มาส่งแล้วค่ะ หงุงหงิง
ว่าแล้วก็...................

..................................................
ตอนที่๒๒ พระอาทิตย์จมทะเล
“กินไปเหอะน่า ผมแกะเองได้” หนุ่มน้อยในชุดนักศึกษาที่ปลดกระดุมคอสองเม็ดและปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกงเพิ่งส่งกุ้งเผาเนื้อขาวที่เจ้าตัวชักจะตามืดตามัวมองเห็นเป็นกุ้งสีชมพูเข้าปากไปยังไม่ทันเริ่มเคี้ยว ส่งเสียงห้ามผู้ชายตัวโตที่เพิ่งโปะเนื้อกุ้งตัวโตๆปราศจากเปลือกให้รำคาญตาลงมาในจานอย่างต่อเนื่อง
“นี่.....แบบนี้รึเปล่าที่เขาเรียกช่วงโปรโมชั่น?” เมื่อไม่มีเสียงตอบรับใดๆนอกจากรอยแย้มที่เพิ่มมากขึ้นของคนเป็นผู้ใหญ่กว่าที่เริ่มจิ้มเนื้อปลาสำลีเผาในห่อฟอยล์ใส่ปากเป็นคำแรก คนได้รับบริการแกะกุ้งโดยไม่ได้ร้องขอจึงมีคำถามตามมา
“ฮ่าๆๆๆๆ ไม่ต้องห่วงครับ สินค้าชื่อนายวัชระนี่โปรยาว....ยาวมากกกกกกก ยาวจนกว่าคุณลูกค้าจะเบื่อเลยล่ะ”
“แหวะ.......” เนื้อกุ้งทั้งหอมทั้งหวานถูกกลืนลงคอก่อนที่อรุณรุ่งจะโต้ตอบด้วยการย่นจมูก แล้วส่งเสียงออกมาเบาๆ ได้แค่ ‘แหวะ’ แล้วทำไม่รู้ไม่ชี้โดยการจิ้มกุ้งตัวต่อไปที่มาอยู่ในจานเรียบร้อยขึ้นมากัดเข้าปากคำโต
“จริงๆน้า.....อีกอย่าง...พี่ชอบปอกเปลือก.....” สายตาคมส่งประกายวิบวับจับประสานเฉพาะนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนในแสงบ่ายของปลายฤดูหนาว รอจนแก้มสีชมพูที่ยังเคี้ยวตุ้ยๆอยู่เปลี่ยนเป็นชมพูเข้มแล้วจึงพูดต่อ “........กุ้ง ยิ่งกุ้งเผาตัวแดงๆนะ พี่ยิ่งชอบ......”
“......ทะลึ่ง!” คนตัวแดงเป็นกุ้งเบือนหน้าไปมองทะเล รู้ว่านั่งกันอยู่แบบนี้ถึงจะพยายามซ่อนรอยยิ้มแห่งความสุขบนใบหน้าแค่ไหนก็ไม่มีทางสำเร็จก็จริง แต่ว่า.....การถูกมองฝ่ายเดียวมันน่าอายน้อยกว่าที่จะต้องสบตากับคนตรงหน้านี่นา
พออรุณรุ่งเบือนหน้าหลบสายตาไปแบบนั้น วัชระก็เลยไม่อยากแกล้งอีก ก็ถ้าปล่อยให้น้องดอว์นเขินจนไม่กล้าหันกลับมากินอาหารบนโต๊ะต่อ เดี๋ยวเกิดคนน่ารักกินไม่อิ่มขึ้นมาก็เสียชื่อคนพามาเลี้ยงแย่สิ
“พี่ไม่แกะให้แล้วก็ได้ครับ หันมากินต่อกันดีกว่า.....ดอว์นยังไม่ได้กินปลาเผาเลยนี่ อร่อยน้า....”
