" แล้วคุณจะรู้อะไร ! " คาวัลโลลุกพรวด เก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ถูกผลักจนล้มโครม ลำคอแสบร้อนจากการตะโกนอย่างเดือดดาลด้วยแรงอารมณ์จนนัยน์ตาแดงก่ำ จ้องมองใบหน้าของญาติสนิทที่เอ่ยคำพูดเยาะหยันออกมาอย่างรวดร้าว ก็รู้ดีว่าคลาร์กเป็นคนเช่นไร และเขาไม่เคยต้องการคำปลอบโยนประโลมใจจากชายคนนี้สักนิด แต่ขอแค่เพียงการนิ่งเงียบและรอคอยการตัดสินใจของเขาอย่างสงบก็เป็นไปไม่ได้หรือ ให้เวลาเขาได้สงบจิตสงบคิดอะไรเสียบ้างได้ไหม? ทำไมพบกันแต่ละคราวจะต้องเอ่ยวาจาเชือดเฉือน ดูถูก เหยียดหยาม ส่อเสียดจิกกัดให้เจ็บแสบรวดร้าวอยู่เรื่อย ไม่รู้ ไม่เข้าใจเอาเสียเลยหรือยังไงว่าเขากำลังคิดมาก กำลังเครียดขึงและต้องตัดสินใจ ทำไม...ทำไมจะต้องมากดดันกันขนาดนี้..
..ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่ายังไงเขาก็ต้องกลับไป ทำไมถึงต้องเอ่ยวาจาทำร้ายจิตใจกันอยู่ตลอดด้วยเล่า..ต่อให้เขาเข้มแข็งแค่ไหนแต่ใครมันจะทนรับคำพูดด่าว่าหยามหยันทุกวันได้กัน
..ทุกคนเอาแต่กดดัน ทุกคนเอาแต่รุมประณาม ทุกคนต่างก็ผลักไสทางเลือกที่ไม่มีทางเลือก ทางออกที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเจ็บปวดมาให้เขา
..ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจเขา ทำไมถึงไม่มีคนเห็นใจเขา
" คุณจะเข้าใจอะไร...คุณก็แค่เดินเข้ามา...เข้ามาพูดจาด่าว่าปาวๆแล้วประกาศว่าจะลากคอผมกลับบ้าน ได้มองเห็นไหม? ได้สนใจไหมว่าผมรู้สึกยังไง ? คุณบอกว่าผมผิดที่เอาแต่ยึดติดสำออยไม่กล้าไปไหน เอาแต่ซุกตัวร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนคนอื่นงั้นเหรอ? แล้วในตอนที่ผมถูกทิ้ง ตอนที่ผมไม่มีทางไปคุณอยู่ตรงไหน? ตอนที่ผมต้องกลายเป็นคนตายทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ตอนที่ผมถูกหักหลังก็ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ทั้งพ่อแม่ทั้งครอบครัวทั้งแกงค์ไม่มีใครอยู่กับผมสักคน ..."
" คุณให้ผมเลือก..เลือกทั้งๆที่คุณก็บังคับผมอยู่กรายๆแล้วว่าให้กลับไป...บอกแบบนั้นแล้วยังจะให้ผมเลือกอีกงั้นเหรอว่าจะทำยังไง? ผมไม่ได้มีทางเลือกมาแต่แรกแล้ว ผมก็แค่ต้องทำตามที่ถูกสั่ง ก็แค่ต้องเดินไปตามทางที่ถูกขีดไว้เรื่อยๆเหมือนคนไม่มีสมอง!...แล้วตอนนี้สาแก่ใจไหมที่เขาก็บอกให้ผมไป เขาไม่ต้องการผม เขาไม่เชื่อผมอีกแล้ว...คนที่คอยดูแลผม คนที่คอยช่วยผม เป็นกำลังใจให้ผม ...เขาทิ้งผมไปแล้ว..."
ชั่วขณะหนึ่งความน้อยใจและความอัดอั้นผลักดันให้พูดพร่ำเอ่ยคำพูดโง่ๆ..คาวัลโลส่ายหน้าร่ำร้องออกมาด้วยความปวดร้าวและอัดอั้นเกินจะทนไหว ..มาสำนึกว่าที่พูดไปมันแย่มันเลวร้าย มาคิดได้ว่าเขาทำอะไรลงไปก็เกินจะแก้ไขเสียแล้ว..
