Part 25
เหตุจากหนังสือ..
.
.
.
.
.
“พี่ชัดเจนเสมอ...ถ้าไม่แน่ใจอะไร..จะไม่ทำครึ่งๆ กลางๆ.....โดยเฉพาะเรื่อง....ความรัก”
“ ( >0< ).” ตกลงเมิงหยอดช่ายม่ายเนี๊ยะ อย่าพูดให้คิดนะโว้ย...กูยิ่งเข้าข้างตัวเองอยู่
“ไมเงียบไปหล่ะ?” มันพูด
“ถามได้โล่ห์..รึไง” กูกวน
“เปลี่ยนจากโล่ห์..เป็นตะเกียงแทนได้ป่ะ” เยอะไปแหล่ะเมิง..เยอะไป เงียบซะ..ไปไม่เป็น ตอบไม่ถูก
“เงียบอีกแล้ว...” มันเริ่มอีกหล่ะ!
“ จะให้พูดอะไร..ไม่มีอะไรจาพูดนิ...พูดแต่เรื่องที่เข้าใจยาก..”
“อืม...วันหลังตะเกียงจะเข้าใจ..ไม่นานหรอก” ทิ้งทวนเสร็จ...รถเลี้ยวเข้าที่จอดรถห้างดังย่าน
รัชโยธิน มันก็ลากผมลงรถ มีเท่ห์ถอดแว่นตาห้อยคอเสื้ออีกตะหาก เชื่อมึงแล้ว
ทุกเสต็ปฟอร์มสาดดดๆๆๆ
ไอ้พี่โต๋ พากูเข้าร้านหนังสือ ซึ่งเป็นของโปรดไอ้ตะเกียงที่ซู๊ด เหมือนมันจะรู้ว่ากูชอบ
เข้าร้านได้มันก็ไม่สนฟ้า เดินเข้าไปยืนเลือกหนังสือของมันเฉยเลย สาวน้อยสาวใหญ่ในร้าน
มองมันตาแทบขวิด มันก็นะ..หน้านิ่งได้อีก มันไม่สนฟ้ากูก็พาลไม่สนฝน...เดินเข้ามุม
หนังสือโปรดกูบ้าง นิยายแปลแนวลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน ไล่สายตาดูสักครู่สะดุดกะหนังสือ
ใหม่เล่มหนึ่ง กำลังเอื้อมมือหยิบ หนังสือเล่มนั้นก็ถูกมือดีคว้าลอยผ่านหน้ากูไป
เหลียวไปดู..พบสายตาอมยิ้มส่งให้ หน้าตาโครตไม่ขี้เหร่เลยไอ้นี่...เพอร์เฟกซ์สาดดดดๆๆๆ
“พี่กำลังอยากได้หนังสือเล่มนี้พอดี..คนขายบอกเหลืออยู่เล่มเดียว...น้อง..” อยากได้ไม่ว่า...
เสือกแย่งกูซะง้าน...เว้นจังหวะกะให้กูเติมชื่อเองอีกดิ.....ชิ
“อ่า..พี่ชื่อเทคนะครับ...น้องหล่ะครับจะไม่แนะนำให้พี่รู้จักสักนิดหรือครับ” กะแล้วมุขตื้น ๆ
“พี่อยากอ่าน...ตามสบายนะครับ..ผมหาเล่มใหม่เอาก็ได้” แถเปลี่ยนเรื่องซะ ไม่บอกชื่อมันหรอก
“อึม..งั้นเอางี้ พี่ซื้อ...ให้น้องเอาไปอ่านก่อน แล้วไงอ่านจบพี่ขอมาอ่านต่อได้ไหมครับ” นั่น!..กะขอ
เบอร์กูชัวร์ มาแบบนี้ไม่พ้นขอเบอร์ติดต่อ กะเอาเรื่องหนังสือมาอ้างเนี๊ยะน้า.......
“โทษครับ!..ไม่รบกวนดีกว่า..คนของผม...ผมซื้อให้ได้ เดี๋ยวเราไปหาร้านอื่นเอา” มาตอนไหนว่ะ!
ไอ้พี่โต๋มันแทรกเข้ามาเลยครับ....สมอ้าง..กูไปเป็นคนของเมิงตอนไหน...เสียหายวุ้ย!...