อรุณรุ่งตัดสินใจหันกลับมา เขินก็เขินขำก็ขำ ก็ผู้ชายตัวโตคนนี้คิดอะไรแปลกๆ เอาของอร่อยมาล่อ....ทำราวกับเขาเป็นเด็กๆอย่างนั้นแหละ
หนุ่มน้อยตักข้าวเข้าปาก และระหว่างที่เคี้ยวอาหารในปากช้าๆก็เอื้อมหยิบส่วนก้ามของปูเผาตัวโตมาแกะ พอสำเร็จได้เนื้อขาวๆออกมาเป็นก้อนโตแทนที่จะส่งเข้าปากตัวเองก็กลับใช้ส้อมส่งไปวางไว้ในจานของคนที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ปลาบปลื้มแทบลอยได้ที่นั่งจับตามองการกระทำของตนอยู่ตลอดเวลาแทน
คนตัวโตที่ก็เริ่มจะมองเห็นหาดเลนที่ทอดยาวเป็นสีชมพูของสายไหมไม่ต่างกันส่งเนื้อปูที่ไม่ต้องแกะเองเข้าปาก แล้วค่อยละเลียดกินช้าๆ น้ำจิ้มซีฟู้ดที่มีพริกสดโขลกกับกระเทียมสับละเอียดถูกเมินโดยสิ้นเชิงเมื่อรสชาติอาหารทะเลสดๆมื้อนี้นั้น......หวาน....ซ่านลิ้นกว่าที่เคย
“พระอาทิตย์กำลังจะจมทะเล”
วัชระหรี่ตามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนที่เพิ่งพูดประโยคลอยๆนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงละห้อยราวกับใจจะขาดตามดวงตะวัน ชายหนุ่มสองคนนั่งห้อยขาเคียงกันอยู่บนขอบทาง หันออกไปทางทะเลที่ดวงอาทิตย์กำลังจะจมทะเลตามคำพูดแบบเดียวกัน....ที่ต่างไปก็คงเป็นความรู้สึกเศร้าลึกล้ำที่รับรู้ได้โดยไม่ต้องบอกออกมาเป็นคำพูด
แววตากึ่งเศร้าซึมกึ่งเหม่อลอยกับเสี้ยวหน้าที่ประกอบไปด้วยเนินหน้าผากและโหนกแก้มได้รูปจับตาถูกอาบไล้ด้วยแสงสีส้มของยามเย็นโน้มนำให้เกิดแสงเงาประหลาด.....
เหมือนภาพปั้นแห่งความเศร้า.... นายแพทย์หนุ่มได้แต่คิดเมื่อเงาจากทั้งกรอบแว่นและแพขนตาหนาทาบลงกับแก้มใส
เสียงทอดถอนหายใจแผ่วเบาจากคนที่เอาแต่มองไปยังสุดขอบฟ้าทำให้คุณหมอที่นั่งห้อยขาอยู่ข้างๆทนนั่งเฉยต่อไปไม่ไหว มือใหญ่อุ่นจัดวางทับลงบนหลังมือเรียวขาวที่วางเท้าพื้นอยู่ข้างตัว ถือสิทธิ์คนพิเศษที่รับรู้กันในใจถ่ายทอดความอบอุ่นไปให้เด็กน้อยที่ดูเหมือนจะเก็บกดทั้งความเศร้า ความเหงา ไว้จนเต็มหัวใจ
อรุณรุ่งไม่ได้หันหน้ากลับมาหา ไม่....แม้แต่จะเหลือบสายตามา แต่ทั้งที่ยังมองตรงไปที่สุดขอบฟ้า วัชระก็รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวช้าๆของมือเรียวขาวที่ถูกทาบทับ เมื่อมือนั้นพลิกหงายขึ้นแล้วเริ่มสอดนิ้วประสานเข้าหาจนแนบสนิท และเมื่อเจ้าของมือใหญ่ออกแรงบีบกระชับน้อยๆ อีกคนก็ส่งแรงบีบมือกลับมาในระดับที่เท่าเทียมกัน
ความเงียบปกคลุมบรรยากาศอยู่อีกครู่ใหญ่ จวบจนขอบวงกลมสีส้มทองแตะกับผิวน้ำ เสียงทุ้มต่ำ....เบาจนเกือบไม่ได้ยินจึงดังจากปากคนที่จนเดี๋ยวนี้ยังไม่ถอนสายตาจากภาพดวงอาทิตย์จมทะเลเลยสักนิด
“ที่สุดท้าย....ที่เราสี่คนได้ไปเที่ยวด้วยกันคือทะเล.....เราสนุกกันมาก.....ตอนเย็นแบบนี้แหละ ปะป๊าให้ผมขี่คอแล้วพาเดินลุยลงน้ำ”
มือใหญ่ออกแรงบีบกระชับขึ้นอีกนิด และคนที่กำลังเล่าเรื่องเก่าก็บีบตอบ เสี้ยวหน้าด้างข้างที่วัชระเห็นว่าแสนเศร้ากลับเริ่มมีรอยยิ้มน้อยๆประดับ
“น่าจะ...สี่รอบนะถ้าผมจำไม่ผิด.....สี่รอบที่ปะป๊าพยายามจะพาผมกลับเข้าฝั่ง ให้ไปอาบน้ำเตรียมไปกินมื้อเย็น แต่ผมก็ดื้อ.....ร้องแต่จะเล่นอีก.....ปะป๊าเตือนว่าเดี๋ยวจะไม่สบายแต่ผมก็ไม่ฟัง......หึๆๆ”
“ดอว์นเป็นเด็กดื้อ หึๆๆ”
“ช่าย......แล้วคืนนั้นผมก็ไม่สบายจริงๆ แต่คุณเชื่อมั้ยผมไม่ถูกดุเลยสักนิด......คนที่ถูกดุกลายเป็นปะป๊า.....ผมจำได้ว่าได้ยินเสียงหม่าม้าดุปะป๊าใหญ่ บอกว่าเอาแต่ตามใจลูก.....แล้วก็จัดยาจัดข้าวของให้ แถมยังลงโทษโดยการให้ปะป๊าดูแลผมคนเดียว.....ทั้งคืน.....
......ปะป๊าไม่ดุผมเลยสักคำ....พอเห็นว่าผมหลับไม่ได้ก็เล่านิทานให้ฟัง กล่อมให้ผมนอนหลับไปจนได้......หลังกลับจากไปเที่ยวทะเลคราวนั้นไม่ถึงเดือน.....ปะป๊าก็...ไปสวรรค์”
แรงกระชับที่ฝ่ามือซึ่งประสานกันอยู่ยิ่งเพิ่มขึ้นราวกับเจ้าของมือใหญ่ต้องการจะย้ำให้คนข้างๆมั่นใจว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่คนเดียว....และต่อจากนี้จะไม่ต้องทนเหงา เมื่อพระอาทิตย์จมทะเลไปจนหมด นัยน์ตาสีอ่อนโศกซึ้งก็กลับมาจับจ้องที่ใบหน้าของคนตัวโตข้างๆอีกครั้ง
“......พี่เพชร” เพียงเท่านั้นวัชระก็รวบตัวเด็กน้อยหลงทางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน กอดรัดไว้เพียงแผ่วเบาแต่ก็หนาแน่นพอที่จะทำให้คนถูกกอดมั่นใจว่าความอบอุ่นที่ได้รับนี้เป็นของจริง ให้เสียงหัวใจที่ดังเป็นจังหวะหนักแน่นในอกอุ่นตอกย้ำว่ายังมีหัวใจอีกดวงที่พร้อมอยู่เคียงข้าง มือหนึ่งลูบแผ่นหลังที่พอกอดไว้แบบนี้ถึงได้รู้ว่าเล็กบางกว่าที่คิด ส่วนอีกมือกดเบาๆบนเส้นผมนุ่มแถวท้ายทอยให้น้องแนบศีรษะลงบนบ่า
เด็กดื้ออย่างอรุณรุ่งทำตัวเป็นเด็กดีที่แสนจะว่าง่าย วางศีรษะลงบนบ่ากว้างแล้วยังแถมซุกหน้าเข้ากับซอกคอที่กรุ่นกลิ่นสดชื่นของเปลือกไม้ปนเปไปกับกระไอทะเล และเพียงเสี้ยววินาทีจนวัชระเกือบจะไม่แน่ใจว่าเป็นความจริง ชายหนุ่มก็รับรู้ถึงสัมผัสนุ่มอุ่นชื้นที่ประทับเบาๆลงแถวหลังหู
“ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณครับ.....พี่เพชร ไม่ได้เหรอ?”
“หึๆ...ขอบคุณครับ พี่เพชร......”
นายแพทย์วัชระดันตัวคนในอ้อมกอดออกมามองหน้ากันให้ชัด พอสบตากัน คนเก่งที่เพิ่งใจกล้าแตะจูบลงแถวหลังหูของเขาก็หลบตาวูบจนคนอยู่ในอารมณ์อยากมองตาแล้วค้นลึกลงไปถึงหัวใจต้องละมือข้างหนึ่งที่ยังคงโอบประคองที่แผ่นหลังของคนเก่งไว้มาเชยคางที่ก้มต่ำจนแทบจรดอกขึ้น บังคับกลายๆให้สบตาด้วย
“เรียนจบแน่ๆเมื่อไหร่ครับ?”
“ก็....วันอังคารพอสอบเสร็จตอนเช้า อาจารย์ก็จะบอกเลยว่าผ่านรึเปล่า.....ก็จบ....”
“งั้นวันพุธพี่ไปขอเลยนะ....ตกลงมั้ย?” ใบหน้าขาวจัดพลันซับสีชมพูระเรื่อขึ้นมาทันตาเห็น ทั้งๆที่ตอนนี้บรรยากาศเริ่มสลัวแต่วัชระก็ยังเห็นประกายตาพราวหวานของคนเขินจนแทบจะม้วนตัวเป็นก้อนแล้วทำท่าจะโดดหนีลงทะเลได้ชัดเจน
“บ้า!! ฮ่าๆๆๆ พูดออกมาได้เนอะ คุณนี่....บ้าจริงๆเลย”
“อะรายยยยยยยย มาว่าพี่บ้าแล้วตัวเองเขินเนี่ยนะ ฮะๆๆๆๆๆ ทำไมอะครับ จู่ๆก็มาจูบเค้าแล้วจะไม่รับผิดชอบเหรอ?”
วัชระจัดการรั้งตัวคนที่ทำท่าจะลุกหนีเข้ามากอดกระชับไว้ตามเดิม จุดชมวิวร้างผู้คนในเวลาใกล้ค่ำของวันธรรมดาช่างเป็นใจให้ก้มลงสูดกลิ่นหอมหวานจากคนในอ้อมกอดซ้ำๆจนหนำใจ
“มั่วแล้ว ทีตัวเองจูบ...เอ่อ....จูบไปตั้งหลายที ผมยังไม่เห็นเรียกร้องให้มารับผิดชอบเลย”
คนไม่ต้องการความรับผิดชอบตอนนี้ได้แต่ส่งเสียงงึมงำอยู่แถวซอกคอของคนตัวโตกว่า เพราะทั้งที่ดูภายนอกเหมือนจะขนาดตัวต่างกันไม่มาก แต่ความหนาของหมอเพชรก็ทำให้แม้จะออกแรงทั้งยันทั้งดันเท่าไหร่อรุณรุ่งก็พาตัวเองให้เป็นอิสระจากอ้อมกอดรัดรึงนี้ไม่ได้
“อ้าว!! ก็เพราะพี่เป็นคนมีความรับผิดชอบสูงไงครับ ดอว์นไม่ต้องเรียกร้อง พี่ก็พร้อมจะรับผิดชอบ พร้อมจะให้ดอว์นไปขอได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว”
“ตลกแล้ว.....คุณรวยจะตาย ผมไม่มีเงินไปขอหรอกนะ!!”
“ก็นี่ไงครับ พี่ถึงได้ตั้งใจจะเป็นฝ่ายไปขอดอว์นไง”
“โอ๊ย!! พอเลย กวนประสาทจริงๆ คุณอะชอบแกล้งผม ขืนเถียงกับคุณต่อวันนี้เราสองคนคงได้ค้างมันแถวนี้แน่ พาผมกลับบ้านเลยนะ เดี๋ยวถึงบ้านดึก นิสัยไม่ดีเลยคุณเนี่ย แกล้งผมแล้วก็ขำเอาขำเอา.....พอเลย ฮะๆๆ มันจั๊กจี้ เพชร!! ฮะๆๆๆๆ บอกให้พอไงเล่า ถ้าไม่หยุด...ฮ่าๆๆๆๆๆ ผมจะโกรธแล้วนะ....”
คำขู่จากปากของอรุณรุ่งดูจะได้ผล เมื่ออาการโถมตัวฟัดของคนตัวโตหยุดชะงักลงแทบจะทันที แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อต้องปล่อยเด็กที่ยังหยุดหัวเราะได้ไม่สนิทออกจากอ้อมแขนวัชระกลับอ้อยอิ่งจนอีกฝ่ายเริ่มนึกหมั่นไส้
อรุณรุ่งลุกขึ้นยืนก่อน แล้วทั้งๆที่หมั่นไส้จะแย่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือให้ผู้ใหญ่ที่ทำตัวเด็กยิ่งกว่าจับยึดเป็นหลัก แล้วออกแรงฉุดให้ลุกขึ้นมายืน ก่อนจะเดินนำไปที่รถ
ท่วงทำนองของ A Taste of Honey ดังมาตลอดทางกลับบ้านใน BMWสปอร์ตสีขาวที่พอเริ่มเข้าเมืองก็ต้องปิดหลังคาหลีกเลี่ยงควันพิษจากการจราจร แต่นั่นก็ไม่ส่งผลใดๆต่อประสิทธิภาพในการกลั่นแกล้งเด็กแว่นของนายแพทย์ทายาทเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังเลยสักนิด
เพราะคืนนั้นทั้งคืน แม้เมื่ออยู่ในความฝัน......น้องดอว์นของพี่เพชรก็มีเสียงเพลงนั้นเป็นดั่ง original soundtrack ประกอบเรื่องราวในฝันตลอดคืน.......
........................................
..โปรดติดตามตอนต่อไป..