อรุณสวัสดิ์แบบสายโด่ง...เจอกันวันอังคาร!!!

*******************************************
ลมเหนือที่รัก
ตอน78 ป๋าจ่าย (แผนจับสายลมไม่เชื่อง)
------------------
yeaw's
ใกล้บ่ายโมง ซุ้มทางเดินร่มรื่น
ผมกำลังเดินไปส่งเด็กที่อาคารเรียนรวมฝั่งบริหาร ...ผ่านหน้าคณะถาปัดพอดี
"พี่เหยี่ยวแวะไปหาพี่เอเจเลยมั้ย ลมเรียนตึกหน้านี่เอง" คนจูงกิ๊กลมหันมาถาม
"พี่ไปส่ง เจอเพื่อนก่อนค่อยย้อนมาหา เอเจมันไม่รีบหรอก"
"...ครับ" เงียบไปแฮะ
"มีอะไรรึเปล่า เมื่อกี้เป็นอะไรมั้ย?"
"เป็นอะไร ตอนไหน?"
"ที่โต๊ะกินข้าว" ผมหมายถึงเรื่องไอ้เชษฐ์ปากเปราะ
"อ๋อ"
"วันหลังเราห่อข้าวมาดีกว่านะ"
"ไม่ไหว ได้เบื่อไปข้าง ไม่ต้องเจอผู้คน" อมยิ้มว่าเรื่อย
"ถ้าเจอมีเรื่อง ก็ไม่ต้องเจอ" ผม
"พี่เหยี่ยวครับ...ลมจัดการได้"
"จัดการ?"
"อือ ไม่ต้องห่วงหรอก"
"ไม่ได้ซิ!" พี่ไม่ยอม บอกโลดเหยี่ยว! ในใจกึกก้อง
"พี่เหยี่ยว นั่นเพื่อนพี่นะครับ ...พี่บอกเองไม่ใช่เหรอ พี่เชษฐ์กำลังเฮิร์ต ดูท่าพี่เค้าก็ไม่เจตนาด้วย นะครับ เข้าใจเพื่อนนะ" แก้แทนเพื่อนผม
"แต่พี่ว่า..." ในใจคิด นี่กูมีเรื่องรึเค้ามีเรื่องกันแน่วะ
"ลมผิดเองล่ะ ไม่ชอบให้พูดแบบนั้นเลยของขึ้น ไว้เจอกันที่สนามบาสลมจะขอโทษพี่เค้าเอง"
"ไม่ต้องหรอก ปล่อยพี่คุยดีกว่า"
เชษฐ์มันนิสัยใช้ได้ ตอนมัธยมเป็นคู่แข่งในสนามบาส เข้าเรียนที่นี่กลับแปรเปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตรถาวรเฉย
นิสัยดีโคตร รักเพื่อนมาก มีน้ำใจที่หนึ่ง เหมือนเจฟฟรี่กับกาย เพียงแต่ปากไวกว่าใจคิดเท่านั้นเอง
ตอนนั้นผมชะงัก..ส่วนหนึ่งไม่ใช่เพราะมือแมวฉุดไว้ หากแต่นิสัยเนื้อในเพื่อนคนนี้ด้วย
ที่สำคัญ คนของผมเคยบอกไม่ชอบเรื่องใช้กำลัง ...คิดอีกทาง-กลายเป็นว่า ลมเหนือช่วยผมไว้ไม่ให้เสียเพื่อนก็ว่าได้
"เรื่องไม่เป็นเรื่อง อย่าใส่ใจเลยนะครับ ลมเพียงแค่อยากให้รู้ว่าลมไม่ชอบแบบนั้น ถึงจะพูดเล่นก็เถอะ"
"เชษฐ์มันปากหมา แต่นิสัยดีมากเหมือนกัน"
"ลมพอรู้อยู่ พี่เจฟฟรี่กับพี่โจ๊กก็บอกให้ฟัง" อมยิ้มส่งมา
"โหย นี่สืบเรื่องเพื่อนพี่เหมือนกันเหรอ!"
