สนิมน้ำค้าง (Stained Glass) บทที่ ๔๐ และ อวสาน (ธันวาคม ๑๒, ๒๕๕๓) หน้า ๓๑
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สนิมน้ำค้าง (Stained Glass) บทที่ ๔๐ และ อวสาน (ธันวาคม ๑๒, ๒๕๕๓) หน้า ๓๑  (อ่าน 219263 ครั้ง)

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
คืนนี้มาเฝ้ารอนะ

^^

ออฟไลน์ som~

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
คิดถึงครับ

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
บทที่ ๕


ปุจฉา  มีสิ่งหนึ่งที่เราค้านต้านทานมันไม่ได้ สิ่งนั้นคืออันใด


๖ ตุลาคม

เมื่อวานไม่ได้เขียนไดอารี่ ไม่รู้สิไม่มีเวลาเขียนเลย กูรีบตื่นมาตั้งแต่เช้า อายว่ะไม่อยากตื่นมาแล้วเจอหน้ามึง กูทำหน้าไม่ถูกไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี เรื่องเมื่อคืนมันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วเสียจนกูตั้งรับไม่ทัน เสียใจไหมที่ทำแบบนั้น จากใจจริงๆนะ ไม่เลยว่ะ กูดีใจเสียอีกที่เมื่อคืนได้ทำแบบนั้นกับมึง สำหรับมึงไม่รู้ว่าทำไปเพราะอยากรู้อยากลองเฉยๆหรือว่าเพราะอะไรอื่นอีก แต่สำหรับกูกูทำไปด้วยใจ ยังจำตอนที่กลับขึ้นมานอนได้ มึงยังกอดกูอยู่เหมือนเดิม กูคงไม่ได้เข้าข้างตัวเองไปใช่ไหม ว่าบางทีมึงอาจจะคิดเหมือนอย่างที่กูกำลังคิด พอแค่นี้ล่ะแม่เรียกแล้ว

เสียงกระดิ่งที่ห้อยอยู่คอวัวในคอกสั่นดังกุ๊งกิ้ง มันสั่นเพราะวัวเองสะบัดหน้าไล่การตอมของแมลงต่างๆ เพลาเช้าตรู่อากาศของวันนี้เย็นกว่าทุกวัน สัญญาณของหน้าหนาวก้าวย่างเข้ามาบอกแล้ว เสียงแม่บุญช่วยร้องเรียกน้ำให้ลงไปช่วยเอาน้ำให้อีกว้างวัวในคอกเพราะเห็นเดินกลับมาจากบ้านของแม่นิ่มนานแล้ว

"ทำไมวันนี้มาเร็ว ทุกทีเห็นแม่นิ่มต้องร้องปลุก"

แม่บุญช่วยเอ่ยถามเมื่อเห็นหน้าบุตรชาย

"เมื่อคืนนอนเร็วน่ะแม่ เออปลาดุกเมื่อคืนตัวเบ้อเร่อเลยนะแม่ คงเป็นแม่มันเบ็ดนี่เกือบหักแน่ะ น้ำขังแยกไว้เพราะกลัวปลาหมอมันจะแทงเอา"

เปลี่ยนเรื่องพูดเบี่ยงประเด็นไปให้มารดาไม่อยากรู้เรื่องเมื่อคืนมากนัก น้ำหยิบนั่นจับนี่ให้เป็นปกติมากที่สุด ตะวันเริ่มทอแสงสีเงินฉาบทั่วแผ่นฟ้าไล่ความมืดสลัวของตอนเช้ามืดไปแล้ว เสียงนกเสียงการ้องระงมอยู่ทั่วบริเวณ เสียงประจำวันของตอนเช้าตรู่ของแต่ละครัวเรือนใกล้เคียงดังขึ้นเป็นปกติอีกครา เหมือนกับเสียงของแม่นิ่มที่ร้องเรียกบุตรชายให้ตื่นจากหลับไหลจากภวังค์ราตรีที่ยาวนาน รู้ไหมแค่ได้ยินเสียงแม่นิ่มร้องเรียกชื่อของเพื่อนรักที่เพิ่งแกะมือออกจากอกมาไม่นาน หัวใจมันสั่นไหวเต้นแรงขึ้นมาทันที

"ไอ้บอท ตื่นได้แล้วจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน น้ำมันยังตื่นแล้วเลย อะไรกัน นอนก็นอนพร้อมกัน ไอ้บอท ไอ้บอด ตื่น"

"โอ๊ยแม่ บงบอดอะไรกันล่ะ ตาออกจะวิ้งๆขนาดนี้ โหตื่นแล้วๆ นอนมองเพดานอยู่"

เสียงลูกชายตอบรับลงมาจากบนเรือน น้ำเองแอบอมยิ้มที่ได้ยินเสียงบอทตอบออกมาแบบนั้น

"ไปเอาฟางมาให้อีน้อย"

"คร้าบคุณแม่นิ่ม ผมทำทุกวันล่ะคร้าบ ร้องเสียงดังแต่เช้านะแม่ ไม่อายแม่บุญช่วยบ้างเหรอ เดี๋ยวเขาก็หาว่ามีลูกชายขยันกว่าบ้านเขาอีกนะ"

"เออ ให้มันได้อย่างนี้ เขารู้กันหมดแล้วล่ะว่าลูกชายบ้านนี้มันขยัน ขยันเสียตัวเป็นขน"

"ฮ่าๆๆ ไม่เอาแล้ว ไปเอาฟางมาให้อีน้อยดีกว่า"

บอทคว้าจักรยานแล้วรีบปั่นออกจากบ้าน ผิวปากเหมือนเดิมทุกเช้า พอปั่นผ่านหน้าบ้านน้ำก็แวะก่อน น้ำเองรู้ตัวแล้วใจเต้นตึกตักหน้าระบายสีเลือดฝาดขึ้นมาทันที

"ไงครับที่รัก หนีกันมาเลยน้า ไม่ยอมปลุก ปล่อยให้ผัวนอนโดนแม่ด่าเลยน้า"

บอทพูดออกมาน้ำเองหัวใจแทบจะระเบิดออกมา เพิ่งรู้ว่าคนที่หัวใจเต้นผิดจังหวะมันคงไม่ต่างกันกับเขาตอนนี้ มันระริกระรัวเร็วจนหายใจตามไม่ทัน หน้าก็แดงฉานออกมาเหมือนเอาพู่กันแต้มชาดมาระบาย น้ำหันหน้ามาหาต้นเสียงแต่ไม่ได้สบตา

"ไม่มองหน้าสามีหน่อยเหรอจ๊ะ"

"บ้าแล้วบอท อย่าพูดไปเชียวเดี๋ยวแม่รู้"

ยอมมองหน้าสบตา แววตาหวานละมุนนั้นมันบาดใจเหลือเกิน ไรหนวดอ่อนๆเหนือริมฝีปากมันเป็นแผงปกคลุมอยู่บางๆ รอยยิ้มที่กระชากใจให้กระตุกไป เพิ่งจะสังเกตว่าเพื่อนรักมีรอยยิ้มมหาเสน่ห์ก็วันนี้เอง

"รู้ก็ดีสิ จะได้ให้แม่นิ่มมาสู่ขอเลย อิอิ รอกินข้าวด้วยนะ เดี๋ยวมากินด้วย"

บอทบ่ายหน้าจักรยานปั่นหนีไปทันที น้ำเองยืนนิ่งยิ้มออกมาหุบไม่ลง ดีใจ ปลื้มใจเหลือเกิน แววตาที่เพื่อนรักมอง ดวงตาที่ฉายประกายแบบนั้นออกมา เขาไม่ได้รังเกียจหรือรู้สึกอะไรอย่างที่คิดไปเลย เรื่องเมื่อคืนก่อนเกิดเหตุกับตอนนี้ เขาเคยมองยังไงเขาก็ฉายแววตาออกมาอยู่อย่างนั้น ใจละลาย มีความสุขเหลือเกิน ทำไมวันนี้ท้องฟ้ามันช่างโปร่งใสสบายตาจังนะ สีครามของท้องฟ้าที่แหงนมอง ทำไมมันช่างครามสดใสสวยงามเสียเหลือเกิน รอบกายมีแต่กลิ่นอายของความสดชื่นตลบอบอวลไปหมด นี่น่ะหรือเขาเรียกว่าความสุข ได้สัมผัสกับมันแล้วจากที่เคยอยู่แต่ในใจที่อึมครึมอับทึบมานาน วันนี้ฟ้าแห่งใจเปิดออกแล้ว ไม่รู้ว่าเพื่อนรักจะคิดไปไกลหรือใกล้แค่ไหน แต่พอใจแล้ว ไม่อยากรับรู้ว่าภายในใจของเขาจะคิดอย่างไร แค่นี้ก็พอเพียงแล้วที่จะหล่อเลี้ยงใจให้อยู่ต่อไปได้

"เป็นไรวะไอ้น้ำ ยิ้มทั้งวันเลย นี่มึงไปกินอะไรผิดมาป่ะเนี่ย"

เสียงเล็กปลุกให้ตื่นจากภวังค์ น้ำไม่แสดงอาการอะไรออกมามากนัก

"อ้าว กูจะมีความสุขบ้างไม่ได้หรือไงวะเล็ก กูนอนเยอะกูก็ตื่นมาสดชื่นเป็นเรื่องปกติดิวะ"

"เหรอ แต่หน้าตามึงเนี่ยเหมือนคนมีความรักเลยว่ะ ไม่เหมือนคนนอนเยอะเลยสักหน่อย ถ้าหน้าตาเหมือนคนนอนเยอะ โน่นหน้าเหมือนอีเดือนโน่น อีนั่นน่ะนอนเยอะของจริง นอนตั้งแต่สองทุ่ม"

เล็กเองก็ไม่ยอมแพ้พยายามสังเกตหน้าตาของเพื่อนสนิท

"แล้วไอ้บอทมันไปไหนวะ เลิกแถวเสร็จหายไปเลยนะมึง"

