ช่วงนี้ยุ่ง ๆ ทั้งงานราษฏร์ งานหลวง เลยไม่ค่อยมีเวลามาเม้าท์ในนี้มากนัก
เมื่อวานไปหาหมอ เช็คเท้าที่หักมาว่า กระดูกเริ่มติดหรือยัง ต้องผ่าตัดใส่หมุดมั้ย
ผลออกมา ค่อนข้างดี คือ กระดูกเริ่มติด แต่ต้องใส่เฝือกไปอีก 3 สัปดาห์
จนกว่าจะมั่นใจว่า ไม่มีปัญหา หมอก็ห้ามไม่ให้ขับรถ แต่ผมก็แอบ ๆ ขับไปเอง ช่วงใกล้ ๆ
ไปซื้อของกิน ของใช้ จะให้นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่กับบ้านเฉย ๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
ช่วงนี้เลยมีเวลาออกกำลังกายเต็มที่ ขาเดี้ยงไปข้าง แต่อย่างอื่นยังใช้การได้เหมือนเดิม
มาเรื่องตึงเครียดกันบ้าง.....
สถานการณ์การเมืองบ้านเรา กำลังอุ่นระอุ ไม่รู้ว่า จะประทุขึ้นมาเมื่อไหร่
ขอให้จัดเตรียมเงินสด ตุนเสบียงกรังเอาไว้บ้างก็ดี บัณฑิตย่อมตั้งอยู่ในความไม่ประมาท
ช่วงนี้เห็นยุทธการสงครามข่าวลือ ชิงไหวชิงพริบกันแบบนาทีต่อนาที ตามหลักการรบทางทหารเป๊ะ
เพื่อระดมกำลังคนให้อยู่ฝ่ายตนเองมากที่สุด เลยเป็นห่วงพวกเราว่า ให้ใช้สติไตร่ตรองให้ดี
อย่าตกเป็นเหยื่อโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนทั้งสิ้น
เพราะสุดท้ายทุกฝ่าย รวมถึงฝ่ายที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (อย่างพวกผม)
ย่อมได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันถ้วนทั่วเช่นเดียวกัน มากบ้าง น้อยบ้าง
แล้วแต่ว่า ใครเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ได้ดีกว่ากัน
เห็นแล้วก็สลดใจกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
รวมถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่มีการปิดถนนวิภาวดีและดอนเมืองโทลเวย์
จนทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องลากกระเป๋า หอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรัง เดินบนโทลเวย์
เพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองให้ทันเวลา ภาพดังกล่าวถูกตีข่าวไปทั่วโลก
เป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์และสุ่มเสี่ยงต่อการแทรกแซงจากต่างชาติ "มือที่สาม" ตัวจริงทั้งหลาย
ที่กำลังจ้องตาไม่กระพริบ เพื่อหาเหตุเข้ามาแทรกแซงบ้านเราอย่างถูกต้องตามกติกาสากล
คงไม่มีใครต้องการให้เราเป็นเหมือนเขมร เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ที่ต้องให้ UN เข้ามาจัดการเลือกตั้งให้
เพราะไม่มีใครย่อมใคร เหมือนที่กำลังเกิดขึ้นกับเราตอนนี้
อย่าคิดว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะตอนนี้ โลกเราไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
เมื่อก่อนต่างคนต่างอยู่ ประเทศใครประเทศมัน แต่ตอนนี้ทรัพยากรโลกร่อยหรอลงไปมาก
แถบยุโรปแทบจะไม่มีอะไรให้ขุดขึ้นมาใช้ได้แล้ว เหลือแต่แถบเอเชียเนี่ยแหละที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แหล่งสุวรรณภูมิ แผ่นดินทองของเรา
ที่ต่างชาติต่าง ๆ มันใช้ดาวเทียมสอดแนม จนรู้ทะลุทะลวงไปถึงไหนต่อไหนแล้วว่า
ใต้พื้นดินแถบบ้านเรา มันมีทรัพยากรมีค่าอะไรบ้าง ที่ยังบริสุทธิ์อยู่ ยังไม่มีการขุดขึ้นมาใช้
โดยเฉพาะน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และยูเรเนียม รวมถึงวัตถุดิบอื่น ๆ ที่สามารถนำมาสังเคราะห์
เป็นพลังงานทดแทน พวก Fuel Fusion อื่น ๆ ด้วย
มันถึงได้พยายามตีสนิทกับผู้ใหญ่ฝ่ายต่าง ๆ ในบ้านเรา เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
เหมือนอย่างกรณีที่สหรัฐฯ พยายามจะใช้เรื่องบังหน้ามาแอบสำรวจแหล่งทรัพยากรบ้านเรา
อย่างเรื่องที่เข้ามาขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อการสำรวจทางภูมิอากาศ เป็นต้น
ถ้าเป็นเรื่องแค่นี้ คงไม่ต้องให้คนระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ "ฮิลลารี่ คลินตัน" มาเยือนบ้านเราหรอก
เพราะปกติ ก็มีโครงการความร่วมมือเรื่องภูมิอากาศระหว่างประเทศกันอยู่แล้ว
เรื่องแบบนี้ จะโทษเขาก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงของรัฐ
เหมือนจีนโบราณ สมัยก่อนจิ๋นซีจะรวบรวมดินแดนให้เป็นแผ่นดินเดียวกัน
ที่แบ่งแยกกันเป็น 7 รัฐ รัฐใหญ่กลืนรัฐเล็ก ยังไงยังงั้น
ทรัพยากรโลกกำลังค่อยลดน้อยลงไปทุกที ตอนนี้แถบยุโรป-อเมริกา แทบไม่เหลืออะไรแล้ว
โดยเฉพาะแหล่งเพาะปลูกการเกษตร ดินมันเป็นพิษเสียเป็นส่วนใหญ่
จากผลพวงสารเคมี ที่กระหน่ำใช้กันอย่างเมามัน เพื่อเพิ่มผลผลิตช่วงทศวรรษ 60-90 ในศตวรรษก่อน
เหลือแต่บ้านเรานี่แหละ ที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก พวกพี่ใหญ่ทั้งหลายถึงจ้องตาเป็นมัน
ดูจากคาบสมุทรไครเมีย ยูเครน ที่รัสเซียถือโอกาสผนวกดินแดน เป็นตัวอย่าง
ทรัพยากรมีค่าส่วนใหญ่ของสหภาพโซเวียตเดิม จะอยู่ในประเทศยูเครนปัจจุบัน
รัสเซียจริง ๆ ยังต้องซื้อไฟฟ้า พลังงาน และทรัพยากรการเกษตรจากยูเครนมาใช้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งมีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาลอยู่ข้างใต้
รวมถึงทรัพยากรที่เป็นวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น เหล็ก ทองแดง และยูเรเนียม ที่ให้พลังงานนิวเคลียร์
นี่คือเหตุผลที่รัสเซียฉวยโอกาสจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้น จากการแตกสามัคคีของคนยูเครนด้วยกัน
เข้ายึดผนวกคาบสมุทรไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งก็มีคนยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซียให้การสนับสนุน
ฟังดูคุ้น ๆ คล้ายเหตุการณ์ในบ้านเรามั้ยครับ
บ้านเราแทบจะลอกแบบตามยูเครนมาเด๊ะ ๆ ถ้าลองเทียบกันช็อตต่อช็อต
อย่าคิดว่า เหตุการณ์นี้ มันจะไม่เกิดขึ้นกับบ้านเรานะครับ
ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้
อยู่ที่ "จังหวะและเวลา" ตามสำนวนเสนาธิการทหาร.....(จริงมั้ย เนะ
)
ป.ล. จะทำอะไร จะเชียร์ใคร ก็ขอให้มันอยู่แค่ในประเทศเรา
อย่าทำให้คนชาติอื่น เขาเดือดร้อนด้วย แค่นี้ ก็เริ่มข้าวยากหมากแพง
เดือดร้อนจากการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจกันไปหมดแล้ว
เศรษฐกิจในภาพรวม ระดับมหภาค อาจยังพอดูดีอยู่ เพราะอานิสงฆ์จากพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
แต่ถ้ามาดูเศรษฐกิจระดับจุลภาค จะเริ่มเห็นพวกพ่อค้า แม่ค้าบ่นกันอุบ
เพราะคนไม่มีอารมณ์อยากใช้เงิน ไม่ท่องเที่ยว
หนี้เสียภาคครัวเรือนสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
ในเล้านี้ จะมีพวกน้อง ๆ ที่ยังเรียนอยู่เป็นส่วนใหญ่
อาจคิดว่า มันเป็นเรื่องไกลตัว ไม่ค่อยเกี่ยวกับเรา
แต่ลองนึกว่า ถ้าพ่อแม่เราตกงานหรือเงินทองฝืดเคือง
ไม่มีเงินมาให้เรากินใช้ เรียนหนังสือ อะไรจะเกิดขึ้น
ป.ล. ไปเห็นในยูทูป จีนเขาทำคลิปล้อเลียนสถานการณ์บ้านเราออกมา
หลังจากรู้ข่าวว่า นายกฯ ถูกศาลสั่งให้พ้นหน้าที่ ลองดูตามลิ้งค์
มันเป็นตลกร้าย ที่อยากขำ แต่ขำได้ไม่เต็มที่.....
http://www.youtube.com/v/B7D4aYhypYw?version=3&hl=th_TH
หัวข้อ: ==> เมื่อผมมีรักแท้ แต่ดูแล(ไว้)ไม่ได้ (อ่าน 946239 ครั้ง)
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก