==> เมื่อผมมีรักแท้ แต่ดูแล(ไว้)ไม่ได้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ==> เมื่อผมมีรักแท้ แต่ดูแล(ไว้)ไม่ได้  (อ่าน 946237 ครั้ง)

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
5   )  เมื่อกะเหรี่ยงไปเมียงมองแขก (1)

ก่อนวันเดินทาง 1 วัน ไกด์ไทยได้โทรศัพท์มาหา เพื่อแจ้งกำหนดการนัดพบในวันพรุ่งนี้คร่าว ๆ ว่า
จะให้ไปเจอกันที่ไหน พร้อมแนะนำตัวเองว่า จะเป็นตัวแทนไกด์ไทยร่วมทริปไปด้วย
เพราะเที่ยวนี้มีสมาชิกร่วมเดินทางทั้งหมด 30 คน ถือว่า เป็นกลุ่มใหญ่พอสมควร
แล้วก็ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อเผื่อกรณีฉุกเฉินไว้ด้วย คุณไกด์ เป็นผู้ชายที่ฟังเสียงดูก็รู้ว่า
ไม่ใช่ชายแท้ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่คิด เมื่อเจอหน้ากัน ซึ่งเขาก็คงจะมองความสัมพันธ์ของพวกผมออก
ว่า คงไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดา ฉะนั้น ตลอดการเดินทาง เขาเลยชอบเข้ามาป้วนเปี้ยนวนเวียน
กับพวกผม ชี้ชวนให้ชมนู่นนี่นั่น บอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ
ให้ฟังอย่างเพลิดเพลินและได้รับความรู้นอกตำราเยอะแยะ ก็ประมาณว่า “ผีเห็นผี” 55555  :laugh:

ซึ่งส่วนตัวผม ผมก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร เพราะคุ้นเคยกับการเข้าสังคมทางธุรกิจอยู่แล้ว
แต่คุณชายเขาแอบอึดอัด เพราะเขาไม่ชินกับการที่จะมีคนภายนอกเข้ามารู้เห็นความสัมพันธ์ของเรา
ก็เลยต้องบอกให้เขา อย่าไปใส่ใจมาก เพราะมาเที่ยวแบบนี้ พอกลับไป ก็ไม่ได้เจอกันอีก
แต่คุณไกด์เขาก็น่ารักนะครับ เขาวางตัวได้ดี มีสัมมาคารวะ ไม่ได้เข้าหาจนเกินพอดี
แต่ที่คุณชายแอบเหล่เขา เพราะไม่ชอบใจที่เขาชอบสะกิดชี้ชวนผมให้แอบมองเกย์ตุรกี
เกย์รัสเซีย เกย์สแกนดิเนเวียน และอีกสารพัดสัญชาติ ตอนไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ
ในกรุงอิสตันบูลและเมืองแถบชายฝั่งทะเลที่เรือสำราญสามารถไปจอดเทียบท่าได้
แต่เขาไม่กล้าสะกิดคุณชายนะครับ เพราะรายนั้นเล่นบทนิ่ง พูดน้อย แผ่รังสีพิฆาตทางสายตา 555555

ตอนที่ไปนั้น เป็นช่วงหน้าร้อนของตุรกีพอดี ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศกำลังดี ก็เลยมีนักท่องเที่ยว
แถบคาบสมุทรบอลข่านและยุโรปเหนือหนีหนาวมาท่องเที่ยวกันเยอะ โดยเฉพาะในกรุงอิสตันบูล
และเมืองแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยส่วนใหญ่เขาจะมากับเรือสำราญลำใหญ่
จุคนได้หลายพันคน ซึ่งตอนที่ไปนั้น เป็นช่วงที่เรือสำราญ 5 ลำ จอดเทียบท่ากรุงอิสตันบูลพอดี
ลองคิดกันเล่น ๆ ว่า เรือลำหนึ่งบรรทุกคนได้ประมาณ 3,000 คน 5 ลำ = 15,000 คน
ซึ่งโปรแกรมการท่องเที่ยวก็จะเหมือน ๆ กัน หรือใกล้เคียงกัน และนอกจากฝรั่งหัวทอง หัวแดง
หัวน้ำตาลแล้ว ยังมีคนเอเชียหัวดำ อย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง จีน อินโดนีเซีย ฯลฯ
ไปเที่ยวด้วย เพราะฉะนั้น เวลาไปเที่ยวเมืองแถบชายฝั่งทะเล เช่น ทรอย เปอร์กามัม เอฟิซุส ฯลฯ
คนยังกับหนอน เดินกันยั้วเยี้ยขวั่กไขว่มาก กว่าจะถ่ายรูปได้แต่ละรูป ต้องรอกันนานหลายนาที
แต่พอไปเที่ยวลึกเข้าไปในแผ่นดิน คนค่อยเบาบางลงหน่อย แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวเอเชียเยอะอยู่ดี :katai1:

วันเดินทาง พวกผมนัดเจอไกด์ไทยและทีมงานที่หน้าเคาน์เตอร์เตอร์กิชแอร์ไลน์ ประตู 9 ช่อง S
พอไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็เจอเจ้าหน้าที่บริษัททัวร์ของที่ไหนไม่ทราบมาคอยต้อนรับ
และเช็คชื่อลงทะเบียน อำนวยความสะดวกเรื่องตั๋วเครื่องบินและสัมภาระโหลดขึ้นเครื่องให้
ตอนแรกก็แอบหวั่นในใจว่า แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า ใครเป็นใคร เพราะทัวร์แบบนี้ เป็นทัวร์ร่วมทริป
กับบริษัททัวร์หลายแห่ง ไม่ได้เป็นทัวร์เดี่ยวบริษัทเดียว แต่พอไปถึงจริง ๆ ก็เห็นได้ชัดเจน
เพราะน้องเจ้าหน้าที่เธอเล่นสวมฮิญาบดูโดดเด่นมาก พอเช็คอินเสร็จ ทางไกด์เขาก็ปล่อยให้ลูกทีม
แต่ละคนเดินเล่นในสนามบินตามอัธยาศัย และนัดไปเจอกันที่ประตูขึ้นเครื่องตอน 10.00 น.

สำหรับพวกผม ด้วยความที่คุณชายแกมาสนามบินบ่อย ประหนึ่งว่า เป็นบ้านแห่งที่สอง
พวกผมก็เลยขี้เกียจเดิน เลยแวะเข้าไปหาที่นอนที่ CIP Lounge ของการบินไทย
หากาแฟและของว่างกินฟรีสักหน่อย คุณชายเขาได้ตามสิทธิของเขาอยู่แล้ว
ส่วนผมก็ได้ตามสิทธิบัตรรอยัล ออร์คิดที่มีอยู่ ตอนเช้า ๆ ของกินยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
มีแต่ของว่างเบา ๆ และผลไม้ ก็นั่งเล่น นอนเล่นกันอยู่ในนั้น จนถึงเวลาขึ้นเครื่อง
เนื่องจากระยะเวลาเดินทางค่อนข้างนานกว่า 6 ชั่วโมง พวกผมก็เลยอัพเกรดที่นั่ง
ไปนั่งชั้นบิสสิเนสแทน เพราะที่นั่งกว้างขวาง สะดวกสบายกว่ามาก ผมชอบทีวีที่เขาติดตั้ง
บนที่นั่งที่มีช่องชาร์ตไฟมือถือ LAN และ Audio สำหรับคนที่อยากทำงานหรือติดต่อเน็ตบนเครื่อง
และคนพกอุปกรณ์บันเทิงมาเอง อยากให้การบินไทยติดตั้งแบบนี้บ้างจัง จะได้สมราคาตั๋วหน่อย
 :mew5:


[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
5)  เมื่อกะเหรี่ยงไปเมียงมองแขก (2)

คณะของผมเดินทางมาถึงกรุงอิสตันบูล ประมาณ 5 โมงเย็น ตามเวลาบ้านเขา (ตุรกี)
ใช้เวลาเดินทางกว่า 9 ชั่วโมง เมื่อผ่านด่าน ตม. แล้ว ก็ออกมาพบไกด์ท้องถิ่น
ขอเรียกชื่อสมมติว่า “โจ” นะครับ โจพาเราไปแลกเงินที่ร้านแลกเงินของรัฐบาล
ที่อยู่ในซอกหลืบลับแลในสนามบิน ซึ่งให้ราคาดีกว่าร้านของเอกชนและธนาคาร
อย่างที่เคยเล่าไปแล้วในตอนก่อนหน้าว่า ที่นี่เขายินดีรับเงิน US ดอลล่าร์ และเงินยูโร
พวกผมเลยไม่ได้แลกเงินลีร่าตุรกีเอาไว้ เพราะแลกไป ถ้าใช้ไม่หมด ก็แลกคืนไม่ได้ราคา
แถมแบงค์บ้านเราก็ไม่รับอีก เสียดายตังค์ค่าส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยน

โจพาเราไปทานข้าวเย็นที่ภัตตาคารท้องถิ่น ริมทะเลมาร์มาร่า ซึ่งเป็นมื้อแรก
ที่ได้ทานอาหารเมดิเตอร์เรเนียนของแท้ (ขอบอกว่า อาหารจำพวกเนื้อ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว
เนื้อแกะ เนื้อแพะ เขาทำได้อร่อยทีเดียว) แต่พวกเราเพิ่งทานกันมาบนเครื่อง
เลยกินได้ไม่มาก เสียดายของมาก อาหารดี ๆ ทั้งนั้น

ระหว่างทางไปภัตตาคาร โจก็อธิบายภูมิประเทศของตุรกีให้ฟังบนรถ โจเล่าให้ฟังว่า
ที่ตุรกีมีสาธารณูปโภค 2 อย่างที่มีราคาแพงมาก คือ น้ำมันเชื้อเพลิงและระบบโทรคมนาคม
ฉะนั้น การที่บนรถบัสมี WIFI ให้ใช้ฟรี ถือเป็นจุดขายของบริษัททัวร์ท้องถิ่นเลยก็ว่าได้
เท่าที่กระซิบถามนอกรอบ เขาบอกว่า ราคา WIFI ต่อนาที ตกประมาณ นาทีละ 60 บาท
ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง ประมาณลิตรละ 90 บาท ดังนั้น คนที่มีรถขับ ต้องจัดว่า เป็นผู้มีอันจะกิน
ถึงจะมีรถใช้ได้

สำหรับระบบขนส่งมวลชน เขาก็มีรถเมลล์คล้ายรถเมลล์ยูโรบ้านเรา แต่สภาพใหม่และดีกว่ามาก
มีรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งทำเป็นสายสั้น ๆ เนื่องจากกรุงอิสตันบูลตั้งมานานกว่า 2,000 ปี
ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ก่อนคริสตกาล ใต้ดินข้างล่างมีอ่างเก็บน้ำใต้ดินขนาดใหญ่
สำหรับเก็บกักน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้งและยามศึกสงคราม เพื่อป้องกันศัตรูลอบวางยาในแหล่งน้ำ
ทำให้ไม่สามารถสร้างรถไฟใต้ดินได้เหมือนอย่างเมืองใหญ่อื่น ๆ
เพราะขุดไปก็เจอชั้นดินที่เป็นแหล่งโบราณคดีมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น
ส่วนรถแท็กซี่ เขามีทั้งที่เป็นรถเก๋งและรถตู้ประจำทางแบบบ้านเราเลย

ระหว่างทางที่ไปโรงแรม ผมสังเกตเห็นมีขอทานหน้าแขก ๆ ใส่ชุดแบบแขกอาหรับ
มาเดินเคาะกระจกรถยนต์ที่ติดไฟแดงตามแยกต่าง ๆ ค่อนข้างหนาตา มีทั้งที่มาเดี่ยว
และเป็นครอบครัว--พ่อแม่ลูก แม่อุ้มลูกและเด็ก ๆ รวมตัวกันมาขอเศษเงินข้างถนน
โจอธิบายว่า พวกนี้เป็นพวกซีเรียและอิรักที่อพยพหนีภัยสงครามมาอาศัยอยู่ในตุรกี
ซึ่งกำลังสร้างปัญหาให้กับตุรกีเป็นอย่างมาก เพราะพวกนี้นอกจากจะมาอาศัยลี้ภัยในประเทศตุรกี
กินเงินภาษีของประชาชนชาวตุรกีแล้ว ยังมาก่อปัญหาอาชญากรรมในบ้านเขาอีกด้วย
ทั้งฉกชิงวิ่งราว ปล้นทรัพย์ ขู่กรรโชก ขายบริการทางเพศทั้งหญิงและชาย
ขายของริมถนนหรือตามสี่แยกไฟแดงต่าง ๆ ซึ่งโดยปกติคนตุรกีจะไม่ทำ
ตอนนี้ ประชาชนชาวตุรกีกำลังไม่พอใจรัฐบาลที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้อพยพทั้งจากซีเรียและอิรัก
แต่ก็น่าเห็นใจรัฐบาลตุรกี เพราะถูกกดดันจากประเทศมุสลิมอื่น ๆ ให้ช่วยเหลือ
ตามหลักมนุษยธรรมและหลักศาสนาอิสลาม (ที่ว่า...มุสลิมเป็นพี่น้องกันทั่วโลก)
อีกทั้งเพื่อให้ประเทศมุสลิมอื่น ๆ เลิกตั้งแง่กับตุรกีในเรื่องความเป็น “มุสลิมนอกคอก”
อย่างที่ได้เล่าไปแล้ว

ผมฟังโจเล่าแล้ว ก็รู้สึกเห็นใจคนตุรกีเหมือนกันนะ เขาเหมือนพวกลูกครึ่ง
จะฝรั่งก็ไม่ใช่ จะแขกก็ไม่เชิง ไม่เข้าพวกกับใครเลย
ไปขอเข้าสหภาพยุโรป ก็โดนประเทศอียูอื่น ๆ เกี่ยงงอนว่า ไม่ใช่ประเทศในยุโรป
เพราะมีส่วนที่เป็นฝั่งยุโรปเพียง 3% แถมศาสนาประจำชาติ ก็ไม่ใช่คริสต์ศาสนา
เหมือนประเทศอียูอื่นๆ อีกต่างหาก จะไปรวมกลุ่มกับเอเชียตะวันออกก็ไม่ได้
เพราะหน้าตาแปลกแยก ค่อนไปทางยุโรปเสียเยอะ แถมวิถีการดำเนินชีวิตก็คล้ายกับพวกยุโรป
มากกว่า ไม่ได้เคร่งครัดในศาสนาอิสลาม ไม่ได้ใช้หลักศาสนาในการบริหารบ้านเมือง
เหมือนประเทศมุสลิมอื่น ๆ ฉะนั้น ผู้ชายตุรกีเลยเหมือนพวกเก็บกด
จึงต้องหาทางระบายออกทางอินเตอร์เน็ต –หลายคนคงเคยแชทกับหนุ่มตุรกีมาบ้าง
คงพอรู้ว่า พวกนี้เวลาคุยจะออกแนวหื่นลามก ทั้งที่ตัวจริงอาจดูเคร่งครัด สุภาพเรียบร้อยก็ได้



[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
หลังจากอิ่มหมีพีมันกันแล้ว โจก็พาพวกเราไปเช็คอินที่โรงแรม Grand Halic เป็นโรงแรมเก่าแก่
ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอาคารโบราณ ห้ามตกแต่งต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล
เหมือนตึกเก่าในประเทศยุโรป ตั้งอยู่แถวทักซิม (Taxim) แหล่งกลางเมืองเหมือนสุขุมวิทบ้านเรา
และใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเมือง เช่น Tunel Square, Topkapi Palace, Grand Bazaar เป็นต้น
เวลาพูดถึงโรงแรม 4 ดาวในประเทศยุโรป กรุณาเปรียบเทียบกับโรงแรม 3 ดาวหรือ
3 ดาวครึ่งในบ้านเรานะครับ เพราะโรงแรม 4 ดาวในบ้านเรา = 5 ดาวบ้านเขา ของเราดีกว่าเยอะ

ภายในห้องพัก ถือว่าได้มาตรฐาน ถึงจะค่อนข้างเล็กและแคบไปหน่อย แต่ก็มีน้ำร้อน-น้ำเย็นไว้บริการ
พร้อมฝักบัวและชักโครก ซึ่งชักโครกที่นี่ มีความแปลกแตกต่างจากบ้านเรา
คือ ที่ฉีดชำระของชักโครกบ้านเขา จะติดตั้งมาพร้อมกับโถที่นั่ง
ในภาพที่แนบมา ให้สังเกตที่ปุ่มสีเงินเล็ก ๆ ตรงกลางโถ นั่นคือ ที่ฉีดชำระ
สามารถปรับความแรงได้จากปุ่มที่อยู่ด้านข้าง แล้วเป็นแบบนี้ทุกที่ที่มีห้องน้ำชักโครกนะครับ
ส่วนห้องน้ำแบบนั่งยองก็มี ส่วนใหญ่เป็นห้องน้ำตามปั๊ม ซึ่งค่อนข้างสกปรกและเหม็นมาก
ซึ่งห้องน้ำตามปั๊มและจุดพักรถบางที่มีทั้งที่ฟรีและเสียเงิน
เท่าที่สังเกต ส่วนใหญ่ห้องน้ำที่ไม่เสียเงิน จะสะอาดสอ้าน และเป็นแบบชักโครก
ซึ่งต้องอาศัยความช่างสังเกต เดินสำรวจบริเวณให้ทั่ว และใช้ชิวหาเป็นอาวุธนิดนึง ถึงจะหาเจอ
เพราะมักจะอยู่ด้านในหรือมุมลับตาคน ประมาณว่า มีไว้สำหรับลูกค้าพิเศษ หรือพนักงานเท่านั้น
ส่วนห้องน้ำที่เสียเงิน ไม่ว่ากี่ที่ที่เจอ มักจะสกปรกและเหม็นมาก ทั้งที่มีคนคอยดูแลเก็บเงินนะครับ
ค่าบริการก็แล้วแต่จะเรียกเก็บ ตั้งแต่ 1 ลีร่า (ประมาณ 15 บาท) บางที่เจ้าของเขี้ยวหน่อย
หรือแถวนั้นห้องน้ำหายาก ก็ขูดรีดเป็น 2-5 ลีร่า (ประมาณ 30-75 บาท)
คิดดูแล้วกัน เข้าห้องน้ำที เสียขั้นต่ำ 15 บาท ขณะที่บ้านเรา ถ้าเรียกเก็บค่าบริการ อยู่ที่ 2-5 บาท สำหรับพวกผม ถ้าหาห้องน้ำฟรีไม่ได้ ก็ใช้วิธีแบบโบราณ หามุมตามสุมทุมพุ่มไม้ลับตาคน
ปลดทุกข์ แล้วให้อีกคนดูต้นทาง เก็บเงินไว้ซื้อชาร้อน หรือไอติมกินดีกว่า 5555

เนื่องจากเป็นหน้าร้อน ตุรกีเพิ่งปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ทำให้เวลาในตุรกีต่างจากบ้านเรา
ประมาณ 4 ชั่วโมง (ถ้าเป็นหน้าหนาว เวลาจะช้ากว่าประเทศไทย ประมาณ 5 ชั่วโมง)
ผมไปถึงโรงแรมตอนทุ่มเศษ ฟ้ายังสว่างแจ้งยังกับบ่ายสี่โมง กว่าพระอาทิตย์จะตกดิน
ก็ปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่ม!! แล้วเป็นแบบนี้ทุกวัน คือ พระอาทิตย์ตกหลังสามทุ่มไปแล้ว
ทำให้เรามีเวลาได้เที่ยวมากขึ้น แต่ก็เหนื่อยมากขึ้นไปด้วย เพราะต้องตื่นตามเวลามาตรฐานของทัวร์
คือ 6-7-8 >> ตื่นนอน 6 โมงเช้า ทานอาหาร 7 โมง ออกเดินทาง 8 โมง<<

ไปถึงคืนแรก ด้วยความแปลกที่และนอนมาเต็มอิ่มบนเครื่อง เลยชวนกันเดินสำรวจพื้นที่รอบโรงแรม
โดยเฉพาะแถวทักซิม ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังโรงแรมที่พักไปประมาณ 300 เมตร เป็นแหล่งเที่ยวกลางคืน
ขึ้นชื่อที่นี่ รวมทั้งของชาวสีม่วงด้วย อิอิ ก็เลยไปสำรวจชีวิตกลางคืนของที่นี่พักนึง
เกย์ที่นี่มีทั้งที่ออกสาวนิด ๆ และแมนมาก ๆ หาพวกสาวแตกไม่ค่อยเจอ สู้สีลมบ้านเราไม่ได้
แต่ยืนยันว่า หน้าตาหล่อเหลา ดูดีมากเกือบทุกคน
(ผมเล่าพอสังเขปแล้วกัน ใครสนใจ ก็มาสัมผัสด้วยตนเองแล้วกัน)

ซึ่งเป็นคืนเดียวที่มีโอกาสได้ท่องราตรี คืนหลังจากนั้นที่ต้องมาค้างที่อิสตันบูลอีกครั้ง
เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย สายการบินภายในประเทศจากเมืองไคซารี่มาอิสตันบูล
ออกเดินทางล่าช้ากว่ากำหนดไป 2 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงโรงแรมก็ปาเข้าไปตีหนึ่งกว่า
หมดอารมณ์จะออกไปไหนแล้ว

ร้านค้าที่นี่ปิดดึก ตามเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ยิ่งตอนกลางคืนยิ่งคึกคัก
ร้านค้าส่วนใหญ่นิยมตั้งในแนวดิ่ง คือ ในตึกหนึ่ง เปิดให้เช่าร้านค้าเป็นชั้น ๆ หรือ เป็นห้อง ๆ
ไม่เหมือนบ้านเราที่ให้เช่าในแนวราบเป็นห้อง ห้องใครห้องมัน
อ้อ! อีกอย่าง ที่นี่ขับรถเลนขวา พวงมาลัยซ้าย เวลาข้ามถนนต้องตั้งสติและดูให้ดี
เพราะผมเกือบโดนแท็กซี่ชน ตอนข้ามถนน ด้วยความที่ลืมไปว่า เขาขับคนละด้านกับบ้านเรา
รถตู้ประจำทางของตุรกี สภาพดูดีมาก ที่นี่เขามีกฎหมายบังคับไว้ว่า รถโดยสารรับจ้างทุกคัน
ต้องดูแลทำความสะอาดให้รถสะอาดสอ้านตลอดเวลา และต้องหยุดพักรถทุกสองชั่วโมง
เวลาเดินทางไกล ดังนั้น ตอนที่นั่งรถไปเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ คนขับจึงต้องจอดที่จุดพักรถ
ทุกสองชั่วโมง เป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที เพื่อให้คนเข้าห้องน้ำและทำความสะอาดรถ
โดยจะมีคนมาล้างรถให้ ซึ่งก็ต้องจ่ายค่าจ้างล้างรถให้เขา
เป็นกุศโลบายที่สร้างรายได้ให้คนในประเทศไม่น้อย
ถ้ารถสกปรก จะถูกปรับแพงมาก แถมโดนบันทึกเอาไว้ด้วย
ถ้าฝ่าฝืนบ่อย ๆ อาจถูกยกเลิกใบอนุญาตรับจ้างได้
เท่าที่สังเกต รถบัสส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว
ไม่มีสารพัดสีสันและลวดลายเหมือนบ้านเรา เวลาเกิดอุบัติเหตุ เลยไม่รู้จะอธิบายสีรถว่ายังไง



[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
6)    ออตโตมันรำลึก (1)

ตอนเช้า หลังจากเอาพลังงานใส่ท้องแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางไปเยี่ยมชมบ้านเมืองและ
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองอิสตัสบูล ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก สถานที่ที่เราจะไปเยือนในวันนี้
ได้แก่ มัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) มัสยิดฮาเจีย โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) 
1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ฮิปโปโดรม (Hippodrome) สนามแข่งม้าของจักรวรรดิโรมัน
อุโมงค์เก็บน้ำใต้ดิน (Yerebatan Sarnici) ที่ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตชาวกรุงคอนสแตนติโนเปิล
ยามศึกสงคราม และพระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ที่ประทับของสุลต่าน
ในจักรวรรดิออตโตมันมานานกว่า 300 ปี ไปชมโคตรเพชร 96 กะรัตและกริชทองคำฝังมรกต
เม็ดเท่าไข่ไก่ ก่อนจะเดินทางไปที่เมืองอีเซียบัท (Eceabat) เพื่อข้ามทะเลมาร์มาร่า
ไปเมืองชานัคคาเล่ย์ (Chanakkale)

อย่างที่บอกไปแล้วว่า สัปดาห์นี้ มีเรือสำราญขนาดใหญ่จากแถบยุโรปเหนือและคาบสมุทรบอลข่าน
มาเทียบท่าที่อิสตันบูลถึง 5 ลำ ยังไม่รวมนักท่องเที่ยวเอเชียชาติอื่นที่พร้อมใจกันมาเที่ยวในช่วงนี้พอดี
ทางไกด์จึงขอความร่วมมือจากชาวคณะให้มาขึ้นรถตรงเวลา ด้วยเหตุผลว่า ถ้าออกสาย
จะทำให้คณะเราอาจไม่สามารถเยี่ยมชมสถานที่สำคัญที่ต้องการมาชมได้อย่างทั่วถึงและคุ้มค่า
กับเวลาและเงินที่เสียไป เพราะคิวจะยาวเหยียดและเบียดเสียดยัดเยียดกันมาก ซึ่งก็เป็นจริง
เพราะพอตอนบ่าย ไปเยี่ยมชมพระราชวังทอปกาปึ คนยั้วเยี้ยมาก ต้องใช้เวลาในการเข้าคิว
รอเข้าชมห้องต่าง ๆ นานมาก ทำให้เราต้องมาเก็บตกอีกทีในวันสุดท้าย

เราไปถึงมัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) ก่อนแปดโมงครึ่ง ยังไม่เห็นนักท่องเที่ยวมากเท่าไหร่
ทำให้เรามีเวลาเดินชมสถานที่ได้อย่างสบาย ๆ
***ผมใช้คำว่า “มัสยิด” (Masjid) แทนคำว่า “สุเหร่า” (Surau) ตามที่บริษัททัวร์นิยมใช้นั้น เพราะ “สุเหร่า” เป็นภาษามลายู นิยมเรียกกันเฉพาะในแถบเอเชียตะวันเฉียงใต้เท่านั้น
ส่วน “มัสยิด” เป็นภาษาอารบิค เป็นคำสากลที่ใช้เรียกสถานประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม
ส่วน Mosque เป็นคำเรียกมัสยิดในภาษาอังกฤษ***


*** มัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) ***

มัสยิดสีน้ำเงิน มีชื่อเดิมว่า Sultan Ahmed Mosque สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมดที่ 1
ช่วงปี ค.ศ. 1609 – 1616 มัสยิดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากหินอ่อนทั้งหลัง ตรงพื้นที่ที่เคยเป็นวังที่ประทับ
ของจักรพรรดิไบแซนไทน์ เพื่อประกาศศักดานุภาพของชาวเติร์กและศาสนาอิสลาม
ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 7 ปี ถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องอิซนิกสีน้ำเงิน (คนจึงเรียกว่า มัสยิดสีน้ำเงิน
ในเวลาต่อมา) มีเสาประกาศ “มินาเรท” (Minaret) เป็นยอดแหลมถึง 6 ต้น

สุลต่านอาห์เมดที่ 1 มีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันให้มีความงดงาม
และยิ่งใหญ่กว่า โบสถ์เซ็นต์โซเฟีย (St. Sophia) ของจักรพรรดิจัสตินเนียนแห่งจักรววรดิไบแซนไทน์
หรือจักวรรดิโรมันตะวันออก จึงได้สร้างมัสยิดแห่งนี้ให้ตั้งประจันหน้าอยู่คนละฟากกับ
โบสถ์เซ็นต์โซเฟีย ที่จตุรัสสุลต่านอาห์เมด โดยโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย เป็นโบสถ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ของชาวคริสต์ จวบจนวาระสุดท้ายของกรุงคอนสแตนติโนเปิล ซึ่งถูกตีแตกโดยสุลต่านเมเมทห์ที่ 2
หรือ เมเมทห์ ผู้พิชิต และได้ถูกเปลี่ยนเป็นมัสยิด อายา ซอฟีย่า (Hagia Sophia)
***ในภาษาตุรกี “H” ไม่ออกเสียง เช่น Hotel โฮเต็ล – ภาษาตุรกีเขียนว่า Otel โอเต็ล ***

อย่างไรก็ตาม โบสถ์เซ็นต์โซเฟีย ก็ยังคงเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตุรกีจวบจนปัจจุบัน
และต่อมาได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อตัดปัญหาที่จะเกิดการแย่งชิงกัน ระหว่างชาวคริสต์
และอิสลาม เหมือนกรุงเยรูซาเล็ม

มัสยิดสีน้ำเงิน โดดเด่นด้วยหอประกาศ (มินาเรท) ซึ่งมีถึง 6 หอ ขณะที่หอประกาศประจำมัสยิดทั่วไป
จะมีเพียงหนึ่งถึงสองหอเท่านั้น และลานหินอ่อนด้านหน้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดามัสยิดของจักวรรดิ
ออตโตมัน แต่เดิมเมื่อเริ่มก่อสร้าง องค์สุลต่านมีพระประสงค์ให้สร้างหอสวดมนต์เป็นทองคำ
แต่สถาปนิกพยายามคิดหาทางออกที่ดี เพราะการสร้างหอทองคำนั้น ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและ
ทรัพยากรมากและเป็นการไม่สมควร เพราะเกินหน้าเกินตามัสยิดในนครมักกะห์
แต่ก็ต้องทำให้องค์สุลต่านพอพระทัยด้วย ไม่งั้นมีสิทธิหัวหายเอาง่าย ๆ ดังนั้นสถาปนิกจึงได้สร้าง
หอสวดมนต์ขึ้นมา 6 หอแทน ซึ่งเท่ากับหอประกาศของมัสยิดที่นครมักกะห์ ทำให้มัสยิดที่
นครมักกะห์ต้องสร้างหอเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งหอ กลายเป็น 7 หอ (ดูภาพประกอบ)