"อ้อ บอทไปบ้านจารย์แววน่ะ ไปช่วยขนชีท"

"กูว่ามึงต้องมีอะไรแปลกๆแน่ๆ ทำไมพูดถึงชื่อมันมึงต้องยิ้มด้วยวะไอ้น้ำ มึงรักมันเหรอ"

"เฮ้ย บ้ามึง พูดอะไรเนี่ย"

ทั้งที่พยายามจะไม่แสดงออก พยายามกดบีบความรู้สึกเอาไว้ในใจ แต่ทำไมความรู้สึกดีรู้สึกปลาบปลื้มปีติมันจึงล้นออกมา

"มึงไม่ต้องมาหลอกกูหรอกไอ้น้ำ กูรู้จักมึงดี จริงไหมล่ะ"

เล็กโพล่งออกมาตรงใจแทงเข้ากลางใจ น้ำสะอึกพูดไม่ออก พยายามเบนไปเรื่องอื่นแต่เล็กไม่ยอมหลงประเด็น

"ไม่ใช่ มันไม่ใช่อย่างนั้น กูไม่ได้รักมัน มึงเป็นบ้าเหรอเล็ก"

"กูไม่เชื่อ กูดูออกว่ามึงกำลังมีความรัก และจะเป็นคนอื่นไปไม่ได้ เพราะวันๆกูเห็นมึงตัวติดกันกับไอ้บอทไม่มีคนอื่น อย่ามาหลอกกู"

"แล้วยังไง ถ้ากูจะรักมัน แล้วยังไง"

ทนไม่ไหว ไม่รู้จะหนีไปทางไหนดี สรรหาคำพูดหลอกล่อล้านแปดแต่เพื่อนคนนี้ก็ไม่ยอมเชื่อพยายามจะเค้นเอาคำตอบให้ได้ ไม่อยากให้ใครรู้แต่ในเมื่อมันปิดไม่ได้จะให้ทำยังไง

"กูว่าแล้ว กูดูไม่ผิดไปจริงๆ มึงมานี่ไอ้น้ำ"

เล็กลากแขนน้ำเดินขึ้นอาคาร ๒ เดินตรงเข้าไปในห้องสมุดเพราะตอนเช้าๆไม่มีนักเรียนคนไหนจะขยันจัดจนเข้าห้องสมุดแต่เช้าเพื่อค้นคว้าหาตำราอ่าน มีแต่เด็กนักเรียน ม. ต้นบางคนที่มาคอยอ่านนิยายจากหนังสือพิมพ์ที่อาจารย์เวรประจำห้องสมุดจะเอามาใส่ไว้ให้อ่าน แต่นอกนั้นก็ไม่มีใคร

"ไหนมึงเล่าให้กูฟังซิ ว่าเกิดอะไรขึ้น"

เล็กยังเค้นเอาคำตอบอยู่ ทำสีหน้าแววตาทำเหมือนนักสืบขึ้นมา

"อะไรของมึงอีเล็ก กูไม่รู้จะบอกอะไร มันเป็นแค่ความรู้สึก"

"มึงรักมันใช่ไหมล่ะ"

น้ำเม้มปาก ไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้เขาเรียกว่าความรักหรืออะไร

"กูไม่รู้"

"กูสังเกตมึงกับมันมานานแล้ว มึงสองคนมันมีอะไรมากกว่าเพื่อนสนิท กูไม่แน่ใจหรอกจนวันนี้ มึงดูมีความสุขมากมึงรู้ตัวไหม"

"กูผิดปกติใช่ไหมเล็ก มึงอย่าไปบอกใครนะ ถือว่าเห็นแก่กู"

"กูรักมึงเหมือนกันนะน้ำ ถึงกูจะเป็นทอมกูก็รักเพื่อนเหมือนกันนะ ห้องเราไม่มีใครสังเกตหรอก พวกนี้มันโง่จะตาย วันๆคุยแต่เรื่องผัวๆเมียๆ มึงเองก็อย่าไปแสดงอาการออกให้มันมาก"

"ขอบใจว่ะเล็ก กูไม่รู้จริงๆว่าความรู้สึกแบบนี้เขาเรียกว่าอะไร แต่เวลาที่กูอยู่กับมัน กูรู้สึกดีมาก มีความสุข กูไม่ได้ขออะไรมากนะ แค่อยู่อย่างนี้ไปจนจบ"

"แล้วมันล่ะน้ำ มันรู้สึกแบบมึงไหมล่ะ"

สะอึก พูดไม่ออก นั่นล่ะที่กลัวอยู่ นั่นล่ะที่ทำให้เครียดอยู่ ได้แต่เม้มปากแน่นเข้าหากันหน้าชาความรู้สึกในตอนนี้เหมือนตนเองเป็นผู้ร้ายที่กำลังโดนเจ้าหน้าสอบสวน ไม่ได้กล่าวโทษเพื่อนที่ซักไซ้รุกไล่อยู่ในตอนนี้ แต่ปากที่เอ่ยออกไปมันไม่ใช่ในสิ่งที่ใจอยากจะตอบ

"ไม่รู้สิเล็ก กูไม่รู้มึงอย่าซักกูมากได้ไหม กูไม่รู้จะตอบมึงยังไงดี"

"น้ำ มึงเป็นเพื่อนที่กูรักนะ มีอะไรมึงจะปิดกูได้เหรอ ทีกูยังเล่าทุกอย่างให้มึงฟัง ถ้าเห็นกูยังเป็นเพื่อนมึงอยู่ อย่าปิดกูได้ไหม กูไม่ได้ว่าหรืออะไรกับความรู้สึกของมึงที่มีต่อไอ้บอทมัน แต่กูแค่อยากรู้ว่ามึงคิดอะไรอยู่ เผื่อว่ากูจะทำอะไรให้มึงได้บ้าง"

เล็กเอ่ยออกมาเสียงเย็นขรึม สายตาจ้องมองเพื่อนที่นั่งหน้านิ่งสายตาดูวกวนสับสนอยู่ในตอนนี้

"มึงจะทำอะไรล่ะเล็ก มึงจะทำอะไรให้กู เพราะตัวกูเองยังไม่รู้เลยว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร กูรู้ว่ามึงเป็นเพื่อนรักกู แต่กูก็ไม่ได้ปิดมึง จริงที่กูรู้สึกประหลาดกับบอทมัน แต่กูอธิบายให้มึงฟังไม่ได้ว่ามันคืออะไร มันจะเป็นความรัก หรืออะไรก็ช่าง แต่มึงรู้ไว้กูไม่ได้จะปิดมึงหรือไม่อยากให้มึงรู้"

ความเงียบเข้ามาบดบังเล็กเองเหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าไล่ต้อนเพื่อนมากเกินไป เม้มปากเข้าหากันเอื้อมมือไปตบบ่าเพื่อนเบาๆ

"เอาเถอะน้ำ กูขอโทษ กูก็เป็นอย่างนี้ล่ะ มึงอย่าถือสากูเลย กูแค่เป็นห่วง แต่น้ำมึงฟังกูนะ ถ้ามึงรักมัน ก็รักมันอย่าได้อาย หรือเกรงใจใคร มึงไม่ได้ผิดปกติหรือวิปริตผิดเพศ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง กูอยู่ข้างมึงเสมอเพื่อน"

น้ำมองหน้าเพื่อนสาวห้าวด้วยสายตาที่ชื่นชม ดีใจที่มีเพื่อนแบบนี้ ไม่คิดว่าเพื่อนต่างหมู่บ้านที่ตอนเรียน ม. ต้นแม้จะอยู่คนละห้องแต่พอมาเรียน ม. ปลายจะสนิทกันได้มากขนาดนี้

"ขอบใจว่ะเล็ก มึงอย่าเพิ่งไปอะไรกับบอทมันล่ะ กูกลัว"

"กลัวว่ามันจะไม่เหมือนเดิมน่ะเหรอ"

"อืม"

"เอาน่า กูดูมันออก มันรักมึงมากนะ แม้จะดูไม่ออกว่ามันเป็นรักแบบไหน เอาเถอะ ไปเรียนเถอะ"

สายลมของเหมันต์แรกพัดมาปะทะหน้า กลิ่นอายของฤดูที่ชื่นชอบกลิ่นของแมกไม้รายรอบพัดมาตามลมนั้น ชื่นใจ หวามในใจ วันนี้แม้จะลำบากใจในบางเรื่องแต่ก็นับว่าเป็นวันที่สุขใจมากวันหนึ่ง พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน พรุ่งนี้หรือวินาทีถัดไปจะเดินจะเป็นไปในทิศทางไหนก็เรื่องของมัน รู้แต่เพียงว่าตอนนี้มีความสุข ถ้าอย่างนั้นก็ขอเสพความสุขนี้ให้ได้นานๆก็พอ

"น้ำข้อนี้เราทำไม่ได้อ่ะ สอนวิธีทำหน่อยสิ"

บอทยื่นหน้ามาใกล้แม้ไม่ใกล้มากแต่กลิ่นลมหายใจนั้นมันแจ่มชัดนัก น้ำเอียงคอไปหาแล้วมองในสมุดจดของบอท

"ทำแบบนี้ เอ็กซ์คูณด้วยวาย แล้วเอาไปหารตัวแปร"

น้ำเองก็ยินดีปรีดาที่จะแสดงวิธีทำให้เพื่อนรักดู บอทเองเอามือวางที่บ่าของน้ำเช่นเคยเหมือนทุกครั้ง ไม่มีใครสงสัย ไม่มีใครแคลงใจ แต่เจ้าของร่างกลับสั่นไหววาบหวามเข้าไปถึงใจ รู้ไหมแค่ได้นั่งใกล้ปล่อยให้ความเงียบมันเข้ามาแทรกผ่านก็ยังมีความสุขเพราะความเงียบนั้นมันทำให้ได้ยินเสียงเขาหายใจ เพราะความเงียบนั้นมันทำให้เราได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นอยู่ในอกของคนที่นั่งข้างๆ แค่ได้ยินการเคลื่อนไหวของร่างกายก็เป็นสุขแล้ว

"เป็นไรน้ำเหม่อเชียว คิดถึงเรื่องเมื่อคืนเหรอ ไม่ต้องคิดหรอก เดี๋ยวคืนนี้เราจะยืมหนังสือโป๊ไอ้ไก่กลับไปดู เราไปทำเหมือนในหนังสือกันนะ"

น้ำหน้าแดงอายขึ้นมาแต่คนพูดไม่ได้มีอาการอะไรออกมาเลย

"บ้าเหรอบอท"

"ทำไมล่ะ น้ำเป็นเมียเราแล้วนะ จะปฏิเสธผัวเหรอจ๊ะเมียจ๋า"

"ใครบอกเป็นเมีย ยังไม่ได้อะไรกันสักหน่อย"

ตอบออกไปทั้งที่ยังอาย น้ำเองเป็นคนไม่ยอมใครง่ายๆ ที่เขาเรียกว่าปากดี ในใจกับสิ่งที่พูดออกไปมันไม่ตรงกันเลยแม้แต่น้อย ในใจเหมือนกลองที่โดนประโคมตีให้ดังสนั่นหวั่นไหว แต่คำพูดที่เผล่งออกมาท้าทายไม่ยอมกัน

"ก็คืนนี้ไงจ๊ะน้ำจ๋า อิอิ เราไปคุยกับไอ้ไก่ก่อนนะ น้ำเดินไปรอหน้าโรงเรียนนะ"

ต้นอโศกที่รายเรียงอยู่ตั้งแต่ประตูทางเข้าโรงเรียน ลู่ตามลมไปในทิศทางเดียวกันต้นสูงยาวทอดเงาไปตามพื้นถนนซีเมนต์ ทางเข้าโรงเรียนมีถนนเข้าโรงเรียนเป็นเลนเล็กๆสองเลน ตรงกลางก่ออิฐขึ้นเป็นกระถางปลูกดอกเฟื่องฟ้าเป็นแถวยาวไปจนถึงหน้าเสาธง มองจากหน้าโรงเรียนเข้าไปงามวิจิตร เด็กนักเรียนกำลังทยอยเดินออกจากโรงเรียนในตอนเย็น น้ำเองแม้อยากจะอ้าปากด่าบอทไปที่พูดออกมาแบบนั้นแต่ก็ได้แต่ยิ้มพึงพอใจเดินออกจากโรงเรียน ทั้งวันบอทยังเป็นเหมือนเดิม สิ่งที่เคยทำเคยพูดก็ยังทำเหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกเปลี่ยนไป เขาคงไม่รู้ว่ายิ่งเขาเหมือนเดิมเท่าใด น้ำเองยิ่งถลาจมดิ่งลงไปมากเท่านั้น แต่กระนั้นก็สุขใจ อิ่มในอกล้นออกจากทรวง ในชีวิตไม่เคยอ้อนวอนร้องขอสิ่งใดจากสิ่งศัดิ์สิทธิ์ในสากลโลกนี้ ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงก็ขอให้ความสัมพันธ์ของสองเรามันเป็นไปอย่างนี้ตราบนานเท่านานด้วยเถิด

"น้ำเป็นไรอ่ะ เหมือนมีอะไรในใจป่ะเนี่ย แอบคิดอะไรกับเราป่าว"

บอทเอ่ยขึ้นตอนเดินกลับบ้านกันสองคนตามปกติ เพื่อนรักที่เดินเคียงข้างหน้าแดงเป็นลูกตำลึงไม่ยอมหาย ก้มหน้าไม่ยอมสบตา

"ปะ เปล่านี่บอท เหมือนน้ำจะเป็นหวัด"

ตอบอ้อมแอ้มไปไม่ยอมสบตา

"ไหนเราดูหน่อย ตัวร้อนป่าว"

บอทเองก็รู้ดีว่าน้ำอายเอามือเชยคางให้หันมามองน้ำเองแม้จะอายแต่เพื่อนรักทำถึงขนาดนี้จะมัวมาเอียงอายอยู่ก็กลัวว่าความในใจมันจะเผยออกมา น้ำยอมสบตาของบอท พลันแววตาก็นิ่งค้างอยู่สายตาที่มองประสานกันมันจ้องลึกลงไป แววตาที่ฉายแววออกมามันมีอะไรซ่อนแอบอยู่อย่างยากจะอธิบาย

"ก็ไม่เห็นตัวร้อนนี่ ทำไมหน้าแดงอ่ะ"

"บอท น้ำถามจริงๆนะ เรื่องเมื่อคืนน่ะ"

"หือ ทำไมครับที่รัก"

บอทเองก็ยังล้อเลียนอยู่ทำหน้าทะเล้นใส่ แต่น้ำเองเหมือนพยายามเก็บกดอารมณ์

"ไม่ตลกนะบอท น้ำไม่เล่นด้วยแล้วนะ"

น้ำเสียงเหมือนประชดเดินหนีไปก่อนแล้ว บอทเองยิ้มออกมารีบเดินตามคว้าข้อมือของน้ำเอาไว้

"น้ำ แล้วใครบอกว่าเราทำเล่นๆล่ะ"

"บอท"

หัวใจร่วงลงดิน เคยได้ยินแต่ไม่เคยคิดว่าจะได้รับรู้สัมผัสว่ามันอย่างไร อาการมันเหมือนกระโดดลงจากหอสูงร่างกายลอยแน่นิ่งอยู่ในอากาศหัวใจหวิวหลุดลอยไปเหมือนลอยอยู่บนปุยเมฆ น้ำเม้มปากแน่น

"ฮ่าๆ ดูทำหน้าเข้า คิดมากน่า ปะรีบกลับเราจะได้ดูหนังสือโป๊กัน ดูซิว่าเขาทำกันยังไง"

แล้วเคยไหมที่ใจหล่นลงพื้นกระแทกหิน อาการมันเหมือนโดดลงจากที่สูงแล้วร่างกระตุกไหวด้วยแรงกระแทกนั้น ไม่เจ็บหรอกแต่มันชา ชาแปลบเข้าไปถึงหัวใจ

"บอทดูไปคนเดียวเถอะ น้ำจะช่วยน้องตักน้ำ"

ตวัดเสียงขึ้นแต่พยายามไม่ให้มันมากไป อาการที่ใจมันสื่อออกมาร่างกายมันควบคุมลำบาก สีหน้า ท่าทางมันช่างพ้องสอดคล้องไปกับนายใหญ่ของร่างคือหัวใจ

"น้ำ เป็นไรอ่ะ โกรธเราเหรอ"

"ไม่นี่บอท น้ำจะไปโกรธบอทเรื่องอะไร"

"น้ำ เรื่องเมื่อคืนน่ะ เราเต็มใจทำนะ"

น้ำนิ่งหยุดก้าวเดิน นิ่งอยากฟัง นิ่งเพราะคำพูดกระแทกหูกระชากใจ

"อืม แล้วไง"

"ก็อยากให้น้ำรู้ว่าน้ำรู้สึกยังไง เราเองก็รู้สึกอย่างนั้นนะ"

"บอท แล้วบอทรู้เหรอว่าน้ำรู้สึกยังไง"

ตาเบิกกว้างอารมณ์ที่เก็บกดมันเอาไว้นานฉายออกมาทางแววตา

"รู้ดิ ทำไมเราจะไม่รู้ รู้ว่าน้ำคิดยังไงกับเรา"

"คิดอะไรบอท พูดให้ดีๆนะ น้ำคิดอะไร"

ไม่มีคำตอบแต่เป็นรอยยิ้มที่ฉายออกมาทางมุมปาก

"ตอบมาสิบอท ว่าน้ำคิดอะไร อะไรที่บอทคิดว่าน้ำรู้สึกยังไง"

เหมือนมีหอกแทงปักอยู่ที่หลังแสบแปลบร้อนรนอยู่ อยากจะรู้ อยากจะกระจ่างใจ

"แน่ใจเหรอน้ำว่าอยากรู้ว่าเรารู้อะไร"

พอเขาย้อนกลับมาน้ำเองที่เป็นฝ่ายสะอึกพูดไม่ออก

"เอาเถอะบอท รีบกลับเถอะ"

เดินนำหน้าไปอีกครั้ง แต่คราวนี้บอทไม่ตามไปดึงข้อมือไว้ ปล่อยให้น้ำเดินห่างออกไปเจ้าตัวยังนิ่งอยู่ที่เดิม เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

"น้ำ เรารักน้ำนะ"

แล้วเคยไหมที่หัวใจร่วงลงพื้นเป็นครั้งที่สามติดกัน อาการมันร้ายแรงกว่าสองครั้งที่แล้ว เหมือนล้มทั้งยืน โสตประสาทดับวูบ เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่มันลอยละลิ่วแว่วดังอยู่ไกลๆ แผ่วเบาเหมือนลอยมากับลม เหมือนดังปุยนุ่นต้องลมลอยไปไม่มีทิศทาง หัวใจเอยก็กำลังเป็นเช่นนั้นอยู่ น้ำแน่นิ่งอยู่กับที่ไม่ไหวติง เม้มปากแน่นจนกรามสั่นไหว

"บอท"

ครางเรียกชื่อออกมาแผ่วเบาเช่นกัน ดีใจหรือ ไม่รู้สิมันมากกว่านั้น มันมากกว่าดีใจแต่ไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรดี อะไรหนอที่ทำให้ใจมันพองคับเต็มอก ดันลมในร่างให้ไล่ขึ้นมาอยู่ที่ลำคอจุกแน่นอยู่ในดวงตา พลันน้ำใสๆก็เอ่อนองออกมา

