เส้นบางๆ ... ที่กั้นระหว่างเรา
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เส้นบางๆ ... ที่กั้นระหว่างเรา  (อ่าน 140749 ครั้ง)

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
มาแล้วครับ เหนื่อยๆ ป่วยๆ เที่ยวเยอะเกิน 555  :m29:
มาต่อแบบยาวๆ ก่อนที่จะลืมไอ้บาสกัน
=============================================
-26-

วันเวลาผ่านพ้นไป ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือระหว่างผมกับบาสก็ยังเป็นอยู่เหมือนเดิม ต่างคนต่างมีแฟน ต่างคนต่างเก็บความรู้สึกที่อยากจะแสดงต่อกัน ทั้งๆที่รู้กันอยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่ความกังวลในเรื่องของคนรอบข้าง ทำให้เราสองคนเป็นได้แค่เพียงเพื่อนสนิทกันในสายตาของคนอื่นๆเท่านั้น

บาสยังคงมาจอดรถเอาไว้ที่บ้านผมเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ต่างออกไปก็คือ มันไม่ขึ้นมาปลุกผมที่ห้องทุกเช้าเหมือนแต่ก่อน ผมเองก็พยายามตื่นให้เร็วขึ้นมากๆ เพราะไม่อยากให้มันขึ้นมาบนห้อง กลัวใจตัวเองมากกว่าน่ะครับว่าจะรักษาความสัมพันธ์ที่เป็น”เพื่อนสนิท” ระหว่างผมกับมันเอาไว้ไม่อยู่

เรายังคงเดินไปโรงเรียนด้วยกันทุกเช้า นั่งเรียนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ยกเว้นบางครั้งที่บาสต้องไปรับปู แฟนมัน บาสถึงจะไม่มาที่บ้านผม แต่ผมกับบาสไม่ได้คุยเล่นกันเหมือนเมื่อก่อน มันก็รู้สึกแปลกๆนะครับ เส้นที่เคยกั้นไว้ระหว่างผมกับมันเกิดขึ้นอีกครั้ง และในคราวนี้เส้นมันไม่บางเหมือนแต่ก่อนด้วยครับ เพราะมันถูกขีดย้ำๆทุกๆครั้งที่เราเริ่มจะลบเส้นอันนั้นไป ทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างผมกับบาสยังคงกัดกินหัวใจ ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันอยู่ข้างในที่ไม่อาจจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับมันที่ทะเล ในบางครั้งมันก็เหมือนกับเกิดขึ้นเมื่อวาน ความอบอุ่นของมือที่กุมกันไว้ยังคงรู้สึกได้ แต่บางครั้งมันก็เหมือนเกิดขึ้นมาแล้วนานแสนนาน ความหนาวเหน็บที่มักจะเข้าไปเกาะอยู่ในหัวใจทุกๆทีที่พยายามนึกถึงมัน

เทอมหนึ่งผ่านไปอย่างเชื่องช้า ก๊วนเรียนพิเศษของผมกับบาสก็ขยายตัว โดยมีทั้ง ปู เหมียว และเพื่อนๆคนอื่นๆที่เริ่มเตรียมพร้อมกับการเอ็นทร๊านซ์ที่กำลังจะมาถึงในอีกหนึ่งปีครึ่ง เราเริ่มเรียนพิเศษกันทั้งเสาร์ อาทิตย์ และมีเวลาว่างน้อยลงเรื่อยๆ

จนในช่วงเปิดเทอมสอง ก็มีหน้าที่รับผิดชอบใหม่เพิ่มขึ้น คือ ต้องทำขบวนพาเหรดให้กับคณะในวันกีฬาสี ซึ่งเป็นหน้าที่ของม.5 ทุกๆคน สีของผมมีทั้งหมด 4 ห้องครับที่จะต้องมานั่งคิด Concept ของขบวนพาเหรดร่วมกันก่อน โดยที่ theme หลักๆจะมาจากพวกม.6 จากนั้นเราค่อยมาขยายความคิดต่อยอดกันอีกทีนึง ซึ่งในปีนั้นผมได้รับไอเดียมาจากพวกรุ่นพี่เป็น “อนุรักษ์วัฒนธรรม” ซึ่งที่เพื่อนๆห้องอื่นคิดมามันก็แค่เอาเสื้อผ้ามาแต่งแล้วก็มาเดินๆ รำๆ ให้มันเข้ากับ Theme หลักของพวกรุ่นพี่เท่านั้น ผมเลยเสนอความคิดอกมาให้สมกับเรียนสายศิลป์ซะหน่อยให้โยนไอเดียไปให้เป็น Rural Fun Fest Parade โดยม. 5 เรามีทั้งหมด 4 ห้อง ให้แบ่งเป็น 4 ภาคทำขบวนแห่พื้นเมืองของแต่ละภาคในประเทศ เอาให้มัน เน้นที่ดนตรีสนุกสนานให้สมกับเป็นขบวนแห่ซะหน่อย ซึ่งทุกๆห้องก็เห็นชอบด้วย ของห้องอื่นผมไม่สนหรอกครับ รู้แต่ว่าผมจองภาคอีสานเพราะมีความคิดบางอย่างอยู่ในหัวเรียบร้อยแล้ว

“เฮ้ย ห้องเราได้ภาคอีสานนะ” ผมประกาศหลังจากที่ไปประชุมร่วมกับห้องอืนๆมาเรื่องกีฬาสี ที่ผมต้องไปเป็นตัวแทนห้องเพราะว่าวันที่มันเลือกตัวแทนห้องกัน ผมดันไม่มาโรงเรียนน่ะสิครับ เลยต้องรับภาระอันนี้ไปโดยปริยาย

“งั้นเราทำอะไรดี” หลายๆคนเริ่มที่จะออกไอเดีย แต่ผมมีความคิดอยู่แล้ว เลยบอกไปในห้องซึ่งทุกๆคนก็เห็นด้วย สรุปว่า ห้องผมจะ “แห่นางแมว” กันครับ ซึ่งจริงๆแล้วเราก็เตรียมตัวกันไม่นานเท่าไหร่ เพราะแต่ละคนก็ต้องมีภาระเรียนพิเศษของตัวเองกันทั้งนั้น ผมเลยแบ่งหน้าที่ไปให้แต่ละคนรับผิดชอบ เช่น คนนี้ไปหาซื้อเสื้อผ้า คนนี้ต่อกรงแห่นางแมว (ซึ่งมาต่อกันที่บ้านผมเอง) อีกคนให้ไปหาเพลงและซ้อมเพลงแห่กับคนที่รับหน้าที่ยกกรง ส่วนอีกคนให้ไปทำเพลงมา กะว่างานนี้ห้องผมเกิดแน่ๆ