ภายในบริเวณมัสยิดมีโรงเรียนสอนศาสนา โรงพยาบาล ที่พักแรกของขบวนคาราวานและโรงครัว
ส่วนการตกแต่งภายในก็ดูยิ่งใหญ่ด้วยหน้าต่างทั้งหมด 260 บาน ตกแต่งด้วยกระจกสีอันวิจิตรงดงาม
และกระเบื้องอิซนิกวาดลวดลายแบบเปอร์เชีย เน้นสีทองและสีฟ้าเป็นหลัก ซึ่งโดยส่วนตัว
ผมว่า ควรจะเรียกว่า “มัสยิดสีฟ้า” เพราะกระเบื้องมันออกสีฟ้ามากกว่า
พื้นที่ภายในมัสยิดกว้างขวางสำหรับการละหมาด โดยมีการแบ่งกั้นระหว่างชาย-หญิงชัดเจน
ด้วยฉากไม้ฉลุลาย โดยผู้ชายทำอยู่ในลานตรงกลาง ผู้หญิงจะทำละหมาดรอบนอก
เพื่อป้องกันการโก้งโค้งที่อาจดูไม่สุภาพสำหรับผู้หญิง

สำหรับการเยี่ยมชมภายในมัสยิดสีน้ำเงิน ทุกคนต้องถอดรองเท้าเดิน ส่วนผู้หญิง ห้ามใส่กางเกงขาสั้น
เสื้อแขนกุดหรือสายเดี่ยว เขามีฮิญาบ หรือผ้าคลุมศรีษะให้ แต่ถ้ากลัวเรื่องความสะอาด ก็พกผ้าหรือหมวกไปเองได้ ภายในจัดแสดงคัมภีร์อัลร์กุรอ่านที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกให้ไว้ชมด้วย


[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
*** มัสยิด ฮาเจีย โซเฟีย (Hagia Sophia) หรือ Ayasofya –อายาซอฟีย่า ในภาษาตุรกี ***

โดยส่วนตัว ผมชอบมัสยิดแห่งนี้มาก เพราะเต็มไปด้วยศิลปกรรมที่งดงามเก่าแก่
ตั้งแต่สมัยโรมัน-กรีก-ออตโตมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ทำจากกระเบื้องโมเสก
ทองคำแท้ที่ถูกฉาบปูนขาวปิดทับไว้ เพื่อให้เข้าใจถึงประวัติความเป็นมาของมัสยิดแห่งนี้
ผมขอเล่าพอเป็นสังเขปดังนี้

โบสถ์เซ็นต์โซเฟียที่เห็นในปัจจุบันนี้ เป็นหลังที่สาม หลังแรกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 2 ต่อมาถูกไฟไหม้จากการจลาจลใน ค.ศ. 404 จนไม่เหลือซาก จักรพรรดิธีโอโดซุสที่ 2 จึงทรงสร้าง
หลังที่สองขึ้นมาใหม่ แต่ก็ถูกเผาอีกครั้งจากเหตุการณ์จลาจลใน ค.ศ. 532 แต่ยังคงมีรูปแกะสลัก
ที่เหลือรอดจากไฟไหม้ของโบสถ์หลังที่สองมาตั้งแสดงไว้ที่ส่วนด้านหลังมัสยิด

โบสถ์หลังที่สาม ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิจัสติเนียนที่ 1 หลังจากปราบปรามการจลาจลเรียบร้อยแล้ว
โดยทรงตั้งพระทัยที่จะให้โบสถ์หลังนี้สวยงามที่สุดในโลก จึงทรงมีพระบัญชาเรียกระดมสถาปนิก
ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นมาร่วมกันก่อสร้าง รวมทั้งนำวัสดุจากซากเมืองเก่าของกรีก
เช่น อีเฟซุส เอเธนส์ เดลฟี ฯลฯ มาประดับประดาโบสถ์ เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและทรัพยากร
ด้วยแรงงานช่างกว่า 10,000 คน จึงใช้เวลาเพียง 5 ปีก็แล้วเสร็จ และคงความงดงามอลังการ
มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1080 จนกระทั่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลแตก และด้วยความสวยงามของโบสถ์แห่งนี้
ทำให้สุลต่านเมห์เมดที่ 2 ไม่ทำลายทิ้ง เมื่อเติร์กเข้ายึดเมืองได้ แต่ให้เปลี่ยนเป็นมัสยิดทันที
สุลต่านเมห์เมดที่ 2 ทรงมีพระบัญชาให้ฉาบปูนขาวทับผนังที่ปูด้วยโมเสกทองคำเป็นรูปพระเยซูและ
สาวก รวมถึงนักบุญต่าง ๆ ที่เป็นศิลปะแบบไบแซนไทน์ทั้งหมด เพราะตามความเชื่อ
ทางศาสนาอิสลามที่ห้ามมีรูปเคารพต่าง ๆ ภายในมัสยิด แต่มีที่เหลือรอดมาได้เพียงรูปเดียว
คือ รูปพระแม่มารีอุ้มพระเยซูนั่งบนตัก ที่ยังยืนยงคงอยู่อวดความงดงามของศิลปะโรมัน
เมื่อ 2,000 ปีก่อน ให้อนุชนรุ่นหลังได้ยล เพราะอิสลามถือว่า พระเยซูก็เป็นศาสดาคนหนึ่งของอิสลาม
ชื่อว่า “นบีอีซา” เลยรอดจากการถูกฉาบปูนขาวมาได้ รูปพระแม่มารีอุ้มพระเยซูนี้ วาดไว้บนผนังโถง
ด้านบน โดยมีสัญลักษณ์ทางศาสนาอิสลามวาดประกบไว้ซ้ายขวา ถือเป็นการผสมผสาน
ทางวัฒนธรรมที่มีต้นกำเนิดจากรากฐานเดียวกันได้เป็นอย่างดี

***จักรพรรดิจัสติเนียนที่ 1 ครองราชย์อยู่ระหว่าง ค.ศ. 527-565
ชื่อของพระองค์เป็นที่มาของคำว่า “Justice” ในภาษาอังกฤษ พระองค์เป็นผู้สั่ง
ให้มีการพิจารณาชำระและร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ เรียกว่า “ประมวลกฎหมายจัสติเนียน”
ซึ่งเป็นรากฐานของประมวลกฏหมายสากลในปัจจุบัน

พระองค์เป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ ซึ่งเป็นจักรวรรดิที่สืบทอดมาจากจักรวรรดิโรมัน ในขณะที่จักรวรรดิโรมันตะวันตกยังคงอยู่ จักรวรรดินี้ถูกเรียกว่า
จักรวรรดิโรมันตะวันออก เมื่อจักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลายลงใน ค.ศ. 5
จักรวรรดินี้จึงเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “จักรวรรดิไบแซนไทน์” มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล
หรือ กรุงไบแซนไทน์เดิม ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น กรุงคอนสแตนติโนเปิล เพื่อเป็นเกียรติแก่
จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ผู้ทรงย้ายเมืองหลวงและศูนย์กลางอำนาจจากโรม
มาตั้งที่เมืองไบแซนไทน์เมื่อ ค.ศ. 330 แล้วเรียกเมืองนี้ว่า “โนวา โรม” หรือ โรมใหม่***


อันที่จริง จักรวรรดิไบแซนไทน์ ควรเรียกว่า เป็นจักรวรรดิของชาวกรีกมากกว่า
เพราะซึมซับรับเอาอารยธรรมและวัฒนธรรมของกรีกมาเต็มตัว
ทั้งภาษาที่ใช้ ก็เปลี่ยนจากภาษาละติน (ภาษาหลักของโรมัน) เป็นภาษากรีก
ใช้วัฒนธรรมประเพณีกรีก (รวมถึงปรัชญาเรื่องชายรักชายเป็นความรักที่บริสุทธิ์ด้วย)
และประชากรก็เป็นเชื้อสายกรีกเป็นส่วนใหญ่ แต่ในมุมมองของประชาชนนั้น
กลับภูมิใจที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นคนโรมัน (โรมาเนีย)
ถ้าไปเที่ยวตุรกี ห้ามไปแสดงความชื่นชมประเทศกรีซให้คนตุรกีฟังเชียว เขาไม่ถูกกัน
คนตุรกีถือตัวว่า เป็นเชื้อสายเติร์กอันยิ่งใหญ่ ไม่ใช่กรีซหรือปรัสเซียคู่ปรับเก่า
คงเหมือนเรากะพม่านั่นแหละ

จักรวรรดิไบแซนไทน์ยืนยงคงอยู่ต่อมาอีกพันปีหลังการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก
ผ่านศึกสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะถูกพวกเติร์กออตโตมันตีแตกในปี ค.ศ. 1453
ด้วยอานุภาพมหาปืนใหญ่ที่พวกเติร์กเพิ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่ แล้วนำมาทดลองใช้กับ
กำแพงกรุงคอนสแตนติโนเปิลเป็นครั้งแรก (ภาพถ่ายซากกำแพงเมืองที่เคยลงให้ดู
นั่นคือ สิ่งที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางวิทยาการของโรมันในสมัยโบราณ
เพราะลำพังอาวุธโบราณ อย่างเช่น พวกค่ายคูประตูหอรบต่าง ๆ ที่เคยเห็นในหนังสงครามโบราณ
ไม่สามารถทำอะไรกับกำแพงเมืองนี้ได้)

โบสถ์เซนต์โซเฟียดำรงสถานะเป็นโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมานานกว่า 900 ปี
จนกระทั่งมหาวิหารเซบียาถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 จึงถูกลดอันดับลงไป
และยังถูกจัดให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เพราะใช้เทคนิคการก่อสร้างที่ล้ำสมัย
ในยุคนั้น โดยก่อสร้างอาคารเป็นรูปโดมโค้งมน ใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้น
แทนการใช้เสาค้ำยันที่นิยมก่อสร้างกันในขณะนั้น  ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง ดูโอ่โถง
ไม่มีเสาให้เกะกะสายตา และยังเป็นต้นแบบให้กับมัสยิดแห่งอื่น ๆ ในจักรวรรดิออตโตมัน
ในเวลาต่อมา รวมถึงมัสยิดในบ้านเราด้วย

แค่เดินผ่านประตูเหล็กโบราณหนาทึบเข้าไปในบริเวณทางเดิน (Corridor) ของมัสยิด
ยังไม่ทันเข้าไปข้างใน ผมก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศความขลังของอดีตอันรุ่งเรืองของมัสยิดแห่งนี้
พื้นทางเดินบางช่วงเป็นหินอ่อนเนื้อดี บางช่วงเป็นหินสกัดบดอัดจนแน่น
ซึ่งพื้นเหล่านี้ เป็นพื้นทางเดินดั้งเดิมตั้งแต่สมัยเริ่มสร้างเมื่อสองพันปีก่อน
ผมแอบจินตนาการในใจว่า เมื่อพันปีก่อน คนโรมันหรือคนเติร์ก เขาจะมาทำอะไรในนี้บ้าง
ตอนนี้เรากำลังเดินย้ำรอยคนโบราณเหล่านั้นอยู่  เหนือประตูทางเข้าไปในห้องโถง
จะมีภาพพระเยซูและสาวก คอยอำนวยพรต้อนรับอาคันตุกะอยู่ ภายในเป็นพื้นที่โล่งกว้าง
มีเสาหินอ่อนสีเขียวเข้มที่หายากรองรับน้ำหนักอยู่เรียงรายรอบห้องโถง หัวเสาเป็นศิลปะกรีก
แบบโครินเธียนที่มีลวดลายอ่อนช้อยงดงาม ฉะนั้น ภายในมัสยิดก็เลยมีความงดงามที่หลากหลาย
ของศิลปะจากที่ต่าง ๆ กัน นอกจากนี้ ยังมีเสาหินอ่อนรักษาโรคของจักรพรรดิจัสติเนียน
ที่พระองค์ชอบเอาหัวมาโขกที่เสานี้เพื่อบรรเทาอาการไมเกรน ตอนที่ไป เห็นมีคนยืนเข้าแถวรอ
ยาวเหยียด เพื่อเอามือหมุนรอบหลุมศักดิ์สิทธิ์บนเสาเพื่อรักษาโรค
ถ้าสามารถหมุนมือได้รอบ ก็สามารถรักษาได้หายขาด ผมบรรยายด้วยภาพดีกว่า


[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2014 18:02:03 โดย fanfic2010 »

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
ฮาเจีย โซเฟีย บรรยายด้วยภาพ


[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
เล่าด้วยภาพ

[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
ภาพสวยมาก ปุ้ม ขอบคุณที่เอามาให้ชม
ช่วงนี้ได้พักบ้าง จบงานปรองดองละ ชิว ๆๆ กับการทำงานหน่อย
ได้ลาพักกลับบ้านก็ช่วงใกล้สิ้นปีงบประมาณนี่หล่ะ
คิดถึงทุกคนเสมอนะ

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
*** ฮิปโปโดรม (Hippodrome) ***

สนามแข่ง Hippodrome ตั้งอยู่บนจัตุรัสสุลต่านอาห์เมดในปัจจุบัน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3
โดยจักรพรรดิเซปติมิอุส เซเวรุส ใช้สำหรับการแข่งม้าและกรีฑาของโรมัน เคยมีผู้เข้ามาชม
การแข่งรถม้าบนอัฒจรรย์กว่า 100,000 คน รวมถึงงานเฉลิมฉลองในวัง ขบวนพาเหรด
และพิธีราชาภิเษกก็จัดขึ้นที่นี่ตามกฎของจักรวรรดิไบแซนไทน์ พื้นที่ส่วนใหญ่ของ Hippodrome
ได้เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา บางส่วนถูกทุบทิ้ง เพื่อเอาไปบูรณะมัสยิดฮาเจีย โซเฟีย
คงเหลือแต่ลู่วิ่ง ที่ตอนนี้ได้รับการปูพื้นใหม่ เป็นลานหินโล่ง ๆ มีเสาโอเบลิสก์เก่าแก่อายุกว่า 2 พันปี
ที่สร้างเพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ถูกยกจากอียิปต์มาตั้งไว้เป็นอนุสรณ์
ตามพระบัญชาของจักรพรรดิธีโอโดซุส เมื่อปลายศตวรรษที่ 4 ซึ่งยังมีความสมบูรณ์อยู่มาก
มองเห็นอักษรภาพเฮียโรกราฟฟิกชัดเจน สูงประมาณ 20 เมตร
เป็นไฮไลท์และจุดนัดพบของจตุรัสแห่งนี้ อีกเสาหนึ่ง คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7
ที่ตอนนี้เหลืออิฐด้านใน นอกจากนี้ ยังมีเสาต้นที่เก่าแก่ยิ่งกว่าเสาโอเบลิสก์ที่ยังคงอยู่ใน Hippodrome คือ Tripod of Plataea หรือที่เรียกกันว่าเสางู (Serpent Column) สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะของกรีกในการรบกับเปอร์เซียในช่วง 480 ปีก่อนคริสตศักราช
เสาสามง่ามสำริดต้นนี้ถูกนำมาจากเดลฟีโดยจักรพรรดิคอนสแตนติน
และได้นำมาไว้ในสถานที่แห่งนี้ในตอนที่บูรณะ Hippodrome

นอกจากนี้ ยังมีศาลาน้ำพุเล็กๆ ชื่อ "The Kaiser Wilhelm Fountain"
ซึ่งเป็นของกำนัลจากพระเจ้าไกเซอร์ วิลเฮล์มที่ 1 ของเยอรมัน
ก่อสร้างขึ้นในปี 1900 ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่

****โอเบลิสก์ (Obelisk) คือ เสาหินสูงสี่เหลี่ยมที่มีลักษณะเรียวขึ้น และมียอดแหลมทรงพีระมิด
สร้างจากหินแกรนิตขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว โดยฐานของเสาจะกว้างและค่อยๆ เรียวแหลมขึ้น
สู่ยอดด้านบนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมสี่ด้าน มีอักษรภาพเฮียโรกราฟฟิก สลักอยู่รอบเสาทั้งสี่ด้าน
ยอดบนสุดจะเป็นลักษณะเหมือนปิรามิด และมักนิยมหุ้มหรือเคลือบด้วยโลหะ เช่น ทองคำ เหล็ก
หรือ ทองแดง เป็นต้น เสาต้นที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุถึง 4,000 ปี ตั้งอยู่ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์
เดิมวัตถุประสงค์ของเสาโอเบลิสก์สร้างไว้เพื่อถวายเกียรติแด่สุริยเทพรา สำหรับการปกป้องและ
สำหรับชัยชนะที่ประทานให้แก่กษัตริย์อียิปต์ รวมทั้งเพื่อทูลขอความโปรดปรานจากสุริยเทพรา
ต่อมาเมื่ออียิปต์กลายเป็นแคว้นหนึ่งของโรมัน จักรพรรดิโรมันได้ขนย้ายเสาโอเบลิสก์
ไปตั้งไว้ตามแว่นแค้วนต่าง ๆ ของโรมัน เพื่อแสดงถึงชัยชนะและเกียรติยศของโรมัน****




[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
*** อุโมงค์เก็บน้ำใต้ดิน Yerebatan Sarnici ***

มีชื่อภาษาอังกฤษว่า  The Basilica Cistern สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 532 หรือประมาณ 1500 ปีมาแล้ว
โดยจักรพรรดิจัสติเนียนที่ 1 เพื่อใช้กักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในพระราชวัง เป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุด
จากหลายร้อยอุโมงค์ที่สร้างอยู่ใต้ดินในเมืองอิสตันบูล  เสาที่ใช้ค้ำยันหลังคาอยู่ใต้ดิน
มีการแกะสลักอย่างสวยงาม เป็นศิลปะแบบโครินเธียน มีจำนวนเสาทั้งหมดถึง 336 ต้น
แต่ละต้นสูง 9 เมตร เรียงเป็นแถวทั้งหมด 12 แถว แต่ละแถวมีเสา แถวละ 28 ต้น
ในพื้นที่ยาว 142 เมตร กว้าง 65 เมตร เพดานเป็นอิฐหนา 4 เมตร 
ปัจจุบันได้รับการบูรณะอย่างดี สะอาดเรียบร้อย บรรยากาศขรึมขลังมาก
มีทางเดินปูนและราวไม้กั้นเดินทะลุได้ทั่ว อากาศถ่ายเทสะดวก
บางครั้งได้ยินเสียงลมดังมาจากข้างบนด้วย ซึ่งเป็นลมที่พัดผ่านท่อส่งน้ำที่นำน้ำมาจากป่า
ซึ่งอยู่ไกลออกไปราว 19 กิโลเมตร ด้วยสะพานส่งน้ำ Aqueduct ยาว 971 เมตร
และม้าบรรทุกน้ำมาใส่ในอ่างเก็บน้ำใต้ดินแห่งนี้ บางช่วงที่น้ำเต็มเปี่ยมถึงเพดาน
สามารถจุน้ำได้ถึง 80,000 ลูกบาศก์ลิตร ซึ่งสามารถรองรับคนทั้งเมืองได้ถึงสามเดือนทีเดียว

**** Basilica แปลว่า “มหาวิหาร” เนื่องจากบริเวณนั้นมีมหาวิหารตั้งอยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำนี้ ชื่อว่า Ilius Basilikası'ndan บวกกับความยิ่งใหญ่ของเสาหินอ่อนที่ตั้งอยู่ภายใน คนทั่วไปจึงเรียกว่า Basilica Cistern หรืออ่างเก็บน้ำมหาวิหารนั่นเอง****


[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-09-2014 20:27:39 โดย fanfic2010 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
ระหว่างทางไปท่าเรือที่เมืองอีเซียบัท


[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
มาละ เงียบหายไปนานหน่อย เมื่อต้นเดือนไม่สบายยาวไปหน่อย นาน ๆ ได้นอนเปื่อยกะเค้าสักที ดีเหมือนกันได้พักยาว
ช่วงที่เปื่อยทำให้รู้ถึงอาการของคนที่ป่วยเป็นโรคต่าง ๆ แล้วเจอหมออัดยา อาทิเช่น โรคมะเร็ง
คนที่ทนไม่ไหว ไม่ใช่เพราะอาการของโรค แต่เพราะยาที่หมอให้ มันมากเกินที่ร่างกายจะรับได้ ทำให้ถึงตาย
ถึงว่า สิ่งที่แน่นอน คือ ความไม่แน่นอน
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มีน้องของคนที่รู้จักเจอสถานการณ์แบบนี้เหมือนกัน เค้าป่วยเป็นมะเร็งที่คอ
คนป่วยก็บอกว่า ยาแรง ไม่ให้ยาได้มะ ไม่ไหว แต่หมอคงจะต้องการให้อาการดีขึ้น เลยจัดยาไปอีก
เรียบร้อยเลย อายุยังน้อย 26 ปี พึ่งเรียนจบ

ปล. ปุ้ม สบายดีนะ มาโพสไว้เยอะเลย 55555 คิดถึงเสมอ

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
เนะ.....สบายกาย แต่เหนื่อยงาน ช่วงนี้ต้องเตรียมการอะไรหลายอย่าง เลยค่อนข้างยุ่งวุ่นวายมาก
ยังไม่มีเวลามาต่อเรื่องตุรกีให้จบซะที ขอติดไว้ก่อนนะครับ มิตรรักแฟนคลับทุกท่าน
สัปดาห์หน้าก็จะออนทริปต่างประเทศยาวทั้งสัปดาห์ ถ้าหาเวลาว่างได้ จะมาต่อแน่นอนครับ  :pig4:

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. เป็นวันเกิดคุณชาย เลยควบรวมฉลองออกพรรษาด้วยเลย
หลังจากทำตัวเป็นฤาษี งดเหล้าเข้าพรรษามา 3 เดือน
ผลก็คือ เมาเละทั้งคู่ 5555555  :z1:

ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เป็นเช้าวันหยุดที่รู้สึกดีจัง^^
เหมือนได้ไปเที่ยวต่างประเทศเลยค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยวนะคะ
ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ  :L2:  :L2:   :pig4:

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
 :katai5: :katai5:

 :m7: :m7:

 :m22: :m22:

ช่วงนี้อยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงด้านการงานครั้งใหญ่ในรอบหลายปีเลย

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
ไม่ได้เข้ามานานมากหลายปีแล้ว แวะมาเยี่ยมทักทายที่รัก ^^

 แต่ก่อนนั้นขอ :z6: ที่รักก่อนโทษฐานมีเด็กในครอบครองเยอะ 55+

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
น้านนน นึกตะหงิด ๆๆ อยู่ ที่ไหนได้ นะ คนเรา หายไปนานมาทั้งที ยังมาทำร้ายกันอีก
ทีตัวเองหนีไปอยู่ ตปท. ไม่บอก ไม่กล่าว ยังไม่ว่าไรเลย แบบนี้ต้องโดน  :oo1: :oo1: :oo1: ซะให้เข็ด 555555
ส่วนข้อกล่าวหาตอนท้าย ก็แค่เป็นคนอบอุ่น มีอ้อมกอดที่ใหญ่ เลยกอดได้หลายคนเท่านั้นเอ๊ง  :mew2: :o8:

ปาล์ม  ดีแล้วหล่ะ จะได้เติมสีให้กับชีวิตเพิ่มขึ้น ดีใจด้วยอีกครั้ง สิ่งดี ๆ เริ่มเข้าหาละ  :กอด1:


ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
ไม่ได้มานาน ช่วงนี้ฝนตกหนักต้องระวังเตรียมพร้อมช่วยเหลือ
พอดีมีเพื่อนส่งข่าวการเปิดรับสมัครงานมา ใครที่สนใจส่วนไหน ติดตามดูนะ ขอให้โชคดี

1. กรมที่ดิน รับสมัครบุคคลเพื่อสอบแข่งขันเป็นข้าราชการ จำนวน 5 ตำแหน่ง 92 อัตรา
ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน - 16 ธันวาคม พ.ศ. 255
 http://www.dol.go.th/…/com_do…/se8ybegynevysej377_111114.pdf
 2. กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รับสมัครบุคคลเพื่อสอบแข่งขันเป็นพนักงานราชการ จำนวน 13 ตำแหน่ง 20 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 17-21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
http://job.ocsc.go.th/images/Job/635512980602804279.pdf
 3. กรุงเทพมหานคร รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ จำนวน 112 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม 2557
 http://office.bangkok.go.th/exam/2_57/pre.html
 4. กรมส่งเสริมสหกรณ์ รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งนักวิชาการสหกรณ์ปฏิบัติการ จำนวน 22 อัตรา รับสมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน - 8 ธันวาคม 2557 http://www.perdsorbtoday.com/file9/anncpd20141107.pdf
 5. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) รับสมัครบุคคลเพื่อสอบแข่งขันเป็นข้าราชการ ตำแหน่ง นักพัฒนาระบบราชการปฏิบัติการในโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 9 จำนวน 40 ตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน - 9 มกราคม พ.ศ. 2558
 http://job.opdc.go.th/
 6. กองทัพเรือ เปิดรับสมัครบุคคลพลเรือนเข้าเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ ประจำปีการศึกษา 2558 ตั้งแต่ 5 มกราคม - 22 กุมภาพันธ์ 2558
http://www.perdsorbtoday.com/file9/navy.pdf
 7. กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เปิดรับบุคคลภายนอก ชาย หญิง สอบบรรจุเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร 40 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม 255
http://www.thailandtouristpolice.com/private…/57-11-04-2.pdf
 8. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งนักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ จำนวน 9 อัตรา รับสมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม - 20 พฤศจิกายน 2557
 http://oncb.thaijobjob.com/oncbapply1.pdf
 9. ศูนย์การทหารปืนใหญ่ รับสมัครทหารกองหนุน เพื่อสอบคัดเลือกบรรจุเข้ารับราชการเป็นนายทหารประทวน ในหน่วยทหารปืนใหญ่ ในส่วนกำลังรบ จำนวน ๑๒๐ อัตรา ตั้งแต่ที่ 20 - 29 มกราคม 2558
http://www.perdsorbtoday.com/news_detail.php?news=5500
 10. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมเปิดรับสมัครบุคคลภายนอกสอบเข้ารับราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร และนายสิบตำรวจ (นสต.) จำนวน 450 อัตรา จำนวน 1-25 ธันวาคม 2557
http://rcm.edupol.org/4502558.html
 11. กรมส่งเสริมการเกษตร ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ จำนวน 120 อัตรา รับสมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 4 - 25 พฤศจิกายน 255 http://job.doae.go.th/
 12. กองทัพบก ประกาศรับสมัครทหารกองหนุนเพื่อสอบคัดเลือกบรรจุเข้ารับราชการเป็นนายทหารประทวนสายงานสัสดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 จำนวน 100 อัตรา รับสมัครตั้งแต่วันที่ 17 - 28 พฤศจิกายน 2557
http://www.radd-atc.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%9

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
อันนี้ก็น่าสนใจ  ไปเจอมา เผื่อใครยังไม่เคยเห็น
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน เข้าใจว่ากว่าจะสอบได้บรรจุเป็นข้าราชการหรือเข้าทำงาน ไม่ใช่เรื่องง่าย
ตั้งใจและพยายามทำให้ดีที่สุดและเต็มที่ ความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

   http://perdsorbtoday.com/

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
เข้ามาเพื่อจะบอกว่า ยังไม่ตายครับ งานรุมเร้า เสาร์ย้ายเรือน
ถ้าว่าง จะเข้ามาต่อเรื่องตุรกี รึคนเบื่อ เลิกอยากอ่านไปแล้วก็ไม่รู้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
ปุ้ม คิดถึงนะ นึกอยู่ว่าคงจะยุ่งมาก ถึงหายเงียบไป แล้วปีใหม่จะได้ไปเที่ยวหรือป่าวหล่ะ นั่น
รักษาสุขภาพด้วยละกันนะ
เราก็งานยุ่งมาก เหนื่อยพอ ๆ กับช่วงทำงานปรองดองเลย
แถมฝนตกหนักออกช่วยเหลืออีกด้วย ทำกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว
 

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
 :mc3: :mc3: :mc3: :mc4: :mc4: :mc4:
สวัสดีวันขึ้นปีใหม่ ขอให้ทุกคนมีความสุขความเจริญประสบความสำเร็จตลอดปี   :mc2: :L2:

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
ใครมีลูก ม.5ครับ

 บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เปิดรับสมัครนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ที่มีความสนใจด้านธรณีวิทยาจากทั่วประเทศ เพื่อสอบคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมค่ายธรณีวิทยากับเชฟรอน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อเปิดโลกทัศน์และเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ในด้านธรณีวิทยาจากคณะอาจารย์ และนักศึกษาภาควิชาธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ให้น้องๆ ได้เตรียมตัวเพื่อการศึกษาต่อ พร้อมเปิดโอกาสในการชิงทุนการศึกษาสาขาธรณีวิทยาในระดับ มหาวิทยาลัยจากเชฟรอน ค่ายธรณีวิทยากับเชฟรอน สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่นี่
http://www.chevronthailand.com/join/G&G_Camp.asp

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
ไม่มีใครเข้ามาคุยละ ก็จะโพสเรื่องงานราชการต่าง ๆ เผื่อใครสนใจ


[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
โอ้ววววว คิง เปลี่ยนชื่อ เกือบหากระทู้ไม่เจอเลย

มีข่าวนิดนึง เพื่อนฝากมาบอก
ไทยพีบีเอสต้องการผู้ประกาศรายการวิทยาศาสตร์ 80 ตอน
คุณสมบัติ
1. ผู้หญิง อายุไม่เกิน 30 ปี
2. ปริญญาตรี ปี 4 หรือเรียนจบแล้วไม่เกิน 2 ปี ด้านวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยี
3. พร้อมทำงานหนักเดินทางไปต่างจังหวัดได้
สนใจติดต่อ สุรชัย 9816217988

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
 :mc4: :mc4: ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ขอให้ทุกท่านมีความสุขสมบูรณ์ตลอดปีนี้  :mc4: :mc4:

เพื่อนฝากมา มีอะไรสงสัย สอบถามได้ที่ Korean Education Center in Thailand

[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ เปิดสอบพนักงานราชการ จำนวน 4 ตำแหน่ง 17 อัตรา
เปิดรับสมัครวันที่ 23 ก.พ. - 1 มี.ค. 58 รายละเอียดตามลิ้งค์ข้างล่าง

http://www.thaijobsgov.com/jobs=7682

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
วันนี้ขอฝากเพจเรื่องราวของโรงเรียนที่เคยเรียนมาเมื่อตอนเด็ก ๆๆ

https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C-Wannawit-School/160820817281634?fref=ts

รายการ lineกนก
https://www.youtube.com/watch?v=NTKt0M6T_V0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2015 21:04:40 โดย nonae »

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
กรมการทหารช่าง เปิดสอบบรรจุข้าราชการทหาร 100 อัตรา ตามลิ้งไปเลย

http://www.thaijobsgov.com/jobs=7913


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด