5 ) เมื่อกะเหรี่ยงไปเมียงมองแขก (1)ก่อนวันเดินทาง 1 วัน ไกด์ไทยได้โทรศัพท์มาหา เพื่อแจ้งกำหนดการนัดพบในวันพรุ่งนี้คร่าว ๆ ว่า
จะให้ไปเจอกันที่ไหน พร้อมแนะนำตัวเองว่า จะเป็นตัวแทนไกด์ไทยร่วมทริปไปด้วย
เพราะเที่ยวนี้มีสมาชิกร่วมเดินทางทั้งหมด 30 คน ถือว่า เป็นกลุ่มใหญ่พอสมควร
แล้วก็ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อเผื่อกรณีฉุกเฉินไว้ด้วย คุณไกด์ เป็นผู้ชายที่ฟังเสียงดูก็รู้ว่า
ไม่ใช่ชายแท้ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่คิด เมื่อเจอหน้ากัน ซึ่งเขาก็คงจะมองความสัมพันธ์ของพวกผมออก
ว่า คงไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดา ฉะนั้น ตลอดการเดินทาง เขาเลยชอบเข้ามาป้วนเปี้ยนวนเวียน
กับพวกผม ชี้ชวนให้ชมนู่นนี่นั่น บอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ
ให้ฟังอย่างเพลิดเพลินและได้รับความรู้นอกตำราเยอะแยะ ก็ประมาณว่า “ผีเห็นผี” 55555
ซึ่งส่วนตัวผม ผมก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร เพราะคุ้นเคยกับการเข้าสังคมทางธุรกิจอยู่แล้ว
แต่คุณชายเขาแอบอึดอัด เพราะเขาไม่ชินกับการที่จะมีคนภายนอกเข้ามารู้เห็นความสัมพันธ์ของเรา
ก็เลยต้องบอกให้เขา อย่าไปใส่ใจมาก เพราะมาเที่ยวแบบนี้ พอกลับไป ก็ไม่ได้เจอกันอีก
แต่คุณไกด์เขาก็น่ารักนะครับ เขาวางตัวได้ดี มีสัมมาคารวะ ไม่ได้เข้าหาจนเกินพอดี
แต่ที่คุณชายแอบเหล่เขา เพราะไม่ชอบใจที่เขาชอบสะกิดชี้ชวนผมให้แอบมองเกย์ตุรกี
เกย์รัสเซีย เกย์สแกนดิเนเวียน และอีกสารพัดสัญชาติ ตอนไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ
ในกรุงอิสตันบูลและเมืองแถบชายฝั่งทะเลที่เรือสำราญสามารถไปจอดเทียบท่าได้
แต่เขาไม่กล้าสะกิดคุณชายนะครับ เพราะรายนั้นเล่นบทนิ่ง พูดน้อย แผ่รังสีพิฆาตทางสายตา 555555
ตอนที่ไปนั้น เป็นช่วงหน้าร้อนของตุรกีพอดี ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศกำลังดี ก็เลยมีนักท่องเที่ยว
แถบคาบสมุทรบอลข่านและยุโรปเหนือหนีหนาวมาท่องเที่ยวกันเยอะ โดยเฉพาะในกรุงอิสตันบูล
และเมืองแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยส่วนใหญ่เขาจะมากับเรือสำราญลำใหญ่
จุคนได้หลายพันคน ซึ่งตอนที่ไปนั้น เป็นช่วงที่เรือสำราญ 5 ลำ จอดเทียบท่ากรุงอิสตันบูลพอดี
ลองคิดกันเล่น ๆ ว่า เรือลำหนึ่งบรรทุกคนได้ประมาณ 3,000 คน 5 ลำ = 15,000 คน
ซึ่งโปรแกรมการท่องเที่ยวก็จะเหมือน ๆ กัน หรือใกล้เคียงกัน และนอกจากฝรั่งหัวทอง หัวแดง
หัวน้ำตาลแล้ว ยังมีคนเอเชียหัวดำ อย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง จีน อินโดนีเซีย ฯลฯ
ไปเที่ยวด้วย เพราะฉะนั้น เวลาไปเที่ยวเมืองแถบชายฝั่งทะเล เช่น ทรอย เปอร์กามัม เอฟิซุส ฯลฯ
คนยังกับหนอน เดินกันยั้วเยี้ยขวั่กไขว่มาก กว่าจะถ่ายรูปได้แต่ละรูป ต้องรอกันนานหลายนาที
แต่พอไปเที่ยวลึกเข้าไปในแผ่นดิน คนค่อยเบาบางลงหน่อย แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวเอเชียเยอะอยู่ดี
วันเดินทาง พวกผมนัดเจอไกด์ไทยและทีมงานที่หน้าเคาน์เตอร์เตอร์กิชแอร์ไลน์ ประตู 9 ช่อง S
พอไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็เจอเจ้าหน้าที่บริษัททัวร์ของที่ไหนไม่ทราบมาคอยต้อนรับ
และเช็คชื่อลงทะเบียน อำนวยความสะดวกเรื่องตั๋วเครื่องบินและสัมภาระโหลดขึ้นเครื่องให้
ตอนแรกก็แอบหวั่นในใจว่า แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า ใครเป็นใคร เพราะทัวร์แบบนี้ เป็นทัวร์ร่วมทริป
กับบริษัททัวร์หลายแห่ง ไม่ได้เป็นทัวร์เดี่ยวบริษัทเดียว แต่พอไปถึงจริง ๆ ก็เห็นได้ชัดเจน
เพราะน้องเจ้าหน้าที่เธอเล่นสวมฮิญาบดูโดดเด่นมาก พอเช็คอินเสร็จ ทางไกด์เขาก็ปล่อยให้ลูกทีม
แต่ละคนเดินเล่นในสนามบินตามอัธยาศัย และนัดไปเจอกันที่ประตูขึ้นเครื่องตอน 10.00 น.
สำหรับพวกผม ด้วยความที่คุณชายแกมาสนามบินบ่อย ประหนึ่งว่า เป็นบ้านแห่งที่สอง
พวกผมก็เลยขี้เกียจเดิน เลยแวะเข้าไปหาที่นอนที่ CIP Lounge ของการบินไทย
หากาแฟและของว่างกินฟรีสักหน่อย คุณชายเขาได้ตามสิทธิของเขาอยู่แล้ว
ส่วนผมก็ได้ตามสิทธิบัตรรอยัล ออร์คิดที่มีอยู่ ตอนเช้า ๆ ของกินยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
มีแต่ของว่างเบา ๆ และผลไม้ ก็นั่งเล่น นอนเล่นกันอยู่ในนั้น จนถึงเวลาขึ้นเครื่อง
เนื่องจากระยะเวลาเดินทางค่อนข้างนานกว่า 6 ชั่วโมง พวกผมก็เลยอัพเกรดที่นั่ง
ไปนั่งชั้นบิสสิเนสแทน เพราะที่นั่งกว้างขวาง สะดวกสบายกว่ามาก ผมชอบทีวีที่เขาติดตั้ง
บนที่นั่งที่มีช่องชาร์ตไฟมือถือ LAN และ Audio สำหรับคนที่อยากทำงานหรือติดต่อเน็ตบนเครื่อง
และคนพกอุปกรณ์บันเทิงมาเอง อยากให้การบินไทยติดตั้งแบบนี้บ้างจัง จะได้สมราคาตั๋วหน่อย
[attachment deleted by admin]