2 คืนก่อนหน้าวันกีฬาสี บรรยากาศเริ่มวุ่นวาย เพราะนอกจากห้องเราจะต้องทำขบวนพาเหรดแล้ว บางคนยังต้องไปแข่งกีฬาเป็นตัวแทนคณะอีกด้วย สาวๆบางคนก็ต้องไปซ้อม Leader หลายๆคนที่รับหน้าที่ต่อกรงเลยต้องมาสร้างกรงแห่นางแมวกันที่บ้านผม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ไอ้บาสนั่นเอง
เพื่อนๆคนอืนๆก็แปลกใจอยู่ไม่นอยที่เห็นไอ้บาสดูสนิทสนมกับพี่คนใช้ที่บ้านผมเหลือเกิน รวมไปทั้งรู้ไปหมดว่าอะไรอยู่ตรงไหน ผมเห็นสายตาพวกมันก็เดาออกล่ะว่าคิดอะไรกันอยู่ แต่ก็เฉยๆแล้วล่ะครับ พวกมันก็มีล้อกันไปสักพักเหมือนที่เคยทำ แล้วก็เงียบปากกันไปเอง

เรายึดสนามหญ้าที่บ้านเป็นลานกว้างเอาไม่ไผ่มาทำเป็นแคร่ แล้วลองให่คนที่รับบทเป็นนางแมวลองขึ้นไปดู ส่วนคนที่รับหน้าที่แบกก็ลองแบกดู ประมาณน้ำหนักที่จะต้องแบกกันในวันเสาร์ที่จะถึงซึ่งเป็นวันกีฬาสี กว่าจะเป็นรูปเป็นร่างก็ปากันเข้าไป ตี 2 แล้ว แคร่เพิ่งจะเสร็จ ก็อย่างว่าแหละครับ ทำกันเองแบบไม่มีความรู้เรื่องช่าง ตอกตะปูไปคุยไป เฮฮากันไปเรื่อย

คืนนั้นเป็นคืนวันพฤหัสซึ่งตอนเช้าเรายังต้องไปโรงเรียนกันอีก หลายๆคนที่บ้านใกล้เลยรีบขอตัวกลัไปนอนบ้าน ส่วนบางคนที่บ้านอยู่ไกลออกไปก็นอนที่บ้านผม โดยแม่เปิดห้องรับแขกให้นอนกัน ซึ่งนายบาสของผมอยู่ในกลุ่มหลัง ไม่ต้องแปลกใจนะครับที่ผมไม่ให้เพื่อนนอนห้องตัวเอง เพราะผมเป็นอย่างงี้มาตั้งนานแล้ว ไม่ชอบให้ใครเข้าไปในห้องส่วนตัวเท่าไหร่ เพื่อนที่เข้าไปเนี่ยนับคนกันได้เลยครับ 

“เฮ้ย มีอะไรก็เรียกแล้วกันนะ กูไปนอนก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่ตื่น” ผมบอกกับเพื่อนที่เหลือที่ต้องนอนบ้านผมอีก 3 คน รวมทั้งบาสด้วย แล้วก็กลับห้องตัวเองไป

แต่พอผมอาบน้ำเสร็จ ก็เห็นบางคนนอนอยู่ที่เตียงของผมเรียบร้อยแล้ว

“ขอนอนด้วยคนนะ ห้องโน้นนอนกัน 3 คนมันอึดอัด”

“ก็เอาดิ ถ้าเป็นมึงอ่ะ นอนได้ แล้วไม่ไปอาบน้ำหรอ”

“อาบดิ ก็รอคนบางคนอยู่ อาบน้ำนานชิบเป๋ง”

“อ้าว กวนทีนล่ะ จะนอนด้วยกันรึเปล่าเนี่ย”

“นอนๆ รอแป๊ปนึงนะ ต๋องอย่าเพิ่งรีบนอนนะ เดี๋ยวบาสอาบน้ำแป๊ปเดียว” แล้วมันก็รีบเผ่นไปเข้าองน้ำ

ผมกับบาสไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ ถ้าจะนับกันจริงๆก็ตั้งแต่เราขึ้นชั้นม.5 กันนั่นแหละครับ หรือไม่ก็ตั้งแต่ไอ้บาสมันมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ซึ่งผมก็เห็นมันมีความสุขดี คุยเล่นหนุงหนิงกับแฟนมันทุกวัน ส่วนผมเองก็ยังคบอยู่กับเหมียวเหมือนเดิม ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเหมือนเดิม

ผมล้มตัวลงนอนเพราะรอบาสอาบน้ำเสร็จไม่ไหว ถ้าถามความรู้สึกของผม ผมก็ยังรู้สึกกับมันแปลกๆ อยู่ ซึ่งเกินคำว่า “เพื่อน” แน่นอน ในตอนที่ผมกำลังเคลิ้มๆจะหลับอยู่แล้ว ก็รู้สึกมามีคนมามุดในผ้านวม ไม่ต้องสงสัยหรอกครับ มีอยู่คนเดียวนี่แหละ

“หลับไม่รอกันเลยนะ”

“ก็อาบน้ำนานนี่”

“ตัวจะได้หอมๆไง เผื่อคืนนี้มีคนอยากดม” ยั่วกูจังนะ บาส นอนกันอยู่สองคนเนี่ย มึงจะไปให้ใครดมไม่ทราบ

“ไหนมาพิสูจน์ดิ” ผมพลิกตัวไปกอดมันทันที

ความสนิทสนมระหว่างผมกับบาสที่ทะเล ที่จู่ๆมันก็เกิดขึ้นมาอีกในคืนนี้ หลังจากที่ผมไม่ได้ทำอย่างงี้มาตั้งนานแล้ว ผมอยากกอดมันเอาไว้ให้เต็มอ้อมแขน พร่ำบอกที่ข้างหูไม่ให้มันไปไหน ซึ่งในตอนนี้ผมกำลังทำอย่างนั้นอยู่จริงๆซะด้วย บาสเอามือมากอดผมตอบวึ่งทำให้เราเบียดกันแน่น

“อึม”  ผมครางเพราะรู้สึกดีที่มันทำอย่างนั้น แล้วผมก็เริ่มตกใจที่มือของบาสล้วงเข้ามาในกางเกงนอน

“เฮ้ย บาส” แต่ก่อนที่ผมจะพูดอะไร บาสก็เอาปากมาจูบ พร้อมๆกับจับมือผมให้ไปวางไว้ที่บาสน้อย โอ้ ห่อหมกของผม ห่อเดียวกันกับที่ผมเคยแอบมอง ตอนนี้ผมยิ่งกว่ามองอีก ผมขยับมือช้าๆเหมือนที่บาสทำกับต๋องน้อยของผม

เรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่ผมไม่เคยทำมาหรอกครับ แต่ปกติก็ทำคนเดียว อิอิ ไม่คิดว่าจะมาทำกับไอ้บาสมันเท่านั้นเอง  เสียงหายใจของบาสแรงขึ้น พร้อมๆกับมือที่เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น เสียงมันที่ครางกระเส่าอยู่ที่ข้างหู เร้าอารมณ์ผมให้กระจัดกระเจิงไปไกล

“ต๋อง ต๋องงง โอ๊ย” มันคราง

รายละเอียดเอาแค่นี้พอนะครับ เขิน ไม่กล้าเขียน รู้แค่ว่าหลังจากนั้นเราก็นอนกอดกันทั้งคืน ทำให้ผมนึกไปถึงคืนที่ทะเล เพียงแต่ว่าตอนนี้ไม่มีเสื้อผ้าก็แค่นั้นเอง

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ลืมเรื่องนี้หรอก คิดถึงบาสอยู่เสมอ

แต่วันนี้วันจันทร์แล้วนี่ ยังไม่มาอีกเหรอ :m28:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
โอววว  ห่อหมกของโผมมมม  :m10:
หย่ายปะ 5555 o17

แต่เป็นความสัมพันธ์ที่น่าอึดอัดเหมือนกัน  :m15:

รออ่านอยู่น้า  ไม่ลืมๆ  :m1:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

............ในที่สุด  ก็ได้กินห่อหมก........ :m4: :m4:

ninaprake

  • บุคคลทั่วไป
ห่อหมกเจ้านี้เป็นไงบ้างครับ อร่อยสมกะที่รอป่าว :haun5:  คิคิคิ

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
หุ หุ ตอบก่อนว่า ห่อหมกรสชาติก็กำลังดี ของอย่างงี้ บอกไม่ได้ รสชาติแบบไหน คนชอบไม่เหมือนกันอ่ะ

เดี๋ยวขอเวลาเขียนต่อคืนนี้นะครับ  :a1:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
อะ รักกันแล้วก็ยอมรับมันดีกว่า
 :m3: :m3: :m3: :m3:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
-27-

แต่เช้าวันนั้นไอ้บาสก็ไม่ได้ไปเรียนหรอครับ มันขอโดดเรียนทำแคร่ให้เสร็จดีกว่า เพื่อนอีกสองคนที่นอนบ้านผมเลยขออยู่ทำต่อด้วย แต่ผมมีประชุมกับม.5 ห้องอื่นๆในคณะ เลยต้องไปโรงเรียน แต่ก็กะจะโดดมาช่วยพวกมันต่อตอนบ่ายๆ

วันนั้นก็อยากจะกลับบ้านเร็วๆ เพราะผมก็ยังจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ดี อยากกลับไปเจอหน้ามันเร็วๆ เพราะเมื่อเช้ามันคลุมโปงตลอด ไม่ยอมให้ผมเห็นหน้าเลย สงสัยเขินจัด 555 อยากเห็นหน้าไอ้บาสตอนเขินๆ

พอประชุมเสร็จ ผมก็ได้ฤกษ์โดดเรียนตามระเบียบ ก็กลัวงานมันไม่เสร็จนี่ครับ จริงๆก็อยากให้มันไม่เสร็จเหมือนกัน ไอ้บาสจะได้นอนต่ออีกคืน แต่เรื่องส่วนตัวเอาไว้ทีหลัง เรื่องส่วนรวมต้องมาก่อน (ดูเสียสละ เป็นคนดีมากๆ)

แต่พอกลับไปถึง ก็เห็นแคร่แห่นางแมวของห้องเราเป็นรูปเป็นร่างเรียบร้อยแล้ว ไอ้บาสมันเก่งแฮะ ทำจนเสร็จ เมื่อวานมารุมตั้งแปดคนไม่เสร็จ วันนี้มันทำกันสามคน เสร็จแล้ว เก่งจัง ดีจังไม่ต้องเปลืองแรง

สรุปว่าคืนนั้นแยกย้ายครับ กลับไปพักผ่อนก่อน เดี๋ยวจะน็อคกันก่อน เพราะเรานักกันเช้าวันเสาร์ตอนตี 5 ครับ เพราะต้องไปเตรียมพร้อมกับขบวนพาเหรดกัน

เช้าวันเสาร์ กริ่งหน้าบ้านผมถูกกดตั้งแต่ ตี 4 ครึ่ง ด้วยฝีมือไอ้บาสมันนี่เอง มาเช้าจัง ยังไม่ตื่นเลย แตอีกสักพักทุกคนก็เริ่มทยอยมาครับ กะจะเงียบๆซะหน่อย แต่ไปๆมาๆโวยวายขนแคร่กันซะสียงดัง ขนมือนะครับ ซ้อมแห่ไปด้วย กว่าจะถึงโรงเรียนก็สักพักใหญ่ๆเหมือนกัน

เราตั้งขบวนตอนเจ็ดโมงเช้าครับ นักแสดงที่เป็นแมวก็แต่งตัวมาเรียบร้อย จะใครซะอีกล่ะครับ ถ้าไม่ใช่ “อินู๋มะลิ” รมิดาที่รักนั่นเอง ถ้าไม่ใช่มัน ผมก็ไม่รู้จะไปหานางแมวมาจากไหนเหมือนกัน

ผมให้ทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการแห่นางแมว ทั้งกรง(แคร่) ทั้งคนแบก และก็ตัวนางแมวเอง ห้องผมเป็นกลุ่มสุดท้ายในขบวนพาเหรดครับ เลยทำเต็มที่ได้ ภาคอื่นๆก็ผ่านไป ทั้งเหนือ กลาง ใต้ พอถึงเวลา ผมก็ให้สัญญาณกับขบวนของผมทันที

นางแมวเอย มาร้องขอฝน ขอน้ำมนต์รดแมว ขอเบี้ยค่าจ้าง หามนางแมวมา ให้ฝนตกเจ็ดท่า ฝ้าผ้าเจ็ดที ยายชีแก้ผ้าดูฮี้ (ต้องร้องขึ้นเสียงสูง เดี๋ยวลามก)

ฝนเทลงมา ฝนเทลงมา จั๊กเทลง ฝนเทลงมา

พอถึงตอนนี้ พวกที่เป็นชาวบ้านก็ต้องมาน้ำสาดไปที่แมว นู๋มะลิของผมก็ต้องแสดงทำท่าว่า กลัวน้ำ กลัวคน

ใครไม่ให้ไก่ ให้หนูเกล็ดข้าว ใครได้ข้าวไม่ได้ข้าว ก็ให้ข้าวตายฝอย ใหเกลอยตายนึ่ง ผัวใครขึ้หึง แม่บึ้งตอดตา

ฝนเทลงมา ฝนเทลงมา จั๊กเทลง ฝนเทลงมา

พอถึงตอนนี้พอเห็นว่า นู๋มะลิเปียกได้ที่แล้ว ขบวนกำลังอยู่หน้าคณะกรรมการ ผมก็ให้สัญญาณกับขบวนให้เปลี่ยนเพลง ไอ้บาสที่ทำหน้าที่ดูเสียงให้ก็ใส่เทป (สมัยนั้น) ลงไปในเครื่องเสียงทันที

ไอ้เธอมันคือนางแมวยั่วสวาท ไอ้เธอมันคือปิศาจหุ่นเซ็กซี่ เธอกินผู้ชายเป็นอาหาร และอันตรธานไปในยามราตรี ข้าคือยมทูต มารับตัวเธอ

ไป ไป ไปลงนรกซะเถอะที่รัก ฉันจะลงโทษเธอ

เสียงเพลงที่เปลี่ยนไปเป็นเพลง “นางแมว” ของ หิน เหล็ก ไฟ (เด็กรุ่นนี้จะรู้จักกันมั๊ยเนี่ย) กระหึ่มทั่วสนาม เรีกเสียงกรี้ดของคนที่นั่งเชียร์อยู่บนสแตนด์ทุกคน เพราะพอเพลงเปลี่ยนไป นู๋มะล็เริ่มถอดเสื้อออก ให้เป็นชุด Catwoman ที่เธออุตส่าห์เย็บมาเอง ชุดสีดำรัดรูปที่ดูแล้วไม่ค่อยเข้ากับหุ่นของเธอเท่าไหร่ แต่ความใจกล้ามีเกินร้อย บวกกับชาวบ้านก็ถอดชุดจากชาวบ้านมาเป็นเด็กเที่ยว ส่วนคนแห่ก็ถูกชาวบ้านถอดเสื้อ โชว์กล้ามแบนๆอวดสาวๆ