"น่า ลมแค่เจอพี่เค้าที่สนามบาส เค้าทักมา ลมเป็นน้องไม่รู้จักชื่อพี่เค้าก็แย่ดิ"
"ถ้าเป็นได้อย่ายุ่งกะพวกมันมาก" พยายามตัดบท
"แต่แบบนี้น่ะดีแล้ว พี่เหยี่ยวไม่ต้องไปคุยกับพี่เชษฐ์หรอก" อมยิ้มขำนิดๆ เหมือนมีเรื่องสนุกเต็มประดา
"แบบนี้น่ะแบบไหน ไม่คุยได้ไง รู้ตัวเองรึเปล่า-นี่คนของพี่นะ!?" ผมของขึ้น ชักตะหงิดๆ ในใจ
"พี่เหยี่ยว..." เอียงศรีษะมาว่าใกล้ แพขนตาหรี่เป็นแพ เหมือนจะมีลางสังหรณ์ว่าทิศทางสายลมจะเปลี่ยน
"...หือ?"
"พี่เหยี่ยวไม่รู้อะไร อย่างพี่เชษฐ์น่ะต้องบอกโต้งๆ ประมาณนี้ถึงจะอยู่หมัด"
เอ๊ะ มันจะยังไงๆ ซะแล้ว ได้แต่หันไปมองหน้า สงกะสัย
คุณต้องเห็น ใบหน้าลมเหนือตอนนี้ยิ้มยิงฟันขาว ยักคิ้วกวนทีน 'เดวิล-สไมล์' ไอ้เก็ทเรียกงั้น ผมจำได้ตอนตะล่อมเอากิ๊กลมที่ร้านเอสไบค์ ใช่เลย!!!
"คนอย่างพี่เชษฐ์ต้องบอกตรงๆ โป้งเดียวจอด แล้วพี่เหยี่ยวคอยดู ถ้าพี่เค้าเข้ามาขอโทษเอง คุยดีด้วย พอครั้งหน้านะ-พี่เชษฐ์นี้ล่ะจะกลายเป็นไม้กันหมาดีมากๆ ชั้นหนึ่ง"
"ห๊ะ!" พูดไม่ออก หยุดเดินทันใด
"พี่เหยี่ยวไม่รู้ล่ะซิ" หรี่ตาร้ายหน้าเชิดๆ
"เหอๆ ..." กูล่ะงงเต๊ก!!!
"ลมเจอมานักต่อนักแล้ว" อมยิ้มแก้มพอง ท่าทางแสบเหลือแสน
"เหรอ!?" กูสงกะสัยมั่ก
"ลมเคยมีเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องคนหน้าตาลักษณะประมาณนี้แหล่ะ ปากไวแต่รักเพื่อนมาก พูดทำนองหมาหยอกไก่ ลมซัดเปรี้ยงเดียว ต่อมาเปลี่ยนปุ๊บ-ช่วยกันท่าคนอื่นไม่ให้เข้ามาวอแว สบายยยย"
"โอ๋ย นี่มันอะไรกัน อย่าบอกนะว่าวางแผนไว้น่ะ" ผมวูบเลย
"เหตุการณ์พาไป ช่วยม่าย-ด้าย หึๆ" ตีคิ้วกวน น่าจับตีก้นมาก
"มันเป็นใครวะ ไอ้เพื่อนที่ว่าเนี่ย"
"ก็พวกแก๊งค์บาสเพื่อนเก็ท ชื่อเฟรมกับหมอก เทือกๆ นั้น"
"แล้วตอนนี้ยังติดต่อเพื่อนพวกนี้อยู่มั้ย"
"ไม่แล้ว แยกย้ายกันไปหมดแล้ว มีเรียนที่เชียงใหม่คน ที่เหลือไปเมืองนอกหมด ต้องถามเก็ท เพื่อนเล่นบาสเก็ทครับ ลมไม่ใส่ใจเท่าไหร่"
"แล้วไป" ผมเป่าปาก...โล่ง
ชื่อพวกนั้น (เฟรม เก้ง หมอก) ผมพอรู้ครับ กายไปเยี่ยมน้องชายมันที่โรงเรียน กลับมาเล่าให้ฟังเลยพอคุ้นๆ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเคยหาชุดบาส อุปกรณ์กีฬาไปให้ด้วยซ้ำ
ดูท่าลมเหนือฮอทอย่างที่ไอ้เก็ทบอกจริง ๆ แต่วิธีการใช้คนกลับเหนือชั้นจนผมคาดไม่ถึง
นี่เล่นเพื่อนกูเลยนะนี่ !!!
