(แก้ไขคำส่อติดเรท:15-01-2011)
ลมเหนือที่รัก
ตอน25 ชะโดหลงเล
------------------
Yeaw’s
“มึงยิ้มไร เหยี่ยว?” เจฟฟรี่ดึงสติผมกลับ (โปรดแกล้งๆ ว่าผมกับมันคุยกันเป็นภาษาประกิตครับ)
“ว่าไงนะ กูไม่ทันฟัง” ละสายตาจากสองคนบนเรือแคนูหน้าอ่าว
“อ่านปากกู ...มึงยิ้มบ้าไร-ตั้งแต่เช้าแล้ว!?” เน้นช้า ๆ ชัด ๆ ไม่สบอารมณ์
“555 อ่านปากกู ...มึงเป็นเชี่ยไร หน้าบูดตั้งแต่เช้า” ผมเย้าตอบ เรื่องแกล้งคนกลับขอให้บอก
"เฮ้อ..." ส่ายหน้ายุ่ง
“บอกกูมาเลย เจฟฟรี่ ให้ไว” ถ้าไอ้เพื่อนปากหนักเอ่ยก่อนแสดงว่ามีเรื่อง ต้องรีบให้มันพ่นโดยเร็ว
“เมื่อคืน ...มึงทำไรน้องเค้ารึเปล่า?” last night... ถามโต้ง ๆ ผมสะดุ้งโหยง พวกผมไม่มีความลับต่อกันอยู่แล้ว
“แล้วมึง เมื่อคืน?” ผมถามกลับ ไม่อยากให้มันรู้เท่าไร ผิดปกติวิสัยที่ผมเป็น
“เมื่อคืนกูนอนปวดขา แม่ม... ลามเป็นตะคริวครึ่งน่องแต่ไอ้คนข้าง ๆ เสือกนอนดิ้น ขาพาดก้านคอกูเฉย”
“555”ผมหัวเราะก้องเรือนรับรอง ตามองสองคนลิบ ๆ กลับถึงหาดใน ทำท่าจะออกรับคลื่นอีกรอบ
“สมน้ำหน้า ดีไม่นอนดิ้นทับมึงทั้งตัว” รู้สึกโล่งใจ มันไม่ได้อยากรู้เรื่องผม แต่ไม่ชอบใจคนของมันต่างหาก
“เมื่อเช้ามึงเห็นมั้ย จะไม่ให้กูไปดำน้ำด้วย แค่สนอคเกิล มาไม่รู้กี่รอบแล้ว ยังไม่เบื่อรึไง” เอ็ดไม่จริงจัง ท้ายประโยคลงแผ่วพูดกับตัวเอง
“มันดูโลเกชั่นไว้ถ่ายพรุ่งนี้ เดี๋ยวไอ้กายเอาของมาจะได้ลุยเลย ไม่ต้องหามุมใหม่” ต้องเอาใจครับ ปกติเจฟฟรี่ไม่ใช่คนแบบนี้ แสดงว่าหงุดหงิดจริง
ทานข้าวเช้าเสร็จ ไอ้ตัวน้องรีบลากแขนตัวพี่จับเรือเที่ยวแรกไปดูปะการัง ผมลงไปลอยคอลากพ่วงเกาะตัวติด ปล่อยเจฟฟรี่ค้างเติ่งดูดบุหรี่ จิบเบียร์อยู่โยงเฝ้าเรือคนเดียว
“ข้าวเที่ยงยังไม่ย่อย ...ไปอีกล่ะ” ยังบ่นต่อ ตามองสองตัวที่เริ่มพายออกจากฝั่ง วกตีโค้งรอแล่นหัวคลื่นที่ทุ่นบอกระดับน้ำลึกโน่น
กลับมาทานข้าวเกือบบ่ายโมง คราวนี้ไอ้ตัวพี่ลากตัวน้องลงเรือแคนู พายหายไปเห็นตัวเท่ามด เกือบชั่วโมงถึงกลับมา(ผมสั่งห้ามไปไกล นั่งมองจากรีสอร์ต้องให้เห็นและต้องกลับมาถึงหน้าหาดภายในชั่วโมงครึ่ง ปลดนาฬิกาดำน้ำของตัวเองใส่ข้อมือเรียวย้ำบังคับไปในตัว)
“ทำไมยังไม่ขึ้นมาอีก ไม่หิวรึไง” ผม
แพ็คคู่เริ่มพายออกตัว แล่นฉิวบนยอดคลื่นขาวฟ่อดก่อนปล่อยไหลเข้าฝั่ง ส่งเสียงเย้ๆ โวยวายหัวร่อก้องอ่าว น่าจะสิบรอบขึ้นแล้ว
อยู่กันแค่นั้น เสียงดังจริงแต่มีคนอื่นที่หาดแค่ 3-4 คน ส่วนแคนูลำอื่นลอยอยู่ไกลๆ ส่งเสียงดังได้ไม่ต้องเกรงใจ ไปกับโจ๊กด้วย นั่นฆ้องปากแตกระดับบิ๊ก
ตะโกนว๊ากกกก!!! ดัง เรือพลิกคว่ำ จมหายไปกับฟองคลื่น คน เรือกระจายไปคนละทิศละทาง ผมทะลึ่งพรวดลุกมอง เจฟฟรี่ผุดจากเก้าอี้ คว้ากล้องส่องทางไกลแนบสายตาแน่น
“บ้าเอ้ย จะเอ็กส์ตรีมไปถึงไหน!?” เจฟฟรี่
กว่าจะโผล่มาหัวเราะส่งเสียงดังทำผมใจร่วงจมน้ำตาม
“เฮ้อ---” เจฟฟรี่ถอนหายใจหลังพิงพนักต่อ
ตบที่ต้นขา’ขอพาดโต๊ะนะ’ ผมนึกขึ้นได้อย่าง เพื่อนผมยาวลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย ฝั่งย่าเป็นผู้ดีอังกฤษมาก โดนอบรมบ่มนิสัยสุภาพบุรุษ ผมสนิทใจกับมันเพราะเรื่องพื้นนิสัยคล้ายกัน ถึงตอนโตมาจะทำเป็นลืม ๆ เถื่อนๆ ถ่อย ๆบ้าง แต่ลึกแล้ว ฝังในกมลสันดานแงะไม่ออก
เจฟฟรี่เคยปฏิเสธไม่ทำเพลงให้โปรดิวเซอร์ชื่อดังคนนึง บอกเพราะเค้าเคี้ยวข้าวจุ๊บจั๊บไม่หุบปาก พูดไปกินไป ...’กูลาขาดเลย’ มันบอก เหตุผลนี้เล่นพวกเพื่อนอึ้งเป็นแถบ แต่ผมไม่แปลกใจ
ไอ้เด็กใส่ชูชีพสีส้มแปร๊ดสีเดียวกับเรือ กำลังจะพายออกทะเลอีกรอบ ...เพราะแบบนี้รึเปล่าที่ผมติดใจมัน
.......................
.............................
“กูชอบไอ้เด็กลมนั่น...(ภาษาไทยเป๊ะเต็มๆ ประโยค)” อะไรนะ! --ผมมองขวับ มันรีบยกสองมือห้ามทัพ
"You know...what-are-you-saying?"ช้าๆ ชัดๆ ตาเริ่มขวาง
“กูรู้เหยี่ยว ของ ๆ มึงแตะต้องไม่ได้” ไม่ให้แตะเลยต่างหาก
ผมหวงของแต่ทะนุถนอมนะ ถ้าไม่ใช่ก็ทิ้งทั้งหมด นั่นล่ะผม
“โจ๊กมันไม่เคยชอบใครมากเท่านี้มาก่อน” พูดลอย ๆ พาดเท้าบนโต๊ะ แกว่งสบายๆ
"อ้อ..."