งานนี้ไม่มีเนื้อหาครับ เอามันส์อย่างเดียว สะใจเป็นบ้า คนอืนๆทำแค่ป้ายๆมาแห่ รณรงค์งดสูบบุหรี่ รณรงค์โน้นนี่ แต่พวกผมเอามันส์ เอาบ้า เอาสนุกมาไว้ก่อน ของห้องอื่นๆก็ทำดีนะครับ เพราะเค้าทำแบบไทยๆ สนุกๆ

วันนั้นพวกผมก็ขึ้นรับรางวัลที่ 1 ขบวนพาเหรดตามที่ทุกๆคนคาดเอาไว้ ผมวิ่งขึ้นไปรับรางวัลจากผู้อำนวยการทันทีที่ประกาศออกมา โดยมีไอ้บาส ไอ้แวน วิ่งตามไปติดๆ ที่พวกเราดีใจกันขนาดนี้ เพราะสีแดงของเราไม่ได้รางวัลอะไรมาสองปีติดต่อกันแล้ว รางวัลนี้เป็นรางวัลแรกที่ได้หลังจากที่รอกันมา ไอ้บาสทำเนียนดีใจมาหอมแก้มผมต่อหน้าเพื่อนคนอื่นๆ ผมได้แต่อึ้งในความกล้าของมัน แต่เท่าที่สังเกตคนอื่นๆก็ไม่ได้อะไรนะครับ เพราะทุกคนกำลังดีใจเลยไม่ได้คิดอะไรมาก

คืนนั้นเราก็ไปฉลองกันทั้งห้องครับ RCA ง่ายดี สมันก่อนมันไม่มีกฎหมายว่าต้องอายุมากกว่า 20 ถึงจะเข้าผับได้ งานนี้ไปกันเยอะขนาดนี้ ก็เละดิครับ เมากันอ้วกเลย เวลาไอ้บาสเมาเนี่ยก็เข้ามานัวเนียผมจนเพื่อนๆแซว ก็ไม่เห็นมันสนใจ เข้ามากอดคอแล้วก็ซบไหล่อยู่นั่นแหละ เมาแล้วลืมมั๊งครับว่าต้องระวังตัว

ถ้าโลกนี้มีผมกับไอ้บาสอยู่กันเพียงสองคนก็คงดี หรือหากโลกนี้ทุกคนเข้าใจความรักของผมกับมันมากกว่านี้ ผมกับบาสก็คงจะมีความสุขกับคืนนั้นได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ แต่โลกของความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อการอยู่ร่วกัยและการเปิดเผยความรู้สึกมันมีปัจจับอย่างอื่นที่มากกว่าคนสองคน

ก็เพราะเหตุการณ์ที่ผับในคืนนั้นเอง ทำให้เพื่อนบางคนล้อพวกผมหนักขึ้น หาว่าไอ้บาสเป็นตุ๊ดบ้าง เข้ามาแซวมันตลอดเวลาบ้าง จนมันเครียดมาก และในที่สุดเพราะเรื่องนี้ มันเลยตัดสินใจอะไรบางอย่าง

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ  แต่มันคือแสนไกล

 :o12: :o12: :o12: :o12:

บาสจะตัดสินใจทำอะไรอ่ะ อยากรู้ๆ

 :m17:


kimsumsoon

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้จัง บาสจะตัดสินใจทำอะไร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






anston

  • บุคคลทั่วไป
อ๋ายยยยยยย..อย่าบอกนะว่าบาสตัดสินใจ..
แตกสาวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย..อิอิ(ล้อเล่นน่ะ)
เข้าใจความรู้สึกของคนโดนล้อมากๆว่าคงเครียดสุดๆ..
ทั้งที่มันก็เป็นเรื่องจริง..แต่เป็นเรื่องจริงที่เปิดเผยไม่ได้.. :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
-28-

ไอ้บาสมันเงียบลงเรื่อยๆ มันคุยกับผมน้อยลงแม้กระทั่งในโทรศัพท์ตอนกลางคืนที่เคยมี มันก็เงียบหายไป ตอนเช้ามันก็ไม่มาหาผมเหมือนเก่า ผมก็เข้าใจมันนะครับ ว่ามันเครียดเรื่องโดนล้อ ถึงแม้ว่าเรื่องที่พวกเพื่อนๆล้อ มันจะเริ่มซาๆลงไปบ้างแล้วก็เหอะ

จู่ๆบาสก็โทรมาหาพร้อมกับบอกว่า มันจะใช้วุฒิสอบเทียบที่ได้มาสอบเข้า ม.เอกชนแห่งนึงแถวๆถนนรามคำแหง ซึ่งใช้แค่เลขกับภาษาอังกฤษสอบเข้าเท่านั้น และมันจะเรียนที่นี่เป็นเทอมสุดท้าย

“อะไรของเมิงวะ บาส ทำไมไปสอบไม่บอกกูเลยล่ะ กูจะได้ไปสอบด้วย”

“กูแค่อยากรีบเรียนให้จบน่ะ”

“แล้วเมิงจะทิ้งกูทั้งอย่างงี้เลยเนี่ยนะ”

“ก็กูไปเรียนก่อนล่วงหน้าไง ปีหน้ากูก็เอ็นใหม่อยู่แล้ว จะได้เลือกเรียนมหาลัยเดียวกันไง ถ้าเอ็นไม่ติด เมิงก็มาเรียนกับกูที่นี่ กูจะได้สอนเมิงด้วยไง”

“พูดง่ายๆนะ แล้วต้องทำยังไงมั่งอ่ะ”

“ก็เค้าให้ไปเรียน intensive ก่อน ช่วงปิดเทอมกูคงไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ ต้องเรียนตลอดเลย เนี่ย กูยังไม่ได้บอกใครเลยด้วย”

“ว่าเมิงจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว” ผมพูดสวนขึ้นมา

นี่มันจะให้ผมรู้สึกยังไง จู่ๆมันก็มาบอกว่า มันสอบเข้ามหาลัยได้ มันจะไม่เรียนที่นี่ด้วยกันกับผมแล้ว ผมจะไม่มีมันนั่งเรียนอยู่ข้างๆแล้ว ปิดเทอมนี้มันก็จะได้เจอเพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ สังคมเด็กมหาลัยที่ทุกอย่างดูอิสระและเป็นผู้ใหญ่ ม. 6 ของผมก็ไม่มีมันอีกต่อไป ถึงแม้ว่ามันจะบอกว่า ปีหน้าเราก็จะไปเอ็นด้วยกันก็เหอะ น้ำตาผมมันจะไหลให้ได้เลยล่ะครับ ทำไมผมมันอ่อนแอขนาดนี้ก็ไม่รู้