.................
......................
ถึงที่จอดรถเล็กหลังตึกพอดี เอากิ๊กลมไปล่ามไว้รอเจ้านายมารับบ่าย 3 เรียนเสร็จ
"เอามันมาด้วยทำไม?" กิ๊กลมตัวขาวบอบบาง โดดเด่นท่ามกลางจักรยานสีดำเข้มๆ แบบเสือหมอบ เสือภูเขาเรียงให้คึ่กเต็มราง
"รุ่นพี่ก๊วนไบซิเคิล เพื่อนพี่ชัย แฟนพี่อุ้ม-น้องเทคพี่บอกอยากเห็น" อ้าง'อุ้ม' ปี 2 โยธา น้องเทคผม ส่วนน้องสายตรง'ชาคริต' เล่นฟุตบอลมหาลัย
"ก็เรียนเสร็จค่อยไปเอาที่โน่นก็ได้ ต้องไปเจอกันที่สนามบาสอยู่แล้วนี่" ลานว่างข้างกันครับ ซิ่งกิ๊กลมประจำ ผมไม่เคยปล่อยให้ห่างสายตาหรอก
"ลมว่า...จะซิ่งรอบมอ.กับก๊วนชมรมจักรยานพี่ๆ เค้าก่อน" ห๊า---กูว่าแล้ว!!!
"ไม่ได้!"
"อ่า..."
"ห้ามเลย เรียนห้องแอร์ บ่าย3 ออกมาเจอแดดเปรี้ยง ปั่นเหงื่อซก เย็นนี้ต้องกลับไปนั่งห้องแอร์กับจารย์ปู่อีก เวียนเข้าเวียนออกงี้ได้ไม่สบายน่ะซิ" ผมแจงยาว
"โหย รอบเดียวเอง ตึกบังแดดหมดแล้ว ไม่ร้อนหรอก ---แล้วๆๆๆ จารย์ปู่วันนี้งด" นั่นไง แบไต๋
นึกออกล่ะ เมื่อเย็นวานไอ้บัดดี้บอยโทรหา คุยกันหัวเราะคิก คงนัดแนะกันไว้ซิท่า
นี่แอบเนียนจูงมาเฉย ถ้าผมไม่ทักคงซิ่งปร๋อ สนุกเค้าล่ะ!!!
"ยังไงก็ห้าม!" บ้าชิบ ไม่น่าใช้ที่ล็อคแบบหมุนรหัสเลย ป่านนี้ผมแย่งกุญแจมาถือครองเสร็จสรรพ
"พี่อ๊ะ วันเดียวเอง!" คิ้วยุ่งปากยื่น พองแก้มป่อง น่าฟัดชะมัด
"วันเดียวก็ไม่ได้!"
"เขี้ยว-ลากกก" งุบงิบว่าเบา
"ได้ยินนะ---ไม่งั้นพี่ปล่อยยางกิ๊กลมทุกวันเลยด้วย"
"โหยยย พี่เหยี่ยวอ่ะ ใจร้าย ทำร้ายจิตใจ ...ชื่อก็ขาว ตัวก็ขาว ไมใจดำ" นักศึกษาแถวนี้เยอะไปไหน กูอยากจับคนกดว๊อยยยย!!!
"เน่-เน่-เน่!"
"เค้าล้อเล่น พี่เหยี่ยวใจดี๊ดี" มียิ้มแฉ่ง โดดขึ้นบันไดหนึ่งขั้น หันกลับมาประจันหน้ากับผม
"บอกรหัสมา พี่จะเอามันกลับ" จ้องคนยืนสูงกว่า
"ไม่!" ส่ายหน้าดิกซ้าย-ขวา
"บอก!"
"ไม่-ไม่-ไม่!"
ไม่น่าเผลอไผลตรองไม่ตก คิดหมกมุ่นหัวเสียเรื่องไอ้เชษฐ์ปากพล่อยจนลืมศัตรูใกล้ตัวอย่าง 'กิ๊กลม' เลยให้ตาย
ถ้าไม่ท้วงคงได้ซิ่งฉิวปลิวลมแน่ ปล่อยห่างตัว-ห่างตาไม่ได้จริงๆ ลมเหนือคนนี้
จ้องหน้ากันเลเซอร์แล่นเปรี้ยงปร้าง นักศึกษาคนอื่นถอยกรูออกไป ห่างมาก
"พี่เหยี่ยวเห็นตึกโรงกลางนั่นมั้ย" มือชี้ข้ามไปโรงอาหารกลางฝั่งนิเทศ
"นี่ๆ จะเปลี่ยนเรื่องไปไหน ยังไงพี่ก็ไม่ยอม!" ผมรีบดักแม่น้ำร้อยสายชักใยนกเหยี่ยวเป๋ไปเป๋มา
"ร้านที่ 4 ถัดจากร้านน้ำทางซ้าย เค้าขายก๋วยเตี๋ยวลุยสวนอร่อยมาก ลมอยากกิน" ยังว่าเรื่อย
"...เราตกลงกันแล้ว" เรื่องจะไม่เหยียบโรงกลางฝั่งโน้นถ้าไม่จำเป็น
ไม่มีฟัง ยังจ้อย ๆ ต่อยหอย
"ถ้ามี 2, 3 ไม่ซิ เอา 4 กล่องเลย ลมปั่นเล่นแค่ครึ่งชั่วโมง บ่ายสามครึ่งเป๊งงงง กิ๊กลมพาลมอยู่ข้างสนามบาสเป๊ะ!" ยักคิ้วท้า เชิดหน้ามองต่ำหาผมที่ยืนพื้น
ชอบนักล่ะยืนบันไดหรือพื้นต่างระดับให้สูงกว่า ถ้าอยู่ห้องผมกอดแนบซบศรีษะฟังเสียงหัวใจของคนตรงหน้าแล้ว ไม่น่าอยู่ในสถานศึกษาเลย-ให้ตาย
นิ่งคิด ...นี่เค้าติดสินบนกู รึกูต้องหาของมาเซ่นเค้าวะ !?
"เอาไม่เอา ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน 4 กล่องกับเจอกันบ่ายสามครึ่ง" คุณต้องได้ยิน น้ำเสียงกวนโอ๊ยสุดๆ
"เฮ้ๆ นี่พี่มีทางเลือกมั้ยเนี่ย!?"
"ลมได้เล่นกับกิ๊กลมแค่ครึ่งชั่วโมงเอง พี่เหยี่ยวคิดดู กิ๊กลมงอนขึ้นมาจะทำไง" ทำหน้าฉงฉานหลิ่วตามองจักรยานสีขาวของตัวเอง
"โห๋ย มันงอนได้ด้วยอ่ะ" กูเหลือเชื่อความคิดเด็ก ย่าง 19 คนนี้จริงๆ
"ช่ายยยย ถ้าลมฟ้องนะ กิ๊กลมจ๋า-พี่เหยี่ยวไม่ยอมให้เล่นกับด้วย ...กิ๊กลมโกรธแล้วพี่จะหนาว"
"มีงี้ด้วยง่ะ" ไอ้หอกข้างแคร่ fixed gear คันนี้มันโกรธได้ด้วยเหรอวะ!?
กะลังตามความคิดลมเพลมพัด
โดนควักผ้าเช็ดหน้าที่อกเสื้อชอปผมมาปัดฝุ่นเศษไม้ที่บ่าให้ ...ชอบจังบรรยากาศนุ่มนวล
"แบบเจกล่องนึงของลม พี่มุกกับพี่ชัยเอาปูอัด ที่เหลือเป็นหมูให้พี่ก๊วนจักรยาน"
"จัดไป 10 กล่อง ป๋ายอม ป๋าเลี้ยง" เลี้ยงเกเตอเรสพวกบาสไม่พอ ต้องข้ามถึงพวกไบซิเคิลด้วย เอาเข้าไป -^-!!!
"เย๊ ขอบคุณคร้าบ ลมแมสเซสบอกบอยกับพี่เค้าล้างท้องรอ" อ้อ ไอ้บัดดี้บอยโต้โผใหญ่จากเอสไบค์
"เรานี่น๊า" ส่ายหน้า ยิ้มขำ...นี่กูต้องยอมเค้าตามข้อตกลงเค้าใช่มั้ย เล่นสั่งซื้อซะอาน
โทรไปให้น้องรู้จักกันจัดการเดลิเวอรี่ดีกว่า มีน้องนุ่งไว้ใช้สนุกมือกว่าทำเองเยอะ
เดี๋ยวนี้ผมรู้จักคนเยอะขึ้น เพราะเอามั่ง...ปริ้นท์รูปรุ่นพี่รุ่นน้องคณะตัวเองไว้ดู ปรากฎได้ทั้งลูกค้าทั้งคนรู้จักเพียบ เพิ่งรู้ว่าแค่คณะตัวเองลูกคนรวยเยอะมากเหมือนกัน เคยคิดไม่ลงมือทำ พอเห็นลมเหนือใช้วิธีนี้ เลยกลายเป็นการขยายฐานคอนเน็คชั่นร้านผมอย่างน่ากลัว...ไม่ต้องง้อขาใหญ่จากข้างนอกให้ยุ่งยาก
---------------------------------
ไม่ทันไรก็มีมาร ที่ชื่อ 'บอย' ไอ้ปากดุกตากแห้งตัวดำ ผอมกระหร่อง แบนเป็นซากติดล้อรถปูน-โผล่มา
"ลมๆ!" ไอ้บอยซอมบี้ตายยาก ส่งเสียงเรียกที่ทางเดิน
"ไงบอย!" เด็กแสบร่างสูงหันไปทัก
"ไปเร็วลม!" เพื่อนศิลปศาสตร์อีกคนยิ้มแฉ่ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อ'สุพจน์' เหมือนเพื่อนผม เพราะลมเหนือเคยพาญาติที่มาหาอย่างฉุกละหุก ไม่มีใครรู้จักเด็กสุพจน์คนนี้ ลมเหนืออยู่แถวนั้นเข้าช่วย ถามชื่อกับนามสกุลเลยพาไปหาถูกตัว ได้น้ำพริกอ่องกับแคบหมูถุงใหญ่และไส้อั่วยกกล่องฝากผมกับเจฟฟรี่อร่อยเหาะ
"ไอ้พวกนี้..." นินทาไม่จบประโยค โผล่มาซะแล้ว ตายยากจริงๆ
"ไปได้แล้วป๋า" ยัดผ้าเช็ดหน้าผมลงกระเป๋ากางเกงตัวเองเฉย
"นั่นของพี่!" แกล้งว่าไปงั้นครับ มุมปากผมยกยิ้มแล้ว
"ของลมเหมือนของพี่ ของพี่เหมือนของลม -นี่ยึดเป็นตัวประกัน"
"เหอๆ" กูเวียนเฮดกับเด็กแสบจริงๆ
มองตามหลังเด็กร้ายกาจที่พุ่งไปหาเพื่อน เด็กผู้ชายซนๆ คนนี้ทำผมเอาหัวปั่น
ทำไมทีอยู่กับคนอื่น เรียบร้อย นิ่งขรึม สุภาพ พูดน้อยต่อยหนักคล้ายเจฟฟรี่
ทีอยู่กะกู คุยจ้อต่อยหอย เล่นเอาจะบีบคอให้ตายหลายรอบต่อวัน
เคยถามโจ๊ก เพื่อนสนิทผมยาวตอนอยู่ด้วยกันสองต่อสอง มันเป็นไง ...!?
โจ๊กบอก 'ประมาณเด็กมึง จ้อลิงหลับ ช่างวอแว วนเวียนเอากะกู-จนไม่มีเวลาพักหายใจ มีเรื่องให้เวียนเฮดไม่หยุดหย่อน'
'...อ้อนที กูสำรักกลูโคสจนมึงนึกไม่ถึงแน่!' เพื่อนเตี้ยลอยหน้าลอยตาตบท้าย
ผมพอรู้เพราะคบลึกรู้ไส้รู้พุงกันมา แต่ไม่คิดว่าจะหนักข้อขนาดนั้น
รึไอ้พวกเล่นดนตรีเก่งๆ มันพิมพ์นิยม ประมาณนี้ทุกคนวะ...มีสองบุคลิกสลับไปสลับมา
คิดในใจ...จะจับ'ลมเหนือ' สายนี้ให้อยู่หมัดยังไงดีนะ!???
...........................
...............................
แล้วไอเดียเล็กๆ ก็บังเกิดจากข้อความนี้
[Ttttttt] หมายเลขไม่รู้จัก ...ผมกดรับคลิป ชื่อลงท้าย...(หนุงหนิง)
ในจอมือถือ-เก็ทร้องเพลง 'ไม่มีตรงกลาง' วาดลีลาอ้อนหมวยบี
ยืนโยกตัวเข้าจังหวะกับคนของผม ที่ร้องคอรัส โคลงศรีษะ ดีดนิ้วอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อนนักร้องเสียงหล่อ
เนื้อเพลงท่อนนั้น
[...เชื่อในรักเรา
เชื่อในหัวใจที่ฉันให้เธอได้ไหม
(วู อาาาา ลมเหนือคอรัส)
ใครจะพยายามยุยงให้สั่นคลอน
รู้ไว้นะทุกครั้งฉันนอนหลับตาฝัน
เห็นแค่ภาพเรารักกันยาวนาน
จนถึงวันที่ฉัน…แต่งงานกับเธอ]
***
ลมเหนือ สวมเสื้อขาวแขนยาว กางเกงแสลคสีดำมีหูฟังสีขาวส้มคล้องคอ
ดวงหน้าหวานระบายยิ้ม ร้องคลอสดชื่น โยกศรีษะเข้าจังหวะใกล้กับเก็ทที่หล่อใส วาดลีลาออดอ้อน เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ดังแว่วเข้ามา
ถ้าจะจับลมเหนือสายไม่เชื่อง สายนี้ให้อยู่หมัด ...'แต่งงาน' งั้นเหรอ หึหึ
---------------------------------------------------------
ปล. แล้วก็จริงอย่างที่ลมเหนือคาดการณ์ ในเวลาต่อมา เชษฐ์และเอเจกลายเป็นไม้กันหมาชั้นเยี่ยม (รองจากเจฟฟรี่กับกายที่ดำรงตำแหน่งอัศวินผู้พิทักษ์รักเธอ-ใกล้ชิดอันดับหนึ่ง)
ไม่ให้ใครมาวอแวคนของผมตลอดระยะเวลา 1 ปีกับ 8 เดือน หลังจากผมเรียนจบ ...ช่วงเวลาที่ผมแยกจากลมเหนือ ช่วงเวลาที่ยาวนานและยากลำบากที่สุดสำหรับผมและคนของผม
************************************************************TBC by puppyluv