Part 23
ฤทธิ์ตะเกียงพิเศษ
.
.
.
.
.
.
“เงยหน้าขึ้นมองพี่ดิ” สั่งกูอีก ตัดรำคาญได้ไม่ต้องเซ้าซี้ เลยเงยหน้าซะ...เท่านั้นแหล่ะ... เหว้ย!..
มันเสือกดันก้มหน้าลงมา...มันก้มลงมาจะ....จู...จูบอีกแล้ว......อร๊ายยยยๆๆๆ...???????
ภาพเหตุการณ์...ที่โดนมันจูบ วูบเข้ามาในหัวทันที กูรีบหลับตาสูดหายใจเพื่อรอ.......
.
.
.
.
.
.
“พลั๊ก...บึ๊ก. อั๊ก..อ๊อก...เห้ย!...อย่า...โอ้ย!....ปึ๊ก...อือๆๆๆๆๆ” เฮ้อ!....เหนื่อย...ไม่ใช่เล่น
กว่าจะจัดการไอ้พี่โต๋ลงไปนอนเหยียดยาวบนที่นอนได้ เล่นเอาหมดพลังงานไปไม่น้อย
ไม่ต้องแปลกใจ ที่กูต้องใช้ฝีมือเยอะ เพราะไอ้พี่โต๋ มันหลบหลีกการจู่โจมของไอ้ตะเกียง
ได้แคล่วคล่อง ฝีมือมันไม่ธรรมดาซะหน่อย ไม่ติดว่ามันไม่ยอมโต้ตอบ อาศัยหลบหลีกและปัดป้อง
เป็นหลักแล้วล่ะก็ คงใช้เวลานานกว่านี้แน่ ๆ ที่มันลงไปนอนไม่กระดิก เพราะเจอกูกดจุดชาเข้า
ให้แถวเอวเหนือสะโพกด้านหลัง ทำให้มันขยับไม่ได้ พลักแม่งลงไปนอนแอ่งแม่งบนเตียงซะสิ้นเรื่อง
ตอนนี้มันจ้องกูซะลูกตาไม่กระพริบ อย่าจ้องมากกูหวิวอ่า.. โทษทีนะคุณพี่มึง เพื่อความปลอดภัยใน
เอกราชของคุณกู นอนยังงี้สักห้านาที เดี๋ยวมันก็คลายเอง ตอนนี้คุณกูขอเข้าห้องน้ำทำธุระ
ส่วนตัวดีก่า..แน่ะ! อย่ามองเดี๋ยวปั๊ด จับข่มขืนซะนี้ อึ้ยยย!...ไม่เอาไม่คิด.ไม่ดี.ไม่ดี เป็นเด็กเป็นเล็ก
เดี๋ยวเค้าหาว่าแก่แดด จะว่าไปโทษกูก็ไม่ได้ ก็ไอ้พี่โต๋มันนอนหงายใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียว เสื้อก็ไม่ใส่
ก็น่ะ...อย่าให้บรรยายเลย หุ่นมันเอ็กซ์ซะขนาดนั้น พูดไปกูอิจฉาโครต ๆ อ่า อย่างที่บอกนึกว่านิโคล
พระเอกในนิยายออกมาโชว์ซะงั้น....ทิ้งมันไว้งี้ก่อนไปแหล่ะ! เดี๋ยวใจแตก...กร๊ากกกกกๆๆๆๆๆ
.
.
.
.
.
กูเปิดประตูออกจากห้องน้ำ พ้นประตูก็ถูกมันรัดจากข้างหลัง ตัวกูถูกยกลอยขึ้นตีนไม่ติดพื้น
แขนมันรวบกอดกูทั้งตัว กูงอเข่าเตรียมถีบย้อนกลับหลัง มันรู้ทันเหวี่ยงสวิงกูเป็นวง
ทำให้จังหวะกูเสีย จำต้องเปลี่ยนแผน..ก้มหัวลงกะใช้กบาลเสยปลายคางมันให้น๊อค...ดันเสือกรู้ทัน
โยนกูลงเตียงเสียงดัง ‘ตุ๊บ’ ..ยังไม่ทันกระเด้งตัวลุก มันพุ่งตัวตามประกบ ล๊อคคล่อมกูทั้งตัว..
อาศัยน้ำหนักและพละกำลังเหนือกว่า..ดันเข่ากดขากูทั้งสองข้าง ใช้มือรวบจับกดแขน พร้อมทับกู
ทั้งตัว ก้มหน้าซุกซอกคอ เป่าลมหายใจร้อน..รดข้างหูกู แถมหอบแฮ่ก..ๆๆๆ..ยังกะหมาเหนื่อย...
หน้ากูร้อนวูบ..ใจสั่นเต้นตึก ๆ ตั๊ก ๆ...ต้องหาวิธีหลุดจากวิกฤตก่อน จัดการแกร่งหน้าท้อง
ผ่อนลมหายใจเพื่อคลายตัว แล้วกะกระเด้งหน้าท้องอัดเข้าท้องมันเต็มๆ อาศัยจังหวะ สะบัดหัวโขกกกหู
ให้แม่งแรงๆๆ..เอาให้หลับซะที ไอ้สิงห์โตกลัดมันจะได้หมดฤทธิ์ ยังไม่ทันกระเด้งท้องตามขั้นตอน
เสียงทุ้มต่ำ..หอบเหนื่อย..ก็พูดขึ้นมา
“อย่าทำพี่นะครับ.......ขออยู่อย่างนี้สักแป๊ป..สัญญาไม่ทำอะไรอีก..นะครับคนดี...ขอพี่อยู่นิ่งๆ แบบนี้
แป๊ปเดี๋ยวจริงๆ.” ทำเอากูอึ้งไปเลย ไอ้ที่จะลงมือเลยพับเก็บเข้าเกะไปก่อน แม้จะอึดอัดแต่ก็บอกไม่ได้
ว่ามันรู้สึกแปลกๆ ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะรัวกระชั้น ลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดซอกคอ
หัวใจกูกระตุกวูบ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เราต่างคนต่างนิ่งจมอยู่ในความคิด
มันไม่ได้พูดอะไรต่อ กูก็ไม่รู้จะพูดอะไร กระทั่งลมหายใจหอบถี่ ค่อยผ่อนเบาคืนปกติช้า ๆ
ตอนนี้กูเริ่มอึดอัดแล้ว เพราะรู้สึกมีอะไรบ้างอย่าง กำลังขยายตัวดุนหน้าขากูอยู่.งึก..งึก
ลางชักไม่ดีซะแล้ว จำเป็นต้อง...
“ปล่อยได้แล้ว...อึดอัดหายใจไม่ออก” นี่คือวิธีที่กูเลือก แม่งใจสั่นได้อีกกู อายโครตตตๆๆอ่า....
“อืม...กำลังรู้สึกดีอยู่เลย” พูดจบมันก็ยอม..พลิกหงายลงนอนข้าง ๆ กูรู้สึกโล่งเป็นกอง
แต่ก็ไม่ยอมหันมองแม่งหรอก กำลังจะลุกหนี มันก็เอ่ยออกมา
“พี่ขอโทษ” อ่าห่ะ!..กูไม่ได้หูฝาดใช่ไหม นี่ไอ้สิงห์โตโครตหยิ่ง...เอ่ยปากขอโทษกู
“ขอโทษ..เรื่อง?” เลยแกล้งย้อนถาม เพื่อความแน่ใจ อยากจะฟังมันพูดอีกครั้ง
“ทุกเรื่อง..ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ..โดยเฉพาะเรื่องที่พี่..จะ..จู..จูบ..ตะเกียง” พูดเสร็จเสือกอายเอาหน้า
มุดที่นอนซะงั้น ทำไปได้เน๊อะเมิง....คนที่ควรจะอายคือกู...ไอ้บร้าาาาๆๆๆ...กูเสียหายโว้ย!...โดนมึง
ปล้นจูบแรกไป แสรดดดดๆๆ
“อืม..ผ่านมาแล้วช่างมัน..ต่อไปนี้ห้ามพี่ทำอย่างนี้อีก...ไม่งั้นอย่าหาว่าตะเกียงไม่เตือน” ขู่มันไปด้วย
หวังว่ามันจะกลัว
“ตกลง...พี่ไม่ทำอีก...แต่ไม่รับปาก...ถ้าฝ่ายเริ่มไม่ใช่พี่..ถึงเวลาจะว่าพี่ไม่ได้” ไอ้เหี้ย...คิดได้ไงที่พูดนะ
“คิดไงถึงพูดแบบนี้ หมายความว่าไง” เสียงดังใส่ซะ ชักโมโหหล่ะกู..ว่าจะไม่ปรี๊ดแล้วน่ะ
“เปล่าไม่ได้คิดอะไร..อย่าเข้าใจผิด ก็พี่จะไม่ทำอีกไง แต่หากยังยั่วพี่ มาว่าพี่ไม่ได้นะ..เข้าใจไหม”
ดูมันพูด พูดไม่เคลียร์ กูไปยั่วแม่งตอนไหน
“ตะเกียงไปยั่วพี่ตอนไหน” ไหนมึงแถลงความเล่ามาสิ กูยั่วมึงยังไง
“เช่นเจตนาถอดเสื้อ..ยั่วบ้างหล่ะ..ทำหน้าตาน่ารักบ้างหล่ะ...และมาดๆ ก่อนเกิดเรื่องเมื่อกี้ เล่นมอง
พี่แล้วหน้าแดง พี่ถือว่ายั่วไง” เวร......นรกแสรดดดดๆๆๆๆ....นั่นนะกูยั่ว กูไม่รู้ว่าที่มึงพูดมาคือการยั่ว
“ตะเกียงไม่เข้าใจ...ที่พูดนั่นนะ... คิดเอาเองทั้งนั้น..ไม่ยุติธรรมเลยนิ ถามตรงๆ พี่เป็นเกย์เหรอ?”
เอ้า..ตอบกูมา
“เมื่อก่อนพูดได้เต็มปากว่าไม่เป็น แต่ตอนนี้ไม่รู้ ถ้านิยามเกย์หมายความว่า ผู้ชายที่คิดกับผู้ชาย
พี่คงเข้าข่าย..เพราะตอนนี้พี่คิดว่าพี่คิดกับผู้ชายแล้วดิ...” อ่านะ!...รู้สึกหน้ากูมันเหมือนไฟไหม้อ่า!....
แอร์ดันเสียหรือกูร้อนกันแน่ว่ะ?
“ผู้ชายที่ว่า...พี่คงไม่ได้หมายถึง....” ไม่พูดดีก่า...เข้าตัวสุดๆ ลืมตัวไม่น่าเปิดช่องถามมันเลย
หลงกลชัดๆ
“ใช่..ผู้ชายคนนั้น คือ.. ‘ตะเกียง’ ” เสือกดันตอบมาอีก หน้ากูองศาพุ่งกระฉูด อยากได้น้ำแข็ง
ประคบโครตๆ
“ไม่ต้องอายหน้าแดงขนาดนั้น รู้ตัวไหม เห็นแบบนี้พี่อยากจูบ” น้านนนๆๆ...ล่อเอาหน้ากูระเบิด
เลยเมิง ตรงไปไหม
“ตะเกียงไม่ใช่...เกย์” ใส่เสื้อเกราะก่อนกู หลบให้ไกล
“พี่ไม่ได้พูดว่าตะเกียงเป็น....บอกตามตรง พี่ไม่เคยนึกอยากจูบกับผู้ชายมาก่อน ตะเกียงเป็นคนแรก”
กูควรภูมิใจดีไหม กูเป็นผู้ชายคนแรกที่มึงจูบ แต่กูไม่ใช่จูบแรกของมึง ตรงข้ามจูบแรกของกูดัน
เสือกเป็นมึง คุ้มสุด ๆ ว่างั้น กรรม....
“ตะเกียงว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า อย่าเอาความรู้สึกมาล้อเล่น ถึงตะเกียงจะยังเด็ก
แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เข้าใจ ตัวจริงของพี่ก็มีชัดเจนอยู่แล้ว ตะเกียงไม่ชอบล้อเล่นฉาบฉวยกับ
ความรู้สึกอย่างนึกเป็นเรื่องสนุก” โอ้!..มายก๊อด...พูดได้ดีมากกู..คมสุด ๆ ก๊ากกกๆๆๆ พูดยังกะกล่าว
สุนทรพจน์
“พี่ไม่มีตัวจริง...ไม่มีใครเป็นตัวจริงของพี่...ขอเวลาหน่อย แล้วพี่จะพิสูจน์ให้เห็น” พูดเสร็จมันลุก
เปิดประตูออกห้องไปเฉยเลย ไม่มีตัวจริง แล้วคุณพี่อังล่ะ..เป็นไรกะมึง...ชิ ไปได้ก็ดีกูจะได้ไม่ต้อง
พะวงหลัง..ว๊ากกกๆๆ คิดไปได้กู นาฬิกาหัวเตียงเที่ยงคืนแล้ว นอนเอาแรงดีกว่า ไม่รู้พรุ่งนี้เจอ
อะไรอีก..ว่าแล้วปิดไฟ ห่มผ้าหัวถึงหมอนก็....คร๊อกฟี่..ๆๆๆๆ....เฝ้าพระอินทร์ง่ายๆ กู
เช้า หกโมงได้เวลาตื่นของไอ้ตะเกียง งัวเงียขี้หูขี้ตาสลึมสลือ ตื่นมา
“อ๊ะ!....แว๊กกกกกๆๆๆๆ....พลั๊ก....ตุ๊บ..”
“โอ้ย!...อูยยยยๆๆๆ....ถีบพี่ทำไมเนี๊ยะ” ไอ้พี่โต๋บ่น กูถวายตีนเต็มเหนี่ยว มันตกเตียงลงไป
แอ่งแม่งอยู่พื้นอย่างแรงอ่านะ
“อ่า...คือ..คือ..มานอนใกล้ไมเล่า..มันไม่ชินนี่” ก็กูกะลังงัวเงียพอลืมตามา ไอ้บ้านี่ก็หน้าอยู่เกือบชิดกู
แถมจ้องกูตาแป๋วได้อีก อารามตกกะใจ กลไกป้องกันตัวมันอัตโนมัติอ่านะ
“ล่อซะแรง..ไม่มียั้งเลย..เอวเดี้ยงใช้การไม่ได้...ใครรับผิดชอบ” ดูมัน..ทำหน้าบูดบ่นไม่เลิก
“แล้วมาจ้องไมเล่า..” แถไปก่อนกู ใจเต้นไม่หายนึกถึงหน้ามันใกล้กูซะชิด ไม่รู้มองกูตั้งกะเมื่อไหร่
“ก็แค่มองคนหลับ ไม่ได้จะอะไรซักหน่อย ไมต้องรุนแรงด้วย” ดูมัน..พูดได้นิมึง แม่งเข้ามาตั้งกะ
เมื่อไหร่ ไมกูไม่รู้ตัวว่ะ!...เข้ามาตั้งกะตอนไหน
“แล้วเข้ามาตั้งกะเมื่อไหร่?”
“ก็นอนอยู่ข้างๆ ตั้งกะเมื่อคืนแล้ว ไม่เห็นว่าไร ทำไมพอเช้ามา..ถีบพี่ซะเต็มแรงเนี๊ยะ” มาตั้งกะเมื่อคืน
ไมกูหลับไม่รู้เรื่องเลย สัมผัสที่หกกูไม่ทำงานซะงั้น ปกติกูรู้สึกเร็วมากแม้เวลาหลับ อันตรายมาก
ไอ้พี่บ้านี่ มันไม่ธรรมดาจริง ๆ
“ไม่รู้แหล่ะ!..ขอโทษแล้วกัน..คงไม่เป็นไรมากมั้ง”
“โห้!...แค่เนี๊ยะ..ไม่คิดจะเข้ามาดูพี่สักนิดเลยดิ” มันยังนอนแอ่งแม่งหน้าบูดคุยกะกูอยู่ที่พื้นข้างเตียงแหล่ะ
“ไม่หล่ะ!..โทษตะเกียงไม่ได้ ก็เล่นมานอนจ้องหน้าซะใกล้ ไม่เคยนี่หว่า แล้ว...บ่นฉอดๆ งี้คงไม่เป็น
ไหร่หรอก..ไหนว่าจะพาไปเลือกชุดไง ตกลงจะไปเปล่า ช้าตะเกียงเปลี่ยนใจไม่ไปด้วยแหล่ะ”
กูเปลี่ยนเรื่องซะ ขี้เกียจฟังไอ้พี่บ้ามันอ้อน ไปไม่ถูกเลยกู เดี๋ยวมันจับพิรุธได้ ที่จริงก็รู้สึกผิด
อยู่เหมือนกัน กูล่อซะเต็มแม็ก ไม่ระบมก็โครตควายเลยล่ะมึง
“เอ่อ.ๆ..ไป.ไป.” ว่าแล้วมันก็คอยพยุงตัวลุก ก่อนจะเดินเป๋นิด ๆ นำไป คงจะเจ็บไม่น้อย
เห็นแล้วก็ขำ ก๊ากกกๆๆๆ
.