จริงๆผมก็น่าจะดีใจไปกับมันนะครับ มันสอบเข้ามหาลัยได้ แต่ทำไมอารมณ์ของผมถึงได้แปลกๆอย่างนี้

“ต๋อง โกรธหรอ”

“เปล่า ไม่ได้โกรธ กูดีใจด้วยนะ ที่สอบติด แต่ไม่รู้ดิ มันรู้สึกแปลกๆว่ะ กูนึกว่าเราจะได้เรียนม.6 ด้วยกัน”

“อึม” แล้วบาสก็เงียบไป จนผมต้องวางสาย

ผมรู้นะครับว่ามันเครียดเรื่องที่เพื่อนๆล้อ เครียดมากด้วย แต่ที่มันหาทางออกด้วยการหนีไปเรียนที่อื่นแบบนี้ มันทำให้ผมพูดไม่ออกเลยจริงๆ ผมสมควรจะบอกให้มันเรียนด้วยกันก่อนแล้วค่อยไปสอบใหม่ปีหน้ารึเปล่า หรือผมควรจะปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้ เป็นไปตามทางที่มันได้เลือกแล้ว

สังคมในสมัยนั้น ไม่ได้เปิดกว้างขนาดนี้หรอกครับ ถึงแม้ว่าจะมีหนังสือเกย์วางเกลื่อนก็ตาม แต่การยอมรับตอนนี้ว่าน้อยแล้ว ตอนนั้นมันน้อยยิ่งกว่าอีก ถ้าเพียงแต่เราใช้หัวใจนำทางให้มากขึ้น “เรา” ในที่นี้หมายถึงทั้งบาสและผม แค่มันยอมรับและทำเฉยๆ ไม่ต้องไปเครียดกับเรื่องที่มันถูกล้อ หรือ ผมยอมเอ่ยปากรั้งมันเอาไว้ในตอนที่ผมรู้ว่ามันจะไปเรียน ตอนนี้ผมกับมันอาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้ได้

=============================================
พอเราถ่ายรูปกันกับนาคเสร็จ ก็ถึงเวลาที่นาคจะเข้าโบสถ์ ผม นู๋มาลี บาส แล้วก็ชัชเดินไปตามขบวนแห่นาคไปตามทาง

ในช่วงที่เดินอยู่ บาสก็พยายามเดินเข้ามาคุยกับผม แต่ผมก็พยายามเดินเลี่ยงมันซะ เพราะเกรงใจแฟนมันน่ะครับ มองตาเขียวซะขนาดนั้น เฮ้อ เป็นผมก็คงหวงนะ บาสมันก็รูปหล่อ พ่อรวย เด็กนอก ครบสูตรชายหนุ่มในฝันซะขนาดนั้น เป็นใครก็ตองหวงเป็นธรมดา

และอีกอย่างผมก็ไม่รู้ว่า บาสเล่าเรื่องผมให้ไอ้ชัชฟังมากน้อยขนาดไหน ป้องกันเอาไว้ก่อนดีกว่า เผื่อคุยเธอกรี้ดขึ้นมาระหว่างที่แห่นาค มันจะไม่ดี

ผมเลี่ยงออกมาเดินกับนู๋มาลี ชวนมันคุยเรื่องงานเพื่อไม่ให้บาสมันสังเกตว่าผมชิ่ง ผมค่อยๆทิ้งระยะห่างกับบาสและชัชออกไปเรื่อยๆ

“ไอ้ต๋อง อะไรของเมิงเนี่ย เดินช้าจัง ไอ้บาสไปไหนแล้วเนี่ย” อินู๋มาลีบ่น เพราะเห็นผมเดินช้าจนจะมาอยู่หางแถวอยู่แล้ว

“มันจะไปไหนก็เรื่องของมันเหอะ ก็วนอยู่รอบโบสถ์แค่นี้แหละ ไม่ไปไหนหรอก เดี๋ยวก็เดินทันน่า”

“งั้นรีบเดินเหอะ จะได้ไปคุยกับมันด้วย”

“อย่าเลยว่ะ ไม่เห็นหรอ ไอ้ชัชแม่ม มองกูจนแทบจะกินเลือดอยู่แล้ว”

“ทำไม หรือเมิงกลัวถ่านไฟเก่าคุ”

“อิบ้า พูดจานี่นะ ถ่านบ้านพ่อเมิงสิ คุ”
“แหม ก็ตอนเรียน กูเห็นเมิงกับมันสนิทกันจะตาย พวกกูยังเอามาล้ออยู่บ่อยๆ”

“ก็เพื่อนสนิทกันธรรมดา ไม่มีอะไร พวกเมิงชอบคิดไปเอง ล้อมันจนมันเครียด หนีไปเรียนมหาลัยเลย จำไม่ได้หรอ”

“ก็นั่นดิ ตอนเมิงมาบอกที่ห้อง กูยังตกใจเลย งงด้วย มันไปสอบตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่บอกใครสักคน”

“เออ นู๋มาลีรู้ยัง ไอ้ต้ามันจะแต่งงานนะ ตอนปลายปี ที่หัวหิน มันโทรมาบอกกู”

“เฮ้ย จริงดิ มันจะบินกลับมาแต่งที่นี่เลยหรอ”

คือไอ้ต้าพอจบม.6 มันก็ย้ายไปอยู่แคนาดาทั้งครอบครัวเลยครับ ผมก็ติดต่อกับมันบ้าง เวลามันกลับเมืองไทยก็นัดกันเที่ยวอยู่บ่อยๆ

“ใช่ ช่วงธันวาเนี่ยแหละ”

“งั้นกูต้องรีบหาแฟนไปควงตอนงานไอ้ต้าแล้วล่ะสิ”

“555 รีบหน่อยนะ ดูท่าผู้หญิงห้าวอย่างเมิงเนี่ย ท่าทางจะหาคนไปด้วยยาก”

“อินี่ ปากเนี่ยนะ ว่าแต่กู แล้วเมิงล่ะ มีคนไปด้วยรึยัง”

“จะมีมั๊ยเนี่ย ทำแต่งาน คงมีเวลาไปหาแฟนมาควงไปงานเหมือนเมิงหรอก”

“แล้วไอ้บาสรู้รึยังเนี่ย”

“ไม่รู้ดิ แต่รายนั้นน่าจะมีคนควงไปงานอยู่แล้วละ 555”

“ปากดี ถามจริงๆเหอะ ไอ้ต๋อง เมิงไม่หวงไอ้บาสมันมั่งเลยหรอ”

“หวงทำเตี่ยเมิงสิ กูจะหวงมันทำไม กูไม่ได้เป็นอะไรกับมันซะหน่อย”

ผมก็ยังยืนยันนะ ว่าผมไม่ได้เป็นอะไรกับมัน ผมไม่เคยตกลงกับมันว่า สรุปแล้วเราเป็นอะไรกัน อย่างที่เคยบอก เราเหมือนเป็นแฟนกัน ถ้ามองในการกระทำบางอย่าง แต่ก็ไม่ใช่เพราะมันมีเส้นบางๆมากั้นระหว่างเราอยู่ตลอดเวลา

