คุณครับ...ได้(ฟัน)ผมแล้วก็มารักกันเถอะครับ บทที่ 59/60 พิเศษ UP 6/1/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณครับ...ได้(ฟัน)ผมแล้วก็มารักกันเถอะครับ บทที่ 59/60 พิเศษ UP 6/1/55  (อ่าน 799631 ครั้ง)

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
เพิ่งเข้ามาอ่านคะ
ติดในวังวนของการสืบสวนหาชายหนุ่มผิวเข้มในคืนนั้นซะแล้ว
หุหุ

a_me_baa

  • บุคคลทั่วไป

MomentInTime

  • บุคคลทั่วไป
จะหาเจอใหมนั่น  :m29:

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

เพิ่งเข้ามาอ่าน
สนุกดีนะ เชิงสืบสวนเล็กๆ

ผู้ต้องหามีหลายคนแล้วสิ
แต่ว่า...
เอดส์น่ะ ไปตรวจได้เลย ไม่ต้องไปหาผู้ต้องสงสัยหรอกนะ (บอกไว้สำหรับคนอ่าน)

รู้เร็วรักษาได้จ้า

ขอบคุณและจะติดตามครับ

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
เหอๆๆๆ จะลุ้นไปไหนนนนนนนนนนนนนน :serius2:

dea

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกก  :serius2: เลือกยากมาก

มองไม่มองเลยอ่ะว่า ใคร (ความจริงแอบเชียร์พี่ที่ทำงานบริษัทเดียวกัน)

นึกอยุ่นะ ว่าถ้ารู้ตัวจริงจะทำยังไงกันต่อ   :m21:

ค้างๆๆๆ มาต่อเร็วๆนะค่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4:

beboy

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากครับ  ชอบครับ  ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
เดาไม่ถูกเลย คงต้องรอต่อไป ขอบคุณนะครับ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
สอบไปแล้วสอง ยังเหลืออีกหนึ่ง
ว่าไปสองคนแรก ไม่น่าจะเข้าข่าย  ยังไม่ฟันธง
รอดู หนุ่มถ่ายเอกสาร ( ก็ท่านประธาน ฯ ) นั่นแหละ นายกายเล่นของสูง :z1:
+1 เรื่องนี้พี่นาย ไม่หาหนุ่มในเครื่องแบบให้น้องกายด้วยเหรอครับ  :z2:

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
แต่ละคนมีแววเข้าข่าย แต่คนที่สามนี่แหละ เข้าสุด


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ waan_warunee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ตามลุ้นจนไมเกรนขึ้นเลยนะเนี่ย ^^

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ตอนนี้ยังไม่เชียใคร

กลั๊วกลัวจะเป็นคนใกล้ตัว

ฮ่า ๆ ๆ ๆ รอติดตาม แต่ไม่เชียรุจละคนตัดกำลังไป

Inlover

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นมาหลายตอนมากมาย
อร๊ากกกกกกกก

ออฟไลน์ polartotty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
หรือออออ จิงๆแล้วมันจะเป็น หลายp  o22

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
ตายล่ะ อิจฉาจะแย่ 555555

ออฟไลน์ railay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 983
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
จะใช่ธฤตรึเปล่าที่มี...........กะกายคืนนั้นอ่ะ

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาแล้วคุณนาย ช้าหน่อย ขอโทษด้วย
เรื่องนี้เปลี่ยนแนวไปเลย
อ่านไป ลุ้นไปทุกตอน
+1

