ตอนเดินทางไปวัดบรมราชา แถวบางบัวทอง รถติดเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะแถววงแหวนตะวันตก
ที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า พอไปถึงบางบัวทอง ก็ไปติดตรงทางเข้าวัดอีกครึ่งชั่วโมง
กว่าจะกระดื๊บ ๆ หาที่จอดรถได้ ที่จอดรถภายในวัดเต็มหมดแล้ว ดังในภาพ
เลยต้องออกไปหาที่จอดรอบบริเวณวัด ต้องเสียค่าจอดคันละ 20 บาท
"วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์"นี้เป็นสาขาของวัดเล่งเน่ยยี่ที่เยาวราช
โดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ได้เสด็จเป็นองค์ประธานวางศิลาฤกษ์
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชานุญาต
ให้สร้างวัด และพระราชทานนามว่า"วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์"
ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 12 ปี ถึงแล้วเสร็จ และเพิ่งมีพิธีสมโภชเปิดวัดในเดือนมีนาคม 2551 นี้เองพอเข้าไปในวัด สิ่งที่เห็นสะดุดตา คือ ถาดกระดาษเงิน กระดาษทอง วางเรียงรายกันเต็มโต๊ะกลางลาน
เลยเดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ขายดอกไม้แถวนั้น ได้ความว่า ถ้าต้องการสะเดาะเคราะห์ให้ไปอีกที่
คือ ไปที่ใต้วิหารเซียน โดยเดินลัดเลาะไปตามทางตามที่เห็นคนเขาเดินกันไปนั่นแหละ
พอเข้าไปข้างใน โห! คนแน่นมาก ต้องไปเข้าคิวซื้อชุดบูชาไท่ส่วยเอี๊ยและเทพเจ้า....แชกุน
ผมจำชื่อไม่ได้ ขออภัยด้วย

เพื่อสะเดาะเคราะห์และเสริมดวง
ค่าชุดบูชา 2 อย่าง ราคา 300 บาท มีสามเณรจีนมายืนขายทอนตังค์ มือเป็นระวิง
ทุกอย่างทำเป็นระบบพุทธพาณิชย์มาก
เขาจัดโต๊ะให้นั่งเขียนชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เวลาตกฟาก
เพื่อเอาไปใส่กล่องให้พระสงฆ์สวดอำนวยพรตลอดปี
พวกผมก็ไปนั่งเขียนตามที่เขาบอกให้ทำ แล้วก็เดินไปหยิบธูป 3 ดอกที่วางไว้ข้างบันไดทางขึ้นวิหาร
ิเพื่อเอาไปจุดข้างบน พอขึ้นไปข้างบน คนเยอะมาก เห็นคนยืนเข้าแถวต่อคิวอยู่หน้า
วิหารจตุโลกบาล ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานไท่ส่วยเอี๊ยและเทพเจ้าประจำดาวนพเคราะห์ทั้ง 9
แถวยาวเฟื้อยเป็นงูกินหาง แต่เขาจัดให้เข้าไปในวิหารที่ล็อด ๆ พวกผมก็ไปยืนตากแดดเข้าคิว
พอเข้าไปข้างในวิหารฯ ก็จะมีเจ้าหน้าที่อธิบายวิธีการสวดมนต์และปัดเป่าสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ให้ออกไป
จากตัวเรา 13 ครั้ง โดยให้ปัดออกจากตัว โดยให้ปัดจากหัวลงไปที่เท้า
พอเสร็จจากสวดมนต์บูชาไท่ส่วยเอี๊ยแล้ว ก็กลับหลังหันไปบูชาเทพเจ้า....แชกุน เพื่อขอพร
จากนั้นพวกผมก็เดินไปถ่ายรูปรอบบริเวณ เริ่มจากโบสถ์พระประธานที่ประดิษฐาน
พระพุทธเจ้า 3 พระองค์ ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมจีน ได้แก่
1) พระอมิตาภพุทธเจ้า
2) พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)
3) พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์พุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าในอดีต)
ตรงบันไดทางขึ้นโบสถ์ มีบันไดแกะสลักภาพนูนสูง เป็นรูปมังกรเก้าเล็บ
เลียนแบบพระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่ง จากนั้นก็ไปชั้นล่างสุด ที่มีรูปปั้นเณรอุ้มบาตร
ที่ให้คนมาอธิษฐานโยนเหรียญแบบน้ำพุเทรวี่ที่อิตาลี ถ้าใครสมปรารถนา ก็จะโยนลงบาตรได้
เห็นคนโยนกันเยอะแยะเลย เดินกันพอสมควร ท้องก็เริ่มร้องแล้ว เลยขับออกมาหาอะไรกินกัน
ที่ภัตตาคารสวนกุหลาบ แถวสะพานพระราม 5 ซึ่งเจ้าของเป็นลูกหลานของร้านโค้วฮวดหลี
และร้านอาหารในราชนาวีสโมสรที่เปิดขายมาตั้งแต่ 2521 จนหมดสัญญาในปี 2543
ต่อมาลูกหลานและทีมงานที่ราชนาวีสโมสร เลยมาเปิดร้านที่นี่ และมีอีกสาขาที่ซอยอารีสัมพันธ์
ข้างกระทรวงการคลัง ผมชอบมาที่นี่มากกว่า เพราะมีที่จอดรถกว้างขวาง
หลังจากอิ่มหมีพีมันกันแล้ว ก็เลยขับรถกลับบ้าน มานอนพักผ่อนเอาแรงไว้ลุยงานพรุ่งนี้ต่อไป
[attachment deleted by admin]