ลมเหนือที่รัก
ตอน11/1
--------------------------
Yeaw’s
ผมคือเหยี่ยว เหยี่ยวขาว อาทิตย์ชิงดวง
เหยี่ยวขาวผู้ทรนง งามสง่า หากผมต้องการไม่เคยมีใครไม่อยู่ใต้อาณัติผม
---แต่คนตรงหน้านี่ซิ กลับนอนหลับสนิท ไม่สนใจกูเลยนะมึง!
'ลมเหนือ' คือชื่อของมัน
ขนตายาวเป็นแพ คิ้วเรียวได้รูปนั้นคลายออก ริมฝีปากอิ่มสวยได้รูปมุมปากยกยิ้มน้อย ๆนั้น เผยอนิด ๆ ลมหายใจผะแผ่วสม่ำเสมอ ---มันหลับครับ หลับลึกด้วย
ดวงหน้าในนิทรา ช่าง...
ช่างก่อนเถอะ มันหลับลงได้ไง มือซ้ายยังกำดินสอ มือขวาก่ายกับกองหนังสือเรียน
เมื่อ 20 นาทีที่แล้ว ผมนั่งบนเตียงไม้เล็ก ๆ แคบ ๆ มองดูมันจัดกระป๋าเงียบ ๆ ก่อนจะออกปากไล่ลงไปใช้ห้องน้ำชั้นล่าง ให้เหตุผล ข้างบนแม่ใช้ประจำ แล้วนี่ก็ดึกแล้ว รบกวนแม่มันเปล่า ๆ ...4 ทุ่ม 15 เนี่ยนะดึก
ก็ได้ ...อยากดูดบุหรี่แก้เซ็งพอดี หน้าคอนโซลรถมีเหลืออยู่ซอง!
ปกติผมไม่ใช่คนสูบบุหรี่ จะดูดแค่ตอนกินเหล้ากับเพื่อนแค่ 2-3 มวนเท่านั้น ที่เหลือก็ยกให้ แจกกันไป ...แต่เวลานี้ ไม่ไหวว่ะ
อ้าว...ประตูล็อค ไม่มีกุญแจ เชรี่ยยยยยยย
นั่งมองปลาสิงโตกับปลานังน้อย ๆ ว่ายวนในตู้ปลาแบบธรรมดาโคตร พอปิดไฟแบบนี้เหลือบสีเงินลายรุ้งเล็ก ๆวิบวับ ดูสวยงามราวกับฝัน
ไม่น่าเชื่อว่าผมยังมีเรื่องต้องผูกติดกับมันต่อ...
น่าจะไปตั้งนานแล้ว!
-------------------------------------
เดินเบาขึ้นไปบนห้อง นั่งบนฟูกที่พื้นข้างคนหลับ ชิดใกล้ขนาดนี้ยังไม่รู้สึกตัว เมื่อคืนยังพลิกตัวมานอนหนุนแขนซบอกผมเฉย คิดแผลงๆ ถ้าลักหลับจะรู้ตัวมั้ยวะ หึๆๆ
เป็นไรไปวะเหยี่ยว... เมื่อตอนกลางวันจะตีจาก ไม่มาเผาผีชาตินี้ชาติหน้าไม่ใช่เหรอ ---ตามวอแวอะไรเด็กนี่อีก
ไม่เป็นตัวของตัวเองเลยนะเฟ้ย ...ด่าตัวเองในใจ
ไม่ใช่อะไร เมื่อกี้รู้สึกว่า แกล้งมันแรงไปหน่อยตอนเอาคลิปมาอ้าง ---ก็ไม่ยอมให้ผมอยู่บ้านหลังนี้ทั้งที่แม่มันเปิดทางสดวก
เงาสะท้อนกระจกที่ประตูรถนั่นทำผมใจอ่อนยวบ ห้ามใจไม่ให้เอื้อมมือไปโอบกอดไหล่บางที่กลั้นตัว กลั้นหายใจไม่ให้สะอื้นไหว อยากเอ่ยคำขอโทษที่ข้างหูเบา ๆ จูบซับน้ำตาที่แก้มนวล
ถ้ารู้ คลิปนั่นมีแค่เสียงแล้วต่อไปก็เป็นตอนมันขัดขืนผมล้วน ๆ (วุ่นขนาดนั้น หามุมถ่ายก็เทพเมพ) ยิ่งถ้ารู้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น(แบบลึกซึ้ง) ตาสวยจะเปลี่ยนเป็นแสงสีแดงยิงเลเซอร์ทะลุร่างผมมั้ยนะ
กลัวมันจะไม่ยกโทษให้ กลัวจะหายละลายไปจากอ้อมกอด เลยแต่มองตามกระจกหลัง รอให้เช็ดน้ำตา…
...แค่อยากอยู่ใกล้ อยากสัมผัส อยากรู้เรื่องของมันให้มากกว่านี้ ...ก็แค่นั้น
.........................................
.....................................................
ตอน 3 ทุ่มกว่า ๆ ขนของขึ้นห้องมันเสร็จ มีแค่เสื้อผ้า หนังสือเรียนเหลือสอบแค่ 2 ตัว นอกนั้นทำรายงานกับงานกลุ่ม ปี 3 ก็ดีงี้ อีกแค่อาทิตย์เดียวก็ปิดเทอม ชีวิตชิล ๆ
ขนของเสร็จเกือบสามทุ่มครึ่ง
“หิว..ว..ว” ลองบ่น ดูดิ๊ เด็กหน้าบูดทำอวดเก่งกลั้นร้องไห้ในรถจะสนใจผมมั้ย
เหลือบมองด้วยหางตาเดินเข้าครัวเฉย ค้นของกุกกักสักพักได้ยินเสียงทำครัว ก่อนไข่เจียวหอมฟุ้งยั่วน้ำลาย ลอยละล่องออกมาถวายถึงโต๊ะไม้ตัวยาวใหญ่ที่ผมชอบ ถ้าขายจะซื้อคนแรก ให้ราคาอย่างงาม!
ไข่เจียวอร่อยมาก..ก...ก นุ่มลิ้น แล้วก็...หอมไข่ ไม่คาวซักนิด เชฟที่บ้านคงอยากขอสูตร
ทำยังไงของมัน ตีไข่ซะแรงชามแทบแตก
ผมคงหิวจริง ---แค่ได้กินของพื้น ๆ แบบนี้อร่อยเหาะแทบขึ้นสวรรค์
“ไม่กินเหรอ?”
“ไม่...จะนอนแล้ว”
“มานั่งด้วยกันหน่อย...” เบาเสียง กลัวคุณแม่ผู้น่ารักของมันจะได้ยิน
คว้าแตงกวาใส่จานมา 4-5 ลูก พร้อมมีดเล็ก มานั่งข้างซ้ายมือ เฉือนขั้วแตงกวาปาดตามแนวยาว ไม่ปอกเปลือกหยิบเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ---มองตาม แปลกใจนิด ๆ คนทั่วไปหั่นเป็นแว่นวงกลมตามขวาง มีชะงักเล็กน้อยชายหางตามองผม
หยิบชิ้นแตงกวาจ่อใกล้ ๆ ปากผม ทำเนียน ตามองผนังเฉยไม่พูดไม่จา
งงๆ แต่ยอมอ้าปากงับแตงกวา เนื้อสดฉ่ำ กรอบอร่อยทั้งที่ไม่ได้แช่เย็น
หยิบมาเฉือนอีกลูก คราวนี้วางที่ขอบจานให้
“...ไม่กิน!”
“มันจะเสียใจนะ เกิดเป็นแตงกวาทั้งที อุตสาห์ตัวโตๆ อ้วน ๆ เนื้อหวาน ๆ มาอยู่ในจานกลับทิ้งลงคอ” ว่ายาวหลอกเด็ก ใจคล้อยลอยละล่อง
“ป้อนดิ...” รู้สึกเป็นต่อทำผมฟูอารมณ์
หยิบส้อม จิ้มจ่อใกล้ปากให้งับเอง
คิดไปเองรึเปล่า เหมือนจะยกโทษเรื่องทำมันร้องไห้ในรถเมื่อกี้ ความสดชื่นแผ่ซ่าน
(เย็นวันต่อมาถึงรู้ ข้างบ้านฝั่งติดสวนหย่อมปลูกผักสวนครัวแน่นขนัด ไอ้แตงกวายิ้มทักทายผมไหว ๆ ที่รั้วกินได้เขียวครึ่ก)
----------------------------------------
หน้าจอโทรศัพท์บอกเวลา 5 ทุ่ม
ตาเหยี่ยวราตรียังแข็งโป๊ก คนนอนหลับขยับโดนหนังสือกรอบแกรบ ---จะสบายได้ยังไง ของทับตัวอยู่อย่างงั้น
เลื่อนทุกอย่างออกห่างตัว รัศมี 1 เมตร คงสภาพเดิมไว้ ตื่นมาจะได้หาเจอ
ผมเป็นคนขี้หวงของ ถ้าไม่สนิทต้องขอเป็นทางการ ...มันน่าจะคล้าย ๆ กัน
ปะทะกล่องคุ๊กกี้สีสด หล่น ‘โคร๊ม’ ซองเอกสารเอกสารสำคัญเทกระจาด ดีที่รับไว้ทันก่อนเด้งรอบสอง
ใจหายแว๊บ! ชำเลืองมอง ไม่ตื่น เฮ้อ...โล่ง
รีบกวาดใส่คืนเบามือ สะดุดซองสีขาวมุมซองตราโรงพยาบาล G หรา
ชื่อข้างใต้ ...นายแพทย์ ชัยพฤกษ์ (นามสกุลเก่าแม่ ลุงเป็นคนไทย ตายายซึ่งเป็นไฮโซกรีกรับเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้าตอนมาบริจาคที่เมืองไทยไปเป็นบุตรบุญธรรม ปีต่อมาแม่ก็เกิด)
เฮ้...ลุงผมนี่ อ่านซ้ำกี่รอบก็ลุงแน่ ๆ ค้นละเอียดเลย มีเกือบ 10 ซอง ไม่แกะอ่าน เรื่องส่วนตัว
ที่แน่ ๆ รู้ชัด เด็กนี่รู้จักลุงผม แล้วทำไมมันไม่อยากอยู่โรงพยาบาล นึกสงสัยปนโมโห ทำไมผมไม่รู้เรื่อง
แต่ที่ชัด ๆ บ้านนี้ค้างค่าเช่าเกือบ 3 เดือน ล่าสุดมีจดหมายแจ้งยึดทรัพย์บ้านหลังนี้
มิน่า...ถึงจะไปเป็นเด็กขาย สิ้นคิดจริง ๆ
---------------------------------------------------
เอาไงดี อยากรู้เรื่องมันมากขึ้น ก็ให้นักสืบจัดการซิวะจะยากอะไร
เอาน่า...ให้เหตุผลกับตัวเอง
ข้อ 1 กูกำลังเสียใจเรื่องน้องพอลตีจาก นี่อ้างง่าย ๆ
ข้อ 2 ก็...มันบังเอิญเข้ามาพอดี หิ้วขึ้นรถมา ก็แค่นั้น
ข้อ 3 อะไรหว่า...อ้อ แม่มันน่ารัก คุณแม่งี้งั้น คิกขุอาโนเนะ ถึงหลอกด่าแต่ว่าให้อภัย เรียก คุณพี่เหยี่ยว ทุกคำ 555
ข้อ 4 ก็...มันติดค้างเรื่องห้องที่คอนโด เออ...ใช่
ข้อ 5 รู้ล่ะ กูอยากเอาชนะมัน ดื้อตาใสดีนัก
ข้อ 6 ไม่รู้แล้ว คิดไม่ออก
ข้อ 7 ห่านเอ้ย...ไมไพล่ถึงข้อนี้ได้ น่าจะจบตั้งแต่ข้อ 5 แล้ว ช่างแม่ม...รู้แต่ว่าจะเอาชนะมัน หลอกให้หลง หลอกให้ตายใจจากนั้นก็เฉดหัวทิ้งไม่รู้ตัว
กร๊าก..ก 555 เหี้ยมเกรียมซะไม่มี
เวรี่กู๊ด...เหยี่ยว
เล่นกะใครไม่เล่น มาเล่นกะเหยี่ยวขาวบินสูง...ลมเหนือก็ลมเหนือเถอะวะ
คอยดูละกัน!
อา...สบายจาย.ย..ย
ล้มตัวลงนอน สอดแขนให้หนุนแทนหมอนเบา ๆ สูดกลิ่นกายหอมกรุ่น
กอดกระชับร่างผอม
นับแกะตัวที่ 1..2..3...