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Guy Chapter 5

วรุจน์โยนปากกาลงบนโต๊ะ รู้สึกขี้เกียจที่จะเซ็นเอกสารขึ้นมาทันใด เขาหมุนเก้าอี้ หันไปมองนอกหน้าต่างพลางเอนตัวลงกับพนักพิง ปล่อยใจให้ล่องลอยไปใกลแสนใกลจนไม่รู้สึกตัวว่าเลขานุการมายืนอยู่ข้างโต๊ะ
“คุณรุจน์ ยังไม่ใกล้เลิกงานเลย เหม่อแล้วหรือคะ”
“อืม” วรุจน์ทำเสียงในลำคอ รู้สึกตัวว่าเลขานุการยืนอยู่ข้างๆ แต่ก็ยังไม่หันมา
“ไม่สบายหรือเปล่าคะ” เลขานุการถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“อืม”
“ยาพาราซักเม็ดไหมคะ”
“ฮึ” วรุจน์ยังคงทำเสียงในลำคอ แต่คราวนี้ส่ายหน้าช้าๆ
“ถ้างั้น วางแฟ้มเรื่องประชุม ERC ของกระทรวงต่างประเทศไว้ที่นี่นะคะ สาไม่รบกวนแล้ว” เลขานุการของวรุจน์วางแฟ้มลงบนโต๊ะแล้วขยับตัวแต่วรุจน์หมุนเก้าอี้หันมาห้ามเอาไว้
“เดี๋ยวก่อน ผมถามอะไรหน่อย” วรุจน์ทำหน้ารายเรียบ “ในฐานะที่คุณสาเป็นคุณแม่ลูกสาม ก็คงจะมีประสบการณ์มากกว่าผม คือว่า เรื่องครอบครัวนี่ เอ่อ ผมหมายถึงเรื่องคุณกับสามี”
“คะ” สาวิตรีเลิกคิ้ว รอฟังเจ้านายพูด
“เจอกันยังไง แล้วตกหลุมรักกันยังไง”
“อยู่ดีๆ ทำไมถึงอยากจะรู้ล่ะคะ” สาวิตรียิ้มบางๆ
“คุณสาเชื่อเรื่องเนื้อคู่หรือเปล่า” วิรุจน์ถาม “แบบที่ได้ยินเพลงเขาร้องว่า เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด บุพเพสันนิบาต คนประหลาดมาพบกันได้”
“เชื่อค่ะ” สารวิตรีแทรก พยักหน้าพร้อมหัวเราะคิกคักเพราะความขำเจ้านาย
“ใครบางคนที่เหมือนกับว่าเราเคยเจอกันในความฝัน พอเห็นหน้าก็รู้สึกว่าคุ้นเคยมาก มันติดอยู่ในความทรงจำ แต่ความทรงจำกลับเลือนลาง นึกยังไงก็นึกไม่ออก” วรุจน์ขมวดคิ้ว
“คุณรุจน์ต้องกินยาพาราซักเม็ดแล้วล่ะ” สารวิตรีสรุป
“ผมไม่ได้ป่วย” วรุจน์แย้ง
“คุณพูดจาไม่ค่อยเหมือนคุณรุจน์คนเดิม นี่ไปปิ๊งใครอีกแล้วล่ะคะ นี่ล่ะ ออกท่องราตรีบ่อยๆ เจอคนเยอะแยะจนจำไม่ไหว คราวนี้คงพบคนที่เคยเจอกันมาก่อน แล้วก็มานั่งนึกว่า เคยเจอกันหรือยัง กลัวว่าจะซ้ำคนเดิมหรือคะ”
“นี่คุณสาวิตรีที่รักครับ ผมไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้ขนาดนั้น” วรุจน์แกล้งทำตาขวาง
“รู้แล้วค่ะ” เลขานุการหัวเราะเบาๆ
“ไม่รู้สิ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นรักแรกพบ พอเจอปุ๊บ ใจก็สั่งเท้าให้เหยียบเบรกทันทีเลย”
“รักแรกพบ” คราวนี้สาวิตรีอุทานเสียงดัง “คนอย่างคุณรุจน์นี่นะคะจะเจอรักแรกพบ”
“นี่คุณเลขาครับ” วรุจน์ถอนหายใจ “ในสายตาของคุณ ผมดูแย่ขนาดนั้นเลยหรือ”
“เปล่าค่ะ ไม่ได้ว่าแย่ เพียงแต่ว่ามันขัดๆ กับที่เคยผ่านมา”
“จริงอยู่ ผมเจอคนมามาก แต่มันไม่ได้รู้สึกอย่างนี้นี่นา คราวนี้มันรู้สึกไม่เหมือนทุกครั้ง” วรุจน์ห่อไหล่ “มันแปลกๆ เหมือนกับเจอเนื้อคู่ พอเห็นปุ๊บเราก็บอกตััวเองเลยว่า คนนี้ล่ะใช่เลย คนนี้ซิมาแรง สัญชาตญาณบอก”
“เป็นเอามาก”
“หรือว่าเป็นเพราะผมอายุมากขึ้น แล้วก็เบื่อชีวิตแบบเดิม พอถึงจุดอิ่มตัว เราก็เปลี่ยนไป”
“ก็อาจเป็นได้” สาวิตรีพยักหน้าแล้วถามว่า “เจอกันนานหรือยังคะ เดทกันหรือยัง”
วรุจน์ไม่ตอบ แต่ยกนิ้วสองนิ้วชูให้เลขานุการดู
“สองเดือน” สาวิตรีอุทานอีกครั้ง
“ไม่ต้องกระทบกระเทียบเลยคุณสา” วรุจน์เบ้ปาก “ก็รู้ๆ อยู่”
“สองอาทิตย์” สาวิตรีเปลี่ยนคำพูด
“สองครั้ง”
“แล้วมานั่งเหม่อนี่นะคะ” สาวิตรีส่ายหน้าแล้วเดินจากไปช้าๆ พร้อมกับพูดว่า “เดี๋ยวสาจะไปชงกาแฟแก่ๆ ให้ซักถ้วย คุณจะได้รู้สึกดีขึ้น”
“อย่าแอบใส่ยาพารานะครับคุณเลขาฯ” วรุจน์ส่งเสียงตามหลังแล้วยิ้มมุมปากบางๆ ก่อนจะถอนหายใจยาวๆ ในหัวปรากฎภาพใบหน้าของกาย ชายหนุ่มที่เขาต้องจอดรถทิ้งไว้หน้าผับเพราะดันไปบอกว่าไม่ได้ขับรถไปผับคืนนั้น กายยอมนั่งรถแท็กซี่ไปส่งเขา
แวบหนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองเห็นประกายตาผิดหวังของกาย วรุจน์สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นว่าเขาพักที่ไหน กายน่าจะชอบใจถึงจะถูก ถ้าเขาเช่าอพาร์ทเมนท์หรือหอพักเก่าๆ เล็กๆ และไม่มีรถขับก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ คอนโดกลางเมืองหรูหรา ไหนจะรถเบ็นซ์สปอร์ต กายกลับแอบถอนหายใจ
เอ๊ะหรือกายคิดว่าเขารวยไม่พอ อยากไปเห็นบ้านของเขา แทนที่จะเป็นคอนโดมิเนี่ยม แต่นั่นก็ห้องละสิบกว่าล้านเชียวนะ SLK ของเขาก็ราคาไม่ใช่น้อย แปลกคนจริงๆ แทนที่จะผิดหวังเพราะเห็นเขาจน แต่กลับมาผิดหวังเพราะเขารวย
หรือว่าผิดหวังที่เขารวยไม่พอ
แบบนี้ต้องพิสูจน์!