ความรักมันไม่ใช่แค่เรื่องของความรักเพียงอย่างเดียว แต่มันมีเรื่องของ “จังหวะ” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ เราอาจจะเจอคนที่ใช่แต่มาผิดเวลา หรือเจอบางคนที่ไม่ใช่แต่เค้าเข้ามาในเวลาที่เหมาะสม หรือเราอาจจะเป็นคนที่ใช่สำหรับคนบางคน ในเวลาที่เราหรือเค้ามีอีกคนอยู่แล้ว
พระเจ้ามักจะเล่นตลกกับความรักแบบนี้เสมอแหละครับ

ผมมานึกดูดีๆ ถ้าเป็นตอนนี้ผมเจอกับบาสแบบที่มันยังไม่มีใคร และผมหายเจ็บกับความรักครั้งที่แล้ว ความสัมพันธ์ของเราวันนี้อาจจะไม่ใช่คลุมเครือแบบนี้ ผมคงไม่ต้องเลี่ยงมาเดินกับนู๋มาลี แต่อาจจะเดินเคียงข้างกับมัน ผมคงจะบอกสิ่งที่เก็บไว้ในใจมาตลอดเรื่องของเราสองคน ว่า จริงๆแล้วเราเป็นอะไรกันแน่ แล้วตอนนั้นผมรู้สึกยังไงกับมัน

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
นี่สินะสาเหตุที่ต๋องตามไปเรียนที่นั่น
 :m15: :m15: :m15:
จะโทษใครได้ บาสอาจไม่ได้ไปเพราะกลัวคนอื่นล้อ
แต่อาจไปเพราะใครบางคนกลัวคนอื่นล้อหรือปล่าว
 :a6:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
จะจบแหล่ว อัดเขียนให้จบไปเลย
=====================================
-29-

ความรู้สึกหรือความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้บาสมันก็อาจจะดูแปลกๆในสายตาของคนอื่นนะครับ แต่สำหรับผม ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร มันเป็นเพื่อน เป็นคนที่รู้ใจ เป็นคนที่ผมสนิท แล้วช่วงเวลาที่เหลืออีก 1 ปี ที่ผมจะไม่มีมันอยู่ด้วย ผมก็ต้องทนได้

ผมแทบจะไม่ได้เจอไอ้บาสในช่วงปิดเทอมเลย เพราะมันต้องเรียน Intensive course ตลอด ขนาดที่ห้องจัดทริปไปเขาใหญ่กัน มันก็ไปไม่ได้

ช่วงเวลาในตอน ม.6 ของผมผ่านไปเร็วมาก วันๆก็มีแค่เรียนหนังสือ เตรียมเอ็นซ์ เรียนพิเศษ อ่านหนังสือดึกๆทุกวัน ผมสนิทกับเพื่อนคนอื่นๆในห้องมากขึ้นตั้งแต่งานกีฬาสีตอน ม.5 ซึ่งปีนี้ผมโดนเลือกให้เป็นประธานสีตั้งแต่เปิดเทอมเลย ข้อหาไอเดียบรรเจิดจากขบวนพาเหรด ปีนี้ทุกคนเลยตั้งความหวังว่าจะต้องคว้ามาให้ได้หลายๆถ้วย ทำให้ผมยิ่งต้องแบ่งเวลาระหว่างการเรียนและกิจกรรมมากขึ้น ทำความรู้จักกับตัวแทนจากห้องอื่นๆ ประชุมกับอ. ที่ปรึกษา หรือที่เราเรียกกันว่า แม่สี คัดเลือกเชียร์ลีดเดอร์อีกสารพัด ไอ้บาสค่อยๆเลือนหายออกไปจากชีวิตประจำวันของผมมากขึ้นๆ

“ฮัลโหล ต๋อง ที่มหาลัยกูเปิดรับเทอม 2 ด้วย ไม่มาสอบหรอ” เสียงโทรศัพท์ที่มาพร้อมๆกับเสียงของคนที่ผมลืมไปนาน

“โหย หายไปนานเลยนะเมิง กูเกือบลืมล่ะ ว่าแต่ เมิงชื่ออะไรนะ 555”

“ไอ้นี่ นานๆโทรมาที ยังกวนอีก”

“รู้ด้วยหรอ ว่าไม่ค่อยโทรมาน่ะ”

“ก็มันยุ่งๆนี่หน่า ทั้งรับน้อง กีฬา freshy อีก โอ๊ย กิจกรรมมีอีกตั้งเยอะ”

“ไม่พูดเรื่องเรียนเลยนะเมิง”

“555 ก็เรื่องเรียนก็เรื่อยๆอ่ะ ยากหน่อยเพราะมันเป็นภาษาอังกฤษหมด แต่เพื่อนๆพี่ๆที่ชมรมก็ช่วยๆกัน เลยพอไปไหวน่ะ เนี่ยเทอมหน้ามีงาน X’Mas ด้วย เมิงต้องมาเที่ยวนะ”

“เออ ๆๆ แล้วกูจะไป”

“ว่าแต่ เมิงจะมาสอบที่นี่รึเปล่า เค้าเปิดรับตอนเทอม 2 ด้วย เมิงเอาวุฒิสอบเทียบมาใช้ก็ได้ จะได้มาเรียนด้วยกันซะทีไง”

“กูไปไม่ได้หรอก ปีนี้กูเป็นประธานสีว่ะ ถ้าไปรวนหมดแน่ นี่ก็ใกล้กีฬาสีแล้วด้วย ก็ปีหน้าก็ไปสอบไง พร้อมๆกับเอ็นซ์อยู่แล้ว จะได้อ่านหนังสือทีเดียว”

“เมิงต้องมานะ กูจะได้แนะนำให้เพื่อนรู้จัก”

“แล้วเมิงเรียนเป็นไงมั่ง”

“ก็คะแนน mid term ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เด๋วก็สอบ final ล่ะ เดี๋ยวก็รู้”

“เออ ก็อย่าเที่ยวให้มันมากน่ะดิ เล่นออกทุกอาทิตย์เลย เที่ยวหนักเป็นบ้า”

“ก็เพื่อนมันเที่ยวกัน ก็ต้องไปด้วย เรียนมหาลัยก็สบายแบบนี้แหละ”

“ค๊าบบ พ่อหนุ่มมหาลัย กูมันเด็กเตรียมเอ็นซ์เว้ย งดเที่ยว 1 ปี แล้วที่เมิงบอกว่าจะเอ็นซ์กับกูอ่ะ เริ่มอ่านหนังสือมั่งนะ เด๋วก็ลืมหมดหรอก”

“มือชั้นนี้แล้วน่า เมิงกับกูจะได้ไปเรียนด้วยกันอีกไง”

“หึหึ เอาเหอะ ให้มันจริงแล้วกัน”

ไอ้บาสมันดูเปลี่ยนๆไปอ่ะครับ ดูร่าเริงมากขึ้น มีเพื่อนเยอะขึ้น ซึ่งก็ดีนะครับ ดีใจกับมันด้วยเพราะตอนอยู่ที่โรงเรียนก็เห็นมันเอาแต่เครียดเรื่องโดนล้อ ไปอยู่ในสังคนใหม่ๆ คงสบายใจขึ้น แต่ไอ้เรื่องเที่ยวบ่อยขึ้น เล่นทำผมเป็นห่วงมันเหมือนกัน