.
.
ไอ้พี่โต๋ มันพาลงมาชั้นล่าง เดินอ้อมหลังบันไดมีห้องใหญ่อยู่ห้องหนึ่ง เปิดเข้าไปภายใน
กลับเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์มากมาย รวมถึงตู้เสื้อผ้าใบใหญ่กว่าสี่ใบ ที่มันกำลังเดินไปเปิด
ก่อนจะหันมาพยักหน้าเรียกกูเข้าไป
“เอ้า..ลองเลือกดู พอใจตัวไหน ลองดูได้” พอมันบอก กูเลยเดินเข้าไปไล่มือตามไม้แขวน
แม่งเสื้อผ้าแม่งเยอะได้อีกมึง สีขาวสีดำจะมากกว่าสีอื่น ส่วนใหญ่ไอ้นี้ชอบโทนขาว ดำ เทา
น้ำเงิน กรมท่า เสียส่วนใหญ่ ที่เป็นสีสว่างๆ พอมีบ้างแต่ไม่เยอะเท่า กูตัดสินใจหยิบเสื้อยืดคอวี
ยี่ห้อ ENฯ สกรีนลายโมเดิร์นสีน้ำทะเลตัดขาว size m พอดีตัวกูใส่แป๊ะ มันมองยิ้ม ๆ ไม่รู้จะยิ้ม
ห่าไร ก่อนจะเปิดให้กูดูกางเกง กูเลือกหยิบขาเด็ปสีน้ำเงินเข้มออกมา แล้วเดินถือชุดผ่านมันเฉย
มันมองยิ้ม ๆ ปิดตู้แล้วตามออกมา
“หึ.หึ..ตะเกียงรู้ไหม พี่ไม่คิดว่าตะเกียงจะเลือกเสื้อตัวนี้” มันถามกู
“ทำไม..ใส่ไม่ได้ว่างั้น...ไม่เป็นไรไปเลือกใหม่ก็ได้” ตกลงกูเป็นไรเนี๊ยะ ไม่เข้าใจตัวเองพักนี้รู้สึกอารมย์
มันวิบง่ายซะนี่ คงเพราะอยู่ใกล้ไอ้พี่บ้านี่แล้ว รู้สึกวางตัวไม่ถูก
“เปล่าๆ..ไม่ใช่ว่าใส่ไม่ได้...เพียงแต่เสื้อตัวนี้พี่รักมาก เพราะเป็นตัวเดียวที่คุณยายพี่ซื้อให้
ก่อนท่านเสีย พี่ใส่เพียงสองครั้งเอง ท่านบอกว่าพี่ใส่ตัวนี่แล้วหล่อ ตอนนั้นพี่เพิ่งอยู่ม.1
“อ่า...งั้นตะเกียงเอาไปเปลี่ยนดีกว่า...มีความทรงจำดีดีขนาดนี้ ตะเกียงใส่ตัวอื่นก็ได้” นั่นสิ..ใครจาไปรู้
ว่าเสื้อตัวนี้เป็นของคุณยายซื้อให้ และมันหวงขนาดใส่สองครั้งเอง
“ไม่ต้อง..ไม่ต้อง...พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้น ที่พี่ใส่แค่สองครั้ง เพราะหลังจากนั้นตัวพี่โตเร็วมาก
มันใส่ไม่ได้ตะหาก ที่ว่าเป็นเสื้อรักนะก็ใช่..พี่ถึงดีใจที่ตะเกียงเลือกใส่ตัวนี่ไง” เอ่อ!.หน้ากูระอุอีกแล้ว
ขืนยังยืนตรงนี้ ดีไม่ดีหน้าได้ระเบิดชิ่งอาบน้ำดีก่า เหมือนมันจะรู้ว่ากูเขินที่มันพูด
หัวเราะตามหลังกูได้อีก ไอ้บร้าาาา.....
รักคนอ่าน รักแฟนคลับทุกคน ทั้งใหม่และเก่าได้ลุ้นตะเกียงกันต่อไปค่ะ
Luk.