ผมกำลังโดนลวนลาม...!! ไม่ใช่ด้วยการกระทำ(คือแบบว่า...อาจจะมีบ้างนิดหน่อย) ที่หนักสุดคงเป็นสายตาคู่นั้นที่ชอบมองมาพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่มตลอดเวลา และคนๆนั้นก็เป็นผู้ชายตัวโต เป็นคุณหมอหนุ่มไฟแรงหน้าตาหล่อเหลาเอาการ ทั้งที่ไม่ควรจะรู้สึกอะไร..กับผู้ชายด้วยกัน...แต่ที่ทำให้หงุดหงิดอยู่ตอนนี้ก็เพราะ....มันทำให้หัวใจเต้นแรง...เกินไป!!
ตั้งแต่วันที่ไปทานข้าวด้วยกันวันนั้น ขนาดว่ายังกินไอติมกะทิยังไม่หมดถ้วยแรก คุณหมอแกก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในร้าน...ก็ไหนว่ารถติด!!? แล้วจากนั้นก็เจอกันบ่อย คงเพราะปิดเทอม ก็เลยมีเวลาว่างไปเตร็ดเตร่ ไปเดินซื้อโน่นนี่ ไปดูหนัง และอย่างวันนี้มานั่งวาดรูปในสวนสาธารณะ
"เลิกจ้องผมแบบนั้นซักทีเถอะครับ" ชายเอิงวางดินสอที่ใช้วาดรูปลงสีหน้าหงุดหงิด ต่างจากใบหน้าของอีกคนที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่ยังคงคลี่ยิ้มไม่เลิก
"อ้าว...ก็น้องเอิงบอกเอง ว่าให้พี่อยู่นิ่งๆ" หมอขิมทำเป็นตอบเหมือนไม่รู้เรื่อง ทำหน้าซื่อตาใส แกล้งขยับตัวบิดไปมาไล่ความเมื่อยขบ เพราะไปขอร้องให้อีกฝ่ายวาดรูปเหมือนตัวให้ แต่คุณจิตรกรจำเป็นก็ทำหน้าหงุดหงิดและถอนหายใจอยู่ตลอดเวลา..แต่ถ้านั่นเป็นเพราะอยากกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่างที่ทางนี้ส่งไปให้ล่ะก็...คงอารมณ์ดีมากกว่าที่จะกลัวโดนโกรธ
"ก็อยู่นิ่งๆ แต่..ไม่ต้องมองแบบนั้นก็ได้" คนวาดรูปบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแค่รู้สึกว่า หน้ามันร้อน มือที่จับดินสอมันก็ไม่ยอมนิ่ง แถมยังอาการใจสั่นนี่อีก ทั้งที่ประสบการณ์วาดรูปหน้าเหมือนก็ไม่ใช่น้อย เคยไปตั้งแผงตามงานบุญก็เคยมาแล้ว แต่กับนายแบบจำเป็นคนนี้...แตกต่าง!!
ปลายผมยาวระต้นคอถูกลมพัดปลิวไปตามแรง แต่ก่อนจะได้รวบผมก็จำต้องเอื้อมตัวไปคว้าข้าวของที่จะปลิวไปตามแรงลมเสียก่อน โดยมีคุณหมอคนเดิมช่วยอีกแรง ชายเอิงแอบถอนหายใจเบาๆที่ไม่มีอะไรปลิวหาย แต่สภาพตัวเองตอนที่หัวกระเซิง(เพิ่งนึกขึ้นมาได้)ทำให้อายจนแทบจะวางข้าวของในมือทิ้ง แล้วจับรวบผมไปข้างหลังให้สิ้นเรื่องสิ้นราว
"อ๊ะ!!" ยังไม่ทันจะได้วางของในมือลง สัมผัสเบาๆที่ต้นคอก็ทำเอาสะดุ้ง เมื่อคุณหมอเดินอ้อมไปข้างหลังคว้าเอายางผูกผมสีๆในกล่องที่มือตัวเอง ถือวิสาสะรวบผมยาวที่กำลังยุ่งเหยิงให้
"โอเคไหม? แน่นไปรึเปล่า?" ไอ้หนุ่มผมยาวรีบส่ายหัวรัวแทนคำตอบ ตั้งแต่เกิดมานอกจากน้องสาวกับแม่ยังไม่เคยมีใครหาญกล้าถึงเพียงนี้ กล้ามาจับผมไอ้เอิงแถมรวบให้อีกต่างหาก...ที่สำคัญคือ..ไม่ได้สระผมมาสองวันแล้วเหอะ กล้าจับเข้าไปได้ยังไง!!
"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ!!" คุณหมอใจดีแอบมองเสี้ยวใบหน้าขาวของคนตรงหน้าอย่างพอใจ น่าเสียดายที่แตะต้องได้เพียงแค่ปลายนิ้ว ต้นคอขาวเนียนที่โผล่พ้นคอเสื้อยืดสีเทา เส้นผมยาวนุ่มระต้นคออยากลองสอดมือเข้าไปแล้วรั้งให้ใบหน้าเนียนนั้นหันกลับมา....แต่ก็ทำได้แค่มอง...แค่คิดในใจ
"นั่น..ภาพที่ร่างไว้เหรอ ขอพี่ดูหน่อยได้ไหมครับ" ชายเอิงกำลังจะขยับตัวหลบให้คนที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง แต่ยังไม่ทันพ้นใบหน้าอีกฝ่ายก็ยื่นเข้ามาเล่นเอาใจไหววูบ ขนาดว่าโดนจ้องอยู่ในระยะไกลยังทำให้ใจเต้นผิดจังหวะได้ แล้วในสภาพนี้เหมือนกับคุณหมอเอาหัวมาพาดบนไหล่แค่เพียงขยับหันมองกลับไปยังต้องแทบกลั้นหายใจเพราะปลายจมูกเกือบชนกับแก้มอีกฝ่าย....เกิดอะไรขึ้นกับไอ้เอิงกันล่ะนี่!!
กลิ่นตัวหอมอ่อนๆตามธรรมชาติ มิได้ปรุงแต่งด้วยรสของน้ำหอมทำเอาสมาธิไม่ได้จดจ่ออยู่ที่รูปภาพร่างด้วยดินสอดำอย่างที่ควรจะเป็น แม้จะเป็นการทำเนียนได้อย่างธรรมชาติสุดๆ แต่ก็ยังเผลอสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่โอกาสไม่ได้มีบ่อยๆ ต้องซึมซับตักตวงช่วงระยะใกล้ชิดแบบนี้เอาไว้ แก้มขาวแม้จะไม่ได้เนียนใสเหมือนสาวๆวัยแรกรุ่นแต่ก็ดูน่าหลงใหลจนยากจะหักห้ามใจไม่ให้แตะต้อง
"อ๊ะ!! ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ" เพียงแค่ปลายจมูกเฉียดผ่านก็ทำให้อีกฝ่ายยืนตัวแข็งทื่อ ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆเหมือนยังคงมึนงงกับสัมผัสเมื่อครู่ ถ้าหากว่าที่นี่ไม่ใช่ส่วนสาธารณะที่มีคนพลุกพล่านป่านนี้คงได้เชยชมให้สมใจอยาก ไม่ใช่เพียงแค่ปาดผ่านๆไป
"ผะ...ผมต้องกลับแล้วล่ะ!!" ชายเอิงที่เพิ่งจะได้สติ รู้สึกเหมือนหน้าร้อนเป็นไฟตรงที่โดนแตะ...ด้วยปลายจมูกโด่งของคุณหมอ ..มันช่างน่าอับอายยิ่งนัก ทำไมถึงได้มารู้สึกใจเต้นตึกตักกับผู้ชายด้วยกันได้!!
ใช่ซิ!! เพราะคุณหมอขิมดูดี เพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง
หรือไม่ก็....เพราะสายตาและรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจไอ้เอิงเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ
และ...เพราะคุณหมออีกนั่นแหละ ชอบเข้ามาอยู่ใกล้ๆในระยะที่ไม่ให้ตั้งตัว
"อ้าว..ไม่วาดให้เสร็จก่อนเหรอ ได้ไปแค่เส้นร่าง หน้าตาพี่จะออกมาเป็นแบบไหนล่ะ" คำพูดแกมหยอก ไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกฝีมือหรืออะไร แต่คนที่กำลังเก็บข้าวของก็หันขวับกลับมามองด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก
"เรื่องแค่นี้เอง ผมวาดไม่เพี้ยนหรอก จินตนาการเอาก็ได้เหอะ!!" หารู้ไม่ว่าประโยคที่ตัวเองเถียงออกมา ทั้งที่ไม่ยอมหันมามองหน้าคนฟัง จะย้อนกลับเข้าตัวเองในเวลาไม่นาน เมื่อคนฟังทางนี้คลี่ยิ้มออกมาอย่างคนที่อารมณ์ดีเกินพิกัด
"จินตานาการ!!?...หมายความว่าน้องเอิงจะ'คิดถึง'พี่ใช่ไหมครับ?"
กึก!!! มือที่กำลังรวบเอาดินสอลงกล่องถึงกับชะงักค้าง เผลอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแบบไม่ได้ตั้งใจ... แค่เพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่เจอกัน ทำไมไอ้เอิงคนนี้ถึงได้รู้สึกว่ามันช่างยาวนานราวกับหนึ่งวันเต็ม ตั้งแต่ตอนไหนแล้วนะ ที่รู้สึกว่าสายตาของพี่หมอที่มองมาไม่เหมือนเดิม
"นักวาดรูปทุกคนก็เป็นแบบนี้กันหมด ไม่มีจินตนาการจะวาดผลงานออกมาได้ยังไงล่ะ" ถึงแม้จะเถียงออกไปแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้รอยยิ้มของคุณหมอเจือจางลงไปเลย ไอ้เอิงชักเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันที มันเหมือนความไม่แน่นอนคล้ายจะสับสนกับอะไรบางอย่างคุกรุ่นอยู่ในใจและกลายเป็นอารมณ์ขุ่นมัวในที่สุด
"แย่จัง!!..งั้นแบบนี้พี่ก็ต้องอิจฉาต้นแบบวาดรูปของน้องเอิงทุกครั้งเลยซิ" ชายเอิงทำใจกล้าหันกลับไปมองหน้าคนพูดจนได้(ในที่สุด) แล้วก็ต้องเบือนหน้าหลบสายตาที่มองมาอีกนั่นแหละ เพราะมันพาลจะทำให้คิดคำที่จะพูดออกมาไม่เป็นประโยค...ชักเริ่มจะหมดความอดทน
"คุณหมอต้องการอะไรครับ พูดแบบนี้ มองผมแบบนี้ คิดจะแกล้งกันเล่นหรือเพราะเห็นว่ามันสนุกดี!!?" หมอขิมเลิกคิ้วมองคนที่กำลังยืนกอดอกท่าทางเอาเรื่องอยู่ตรงหน้า ท่าทางที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกหวาดกลัว แต่กลับตรงกันข้าม...เพราะถามแบบนี้ก็เท่ากับชี้โพรงให้กระรอกตัวใหญ่ได้สมใจเสียที
"ไม่ได้จะแกล้ง..แต่'สนุก'น่ะ..ใช่!!" ชายเอิงหันขวับไปจ้องหน้าคุณหมอแบบหาเรื่อง แต่อีกฝ่ายกลับยกมือสองข้างขึ้นมาเหมือนจะบอกว่ายอมแพ้ทั้งที่ยังไม่ได้ออกแรง
"ผมจะกลับ...เอารูปไปให้คนอื่นวาดต่อเถอะ ไม่มีอารมณ์วาดแล้ว!!" หมอขิมแทบจะกระโดดคว้าข้อมือคนที่กำลังพยายามแกะกระดาษร่างออกมาให้ ไปยั่วให้โกรธจริงๆเข้าเสียแล้วล่ะมั้ง
"เดี๋ยวๆครับ ถ้าพี่บอกว่าจะ'จีบ'....!!"
"อยากจีบก็ไปจีบซิครับ อย่ามาทำให้โมโห รู้ไหมว่าไอ้เอิงกำลัง.....หา!!!? เมื่อกี้ว่าอะไรนะ....ขออีกที!!" ที่จริง...บรรยากาศรอบข้างก็ดูเป็นใจดีอยู่หรอก ความจริงมันก็น่าจะซึ้งและโรแมนติกท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียวสุดลูกหูลูกตาขนาดนี้ แต่มันติดตรงที่ว่า ไอ้ชายเอิงกำลังยืนทำหน้าเหวอเอามือแคะขี้หูตัวเองประหนึ่งว่าประโยคที่ได้ยินไปเมื่อครู่...แค่หูฝาดไปเอง
"พี่กำลัง'จีบ'น้องเอิงอยู่ไงครับ" คำตอบยิงตรงแบบไม่มีอ้อมค้อมใดใด ทำเอาคนฟังอ้าปากค้าง ทำหน้าเหวออีกรอบ ก็พอจะรู้ตัวอยู่หรอก...แต่ใครเค้าจะมาพูดกันตรงๆแบบนี้ล่ะ
.
.
.
"ได้ไหมครับ? พี่จีบน้องเอิงได้ไหม?" คำถามย้ำพร้อมกับยื่นมือมาปัดไรผมยาวข้างแก้มออก แผ่วเบา อ่อนโยน แต่กลับทำให้เจ้าของแก้มรู้สึกร้อนผ่าว กับไอ้ป๋าไม้ก็เคยนอนเตียงเดียวกันออกบ่อยยามเมาเข้าบ้านไม่ได้ กับไอ้วายุก็เดินกอดคอกันได้สบายๆแบบไม่มีอาการใจเต้น แต่...ไม่ใช่กับคนๆนี้ ทุกอย่างดูแปลกไปหมด
"ถะ..ถามแบบนี้ แล้วจะให้ผมตอบยังไงล่ะ?" คุณหมอขิมคลี่ยิ้มกว้างทั้งที่ยังไม่ได้รับคำตอบ แต่...คงไม่ต้องแล้วล่ะมั้ง แค่ไม่ได้ยินคำปฏิเสธก็พอใจแล้ว
"ไม่ต้องตอบก็ได้ พี่รู้แล้ว" ชายเอิงหันไปสบตาคนพูด ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ
"รู้ได้ไง!!?" นึกหมั่นไส้รอยยิ้มหวานของคนตรงหน้าขึ้นมาตงิดๆ
"ก็น้องเอิงทำหน้าแบบนี้..." หมอขิมแทบจะหลุดหัวเราะตอนที่เจ้าของใบหน้ายกมือขึ้นมาทาบแก้มตัวเองด้วยสีหน้างงสุดฤทธิ์
"ผมทำหน้าแบบไหน!!?" เจ้าของใบหน้าเริ่มกลับมาหงุดหงิดอีกรอบหลังจากเหวอไปนาน...(ที่จริงแค่เปลี่ยนเวอร์ชั่นเหวอก็แค่นั้น)
"น้องเอิงไม่ต้องรู้ก็ได้ ..ให้พี่เห็นคนเดียวก็พอ" คำหวานที่หยอดมาแต่ละรอบ ทำเอาไอ้หนุ่มผมยาวหน้าร้อนวูบ อยากจะหาอะไรมาคลุมหน้าปิดตาตัวเองไว้ ไม่ให้โดนสายตาคุณหมอจับจ้องมา
"ผมจะกลับแล้ว!!" คราวนี้คงไม่ต้องเสียเวลามาจับเรียงอุปกรณ์โน่นนี่ลง คุณชายเอิงใช้วิธีรวบทุกสิ่งอย่างยัดลงไปในกล่องเครื่องมือวาดรูปแล้วก้าวฉับๆนำหน้าไปทางลานจอดรถ ไม่สนใจคุณหมอที่วิ่งตามหลังมา
"ให้พี่ไปส่งนะ" หมอขิมตะโกนไล่หลัง ก้าวยาวๆให้ทัน แล้วจู่ๆอีกฝ่ายก็หยุดเดิน หันมาทำหน้างอใส่
"ไปรับมาเอง ก็ต้องไปส่งด้วยซิครับ!!!" หันมาบอกแค่นั้นก่อนจะเดินนำไปที่รถ ...รถตัวเองก็ไม่ใช่ เจ็บใจแต่ก็เดินกลับเองไม่ได้ ระยะทางไกลเกิน ต้องทนนั่งเขินไปแบบนี้จนกว่าจะถึงบ้านอีก...เสียเชิงชายไอ้เอิงหมด!!
ต่างจากคุณหมอหนุ่มที่เดินตามหลังมาอย่างสิ้นเชิง รายนั้นดูจะอารมณ์ดีกว่าใคร แม้จะไม่ได้ทั้งหมดอย่างที่หวัง แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีทางจะได้มาครอบครอง ..วันนี้ตอนนี้...ได้แค่นี้ก็พอแล้ว ค่อยๆกระชับพื้นทีเข้าหากันทีละนิด ซักวันระยะห่างระหว่างกันคงไม่มี...
=========================================
มาต่อแบบมึนๆ คู่นี้เค้ายังไปไม่ึถึงไหนกันเลย
แอบกระซิบบอกว่า นิยายเรื่องนี้ใกล้ลาจอแล้วขอรับ 
แต่ยังไม่ได้หนีหายไปไหน ยังวนเวียนอยู่แถวนี้
โปรเจคใหม่ก็เตรียมไว้แล้ว เหลือแค่พร้อมอีกหน่อย 
แล้วก็....เมื่อวันแห่งความรัก แวบไปปั่น "แตงกวา-หมอเนส" ตามคำทวงเนียนๆแถวนี้
เอามาลงให้หายคิดถึง หวานกันเบาๆ
ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามเสมอๆ
อยากกอดทุกคนซบๆ==========================================
ช่วงคั่นโฆษณา::
ประกาศเจ้าข้าเอ๊ยยยยยยยยยย สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้ามา
นิยายเรื่อง: เรื่องรัก..ไม่ล้าบอก
เปิดจองและ โอนตั้งแต่แล้ว ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 08/04/2011
รายละเอียดเพิ่มเติม เข้าไปดูได้ที่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=14565.2220
จุดพลุฉลอง วู้ๆๆๆๆ 