กายรีบเดินตามการัณย์ซึ่งกำลังมุ่งตรงไปยังห้องประชุมเล็กของบริษัท ช่วงเช้าของวันนี้เขานั่งแปลเอกสารจนตาลาย ครั้นกลับจากพักกลางวันยังไม่ทันได้นั่งหัวหน้าก็เรียกให้เข้าประชุมกับผู้บริหารและบอกว่าเขาต้องเป็นล่ามแปลในการประชุม
เล่นกันแบบไม่ให้ตั้งตัวเลยหรือนี่ เกลียดที่สุดก็คือการแปลแบบ 'ฉุกเฉิน' แบบนี้ล่ะ ต้องแปลแบบ simultaneous หรือแบบ side-by-side ก็ไม่รู้ แต่ไม่ว่าจะแบบไหน ถ้าจู่ๆ ต้องแปลเลยโดยไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนก็หินพอๆ กัน
กายคิดในใจขณะที่มองตามหลังหัวหน้า การัณย์พูดสั้นพูดเร็วยังไม่พอ แต่ขาสั้นๆ เวลาเร่งรีบเดินเร็วมากจนเกือบจะต้องวิ่งตาม
ไม่ถึงสองนาทีกายกับการัณย์ก็มาถึงห้องประชุมพร้อมๆ กับพนักงานที่ท่าทางเร่งรีบอีกหกคนซึ่งแทบจะแย่งกันเปิดประตู การัณย์ชี้มือไปยังเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ชิดผนังด้านที่มีไวท์บอร์ดแขวนซึ่งเป็นเก้าอี้ตัวเดียวที่ไม่ได้อยู่รอบโต๊ะประชุม กายนั่งลงหยิบปากกาและสมุดโน๊ตประจำตัวออกมาเตรียมพร้อม การัณย์นั่งลงบนเก้าอี้ด้านหน้าเขาแล้วนิ่งเงียบ ไม่หันไปคุยกระซิบกระซาบกับคนที่นั่งข้างๆ เหมือนพนักงานคนอื่น
ไม่กี่อึดใจ ประตูห้องประชุมเปิดออก เจนจิราเดินเข้ามาด้วยท่าทางเร่งรีบ แต่ใบหน้าเรียบเฉย ตามด้วยร่างสูงใหญ่ของชาวตะวันตกในชุดสูทสีดำสามคนและปิดท้ายด้วยชายไทยรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กัน
คเชนทร์!
กายขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเจนจิราซึ่งกำลังดึงเก้าอี้ออกห่างจากโต๊ะเพื่อไปนั่งหลังเก้าอี้ตัวที่อยู่หัวโต๊ะ รู้ได้ทันทีว่าจะเป็นคนบันทึกการประชุม ชาวตะวันตกผมสีทองอายุประมาณสี่สิบปลายๆ นั่งลงใกล้หัวโต๊ะ คนที่หนุ่มกว่าอีกสองคนซึ่งมีผมสีน้ำตาลเข้มนั่งลงใกล้กับการัณย์ ส่วนคเชนทร์นั่งลงเป็นคนสุดท้ายที่เก้าอี้หัวโต๊ะ
อย่าบอกนะว่านี่คือท่านประธาน!

