงกับท่านหรอกใช่ไหมขอรับ"
คนฟังอึ้งไปแล้ว พอถูกเขย่าตัวเรียกสติ ชายหนุ่มก็ได้แต่อ้ำอึ้งตอบกลับไปว่า "ไม่...ไม่หรอก เจ้าทำได้ดีมากแล้ว...ดีมากจริง ๆ!"
คำพูดประโยคหลังเน้นหนักอย่างจงใจ ดวงตาค้อนให้เหลียนอิงที่ยังคงขำไม่เลิกจนต้องยันตัวไว้กับขอบโต๊ะ ร่างสูงโปร่งหายใจเข้าลึกห้ามเสียงหัวเราะที่เกือบทำให้เขาต้องปวดท้อง แล้วหันมาพูดต่ออย่างยิ้มแย้ม
"ข้าสอนเด็กของข้าดีใช่ไหมคุณชายจาง ท่านจะไปตำหนิเสี่ยวเอ๋อคงไม่ถูก ท่านเองก็รู้ ว่านั่นมันเป็นครั้งแรกของเขา จะอย่างไร...เขาก็เป็นของท่านแล้ว ที่เหลือท่านก็ฝึกเอาเองให้ชำนาญเสียสิ"
"ข้า..." คุณชายจางหน้าแดงบ้างแล้วทีนี้ คำพูดต่อว่าต่อขาน ที่คิดไว้ยาวเหยียด หยุดยั้งลงแค่ริมฝีปาก เพราะเจ้าตัวมัวแต่เขินเสียจนพูดไม่ออกไปแล้ว
เหลียนอิงมองมาอย่างนึกสนุกกว่าเดิม นอกจากเสี่ยวเอ๋อของเขาจะน่าแกล้งแล้ว ดูเหมือนคุณชายจาง ก็ยังคงน่าแกล้งได้ไม่แพ้กัน ปกติแล้วเขาชอบแกล้งเด็กก็จริง แต่ดูเหมือนคุณชายจาง อาจเป็นข้อยกเว้น
ร่างสูงโปร่งหันกลับมามองเซี่ยเอ๋อร์แทนที่ พลางยิ้มให้อย่างใจดี "หรือจะให้ข้าสอนต่อ ข้ามีเทคนิคดี ๆ อีกมากมายนัก เจ้าสนใจไหมเสี่ยวเอ๋อ"
ใบหน้าเล็กหันมามองแทบจะในทันที ด้วยดวงตากลมโตน่ารัก ซึ่งในตอนนี้เป็นประกายอย่างตื่นเต้น "ท่านจะสอนข้าจริงเหรอ ท่านพี่เหลียนอิง!"
"มะ...ไม่ต้อง! ข้าสอนของข้าเองได้ เจ้าไม่ต้องยุ่งเลยเหลียนอิง!" ท่าทางอยากเรียนรู้จัดของเด็กน้อย เล่นเอาคุณชายเหงื่อตก ขืนปล่อยให้สอนอะไรเพี้ยน ๆ เข้าอีก มีหวังเขาเองแหละจะลำบากกว่าเดิมเป็นแน่แท้
เหลียนอิงยังคงแย้มยิ้มจนหยาดเยิ้ม แม้ว่าเสน่ห์ของเขา จะไม่เคยใช้กับคุณชายจางผู้แสนจะรักเด็กได้เลยก็ตาม "ก็ตามใจท่าน แต่จะอย่างไร ตอนนี้ก็สายมากแล้ว ใกล้หมดวันตามข้อตกลงของการประมูลพรหมจรรย์แล้วล่ะ ดังนั้นท่านจะกลับเลยก็ได้นะ เพราะเสี่ยวเอ๋อจะต้องเตรียมตัวรับแขกคนต่อไป ในค่ำคืนนี้"
"หา?" คุณชายจางร้องเสียงสูงอย่างตกใจ
"ท่านตกใจอันใด เสี่ยวเอ๋อเป็นคณิกาเต็มตัวแล้วหลังผ่านค่ำคืนประมูลพรหมจรรย์ เขาย่อมมีหน้าที่ต้องรับรองแขกคนอื่นด้วย ในฐานะของคณิกาคนใหม่ ของหอเหมยฮัว และแน่นอน คิวแขกของเสี่ยวเอ๋อ มีคนจองกันยาวเหยียดเลยเสียด้วย พวกที่ประมูลแพ้ท่านเมื่อคืนอย่างไรเล่า"
"ไม่นะ...ข้าไม่ยอมเด็ดขาด คืนนี้ข้าก็จะจองตัวเจ้า! คืนพรุ่งนี้ มะรืนนี้ด้วย!"
เซี่ยเอ๋อร์มองมาอย่างไม่เข้าใจนัก ว่าชายหนุ่มจะจริงจังขนาดนั้นไปเพื่ออะไร "ท่านจะจองตัวข้าไปทุกวันทำไมขอรับ แค่ข้าไป 'ทำเรื่องอย่างว่า' กับคนอื่นบ้างเท่านั้นเอง ข้าเป็นนายโลมแล้วนะ แล้วข้าก็...จะเป็นอันดับ 1 ให้ได้ในเร็ววันด้วย!" เด็กหนุ่มพูดต่อไปอย่างมุ่งมั่น
"ข้าไม่ยอมเด็ดขาด! ข้าไม่มีวันยอมให้ใครทำเรื่องอย่างว่ากับเจ้าอีกแน่ ๆ" คุณชายจางขัดขึ้นทันที
เซี่ยเอ๋อร์ส่ายหน้าเบา ๆ "ถ้าข้ารับท่านเป็นแขกเพียงผู้เดียว แล้วข้าจะเป็นอันดับ 1 ได้อย่างไร อันดับ 1 ต้องมีแขกมากมาย มันจึงจะถูกต้อง" เขาว่าต่ออย่างสมเหตุสมผล หากยังไม่ทันได้เถียงต่ออันใด ก็ถูกคุณชายจางกอดไว้เสียแนบแน่น
"ข้าไม่มีวันยอม ข้าจะไถ่ตัวเจ้าเดี๋ยวนี้แหละ!" คุณชายพูดอย่างตัดสินใจได้
คำพูดนั้นเล่นเอาคนถูกกอดชะงักค้าง เซี่ยเอ๋อร์ดันตัวชายหนุ่มออกไปสุดแรง ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำตาว่า "ข้าไม่ยอมให้ท่านไถ่ตัวเด็ดขาด คนใจร้าย ข้าบอกแล้วไง ว่าข้าจะเป็นอันดับ 1!"
ว่าแล้วร่างเล็ก ๆ นั้น ก็วิ่งหนีจากไป ทิ้งคุณชายจางให้นั่งอึ้งอยู่บนเตียงอย่างทำอะไรไม่ถูกไปเลย
เหลียนอิงมองมาพลางถอนใจยาว "ข้าก็บอกท่านแล้ว...ถ้าท่านไม่รีบไถ่ตัวเขา...นายโลม จะอย่างไรก็เป็นนายโลม...เขาย่อมต้องรับแขกอื่น นอกเหนือจากตัวท่านด้วย"
พลางอมยิ้มน้อย ๆ "นอกจากท่านจะใช้ความสามารถที่มี รั้งตัวและหัวใจเสี่ยวเอ๋อได้ ยังไงก็พยายามหน่อยแล้วกัน"
ว่าแล้วก็หาวออกมา "ข้าง่วงแล้วสิ เพลาก่อนข้าเจอแขกคึกนัก ทำไม่ยอมหลับยอมนอน เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามากแล้ว ถ้าท่านไม่มีอะไรแล้ว ข้าจะไปนอนล่ะ" เขาพูดง่าย ๆ แล้วหันกายทำท่าจะกลับห้องอีกครั้ง
"เดี๋ยวสิ เหลียนอิง..." คุณชายจางเรียกไว้อีก สีหน้าอ้อนวอนดูน่าสงสาร แต่แค่นี้ ไม่ได้ทำให้เหลียนอิงใจอ่อนได้นักหรอก
ร่างบางยังคงอมยิ้ม ก่อนเดินมาตบไหล่ชายหนุ่มปลอบใจ "เอาเถอะ ข้าจะบอกนายแม่ให้ ว่าช่วงนี้ ท่านจะเหมาเป็นแขกของเสี่ยวเอ๋อ 'ในราคาแพงเป็นพิเศษ' เอง คิดว่านางคงไม่ว่าอะไร...ยังไงก็รีบ ๆ จัดการ ก่อนท่านจะหมดตัวล่ะ ไม่เช่นนั้นหอเหมยฮัว อาจจะได้คณิกาชื่อ 'เสี่ยวจาง' เพิ่มมาอีกคน" เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนเดินจากไปจริง ๆ
(อ่านต่อหน้า 4)
============================
นิยายที่ลงไปแล้วในบอร์ดนี้ เผื่อสนใจอยากอ่านเพิ่ม:
Absolution cafe (จบ),
รักนี้พิเศษสามเท่า! : Special Triple (จบ)เรื่องสั้น (จบแล้วทุกเรื่อง):
ทายาทมรณะ,
Full moon night,
Give me your hand,
เป่ายิ้งฉุบ