“เอ่อ!...ครับ...ไม่ต้องลำบากหรอกครับ...น้องเค้าเห็นก่อน ผมยกให้ก็ได้ครับ
ไงผมหาเอาใหม่ดีกว่า” พูดเสร็จมันยื่นหนังสือให้กูทันที กูก็มองหน้ามันสองคนสลับกันไปมา
ไม่รู้เอาไงดี จะรับหนังสือมาหรือจะไม่เอา ก็ทั้งคู่เล่นจ้องกันตาไม่กระพริบซะงั้น
มึงไม่กลัวท้องกันรึไงว่ะ!....
“รับไปสิครับ” ไอ้พี่เทค ย้ำให้กูรับหนังสือที่มันยื่นให้ ไม่ขัดศรัทธาดีก่า..เดี๋ยวมันได้จ้อง
ปล่อยกระแสพลังรบกันอีกนาน กูเลยหยิบหนังสือจากมือไอ้พี่เทคมัน..ก่อนปล่อยมือ
มียกยิ้มส่งท้ายให้กูอีกนิ...ไม่พอแถมยักคิ้วกวนส้นไอ้พี่โต๋อีกตะหาก
“ป่ะ!..กลับ” ไอ้พี่โต๋ หน้าไม่บ่งบอกอาการ ดันเสือกโอบไหล่กู พาออกมาซะงั้น
ไอ้พี่เทคมองตาม กูเลยส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้ ไอ้บร้านี่บีบไหล่กูซะเจ็บเลยนิ
ก่อนจะลากกูไปยังเคาเตอร์จ่ายตังค์ ออกจากร้านหนังสือ หน้ามันบึ้งได้อีก
ไม่รู้ใครไปเหยียบหางมันตอนไหน ไม่พูดกะกูสักคำ เลยต้องยอมเป็นฝ่ายชวนมันคุยก่อน
“อ่ะนี่..ตังค์ค่าหนังสือ” พูดพร้อมกับยื่นแบงค์ห้าร้อยให้มัน ตะกี้ชิงจ่ายตังค์ให้กูซะนี่
ไม่อยากท้วงมันต่อหน้าคนขาย กลัวมันเสียฟอร์ม
“เก็บไว้เถอะ บอกแล้วไง ซื้อให้ได้..ไม่ต้องให้ใครซื้อให้หรอก.” มีประชดกูอีก..กูไปขอให้ใครซื้อ
ตั้งกะเมื่อไหร่
“ตะเกียงไม่ได้ขอให้เค้าซื้อให้สักหน่อย”
“ทำไมต้องยืนคุยกะมัน” อ้าว!..ไอ้นี่ เค้าคุยมา..เรื่องก็เอี่ยวกัน จะไม่ให้กูคุยเลยนิ
ประสาทดีเปล่าเมิงงง..
“ก็เค้าหยิบหนังสือที่ตะเกียงกำลังหยิบพอดี บังเอิญอยากได้เล่มเดียวกันมันเหลือเล่มเดียว
ที่เหลือก็อย่างที่เห็น ไม่ได้ยินที่เค้าพูดหรือไง” แล้วไมกูต้องมาอธิบายมันด้วยว่ะ!..เวง...
“มันต้องการหนังสือจริงเห่อะ”
“ก็เค้าบอกง้านนนน...อ่ะ” ยานคางกวนมันเล่นแหล่ะ..
“ใครพูดก็เชื่อ..” เห่อะ!..กูไม่ได้เชื่อหมดโว้ย!
“แล้วนี่พี่จาอะไรกับตะเกียงเนี๊ยะ” หงุดหงิดมันหล่ะ..นอยด์กูอยู่ได้ อะไรก็ไม่รู้ อุตส่าห์ง้อแล้วนะโว้ย!
“ทีหลังหัดปฏิเสธบ้าง ไม่ใช่รับไมตรีเค้าไปทั่ว” นรกสาดดดด.........
“ไม่ได้ทำอย่างว่าสักหน่อย พูดเองเห่อะ” กูเริ่มเหวี่ยงมันแหล่ะ
“ก็เห็นอยู่ ถ้าไม่เข้าไปขัด...คงแลกเบอร์กันแล้วสิ” เวร..เห็นกูใจง่ายซะงั้น
“แล้วถ้าตะเกียงให้มันผิดอะไร” เอากะกูดิ เอ่อ..กูจะให้เบอร์ใครมีปัญหาไรไม่ทราบว่ะ กวนแม่งแหล่ะ?
“พี่ห้าม!..ไม่ว่าจะใครก็ตาม...อย่าให้รู้นะ...รู้จักเค้าดีหรือไง อย่าลืมสิ..พี่รับผิดชอบเราอยู่
ห้ามดื้อ..ต่อไปนี้ใครที่ไม่รู้จัก เลี่ยงออกมาซะไม่จำเป็นไม่ต้องคุย” ขี้เกียจเถียงแม่งแล้ว
เงียบดีกว่ากู พอมันเห็นกูเงียบ ก็ถอนหายใจ ก่อนจะถามเสียงอ่อนขึ้นหน่อย
“เที่ยงกว่าแล้ว..หาไรกินก่อนค่อยไปหาพวกนั้นกัน ตะเกียงอยากกินอะไร?” ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย
แม้จะดูเหมือนตบหัวแล้วลูบหลังก็เห่อะ
“แล้วแต่พี่ดิ...พี่เป็นเจ้ามือ ตามใจเจ้าภาพแล้วกัน” มันดีด้วย ก็เอาใจมันหน่อย
อิ่มจังตังค์อยู่ครบตะหาก
“ตามใจพี่ เกิดพี่บอกอยากกิน ‘ตะเกียง’ หล่ะ..ตามใจเปล่า” โอ้ย!...ไอ้บร้าาาา...
ตอดตลอดแหล่ะเมิง คิดได้เน่อะ!
“ตามใจก็ได้..ถ้าอยากกินจริง ๆ อ่านะ..” มา..เล่นกะมันสักตั้ง
“พูดจริงอ่ะ..ห้ามคืนคำ” ถามอย่างเร็ว...เหมือนไม่เชื่อที่ได้ยิน
“จริงดิ..เพื่อนเล่นหรือ...ว่าแต่พี่อ่ะ..อย่าเปลี่ยนใจแล้วกัน” มาเลยสิงห์โต๋ เจอไฟตะเกียงแล้วขนสิงห์โต
จะต้องไหม้เกรียม
“งั้น..ได้เลย..เดี๋ยวพี่โทรยกเลิกนัดพวกมันก่อน..เราไปกันสองคน..อย่าป๊อดก่อนล่ะ” อ่าหะ!..กล้าเน่อะ..
ท้าใครเนี๊ยะ!
“ไม่ชัวร์..แต่ให้กินเฉพาะจุดนะ..ไม่เล่นนะกินหัว..กินหาง..กินกลางตลอดตัวน่ะ” หน้าเสียแล้วเมิง
ไม่ทันคิดดิว่ากูจะมาไม้นี้
“แล้วให้กินส่วนไหน” ดีเล่นไม่เลิก..เข้าทางกูแหล่ะ?...
“อืม..กินตีนอ่ะ..กินได้เปล่า” 5555ๆๆ..กร๊ากกกๆๆๆ...เห็นหน้ามันตอนนี้ โครตของโครตขำเลย
กูไม่เก็บอาการแล้วแม่งปวดท้องโครตๆๆๆ ....หัวเราะแม่งแหล่ะ!...
“เอาขำเข้า..ขำให้พอ..อย่าให้ถึงทีพี่บ้างแล้วกัน...จะทำให้ร้องไม่ออกเลย” มีงอน..มีงอน
ดูดู๋..มันทำ กูกุมท้องหัวเราะน้ำตาเล็ดแหล่ะ!...โอ้ย!..ทำป่ายด้ายยยย....ไม่เข้ากะหนังหน้ามันเลย
ทำเป็นค้อนกูเนี๊ยะ...
.
.
.
.
สุดท้ายมันก็ลากกูเข้าร้านขนมจีนบางกอก...โดยให้เหตุผลว่ามันอยากกินขนมจีนแกงไก่
ส่วนกูไม่ใช่ปัญหา ขนมจีนน้ำเงี้ยวสั่งซะ อย่าได้ช้า..แม้จะตกเป็นเป้าสายตาของประชา
รอบข้างก็ตาม เมื่อผู้ชายที่หล่อใสไร้ที่ติขั้นเทพอย่างไอ้ตะเกียง มากับสิงห์โตหนุ่มหล่อได้โล่ห์
เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีคนมอง ถ้าไม่มีสิเป็นเรื่องแปลกในรอบหลายปีที่ผ่านมาเลยตะหาก
ขอบคุณทุกรี นะค่ะที่ตามกันมาตลอด
Luk.