ตอนนี้นานๆมันจะโทรมาทีครับ เพราะดูมันจะยุ่งๆ มันเรียนคณะ BBA ที่เป็นคณะที่ใหญ่ที่สุดในมหาลัย มีคนเป็นพันๆ มันเลยต้องเข้าชมรมเพื่อที่จะหากลุ่มเรียน ก็น่าสนุกดีนะครับ ชีวิตเด็กมหาลัย เมื่อเทียบกับชีวิตเด็กม.6 อย่างผม

ผมปฏิเสธมันไปเรื่องที่มันจะให้ไปสอบเข้าเทอมสองด้วย เพราะผมอยากจะใช้ชีวิตม.6 ให้เต็มที่มากกว่า เพราะผมว่าชีวิตตอนมัธยมเนี่ย สนุกที่สุดแล้ว โรงเรียนก็ดี เพื่อนก็ดี จะรีบไปทำไมกัน

ปีนั้นสีผมได้รางวัลถ้วยรวม พาเหรด กองเชียร์ สแตนด์เชียร์ เรียกว่า กวาดมาเกือบทุกรางวัล เล่นเอาหายเหนื่อยกันไปเลย เป็นส่วนที่ผมค่อนข้างภูมิใจมากๆเพราะปีนี้สีของผมเด่นกว่าทุกๆสี ทั้งสแตนด์เชียร์ที่วาดออกมาเป็นพระปรางสมัยอยุธยา (ชื่อสีครับ คณะอยุธยา-สีแดง) ไม่ได้นอนไป 4 คืน / เชียร์ลีดเดอร์ที่ซ้อมกันเต็มที่ตลอด 3 เดือนเต็มๆ / ขบวนพาเหรดที่ใส่ไปแบบไม่ยั้ง มีนี้ขอพาวงลูกทุ่งมาลงในสนาม แล้วก็การให้น้องๆ ม.1-2 ซ้อมเชียร์กันแบบลืมตาย ทั้งด่า ทั้งใจดี เรียกว่า งานนี้ทุกคนสายตัวแทบขาด

วันกีฬาสีไอ้บาสมันก็มาครับ มาตอนรับรางวัลพอดี พอผมเห็นมันก็วิ่งเข้าไปหาเพื่อที่จะอวดรางวัลที่ได้มา มันก็ทำหน้าเฉยๆ แล้วก็แค่ เออ เออ ดีใจด้วย ประมาณนี้ แล้วสักพักมันก็ขอตัวไปเที่ยวกับเพื่อนที่มหาลัยต่อ เข้าใจครับว่ามหาลัยกับม.ปลายมันต่างกัน มันอาจจะเห็นว่า แค่กีฬาสีแค่นี้เอง แต่กับผม มันเป็นประสบการณ์ช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตม.ปลายเลย เล่นเอาเซ็งไปหลายวันเหมือนกัน

หลังจากกีฬาสีก็ถึงคราวที่ผมจะต้องตั้งใจอ่านหนังสือกันแบบลืมตายกันอีกครั้ง หลังจากที่หยุดมา 1 เดือนเพราะกีฬาสี อีกแค่ 3 เดือนก็จะถึงเวลาที่ต้องสอบเอ็นซ์ทรานกันแล้ว แล้วผมยังต้องไปสอบมหาลับของไอ้บาสมันด้วย สอบมัน 2 ที่เลย สะใจ บ้าพลังดี

kimsumsoon

  • บุคคลทั่วไป
คนแรก....อิอิ

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
เป็นเรื่องธรรมดานะ เรียนกันคนละที่ ต่างคนต่างมีเพื่อน

ชีวิตนักเรียนกะนักศึกษายิ่งต่างกันไปอีก

คนก็ต้องเปลี่ยนไป

ฮือ ฮือ เรื่องมันเศร้า

anston

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งอยู่ห่างกัน..ความสัมพันธ์ก็ยิ่งห่างกันออกไปทุกที..
เส้นบางๆที่เคยกั้น..ก็กลายเป็นกำแพงขึ้นไปทุกที..
แล้วตกลงว่าได้ไปเรียนด้วยกันอีกมั้ยอ่า..
แล้วมาต่ออีกน๊า.. o15

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อ้างถึง
ความรักมันไม่ใช่แค่เรื่องของความรักเพียงอย่างเดียว แต่มันมีเรื่องของ “จังหวะ” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ เราอาจจะเจอคนที่ใช่แต่มาผิดเวลา หรือเจอบางคนที่ไม่ใช่แต่เค้าเข้ามาในเวลาที่เหมาะสม หรือเราอาจจะเป็นคนที่ใช่สำหรับคนบางคน ในเวลาที่เราหรือเค้ามีอีกคนอยู่แล้ว

โดนมากกกกก  คนที่ใช่ ในเวลาที่ผิด   :m15:

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
พอห่างๆกันไป

ต่างคนต่างก็มีสังคมของตัวเอง

ช่องว่างที่เคยคิดว่ามีเพียงเล็กน้อย

ก็กลับยิ่งขยายออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

T-Jang

  • บุคคลทั่วไป
 :m27:มาร้องเพลงรออ่านต่อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
-30-

อย่างที่บอกแหละครับ ผมต้องไปสอบทั้งสองที่ ซึ่งแน่นอนว่า วันสอบมันไม่ใช่วันเดียวกันอยู่แล้ว ไอ้บาสดูแลผมเป็นอย่างดีตั้งแต่ไปซื้อใบสมัครให้ มาช่วยดูตอนกรอกใบสมัคร และขับรถมารับวันสอบ

เพื่อนๆในห้องอีก 6-7 คนก็มาสอบเข้ามหาลัยแห่งนี้เหมือนกัน ซึ่งไอ้บาสก็ทักทายตามปกติ ตอนนี้ไอ้บาสมันดูเป็นผู้ใหญ่กว่าแต่ก่อนเยอะเลยครับ ทั้งทรงผม ทั้งเรื่องเสื้อผ้า ก็แหงล่ะครับ ตอนม.ปลายต้องตัดรองทรงสูงนี่ ผมสังเกตดูพวกเด็กมหาลัยปี 1 ต้องไว้ผมกันเกือบทุกคน สงสัยเก็บกด ไอ้บาสก็ไว้ผมเหมือนกัน เลยทำให้หน้ามันแปลกๆไป

“เอาให้ติดนะ เมิง จะได้มาเรียนด้วยกัน”

“เออน่า ระดับนี้ ไม่มีพลาดอยู่แล้ว”

“ว่าแต่ ทำไมเมิงไม่เข้า BBA ล่ะ”

“ก็เลือกเป็นอันดับ 2 ไง กูอยากเรียนนิเทศน์ ทำหนัง แล้วที่นี่ก็มีคณะ Comm. Arts ด้วย เรียนโฆษณาก็ยังดี ยังใกล้กันหน่อย”

“ก็คนละคณะกับกูอยู่ดี”

“มันก็มีวิชาที่เรียนเหมือนกันล่ะนะ ทำเป็นบ่นไปได้ จะเข้าได้รึเปล่าก็ไม่รู้เลย”

“อย่างเมิงมีหรอจะไม่ติด กูว่าเมิงคงเอ็นซ์ติด หนีกูไปมากกว่า”