“กูก็ชอบ นิสัยมันสุภาพ มารยาทดีกว่าทุกคนที่เคยเจอ ที่สำคัญเซ้นต์ดนตรีกูว่าเข้าขั้น”
“มึงจะพูดไร เจฟฟรี่?”
“กูจะบอกว่า ถ้ามึงจะเลิกกันรึจะยังไงไม่รู้ แต่ถ้าโจ๊กกะกูยังคุยกับเด็กลมอยู่ มึงคงไม่ว่าใช่มั้ย”
ยอมรับว่าประหลาดใจมาก เจฟฟรี่ไม่เคยติดใจใครง่าย ๆ โดยเฉพาะคนของผม นี่เป็นครั้งแรกที่มันเอ่ยปาก
‘ไอ้เด็กลม’ เรียกซะสนิท เจอกันไม่ถึง 24 ชั่วโมงทำเสน่ห์ใส่เพื่อนกูซะแล้ว---เวรเอ๊ย
วูบนึงรู้สึกขัดใจ เพื่อนสนิทสองตัวเข้ามาก้าวก่าย
อีกวูบกลับดีใจ มันมีเสน่ห์ น่ารัก น่าหลงไหลจนเพื่อนต้องเอ่ยปาก
“แล้วเมื่อคืนมึงทำไรกันรึเปล่า?”
“ถามเชรี่ย -น้องเค้าเสียหาย”
“น้องเค้าเสียหายยยยยย ไม่เป็นมึงว่ะเหยี่ยว” รู้ดี อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่
“เออ---แค่เล็มๆ เด็กมันไม่สบายอยู่ มึงก็เห็น” ตอบแก้รำคาญ เมื่อคืนรู้เต็มอกคนเดียว
“กูว่าแล้ว ...เสียเชิงว่ะ”
“ไมวะ?”
“ถ้ามึงเอาจริง มันไม่มีแรงมาร้องเย้ว ๆ ลากไอ้พี่แมวบ้าไฮเปอร์ตะลอนทัวร์ขนาดนี้หรอกเว้ย ป่านนี้นอนน้ำหมดตัว ไม่มีลุก”
“ไอ้เพื่อนชั่ว เจ้าความคิด เสือกรู้ดีอีก”
“เออดิ แม่ม---ดูดิ กูถูกทิ้ง ใช้ได้ที่ไหน”
“555” สม สุดท้ายวกเข้าเรื่องตัวเอง
--------------------------------
“เชรี่ยเอ๊ย ทำไมไม่ใส่ชูชีพ!” ไอ้หมาบ้าสบถ แทบขมำจากเก้าอี้แล้วตอนนี้
“ไหน!?” ผมรีบคว้ากล้องส่องทางไกล
บ้าเอ๊ย---ทั้งคู่เลย เสื้อกล้ามสีดำข้างหน้านั่น ไอ้พี่โจ๊ก เสื้อขาวซีดๆ แขนสั้นแนบเนื้อจนแทบไม่เห็นสีเสื้อนั่น ไอ้เด็กเวร ใบหน้าหัวเราะกว้างถูกใจ ลู่ตัวเรือให้คลื่นพัดเข้าฝั่ง
ผมจ้องตาไม่กระพริบ
ฟึ่บบบบ!!! เรือพลิกคว่ำ จมหายวับ ไม่มีเสียงโหวกเหวกตะโกน ...ห้องหัวใจก็ผมไร้เสียง
เวลาผ่านชั่วครู่ แต่เหมือนนานมากกว่าทั้งคนทั้งเรือจะโผล่มาให้เห็น คนเสื้อดำกุมหัวเงียบไม่มีเสียง ...แล้วไอ้เสื้อขาวล่ะ!
(โจ๊กมันเคยจะตายเพราะน้ำทะเลตอนรับน้องเฟรชชี่ ก็ที่เคยเล่า-เรื่องเมาเฮี้ยนวิ่งลงทะเลแต่เจือกว่ายน้ำไม่เป็น เปิดเทอมโดนเจฟฟรี่บังคับลงฝึกในสระว่ายน้ำของหมาที่บ้านมัน อ้าง...'เพราะกูช่วยไว้-ชีวิตมึงต้องเป็นของกู' (แมนค่อดดดด สัตว์หน้าขนเอ้ย) ไปเรียนตัวแดงคันคะเยอ เป็นทอปปิคอำฮา เล่นเอาโกรธเป็นอาทิตย์ ดีที่ไอ้กายเปรย 'ไปถ่ายรูปแถวน้ำตกหรือทะเลจะได้ช่วยตัวเอง-ช่วยอุปกรณ์กล้องได้' เพื่อนเตี้ยเลยยอมหัดแต่ก็ว่ายได้แค่งูๆ ปลาๆ ...ที่ผ่านมาเลยโดนเจฟฟรี่คุมเข้มมาตลอด)
ผมหันกลับปิดฝาโน๊ตบุ๊คฉับ แรงง ถอดเสื้อเชิ๊ตสีดำลายเส้นเล็กๆ สีชมพูเร็ว พอๆ กับเจฟฟรี่ถอดเสื้อยืดสีเขียวทหารของมัน กวาดทุกอย่างจากโต๊ะรวบยื่นให้ผม
“am got/am wait!" กูไปเอาเรือ/...กูรอที่ท่า! ผุดว่าพร้อมกัน เจฟฟรี่ขากระเผลกไปรอที่บันไดท่าขึ้นเรือ ผมห้อเอาห่อของฝากพนักงานที่เคาน์เตอร์ ผลักแคนูออก
ไม่ทันใจเลยว๊า!!!
(เอิ่ม...ตั้งนานเพิ่งนึกได้ว่าไม่เคยบอก-บรรยากาศรีสอร์ทประมาณ'กัปตันฮุค-เกาะกูด' มีเรื่องในเล้าที่แต่งแล้วเอารูปลงให้ดูด้วย แต่จำไม่ได้ว่าเรื่องไหน)
-------------------------------
“พี่โจ๊กกกกกก!”เสียงใสตะโกนเรียกต้นหนเรือมัน ผมสั้นโผล่มาให้เห็น เสื้อกล้ามสีดำหน้าทะเล้นตื่นๆ แต่ยิ้มเผล่เจ้าเล่ห์
“ไอ้ลม ออกเรือเร๊ววว” ลากหัวเรือ เสื้อขาวข้างหลังก็รีบไสข้างหลังออกตามพี่ไป
“ให้มันได้งี้ซิน่า...” เจฟฟรี่กัดฟันกรอด
“555ไปเร็วลม ถึงทุ่นโน่น!” ดูมัน ยังมีแรงจะเล่นอีกรอบ
“ไอ้แมวบ้า ชูชีพล่ะ!” เจฟฟรี่ตะโกนลั่นอยู่หัวเรือ เป็นผมอีกอีกล่ะที่จ้วงตาม
เสียงเย้ๆ ไม่มีฟังจากเรือส้มข้างหน้า ตอบเสียงลอดไรฟันของเจฟฟรี่
“อย่าให้จับได้นะมึ๊ง!!!”
ถึงทุ่น ...หันหัวเรือกลับ รออีกฟากของทุ่น เรือสองลำหันหน้าเข้าฝั่ง พายเรียบรอคลื่นลูกใหญ่
แคนูสีส้มโจ๊กนั่งหน้ายิ้มยียวน เด็กคัดท้ายยังหัวเราะร่า หน้าตาเปื้อนน้ำซนๆ
แคนูสีเหลืองข้างกัน เจฟฟรี่ทำท่าปาดคอใส่คนหน้าอีกลำ ไอ้ไฮเปอร์เสื้อกล้ามดำยกนิ้วกลางคืนหมับ หน้าเชิด สบตาชิ๊งชั๊งท้าทายกันเอง
เด็กซ่าดีเดือดไม่มองผมเลย เอี้ยวตัวหลียวหลังรอคลื่น เสื้อขาวแนบเนื้อ ซีดบางลีบติดตัวเห็นรอยจ้ำที่ลำคอและหน้าอกชัดเจน รู้ชัดฝีมือใคร เม็ดสีคล้ำประดับหน้าอกนูนเล็กๆนั่นอีก
รู้งี้ ---ไม่น่า---
“พี่โจ๊ก คลื่นมาแล้ว!” เสียงใสดังก้อง
“เร็วลม ยอดคลื่น!” โจ๊กสั่งเตรียมจ้วง ฝั่งผมก็พอกัน ความสนุกเหมือนเด็กๆ ถูกปลุกเร้าให้ตื่นเต้นคึกคัก
“ไป-เหยี่ยว ห้ามแพ้!!!”
“ได้เล๊ยย555” เผลอมองปากเล็กๆ ปล่อยเรือสีส้มข้างๆ พุ่งไปก่อน
“ต่อให้ ไปให้รอดล่ะ วู๊” ส่งตามหลังก่อนจ้วงพาย สนุกกับการไล่ล่าอักโข
“อ๊า เชรี่ยยยย ---แซงกู!” โจ๊กไม่ยอม
ลำเหลืองของผมขึ้นแซงยอดคลื่นก่อน ก็คนคัดท้ายป้อแป้ตั้งแต่พายออกมาแล้ว เสียงเฮลั่นอ่าว สีส้มอีกลำกำลังจะถอย ไอ้เจฟฟรี่มือไวคว้าเชือกผูกหัวเรือมาได้ไงก็ไม่รู้ กระตุกดึงพรืดหัวเรืออีกลำเสียหลักพุ่งเข้ามา ทันเห็นผมยาวรวบคว้าเอวโจ๊กไว้ ผมโดดคว้าคนของผม กระจายไปคนละทิศละทาง
------------------------
“ทำไมไม่ใส่ชูชีพ!” เอ็ดตัวเย็นในอ้อมแขน
“แค่กๆ ๆ” คำตอบไอค่อกแค่กสำลักน้ำปนหอบแฮ่ก เรือลอยเท้งเต้ง ผมโผจะไปเอาเรือ ถูกแขนผอมตวัดรอบคอแน่น ที่ข้อมือขวายังมีนาฬิกาดำน้ำเรือนใหญ่สีดำของผมติดอยู่ เลือ่นครูดผิวหลังคอผมเอง
“พี่ไปเอาเรือก่อน...” คลายออกจริงแต่วูบทำท่าจะจมน้ำ
"แอ่ะ..."
“เฮ้ย อย่าบอกนะ ว่ายน้ำไม่เป็น!?” รีบกลับมาคว้าเอวบางยกตัวชูขึ้น มันยังไอแค่กแทนคำตอบ
ความโกรธกริ้วแล่นริ้ว มีอะไรที่ผมไม่รู้อีกมั้ยเนี่ย ที่ฝั่งมองเห็นเจฟฟรี่ขากระเผลกแขนพาดบ่าโจ๊กทิ้งตัวล้มนอนแผ่ที่หาด เรืออีกลำลอยเข้าฝั่งตามมันไป
ค่อย ๆ ให้โอบไหล่ พาขี่หลังไปที่เรือใกล้กัน
ขาเรียวเกาะก่ายเอว แขนวาดรอบคอ ผิวกายเสียดสีกัน ผมไม่ใส่เสื้อ ตอนนี้เนื้อตัวเรามีแค่เสื้อยืดบางจ๋อยของมันกั้นอยู่
น้ำทะเลเย็นเริ่มร้อนฉ่า น้องชายอยากออกมากินปลาซะงั้น ลองหยั่งเท้า ขาถึงพื้นน้ำสูงระดับอก
“...เกาะเรือไว้” ไม่ไอแล้วแต่ตาแดง ขอบตาคล้ำ ปากแดงฉ่ำเผยอหอบอากาศ
เร็วเท่าความคิด ผมรวบตัวเข้ามาจูบหนักหน่วง ...รสเค็มน้ำทะเลแต่ล่วงล้ำภายในกลับหวานระมุนนุ่มลิ้น
ขาเรียวเกี่ยวกระหวัดรอบเอวผมแน่น น้องชายผมดีดผึงตึงติดร่องก้นหนั่นเนื้อพอดิบพอดี
ตัวมันอ่อนระทวย ทำท่าจะขาดอากาศ จำใจถอนปาก เสียดาย แต่ข้างล่างมันถอนไม่ได้แล้ว---ซวยล่ะซิ +^+!!!
แบบนี้ไม่ใช่ผม เมื่อคืนนี้ด้วย ตื่นเช้ามากับความรูสึกอิ่มเอม คำว่าเมคเลิฟ เป็นอย่างนี้เอง ทำให้คนใต้ร่างสุขสมอย่างที่สุด แม้จะแค่เล็มๆ อย่างที่บอก ช่างเถอะค่อยเล่าทีหลัง
ตอนนี้โมโหตัวเองที่คิดผิด น่าจะเอามันให้สลบจะได้ไม่มาเล่นอันตรายแบบนี้ ความคิดวูบนึงทึ้งใจผมปาดทิ้งหลุดขั้ว ถ้าเผื่อมันเป็นอะไรไป ถ้าเผื่อเมื่อครู่ไม่มีผมคว้ามันไว้ จะให้อภัยตัวเองตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ยังไง -- ต้องบ้าไปแน่แล้วเหยี่ยว
อ่า ---ช่างหัวมัน ---นาทีนี้จะจัดการยังไงกับปลาชะโดหลงทะเลดี
“ลมครับ ...ช่วยพี่เหยี่ยว-หน่อย...” เสียงผมแหบพร่า ของขึ้นเปี่ยมปรี่แรงรสปรารถนา
“อื๊อ---” ไก่ตื่น รู้ตัวแล้วว่าร่องก้นมันติดอะไร เอื้อมมือบีบบั้นท้าย ลูกตูดดีดสะท้อนมือ กูจะบ้า อีกมือซ้ายม้วนเชือกดึงเรือเข้ามาบัง
ผมซุนจมูกปากไซร้ซอกคอ ลาดไหล่ ดูดดุนแรง ๆ รู้สึกรอบบ่าถูกรัดแน่นเข้าพร้อมกับขาเกี่ยวเอวกระชับแนบ
“นะครับ ...พี่เหยี่ยวไม่ไหวแล้ว” มือว่างพัลวัลเนื้อนิ่มลื่นติดปลายนิ้ว
“ม่ายเอา เดี๋ยวพี่เค้าเห็น... อาร์” เสียงพร่าพอกัน ครางกระเส่านี่อีก กลางลำตัวของผมตุงๆ เหมือนโดนกระทุ้งตะหงิดๆ
“...ไม่เห็นหรอกน่า” ผมเหลือบมอง เรือบังหัวผมมิด ไอ้สองปลาตากแห้งตายคาหาด อย่าลุกขึ้นมานะมึง!!!
กดจูบเร่งรัดเร่าร้อนเอาแต่ใจ จะเอาให้ได้มือไม้วนลูบร่างรวดเร็ว น้ำทะเลเย็นเฉียบเวลานี้ร้อนคลั่งดังทะเลเพลิง
“พี่เหยี่ยว—ลม...อาส์—มะ -ไม่” กระท่อนกระแท่น ผมรู้เลย ส่วนของมันกระทุ้งหน้าท้องผมชัดเจน อยากหัวร่อให้คับอ่าว มันปลุกขึ้น ชอบใจชะมัด
“นะครับ แป๊บเดียว ไม่มีใครเห็น” ต้องอ้อล้อหน่อย ไม่ไหว ตึงตัวอยากให้อาหารปลาเต็มทน
“อาร์ คะ-แค่...แค่ข้างนอกนะ” โอ๊วว--- เสียงสวรรค์!!!
จัดการเลาะขาเหนี่ยวเอวออก ถอดกางเกงเหลือเกี่ยวสอดขาข้างเดียวไว้ ปลิวหายตามน้ำไปเป็นชีเปลือยอุจาดแน่ ไม่ได้ๆ เสียชื่อแย่
“อ๊ะ” ปล่อยตัวเล็กลงยืน มือสวยเกาะขอบเรือ หันหลังให้ ท่ามันช่าง---ได้ใจ
จับขาสวยยืนชิด ย่อตัวอัดน้องชายมุดเข้าร่องบั้นท้าย เนื้อกลีบก้นเบียดแท่งเนื้อแน่นหนึบ
“อา-ซ์ ซี๊ดด” ปลาชะโดซอยถี่รัว กระชับตัวนิ่มในวงแขน บี้เม็ดยอดอกแข็งเป็นไต มืออีกข้างช้อนรวบน้องชายข้างล่าง ชักเร็ว
“ซี๊ดดส์ พะ พี่...เร็ว—เกินไป...ละ-แล้ว” เสียงหวานอุทรณ์ ผมจับใบหน้าหวานเอี้ยวมารับจูบเต็ม ๆ ปากปิดเสียง
“อืมม ...”ครางใส่ปากผม หัวทุยส่ายไปมาน้อย ๆ ได้อารมณ์ชะมัด ตัวมันเกร็งเริ่มจะกระตุก แอ่นกายรับสัมผัสผมเต็ม ๆ รีบละมือจากยักษ์คู่เลื่อนจับน้องชายมันเดี่ยวไมโครโฟนเต็มมือ
“อ๊ะ อาร์ มะ-หวาย อีกๆๆ เร็ว อะๆ อา-ส์”
พักเดียวคนในกอดผมตัวกระตุก หลับตาพริ้ม รูดทิ้งตัวลงน้ำ ต้องรีบฉวยกลัวหล่นลงจมหาย
...จู่ ๆ ฟ้าผ่ากลางทะเล เปรี้ยง!!!
“เฮ้ -ทำไรกันอยู่.../ เรือมาแล้วววววววว!” เปรตสองตัวโหวกเหวก
สมาธิขาดผึง!!!
หันไปทางเรือนรับรอง ห่างออกไปกว่าสองร้อยเมตร เรือเร็วกำลังชะลอเข้าเทียบท่า คนยืนบนหัวเรือจ้องผมเขม็ง ...ไอ้กาย
ไม่สนว๊อย !!!
แต่ ...หันกลับมา อ้อมแขนว่างเปล่า ปลานีโม่หายจ้อย ความเครียดขึ้งทะลุปรอทแตกปัง
เช๊ดเข้ –หัวทุยเล็กๆ นั่น กำลังพุ่งหาฝั่ง!!!
ปลาชะโดยังลอยเคว้ง ขู่ฟ่อ ---ไอ้หยี่ยวค้าง o0o!!!
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกซ์ -ซ์” เสียงกูเอง ตะโกนยาวกู่ก้องทะเล
เตะต่อยน้ำกระจาย ลืมไปมือติดเชือก ...แคนูสีส้มลูกหย่ายลอยปะทะใบหน้าดังปึ๊กกกก!!! รสเค็ม คาวเลือดกระจายทั่วปาก
************************ TBC by puppyluv -^-!!!