" อ้อ...ฮะ ฮะ ฮะ.." คลาร์กหัวเราะ....เปล่งเสียงหัวเราะที่ค่อยแผ่วเบาเสียงนั้นค่อยดังขึ้นเรื่อยๆ...และเแปรเป็นกระแสเหยาะหยันราวงกับสมเพชเวทนา...เจ้าคนที่กำลังสะอึกสะอื้นร้องไห้คร่ำครวญราวกับคนบ้า คนที่กำลังโทษคนนั้นคนนี้ พร่ำเพ้อแล้วร้องไห้ราวกับใจสลาย..
...เขาผิดเองที่คิดว่ามันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ผิดเองที่คิดว่ามันได้เรียนรู้และเข้มเเข็งมากกว่าเดิม ผิดเองที่เชื่อมั่นและคิดในแง่ดีว่าคาวัลโลต้องตัดสินใจอย่างไม่มีลังเล ผิดเอง...ผิดเองทั้งหมด!
...เพราะคนที่อยู่ตรงหน้ามันน่าสมเพชกระทั่งไม่มีค่าพอให้แลตามองด้วยซ้ำ!!!
" ที่แกร้องไห้ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิดที่ไม่มีทางเลือกหรือต้องทิ้งใครไป แกก็แค่เอาแต่โทษคนนั้นคนนี้โดยไม่มองเห็นความผิดของตัวเอง! ...สุดท้ายแล้ว...แกมันก็เป็นไอ้พวกคลั่งรักจนไร้สติเท่านั้น!! " ฝ่ามือของคลาร์กคว้าปกเสื้อคอตั้งตัวยาวสีขาวชุดแบบอย่างพวกชนชาวอาหรับที่หลานชายของตนกำลังใส่อยู่มากำแน่น กระชากและขย้ำแรงๆราวกับจะค้นหาเศษเสี้ยววิญญาณที่เหลืออยู่ของคาวัลโล วาลกัส คนเดิมให้เจอ
" ไม่มีทางเลือกใช่ไหม ไม่รู้จะทำยังไงใช่ไหม เลือกยังไงก็เจ็บงั้นสินะ...ดี......ดี.... "คลาร์กคำรามอย่างเคืองโกรธ จ้องมองใบหน้าที่แสนเคยคุ้นของหลานชายที่ตนภูมิใจ มองดวงตาสีน้ำทะเลที่บัดนี้เต็มไปด้วยคราบนี้ตาของความพายแพ้อันน่าอดสูอย่างเคืองโกรธ พายุโทสะในอกกำลังคำรามร้องอย่างเกรี้ยวกราดและบ้าคลั่ง...โกรธ เคือง ผิดหวัง เสียใจ เสียใจเป็นที่สุด ด้วยเด็กหนุ่มซึ่งเขาเฝ้าอดทนสั่งสอนดูแลมาจะกลายเป็นแบบนี้..
...สอนให้เข้มเเข็ง สอนให้อดทน สอนให้เเข็งแกร่ง แต่ทุกอย่างกลับต้องมาพังทลายลงเพราะคำว่ารักอันไร้ค่า!!
ผลั่วะ! กริ๊ก... "...ไม่มีทางเลือกใช่ไหม? ไม่รู้จะเลือกอะไรใช่ไหม?
ถ้าแกโทษว่าเป็นความผิดของพวกฉันที่กดดันแกนัก ถ้าแกคิดว่าทุกคนผิดที่อยากให้แกกลับบ้าน..ผิดที่ตัวเองเกิดมาในตระกูลมาเฟีย! ..ก็เลือกนี่ซะสิ..ไม่มีทางออกนักก็ตายไปซะสิ คนไร้ค่าอย่างแกน่ะ ตายๆไปซะดีไหม!! "
ชกหน้ามันสุดแรงจนร่างนั้นถึงกับทรุดฮวบ ฝ่ามือเรียวซุกเข้าไปในเสื้อตัวใน กระชากกระบอกปืนที่ลอบนำมาใช้แล้วยื่นมันไปยังเบื้องหน้า คลาร์กปล่อยชายเสื้อสีขาวของหลานชายตนลงด้วยความรู้สึกโกรธเคืองที่แล่นพล่านในอกจนไม่อาจสงบใจ ไม่แม้กระทั่งจะสามารถแตะต้องตัวมันได้อีกแล้ว..
...ไม่รู้จะทำยังไงแล้วใช่ไหม? งั้นก็ตายไปซะ คนที่กล้าทิ้งทุกสิ่งแล้วคร่ำครวญร้องไห้ คนที่สิ้นหวังอย่างไร้ค่าแบบนั้นควรจะตายไปซะ!!
" ตอบฉันสิ ! บอกฉันมา....หรือจะให้ฉันฝังกระสุนปืนลงบนหน้าผากแกซะเลย! ...." ใบหน้านองน้ำตาของหลานชายบัดนี้มันชวนอดสูจนไม่กล้ามอง ท่าทีพ่ายแพ้ ไร้ศักดิ์ศรีมันรับไม่ได้จนเขาต้องคำรามออกมาด้วยความเคืองโกรธ คลาร์กกระชากแขนออกจากการเกาะกุมของแกเร็ตที่รี่มากห้ามด้วยสีหน้าร้อนรน มันเอ่ยปากทักท้วงถึงสาเหตุการมาของพวกเขาและขออย่าให้ความโกรธทำให้เสียเรื่อง แต่เขาไม่คิดจะสนใจแล้วว่าผลมันจะออกมาแบบไหน อนาคตจะเป็นเช่นไร แต่ที่รู้ คือเรื่องมันจะต้องจบลงวันนี้ ถ้ามันเป็นทายาทที่อ่อนแอไร้สติ ไร้ค่าขนาดนี้มันก็ไม่สมควรเป็นบอส ถ้ามันกลายเป็นความผิดพลาดของตระกูลวาลกัส มันก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่ !
"
หยุด!!!! นี่คุณคิดจะทำอะไร !? " เสียงคำรามก้องและฝ่ามือที่เข้ามากระชากปัดกระบอกปืนในมือของตนไปจากร่างของหลานชาย คือชายหนุ่มที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของเรื่องนี้ ชายที่มีศักดิ์เป็นถึงผู้นำประเทศ คนที่ไม่ควรจะมายุ่งเกี่ยวกับคาวัลโลให้มันต้องไขว้เขว้ คนที่ควรจะปล่อยให้คาวัลโลกลับไปแต่เนิ่นๆเรื่องราวมันคงจะไม่เลวร้ายแบบนี้!
"..อย่ายุ่ง นี่มันเรื่องในครอบครัว คนนอกไม่เกี่ยว !! " คลาร์กกระชากเสียงห้วนใส่อีกหนึ่งบุรุษที่เขานึกชิงชัง คนที่ปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกมาอยู่เหนือเหตุผลและสิ่งที่ควรจะทำ คนโง่เง่าพวกนั้น ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่เสียด้วยซ้ำ !
" ครอบครัวเหรอ...?
มีครอบครัวที่ไหนเขาทำแบบนี้กันบ้าง!! "อัลชาอ์ร้องตวาดอย่างโกรธเคือง สิ่งที่พบเจอเมื่อเดินเข้ามาในห้องนี้ไม่ใช่การทะเลาะถกเถียงหรือการสนทนากันตามประสาญาติๆเสียด้วยซ้ำ แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ เป็นวงวิวาทที่มีเป้าหมายมุ่งจะเอาชีวิต ปากกระบอกปืนที่อยู่ในมือชายที่คาวัลโลยอกว่าเป็นอาทำให้เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ คนในครอบครัว? ญาติสนิท? คนประเภทไหนกันที่กล้าทำแบบนี้กับครอบครัวของตนเองได้ !
ชีคหนุ่มรวบเอาร่างที่นิ่งงันของคาวัลโลมากอดประคองไว้ในอ้อมแขน กระชากปืนพกที่ข้างเอวมากำไว้แน่นพร้อมหันกระบอกปืนไปยังร่างของคลาร์กที่ยืนจังก้า ด้วยท่าทีพร้อมจะปกป้องคนในอ้อมกอดจนสุดกำลัง ชีคหนุ่มรู้สึกได้ถึงอาการสั่นสะท้านของคนในอ้อมกอด ฝ่ามือของคาวัลโลที่ขยุ้มเสื้อคลุมแน่นและเสียงสะอื้นที่หลุดออกมาอย่างชวนน่าสงสารนัก อัลชาอ์สูดหายใจลึกจ้องมองชายหนุ่ที่ยังคงยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้าตนอย่างไม่พึงใจ ในมือของชายคนนั้นยังถือปืนอยู่ แม้จะไม่ได้ยกมาเล็งที่พวกเขาแล้ว แต่อย่างไรอัลชาอ์ก็ยังยอมไม่ได้ !