"อย่าบอกใครนะว่าเราคิดยังไงกับน้ำ ความลับนะน้ำ"

เสียงดังที่ตอนนี้มันกระซิบอยู่ข้างหูทำให้น้ำเม้มปากแน่นหันไปมองหน้าเจ้าของเสียง พร่ามัวไม่แจ่มชัดเพราะม่านน้ำตามาเอ่อนองออกมาบังตา

"ขี้แยอีกแล้วเด็กชายชลเนตร ฮ่าๆๆ อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย ใครรังแกมาเหรอคร้าบ ไหนบอก นายอภิพงศ์ซิ"

จะไม่ให้รักเพื่อนคนนี้ได้ยังไง จะไม่ให้ใจมันคิดเกินเลยได้อย่างไร สิ่งที่เขาพยายามทำหรือแสดงออกมาอยู่ทุกเวลาทุกนาที มันสะสมกลายเป็นความทรงจำที่มีค่าตราตรึงอยู่ในใจไปหมดแล้ว คำพูดทุกคำ น้ำเสียงทุ้ม รอยยิ้มที่แสนจะเปี่ยมเสน่ห์นี้ จะไม่ให้รักได้อย่างไร รักไปแล้ว หมดใจแล้ว น้ำสะอึกน้ำตาตัวเองสุดจะกลั้น เอามือทุบไปที่บ่าของเพื่อนรัก

"อ้าว ไหงมาตีนายอภิพงศ์แบบนี้ล่ะเด็กชายชลเนตร เดี๋ยวเย็นนี้โดนทำโทษน้า"

เสียงหัวเราะของบอททำให้น้ำหยุดร้องไห้ได้ ที่น้ำตาไหลไม่ได้เสียใจหรือปวดใจแต่อย่างใด มันสุข รู้สึกสุขจนล้น มันล้นออกมาทางตา ไม่อยากจะรู้ว่าสิ่งที่เขาเอ่ยออกมามันจะจริงหรือแค่อยากจะปลอบใจ ไม่อยากรับรู้ว่าในใจของเพื่อนรักคิดอะไรอยู่ อยากรู้แค่นี้ แค่ได้ยินแค่นี้ ขอหล่อเลี้ยงหัวใจด้วยคำพูดเหล่านี้ ไหนๆก็รักเพื่อนไปแล้ว เข้าใจความรู้สึกของตัวเองแล้วว่ามันคืออะไร สิ่งที่เรียกมันมาตลอดว่าความรู้สึกที่ประหลาด ตอนนี้รับรู้แล้วว่ามันคือ ความรัก รักจากใจ รักหมดทั้งหัวใจ

ถ้าเราอยู่ในที่สวยงามสักที่หนึ่ง แวดล้อมไปด้วยแมกไม้เขียวขจีดอกไม้นานาพรรณอวดสีสันส่งกลิ่นหอมกระจายฟุ้งไปทั่ว ขอบฟ้าสีครามตัดกับปุยเมฆสีขาวแลดูนุ่มสบายลอยอยู่เป็นกลุ่มๆ รุ้งงามทอแสงหลากสีอยู่ปลายฟ้าทางด้านโน้น เสียงน้ำไหลเอื่อยๆอยู่ข้างๆกาย ลองหลับตาลงเราจะรู้ไหมว่าเราอยู่ในที่แห่งใด อันความสุขเสพได้ด้วยตาก็จริงแต่หากใจเราไม่รับรสรับรู้สัมผัสถึงมัน เราจะยินดีกับสิ่งที่เสพทางตาหรือ คิดว่าความสุขทุกทางผ่านมาที่ใจแล้ว ใจเราก็คัดกรองแยกแยะเอาว่าสิ่งที่กระทบโสตประสาททั้งหลายมันเป็นสุขหรือทุกข์ ถ้าหากสิ่งที่ได้ยินตอนนี้จะแยกให้มันเป็นทุกข์ ก็ทุกข์ จัดให้มันเป็นสุขเราก็สุข แต่อยู่กับสุขก็ดีกว่าทุกข์ เพราะฉะนั้นเราไม่พยายามแยกทุกอย่างให้มันเอนเอียงมาทางด้านสุขเสียมากกว่าทุกข์ล่ะ เราจะได้มีแต่สุขแม้ว่าเรื่องนั้นมันจะระคนไปด้วยทุกข์มากมายสักเพียงไหนก็ตาม


รอนรอนจะลับฟ้าอยู่ปลายทุ่ง      รุ่งรุ่งตะวันฉายในใจฉัน
เย็นเย็นสุริยะฉายต้นเหมันต์         ย่ำย่ำเห็นแสงจันทร์ฉายอยู่กลางใจ
อันลมปากแผ่วเบากระซิบหู        เสียงชายชู้ตรึงหวานรู้หรือไม่
อันคิมหันต์อบร้อนแรงเพียงใด    วสันต์ไซร้หลั่งเทมาก็ไม่ปาน
ละลิ่วลับลอยไปในอากาศ         ดังมวลธาตุแตกดับยากผสาน
ใจดวงน้อยปลิวลอยในวิมาน    แสนสำราญเริงใจได้ยินคำ


วิสัชนา สิ่งนั้นคือกาลเวลานั่นมิใช่หรือ


เขียนโดย eiky


ปล. ที่นานเพราะเกลาคำอยู่นะครับ เหอๆๆ อันนี้คือเกลาแล้วพยายามแล้วนะเนี่ย อย่าหัวเราะกันน้า จุ๊บๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2013 08:42:58 โดย eiky »

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
 :z13: :z13: :z13:

หวานอ่าาาาา  :o8:
วัยใสนี่น่าอิจฉากันจริ๊ง หวานกันจังเลย  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2010 02:15:04 โดย ZakuPz »

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
 :-[ หวานหยด มดขึ้นจอเลย

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
+1ก่อนอ่านค่ะ อิอิ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้มันก็มีความสุขดีอยู่หรอ แต่กลัวตอนที่สนิมมันขึ้นหนะสิ แอร๊ยยยยยยยยยยยยย


มาม่า อย่ายกมาทั้งลังนะคะ เอาแค่ซองสองซองพอ กลัวจะน้ำตาแตก

ออฟไลน์ hpsky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1073
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-0
ตอนนี้หวานนนมากกกกกกก เขินแทนน้ำ ฮ่าๆๆๆ
แล้วบอทรักน้ำจริงป่าวอ่ะ เง้ออออออออ
แล้วตอนหน้าเค้าจะทำอะไรกัน  :z1:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






lasom

  • บุคคลทั่วไป
รักแบบเพื่อนไม่เหมือนแฟน :o8:

lazewcielo

  • บุคคลทั่วไป
บอทรักน้ำจริงจริงช่ายม้ายยยยยยยยยยยยยยย
เขินจัง หวานหวาน~ :o8:

humanculus

  • บุคคลทั่วไป
แถมพริกขี้หนูสักเม็ด น้ำตาเล็ดไปทั้งชาติ    พี่อิ้กกี้ใจร้าย    เค้างอลพี่แล้ว     (ว่าแต่วงอลเรื่อรายงะ)

wisa

  • บุคคลทั่วไป
รักกันทั้งคู่แล้วใช่ไหมครับ
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
อุ้ยสมหวังแล้วอ่ะดีใจ อ่านไปก้อแอบเขิน

โกรธพี่อิ๊คแย้ว ทำเราแอบเขินตามน้ำ ฮ่าๆ

สมกับที่รอคอยจริงๆ หวานซะ น่ารักจริงๆ เลยคู่นี้

อยากจบเอาไว้แค่นี้ๆ แต่คนอย่างพี่อิ๊คตั้งทำร้ายจิตใจ

คนอ่านอยู่แร้ว ฮุฮุ รอต่อไปน้าส็จร้า


ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
หวานมาก อ่านเเล้วมีความสุข
เเต่ เเต่

กลัวค่ะว่าจะเศร้า อย่านะ
ชอบน้ำจัง ทั้งรักทั้งหลง
บอทอย่าทำน้ำเสียใจนะ

ออฟไลน์ som~

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตกลงว่ารักกันใช่ใใหมเเต่มันต้องมีอุปสรรคมั่งละ

คืนนี้ทำไรกันนะ          :z1: :z1:

thisispom

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
บอทมันแมนจริงๆ รักก็บอกรัก ตรงๆง่ายๆ แต่กลัวบทมันจะทิ้งนี่ทิ้งจริงเลยหรือเปล่าหว่า
เอาใจช่วยน้ำนะ

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
หวานนะ....แต่หวานแบบแปร่ง ๆ....
เพราะคนอ่านมีความหวาดระแวงอยู่ในใจ.... :o11:
บอทคงจะพูดจริงจากใจ...คงไม่หลอกน้ำ...ก็ดูเหมือนจะราบรื่นนะ....
ต่างคนต่างรักกัน....ต่างคนต่างผูกพันกัน....
แล้วสนิมมันเกาะกินใจน้ำได้ไง????.....
ตามต่อไป....ยังผวากับพฤติกรรมตาแทนทวีเรื่องโน้นอยู่...
เรื่องนี้เลยแอบระแวงบอท...ไม่ยุติธรรมเลยนิคนอ่าน  :m23:

 :L1: น้องน้ำ กะ น้อง eiky  :L2:
กด + ให้รักกัน ๆ จ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
หวาน ละมุนละไม ในหัวใจมากเลย น้องบอท น้องน้ำ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
หวานกันจัง ตอนหน้าเอ็นซีม่ะ แต่ม่ะอยากให้ดราม่าเลย

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
ฮ่าๆๆๆๆ ทำไมทุกคนกลัวดราม่ากันจัง
อ้าว เฉลยเลย ไม่ดราม่าคร้าบ อีกนานมาก
เรื่องนี้อยากให้มันหวานๆในครึ่งแรก
ครึ่งหลังจะดราม่าเดี๋ยวมาบอกอีกที ตอนนี้อย่ากังวลใจนะครับ
อยากให้ทุกคนเห็นภาพบ้านนา แสงตะวันสวยๆ
เห็นเมนต์ของเพื่อนๆแต่ละคน แล้วอดขำไม่ได้เลย
อย่ากลัวน้า เค้าไม่ใจร้ายหรอกน่า
มีหัวใจคร้าบ แต่ออกจะซาดิสต์ไปนิดนึง อิอิ
รับประกันยังไม่ดราม่า เดี๋ยวถ้าจะดราม่า บอกเลยจะได้ทำใจกันเนอะ
แต่ห้ามหนีจากกันไปน้า จะพีเอ็มตามเลย ฮ่าๆๆๆ เริ่มน่ากลัวแระเรา  :กอด1: :กอด1:

humanculus

  • บุคคลทั่วไป
ตามพี่เป็นเงาตามตัว  แบบหันหลังเจอะกันพอดี  รักพี่อิ้กกี้สุดๆ  สุดๆของสุดๆครับ

ออฟไลน์ なおみ™

  • เดียวดาย...ในโลกกว้าง
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-6

"ไงครับที่รัก หนีกันมาเลยน้า ไม่ยอมปลุก ปล่อยให้ผัวนอนโดนแม่ด่าเลยน้า"


แลดูมุ่งมั่นตั้งใจมาก  :laugh:

ช่วงนี้ดูเหมือนอะไรๆ ก็น่าจะราบรื่นดีนะคะ บอทก็รักน้ำ น้ำก็รักบอท แต่ไม่รู้วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

กลอนเพราะมากเลยค่ะ  o13 โดยเฉพาะบทแรกเข้าใจเล่นคำซ้ำต้นบาทนคะคุณอิ๊กกี้ น้องมิชอบมากเลย  :จุ๊บๆ: +1 เลยค่ะ  

จะ Darma หรือไม่ก็ไม่เป็นไรค่ะ น้องมิสู้ไม่ถอย จริงๆ บางครั้งความเป็น drama ของบางเรื่องมันก็ซ่อนอะไรอยู่ข้างในเยอะแยะเชียวนะคะ


************************

สะบาย ดูเหมือสระอะจะเกินมานะคะ สบาย ก็พอ

ซักไซร้ คำนี้ไม่ต้องใส่ ร้ ที่พยางค์หลังนะคะ ซักไซ้ เฉยๆ เพราะ ไซร้ เป็นคำที่เสริมสำหรับเน้นความหมายของคำหน้า  


     รอนรอนจะลับฟ้าอยู่ปลายทุ่ง      รุ่งรุ่งตะวันฉายในใจฉัน
เย็นเย็นสุริยะฉายต้นเหมันต์         ย่ำย่ำเห็นแสงจันฉายอยู่กลางใจ[/color]


จัน ลืมใส่ ทร์ ไปรึเปล่าคะ

ปล.

ว่าจะถามน้องมิหลายครั้งแล้ว ไปไหนอ่า ทิ้งกันไปตั้งหลายวัน อิอิ ไปอยู่หอ หรือว่าเรียนแถวองครักษ์แน่ๆ จริงไหม อิอิ


คนละนครค่ะ น้องมิเรียนที่นครปฐมค่ะ  :m13:
ว่าแต่คืนนี้มาต่อไหมคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2010 17:34:09 โดย なおみ™ »

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
ไม่ดราม่าจริงนะพี่อิ๊ก   (จริง)
ได้รับคำยืนยันอย่างนี้หายใจทั่วท้องหน่อย    (โหส้มคิดมาก)
ก็พี่อิ๊กทำอึมครึมซะขนาดนั้น       (ไม้ได้อึมครึมซักหน่อย  บรรยายธรรมชาติของท้องนาสว่างซะขนาดนั้)
สว่างที่ใหน  รักเพื่อนเพื่อนรักซะขนาดนั้น แล้วยังเกริ่นนำแบบนั้นอีก   (555 หัวเราะกลบเกลื่อน)
เห็นป่าวแก้ตัวไม่ออก    (ก็บอกแล้วไงว่ายังไม่ดราม่าช่วงนี้  แต่ตอ่ไปเตรียมกระดาษทิชชู่คนละ 1 คันรถ 10 ล้อ)
ว่าแล้วเห็นมั๊ยละ       (5555)
อันนี้คิดเองนะคับไม่เกี่ยวกับพี่อิ๊ก   

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ใจตรงกันแล้ว  :impress2: หวังว่าจะมีบทหวานๆให้อ่านอีกนะ
ไม่เอาบทโศกเน้อ

ออฟไลน์ wowhaha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ชอบเรื่องนี้มากๆคับ แต่อย่าเศร้านะคับ

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
ยี่ห้อ eiky นี่
กลางเรื่องต้องมีเสียน้ำตาแน่ๆ ยังฝังใจกะเอ-โยอยู่เลย ปวดใจ ปวดตับมาก

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
บทที่ ๖

ปุจฉา นามธรรมสิ่งใดที่ไวกว่าแสงมีบ้างไหม

ตะวันรอนแสงแดดกล้า ตะวันราแสงแดดโรย ยามเย็นลมพัดโชย สายฝนโปรยชุ่มฉ่ำใจ เพลาเย็นแล้วท้องฟ้าที่งามวิจิตรถูกระบายแต่งแต้มที่สีส้มแดงอยู่ปลายขอบฟ้าทางทิศประจิม เงาของยอดไม้ดูยาวทะมึนทาบไปกับสิ่งต่างๆ และในเวลานี้ชาวบ้านเกือบทุกคนจะอยู่ที่ท้องไร่ท้องนาบ้างหาปูปลา บ้างหาหญ้าหาฟางมาให้สัตว์เลี้ยงของตน เด็กชายสองคนที่เดินกลับบ้านจากโรงเรียนมาด้วยกันแลดูมีความสุขทั้งสองคน วัดจากรอยยิ้มที่ฉายอยู่บนดวงหน้า แม้จะไม่ได้ยิ้มอย่ตลอดเวลาแต่การที่อมยิ้มไว้แต่มันแสดงออกมาทางสายตาแทน ช่างเป็นสุขเหลือเกิน

"ไปดูที่บ้านเรานะน้ำ แม่ไม่อยู่หรอก"

เสียงบอทเอ่ยขึ้นคราวนี้หันมาสบตาเพื่อนรักที่เดินเคียงข้างกันมา

"ไม่รอดูตอนกลางคืนล่ะบอท เดี๋ยวต้องไปนาอีกนี่"

"ดูมันตอนนี้ล่ะ เราใจร้อน ดูแป๊บเดียว เดี๋ยวตอนกลางคืนค่อยมาดูอีกรอบ"

ไม่มีคำตอบนอกการการพยักหน้า น้ำยอมทำตามความประสงค์ของเพื่อนรัก เดินตามขึ้นเรือนไปทั้งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า บอทจูงแขนน้ำให้เดินตามไปยังเสื่อตรงที่นอนของตนที่เมื่อคืนนอนก่ายกอดกันอยู่ บอทนั่งลงอย่างรีบเร่งแล้วเปิดกระเป๋านักเรียนออก หยิบหนังสือที่ห่อปกสีน้ำตาลด้วยกระดาษหนาอย่างดีออกมาจากกระเป๋า ใจเริ่มเต้นตึกตักเพราะถือเป็นครั้งแรกสำหรับน้ำที่จะได้ดูหนังสือประเภทนี้ เสียงใจที่เต้นดังกว่าปกติสูบฉีดเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงที่ใบหน้าจนแดงระเรื่อออกมา ส่วนบอทเองใจเต้นเหมือนกันแต่ก็เคยดูมาก่อนแล้วจึงเต้นแรงไม่เท่ากับน้ำ ร่างสองร่างนั่งเบียดลงข้างๆกันบนเสื่อ พอเปิดหนังสือออกดูก็เหมือนกับพยายามกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างยากลำบากทั้งสองคน หน้าแดงแล้ว มือเริ่มสั่นปฏิกริยาตอบรับในร่างกายทำงานเป็นอย่างดี บอทเปิดหนังสือไปเรื่อยๆ น้ำเองเหงื่อกาฬเริ่มผุดออกตามดวงหน้า หนังสือที่มีภาพของชายหญิงกำลังประกอบกิจกรรมรักกัน ท่วงท่าลีลาหรืออวัยวะของสงวนไม่มีปิดบัง

"พอเถอะบอท อย่าดูเลย"

น้ำเอ่ยขึ้นเสียงสั่นระริก เม้มปากแน่น บอทเองหันมามองหน้าเพื่อนรัก

"น้ำ เราทำกันแบบนี้ดูไหม"

"บ้าเหรอบอท ของผู้ชายมันจะแหย่เข้าไปตรงไหนล่ะ"

อายหน้าแดงก้มหน้างุดลงไม่ยอมสบตา

"นี่ไง เราเคยดูแล้ว"

บอทรีบเปิดหนังสือไปแผ่นถัดไปเป็นรูปการร่วมรักของชายหญิงคู่เดิมแต่มันเป็นการสอดใส่ทางช่องทางพิเศษ น้ำยิ่งสั่นไปใหญ่

"ไม่เอาอ่ะ น้ำกลัว"

"กลัวไรล่ะน้ำ น้ำเป็นแฟนเรานะ"

คำๆนี้มันก้องขึ้นสะท้อนกลับไปมาในหัวของน้ำ "เป็นแฟนเรานะ" ดีใจ ปลื้มใจรู้สึกเป็นสุขมากมายเหลือเกิน บอทเองก็เอาหน้ามาประชิดอยู่แทบคางของน้ำลมหายใจร้อนมันรดมาอย่างจงใจ

"บอท"

บอทเองเผยอปากออกแล้วยื่นหน้าไปประกบริมฝีปากกับน้ำทันที น้ำเองก็ไม่ขัดขืน ความวาบหวามในใจมันดันออกมา มือไม้ก็ป่ายตามตัวกอดบ่าของเพื่อนรักเอาไว้ บอทเองก็โอบกอดตรงสะโพกให้น้ำล้มตัวลงนอนบนเสื่อ ร่างสองร่างทับกันบดบี้เหมือนจะหล่อหลอมให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน รสของจุมพิศมันหวานรัญจวนใจยิ่งนัก หัวใจเตลิดเปิดเปิงไปไกลแสนไกล แต่ก่อนที่จะล่วงเลยไปมากกว่านี้น้ำขืนตัวดันร่างของบอทออกจากกาย

"คืนนี้ค่อยมาต่อได้ไหมบอท น้ำกลัวว่าใครจะมาเห็น"

สายตาวิงวอนขอร้อง บอทเองนิ่งคิดอยู่ก่อนจะพยักหน้า

"โห กำลังได้ที่เลยอ่ะน้ำ ไม่ลงเลยนะเนี่ย"

"รู้แล้ว เดี๋ยวคืนนี้ค่อยทำ"

"คร้าบ ที่รักงั้นคืนนี้เราจะจัดหนักๆหลายรอบเลยดีไหม"

หัวเราะอย่างอารมณ์ดี แต่น้ำถลึงตาใส่

"รอบเดียวก็พอ แน่ใจเหรอบอทว่าทำเป็น"

"อ้าว ไม่มั่นใจผัวเหรอจ๊ะเมียจ๋า ของแบบนี้มันต้องลอง งั้นเรามาทำกันตอนอาบน้ำดีไหม อาบดึกๆ"

"เดี๋ยวแม่ก็สงสัยเอาหรอก"

"เราก็ไปกู้เบ็ดเหมือนเดิมไง กลับค่ำๆ หรือน้ำอยากจะลองทำที่ทุ่งนาดู"

"บ้าเหรอบอท อายผีสางนางไม้บ้างดิ"

"ฮ่าๆ ไปตักน้ำดีกว่า เมื่อไหร่จะค่ำน้า"

บอทผิวปากอย่างอามรมณ์ดีลุกจากเสื่อไป น้ำเองมองตามแผ่นหลังนั้นในใจก็หวิวสะท้าน น้ำลุกจากเสื่อแล้วกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อไปตักน้ำเช่นกัน การตักน้ำตอนนั้นจะตักน้ำใช้ในบ่อขุดซึ่งแต่ละชายคาที่พอมีฐานะหน่อยก็จะจ้างคนมาขุดบ่อเอาไว้เอาซีเมนต์หล่อเป็นท่อวงกลมขนาดใหญ่เรียงกันลงไปสูงจากบนพื้น บ่อขุดค่อนข้างลึกประมาณ ๒๐ เมตรได้จากพื้นดิน มีคานไม้ใหญ่ๆขึงด้วยรอกเพื่อใช้ถึงดึงน้ำขึ้นจากบ่อ เด็กๆทุกคนมือไม้ไม่มีนุ่มเรียบเนียนเหมือนเด็กในเมือง ส่วนใหญ่มือจะด้านเพราะกรำงานหนักตั้งแต่เล็กๆ จำได้ว่าซักผ้าเป็นตั้งแต่อยู่ประถมสาม ทำกับข้าวเป็นตั้งแต่ประถมห้า งานบ้านอื่นๆก็ไม่ต้องห่วงถือเป็นแรงให้พ่อกับแม่ได้อีกแรง น้ำมีหินคอยช่วยทำงานบ้าน แต่เรื่องตักน้ำยังไม่ให้หินทำเพราะมันหนักเกินไป น้ำตักน้ำช่วยบอทก่อนจนเต็มทุกตุ่มในบ้านของบอท เพราะบ้านของบอทเองไม่มีบ่อ พอเสร็จจากบ้านบอทก็จะมาตักใส่ตุ่มบ้านของน้ำ ตักน้ำเสร็จก็ไปเอาฟางมาไว้ให้วัวในคอก ไปเอาฟืนตรงหัวนาเพื่อที่จะก่อสุมไฟไล่แมลงให้มันในตอนเย็น เตรียมกับข้าวไว้แล้วให้หินเป็นคนทำ ส่วนน้ำเองจะออกไปวางเบ็ดกับบอทแล้วค่อยกลับมาดูหินอีกที ส่วนบอทต้องกลับมารีบทำกับข้าวไว้ให้แม่นิ่ม บางวันกลับไม่ทันแม่นิ่มก็ไม่ว่าเพราะรู้ว่าลูกชายไปวางเบ็ด

แสงแดดอ่อนกำลังลงมากแล้วมองไปไม่เห็นดวงตะวันบนปลายฟ้าทางด้านทิศตะวันตกแล้ว มีเหลือเพียงแสดงสีส้มแดงจัดที่ฉาบฟ้าทิศโน้นอยู่ ก้อนเมฆลอยสูงขึ้นมาก สูงจนมองเห็นเป็นปุยขาวๆอยู่ไกลลิบลับ น้ำเดินตามบอทไปตามคันนา บอทเองก็วางเบ็ดหาที่เหมาะๆน้ำไม่ตื้นเกินไปหรือลึกเกินไป ต้องไม่รกเกินหรือดูโล่งไปเลือกที่คิดว่าปลาน่าจะติดเบ็ด ทำด้วยความชำนาญเพราะทำมาตั้งแต่เด็ก ปากก็ผิวไปเป็นจังหวะเพลง น้ำเองก็ฮัมเพลงตามจังหวะผิวปากนั้น

"บอท พ่อน้ำจะออกรถมอร์ไซค์ น่าจะสิ้นเดือนนี้นะ เวลาไปไหนมาไหนเราจะได้ขับมอร์ไซค์ไปไง"

พอวางเบ็ดเสร็จก็เดินกลับวกดูอีกรอบเผื่อว่าจะมีปลาหิวเหยื่อมาติดเบ็ด น้ำเอ่ยขึ้นเพราะเห็นพ่อถาวรปรึกษากับแม่บุญช่วยเมื่อคืนก่อน

"จริงดิ น้ำนี่โชคดีจริงๆนะ แม่เราคงไม่มีปัญญาออกหรอกมอร์ไซค์น่ะ ค่าซ่อมจักรยานยังบ่นแล้วบ่นอีก"

"โชคดีอะไรล่ะบอท ก็แค่มอร์ไซค์ อีกอย่างถ้าน้ำได้ใช้บอทเองก็ต้องได้ใช้อยู่แล้ว"

พยายามทำให้เพื่อนรักรู้สึกดีขึ้น เพราะนอกจากบอทจะไม่เคยเห็นหน้าผู้เป็นบิดาแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของบอทก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากนัก เพราะแม่นิ่มเป็นคนหาเงินเลี้ยงดูเพียงคนเดียว รายได้หลักมาจากการทำนารอขายข้าวในตอนสิ้นปีเท่านั้น ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันก็ต้องกระเบียดกระเสียร บ่นเป็นประจำว่าบอทใช้เงินเปลือง พ่อถาวรและแม่บุญช่วยก็เห็นใจคอยช่วยเหลืออยู่เป็นประจำไม่ได้ปล่อยให้ลำบากมากมายนัก

"ขอบใจนะน้ำ แต่ไม่เอาหรอกเผื่อไปทำรถน้ำพังพ่อถาวรเอาตายเลย"

บอทหัวเราะออกมาเพราะรู้ดีถึงความดุของพ่อถาวรเป็นอย่างดี

"ก็ขับดีๆสิบอท ไม่พังหรอก"

"เออ เราแวะไปเอาใบมะตูมนายายสายไหม เผื่อเอาไปกินกับน้ำพริก"

"อืมไปดิ"

บอทเปลี่ยนเรื่องไม่อยากให้ใครมาสงสารเห็นใจตัวเองมากนัก แม้จะเป็นเพื่อนที่รักมากอย่างน้ำก็ตามและถึงแม้น้ำเองจะรู้ถึงสถานภาพทางครอบครัวเป็นอย่างดี แต่ในใจลึกๆก็ยังมีปมอยู่ ปมที่ไม่อยากให้ใครมาวุ่นวาย

"น้ำไปเรียกแม่นิ่มมากินข้าวหน่อยสิ"

พอตอนเย็นหลังจากทำกิจการงานบ้านเสร็จหมดแล้วก็รอให้พ่อแม่กลับมาจากที่ทำงาน แม่บุญช่วยก็มาดูกับข้าวที่ลูกชายเตรียมไว้มีการแก้ไขปรุงรสกันใหม่นิดหน่อย พอถึงเวลาอาหารเย็นถ้าฝนไม่ตกหรือไม่มีเหตุอันใดที่ไม่พ่อถาวรหรือแม่บุญช่วยต้องไปธุระก็จะเรียกแม่นิ่มกับบอทมากินข้าวที่บ้านด้วยทุกเย็นเป็นเรื่องปกติ แม่นิ่มจะถือถ้วยน้ำพริกหรือแกงมาด้วย ส่วนบอทก็จะอุ้มก่องข้าวตามหลังมา วันนี้หินทำนึ่งปลาช่อนกับปลาหมอใส่ยอดผักนานาชนิดที่พอหาได้แถวบ้าน มีทั้งชะอมยอดมะยม ดอกโสนยอดมะระ ส่วนน้ำพริกแม่บุญช่วยจะเป็นคนมาทำเองเพราะบอกว่าต้องตำใหม่ๆมันถึงจะหอม

"ข้าวออกรวงแล้วรึแม่นิ่ม จะทำข้าวเม่าไหมปีนี้"

พ่อถาวรเอ่ยถามขึ้นระหว่างล้อมวงกินข้าวเย็น

"นาหัวดอนออกรวงแล้วล่ะพ่อถา ปีนี้ว่าจะชวนแม่บุญทำอยู่นะ จะได้เอาไปวัดกัน"

"อยากกินอยู่พอดีเลยแม่นิ่ม ถ้ามันพอทำบอกด้วยนะ นาเรามันยังไม่ออกรวงเลย"

นาของแม่นิ่มมีเยอะกว่าบ้านของน้ำ มีถึงสามที่ด้วยกัน ส่วนน้ำเองมีที่นาอยู่สิบกว่าไร่แถมยังเป็นที่นาลุ่มติดห้วย เวลาน้ำมาต้องรีบไปเปิดคูน้ำให้น้ำระบายออกเพราะไม่อย่างนั้นน้ำจะท่วมข้าวเสียหายหมด ส่วนแม่นิ่มที่นาถือว่าเป็นพื้นที่ดินที่ให้ผลผลิตดี ที่นาแต่ละที่มีไม่ต่ำกว่าสามสิบไร่ เวลาทำนาทีใช้เวลานานกว่าคนอื่นเขา ว่าจ้างบ้างหรือไปลงแขกขอแรงเขา แต่พ่อถาวรกับแม่บุญช่วยก็คอยไปช่วยประจำไม่ได้คิดค่าแรงหรือคิดเล้กคิดน้อยอะไร เพราะที่บ้านของน้ำมีรถไถนา แค่ขอให้แม่นิ่มเติมน้ำมันให้บ้าง ส่วนคนไถก็บอทกับน้ำนั่นเอง

"ปีนี้ข้าวงามนะแม่นิ่ม วันก่อนไปนาหัวดอนมาเห็นข้าวแม่นิ่มแล้วน่าดีใจ"

"โอ๊ย พ่อถาทำมาจนจะหัวหงอกก็เพิ่งเห็นปีนี้ล่ะที่มันพอจะได้ลืมตาอ้าปาก ถ้าขายข้าวได้เยอะจะได้ส่งให้ไอ้บอทมันเรียนสูงๆ จะได้ไม่ต้องลำบากเหมือนแม่มัน"

"ดีๆแม่นิ่ม แล้วเรียนเป็นไงล่ะไอ้บอท สู้ไอ้น้ำได้ไหม"

หันไปหาบอทที่กำลังเคี้ยวข้าวเหนียวอยู่อย่างเอร็ดอร่อย

"โหพ่อถา สู้ไม่ได้หรอก น้ำมันเก่ง เนี่ยผมต้องให้น้ำคอยสอนการบ้านอยู่ตลอดล่ะ"

"อืม ดีๆมีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ไอ้น้ำมันได้หัวทางพ่อมัน"

คุยโวกลางวงข้าว แม่บุญช่วยก็สัพยอกสามีหัวเราะสนุกสนานกันอยู่ พอกินข้าวเสร็จก็ไปกู้เบ็ดคืน คืนนี้บอทเองเอ้อระเหยไม่ได้รีบร้อนเหมือนทุกวัน เพราะมีจุดประสงค์ในใจ น้ำเองก็รู้ดี แต่ทำไมใจมันคิดไปเร็วกว่าความเป็นจริง ทั้งที่ตอนนี้นอนดูโทรทัศน์อยู่กับหิน พ่อถาวรกำลังสานสวิงอยู่บนแคร่นอกบ้าน แม่บุญช่วยก็เหมือนกำลังดูเอกสารจากอนามัย ส่วนแม่นิ่มก็นั่งเหลาตอกอยู่ เสียงผู้ใหญ่คุยกันจอแจ น้ำเองคิดไปไกลถึงไหนต่อไหน ใจสั่นหวั่นไหวไป

"เป็นไรพี่น้ำ เรียกตั้งนาน เหม่ออะไรอ่ะ"

หินร้องเรียกตั้งหลายครั้งแต่น้ำยังเหม่ออยู่

"อะไรหิน"

"พี่บอทเรียก ใจลอยนะพี่"

"ลอยอะไรล่ะ กูคิดนั่นคิดนี่บ้างดิวะ"

น้ำโวยใส่น้องแล้วเดินออกจากบ้านมาหาบอทที่เตรียมตัวพร้อมแล้ว

"ไปกันยังน้ำ จะสองทุ่มแล้ว"

บอทถามแล้วพยักหน้าให้

"เดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อก่อน"

"เร็วนะคร้าบ ผัวใจร้อน"

บอทเองยังยียวนกวนใจได้ตลอดเวลา น้ำเองอายหน้าแดงเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนเป็นเสื้อแขนยาวป้องกันยุงหรือแมลงในเวลาค่ำคืน พอเดินออกมาก็นั่งซ้อนท้ายจักรยาน บอทเองก็ปั่นออกตัวไปทันที

"จับเอวดิน้ำ ไม่เห็นกอดผัวเลย"

บอทเอี้ยวคอมาบอก

"ให้พ้นตรงนี้ก่อนดิ เดี๋ยวใครมาเห็น"

"กลัวไรวะ เห็นก็ช่างมันดิ เพื่อนกันกอดกันไม่ได้ไง"

นั่นสินะทั้งที่แต่ก่อนกอดกันตลอดไม่ว่าจะไปไหน คนเห็นจนเป็นเรื่องปกติชินสายตาไปแล้ว แต่ทำไมตอนนี้ความรู้สึกหวาดระแวงว่าใครจะเอาเรื่องนี้ไปพูดหรือนินทามันถึงมีมากเหลือเกิน น้ำนิ่งเงียบไปไม่โต้แย้ง แต่เอามือค่อยๆเอื้อมไปจับที่เอวของบอท ใจเต้นแรงขึ้นมาอีกครา แปลกเสียจริงทั้งที่เคยจับก่ายกอดกันมามากมายนับครั้งไม่ถ้วนแค่มือแตะโดนเอวแค่นี้ถึงกับสั่นไหวไปได้มากถึงเพียงนี้ แต่ในความหวั่นไหวนั้นมันอุ่นอย่างประหลาด พอบอทปั่นจักรยานออกมาห่างจากหมู่บ้านไกลพอสมควร ไม่มีแสงไฟหรือเสียงของใครอื่นใด ได้ยินเพียงเสียงของล้อจักรยานกระทบพื้นดินลูกรังกับเสียงหายใจหอบเหนื่อยของบอท น้ำเอาหน้าไปแนบกับแผ่นหลังนั้นเบียดอกเข้าหาให้เสียงหัวใจที่เต้นแรงดังไปถึงใจของคนที่กำลังปั่นจักรยานอยู่ บอทเองก็จับแฮนด์จักรยานไว้มือหนึ่งอีกมือก็เอื้อมมาโอบกระชับมือของน้ำให้กอดรัดตัวเองแน่นขึ้น หวานใจอิ่มใจเหลือเกิน น้ำเองเม้มปากแน่นไม่เคยรู้สึกสุขใจมากเท่านี้มาก่อน ไม่มีวันไหนที่จะหัวใจเต้นแรงได้เท่านี้สองแขนโอบรัดเอวของเพื่อนที่รักไว้แน่น แน่นกว่าเดิม

"โหน้ำ วันนี้ปลาติดเบ็ดตรึมเลยอ่ะ หนักไหม"

เดินวนอยู่สองรอบได้ปลามาเกือบเต็มข้อง น้ำเดินตามหลังอยู่ไม่ได้บ่นอะไรออกมา เพราะไม่ว่าจะแบกหินหรือแบกท่อนซุงก็คงไม่รู้สึกหนัก เพราะใจมันสุขจะให้ดำน้ำลุยไฟก็จะไม่ปริปากบ่นออกมาเลยสักคำ

"ไม่หนัก วันนี้โชคดีเนอะ ปลาตัวใหญ่ๆทั้งนั้น"

"อิอิ มันคงรู้ว่าวันนี้เราจะเป็นผัวเมียกันจริงจัง มันเลยมาฉลองให้เราไงน้ำ"

"บ้าเหรอบอท ยังไม่ลืมอีกเหรอเรื่องนั้นน่ะ"

"โอ๊ย ไม่มีทางคร้าบคุณน้ำ ใครจะไปลืมง่ายๆ"

"หมกมุ่นเหลือเกินนะ"

"ไม่ได้หมกมุ่น เขาเรียกตั้งใจ อิอิ น้ำเตรียมตัวพร้อมยังอ่ะ"

"เตรียมตัวอะไรล่ะ ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย"

"อ้าว ก็คืนนี้เราจะแหย่น้ำนะ อิอิ"

"ไม่คุยแล้ว เปลี่ยนเรื่องได้ไหมบอท ไม่งั้นให้ถือข้องนะ"

"คร้าบ คุณเมียดุจังเลย"

ยังล้อเลียนอยู่น้ำเองก็ยังอายไม่เลิก ไม่เคยชินทั้งที่เขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด เรื่องยียวนกวนประสาท แต่ก่อนชินแต่ตอนนี้มันหวิวทุกคราที่ได้ยิน หน้าแดงทุกครั้งที่เขามองมาด้วยสายตาแบบนั้น

ราตรีในคืนที่ฟ้ามืดมิดต้นเหมันต์ แสงดาววาววับอยู่บนฟากฟ้าทะมึนกว้าง มองไปทางหมู่บ้านเห็นแสงไฟสาดส่องขึ้นเป็นม่านสีขาวๆไม่สว่างจ้ามากนักแต่พอรู้ว่าเป็นแหล่งชุมชน แมกไม้ใบหญ้าลู่ตามลม อากาศเริ่มเย็นลงทุกขณะ ร่างของเด็กชายสองคนกำลังเดินตามกันไปที่จอดจักรยาน คนหนึ่งมัดคันเบ็ดกับเชือกไว้ที่หลัง อีกคนสะพายข้องเดินหลังโก่งเพราะความหนักของข้องตามหลังห่างไม่ถึงก้าว

"กลับเถอะน้ำหนาวแล้ว"

"อืม หน้าหนาวปีนี้มาเร็วเนอะ"

"ดีสิ เราจะได้นอนกอดน้ำทุกคืน"

อีกครั้งกับคำพูดตามปกติวิสัยของบอท แต่ทำให้คนฟังใจลอยดีดขึ้นไปบนฟ้า แลลงมาเห็นแสงระยับแวววับแห่งใจ น้ำยิ้มออกมาในความมืด

"ทำไมเงียบล่ะน้ำ ไม่อยากให้เรากอดเหรอ"

"อยากสิ แต่กอดเฉยๆนะ กอดเหมือนแต่ก่อน"

"ไม่รับประกันนะเรื่องนี้ ฮ่าๆๆ เป็นผัวเมียกันแล้วนี่น้ำ ผัวมีก็ต้องมีกิจกรรมกันดิ"

"บ้า"

มันเขินนะแต่มันสุขเหลือเกิน ฟังกี่ทีก็ไม่รู้จักเบื่อ อันตอนรักน้ำต้มมะระยังว่าหวานเห็นจะจริงก็ตอนนี้

"เอาปลาไปขังก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำ แม่นอนยัง"

บอทเองเริ่มกระซิบกระซาบทำหน้าตาเหมือนกำลังทำอะไรที่ผิดอยู่

"อืม นอนแล้วล่ะป่านนี้จะสี่ทุ่มแล้ว"

"ไปอาบน้ำบ้านเรานะ"

เสียงที่กระซิบออกมาจากคอทำให้น้ำอดที่จะกลั้นหัวเราะไม่ได้

"พูดธรรมดาก็ได้นี่บอท ทำไมต้องกระซิบ"

"อ้าว ก็กลัวแม่ตื่นไง"

"บอทไปรอที่บ้านก่อน เดี๋ยวน้ำเอาเสื้อผ้าก่อน"

"เร็วนะจ๊ะที่รัก"

บอททำหน้าทะเล้นใส่ก่อนจะเดินข้ามรั้วไม้เก่าๆไปยังบ้านของตัวเอง น้ำเองใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ กลัวขึ้นมา ในใจเหมือนเอาแมลงเป็นล้านตัวมาบินวนเวียนอยู่ เดินไปเดินมาไม่รู้จะหยิบจับสิ่งไหนก่อนหลัง พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกตั้งสติ พอหยิบเอาเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนได้ก็เดินข้ามรั้วไปยังบ้านของบอท มองหาอยู่นานแต่ไม่เห็นร่างของเพื่อนรักที่ปกติจะนอนรออยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้าน แต่วันนี้ไม่อยู่ที่แคร่

"น้้ำๆ ทางนี้"

เสียงร้องเรียกที่แผ่วเบามาจากทางห้องน้ำ น้ำเดินไปตามเสียงนั้น

"ทำไมไม่เปิดไฟล่ะบอท มืด"

"เรากลัวน้ำอาย"

"เดี๋ยวแม่นิ่มลุกมาเข้าห้องน้ำนั่นล่ะจะซวย"

น้ำบอกบอทเองพยักหน้าก่อนที่จะเดินไปเปิดไฟหลอดกลมสีส้มให้ส่องสว่างขึ้น

"เข้ามาดิ"

บอทจูงมือน้ำเข้าไปในห้องน้ำ น้ำเองก็เริ่มสั่นก้มหน้าลง ในมือของบอทมีหนังสือเล่มเดิมเมื่อตอนเย็น

"จะดูอีกเหรอ"

น้ำถามออกไปเสียงสั่น

"ดูดิ จะได้คึกๆ"

"น้ำกลัวว่ะบอท"

"ไม่ต้องกลัวนะครับที่รัก"

บอทเบียดกายเข้าหาโอบเอวของน้ำไว้ จ้องหน้าระบายลมหายใจอุ่นออกมารดหน้า น้ำหน้าแดงเลือดพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที บอทเอาหน้าผากแนบหน้าผาก จมูกชิดจมูก เผยอริมฝีปากขึ้นก่อนที่จะค่อยๆประทับมันเข้าหากัน ทั้งสองหลับตาพริ้มสัมผัสจากปากอ่อนไหวมือไม้เริ่มขยับ เสื้อผ้าในกายถูกถอดออกจากร่าง ทั้งสองทำอย่างที่ทำเมื่อคืน ผลัดเปลี่ยนกัน

"ลองทำแบบในหนังสือนะน้ำ"

เสียงก็ยังคงสั่นเครืออยู่หน้าแดงตาหวานฉ่ำ น้ำพยักหน้า บอทเองจ่อแก่นกายเข้ากับบั้นท้ายของน้ำ พยายามดันให้มันเข้าไปในร่างของน้ำ

"มันไม่เข้าอ่ะน้ำ เอาสบู่มาทำให้มันลื่นดีไหม"

"อืม มันจะแสบไหมอ่ะบอท"

"ไม่หรอกน้ำ ลองดู"

พอเอาน้ำลูบเอาก้อนสบู่ทาให้ลื่น น้ำเองก็โก่งโค้งพิงตุ่มไว้ ส่วนบอทเองก็จ่อลำเข้าประชิด

"อ๊ะ เจ็บบอท น้ำเจ็บ"

"มันเข้าไปแล้วน้ำ อ่าแน่นมาก"

"เอาออกเถอะ น้ำเจ็บ"

บอกว่าเจ็บคือเจ็บจริงๆไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ เพราะปกติเป็นคนที่อดทนไม่บ่นอะไรออกมาง่ายๆ แต่ครานี้เจ็บแสบแปลบอยู่ตรงบั้นท้าย

"เอาสบู่ทาใหม่นะน้ำ เราจะทำเบาๆนะ"

เสียงที่นุ่มปลอบโยนอยู่ทำให้หัวใจอ่อนเอนไปตาม ไม่พูดอะไรออกมา บอทพยายามอีกครั้ง น้ำเองแม้จะเจ็บจนน้ำตาเล็ดแต่ก็กัดฟันแน่น ยอมทุกอย่างแล้ว แสบเจ็บลึงเข้าไปในร่าง พอได้ที่บอทเองก็เริ่มขยับเอว เหมือนรู้ดีว่าเพื่อนรักก็เจ็บเอื้อมมือไปคลึงหนั่นเนื้อของน้ำ น้ำเองก็มีอารมณ์อยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากลำบากที่จะปลุกอารมณ์ให้คุขึ้นมาอีก เนื้อเสียดเนื้อ ร่างเบียดร่าง ปากประกบปาก เสียงครางออกมาจากคอเบาๆเพราะเกรงว่าใครจะมาได้ยิน

"อ๊ะ บอทน้ำไม่ไหวแล้ว"

น้ำครางออกมากระซิบบอก

"รอเราด้วย เมียจ๋า รอผัวด้วย อ๊ะ อ๊ะ"

บอทเร่งการขยับของเอว ส่วนน้ำกระตุกร่างไปก่อนแล้ว ช่องด้านหลังบีบรัดแน่นบอทเองก็กระตุกร่างตามมาติดๆ สองร่างก่ายกอดแนบแน่นมีเพียงเสียงลมหายใจที่ดังแว่วแผ่วระบายลมออกมาจากอก

"เอาออกได้ไหมบอท น้ำแสบ"

"แสบเหรอน้ำ มาล้างก่อน แต่เสียวมากนะ อิอิ"

"บอทเสียวน่ะสิ แต่น้ำแสบ"

บอทยอมถอดถอนส่วนที่แข็งแกร่งกำยำออกจาร่างกายของน้ำ เอาน้ำราดล้างให้

"อ๊ากก"

เผลอร้องออกมาเต้นไปอีกทาง น้ำที่ราดไหลลงร่องก้นมันกระทบเข้าโดยตรงกับช่องนั้นที่เพิ่งถอดถอยแก่นกายของบอทออกมา หน้าตาของน้ำเหยเกแลดูเจ็บปวด

"เจ็บมากเหรอน้ำ"

"แสบอ่ะ แสบ"

ทำท่าเหมือนขยาดน้ำ บอทเองก็ทำหน้าเสียไม่รู้จะทำอย่างไรดี

"ทนเอาหน่อยนะน้ำ มันจะได้ไม่สกปรก"

พยายามเข้าไปปลอบ น้ำเองกัดฟัน ยอมตักน้ำราดตัวแม้มปากแน่นจนน้ำตาไหลออกมา พอร่างกายมันเริ่มชินก็ไม่ได้แสบมากเหมือนตอนที่โดนน้ำใหม่ๆ อดทนอาบน้ำจนเสร็จ

"จะไปไหนล่ะนั่นน่ะ"

บอทร้องขึ้นเพราะเห็นน้ำกำลังเดินตรงไปยังเรือนของตน

"กลับไปนอนห้องดิ"

"น้ำ มานี่"

บอทเข้าไปดึงแขนน้ำไว้กระตุกให้ร่างนั้นเข้าหาตัว

"น้ำเป็นเมียเราแล้วนะ โดยสมบูรณ์ อย่าคิดไปนอนที่อื่นที่ไม่มีผัวนอนด้วย"

"เอ่อ"

"ไม่ต้องเถียง ขึ้นบ้านได้แล้ว"

เป็นคำสั่งที่ออกจะดูตลกๆแต่น้ำเองแอบอมยิ้มออกมา ไม่รู้ทำไมรู้สึกสุขใจเหลือเกิน สุขใจจนไม่รู้จะสรรหาคำใดมาบรรยายดี ร่างอุ่นใต้ผ้าห่มขี้งาผืนใหญ่ก่ายกอดกัน ไออุ่นจากร่างแผ่กระจายแทรกซึมมอบความอุ่นวาบหวามให้กันและกัน เท่านี้เองความรู้สึกดีๆที่ต้องการ เท่านี้เองที่ใจมันเพรียกเรียกหามานาน

วิสัชนา สิ่งนั้นคือใจเรานั่นแลที่ไปไวกว่าแสง แรงกว่าไฟ

เขียนโดย eiky
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2013 08:43:29 โดย eiky »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด