..
..
..
ปราโมทย์นั่งเหม่อมองไปเบื้องหน้า
คิดทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่าง
สำหรับพัฒนาแล้ว
เขาเป็นอะไรกันนะ
เป็นเพื่อน หรือว่าเป็นคนรัก...เหลวไหลน่า
เป็นคนรักงั้นเหรอ ...แค่ตอนนี้ให้อยู่ข้าง ๆ
เขาก็น่าจะพอใจแล้ว
ยังจะเรียกร้องอะไรจากร่างบางนั้นอีกนักหนา
หลายสิ่งหลายอย่างที่พัฒนายอมอ่อนข้อให้เขา
มันก็มากเกินจะพอแล้ว
ทำไมถึงยังอยากจะเรียกร้องความรัก
ยังห็นแก่ตัวกับร่างบางนั้นไม่พออีกหรือ
เขาช่างเป็นผู้ชายที่แย่จริง ๆ
ดวงตาคมร้อนผ่าว
มือแกร่งรีบปาดน้ำตาที่ทำท่าจะหยดลงเสียให้ได้
“กอล์ฟ” ร่างบางเบื้องหลังส่งเสียงเรียก
ชายหนุ่มสะดุ้ง รีบเกลี่ยน้ำตาให้พ้นจากใบหน้าตนเอง
ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้กับร่างบาง....
รอยยิ้มที่แสนเศร้าในความคิดของพัฒนา
“พัดจะเอาอะไรเหรอ” ชายหนุ่มหันมาหาร่างเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า
แค่เห็นท่าทาง....ร่างบางก็รู้แล้วว่าปราโมทย์ร้องไห้แน่ ๆ
คบกันมาเป็นปีเป็นชาติ เคยเห็นร่างสูงร้องไห้ สามครั้ง
ครั้งแรกตอนที่แข่งฟุตบอลของมหาวิทยาลัยในรอบชิงชนะเลิศแล้วแพ้
ครั้งที่สองตอนที่เขาบอกเรื่องที่โกหกไป...เรื่องที่ว่าชายหนุ่มเข้าใจว่าเขาอยากคบเป็นแฟนด้วย
และครั้งที่สาม ก็ครั้งนี้
ปราโมทย์ไม่ใช่คนอ่อนไหว ที่จะเสียน้ำตาง่าย ๆ ผิดกับร่างบางที่งี่เง่างอแงเหมือนเด็ก
ดูหนังถึงตอนเศร้าก็ร้องไห้ แมวที่บ้านตายก็ร้องไห้
และอีกสารพัด
ร่างสูงก็เอาแต่ยิ้ม และล้อเลียนเขาอยู่บ่อย ๆ
แต่ว่าสองครั้งหลังนี้ ต้นเหตุมาจากร่างบางล้วน ๆ
“พัด...พัดอยากนวดไหล่..แล้ว..แล้วพัดก็เมื่อยด้วย” ร่างเล็กหาข้อหาเหตุผลที่เดินมาหาชายหนุ่ม
ไม่ได้ง้อนะ ก็ ก็มันเมื่อยแขนจริง ๆ นี่ แขนอีกข้างก็ยังใส่เฝือกอยู่
แล้วจะให้นวดได้ยังไงกันล่ะ
“ครับ” ร่างสูงรับคำ ชายหนุ่มยิ้มได้ในทันที
วิธีง้อของพัฒนาไม่เหมือนใครหรอก เขารู้ดี นี่คงเป็นข้อดีของการเป็นเพื่อนกัน
ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนอย่างไร และนิสัยที่ไม่เหมือนคนอื่นเป็นยังไง
ปราโมทย์เดินตามร่างบางเข้าไปในบ้าน
นั่งลงที่โซฟา
ร่างเล็กยืดแขนให้กับอีกฝ่าย ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
ร่างสูงอมยิ้ม
มือแกร่งกดเบา ๆ ที่แขนเล็ก ไล่ตั้งแต่ต้นแขนไปสุดที่ปลายนิ้วมือ
“เมื่อกี้ร้องไห้เหรอ” ร่างเล็กป้อนคำถามที่ไม่ทันให้ชายหนุ่มได้ทันตั้งตัว
“เอ่อ..ใครเหรอ..พัดเหรอ” ใบหน้าคมหลบสายตาที่มองมาอย่างมีคำถาม
“มึงอะแหละ...จะใครซะอีกล่ะ” ใบหน้าหวานตอบกลับ ร่างสูงที่เอาแต่เฉไฉ
“เปล่านี่...ใครร้องไห้กัน...ไม่ใช่พัดนี่...ร้องได้ทุกสถานการณ์..รู้ได้ไงว่ากอล์ฟร้องอย่ามาอำเลย”
ร่างสูงตอบกลับ ยังทำหน้าเฉย ในขณะที่มือยังทำหน้าที่นวดต่อไป
“ไม่ร้องได้ไง..อย่ามาเถียงเลย...มองตั้งแต่เดินอยู่ในครัว..จนไปนั่งหน้าบ้านเป็นชั่วโมง..เห็นชัด ๆ ยังเถียงอีก” ร่างเล็กหันมาเถียงกลับ โดยไม่รู้ว่าคำพูดที่พูดออกไปจะกลายเป็นหลุมดักตัวเองซะได้
ใบหน้าเศร้า ๆของปราโมทย์เปลี่ยไปในทันที
ร่างสูง ยิ้มร่า
มองอยู่เหรอ ตั้งแต่เดินเข้าไปในครัว จนถึงเดินออกไปหน้าบ้านเลยเหรอ โห...น่าดีใจที่สุดเลย
“เฮ้ยยยยยยยยยยย...ยิ้มอะไรวะ..อยู่ ๆ ก็ยิ้มบ้าป่าววะ” ร่างเล็กยังคงไม่รู้ตัว หันไปเอ็ดคนข้าง ๆ ที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาหัวเราะ
“ไอ้กอล์ฟ..หยุดขำเดี๋ยวนี้เลย..หัวเราะอะไรวะ” มือเล็กตะกุยไปที่ร่างสูงอย่างเอาเรื่อง
นี่ถ้าไม่หยุดขำนะ น่าดู
“โอ้ยยยยยยยยย..พัด..เจ็บ เจ็บ..อย่าตีไหล่ดิ” ร่างสูงกุมไปที่ไหล่ของตัวเอง
ที่โดนมือเล็กนั้นทั้งทุบ ทั้งจิก อย่างไม่ให้ตั้งตัว
“ทำไมโดนไม่ได้...แหมสำออยเหรอ...ดี..งั้นอีกทีดีมั้ย” มือเล็ก ๆ ทำท่าว่าจะเงื้อขึ้นแต่ก็ต้องหยุดชะงักและรีบชักมือกลับแทบไม่ทัน เมื่อได้ฟังคำตอบจากร่างสูง
“ไม่เจ็บได้ไงอ่ะ...ใครไม่รู้เล่นกัดซะเต็มแรงเลยเมื่อคืน...ยังเป็นรอยอยู่เลย” มือแกร่งหนาเอื้อมไปจับที่ไหล่ของตัวเอง
ร่างบางรีบ ชักมือกลับ แต่มืออุ่นร้อนของร่างสูงรีบดึงเข้าหาตัวทันที
“แต่ว่าถ้าพัดอยากทุบ พัดทุบอีกข้างดีกว่า...ข้างนี้มีแค่รอยเล็บ..ไม่ค่อยเจ็บ”
ดวงตาคมวาวที่จ้องมองลงมา ทำให้ร่างเล็กรีบหลบตาทันที
ใบหน้าหวานร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ความหมายที่พูดทำให้นึกไปถึงเรื่องเมื่อคืน
แล้วก็ยิ่งอายหนักขึ้น
เมื่อปลายจมูกของร่างสูงสัมผัสแผ่วเบาที่มือตัวเอง
ร่างเล็กพยายามชักมือกลับ แต่ปราโมทย์ไม่ปล่อยง่าย ๆ
ร่างสูงขยับกายเข้าแนบชิดร่างบางมากขึ้น
ก่อนที่จะก้มลงหาแก้มเนียนใสนั้นอย่างลืมตัว
ร่างเล็กไม่ได้ขัดขืน
นิ่งเฉยให้ร่างสูงนั้นล่วงเกินได้ง่าย
ไม่ใช่นิสัยของเขาเลยสักนิด
น่าจะต่อยกลับไปสักหมัดสองหมัด
แต่ใบหน้าคมก็ยังแตะต้องไปที่แก้มเนียนขาวใสอีกข้าง
อย่างห้ามใจไม่อยู่ ใบหน้าคมเฝ้าจุมพิตแผ่วเบาอย่างสมใจ
ดวงตากลมโตหรี่ปรือลง
โอนอ่อนยินยอมให้กับร่างสูงโดยง่าย
อะไร ๆ ก็เหมือนจะง่ายดายไปซะทุกอย่าง
ถ้าไม่บังเอิญว่ามีเสียงใครอีกคนที่ไม่ได้นัดหมายตะโกนเสียงดังลั่น
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย”
สองร่างรีบผละออกจากกันในทันที
อย่างไม่ได้ตั้งตัว
“เอ่อ....กะ..กะ..กลับมาแล้วเหรอ” พัฒนาหน้าแดงซ่านพูดตะกุกตะกักเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้า
ซวยแล้วไอ้โพดนี่หว่า เข้ามาตอนไหนเนี่ยไม่ให้สุ้มให้เสียง
ดวงตากลมโตจ้องมองที่ร่างบาง แค่เห็นก็รู้แล้วว่าโดนแกล้งแน่ ๆ พัฒนาแทบอยากจะร้องไห้
ไอ้กอล์ฟ ความผิดไอ้กอล์ฟอีกแล้ว ทำอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือเลย
“โหยยยยยยยยยยยยยไวไฟชะมัดเลยนะ ไม่อยู่ไม่กี่วัน ไปถึงขั้นไหนแล้วเนี่ย”
ข้าวโพดเดินเข้าหาน้องชายฝาแฝดของตน แววตาซุกซนเหลือบมองร่างสูงที่นั่งทำหน้าปั้นยาก
และลอบยิ้มอย่างนึกสนุก
“แกทำอะไรน้องฉันว่ะ...ไอ้โมทย์” ถ้อยคำหยอกล้อนั้นทำให้ร่างสูงอึกอึกตอบไม่ถูก
อะไรก็ดูเหมือนจะแย่ไปซะหมด ถ้าไม่มีเสียงของใครคนหนึ่งตามเข้ามา
“พี่ข้าวโพด...กระเป๋าให้วางตรงไหนอ่ะ” ภานุเดินตามเข้ามาในบ้านแล้วก็ต้องชะงัก
“เฮ้ยยยยยยยยยยยพี่ พี่ พี่ ข้าวโพดมีสองคน” ชายหนุ่มร่างสูงอีกคนตะโกนลั่น
ทุกคนหันไปสนใจร่างสูงนั้น แต่สิ่งที่สะดุดใจปราโมทย์มากที่สุดคือ
เขาคุ้นกับร่างสูงนี้
เหมือนเคยเจอที่ไหน เหมือนเคยเจอ
แต่ว่ามันที่ไหนกัน
ปราโมทย์นิ่งคิด ลืมคำถามของข้าวโพดไปเสียสนิท
..
..
..
TBC.