วรุจน์ส่งลูกค้าขึ้นรถแล้วเดินเตร่ไปตามข้างถนน ตั้งใจว่าจะแวะร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเพื่อซื้อเครื่องดื่มเย็นๆ แล้วถึงจะเรียกแท็กซี่กลับบ้าน วันนี้เขาพาลูกค้าวีไอพีมาทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารของเพื่อนและส่งลูกค้ากลับโรงแรมด้วยรถประจำตำแหน่งของเขา
เมื่อผ่านหน้าตึกซึ่งเป็นที่ทำงานของกาย เขาอดที่จะยืนมองไม่ได้ ในที่สุดกายก็ยอมบอกหมายเลขโทรศัพท์ตัวเองและบอกว่าทำงานที่ไหน เขารู้จักบริษัทนี้ดี
รู้จักดีจนคาดการณ์ได้ว่าคนลักษณะอย่างชายหนุ่มคงทำงานที่นี่ได้ไม่นาน
ใครจะไปทนได้!
วรุจน์อมยิ้ม ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัว
เขาอาจจะได้ผู้จัดการแผนก Front Office คนใหม่ คนเก่าบ่นกับเขามานานแล้วว่าอยากปลดระวางตัวเองไปทำงานแผนกที่ไม่ต้องมีอะไรวุ่นวายนักเพราะทำงานมานานและอายุ 55 ปีแล้ว
วรุจน์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พิมพ์ข้อความสั้นๆ แล้วส่งไปให้คนที่เขาเพิ่งได้หมายเลขโทรศัพท์มา
นี่คือ 'ขั้นแรก' ของการ 'พิสูจน์ข้อสงสัย'