“สมพรปากว่ะ กูไปสอบก่อนล่ะ แล้วเจอกัน”

“เออ เดี๋ยวกูกะว่าจะเข้ามหาลัยเหมือนกัน” คือผมสอบที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงน่ะครับ เพราะมหาลัยที่ผมสอบเข้า ไม่มีที่พอ เลยต้องมาใช้สถานที่ใกล้เคียง

ข้อสอบก็ไม่ยากอย่างที่คิดครับ พอทำได้ทั้งภาษาอังกฤษแล้วก็เลข คนอื่นๆสอบแค่นี้ แต่ผมยังเหลือสอบ Attitude Test อีก 1 ตัว เลยเสร็จช้ากว่าคนอื่นๆ พอออกมาก็เจอไอ้บาสนั่งรออยู่ด้านล่าง

“เป็นไงมั่ง ทำได้รึเปล่า”

“ก็พอได้อ่ะ ไม่รู้ดิ เดี๋ยวรอตอนประกาศผลแล้วกัน”

“ไปหาอะไรกินกันมั๊ย แถวมหาลัย จะได้ทำความรู้จักเอาไว้ด้วยไง เผื่อมาเรียน”

“เออ ก็ได้ๆ”

ไอ้บาสก็พาผมไปหาอะไรกินแถวๆมหาลัยนั่นแหละครับ ที่นี่ห้ามเอาของกินเข้ามหาลัย บริเวณด้านข้างๆจึงมีร้านอาหารอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด วันนั้นมันพาผมไปที่ร้านแถวๆนั้น นั่งกินอยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงทักทายมาจากข้างหลัง

“เฮ้ย ไอ้บาส กลับไปแล้วไม่ใช่หรอ”

“ยัง กูพาเพื่อนมากินข้าวว่ะ มันมาสอบเข้าที่นี่ ต๋อง แทน เพื่อนที่ที่ Commu” หมายถึงที่ชมรมมันน่ะครับ

“หวัดดีครับ” ผมทักทายไป

“แทนคับ สอบเข้าคณะอะไรหรอครับ”

“Comm Arts ครับ แต่ไม่รู้จะติดรึเปล่า”

“ทำไมพูดเพราะกันจังเลยวะ เมิงสองคนเนี่ย” ไอ้บาสคงทนไม่ได้ที่เห็นเพื่อนพูดเพราะ

จริงๆก็ทักทายกันธรรมดาแหละครับ ไม่ได้พูดเพราะอะไรหรอก แต่มันไม่รู้จักมาก่อนนี่หว่า จะให้โวยวายเลยได้ไงล่ะ
หลังจากวันนั้น ผมก็ลุยอ่านหนังสือเอ็นซ์อย่างเดียวเลยครับ สอบเข้านิเทศน์เหมือนกัน เลือกทั้ง 4 อันดับเลย ไม่รู้ฝังใจอะไรนักหนากับคณะนี้ ส่วนผลสอบที่นั่น ผมฝากให้ไอ้บาสช่วยดูให้ เพราะช่วงนี้ผมแค่อ่านหนังสือก็แทบจะอ้วกอยู่แล้ว

แล้วผมก็ได้รู้ทั้งข่าวดี และข่าวร้ายจากปากของไอ้บาสในเวลาต่อมา

ข่าวดีก็คือ ผมสอบติดคณะ Comm Arts ครับ เป็น 1ใน 50 คน จากคนที่สอบทั้งหมดเกือบ 2พันกว่าคน
ข่าวร้ายก็คือ วันที่สอบสัมภาษณ์ เป็นวันเดียวกับวันสอบเอ็นซ์วิชาภาษาอังกฤษพอดี

แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย

ถ้าไปสอบสัมภาษณ์ แล้วก็คงเอ็นซ์ไม่ติดแน่ๆ เพราะว่าได้สอบภาษาอังกฤษ สู้คนอื่นไม่ได้แน่ๆ

แต่ถ้าไปสอบเอ็นซ์ ผมก็ต้องสละสิทธ์ที่เรียนที่มันได้ชัวร์ๆ ในมหาลัยและคณะที่ผมชอบ แล้วยังเป็นที่ที่ผมจะได้ไปเรียนกับไอ้บาสด้วยน่ะสิครับ

ยิ่งคิด ยิ่งกลุ้ม

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
เอาล่ะสิ

จะเลือกทางไหนดีล่ะเนี่ย

ตัดสินใจดีๆ นะต๋อง

 :a1:

anston

  • บุคคลทั่วไป
 :m28:นั่นดินะ..แล้วต๋องเลือกอย่างไหนละเนี่ย.. :m21:
เดาว่า..ต๋องต้องไปสอบเอ็นท์แน่เลย(มั้ง)..
เพราะถ้าเรียนที่เดียวกันป่านนี้ก็คงยังเป็นแฟนกันอยู่แน่..
โอ๊ยยยย..ไม่เดาแล้วรอเจ้าของเรื่องมาเฉลยเองละกัน..
ว่าแต่..ไปเจอบาสจะพาเอกไปด้วยป่าวอ่ะ..
อยากรู้ๆ..อยากรู้เรื่องชาวบ้านมีรัยป่ะ.. :m14:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
เหอะ เหอะ

พอดีวันอาทิตย์นี้ มีเพื่อนสมัยมัธยมแต่งงานอ่ะครับ ที่หัวหิน

งานนี้คงไปเจอไอ้บาสด้วย ควงเอกไปเย้ยดีก่า อิอิ   :a3:

ว่ากูก็มีเหมือนกานนนนนนนนนนนน จะดีมั๊ยเนี่ย  :m19:

anston

  • บุคคลทั่วไป
 :m18:ดีดีเห็นด้วย..ทีบาสยังเคยพามาตอนงานบวชเพื่อนเลย..
คราวนี้ถึงทีของต๋องบ้างแล้ว..
ว่าแต่จะแนะนำเอกกับบาสยังงัยเหรอ..เหอเหอ :laugh:
สงสัยงานนี้มีศึกชิงนาง..เอ๊ะ.. :m28:รึนายหว่า..55
แล้วอย่าเผลอทำตามใจตัวเอง..จนต้องเก็บเอาไว้ทั้งสองคนน๊า..
แค่คิดก็หนุกแล้ว..หุหุ..ชอบจริงๆเรื่องชาวบ้านเนี่ย.. :m18:

ตามมาดู

  • บุคคลทั่วไป
เด๋วก็เกิดศึกหน้านาง ...
ไม่เปนราย ตามรอที่คอนโดนะ ...  :a11:

anston

  • บุคคลทั่วไป
หายไปหลายวัน..ก็ยังไม่คืบหน้า..
รออ่านอยู่น๊า.. :bye2:

anston

  • บุคคลทั่วไป
วันนี้แล้วดิ..จะได้เจอกิ๊กเก่า..
จะเป็นงัยบ้างน๊า..ขอให้หนุกนะ..อิอิ

T-Jang

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่มาต่อเหรอ :o11:

anston

  • บุคคลทั่วไป
 :impress:มารอ..ด้วยความอยากรู้(เรื่องชาวบ้าน)..
ยังอยู่ดีมีสุขป่าว..สู้สู้น๊า.. :bye2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด