Part 30
แล้วก็พลาดจนได้
.
.
.
.
.
เรากลับถึงบ้าน ประมาณทุ่มหนึ่ง ลงจากรถได้..มันเดินเข้าบ้านไม่พูดซักเอ๊ะ!..
กูเดินตามหลังมันเข้าไป ทุกคนดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมหน้าพร้อมตา ขาดพี่ณิตา
คงกลับบ้านไปแล้ว โผล่เข้าไปไอ้พี่เต้ทักทันที
“ตรงเวลาดีน้องรัก นึกว่าจะไม่ได้ลงซ้อมซะแล้ว อุตส่าห์กินข้าวรออาหารย่อย..ตั้งกะหกโมง”
“แล้วกินอะไรมากันรึยังล่ะนี่” คุณแม่ถามขึ้น
“กินมากันแล้วครับ” ไอ้พี่โต๋ มันตอบ กูได้แต่ส่งยิ้มให้แทน เป็นการยืนยันคำพูดมันอีกที
“งั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมแล้วเจอกันที่ห้องซ้อม” พ่อสิงห์พูดจบ มันเดินขึ้นกะไดไป ไม่ชวนกูซักนิด
กูเก้ ๆ กัง ๆ ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ด้วยว่ามันลงซ้อมอะไรกัน หรือซ้อมดนตรีว่ะ?
“ตะเกียง ดูด้วยได้ไหมครับ” กูแก้เก้อ โดยการคุยกับพ่อสิงห์ ขออนุญาตเข้าไปดูพวกมันซ้อมดีก่า
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ..ตะเกียงจะซ้อมด้วยก็ได้ ไปเปลี่ยนชุดก่อนดีไหม” พ่อสิงห์พูดขึ้น
กูทำหน้างง ๆ นั่นสิลืมคิดไป ซ้อมดนตรีทำไมต้องเปลี่ยนชุดด้วย น่าจะเฉลี่ยวตั้งกะทีแรก
พักนี้จิตหลุด เก็บรายละเอียดไม่ดีเท่าที่ควร เหมือนละเลยจุดสำคัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปเยอะ
ไอ้พี่เต้ เห็นกูลังเลคิ้วขมวดอยู่ เลยพูดขึ้นมา
“เราจะซ้อมออกกำลังกายกันนะ...เทควันโด้ คาราเต้ ต่อยมวยประมาณนี้ ไม่จำกัดวิธีการ
แล้วแต่ใครจะงัดอะไรออกมาแก้ลำคู่ต่อสู้ ตะเกียงขึ้นไปเปลี่ยนชุดซ้อมที่โต๋นะ ไซร้เล็กชุดเก่าของโต๋
มีเก็บไว้อยู่ กูฟังดังนั้นก็เริ่มเข้าใจ เอาก็เอา เลยขอตัวตามไอ้พี่โต๋ขึ้นไปบนห้อง
ถึงหน้าห้องกูลองเคาะประตูส่งสัญญาณให้มันรู้ มันไม่ขานตอบ ลองเคาะใหม่มันก็ไม่ขาน
ถือวิสาสะลองบิดลูกบิดเบา ๆ ประตูไม่ได้ล๊อค เปิดเข้าไปซะเลย อ๊ะจ๊ากกกกกๆๆๆๆๆๆ...
“เห้ย!...” เสียงไอ้พี่โต๋มัน
“แว๊กกกกๆๆๆ...” เสียงกู ต่างคนต่างตกกะใจ มันเปิดประตูห้องน้ำออกมาจ๊ะเอ๋กับกู
แต่ที่เกิดเสียงเหล่านี้ ก็เพราะมันดันนุ่งกางเกงในตัวเดียว ไอ้หย่า!..บ๊ะเจ้า!...กูไม่ได้ทะลึ่งนะโว้ย!....
หุ่นมัน..ซิกแพ็คของม่าน..กล้ามท้องเป็นลอน วุ้ย!..ยิ่งเป้าตุง ๆ ด้วยแล้ว
ห่อหมกหนองมนเหรอน่านนนนๆๆๆๆ...
มันรีบคว้าผ้าขนหนู ที่วางบนเตียงขึ้นมานุ่งอย่างเร็ว เพิ่งจะนึกขึ้นได้เหรอเมิง ไม่ทันแร้ว..
กูเก็บรายละเอียดแบบไม่ตั้งใจไว้หมดแล้วโว้ย!...ส่ายหัว..พรืดดดด...ไม่เอา...
ออกจากหัวกูไป ณ บัดนาว...ภาพติดตาจริงวุ้ย!..
“ทะลึ่ง...” มันคงเห็นกูทำท่าทางประหลาด ๆ เลยแหวกูซะงั้น....เวงงงง...
“ไอ้พี่บร้าาาาา...” กูก็นะ โดนจัง ๆ ไปไม่ถูกเลย สวนมันเฉยซะง้าน ผิดถนัดดันเข้าทางมันจนได้
“หึ..หึ..หึ..เด็กบ้า..จะยั่วไปถึงไหน” พูดจบ มันรวบตัวกูแบบไม่ทันให้ระวัง เพราะมั่วตะลึงมันอยู่
บดปากประกบจูบ กูอ้าปากประท้วง มันช้อนลิ้นเข้ามาอย่างชำนาญ ทั้งเร่าร้อนเรียกร้องหนักเบา
เล่นเอาสมองไอ้ตะเกียงขาวโพลนทันที กูถูกจู่โจมระยะประชิดอีกจนได้ เผลอให้มันจูบเอา
ล่อเข่าอ่อนเลยกู ใจสั่น...แม่งจูบเก่งโครต ๆ รู้สึกใจจะขาด มือไม้ไร้เรี่ยวแรงซะง้าน มันประคอง
กอดรัดกูไว้แน่น พร้อมตะโบมจูบเรียกร้องกวาดลิ้น..ดูดกลืนลิ้นกูไล่ต้อนหยอกเย้าไปทั่ว
ไม่ว่ากูจะพลิกลิ้นถอยหลบไปทางไหน มันแม่งฉกลิ้นตามติด..ซะจนกูรู้สึกสมองมึนวูบไหว
เริ่มขาดอากาศหายใจจะตายไหมกู มันค่อย ๆ ถอนจูบออกอย่างช้า ๆ..ปล่อยกูได้หายใจหายคอ
จ้องหน้ากูตาหวานเชื่อมวิบวับได้อีกเมิง.....
“หวานมาก...หวานจนไม่อยากหยุด..ไม่คิดเลยว่าจะหวานขนาดนี้ รู้ตัวไหม?” มันพูดห่าไร ตอนนี้
สติกูเริ่มกลับมาแหล่ะ!..ก่อนจะทันได้ลงมือกับมัน เหมือนมันรู้ซะงั้น รีบฉกจูบลงมาอีกครั้ง ครั้งนี้มัน
นุ่มนวลอ่อนโยน ไม่ร้อนแรงเหมือนครั้งแรก เล่นเอากูมึนรอบสอง..เหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตีปีก
กันพรึ่บพรับบินให้ว่อนในหัวกู รู้สึกร่างกายร้อนฉ่าตั้งแต่หัวยันปลายเท้า โดยเฉพาะหน้าท้องที่เริ่ม
เกิดปฏิกริยาทรยศ ตะเกียงน้อยมันเริ่มซุกซน พองตัวขึ้นมาซะง้าน ไม่ต่างกะไอ้พี่โต๋มัน
กูรู้สึกข้าวหลามหนองมนของมัน..พองตัวจังก่า..พาดขวางอัดหน้าท้องกูจนรู้สึกได้..
ถึงจังหวะเต้นตุบๆ...ไม่ได้การแล้วต้องรีบหยุดก่อนที่สติกูจะหลุด..จนเลยเถิดจับมันกดซะก่อน
เรื่องจะบานปลายกันใหญ่..ที่กูปล้ำลูกชายเขาเป็นเมีย..ไอ้ตะเกียงจะถูกครหาได้..ว่ากินบนเรือน
ขี้รดบนหลังคาหรือเปล่า กูรวบรวมแรงที่มีน้อยนิด ยกเท้าเหยียบเท้ามันไปเต็ม ๆ
“ปึ๊ก” เสียงส้นเท้ากูกระแทกนิ้วเท้ามัน
“โอ้ย!..” มันร้อง ก่อนจะปล่อยกูหลุดจากสมรภูมิชวนเสียตัวตรงหน้า ยกเท้ามากุมกระโดดเหย่งๆ....
“อูย!...อูย!..เล่นแรงนะ เนี๊ยะ” หน้าตาบูด ส่งสายตาอ้อน ๆ ตัดพ้อมาให้ ปากบ่นกูปอย ๆ
กูรีบหันหลังเดินหนีเข้าห้องน้ำล๊อคประตูปิดทันที เปิดน้ำใช้มือช้อน..วักน้ำใส่หน้าซะหลายที
เฮ่อ!....ใจเต้นตึ๊กตั๊ก รัวยังกะกองเพล มองตัวเองในกระจก แม่งแดงแปร๊ดดด..ยังกะลูกตำลึงสุก
ไอร้อนระอุยังเหมือนจะเห็นควันพวยพุ่งเลยนิ ด่าตัวเองในใจ ที่หลงเคลิ้มไปกับรสจูบของมัน
น่าโมโหสุด ๆ ไอ้ตะเกียงน้อยเสือกตั้งกับมันเสียนี้ กูมีอารมย์กับไอ้พี่โต๋จริง ๆ วุ้ย!..อันตรายโครต ๆ
อ่า...ต้องระวังตัวให้มากกว่านี้ อึ้ยยยย!!!...หลบให้หน้าหายร้อนอยู่นี่สักพัก
“ก๊อกๆ ๆ..ตะเกียง...ออกมาได้แล้ว พี่ไม่ทำไรแล้ว” มันเคาะเรียกกู กูเงียบไม่ตอบมัน
ขอเวลาทำใจหน่อยไอ้บร้าาาาา....เสียงมันเงียบหายไป กูนั่งทำใจบนฝาชักโครกได้สักครู่
มันพูดขึ้นมาว่า
“ตกลง...จะลงไปซ้อมหรือเปล่า พี่เอาชุดมาให้เปลี่ยน คุณพ่อกับพี่เต้รออยู่ ลงไปได้แล้ว” อ่านะ!..
กูลืมไปสนิทว่าขึ้นมาในห้องทำไม เลยต้องลุกไปเปิดประตู มันยืนรออยู่ ในมือถือชุดเทควันโด้
ก่อนจะยื่นให้กู สายตาที่มองมา แม่งอยากจิกตาทั้งสองข้างให้บอดซะเลย ใจสั่นได้อีกแหล่ะกู..
เพิ่งจะสงบลงตะกี้ กูรีบคว้าเอาชุดมัน ก่อนจะปิดประตูกระแทกใส่หน้าแม่ง.. ‘ปัง’ ไม่วายได้ยิน
เสียงมันหัวเราะตามหลังได้อีก
“หึ..หึ..หึ.” ไอ้เชี้ยรรรร...คอยดูแล้วกัน เดี๋ยวมีเอาคืนแน่เมิงงงง...
เปลี่ยนชุดเสร็จ ค่อย ๆ แง้มประตูดูลาดเลา ไม่เห็นเงามันอยู่ในห้อง ค่อยหายใจโล่งหน่อย
ลับตาตั้งสติ ก่อนเดินลงไปข้างล่าง กูลงมาถึง..ทุกคนอยู่ในชุดพร้อมลงสนาม แม้แต่พ่อสิงห์
ก็รออยู่แล้ว คุณแม่มองกูยิ้ม ๆ ก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมา
“ตะเกียงลูก ใส่ชุดนี้แล้วน่ารักมาก...จะสู้เค้าไหวเหรอลูก ตัวกระจิดหนึ่ง” เอ่อน่ะ!..แม้ชุดไอ้พี่โต๋มันจะ
ไซร้เล็กแล้ว แต่มันก็ยังใหญ่เกินตัวกูอยู่ดี เลยทำให้กูเหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ กูเข้าใจที่แม่พูดอ่านะ
“แม่อย่าเพิ่งไปดูถูกตะเกียง ขี้คร้านลูกเราตะหาก จะรับมือน้องมันไหวหรือเปล่า” พ่อสิงห์พูดขึ้น
เล่นเอาแม่ทำตาโต ก่อนจะย้อนถามพ่อว่า
“จริงหรือพ่อ..ไม่ได้แล้ว ยังงี้แม่ขอเข้าไปนั่งดูด้วยคนนะ อยากเห็นลูกตะเกียง..ตัวนิดเดียว
จะรับมือพี่ ๆ เขายังไง” พูดเสร็จ พ่อสิงห์พาเดินไปห้องซ้อม โดยมีไอ้พี่โต๋ พี่เต้ คุณแม่ และกู
เดินตามเป็นพรวน ศึกสังเวียน ‘ตะเกียง VS สิงห์โต๋’ ได้เวลาเอาคืน จะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้ หุหุหุ..
.
.
.
รักคนอ่าน คิดถึงคนโพส เลิฟแฟนคลับตะเกียงทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ทุกคน
Luk.