ร่างกายปวดเมื่อยไปทั้งตัว โดยเฉพาะท่อนแขนที่เจ็บร้าวอย่างบอกไม่ถูก เมื่อมันถูกพันธนาการเอาไว้กับเข็มขัดหนังเป็นระยะเวลานาน... น้ำฟ้านอนน้ำตาซึมไม่กล้าขยับตัวเปลี่ยนท่าไปไหน เพราะขนาดนอนนิ่งๆ อาการปวดระบมยังตอกย้ำเข้ามาเรื่อยๆให้ต้องกัดฟันทนอยู่แทบจะตลอดเวลา ไม่อยากคิดถึงเรื่องที่ผ่านพ้นไป ไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดของใครนอกจากตัวเอง ที่อ่อนแอเกินไป ยอมให้เขารังแกเอาได้อย่างง่ายดาย...
...พี่ฝน... ฟ้าขอโทษนะ ของขวัญของพี่...ฟ้ารักษาเอาไว้ไม่ได้เลย... ทั้งโทรศัพท์เครื่องนั้น ทั้งหนูลิน... ฟ้าก็ไม่มั่นใจเลยว่าจะอยู่ปกป้องเขาไปได้อีกนานแค่ไหน... ผู้ชายคนนั้นเขามีอำนาจมากเหลือเกินพี่ฝน...เขาจะทำอะไรก็ได้ เขาอยากได้อะไรเขาก็ ในขณะที่ฟ้าทำอะไรไม่ได้เลย... ฟ้าอ่อนแอ... ฟ้าขอโทษ...
นึกโทษตัวเองไม่ได้หยุดจนต้องร้องไห้ออกมาอีกรอบอย่างเงียบๆ... หูแว่วได้ยินเสียงข้อความเข้าโทรศัพท์ของใครอีกคนเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ น้ำฟ้าไม่ได้นับ... อยากจะหลับตานอนให้มันผ่านพ้นไปอีกวัน แต่ก็ข่มตาให้หลับไม่ลง... เพราะความเจ็บร้าวมันรุมเร้าเหลือเกิน...
...คราวนี้น้ำฟ้าเข้าใจชัดเจนแล้วว่า... อาการของคนที่เจ็บไปทั้งตัว เจ็บไปทั้งใจมันเป็นยังไง...
เสียงน้ำฝักบัวในห้องน้ำเงียบไปแล้ว... อีกซักพักผู้ชายคนนั้นคงจะออกมา น้ำฟ้าจะทำยังไงดี ! ต้องรีบหลับ... ต้องรีบแกล้งหลับ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะ ‘ทำ’ อีกก็ได้... ขนตาเปียกชื้นกระพริบปริบก่อนปิดเข้าหากันแน่น...
รังสิมันต์เอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเช็ดผมตัวเอง... สายตากวาดมองร่างขาวๆที่แทบจะกลืนไปกับผ้าปูที่นอนและกองผ้าห่ม ในใจหวนคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน... เขายอมรับว่าตัวเองเป็นคนเลือดร้อน บางครั้งก็ใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล... เรื่องเมื่อคืนก็เหมือนกัน... เขาปล่อยอารมณ์ดิบเถื่อนของเองพุ่งเข้าใส่ร่างนิ่มๆทั้งตัว... ปลดปล่อยทุกอย่างให้อีกคนรับไว้ทั้งหมด อาศัยร่างกายที่ใหญ่โตกว่าบังคับเอาทุกอย่างมาเป็นของตัวเอง...
กว่าสติจะกลับมาก็เมื่อตอนที่หยดน้ำตาของเด็กหนุ่มหยดตกลงบนแขน... ถึงได้เพิ่งรู้ตัวว่าทำรุนแรงลงไปแค่ไหน... คนตัวบางเลิกขัดขืนไปนานแล้ว... เอาแต่นอนร้องไห้ปล่อยให้เขาทำเอาตามใจ... สิ่งที่ได้ยินตลอดเวลามีเพียงเสียงบอกความเจ็บปวด และคำบอกให้หยุด... แต่ตอนนั้นยอมรับว่ามันหยุดตัวเองไม่ได้แล้วจริงๆ... มันเหมือนอะไรซักอย่างที่เก็บไว้ในมุมหนึ่งของหัวใจกำลังพองโตด้วยความยินดี... ดีใจที่กำลังจะได้เป็นเจ้าของคนตัวเล็กๆนี่...
เขาแทบจะลืมเรื่องที่โกรธน้ำฟ้ามากจนปาโทรศัพท์ทิ้งในตอนแรกไปแล้ว ถ้าไม่ได้อ่านข้อความที่ลูกน้องของเขาส่งมาเป็นสิบๆข้อความแบบนี้... ตั้งแต่อธิบายเรื่องโทรศัพท์นั่น ไปจนถึงโอดครวญว่าโดนคุณหมอเด็กทรมานเอายังไงบ้าง... ชายหนุ่มไม่ได้คิดจะส่งข้อความกลับไปแต่รีบเดินไปแก้เข็มขัดที่รัดรอบข้อมือบางเอาไว้ทั้งคืน... เห็นแพขนตาไหวระริกเล็กน้อยก็นึกรู้ทันที ว่าอีกคนเพียงแค่แกล้งหลับ...
