เสือไบ:the series(ตอน 132)
สามวันผ่านมาแล้ว ผมย้ายกลับมาเลียแผลใจที่บ้านพักราชการที่ปากเกร็ด ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบ มีเพื่อน มีรุ่นพี่ มีรุ่นน้อง ที่สำคัญ มีกีฬา อะไรเหล่านี้มันอาจจะช่วยทำให้ผมดีขึ้นได้บ้าง....
สามวันผ่านมานี้เวลาสำหรับผมมันเดินช้าเหมือนเดิม ภาพของไอ้เกม เบียร์ และผม มันยังหลอกยังหลอนผมอยู่...ตอนนี้ผมก็เหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่....นับหนึ่งกับความเหงา ความปวดร้าว.....ความเศร้าใจ....นี่เป็นครั้งที่สี่ที่เจ็บปวดกับความรักสุดๆ.....สามครั้งแรก ผมเคยบอกกับตัวเองว่าผมเข็ดกับความรักแล้ว แต่ที่ไหนได้พอความเจ็บปวดมันจางลง.....ผมเจอเจ้าตัวความรักอีกครั้ง....พอเผมเจอมันอีกครั้งผมกลับเดินเข้าหามันด้วยความเต็มใจ....จนมานั่งเจ็บปวดแบบนี้อีก.....
ตอนนี้ผมต้องปรับระบบการดำเนินชีวิตทุกอย่างใหม่หมด สี่ปีที่ผ่านมาชีวิตผมก็มีแต่ไอ้ลูกเจี๊ยบ...จนลืมไปเลยว่าชีวิตก่อนที่ผมจะเจอมันผมทำอะไรไปบ้าง..ดำเนินชีวิตอย่างไร....
ช่วงนี้เป็นช่วงแข่งกีฬาหน่วยงานครับ ผมต้องเตรียมตัว ดีเหมือนกันครับ เล่นให้เหนื่อยไป เลย ผมจะได้นอนหลับได้ง่ายๆ.....วันนี้หลังจากเลิกงานแล้วผมเตรียมแร๊กเก็ต เดินทางไปสนามเทนนิส......ผมขี่บีเอ็มเอ็กซ์ไป (แหะแหะ เพิ่งเปลี่ยนยาง ครับ ยางเก่าล้อหน้าล้อหลังมันเก่าจนไม่สามารถใช้การได้แล้ว)
ผมมาถึงคอร์ทเทนนิสก็ทำการวอร์มอัพ โดยการน๊อคบอร์ด เสร็จแล้วหาคนน๊อคสักหน่อย....อ้าวไอ้มด....รุ่นน้องผม เอ มันมาตีได้ไงนี่ ผมว่ามันหล่อจนไม่คิดจะมีเวลามาตีเทนนิสไง...
"สวัสดีครับ พี่นุ่ม" มันยกมือไหว้ผม...แหะๆ บอกตรงๆ นะครับผมชอบมองมันน่ะ....แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปมากแฮะ ผมเจอมันครั้งแรกเมื่อตอนปีหนึ่งตอนนั้นมันหน้าใสๆ สามสี่ปีผ่านมา โหมันดูเป็นรุ่นพี่ เป็นผู้ใหญ่ขึ้น แหมตอนนี้ผมทรงรากไทรเหมาะกับหน้าตามันจริงๆ.....
"มาเล่นได้ไงนี่ มาๆ น๊อคให้หน่อย"
"น้องจะแข่งกีฬาสถาบัน ครับ เป็นตัวแทนเทนนิส ของวิทยาลัย"
"เก่งแฮะ" ไอ้นี่มันเป็นตัวเยาวชนของภาคอีสานครับ จังหวัดใหญ่สุดของอีสาน
"ไม่หรอกพี่นุ่ม มาเร็วๆ หายไปไหนมานานล่ะนี่ ไม่ได้เจอเลย"
หลังจากนั้นเราก็น๊อคกันเฮ้อ กว่าจะฟื้นสโตรกได้ ปีเต็มๆ ไม่ได้จับแร๊กเก็ตเลย..น๊อคประมาณสิบนาทีครับ มีคนสองคนลงมาแจมด้วย(คอร์ทนี้ส่วนใหญ่จะเล่นคู่กันนะคับ)
"อ้าวพี่เอก หายไปเลยนะ" ไอ้แบงค์ครับ น้องของรุ่นน้องของผมคนหนึ่งจังหวัดที่ผมเคยเรียนสมัยมัธยม
"แหะๆ ไปขายแอมเวย์มา ดูดิ ตีไม่ได้เรื่องเลยหว่ะ....อีกคนใครวะเพื่อนเหรอ"
"เพื่อนครับ ไอ้บอล....มันเพิ่งหัดเล่นได้ไม่ถึงเดือนเลย" เออใช่ดิ เมื่อวันก่อนผมยังเห็นมันเตะตะกร้ออยู่หน้าแฟลต ผมมองหน้ามันสู้โย่งเชียว แต่ถ้าเทียบกับไอ้มด หรือไอ้แบงค์ ผมว่ามันซกม๊กไงไม่รู้
ผมน๊อคไปได้สักครู่ ก็เล่นเซทกันครับ เล่นครั้งแรกในรอบปีก็แบบนี้แหละ ยังจับจังหวะไม่ได้ ยิ่งมาเล่นกับตัวเยาวชน ด้วยแล้ว ไอ้มด กับไอ้แบงค์นะครับ เป็นตัวเยาวชน ส่วนไอ้บอล เพิ่งหัดเล่นใหม่ ยังตีไม่เอาไหน เหมือนๆ กับผมตอนนี้.....
"เหนื่อยหว่ะ" หลังจากเล่นเซท ผมก็มาหอบข้างสนาม เหนื่อยจริงๆ...
"ก็แหงล่ะซิ พี่เอก อ่อนซ้อมแบบนี้" ไอ้แบงค์แซวผมใหญ่เลย
"ก็มาทีไรไม่รู้จะตีกลับใครนี่ เด็กเยอะ" ช่วงนี้ภราดรกำลังดังครับ เด็กๆ ก็เลยมาตีเทนนิสกันมากขึ้น..
"พี่นุ่มเมาหัวราน้ำมากกว่ามั๊ง" แหมๆ ไอ้มดเอาเชียวนะมรึง...
"พี่เอก ครับ พี่ตีเทนนิสนานแล้วเหรอครับ" อ้าวไอ้บอลครับ มันถามผมหลังจากนั่งฟังมานาน...
"เพิ่งมาเล่นวันนี้วันแรกเอง..ตีไม่ได้เรื่อง พี่อยากเป็นภราดรกับเค้าบ้าง" แหะๆ หลอกมันแหละ ผมเล่นมาเกือบสิบปีแล้ว.....เออ ว่าไปผมไม่ชอบขี้หน้าไอ้นี่เท่าไหร่ครับ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรือว่ามันซกม๊กๆ ก็ไม่รู้...
"มรึงอย่าไปเชื่อพี่เอก ไอ้บอล พี่เค้าตีก่อนเราเกิดซะอีก" อ้าวเวน กรูยังไม่แก่ขนาดนั้นไอ้แบงค์....
"พี่นุ่ม เราลงต่อเถอะ กำลังมันส์ เดี่ยวน้องมีธุระ"
"ธุระที่เลมอน ทรีล่ะซิ รู้นะเมื่อคืนไปทำอะไรมาที่นั่น ได้เด็กมาด้วยไม่ใช่เหรอมรึง" แหะๆ แซวไอ้มดมันครับ เมื่อคืนผมไปกินข้าวที่สโมสร เจอเพื่อนรุ่นเดียวกับมัน มันเล่าวีรกรรมของไอ้นี่ให้ผมฟัง ประมาณว่า นั่งกระดิกนิ้วแล้วสาวๆ ก็ตามมันมาที่หอพักนักศึกษา...
"ข่าวเร็วนะนี่ ฮ่าฮ่า คนมันหล่อก็แบบนี้แหละ ลงเถอะพี่เดี่ยว มีคนแย่งคอร์ท"
เราสี่คนลงคอร์ทไปแล้วครับ การเล่นก็แบบถ้อยทีถ้อยอาศัยนะครับ ....เราสี่คนเล่นจนจบเซต...
"น้องกลับก่อนนะพี่ พอดีมีนัด"
"แหะ แหะ เด็กเลมอนทีล่ะซิ เออไปถอะ" มันยกมือไหว้ผมครับ..