********************************
unicorn in uniform

ตอน11/2
Yeaw’s again
ทำไมผมกับคุณแม่ของมันคุยรู้เรื่องกันเหรอครับ
ย้อนกลับไปใหม่...เพื่อความสะใจ
มิใช่อะไร เพื่อ ‘ยูนิคอร์น’ โมเดลกันดั้มลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผม ทนฟังคนหล่อบ่นหน่อยละกัน
ขอรีเพลย์ที่คอนโด เหตุการณ์สึนามิถล่มตอน บ่าย 4 โมงกว่า
จะ 5 โมงเย็น ห้องกำลังคราคร่ำด้วยผู้คน 20 ชีวิตบวก (เด็กจากที่บ้าน 10 กว่า ช่างประจำอาคารและผู้เกี่ยวข้อง พ่วงมันกับผม...คู่กรณี)
กำลังสั่งเด็กที่บ้านจัดการเก็บข้าวของ โทรศัพท์สายแปลก ๆ ก็เข้ามา
“สวัสดีค่ะ คุณเหยี่ยวใช่มั้ยคะ?” ผู้หญิงสูงวัย ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว
“ครับ สวัสดีครับ เหยี่ยวพูดครับ?”
“อิชั้น เป็นคุณแม่ของลมเหนือค่ะ” ลมเหนือ ชื่อคุ้น ๆ รึว่าชื่อจริงไอ้เด็กเปรตนั่น
หันไปมอง เด็กชุดขาวครีม ๆ นั่งที่โซฟารับแขก ปลายนิ้วแตะกระจกส่งสัญญาณมือกับปลาในตู้ ชอบจริงเลยไอ้ปลานางฟ้า 25 ชีวิต จ้องไม่วางตาจนนังน้อยๆ ของกูมันจะท้องป่องหมดแล้ว
ก้าวออกไปที่ระเบียง ก่อนมองลอดกระจกบานใหญ่เข้ามา...แม่มึงโทรเข้าเครื่องกูว่ะ
“ลูกลมเป็นไงบ้างค่ะ ยังมีไข้มั้ย?” บุพการีมัน ไม่ผิดตัวแน่
“ดีขึ้นแล้วครับ ไม่ต้องห่วง ผมกำลังจะให้เค้ากลับบ้านพอดี” รีบๆ ออกไปจากชีวิตกูด่วน
“รายงานที่ให้ลมช่วย เรียบร้อยดีนะคะ เห็นคุณกายบอกเสร็จตั้งแต่เที่ยงแล้ว”
“อ่า...ครับ เรียบร้อยดีครับ”
‘แม่เค้าโทรตามลูกเค้าตอน 2 ทุ่ม กูยังอยู่ที่ชลบุรี แทบขับรถตกถนน เลยบอกไปช่วยทำรายงาน’ กายเตรี๊ยมทันทีที่เจอหน้ากันเมื่อเช้า นัดแนะเร่งด่วนดิบดี ห่วงกว่าเรื่องพรีเซนต์งานเรียนเสียอีก
‘ดูดิ๊ มึงทำประวัติประธานนักศึกษาดีเด่นด่างพร้อย เพราะต้องโกหกผู้ปกครองของเพื่อนน้อง’ กายบ่นอุบ ผมไม่สน
ก่อนลงท้าย ‘มึงไม่ทำไรเค้าแน่นะ เค้ากลับบ้านยัง’ซักให้วุ่น ดีที่ต้องแยกกลับเรื่องธุระของแม่มันต่อ เข้ามายุ่งไม่ได้ สม...
ตอนนั้น...ใจกระหวัดถึงแต่เด็กนอนแซ่วบนเตียง
ตอนนี้ล่ะ...เล่นกูแสบลึกถึงทรวง!!!
“โทรศัพท์เค้าคงเสีย แค่คุณแม่จะโทรมาบอกลมว่าไม่ต้องซื้อของเข้าบ้าน คุณแม่ไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนที่ทำงาน คงกลับถึงบ้านราวทุ่ม สองทุ่มค่ะ” เสียงโครมใหญ่ ตามติดด้วยฝ้าเพดานร่วงกราวลงพื้น ดัง’ตึ๊งงงงงงง!!!’ สนั่นหวั่นไหว
เด็กนั่นแค่หันไปมอง แล้วท้าวคางดูปลาต่อ...หนอยยยยย
“เสียงอะไรหรือคะ?”
“ท่อประปาแตกครับ น้ำท่วมห้อง ไฟซ็อตเกือบทั้งตึก” แค่ชั้นนี้ที่เป็นปัญหาและตอนนี้แก้ได้แล้ว ยกเว้นห้องกู...คนเดียวววว ฮือออ
“แย่ล่ะซิคะ” แหง๋ซิ…แต่น้ำเสียงไม่ทุกข์ไม่ร้อนนะครับคุณผู้หญิง
...ปล่อยกูลำบากลำบน
กายเจือกแบตหมด ‘ไปธุระให้คุณแม่ที่สุวรรณภูมิ กลับดึกค่า’ คนที่บ้านมันรายงาน ส่วนสองเจ เจฟฟรี่กับโจ๊กเอาหมาพ่อพันธุ์ไปผสมที่เขาใหญ่ ...สัญญาณขาดๆหายๆ ไม่รู้เรื่องกัน
ฮือ..ไม่มีใครสนใจกูเล้ย..ย
ไม่มีใครให้ระบาย
อย่างงี้ต้องฟ้อง…ฟ้องแม่มึงนี่ล่ะเด็ด!
“คุณแม่ครับ ขออนุญาตเรียนคุณแม่นะครับ สาเหตุหลักมาจากน้องชักปลั๊กตู้ปลาห้องผมครับ” ชั่วสราดดด
“ว่าไงนะคะ ลูกลมน่ะเหรอ” เออ ฟังไม่ผิดหรอก
“ไม่ร้ายแรงหรอกครับ ไม่ต้องตกใจ แค่เครื่องปั้มช๊อต น้ำท่วมห้อง น้ำดันท่อแตกถึงข้างล่างแล้วก็ไฟดับทั้งชั้นลามทั้งตึกเลยครับ”จัดไป
“ตายแล้ว!?” ช่าย..ย...ย นั่นแหละที่ต้องการ
“ตอนนี้ช่างกำลังแก้ไขอยู่ครับ แต่ผมเดือดร้อนจะไม่มีที่ซุกหัวนอนคืนนี้” ใส่ไข่...จังหวะมันมองมาพอดี ...ยักคิ้วกวนตอบกลับ ไม่รู้ล่ะซิกูถือสายใครอยู่ 555
“ช่วยเล่ารายละเอียดคร่าว ๆ ให้ฟังอีกรอบได้มั้ยคะ” เลยจัดไปตามคำขอ แบบสุภาพบุรุษไม่มีขึ้นเสียงเพราะยังไงแม่มึงก็ผู้หญิง กูให้เกียรติ ไม่รังแกเด็กกระทบผู้ใหญ่อยู่แล้ว ...โชคดีที่ไม่พูดมาก แม่มันรับฟังเงียบ ๆ น้ำเสียงสงบกว่าที่คิด
“ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ พอแก้ไขได้อยู่ใช่มั้ย” ทำกูสงบไปด้วยเลย...ฮ่วย
“ครับ แต่ต้องปิดห้องซ่อมกันเลย นี่กำลังหาที่พักชั่วคราวก่อนครับ” ไม่ค่อยจะวางแผนเลย ให้ตาย
“ต้องขอโทษแทนลมด้วยนะคะ ถึงแม้จะเป็นอุบัติเหตุแต่คุณแม่ก็มีส่วนด้วยเหมือนกัน เค้าป่วยยังยอมให้ไปอีก” ...กระทบถึงกูด้วย...อ่า เชื้อแสบไม่ทิ้งแถว
นึกได้...มันขอโทษกูซักคำยังหว่า
เท่าที่จำได้ ไม่มี ...หนอยยยย (โปรดย้อนกลับไปอ่านตอนถาม ได้ความว่าเสียงเพลง..ง มันดัง เหยี่ยวมันความจำปลาทอง)
“ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับคุณแม่ มันเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ ผมเองก็ประมาท น้องไม่ผิดครับ”
“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็มาคุยกันก่อน เจอกันที่บ้านราวสองทุ่มนะคะ”
“เอ่อ ไม่เป็นไรจริง ๆครับคุณแม่...”
“นะคะ ...คุณแม่ไม่สบายใจ อยากขอบคุณคุณพี่เหยี่ยวด้วย ได้ยินแต่ชื่อมานานแล้ว” แหม่ง ๆ ว่ะ ขอโทษหรือขอบคุณกันแน่!?
ยังงง ๆ โดนตัดสายพร้อมเผลอรับปากจะไปส่งมันที่บ้านได้ไงก็ไม่รู้
ไม่น่ารับสายนี้เล้ย ยุ่งยากชะมัด!
---------------------------------------
เปิดประตูเข้าไป มันเดินมาที่หน้าบันไดพอดี
...เปิดฉากจะเอาคำขอโทษ
แตร๊ง ยกแรก!
“แม่มึงโทรมา”
เงียบหน้าเอ๋อ...
“บอกจะไปงานเลี้ยงไม่ต้องซื้อของเข้าบ้าน ให้กูไปส่ง” สะกดอารมณ์มาคุบอกส่งๆ
“...แม่ผม?”
“เออดิ จะมีแมวตัวไหนอีกล่ะ!”
“...บอกกี่โมงครับ?” ฉิววูบ เห็นกูเป็นไร มอไซค์วิน แมสเซนเจอร์?
“สองทุ่ม งานเลิกตอนนั้น!”
“งั้นก็ตามนั้น คุณแม่ขึ้นห้องนอนตอนสามทุ่ม” นิสัยโขลกกันเด๊ะ บังคับกลาย ๆ แต่ไม่พูดชัด ๆ ปล่อยให้คิดเอง กูรู้ กูไม่ใช่ฟาย..ย...ย
ทำท่าจะผละเข้ามุม เรื่องยังไม่จบ กลับก่อนได้ไง
“แล้วคำขอโทษกูล่ะ!?” ไม่พูดพล่าม ปล่อยหมัดตรง
“เรื่อง...?”..หนอย จับหักคอซะดีมั้ย
“ก็เรื่องห้องกูเนี่ย..ย...ย!!!” ยิ่งกว่า180 เดซิเบล เอคโค่ประกอบ เสียงแคร้งคร้างท่อเหล็กกระทบพื้น แล้วเงียบกริบ อีก 20 ชีวิตไม่มีอยู่ในสายตา...(เพราะส่งจับจ้องมาที่คู่เด็ดอัศวินดำหมด) ทั้งห้องช่างว่างเปล่า
ขอลงหน่อยเถอะ มึงไม่พอ ตามมารดามาเดือดร้อนกูอิ๊กกกกก!
“จะให้ทำยังไงก็บอกมา...”
“ปากเก่งแบบนี้จะไม่รับผิดล่ะเซ่!?”
“ผมผิดจริง แต่ก็มาจากคุณด้วย!”
“อะไร ช่วยแล้วจะมาเนรคุณกันเหรอ ไม่ทิ้งให้นอนข้างถนนก็ดีถมไปแล้ว!” หลับลงไปได้ไง จะถึงบ้านรอมร่อ คนขับก็เคว้งซิวะ บอกแค่ย่านที่ตั้งแล้วกูจะตรัสรู้มั้ย ...มันหลังไหน!?
เอาซี้ กัดปากทำไม...
“ผมผิด ขอโทษ มีไรว่ามาเลย!” ปากขอโทษแต่กอดอกฉับ จ้องจะกินเลือดกินเนื้อ หมายความว่าไงฟะ!
“เฮอะ... มีปํญญาเอาตัวให้รอดก่อนเหอะ” จู่ ๆ ก็หนาวสันหลังวูบขึ้นมาเฉย ๆ
“ผมน่ะ รอดอยู่แล้ว!!!”
“ตัวเท่าลูกหมา...นี่นะ” แลกหมัด ไม่ลดละ
“คนอย่างลมเหนือคนนี้ ลูกผู้ชายพอโว๊ย!!!” ขี้หูกระเด็น
“แล้วไอ้.../...แกร๊ง กิ๊ง ก๊อง ก่อง...” กองชิ้นส่วนพลาสติกสีขาวหล่นตามขั้นบันไดยาวก่อนแตกแยกย่อย มาจบลงที่ชานพักตรงหน้า กลืนประโยค ‘แล้วไอ้ลูกผู้ชายคนที่นอนให้กูเอาเมื่อคืนก่อน’ ไม่ให้หลุดออกมา
เพราะชิ้นส่วนสีขาวที่กลิ้งขลุกขลิกตรงหน้า...คือ หัวหุ่นยนต์ขนาดเล็กเกือบเท่านิ้วก้อย
“ยูๆๆๆ...ยูนิคอร์น ลูกพ่อ!!!”
“มึ๊ง..ง...ง ยูนิคอร์นกู!!!” กัดฟันกรอด ไม่ใช่คู่กรณีตรงหน้าแต่เป็นไอ้เด็กอ้วนสิวเขรอะ หอบโมเดลกันดั้มกูล้นเต็มสองมือนั่งอยู่ปากบันไดชั้นบนสุด เด็กรับใช้ในบ้านคนอื่นรุมชี้หมับ พยานปากเอก
รีบทิ้งหุ่นในมือโครมใหญ่...ลงในลังข้างตัว ยกมือไหว้ท่วมหัวน้ำตาคลอ หน้าซีดจนม่วง
ผมใจแป้วตั้งแต่มันโยนโคร๊มมมม แล้ว ไม่มีแรงจะก้าวขา คำด่ายังหาไม่เห็น
ฮือ...ชีวิตของเหยี่ยว!!!
โคตรจะรักเลยอ๊ะ...ทั้งผนังทางขึ้นบันไดเป็นตู้กระจกบิวด์อินมีกันดั้มยืนเต็มแผง ห้องพัง ปลาตาย ไม่มีเท่าโมเดลโดนย่ำยี ...สราดดด
อ่อกกกกก...กระอักเลือด ลมปราณแตกซ่าน!!!
ดูดู๊ ยูนิคอร์น ลูกรัก...กูต้องบินไกลถึงญี่ปุ่น ไปกลับวันเดียวเพื่อให้ได้มันมา นั่งต่อทั้งวันทั้งคืนไม่ได้หลับได้นอน
ตอนนี้... หัวใจสลาย แยกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หัวไปทาง หางไปทาง โฮๆๆๆ
แบบนี้เอามีดมาแทงกูให้ตายเลยดีก่า
...พ่อจะตามลูกไป รอก่อนนะ
..........................
..................................
“น้าสมชาย!” ตะโกนเรียกพ่อบ้านใหญ่ที่คุมเด็กมา “ถามช่างว่าจะกินอะไร โทรสั่งร้านข้าวข้างล่าง ของในตู้เย็นเอาให้ช่างไปด้วยอย่าให้เหลือ” (เบียร์กับขนมที่ให้มันกวาดมาคืนก่อน) ยื่นเงินให้
“...ครับ นายน้อย” พ่อบ้านเห็นกันมาตั้งแต่อยู่เมืองไทยรับคำ รับเงิน นอบน้อมกุมเป้าใบหน้านิ่งเฉย
“ของบนเตียง เอาไปใส่ท้ายรถผม นอกนั้นเก็บกลับบ้านทุกชิ้น ขอย้ำว่าทุกชิ้น อย่าให้เห็นอย่างเมื่อกี้อีก มีไรน้าสมชายจัดการ!” เรื่องใช้อำนาจถูกอบรมมาเปรี๊ยะ ไม่ต้องห่วง
“ไปหยิบของตัวเองมา จะลงไปกินข้าว ไม่ขึ้นมาอีกแล้ว!” สั่งคู่ชก
ตรงไปที่ประตู สิ่งมีชีวิตขยับได้ หลบวูบ!!!
มันฉวยถุงเสื้อผ้าเปียกของตัวเอง พร้อมถังอะครีลิคใสขนาดฟุตคูณฟุต ปลาดาวนางฟ้า 5 ตัว จะเอาไปฝากแม่ ยังไม่ลืมอีกนะมึง
กู...อยากร้องไห้เป็นที่สุด +-+TTT
หัวทุยเดินมายืนเคียงไหล่ขณะที่ผมกดลิฟต์รัว
----------------------------
นั่นเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้า ก่อนโดนหมาหน้าเหี้ยมหัวโจก จ่าฝูง มองหน้า ดีดตีนหลัง...หยาม!!!
ไม่มีหมาลูกสมุนเป็นหมู่คณะ พ่อจะจับตอนยกชุด
ใจจริงไม่อยากเล่า เสียภาพลักษณ์อันดีของเหยี่ยว แต่เพราะกันดั้มยูนิคอร์ตัวเดียว คิดแล้วแค้นสุดขีด สุดฤทธิ์สุดเดช ทน ๆ อ่านไปนะครับ ผมขอทำใจก่อน ...บาย
*******************************************TBC by puppyluv
unicorn in arm

เจอกันวันอังคารนะ ทูมอโฮ่ไม่อยู่ จากไปในที่ไกลปืนเที่ยงมาก แต่จะรออ่านโพสต์ในจอเล็กๆ ....เลิฟๆๆๆๆๆคนอ่าน