ปลายนิ้วเรียวยาวไล้ใบหน้าหวานซึ้ง แล้วจับปอยผมทัดหูให้... ก่อนจะเดินอ้อมไปอีกทางแล้วล้มตัวลงนอนใกล้ๆ ค่อยๆสอดแขนเข้าไปโอบอีกคนให้เข้ามาอยู่ในวงแขน เขาพบอาการต่อต้านเล็กน้อยแต่ชายหนุ่มก็อาศัยแรงที่มากกว่าบังคับกอดเอาไว้จนได้... จมูกโด่งซุกลงข้างแก้มสูดเอากลิ่นหอมๆที่ดอมดมจนติดจมูกทั้งคืนเข้าเต็มปอด... เขาหลับตากกกอดร่างหอมๆเอาไว้ก่อนจะกระซิบเบาๆที่ข้างหู...
“ขอโทษ...”
พูดจบรังสิมันต์ก็รอรับปฏิกริยาตอบสนองกลับ... เขาคิดในใจว่าจะยอมโดนตบ โดนต่อย หรือโดนทำร้ายร่างกายอย่างไรก็ได้ แต่ทว่ามันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้ำฟ้าไม่แม้แต่จะขยับตัว... ชายหนุ่มจึงขยับใบหน้าเข้าไปดูว่าตอนนี้คนตัวบางทำสีหน้ายังไง... แต่ก็พบเพียงว่าเด็กหนุ่มลืมตาแล้วมองตรงไปข้างหน้า ปล่อยให้หยดน้ำตารินไหลลงข้างแก้มเท่านั้น...
“ฟ้า...ฉันกำลังพูดขอโทษเธออยู่นะ... เรื่องโทรศัพท์ของเธอ มาคัสบอกฉันแล้ว... ฉันจะให้ลูกน้องจัดการหาเครื่องใหม่ให้เธอ เอาเป็นรุ่นเดิมที่เธอเคยใช้นั่นแหละ... ซิมกับการ์ดยังใช้ได้อยู่ เพราะงั้นเรื่องโทรศัพท์ไม่ต้องห่วงนะ... ฉันรู้ตัวว่าฉันผิดที่ทำของของเธอพัง... เพราะฉะนั้นฉันจะชดใช้ให้แน่ๆ... หรือว่าถ้าเธออยากจะไปเลือกเครื่องใหม่เองก็ไม่มีปัญหา กลับไปกรุงเทพฯเมื่อไหร่ฉันจะพาเธอไปเอง...ดีมั้ย” ชายหนุ่มพูดจบก็ก้มลงหอมขมับกับกลุ่มผมนุ่มสลวยอีกหลายฟอด... อมยิ้มเล็กๆเมื่อคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำให้อีกคนนั้นดีที่สุดแล้ว...
...ไม่เคยทำให้ใครมากขนาดนี้มาก่อน...
...ไม่เคยยอม ‘ง้อ’ ใครมากเท่านี้เลยจริงๆ...
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้รับปฏิกริยาตอบกลับใดๆจากน้ำฟ้าเลย... เด็กหนุ่มทำตัวเหมือนไม่มีเขานอนอยู่ใกล้ๆ... ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน...
“ฟ้า... รู้มั้ยว่าเธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ฉันยอมพูดคำว่าขอโทษให้ฟังแบบนี้... เธอควรจะดีใจนะรู้มั้ย...”
“...”
“ฟ้า...อย่าเงียบแบบนี้สิ... เธอจะตบหรือจะตีฉันก็ได้... แต่อย่าเงียบแบบนี้ ฉันไม่ชอบ...”
รังสิมันต์ยิ่งกอดรัดอีกคนแน่นขึ้น รู้สึกเหมือนได้มาแต่ตัว... แต่หัวใจ...มันหายไป...
ซักพักเสียงแหบเล็กๆของคนที่อยู่ในอ้อมกอดก็ดังขึ้น เขาพยายามตั้งใจฟังเสียงเบาๆนั่นด้วยอารมณ์ดีใจที่อีกฝ่ายยอมพูดออกมาซักที... แต่ทว่าสิ่งที่ได้ฟังกลับตอกย้ำให้เขารู้ตัวเองว่าทำสิ่ง
“...คุณรู้มั้ย ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นใบ้... เหมือนคนพูดไม่ได้ ...เพราะถึงจะพูดได้ ก็ไม่มีใครได้ยิน...” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบา...
น้ำฟ้าไม่รู้เลยว่าหลังจากเขาพูดจบ สีหน้าของรังสิมันต์เปลี่ยนไปยังไง... เพราะเขารีบหลับตาลง กล้ำกลืนฝืนน้ำตาตัวเองไว้ไม่ให้ไหลออกมาอีก... รู้สึกเพียงแต่ว่าแรงรัดรอบตัวมันคลายออก เหลือเพียงแรงกอดแผ่วเบาที่ยังคงเคล้าเคลียอยู่ที่ตัวไม่ไปไหน...
...ก๊อก...ก๊อก... ไม่นานหลังจากนั้น เสียงเคาะประตูแผ่วเบาดังขึ้น… เป็นรังสิมันต์ที่ลุกขึ้นไปเปิด… ชายหนุ่มพบเตโชยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมยื่นโทรศัพท์มาให้
“นายใหญ่โทรมาครับบอส…” เตโชบอกเพียงแค่นั้นก็เดินหันหลังออกไป… ชายหนุ่มยกโทรศัพท์เข้ามาแนบหู เขาได้ยินเสียงถอนหายใจยาวดังออกมาจากโทรศัพท์เป็นอันดับแรก…
“ครับพ่อ…”
‘ทำไมป่านนี้แล้วแกยังไม่พาหลานกลับกรุงเทพฯมาอีก…’ ปลายสายถามเข้าเรื่องทันทีไม่อ้อมค้อม และคราวนี้ก็เป็นรังสิมันต์ที่ต้องถอนหายใจบ้าง…
“เดี๋ยวอีกสองสามวันผมจะพากลับไปครับพ่อ…”
‘แกมีเหตุผลอะไรให้ต้องอยู่ต่อ… ถ้าจะอ้างเรื่องความปลอดภัยละก็ไม่ต้องห่วง…เดี๋ยวพ่อจะส่งคนไปคุ้มกันให้…’
“คือ…มันไม่ใช่เรื่องนั้นครับพ่อ…”
‘งั้นแกมีเหตุผลอะไรอีก… พ่อมองไม่เห็นว่ามันจะมีข้ออ้างอะไรให้แกเอาตัวหลานไปอยู่ไกลในที่แบบนั้นอีก พาหลานกลับกรุงเทพฯวันนี้นะตะวัน…’ พ่อเขาพูดเพียงเท่านั้นก็ตัดสายทิ้งไป… ชายหนุ่มนึกรู้ทันทีว่าพ่อเขาคงเอาจริง ถ้าท่านไม่ได้ทราบข่าวว่าเขาพาหนูลินกลับไปอยู่ใกล้ๆภายในวันนี้ มีหวัง…พ่อเขาขึ้นมาตามถึงที่นี่แน่…
แต่พอหันกลับไปมองข้างหลัง อาการห่วงอาวรณ์ร่างบอบบางที่ยังนอนหันหลังให้เขามันก็ตีพัดขึ้นมาในอก ที่ไม่อยากกลับไปตอนนี้ เพราะไม่รู้ว่าถ้ากลับไปแล้วเขาจะมีโอกาสคว้าร่างบอบบางนี่มานอนแนบกายได้อีกเมื่อไหร่…จะได้เข้าใกล้ ได้สูดดมกลิ่นกายหอมหวานๆคล้ายขนมที่ตอนนี้ติดจมูกคุ้นใจไปแล้ว… ที่ไม่อยากพากลับไป…เหตุผลเพราะแค่นี้เอง…
“ฟ้า… ฉันจะพาเธอกับหนูลินกลับกรุงเทพฯ… วันนี้เลย…” พูดไปแล้วก็อยากตบปากตัวเองนัก
แล้วยิ่งเมื่อเห็นปฏิกริยาของคนตัวบางๆที่ค่อยๆกระเถิบกายลุกขึ้นนั่ง… ยกมือปาดน้ำตาออกจากสองข้างแก้มแล้วพยายามจะพาตัวเองไปยังห้องน้ำ มันยิ่งทำให้เขาอยากจะย้อนเวลา… เพื่อกดตัดสายโทรศัพท์พ่อของตัวเองทิ้งตั้งแต่ได้ยินเสียงถอนหายใจนัก !
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
to be continue...
เอาหนูลินมาคืนทุกคนแล้วจ่ะ T^T

แอบขโมยน้องไปกกไว้นานมว๊ากกกกกกกกก (รู้ตัวจ่ะ - -+)

แต่ตอนนี้เค้าเริ่มว่างแล้ว คงได้เจอกันบ่อยขึ้นแน่นอนคร๊าบบบบ สัญญา *เกี่ยวก้อยนะๆ*
ปล. ไม่รู้มีใครอยากคุยกับเค้ามั่งรึเปล่าอ่ะ >.< ถ้าใครอยากมาทวงนิยายหรือคิดถึงน้องหนูลินก็แอดมาคุยได้นะ ^^ แพทไม่กัด แพทฉีดยาแล้ว เหอๆ = =+
<< Pat Majestic >> ที่ดิสเพลย์เป็นรูปพี่ซิน ซิงกูลาร์นะคะ ^^
ปล2. ตอนนี้ที่นี่ฝนตกล่ะ = =+ ไม่รู้ที่โน่นเป็นยังไงกันบ้าง ยังไงก็ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ^^ และขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่ยังไม่ลืมหนูลินกันนะ
แล้วเจอกันจ้าาาา