" อย่าครับ...พอเถอะ...." คาวัลโลพึมพัมเสียงเบา ฝ่ามือแตะลงบนมือหนาที่กำกระบอกปืนไว้แน่นและค่อยดึงให้ฝ่ามือนั้นลดลงข้างกาย จ้องมองเสี้ยวหน้าที่ยังคงแสดงความห่วงหาอย่างแจ่มชัดของอัลชาอ์ด้วยความดีใจแม้เสี้ยวหนึ่งของหัวใจจะยังคงเจ็บปวดรวดร้าวนัก แต่เขาก็ไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวายไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ค่อยผละจากอ้อมแขนของชีคหนุ่มแห่งเซเนียยาพร้อมกับสูดหายใจลึก เรียกคืนสติและกำลังใจที่ได้จากอ้อมกอดเมื่อครู่มาเป้นพลังให้ยืนหยัดได้อย่างยากเย็น นัยน์ตาสีน้ำทะเลจ้องมองใบหน้าเคืองโกรธของผู้เป็นอาที่จ้องมองเขาอย่างผิดหวัง กระบอกปืนในมือฝ่ายนั้นลดลงข้างกาย ทั้งฝ่ามือยังสั่นระริก ชั่วขณะหนึ่งเขาถามตัวเองอย่างนึกสมเพชว่าหากอัลชาอ์มาห้ามไม่ทัน คลาร์กจะฆ่าเขาไหม?
อาของเขาจะบังคับให้เขาเลือกกระบอกปืนหรือเลือกกลับบ้านรึเปล่า?
" ...นี่มันจะเกินไปแล้ว พวกคุณทำแบบนี้ได้ยังไง คาวัลโลเป็นหลานชายคุณไม่ใช่เหรอ? แทนที่จะคุยกันแบบมีเหตุผล ทำไมคุณถึงทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงไปอีก! " แม้จะลดปืนลงแล้ว ทว่าความโกรธเคืองเมื่อพบว่าคนที่ตนรักสุดหัวใจถูกหมายคร่าชีวิตยังคงอยู่ อัลชาอ์คำรามพลางจ้องหน้าชายหนุ่มเบื้องหน้าอย่างเอาเรื่อง ไม่ได้คิดหวั่นแกรงแม้ในมืออีกฝ่ายจะมีประบอกปืนบรรจุกระสุนพร้อมลั่นไกสังหาร และนั่น..ยิ่งทำให้ความอดทนของคลาร์กถึงขีดสุด
" ..อ้อ...ดี....ดี..." คลาร์กคำรามเสียงต่ำตวัดสายตามามองสบดวงตาของหลานชายคนสนิทพร้อมกับรอยยิ้มแสยะที่แสนไม่น่าไว้ใจที่ปรากฏอยู่บนหน้า นั่นทำให้คาวัลโลใจหายวาบ " ถูกทิ้งอะไร? ...มันก็ยังอาลัยอาวรณ์แกอยู่นี่ แค่ยอมอยู่ที่นี่ก็จบลงง่ายๆแล้วใช่ไหม? "
กริ๊ก.... " งั้นฉันเจอต้นตอของปัญหาที่แท้จริงแล้ว..."
สิ้นคำเอ่ยนั้น กระบอกปืนในมือของคลาร์กก็ถูกยกขึ้นพร้อมเล็งเป้าไปยังร่างของชีคแห่งเซเนียยาอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกันกับปืนสั้นในมืออัลชาอ์ที่หันไปยังร่างของคลาร์กโรเซนเบิร์กในทันที...
ภาพชายสองคนที่ยืนถือปืนจ่อมายังร่างของอีกฝ่ายชวนให้ใจหายวาบยามคิดถึงสิ่งที่จะเกิด แน่นอนว่าแกเร็ตนั้นไม่อาจอยู่เฉย มาเฟียหนุ่มรีบปลดเซฟปืนในมือขยับเท้าเข้าไปใกล้แล้วจ่อมันลงกับขมับของผู้นำประเทศเซเนียยา ไม่สนใจเสียงเอะอะโวยวายใดๆแม้ว่าจะมีชายนับสิบพร้อมกับอกปืนเด่นหราส่องมาที่เขาและคลาร์กก็ตาม...
ผู้ชายที่เขาอ้าแขนปกป้อง เอาชีวิตเข้าต่อรองกำลังยิ้มแย้มด้วยท่าทีพึงใจ ใบหน้าแสนรื่นรมย์ทว่าสีหน้าที่แสดงออกมาบ่งชัด..ว่ากำลังโกรธจนขาดสติ...
มุมปากเจ้าตัวยกยิ้ม..กระชับปืนในมือแน่นขึ้นก่อนจะหันหน้าไปสบตาหลานชายของตนที่ยืนตะลึง นิ่งงันกับสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดจะเอ่ย..ริมฝีปากนั้นแสยะออกอย่างมากเล่ห์ก่อนจะค่อยขยับ เอ่ยประโยคบีบคั้นให้คนฟังแทบขาดใจ..
" เรามาเลือกกันดีไหม คาวัลโลหลานรัก ว่าระหว่างชีวิตผู้ชายคนนี้ กับครอบครัวของแก..อะไรจะสำคัญกว่ากัน ? " ....................
..โฮก ก ก ก ก ไม่มีเน็ตใช้

แต่งเสร็จแล้วแต่ไม่มีเน็ตอ่ะคะ เลยมาช้าขอโทษทุกคนด้วยที่ไม่ได้มาต่อตามที่พูดไว้..
มาคุยตอนนี้กันแบบยาวสักนิดนึงซะหน่อย (ปกติก็ยาวอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ ฮ่าๆ)
ตอนนี้มันถือเป็นอีกไคลแมกซ์ของเรื่องเลยล่ะคะ เขียนไปก็มันส์ไป ชอบตอนนี้มาก มันทั้งเครียดทั้งมันส์และแอบเศร้าไปในตอนเดียว หรือเราควรจะงงว่าตอนนี้มันบู้หรือดราม่า (ฮ่าๆ)
เอาจริงๆปุ้ยว่าเรื่องการรบราหรือการฆ่ากันนี่มันไม่ใช่เรื่องควรจะทำเลยนะ ทั้งคนทำและคนถูกทำร้ายต่างฝ่ายที่หันหน้าเข้ามาประจัญหน้ากันก็คงเจ็บปวดทั้งคู่..คนที่เคยพบเจอเรื่องแบบนี้ต่างก็พูดว่าสงครามมันโหดร้าย การฆ่ากันมันไม่สนุก ฉะนั้นปุ้ยคิดว่าการจะมาเขียนฉากบู้แบบฆ่าๆๆ ฆ่ากันเหมือนไม่มีจิตสำนึกไม่มีความรู้สึกนี่มันก็เกินไป พวกที่ฆ่าคนได้แบบไม่รู้สึกอะไรนี่น่ากลัวนะ (ไม่ได้หมายความว่าไม่ทำ เพราะตามเนื้อเรื่องมันต้องทำแต่ควรจะรู้สึกแย่และรู้สึกผิด )
ส่วนฝั่งท่านชีค...อ่า...ไม่แปลกที่อัลไม่รอ และไม่แปลกเช่นกันที่คาวี่จะโวยวาย ฟูมฟาย (บ้า? /

โดนตบ) ความรู้สึกมันคงคล้ายๆกับคนที่เราเห็นว่าเขาเป็นของตาย อารมณ์ประมาณยังไงเมิงก็รักกูและกูจะทำอะไรกับเมิงก็ได้ พอมาวันนึงเค้าจากไปก็เพิ่งรู้ตัว..แต่มันก็สายไปเสียแล้ว..
และคุณอา(ที่รัก) ตกลงว่าคุณมาช่วยหรือมาทำให้เรื่องมันดิ่งลงเหว?

หลายคนคงอยากจะถามฮ่าๆ อันว่าพอคุณอามานี่มันส์มากมาย แต่คงทำให้ใครหลายคนไม่ชอบหน้าและเชียร์ให้คุณอาโดนจัดการ(แบบเอสเอ็ม)โดยเร็ว แถมตอนนี้กล้าเอาปืนจ่อหัวพระเอกในใจมหาชนเชียว โดนแฟนคลับชีคตบตีแน่ ฮ่าๆ

ปลลอ. แบดกายต้นฉบับหายสามตอนรวด..ขอเวลาทำใจสักสองสามวันแล้วจะมาต่อ ชีวิตมันบัดโซ้บบบบบ ฮือออ
