คุณแม่...ครับผม ! Ch.8 - Sea Horse (Happy Valentine's day ja ^^)"คุณ !! ...นี่...ปล่อยแขนผมนะ...ปล่อยสิ !!! บอกว่าให้ปล่อยไงเล่า...เดินเองได้ผมอุ้มหนูลินไม่ถนัดนะคุณ !!!!" น้ำฟ้าอุทานพลางพยายามบิดแขนออกจาการเกาะกุม...
"ก็ว่าอยู่หรอก ตัวเล็กแค่นี้จะเอาแรงที่ไหนมาอุ้มหลานฉัน... มานี่ฉันอุ้มเอง..." พูดแล้วรังสิมันต์ก็ทำท่าจะคว้ามาอุ้มตามปากว่า แต่น้ำฟ้าก็ไวรีบหันตัวหลบทันทีแล้วเอาตัวเองบังลูกไว้... ชายหนุ่มจึงทันคว้าเอาแขนของน้ำฟ้าที่ช้อนก้นหนูลินไว้แทน...
"ไม่ !!!!" น้ำฟ้าบอก... หันกลับไปจะด่าต่อ...แต่ทว่าปากเขากับจมูกคมสันเผลอแตะโดนกันเล็กน้อย
"แอ๊ะ....แอ๊.........อ๊างงงงงงง แฮะๆ....." หนูไวโอลินที่กำลังเพลินเพราะนึกว่าทั้งคุณแม่ฟ้ากับคุณลุงม้าน้ำกำลังเล่นกันก็หัวเราะเอิ๊กขึ้นมาอย่างถูกใจ... นึกพอใจให้ทั้งแม่ฟ้าและคุณลุงม้าน้ำอุ้มแบบนี้... น้ำฟ้าสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงลูกหัวเราะจึงสะบัดหน้ากลับขบริมฝีปากแน่น... บ้าจริง...เกือบโดน...โดนแล้วมั้ยล่ะ !!
"ไม่ก็หยุดดิ้นแล้วตามมาดีๆ..." ชายหนุ่มบอกเบาๆ... ก่อนจะสาวเท้าโดยดึงตัวน้ำฟ้ามาด้วย...
"เฮ้ย..เอ๊ะนี่คุณ...ผมบอกแล้วไงว่าไม่ไป...ไม่ไปๆๆๆ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงคุณ...นี่...ปล่อยผมนะปล่อย !" น้ำฟ้าดิ้นพลางตะโกนพลาง แต่แรงของคนตัวเล็กกว่าเป็นสิบเซนต์อย่างเขาแถมยังมาต้องคอยพะวงอุ้มหนูลินไม่ให้ตกอีกก็เลยดิ้นหนีไม่หลุด ถูกชายหนุ่มจับยัดเข้ารถจนได้...
รถตู้สีเทายี่ห้อหรูวิ่งผ่านป้อมยามเข้าสู่บริเวณอาณาเขตตัว 'บ้าน' ไม่สิ...น้ำฟ้าคิดในใจ อย่างนี้ไม่เรียกว่าบ้านหรอก มัน 'คฤหาสน์' ชัดๆ...
"นี่คุณ....ที่นี่มัน....ที่ไหน...ห๊ะ?" น้ำฟ้าถาม นึกกังวลอย่างสุดใจ ตลอดทางเขาก็เอาแต่เถียงและขัดขืนจนแรงแทบสิ้น... ดีหน่อยที่วันนี้หนูลินอารมณ์ดีไม่ร้องงอแงเลยซักนิด... ติดจะยิ้มแย้มมีความสุขเกินไปด้วยซ้ำ... ก็ดี...ให้ลูกคิดซะว่าออกมาเที่ยวแล้วกัน... แต่ประเดี๋ยวถ้าเขาไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านละก็...จะแอบโทรศัพท์แจ้งหาตำรวจว่าโดนลักพาตัว แล้วเอาไอพวกหมอนี่เข้าคุกให้หมด... น้ำฟ้าคิดเคืองๆ สายตาก็พยายามสอดส่ายหาป้ายหรืออะไรซักอย่างที่พอจะบ่งบอกได้ว่าที่นี่มันที่ไหน... เห็นรางรถไฟฟ้าอยู่แว่บๆก่อนเลี้ยวเข้ามากับตึกสีส้มๆ แสดงว่าคงจะออกนอกตัวกรุงเทพฯมาไม่มาก
"บ้านฉัน..." ชายหนุ่มตอบ... ยอมรับเลยว่าตลอดทางที่นั่งมาเขาเหลือบมองพวงแก้มยุ้ยๆที่เอนซบไหล่น้าชายแต่หันหน้ามาทางเขาพร้อมยิ้มเห็นเหงือกอย่างมีความสุขมาก... นึกๆอยากให้ลองมาซบลงบนไหล่เขาดู...ท่าทางจะนิ่มมาก... มีช่วงหนึ่งน้าของหลานเขาเผลอมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างรถ เขาจึงแอบเอานิ้วชี้ยื่นไปที่มือเล็กๆนั่น... นิ้วป้อมๆสั้นๆก็คว้าหมับเข้าที่นิ้วเขาแล้วแกว่งเบาๆพร้อมหัวเราะเอิ๊กอ๊ากไม่ยอมปล่อยอีกแน่ะ นึกเอ็นดู...นึก 'รัก' เด็กตรงหน้าขึ้นมาครามครัน... อยากลองอุ้มดูซักครั้ง...แต่ ชายหนุ่มไม่เคยอุ้มเด็กเล็กๆแบบนี้ เขาอุ้มไม่เป็น... เขากลัวว่าตัวเล็กๆบอบบางอย่างนั้นถ้าโดนเขารัดแน่นเกินไป...อยากจะหักหรือไม่ก็บาดเจ็บเอา... ขอแค่ได้แหย่ๆจับๆแบบนี้ก็พอ...
รถตู้สีเทาวิ่งมาจอดอย่างนุ่มนวลลงตรงหน้าบ้าน... บ้านหลังนี้เขามาซื้อเอาไว้เอง เอาไว้มาพักผ่อนคนเดียวเวลากลับมาอยู่เมืองไทย... เขาชอบบรรยากาศด้านหลังบ้านที่อยู่ติดภูเขาและมีลำธารเล็กๆไหลผ่าน... ในตอนแรกคิดว่าอาจไม่ได้กลับมาเมืองไทยอีกเลยคิดจะทำเป็นรีสอร์ทอยู่หลายที แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการ... จนตอนนี้ก็คิดว่าดีที่ยังไม่ได้ทำ...
ใช่ว่าไม่รู้ว่าแม่รู้สึกยังไงตอนเห็นรูปเด็กคนนี้... และนิสัยของแม่เขาเป็นยังไงเขาก็เข้าใจ แม่ทั้งรักแล้วก็หลงหลานเอามากๆขนาดยังไม่ได้เจอตัวจริง เห็นแค่เพียงรูปภาพ ...คงหลงมากกว่าเขาหลายเท่า ขืนพากลับไปบ้านนั้นตอนนี้... น้าชายของหลานที่ทำท่าหวงหนูน้อยไวโอลินซะอย่างกับงูจงอางหวงลูกแบบนี้คงไม่อยู่เฉย...และอาจเป็นเรื่องใหญ่เข้าเพราะท่าทางทั้งปากจัด ทั้งฤทธิ์เยอะไม่ยอมใคร แม่เขาเองก็ใช่ย่อยที่ไหน... ถ้าสองคนนี้เจอกันแล้วมีเหตุให้ต้องแย่งของรักของหวงทั้งคู่... แย่แน่ๆ...สู้เขารับเอามาจัดการเสียเองยังดีกว่า...อย่างน้อยๆตอนนี้ก็ถือว่าดีไปเปลาะหนึ่งเพราะเขาสามารถทำให้หลานมาอยู่ใกล้มือได้อีกนิดแล้ว...
"เชิญครับคุณน้ำฟ้า คุณรังสิมันต์..." ลูกน้องในชุดสูทของเขาเปิดประตูรถ พร้อมกับยืนเตรียมพร้อมช่วยเอาของลง... ชายหนุ่มก้าวลงมายืนที่พื้นเรียบร้อย หันไปจะช่วยเด็กน้ำฟ้าอุ้มหลานลงจากรถเพราะกลัวอุบัติเหตุ... แต่ทว่าเด็กน้ำฟ้ากลับนั่งนิ่งหันหน้ามองไปทางหน้าต่างรถไม่ยอมขยับ...
"ทำไมไม่ลง..." ชายหนุ่มถาม น้ำฟ้าหันมองพร้อมบอก
"ไม่อยากลง..." พูดเรียบๆไม่ได้อยากกวนโทสะ แต่เขาไม่อยากลงจริงๆนี่ บ้านของตานี่ ...ลักษณะมันรังมาเฟียรังโจรชัดๆ เห็นตั้งแต่ทางเข้ามาแล้ว... มีทั้งป้อมยามทั้งชายใส่ชุดสีดำยืนกันเต็มไปหมด... แล้วในบ้านไม่เดินกันยั้วเยี้ยะเหรอ ขืนเขาลงไปก็โง่น่ะสิ หมอนี่คงวางแผนฆ่าเขาในบ้านแล้วคิดจะขโมยหนูลินไปน่ะสิ... มือเย็นๆพยายามกดโทรศัพท์หาเพื่อนมาตั้งแต่นั่งในรถ แต่ทว่าโทรไม่ติดเลย เหมือนหมอกานต์จะปิดเครื่อง... โอ๊ย...ทำไมวันนี้มันซวยอะไรอย่างนี้เนี่ย...
"ไม่อยากลง... ก็ตามใจ..." ชายหนุ่มบอก... ถอนหายใจหนักๆแล้วก้าวกลับขึ้นไปบนรถ... "เธอไม่ลง... แต่ฉันจะเอาหลานฉันลง..." ชายหนุ่มพูด พลางถือวิสาสะคว้าเข้าที่เอวป้อมๆของเด็กตัวเล็กแต่น้ำฟ้าก็รีบสะบัดมือชายหนุ่มออกทันที ดวงตาแป๋วแว๋วมองการกระทำของทั้งแม่ทั้งคุณลุงม้าน้ำอย่างสงสัย... ในใจถ้าพูดได้หนูลินคงอยากบอกจะแย่... ว่าอย่าแย่งกัน...ได้แตะทุกคน...ฮิฮิ
"คุณนี่มีสิทธิ์อะไรมาแตะตัวลูกคนอื่นแบบนี้... แล้วถ้าขืนคุณยังขยับเข้ามาหาผมอีกก้าวเดียวนะ... ผมจะโทรเรียกตำรวจมาจับคุณ โทษฐานลักพาตัวผมกับลูกแบบนี้เดี๋ยวนี้..." น้ำฟ้าบอก มือกำโทรศัพท์แน่นโชว์ให้ดูว่าเขาเอาจริง แล้วก็รีบเก็บลง... แต่รังสิมันต์กลับมองใบหน้าขาวๆที่ขู่เขาฟ่ออย่างสนใจปนขำ ทำแบบนี้แล้วเหมือนแมวขู่ราชสีห์ไม่มีผิด นี่คงไม่รู้จริงๆล่ะสิว่าเขาเป็นใคร...และตำรวจคงทำอะไรเขาไม่ได้หรอก ...จนอดไม่ได้ชายหนุ่มจึงเผลอหัวเราะออกมาเล็กน้อย...
"นี่คุณ... แบบนี้...เขาไม่ได้เรียกลักพาตัว..." ชายหนุ่มบอก ทำสีหน้าเป็นการเป็นงานใส่ "...เขาเรียกว่า 'ฉุด' " ชายหนุ่มบอก
ชายหนุ่มเสื้อสูทสีดำได้ยินที่บอสบอกเด็กชายผิวขาวตัวเล็กคนนั้นแล้วเผลอหลุดยิ้มกันออกมาเป็นแถว... แต่น้ำฟ้ากลับทำหน้าสวนกระแส... คิ้วยิ่งขมวดยุ่ง ทำท่าจะกระโจนเข้าใส่ชายหนุ่มให้ได้...แต่ก็หักใจไว้ ตั้งสติและคิดได้ว่าเถียงไปคงไม่มีประโยชน์ ...จะบ้าหรือไงว่ะ ฉุดน่ะ เขาใช้กับผู้ชายทำกับผู้หญิงไม่ใช่หรือไง...แบบนี้น่ะลักพาตัวชัดๆ แถมนอกจากจะไม่ใช่ผู้หญิงแล้ว...ยังจะฉุดเด็กทารกมาอีก ไอบ้านี่มันคิดอะไรของเขานะ...
หนูลินไม่ทันได้หันไปมองสีหน้าของแม่ฟ้าตัวเอง แต่ในระยะสายตาเด็กเห็นเพียงคนใส่ชุดเท่ห์ยืนยิ้มให้ ก็นึกว่าทุกคนอยากเล่นด้วยกับเขา เด็กน้อยจึงชี้มือชี้ไม้ทำท่าจะให้คุณลุงม้าน้ำอุ้มแล้วพาไปเล่นกับคนชุดดำข้างหลัง ปากเล็กๆก็ส่งเสียงอ้อแอ้ๆให้... รังสิมันต์เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งยิ้มใส่นัยน์ตาแป๋วแว๋วใหญ่ มือใหญ่ทำท่าจะช้อนเข้าใต้รักแร้เด็ก แต่ทว่าคุณน้าชายก็ไวทายาดอุ้มตัวหนูลินโยกหลบทันที
"
อย่าแตะนะ !! ผมพาลูกลงเองได้...!!!" น้ำฟ้าบอกพลางตีหน้ายักษ์ใส่ โอ๊ย...จะมายิ้มจะมาแตะตัวลูกเขาทำไม... เขาไม่ใช่ตัวตลกนะมีอะไรขำนักรึไง... คิดอย่างเหวี่ยงๆแล้วน้ำฟ้าก็กระแทกกระทั้นตัวลง... อยากกระทืบใส่อะไรซักอย่างนัก ความจริงแล้วน้ำฟ้าเป็นคนอ่อนโยน ไม่เคยรู้สึกอยากโกรธอยากเกลียดใครขนาดนี้มาก่อน แต่นี่มันอดไม่ได้จริงๆ แถมยังมีเรื่องลูกให้คิดอีก...เพื่อนคนดีก็ไม่ยอมรับสาย โธ่เอ๊ย...มันเวรกรรมอะไรของน้ำฟ้านะ ที่ต้องมาพบมาเจอผู้ชายกวนประสาทแบบนี้...
"ก็แค่นั้น... เป็นน้าประสาอะไร หลานต้องการอะไรก็ไม่รู้... ตั้งแต่ในห้างแล้ว หลานฉันอยากได้ตุ๊กตาก็ไม่ยอมซื้อให้ นี่หลานอยากลง...ยังจะไปขัดใจอีก..." ชายหนุ่มบอก ระหว่างที่พยายามดันหลังให้เด็กน้ำฟ้าเดินเข้าบ้าน... พอทำอย่างนี้แล้วชายหนุ่มถึงเพิ่งรู้ถึงความต่างของขนาดตัว... เด็กนี่พอเทียบกับเขาแล้วตัวเล็กยังกับเด็กมัธยม... เล็กกว่าผู้หญิงบางคนของเขาเสียอีก... ไหล่...กับเอวก็เล็ก... นี่ถ้าเขาใช้มือเดียวโอบก็คงจะรอบ...
ชายหนุ่มนึกเปรียบเทียบเด็กนี่กับผู้หญิงที่เคยผ่านมา ชายหนุ่มคงลืมนึกไปว่าสายเลือดคนเอเชียกับคนยุโรปมันต่างกัน...
"...คุณ... การเลี้ยงลูกน่ะเราจะไปตามใจเขาได้ทุกอย่างไม่ได้ ต้องรู้จักห้ามรู้จักปรามบ้าง อย่างนั้นเด็กก็เสียคนกันพอดี ไม่ใช่ลูกคุณหนูอย่างคุณนี่ ที่พออยากได้อะไรแล้วก็มีแต่คนมาประเคนให้ถึงที่น่ะ..." ลูกโตมาถึงได้มีนิสัยใจโต พออยากได้อะไรเข้าหน่อยก็เอาเงินฟาดหัว... น้ำเหลือบหางตามองอย่างเคืองๆ... ไม่ทันรู้สึกตัวว่าถูกมือชายหนุ่มสำรวจร่างกายอยู่...
"แล้วนี่...คุณจะพาผมไปไหน..." น้ำฟ้าถาม...เริ่มกังวลมากขึ้นเมื่อชายหนุ่มดันหลังเขาให้ขึ้นบันได...
"ฉันไม่พาเธอไปฆ่าหรอกน่ะ..." ชายหนุ่มตอบ...เริ่มนึกรำคาญปากเล็กๆที่พูดไม่ยอมหยุดนี่ตะหงิด
"ก็ใครมันจะไปเชื่อล่ะ...ไปดักพาเขามาจากห้างโดยที่เขาไม่เต็มใจมา... แถมจุดประสงค์เพื่ออะไรก็รู้ๆกันอยู่ ที่นี่มันก็รังของคุณ... คุณจะให้ผมเชื่อเหรอ..."
อีกอย่างบ้านนี้ตั้งแต่เดินเข้ามาก็มีแต่ผู้ชาย...ไม่มีคนที่ท่าทางจะเป็นแม่บ้านหรือคนรับใช้เลยซักคน มีแต่ชายใส่สูทดำเดินว่อนไปหมด...
"รัง?" ชายหนุ่มทวนคำ... บ้านเขานี่นะเป็นรัง... เด็กนี่คิดว่าเขาเป็นตัวอะไร... นี่ถ้าไม่ติดว่าเด็กนี่อุ้มหลานเขาอยู่ล่ะก็ จะให้ลูกน้องจับพาดบ่าพาไปโยนใส่ไว้ให้ถึงที่... "...นี่คิดว่าฉันเป็นตัวอะไร..." ชายหนุ่มถาม... แต่ก่อนที่น้ำฟ้าจะทันตอบ เสียงอ้อแอ้ก็ดังขึ้น
"อาาา...อาาา..." พูดพลางก็ยกตุ๊กตาม้าน้ำสีเหลืองแกว่งไปแกว่งมาใหญ่... พร้อมออกเสียง "อาาา...อาาา..." ไม่ยอมหยุด... ราวกับรู้เรื่องว่าคนตรงหน้า...คือคุณลุงม้าน้ำ... น้ำฟ้ามองลูกแล้วก็เข้าใจ... นึกยิ้มในความฉลาดน่าเอ็นดูของลูก...
"ลูกผมบอกว่าคุณเป็นม้าน้ำ..." เด็กหนุ่มบอกสีหน้าจริงจัง...
-------------------------------------- ---- - - - -- - -- -- - - -
ชายหนุ่มมองจ้องสบดวงตาดำขลับกลมโตเกินชายของเด็กตรงหน้า นึกประมวลผลของคำพูดเมื่อครู่... หนูลิน...บอกว่าเขา...เป็นม้าน้ำ ??!!
เตโชกับซึโยชิ รวมทั้งมาคัสที่เดินตามเจ้านายขึ้นมาที่ชั้นสองของบ้านเผลออึ้งกับคำตอบของคุณน้ำฟ้าน้าชายของคุณหนูไวโอลิน ทั้งสามยืนนิ่ง ซึโยชิเหลือบมองเพื่อนร่วมงานหนุ่มตัวโตผิวคร้ามแดด กับมาคัสเลขาหนุ่มเชื้อสายยุโรปของเจ้านาย ก็พบว่าทุกคนมีอาการเดียวกับเขา... คือกลั้นยิ้มกันไว้ไม่อยู่...ไม่เคยเลยในชีวิตทำงาน ตั้งแต่มาอยู่กับคุณรังสิมันต์...เจ้านายหนุ่มที่อุทิศทั้งชีวิตเพื่องาน จึงทำให้เป็นคนเงียบขรึม ดุดันและเนี๊ยบมาก แถมมีแต่คนเกรงในบารมีและหวั่นกลัวในอิทธิพล จะมีใครพูดกับคุณรังสิมันต์ซักทีแทบจะต้องเขียนสคริปมาท่องกันเลยทีเดียว...ต้องสรรค์คำอย่างดี สรรเสริญเยินยอเข้าไว้...
เจ้านายเขาคนนั้นจะมาโดนเด็กผู้ชายอายุยี่สิบกว่าๆตัวเล็กๆ... หาว่า...เป็น 'ม้าน้ำ' เนี่ยนะ... ขำจนน้ำตาแทบเล็ดแต่ก็ต้องเก็บมาด... ทั้งนึกขำและนึกสงสารในใจ พูดขนาดนั้นเดี๋ยวก็โดนเป่าสมองกระจุยหรอกครับคุณน้ำฟ้า... ซึโยชิมองหน้าเด็กหนุ่มน้ำฟ้าอย่างเห็นใจ โอ๊ย...ตั้งแต่เจ้านายบอกฉุดในรถ...มาจนเจอม้าน้ำนี่... กลั้นขำจนลำไส้บิดหมดแล้วเนี่ย... ร้อยวันพันปีไม่เคยเจอคนที่กล้าคุยกับคุณรังสิมันต์แบบนี้แล้วไม่โดนตบด้วยด้ามปืนเลยซักที... ท่าทางหนนี้คุณรังสิมันต์ของเขาคง...
"...ไม่เป็นไร... ถ้าหนูลินคิดว่าฉันเป็นม้าน้ำ... ฉันก็จะเป็น..." ชายหนุ่มไม่คิดถือสาเพราะสายตาแป๋วๆที่ส่งมาทำอ้อน... นึกเอ็นดูท่าทางแกว่งม้าน้ำของเด็กน้อยจริงๆ
น้ำฟ้าอ้าปากจะพูด แล้วก็หุบปาก...พูดไม่ออกเพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมาไม้นี้ นึกเคืองใจกับสายตาแวววาวของชายหนุ่มตอนมองลูกตัวเองเหลือเกิน จะเดินลงก็ติดลูกน้องชายหนุ่มเต็มบ้าน... งั้นก็ต้องเดินขึ้น...เพราะไม่มีคน
น้ำฟ้ามองหน้าชายหนุ่มแล้วสะบัดหนีเดินจ้ำอ้าวขึ้นชั้นสองของบ้าน...อยากขึ้นนักขึ้นมาแล้วนี่ไง... อยากทำอะไรก็เชิญ...เพราะเขาเตรียมพร้อมกดโทรออกทุกเมื่อ !!
...Chateau Mouton ..Cabinet Sauvignon ..La grenouille et profiterol..~ เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าของเขาจู่ๆก็ดังขึ้นกะทันหัน... แน่นอนว่าน้ำฟ้าสะดุ้งจนเกือบทำโทรศัพท์หล่น... เด็กหนุ่มรีบหันกลับไปมองรังสิมันตืที่เดินตามขึ้นมาแต่ไม่มีทีท่าว่าจะห้ามไม่ให้เขารับสาย... เหลือบมองหน้าจอ... ขึ้นชื่อหมอกานต์เขาดีใจจนแทบร้องไห้มือไม้สั่นรีบกดรับ...
"อะ..ฮัลโ...."
"/ฟ้า !!! ขอโทษทีที่ไม่ได้รับสาย... พอดีตอนนี้ที่โรงพยาบาลยุ่งมาก... มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่สะพานใกล้ๆนี่ รถบัสสามคันเสียหลักโดนชนพังยับเลย... คนไข้ถูกลำเลียงเข้ามาที่นี่เรื่อยๆเลย หมอกับพยาบาลก็ไม่ค่อยพอวิ่งกันวุ่น...ฉันเองก็ต้องเข้าไปช่วยอาจารย์หมอผ่าตัด...คืนนี้คงไม่ได้กลับไปรับแกนะ ฉันขอโทษด้วย เดี๋ยวต้องปิดเครื่องเพราะต้องทำงานก่อนแกคงติดต่อฉันไม่ได้... ขอโทษนะฟ้า !!!/" ...แล้วสายก็ตัดไป...
น้ำฟ้าอ้าปากค้างหนักกว่าเดิมเมื่อไม่ทันได้พูดรับสายจบปลายสายก็พ่นมาเป็นชุดแล้วก็ตัดไปโดยไม่ฟังเขาเลย... เด็กหนุ่มเรียกชื่อเพื่อนซ้ำๆอีกหลายครั้งและพยายามติดต่อกลับแต่ก็ได้ยินแต่เสียงบอกให้ฝากข้อความ... โธ่เอ๊ย ! จะมามีอุบัติเหตุอะไรตอนนี้นะ !! นึกอยากพาลเหตุการณ์อะไรต่างๆที่ทำให้เป็นแบบนี้ แต่เขาก็เข้าใจเพื่อนดีว่าหน้าที่อาชีพความรับผิดชอบของเพื่อนมันยิ่งใหญ่กว่าเขาแค่ไหน...
...ถ้าเป็นแบบนี้แล้วเขากับลูกจะรอดเงื้อมมือรังมาเฟียรังโจรนี่ไปได้ยังไงกันล่ะ... น้ำฟ้าคิดหนักคิ้วยิ่งขมวด...จึงไม่ทันได้ระวังตัวเมื่อหนูน้อยไวโอลินตัวเอนจะถลาไปหาคุณลุงม้าน้ำที่เดินเข้ามาใกล้
"
อ๊ะ ! หนูลิน !!!" น้ำฟ้าอุทานอย่างตกใจมากเมื่อลูกหลุดมือ...
"เอิ๊ก...เฮ่ะๆ....ฮ้าวววว..." แต่ทว่าฝ่ามือแกร่งก็ยกมาคว้าอุ้มไว้ทันที... หนูลินจึงร้องเอิ๊กอ๊ากชอบใจ มองหน้าคนอุ้มดวงเป็นประกายแล้วซบแก้มยุ้ยๆลงบนไหล่หนาทันที... ความรู้สึกที่ถูกคนตัวใหญ่ๆ ไหล่หนาๆและมือแข็งแรงแบบนี้อุ้มหนูลินไม่เคยสัมผัส มันรู้สึกปลอดภัยต่างกับตอนแม่ฟ้าอุ้ม ...ถึงความอบอุ่นกับความคุ้นเคยจะต่างกัน... แต่เจ้าหนูไวโอลินก็เต็มใจให้คุณลุงม้าน้ำอุ้มเขาอยู่ดี... ดวงตากลมโตเหลือบมองข้ามไหล่ไปที่คุณฝรั่งผมทอง คุณผิวขาวตาตี่กับคุณตัวใหญ่ผิวสีแทน แล้วยิ้มเห็นเหงือกให้พร้อมโบกคุณม้าน้ำในมือไปมา...ประมาณว่ามาเย่นกานนะ...
ทั้งสามหนุ่มจ้องหลานของเจ้านายแล้วนึกเอ็นดูขึ้นมาเหมือนๆกัน ทั้งชีวิตเคยแต่จับปืนจับปากกาจับกระดาษ...ไม่ก็จับผู้หญิง...แต่เด็กนี่...ห่างไกลความคิดเหลือเกิน... แค่แมวหรือสุนัขยังไม่ค่อยจะได้เข้าใกล้... อ้อ...อาจยกเว้นซึโยชิ เพราะหนุ่มเชื้อสายญี่ปุ่นคนนี้เพิ่งได้หลานสาววัยเจ็ดเดือนมาอุ้มเล่นเมื่อไม่นานมานี้...
"อ่ะ...นี่...คุณ ! เอาลูกผมคืนมา..." น้ำฟ้าบอก...พลางเดินเข้าหาจะคว้าลูกคืน... แต่เป็นทีชายหนุ่มเขาโยกตัวนิดเดียวก็หลบพ้นการไขว่คว้าของน้ำฟ้าง่ายดาย
"คุณ !! นี่คุณ...คืนหนูลินมานี่นะ !!" น้ำฟ้าเริ่มขึ้นเสียง เมื่อชายหนุ่มไม่มีทีท่าจะวางหนูลินลง... แถมยังเดินหลบเขาไกลออกไปอีก... ท่าอุ้มแบบนั้นมันก็ไม่ถูกต้อง... นี่อุ้มเด็กไม่เป็นแล้วยังจะมาอุ้มลูกชาวบ้านเขาแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย...!!
"นี่คุณ !! คุณรังสิมันต์...คุณอุ้มแบบนั้นไม่ได้หนูลินยังคอไม่ตั้ง !!!" แล้วน้ำฟ้าก็ออกอาการเหวี่ยงใส่ เขาพะวงหนูลินจนแทบบ้าแล้วตอนนี้ และโดยไม่รู้ตัวน้ำฟ้าก้าวตามรังสิมันต์เข้ามาในบริเวณห้องนั่งเล่นซึ่งมีประตูเปิดเข้าไปเป็นห้องนอนชายหนุ่มเรียบร้อย... รังสิมันต์เหลือบหันมามองน้ำฟ้าที่เดินหน้าดำหน้าแดงตามเขามาอย่างแปลกใจ... ไม่คุ้นหูเมื่อถูกเด็กหนุ่มเรียกขานด้วยชื่อตัวเอง...
"เธอ...ว่าไงนะ..." ชายหนุ่มถาม...จริงๆเขาอยากได้ยินที่เด็กคนนี้เรียกชื่อเขาต่างหาก แต่น้ำฟ้าไพล่ไปอีกทาง...
"ผมบอกว่าหนูลินยังคอไม่แข็ง คุณอุ้มแบบนั้นลูกผมคอเอนหมด... เอาหนูลินคืนมานี่นะคุณ..." พูดพลางน้ำฟ้าก็เดินเข้าหาชายหนุ่มพลางเอื้อมมือคว้าเอวปุ้มปุ้ยของลูกชาย... ซึโยชิจึงเดินเข้าไปหาเจ้านายแล้วกระซิบบอก
"บอสต้องเอามือประคองต้นคอเด็กไว้ด้วยครับ... คุณหนูไวโอลินยังตั้งคอไม่ได้เลยซบไหล่บอสอย่างเดียว..." เขาบอกแล้วถอยกลับไปยืนที่เดิม น้ำฟ้าที่พยายามแงะนิ้วชายหนุ่มออกจากตัวลูกชายเหลือบมองอย่างระแวงว่ากระซิบอะไรกัน
รังสิมันต์ทำสีหน้าเหมือนเข้าใจ แล้วก็เปลี่ยนมายกมือข้างหนึ่งช้อนก้น ส่วนอีกข้างยกมาประคองที่ต้นคอเด็กให้ซบเข้ากับไหล่เขาดีๆ... ซึ่งตอนนี้หนูไวโอลินที่สบายตัวอยู่บนไหล่รังสิมันต์ก็กำลังน้ำลายยืดเปื้อนเสื้อเขาอยู่... น้ำฟ้าเห็นอย่างนั้นจึงเผลอตัวหยิบผ้าอ้อมผืนเล็กของลูกที่เขาตัดออกมาเองสำหรับไว้ใช้พกพาเช็ดน้ำลายน้ำมูกเด็ก... มือขาวเอื้อมผ่านไหล่ร่างสูงโดยอาศัยแรงเขย่งเล็กน้อยไปเช็ดน้ำลายให้เจ้าตัวเล็ก... ไม่ใช่กลัวเสื้อชายหนุ่มสกปรก...แต่เป็นสัญชาติญาณที่เวลาเห็นลูกเปื้อนแล้วต้องรีบเช็ดทำความสะอาด...
ชายหนุ่มนึกแปลกใจที่เห็นกริยาแบบนี้ของน้ำฟ้า... เด็กหนุ่มดูโตขึ้นอย่างประหลาดเวลาทำกับเด็กแบบนี้...
"อุ้มพอรึยังคุณ... หนูลินหิวนมแล้วนะเอามานี่..." น้ำฟ้าพูดหลังจากเช็ดน้ำลายที่เปื้อนแก้มเด็กน้อยเสร็จ... รังสิมันต์เหลือบมองหลานบนไหล่ตัวเองที่ตอนนี้นอนซบหน้านิ่งๆ...
"เธอไม่ด่าฉันอีกหรือไง..." อดถามไม่ได้เพราะอยากรู้ ทีตอนแรกแค่เข้าใกล้แค่แตะนิดหน่อยยังปฏิเสธจะเป็นจะตาย... ทีตอนนี้มาถามว่า...อุ้มพอรึยัง?นี่นะ
"..." น้ำฟ้าเงยมองหน้าชายหนุ่ม ทั้งนึกขัดใจและเคืองใจพร้อมกัน... แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้จริงๆแล้วก็มีสายเลือดเดียวกับหนูลินเหมือนกัน "...ยังไงคุณก็เป็นลุงของหนูลิน... แล้วผมก็ไม่ใช่คนไม่มีเหตุผลที่จะคุยกันไม่รู้เรื่อง... อีกอย่าง...เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน... ผมจะได้คุยกับคุณวันนี้ให้มันจบเรื่องไปเลย..." พูดพลางน้ำฟ้าก็รับตัวหนูลินคืนจากรังสิมันต์ที่ยอมเอนตัวเด็กน้อยคืนให้ผู้ปกครองตามกฎหมายโดยดี... แม้จะนึกเสียดายความรู้สึกอบอุ่นที่เกาะบนไหล่เขาเมื่อครู่อยู่ก็เถอะ
"แต่หลังจากผมให้ลูกดื่มนมแล้วนะ... เราถึงค่อยคุยกัน..
อย่างจริงจัง..." เน้นหนักที่คำหลัง แล้วเอ่ยต่อ "...แล้วหลังจากนั้นผมก็จะกลับบ้านของผมทันที..."
-------------------------------------- ---- - - - -- - -- -- - - -
ต่ออีกนิด...
สุขสันต์วาเลนไทน์นะ เขาเองก็โสดวาเลนไทน์เหมือนกัน...
ไม่มีปาร์ตี้ ไม่ได้ไปเที่ยว ไม่ได้ดอกกุหลาบ...
แต่ได้อยู่กับหนูลินกับหนูฟ้าก็มีความสุขแล้ว...อิอิ
ไปแล้วจ้า........แล้วเจอกานนนนนนน ^^