วันนี้กายตั้งใจจะเลิกงานตรงเวลาเหลือนคนอื่น หลังเสร็จจากการประชุมเขาก็แทบหมดพลัง รู้สึกเบลอจนแทบจะเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานไม่ไหว สองชั่วโมงครึ่งในการประชุมดูราวกับว่าใช้เวลาทั้งวัน สรุปแล้วในการประชุมเขาเป็นคนที่พูดมากที่สุด สลับไปมาระหว่างภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ และพอนายฝรั่งที่นั่งติดการุณย์รู้ว่าเขาพอพูดฝรั่งเศสได้ก็เล่นใช้ศัพท์ฝรั่งเศสปนเข้ามาด้วย พอถึงช่วงท้ายของการประชุมมีการถกเถียงกันเขายิ่งต้องใช้สมาธิมากกว่าเดิมทั้งที่รู้สึกเหนื่อยจนแทบจะหมดแรง พอคนพูดภาษาไทย เขาก็ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ พอฝรั่งสองคนนั้นพูดภาษาอังกฤษ เขาก็ต้องแปลเป็นภาษาไทยให้คนในที่ประชุมฟัง ที่แย่ไปกว่านั้น คเชนทร์พูดเร็วมากจนเขาแปลเกือบจะไม่ทัน และยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาสองภาษาจนบางครั้งเขางงและปรับสมองไม่ทันจนแปลผิดภาษา บางครั้งหันไปพูดกับคนไทยด้วยภาษาอังกฤษทั้งที่ควรแปลสิ่งที่ฝรั่งพูดเป็นภาษาอังกฤษให้เป็นภาษาไทย และเมื่อเห็นใบหน้าของคเชนทร์ที่พยายามกลั้นหัวเราะก็ยิ่งฉุน ไม่อยากจะนึกว่าโดนแกล้ง
ขณะที่เดินกลับออฟฟิส กายอดบ่นให้การุณย์ฟังไม่ได้ว่า พนักงานของบริษัทที่ทำงานธุรกิจข้ามชาติแบบนี้ไม่น่าจะต้องให้มีล่ามแปลในการประชุม ทุกคนน่าจะพูดภาษาอังกฤษได้เพราะในบริษัทก็มีช่าวต่างประเทศทำงานอยู่หลายคน การัณย์ตอบสั้นๆ เช่นเคยว่า “บางเรื่องสำคัญ ต้องใช้ล่าม”
โชคดีที่ได้รับคำชมจากการุณย์ว่า “ดี ถือว่าผ่าน”
หมายความว่านี่คือการทดสอบความสามารถของเขาเช่นนั้นหรือ
การุณย์ต้องการทดสอบ หรือ 'ใคร' ต้องการทดสอบกันแน่
กายเปิดลิ้นชักโต๊ะ หยิบโทรศัพท์ออกมาและมองเห็นหน้าจอว่าเชิงชายโทรศัพท์เข้ามาถึงสี่ครั้ง จากนั้นเปิดดูข้อความสั้นแล้วรีบลบทิ้งเช่นเคยเพราะกลัวว่าจะมีใครมาเห็น
...คิดถึงนะจ๊ะที่รัก จะไปเวียดนามกลับวันศุกร์ คิดถึงชายบ้างนะ...
ก็ยังดี คราวนี้ SMS ไม่ค่อยทะลึ่งเท่าไหร่ แต่ถ้าส่งอะไรทะลึ่งๆ มาจะโทรกลับไปด่าให้หูชาเลยคอยดูสิ
กายอมยิ้มแล้วกดเปิดอ่านข้อความถัดไป ข้อความที่ส่งมาจากหมายเลขโทรศัพท์ที่เขาไม่ได้บันทึกหมายเลขเอาไว้ในเครื่องทำให้เขาอึ้งไปชั่วครู่
วรุจน์!
“...”
ทำไมส่งข้อความแบบนี้มาให้เรา!
เขาต้องการอะไรกันนี่
กายขมวดคิ้ว นึกสงสัย แต่ทันใดก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีใครคนหนึ่งโผล่หน้ามาเหนือพาร์ตินชั่น 'คอก' ทำงานของเขาและดีดนิ้วเสียงดัง
“ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก นึกว่าคุณถูกรีดจนหมดแรงไปแล้ว” เสียงของคเชนทร์ดังขึ้น
“คุณคเชนทร์” กายพึมพำ ชะงักไปชั่ววินาทีแล้วพูดว่า “ท่านประธาน”
“ผมเป็นคุณ ไม่ใช่ท่าน” คเชนทร์ยิ้มกว้าง “มาดูว่าคุณยังอยู่ดีหรือเปล่า เกร็งจนปวดตับเลยใช่ใหมล่ะ”
“อะไรครับ” กายเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจคำพูดของคเชนทร์เท่าใดนัก
“แต่คุณอึดมากเลยนะ ผมชอบ” คเชนทร์พยักหน้า
“หมายความว่ายังไงครับ” กายขมวดคิ้ว ยอมรับว่าตามคเชนทร์ไม่ค่อยทัน
“คราวต่อไปจะให้เวลาเตรียมตัว ไม่ใช่อยู่เฉยๆ ก็จับคุณฟันแบบไม่ให้ตั้งตัวหรอก”
“ทำงานที่นี่ไม่เคยได้เตรียมตัวเลยครับ ทุกอย่างฉุกเฉินทั้งนั้น” กายเริ่มจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายคงหมายถึงเรื่องแปลในการประชุม
“เราต้องทำตัวให้พร้อม จะโดนเมื่อไหร่ก็ต้องพร้อม ตื่นเต้นดีออก” คเชนทร์ยักไหล่ “คุณกลับบ้านได้แล้ว ไปนอนเอาแรง เพราะพรุ่งนี้คุณได้ถึงไคลแมกซ์แน่ๆ ขอบอก วันนี้แค่โฟร์เพลย์”
กายนั่งฟังเสียงรองเท้ากระทบพื้นของคเชนทร์ที่กำลังเดินห่างออกไปด้วยความรู้สึกอึ้งปนงง คเชนทร์พูดเสร็จก็เดินไปเลย ผู้ชายคนนี้พูดเร็ว เดินเร็ว ทำอะไรก็เร็ว เหมือนคนไฮเปอร์หรือโด๊ปยา
...ผมเป็นคุณ ไม่ใช่ท่าน...
หมายความว่ายังไง คเชนทร์ไม่ชอบให้คนเรียกท่านยังงั้นหรือ มาดเขาไม่เหมือนท่านประธานที่คนในบริษัทหรือแม้แต่คุณเจนจิราเลขานุการดูเกรงกลัวหรือประหม่าเวลาพูดถึง 'นาย'
คเชนทร์พูดอะไรแต่ละอย่างต้องฟังให้ดีๆ ตีความให้ดี และคิดตามให้ดี
อืม เขาน่าจะถามดูให้สิ้นเรื่องเลยว่าท่านประธานชื่ออะไร มาทำงานเกือบจะสองอาทิตย์แล้วไม่เคยเห็นหน้าเสียที แต่คนบริษัทนี้ก็เหมือนจะไม่อยากคุยกัน ดูเครียดๆ ต่างคนต่างอยู่ ถ้าเขาไปถามเรื่องท่านประธาน ไม่แน่ว่าอาจจะถูกเพ่งเล็งว่าชวนนินทาเรื่องเจ้านาย
อ้อ จริงสิ ค้นดูเอาก็ได้ แผนผังสายอำนาจบริหารงานก็ต้องมีรายชื่อผู้บริหารบริษัท
กายกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดคอมพิวเตอร์อีกครั้ง แต่ทันใดนั้นไฟในห้องก็ดับลง พร้อมกับเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาสะดุ้ง หันไปมองโทรศัพท์บนโต๊ะของตัวเองราวกับเป็นตัวประหลาด ก่อนจะยกขึ้นมาแนบหูช้าๆ
“ไม่กลัวผีหรือคุณกาย กลับบ้านได้แล้ว” เสียงคเชนทร์ดังมาตามสาย
“ครับ” กายพูดสั้นๆ แล้ววางสาย พร้อมกับบ่นในใจว่า จะบ้าหรือ สี่โมงสี่ห้านี่นะ จะให้รีบกลับบ้านไปทำไมก็ไม่รู้ ผีที่ไหนจะออกมาตอนพระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน
ผีคเชนทร์นะสิ
หรือผีเคนนี่หรือเปล่าก็ไม่รู้ วันนี้ยุ่งมากจนลืมไปว่าต้อง 'สืบ' ว่าชื่อเล่นของคเชนทร์คือเคนนี่หรือไม่ แต่ถ้าทางน่าจะ 'ง้างปาก'  เพื่อนพนักงานได้ยากเพราะคงไม่ยอมพูดถึงเจ้านายถ้าไม่ใช่เกี่ยวกับเรื่องงาน
เพิ่งเคยเจอบริษัทแบบนี้ เป็นบริษัทเก่าเขาไม่ได้ เจ้านายยืนอยู่ห่างไม่ถึงสิบเมตรยังจับกลุ่มเมาท์เจ้านายได้หน้าตาเฉย

อย่่างที่คเชนทร์ 'ขู่' เอาไว้ วันนี้งานยุ่งมากจนเขาถึง 'จุดไคลแม็กซ์' หลายครั้ง ซึ่งก็คือการเอาศีรษะโขกกับโต๊ะของตัวเอง แทบทั้งวันเขาต้องก้มหน้าอยู่กับโต๊ะ อ่านและแปลเอกสารจนแทบจะอาเจียน พอเลิกงานเดินออกมาจากบริษัทเขารู้สึกตาลาย เห็นตัวหนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษลอยไปลอยมาอยู่ตรงหน้า เอกสารแทบทุกชิ้นที่ส่งมาให้เขาแปลมีแต่เรื่องเร่งด่วนทั้งนั้น โชคดีที่เขาเริ่มจะเข้าใจคำสั่งของการุณย์ได้ดีกว่าเดิม
...Semantic ครึ่งชั่วโมง...
นี่เป็นคำสั่งที่สั้นที่สุดที่เขาได้เคยรับจากการุณย์ สามคำ สำหรับงานครึ่งหน้ากระดาษที่ใช้เวลาสามสิบนาที เร็วยิ่งกว่าต้องทำข้อสอบวิชาการแปลงานกฎหมายที่ให้เวลาสามชั่วโมงกับเอกสารสามหน้ากระดาษ
หรือเพราะการุณย์รู้ว่าเขาเรียนจบอะไรมา ถึงได้ใช้แต่คำสั่งแบบนี้ และคาดว่าเขาต้องเข้าใจทันทีโดยไม่ต้องเดินกลับไปถามให้ชัดเจนมากกว่าเดิม เมื่อวานก็เจอคำสั่งงานว่า “idiomatic ทับศัพท์เทคนิค วงเล็บภาษาอังกฤษ เที่ยง'
สงสัยเรียนจบมาจากที่เดียวกันแน่เลย
กายหยุดคิดเรื่องงาน เย็นนี้เขาอยากจะไปที่ผับ Lose Urself อีกครั้งเพื่อใช้เวลา 'นั่งสังเกตพฤติกรรมลูกค้า' ของผับสักสองชั่่วโมงก่อนจะกลับบ้าน

ไม่ถึงสามสิบนาทีกายก็มาถึงผับ แต่เขาแปลกใจที่มีลูกค้าเต็มร้านทั้งที่ยังไม่ดึกและไม่ใช่คืนวันสุดสัปดาห์ กายได้ที่นั่งหน้าเคาท์เตอร์บาร์ เขาสั่งเบียร์หนึ่งแก้วแล้วนั่งมองคนในผับซึ่งส่วนมากเป็นผู้ชาย
อืม ส่วนมากผู้ชายหน้าตาดีทั้งเลย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ผับของพี่อ๋องเปลี่ยนสไตล์มาเป็นผับเกย์ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็โชคดีที่มีแต่หนุ่มน้อยหน้าใสกันทั้งนั้น นี่ถ้ามีผู้ชายตัวโตๆ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ผิวสีแทนเดินไปเดินมา คงได้ปวดตา ปวดคอและปวดหัวน่าดู
เวลายิ่งผ่านไปคนก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น เสียงคุยกันดังมากจนกายรู้สึกรำคาญ เห็นได้ชัดว่าเป็นการสังสรรค์พิเศษของกลุ่มคนในวงการบันเทิงเพราะเขาเห็นดารากับนักร้องหลายคน
กายเปลี่ยนใจ ไม่อยากนั่งต่อเพราะไม่มีประโยชน์ วันนี้คงสังเกตใครไม่ได้เพราะคนเยอะเกินไป เสียเวลาทิ้งไปเฉยๆ คืนนี้เขาต้องรีบนอนแต่หัวค่ำเพราะไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันศุกร์จะเจอ 'ไคลแมกซ์หรือซุปเปอร์ไคลแมกซ์' ที่ทำงานอีกหรือไม่ แม้จะไม่เจอ 'คุณ' คเชนทร์ทั้งวันและไม่ได้รับการ 'เตือน' หรือ 'ขู่' ก็ไม่น่าไว้ใจ เพราะบริษัท 'แปลกประหลาด' บริษัทนี้น่าจะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ
นี่ถ้าบริษัทนี้ไม่ให้เงินเดือนสูงกว่ารายได้ที่เคยได้รับกว่าหนึ่งหมื่นบาท เขาก็คงจะกลับไปทำงานเดิมแล้ว เงินไม่เยอะเท่าแต่ก็ไม่ค่อยเครียด รำคาญเชิงชายตื๊อหน่อยแต่ก็พอทนได้ อย่างน้อยก็ได้หัวเราะวันละหลายครั้ง แต่มาทำงานที่นี่เขาแทบจะไม่เคยได้หัวเราะเลย มีแต่ขมวดคิ้วจนหน้าผากย่นไปหมดแล้ว
กายจ่ายเงินค่าเบียร์แล้วเดินออกจากร้าน ห่อไหล่เล็กน้อยเมื่อสัมผัสกับอากาศค่อนข้างเย็นของกรุงเทพฯ ที่เกิดหนาวขึ้นมาอย่างไม่คาดฝัน
อีกไม่นานก็จะสิ้นปี เชิงชายต้องมาตื้อชวนเขาไปเที่ยวทะเลอีกแน่ๆ
แล้วก็...
ความคิดของกายหยุดลงเพราะเห็นร่างสูงใหญ่ของธฤตยืนอยู่ริมถนน เสี้ยวหน้าด้านข้างของธฤตทำให้เขาต้องมองอย่างพิจารณาอีกครั้ง ภาพของเช้าวันที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงกับผู้ชายผิวเข้มคนนั้นฉายวาบขึ้นมาในหัว
เหมือนหรือไม่เหมือน
เขาว่าเหมือน
แต่จะใช่หรือเปล่า
โอ๊ย ทำไมคิดอะไรไม่ค่อยออก
คืนนี้กลับกับธฤตเลยดีใหม ให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย จะได้ตัดผู้สงสัยออกไปอีกคนหนึ่ง เหลือคเชนทร์เพียงคนเดียว วรุจน์ก็ 'หลุดโผ' ไปแล้ว
แต่ว่าธฤตมาที่นี่ทำไม นี่ยิ่งทำให้น่่าสงสัยว่าธฤตน่าจะเคยมาที่ผับนี้ แต่ถ้ามาและเมาในคืนวันศุกร์ที่ 20 ก็น่าสงสัยว่าอาจจะเป็น 'ผู้ชายคนนั้น'
สายตาของสองหนุ่มสบกัน ธฤตยิ้มแล้วเดินเข้ามาหา กายทักและถามทันทีว่าธฤตมาที่ผับแห่งนี้เป็นประจำหรือเปล่า ธฤตปฏิเสธและกล่าวต่อว่า
“เฉพาะตอนมีงานพิเศษหรือมีคนชวนมาเท่านั้นครับ”
“แล้ววันศุกร์ที่  20 มาหรือเปล่าครับ” กายถาม ธฤตหรี่ตา ทำท่าคิดแล้วพยักหน้า ก่อนจะส่งสายตาสงสัยและถามกลับมาว่า
“ถามทำไมหรือครับ คุณกายถามเหมือนเป็นตำรวจกำลังสอบสวนผู้ต้องสงสัยคดีอะไรซักอย่าง มีอะไรหรือเปล่า ให้ผมช่วยอะไรไหม และก็หวังว่าผมคงไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยก่อคดีอะไรนะครับ” ธฤตพูดยิ้มๆ
“ผมคิดว่าเคยเห็นคุณมาก่อน ก็เลยนึกถึงคืนนั้นได้ ผมมาสังสรรค์กับเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย” กายบอกความจริงผสมกับข้อสันนิษฐาน
“อืม อาจจะใช่ เพราะผมก็คุ้นหน้าคุณกายเหมือนกัน” ธฤตพยักหน้า “เราอาจจะเดินผ่านกันในผับ”
“แล้วตกลงจำได้จริงๆ หรือเปล่าครับว่าได้มาหรือเปล่า” กายถาม และเมื่อเห็นธฤตพนักหน้ารับจึงถามต่อโดยไม่ลังเลว่า “แล้วคืนนั้นคุณธฤตกลับคอนโดยังไงครับ”
“คิดว่าเลขาฯ ไปส่งครับ”
“คิดว่า...” กายทวนคำ เลิกคิ้ว ทำหน้าไม่เข้าใจคำตอบของธฤต
“คืนนั้นผมเมา” ธฤตยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าแบบระอาตัวเอง “ปกติผมไม่ดื่มจนเมาหรอกครับ แต่คืนนั้นหนักไปหน่อย เมาจนแทบไม่เหลือคราบธฤตคนเดิม”
“แล้วคืนนี้ก็จะเมาหรือเปล่่าครับ” กายยิ้มมุมปากบางๆ ซ่อนความสงสัยที่เอาไว้ ในใจพูดกับตัวเองว่า ยิ่งคุยก็ยิ่งสงสัย
ชวนธฤตกลับบ้านซะเลยดีไหม เอาให้รู้เรื่องไปเลย อย่างน้อยครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอกัน แล้วนี่ก็ไม่ใช่ชายกับหญิง ธฤตคงไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าเกลียดอะไร
“ถ้าเมาจะไปส่งผมหรือเปล่าครับ” ธฤตอมยิ้มเช่นเคย
“ผมไม่มีรถ”
“ขับรถผมไป”
“ผมขับรถไม่ค่อยเก่ง เคยหัดแค่ครั้งสองครั้ง ผมไม่กล้าหรอกครับ แต่ถ้าให้นั่งแท๊กซี่ไปส่งก็ได้ แต่ก่อนเมา ต้องบอกที่อยู่ให้ผมรู้ก่อน เพราะถ้าคุณเมา เดี๋ยวพูดกันไม่รู้เรื่อง”
“คืนนี้คงไม่เมาหรอกครับ แล้วก็คงไม่อยู่ดึก ผมมางานแค่เป็นพิธี อีกหน่อยก็กลับ พอดีผมออกมาคุยโทรศัพท์” ธฤตปลายตาไปมองผับ “คุณกายจะกลับแล้วหรือครับ ถ้าไม่รังเกียจ เป็นเพื่อนผมดื่มกาแฟซักหน่อยได้หรือเปล่า”
“แถวนี้ไม่มีร้านกาแฟดีๆ หรอกครับ มีแต่พวกสำเร็จรูป กาแฟดีจริงๆ ต้อง...”
“ชงเอง”
“ที่บ้านผมไม่มีเครื่องทำกาแฟ” กายส่ายหน้า จงใจ 'สื่อ' อะไรบางอย่างให้ธฤตได้เข้าใจ
“ที่บ้านผมมี ผมทำเองประจำ หอม อร่อยกว่าเยอะ บรรยากาศก็ดี” ธฤตยิ้ม หันไปมองรถที่จอดอยู่ริมถนนแล้วหันมามองกายด้วยใบหน้ายิ้มๆ จงใจ 'สื่อ' อะไรบางอย่างให้กายได้เข้าใจเช่นกัน