"กลับก่อนนะ บอล แบงค์" มันกลับไปแล้วครับเหลือ พวกเราสามคน...ผมก็ว่าจะกลับเหมือนกัน เดินไปซื้อน้ำก่อนดีกว่า.. ตื๊ดๆ โทรศัพท์ดังครับ ของใครนี่ คือเราจะเอาแร๊กเก็ตเทนนิสไว้รวมๆ กันครับ เวลามีเสียงโทรศัพท์ดังทีก็ต้องจำเสียงให้ได้ว่าของใคร ไม่ใช่ของผมแน่ครับ เพราะผมปิดไว้.....ไม่อยากเปิดครับ.... ไม่อยากคุยกับใครบางคน.....
ไอ้แบงค์รับโทรศัพท์ครับ ผมกับไอ้บอลเดินไปซื้อน้ำ....เดินกลับมาอีกที ...ไอ้แบงค์มันยังคุยโทรศัพท์ไม่จบเลย..
"เอ๊ยๆ แบตกรูจะหมดแล้ว เดี่ยวกรูโทรหามรึงนะ เอ๊ยเวนแบตหมด"มันทำเสียงเหมือนอารมณ์เสีย..
"บอลเอาโทรศัพท์มายืมหน่อยซิ เพื่อนกรูโทรมา"
"โทรศัพท์กรูมีที่ไหนล่ะ จำนำไว้อยู่..." ไอ้บอลพูดซะเสียงดัง....ห่านี่....ไม่อายชาวบ้านเค้าเลยนะมรึง...
"พี่เอก แบงค์ยืมโทรศัพท์หน่อยพี่"
"ในปลอกแร๊คน่ะ หยิบเอา" ผมบอกมัน....ไอ้แบงค์หยิบแล้วครับ...
"อ้าวพี่เอก.....แบตหมด"
"หมดที่ไหนล่ะ ยังไม่ได้เปิด เปิกก่อนโว๊ย โง่หรือแกล้งโง่วะนี่" ผมแซวมันครับ...
"โอเคๆ ได้แล้วพี่" มันกดโทรศัพท์..
"ตกลงไปก็ได้...สี่ทุ่มล่ะกัน กำลังตีเทนนิสอยู่"
"..................................................."
"เออ ๆ แค่นี้นะ เดี่ยวเจอกัน.." มันวางสายไปแล้วครับ ไอ้แบงค์เอาโทรศัพท์ส่งคืนให้ผม ผมรับมาแล้วก็ปิดตามเดิม....
"ขอบคุณครับพี่เอก.....เพื่อนมันชวนไปเที่ยว อตก. ไปด้วยกันเปล่า มรึงด้วยไอ้บอลไปเปล่า.."
"อตก. มีที่เที่ยวด้วยเหรอ" บอกตรงๆนะครับ....ผมเที่ยวแต่ละแวกในเมืองแถวๆนี้ไม่คุ้นจริงๆ...
"มีดิ เดี่ยวนี้กำลังบูม ร้านเพิ่งเปิดใหม่พี่ มีไม่กี่ร้านเอง ไปนะพี่เอก แชร์ๆ กัน..กับเพื่อนผมไม่กี่คนเอง"
"เออ น่าสน อย่ารู้เหมือนกันจะสู้อาร์ซีเอได้เปล่า.."
"สู้ไม่ได้หรอกพี่ เพิ่งเปิดไม่ถึงปีเองที่นี่ แต่คนเริ่มมาเที่ยวเยอะแล้ว"
"งั้นตกลงไปด้วยล่ะกัน ไปกันกี่โมงล่ะ....บอลไปด้วยดิ จะได้กลับพร้อมๆกัน"
"ผมไม่มีเงินน่ะพี่เอก.....แต่เอ เดี่ยวไปไถพี่.....ดีกว่า" มันพูดประมาณนี้น่ะผมนึกว่ามันไปไถพี่หรือญาติมันอะไรแบบนี้..
"งั้นเอางี้สามทุ่มเจอกันที่ใต้ตึกพี่เอก นะ อย่าเรทนะ"
"ได้เลย" เราเลิกตีเทนนิสแล้วครับตอนนี้ก็เกือบสองทุ่มแล้ว พวกเราขี่จักรยานกลับกันแล้ว (ที่นี่ยานพาหนะสุดฮิตก็จักรยานนี่แหละครับ)
ผมกลับมาถึงห้อง..ขอกินอะไรก่อนล่ะกัน....เปิดโทรศัพท์อีกรอบดีกว่า เผื่อมี sms มาบ้าง..ผมเปิดโทรศัพท์แล้ว รอตั้งนานไม่มี sms มาเลยแฮะ เฮ้อป่านนี้มันคงสวีทหวานแหววกันที่พีพี แล้ว อิจฉาเฟ๊ย.....
ผมกินข้าวเสร็จแล้วก็อาบน้ำครับ ตอนนี้ผมเปิดฟังเอฟเอ็มนะครับ อยู่คนเดียว บรรยากาศตอนอกหักแบบนี้ ถ้าเงียบๆ ผมคงบ้าตายแหงๆ เปิดเพลงดังๆ ฟังกลบความเศร้าหน่อยดีกว่า....
ผมเปลี่ยนเสื้อผ้า นุ่งผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปแล้ว ผมอยู่คนเดียวส่วนใหญ่ผมจะไม่ปิดประตูห้องน้ำนะครับ ทำไมน่ะเหรอ จะได้ยินเสียงวิทยุชัดๆ ไงครับ.....
ผมกำลังอาบน้ำสระผมเพลินๆ สะดุด กับเพลงนี้แหละครับ...เพลงบ้าอะไรฟังแล้วเศร้าจัง หน้าไอ้เกมลอยมาอีกแล้ว..
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=lamoonjung&group=1หลับตานอนบนเตียงมีเสียงหัวใจสะท้อน
อยากให้ใครบางคนมานอนใกล้กันเหมือนคืนวันเก่าๆ
เขาคงไม่มาอีกแล้ว
เปิดเพลงคลอให้พอมีเสียงเป็นเพื่อนแก้เหงา
แต่ว่าเสียงกระซิบของเขาและคำทุกคำยังคงวนเวียน
และยังวุ่นวาย รบกวนหัวใจอยู่ทุกนาที
ค่ำคืนนี้ฉันเหงาเหลือเกินแทบทนไม่ไหว
แต่ใครบางคนจะรู้รึเปล่า
ได้ยินเสียงถามของหัวใจเมื่อไรจะเช้า
ไม่อยากจมลงในความเหงาเพียงลำพัง คนเดียว
ผ่านมานานเพียงใดใจฉันก็ยังไม่ชิน
อยากได้ยินเสียงนั้นอีกครั้งเสียงลมหายใจใครบางคน
ที่เคยเข้ามา ซุกตัวในผ้าห่มผืนเดียวกัน
ค่ำคืนนี้ฉันเหงาเหลือเกินแทบทนไม่ไหว
แต่ใครบางคนจะรู้รึเปล่า
ได้ยินเสียงถามของหัวใจเมื่อไรจะเช้า
ไม่อยากจมลงในความเหงาเพียงลำพัง คนเดียว
ค่ำคืนนี้ฉันถามหัวใจเมื่อไรจะเช้า
จะต้องนอนคนเดียวอย่างนี้นานเท่าไร
เกลียดอารมณ์ตัวเองในคืนที่โหดร้าย ทุกคืน
ลืมได้แล้ว ฟังเพลงเศร้าๆ เหงาๆ เพลงอะไรเป็นโดนหมด ผมเดินไปปิดเครื่องเสียงไม่ไหว เดี่ยวน้ำตามันจะไหลออกมา..ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว วันนี้คงไม่ต้องเน้นอะไรมากหรอกครับ ไปกับใครก็ไม่รู้ ...แต่ให้มันไม่ดูน่าเกลียดก็พอก็แล้วกัน...
เกือบสามทุ่มครับ ผมลงมารอไอ้แบงค์กับไอ้บอลหน้าตึก อ้าวซ้อนจักรยานกันมาแล้ว....
"พี่เอก ขึ่จักรยานไปดิ ไปขึ้นแท๊กซี่ข้างหน้า"
"เอางั้นเหรอได้ๆ" ผมเดินไปเอาจักรยาน....แล้วปั่นๆ ตามๆ มันไป..
"ไอ้แบงค์ เดี่ยวกรูแวะบ้านเจ๊นีก่อน ขอเงินเจ๊มันแป๊บหนึ่งไม่มีเงินหว่ะ"ไอ้บอลมันแวะจอดบ้านพักหลังหนึ่งครับ มันเดินเข้าไปแล้ว...ส่วนผมกับไอ้แบงค์รออยู่หน้าบ้า..
"ญาติมันเหรอแบงค์" ผมถามไอ้แบงค์ครับ มันแปลกๆ อยู่น่ะ...
"ฮ่าฮ่า อย่ารู้เลยพี่ ไม่ใช่ญาติหรอก"
"ไม่ใช่ญาติแล้วอะไรล่ะ" ผมไม่อยากจะคิดว่าเป็นผู้มีอุปการะคุณนะครับ..
"เด็กมันพี่" ผมคงเชื่อตายหรอกว่าเด็กมัน.....อ้าวเดินออกมาแล้ว แหมๆคุยกันกระหนุงกระหนิงออกมาด้วย...
"อย่าเมามานะบอล กลับมาก็ไขมาได้เลย คืนนี้แฟนพี่ไม่อยู่" โหดูผมแทบไม่เชื่อสายตาและหูตัวเองเลย เฮ้อแต่ไงก็ต้องทำใจครับ ผมไม่ได้สนิทกับไอ้บอล ก็อย่างที่บอกแหละครับไม่ค่อยชอบขี้หน้ามันเท่าไหร่.....ไอ้นี่เจอมันครั้งแรกวันนี้ผมบอกตรงๆ มันน่าเป็นคนขี้ประจบครับ เห็นคุยไปได้หมดทั่วคอร์ทเทนนิส...
"ครับ เจ๊" มันหอมแก้มเจ๊นีไปหนึ่งที แล้วก็เดินออกมา..เฮ้อ นี่มันเกิดอะไรขึ้นนี่...ขนาดหนีมาไกลแล้วนะยังเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกเหรอ...
สามทุ่มกว่าๆ แล้วครับ เราจอดจักรยานกันที่หน้าหน่วยงานแล้วก็โบกแท๊กซี่....เป็นครั้งแรกนะนี่ที่ผมได้ไปเที่ยวอตก. มันจะสนุกเหมือนจัตุจักรเหรอเปล่านี่....
เกือบสี่ทุ่มครับ เรามาถึง อตก. แล้ว คนไม่ค่อยพลุกพล่านนะครับ อาจจะเป็นเพราะวันธรรมดาด้วยมั๊งและอีกอย่างมันเพิ่งจะบูม....ร้านก็เป็นแบบลักษณะร้านเล็กๆ คูหาสองคูหา นะครับ มีหลายร้าน....
ไอ้แบงค์เดินนำผมสองคนไปร้านๆ หนึ่งครับ ชื่อร้าน ยกกระดก... เก๋ซะ แต่ตอนนี้คนในร้านก็ไม่ค่อยเต็มนะครับ เราเดินเข้าไปแล้ว.... ไอ้แบงค์มองซ้ายมองขวา โต๊ะนั่นคงใช่ มันเดินเข้าไปแล้ว ผมกับไอ้บอลเดินตามไปด้วย...
"หวัดดีหว่ะ มานานแล้วเหรอ" โหเพื่อนมันสามคนครับ อยู่ในชุดนักศึกษาสีขาวด้วย โหผมมองไปที่สามคนนั้น โหสุดยอดเลยครับ หล่อ จริงๆ.....แหะๆ ผมน่ะแพ้ความหล่าอยู่ด้วย
"นั่งดิ อย่ายืนบังเสา นั่งๆ" หนึ่งในสามนั้นชวนพวกเรานั่งครับ..
"เอ๊ย เต้ ขวัญ เติ้ล นี่พี่เอก ไอ้บอล เพื่อนกรู พี่เอก ไอ้บอล นี่เต้ ขวัญ เติ้ล ครับ เพื่อนจังหวัดเดียวกับผม" ก็จังหวัดเดียวกับผมเหมือนกันแต่คนละโรงเรียน พวกนี้มันในเมืองส่วนผมมันนอกเมือง...
"น้องแก้วสามใบ" ไอ้ขวัญเป็นคนสั่งบ่อยครับ เด็กเสริฟ ที่นี่ชายล้วนแฮะ ใส่ชุดยูนิฟอร์มสีส้มด้วย โหร้านนี้เค้าคัดเด็กเสิร์ฟเหรอเปลานี่...หน้าตาดีๆ ทั้งนั้น....
หลังจากที่แก้วมาแล้ว เราก็นั่งกินกันครับ ตอนนี้มันสั่งแสงโสมนะครับ ตัวเก็บผมเลยแหละ กินไม่ค่อยได้ครับ ทั้งสีทั้งกลิ่น....แต่ไงก็ต้องกินๆ ไปก่อน แหม เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ้วตาตาม...
บรรยากาศร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ นะครับ สองคูหา ประมาณมีดนตรีเล่นสด มีโต๊ะนั่งกินคล้ายๆ ร้านอาหารทั่วไป โต๊ะนั่งกินเป็นโต๊ะไม้นะครับ ตอนนี้คนเริ่มเยอะแล้วเราต้องนั่งเบียดกัน ครับ หกคน แหมบรรยากาศก็นะ ครึกครื้น..เหล้าหมดไปสองกลมแล้ว ชั่วโมงเดียวเอง ผมน่ะเหลือบตาไปมองสามคนบ่อยๆ ก็คือ ไอ้เต้ ไอ้ขวัญ ไอ้เติ้ล
"พี่เอก พี่เป็นคนจังหวัด......จริงเหรอ หน้าไม่ให้เลยพี่" ไอ้ขวัญถามผม
"ทำไมล่ะ" ผมถามตอบ
"ผมว่าหน้าพี่มันไม่ให้น่ะ...มันเหมือนภาคใต้ไงไม่รู้" ไอ้เติ้ลแซวผมอีก
"อะไรวะ กรูคนเหนือจริงๆ ไม่เชื่อดูบัตรประชาชนมั๊ยล่ะ"
"แต่หน้ามันขัดแย้งกับความจริงนี่พี่"อ้าวไอ้เต้สบทบอีก
"พี่เอก เค้า รุ่นพี่พี่มอส น่ะ สี่ปี" พี่ชายไอ้แบงค์มันครับ
"อือ นี่ปีนี้เราจะขึ้นดอยขุนตาลกันอีกเปล่าวะ" ไอ้เต้ ถามครับ...
"เอาดิ ปีแล้วโคตรมันส์เลย หนาวหน่อยแม่ง..." ไอ้ขวัญพูดออกมาครับ
"พอเลยมรึง ไอ้ขวัญ แม่ง มันส์เหี้ยไร กรูเหม็น" ไอ้เติ้ล เอามือปิดจมูกล้อๆ ไอ้ขวัญ ผมสงสัยว่ามันเรื่องไร..
"เหม็นอะไรเหรอวะเติ้ล" ผมถามด้วยความสงสัยครับ..
"มรึงเล่าดีกว่า ไอ้เต้ กรูไม่อยากเผาเพื่อน" โหขนาดไม่เผานะนี่
"ไม่เอากรูเหม็นไอ้แบงค์มรึงเล่าให้พี่เอก ฟังดิ"
"เวน ไม่ต้องเกี่ยงกันกรูเล่าเอง ห่า... เผากรู" ไอ้ขวัญมันบ่นๆ
"คือปีแล้วพวกเรา สี่คนขึ้นดอยขุนตาลกันพี่ ช่วงเดือนธันวา ตอนขึ้นไปเราก็เดินขึ้นนะครับ ขนเหล้าขนอะไรไปกิน แหม ก็หนาวแบบนั้ ก็ต้องกินเหล้ากันนิ...พอประมาณสักตีสองแหะๆ เราก็หลับกัน เรานอนกันสองเต๊นท์นะพี่เอก ผมกับไอ้แบงค์นอนด้วยกัน และไอ้เต้กับไอ้เติ้ลนอนด้วยกัน...นอนกันไปถึงเช้าไม่เล่าแล้วอาย...."
"ไรวะ กล้าทำก็ต้องกล้ารับดิ" ไอ้แบงค์ มันหัวเราะก๊ากๆ..
"มาๆ กรูเล่าเอง....ใกล้เช้าครับแดดออก ผมตื่นขื้นมา แม่งทำไมมันอึดอัดแบบนี้ดิ ผมก็ลุกมาดูแม่งทำไมมันเบียดกันสี่คนล่ะหรือว่า ไอ้แบงค์กับไอ้ขวัญมันหนาวกัน ผมไม่อยากนอนเบียดเลยหยิบข้าวของไปนอนเต๊นท์ของพวกมัน เข้าไปแค่นั้นแหละพี่ โห กลิ่นหึ่งเลย ทั้ง กลิ่น ทั้ง รูปร่างกอง โชยคลุ้งไปทั่วเต๊นท์มัน" ไอ้เติ้ลหยุดได้แค่นั้น ก็มันขำก๊ากๆ คงเล่าต่อไม่ไหว...
"มาๆ กรูต่อเอง" ไอ้เต้ มันอาสาจะเล่าต่อ"ไอ้เติ้ลมันตธโกนบอกพวกผมสามคนนะพี่เอก ว่า ใครขี้วะ ไม่มีใครตอบเลยครับ มันแค่อะไรก็ไม่รู้ก็เลยเอาไม้แหย่ และตักไอ้ก้อนนั้น มาเต๊นท์ที่พวกผมนอนอยู่....ได้ผลครับ แป๊บเดียวเราสามคนตื่นเรียบ ผมถามว่า ไอ้สาด มรึงจะขึ้มรึงก็ไปขี้ที่อื่น ไม่ต้องมาขี้ในเต๊นท์ ไอ้เติ้ลมันบอกว่าไม่ใช่ขี้กรู ไอ้หมาตัวไหนมันขี้ไว้ในเต๊นท์ นั่นก็ไม่รู้แล้วแอบหลบมานอนที่นี่ .....ขี้ใครวะ.......ผมถามตะโกณถามมันนะพี่ ไม่มีใครตอบ"
"แล้วตกลงขี้ใครล่ะ" ไอ้บอลสงสัยหว่ะ
"มรึงลองเดาดิวะ เต๊นท์ใครก็น่าจะขี้ตัวนั้นแหละ"
"มรึงเหรอวะ แบงค์ หรือว่า มรึง...ขวัญ" ผมถามตอนนี้เราเริ่มสนิทกันแล้วครับ แหะๆ ตีสนิทไว้ก่อน....หล่อๆ ชอบๆ
"ไม่ใช่ผม พี่เอก" ไอ้แบงค์ รีบปฎิเสธ ก็เหลืออีกคน มันนั่งเงียบ เป็นผู้ร้ายปากแข็งจริงๆ....
"ผมเลยท้า ไม่มีใครรับใช่มั๊ย งั้นไม่ต้องนอน ผมเอาขี้ที่เอามาด้วยกจะจะโยนเข้ามาอีกเต๊นท์หนึ่ง.....ฮาฮาส และแล้วก็มีคนยอมรับน่ะพี่เอก ไอ้สาดนี่เอง ไอ้ขวัญขี้แตก.."
"ก็กรูกลัวผีนี่หว่ะ จะออกไปขี้แม่งโคตรมืด เลยขี้ข้างๆ " มันพูดเสียงอ่อยๆ
"ข้างห่าไรวะ ในเต๊นท์เลย กรูได้กลิ่นกรูนึกว่ากรูฝัน...กรูเลยหอบข้าวของไปนอนกับพวกไอ้เต้ไอ้เติ้ล แหะๆ มันไม่ใช่ฝันหว่ะมันความจริง...แล้วสาดมรึงเสือกตามมาอีก"
"กรูก็นึกว่ากรูฝันเหมือนกัน....แหะแหะ ปีนี้ไม่ขี้แตกอีกแล้ว.....เสียยี่ห้อคนหล่อหมด...."
"เออ เสียยี่ห้อไอ้ขวัญขี้แตกหมด ฮ่าฮ่า" ครื้นเครงกันใหญ่ครับ
"เหล้าหมดแล้ว จะต่อกันเปล่านี่" ไอ้เต้ถามครับ...ตอนนี้ตนตรีกำลังเล่นมันส์เลยครับ ขอโทษทีนะครับจำชื่อวงมะได้ เป็นวงที่ มีมือกลองตัวเล็กๆ หล่อๆ มือเบสผมยาวหน้าตาดี มือกีตาร์ร้องนำอีกคนหน้าตาธรรมดา ที่สำคัญนักร้องหญิงคนนี้ผมชอบ น่ะ จำชื่อไม่ได้เหมือนกัน ความจริงผมสนิทกับวงนี้นะครับ แต่นึกชื่อเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก มันติดอยุ่ตรงคอหอยทุกที...
"สั่งมาดิ ยังไม่เมาเลย เดี่ยวกรูช่วยจ่าย" แหมก็แหงล่ะครับ ผมแก่ที่สุดในนั้น มันก็ประมาณปีสี่ กันหมดแล้ว รุ่นๆ ไอ้เกมแหละครับ อาจจะอ่อนกว่าสองสามปี ...
"เอางี้พี่เอก เดี่ยวเรามากินเหล้าป๊อกกันดีกว่า" ไอ้ขวัญ มันชวน....ผมทำหน้าสงสัยครับ เหล้าป๊อกคือไร...
"คือไรล่ะเหล้าป๊อก"
"เอาจริงเหรอวะ ไอ้ขวัญ เดี่ยวแมร่งได้เมาปลิ้น" ไอ้เติ้ลรีบบอก...
"กลัวเหรอมรึง พรุ่งนี้ก็ไม่มีเรียน มาๆ อย่าปอด" ไอ้ขวัญมันท้าอีก....มันสั่งมาแล้วครับ ผมมองว่ามันคือไร...ก็คือเป็นประมาณเหล้า แล้วมีกับแกล้ม เป็น มะนาว เกลือ โซดา สไปร์ท... แล้วแก้ว เป๊ก เล็กหนึ่งใบ....
"พี่เอกเริ่มก่อนนะ" ไอ้ขวัญมันรินแสงโสมลงในแก้วเป๊กแล้วครับ ตามด้วย สไปร์ท โซดา เหยาะเกลือ บีบมะนาว มันเอามือปิดตรงฝาแก้วป๊อก แล้วเคาะโต๊ะดังป๊อก โหฟองพุ่งเลยครับ...
"พี่เอกตาพี่เร็วๆ" มันยื่นแก้วให้ผม โหอะไรนี่ ผมรับ จะกินไม่กินนี่ สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ผม เฮ้อกินก็กิน ผมกระดกเหล้าในแก้วนี้ลงคอไป โหสุดยอดเลยครับ รสชาดิ แหะๆอร่ยยดีเหมือนกัน....
"ตามรึงแล้ว ไอ้เต้ " ป๊อก โห...ดูมันไม่สะทกสะท้านกับรสขมๆ เลยแฮะ....รอบหนึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วครับ รอบที่สอง สาม สี่ตามมา เหล้าหนึ่งกลมหมดไปอย่างรวดเร็ว....
พวกผมเริ่มเมากันแล้ว ครับ อาแน่ ตอนนี้ทุกคนออกสเต็ปกันแล้ว ดนตรีก็อย่างว่าแหละครับ เร้าใจจริงๆ มันเป็นประมาณงานสังสรรค์กันเองอะไรแบบนี้แหละครับ ไม่ใช่แบบเป็นทางการ นักร้องก็จะตามใจแขกหรือ เล่นเพลงได้สะใจคนเมาดีจริงๆ.....ช่วงนี้ผมสนุกครับ หน้าของไอ้ลูกเจี๊ยบหายไปชั่วขณะ....ก็แวดล้อมไปด้วยหนุ่มๆ หล่อๆ แบบนี้เอ๊ยไม่ใช่ครับ บรรยากาศมันสนุกสนานแบบนี้ มันทำให้ผมหายเศร้าไปชั่วขณะ.....
การเจ็บปวดกับความรักที่เราไม่เคยลืมนั้น ถ้ามองในอีกมุมนึง....ไอ้ที่เรายังคงเจ็บอยู่แบบนี้ไม่ใช่เพราะเขา...ที่ทำร้ายเราหรอก...... แต่เป็นเพราะใจของเราเองต่างหาก.....ที่ทำร้ายตัวของเราเอง..... ความคิดของเราเองนั่นแหละที่มันเป็นเหมือนมีดที่กรีดลงในใจเรา....ให้เป็นแผล..... ถ้าเราวางมีดเล่มนั้น...... แล้วหันมากลับมารักตัวเองให้มากขึ้น..... เราก็จะไม่เจ็บปวด.....ไม่ปวดใจ.....อีกต่อไป.....