::: End of Chapter 5 :::


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
ตอนที่ 5 มาแล้ว
ขอไปอ่านก่อนนะค่ะ :L2:

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
ตัดตัวเลือกออกไปแล้วหนึ่ง
ยังเหลืออีกเพียบเลยอ่ะ มะไหร่จะได้เจอคนที่ใช่น้อ
สงสัยว่าวนเวียนอยู่แต่ออกมารึยังอ่า  :m31:
งง อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2010 11:53:21 โดย pinkky_kiku »

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อ้ะ..ได้เวลาทำการสืบหาความจริงและสอบสวนผู้ต้องสงสัยอีกคนแล้วเนอะ
แต่..แหม..ไปสอบปากคำผู้ต้องสงสัยที่คอนโดของเค้าแบบนี้ กายจะเอาตัวรอดปะ
หรือจะสอบปากคำไปด้วย แล้วก็ทดลองเสมือนจริง เพื่อหาความจริงไปด้วย หุ หุ หุ

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
สรุปแล้วมันใครกันมิชายไม่ใช่เลยสักคนนะ 555

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ใครกันนะ  ลุ้นจิงๆ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ท่านประธาน ฯ เจอรักแรกพบ แต่ยังคงวางมาด
ส่วนกายก็ยังวุ่นกับการหาใครคนนั้นอยู่ จน :z3:
+1 เป็นกำลังใจพี่นายครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด