กลับมาต่ออีกครั้ง...ระบบยังอัพยากๆ ตามเคยเลยน้า 
ขอบคุณคนที่ทำรูปภาพน่ารักๆ นี่ด้วยน้า เครดิตอยู่ที่หน้ารูปค่ะ °o.ปฏิวัติรักรส (""\_(o_O)_/"") Ganache.o° ( level 11 (ช่วงท้าย) : 20/10/10)
มาร์โก้ กายาเร่ เสร็จสิ้นจากการพบลูกค้าสำคัญในเวลาใกล้เที่ยง...
ชายหนุ่มเดินอมยิ้มกระโดดกระเด้ง เอ่ยแซวพนักงานที่เดินผ่านมาทักทายเจ้านายหนุ่มด้วยสีหน้าระรื่นชื่นมื่นเกินขีดจำกัด...
ที่สามารถมีเวลาว่างเหลือให้ผ่อนคลาย ทานอาหารด้วยกันกับ
แขกพิเศษ ผู้มาเยือนได้
เนื่องจากบิลล์ทำให้ทุกอย่างง่ายเข้า แท้จริงราชาช็อกโกแลตรู้ดีว่าการปรับเปลี่ยนมุมมองพนักงานผู้เฒ่าผู้แก่ของบริษัทนั้นยุ่งยากอยู่ไม่ใช่เล่น
กว่าเขาจะฝ่าฝืนกฎโบราณเก่าล้าต่างๆ แปลงปรับบริษัทผลิตช็อกโกแลตเชยๆ
ให้กลายเป็นสินค้าชั้นดีนำสมัยที่ร้านค้าไหนๆ ก็อยากใช้เป็นส่วนผสมในเค้กทั่วโลกนั้นไม่ใช่เรื่องปอกกล้วยเข้าปาก...
นึกถึงสภาพห้องประชุมที่สองหลังถูกไต้ฝุ่นบิลลี่พัดถล่มราบเรียบเป็นหน้ากลองเมื่อเช้าแล้ว
สุดแสนดีใจดั่งแมวได้ปลาย่างที่เลือกใช้ น้อง fennec น้อย มาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าตัวใหม่หนนี้...
บิลลี่ช่างป็นสิ่งอัศจรรย์ของจริงสิ่งที่แปดบนโลก...ทรงพลานุภาพดุจเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เลยพาให้ยิ่งหลงยิ่งเลิฟเข้าไปใหญ่
ไม่เหมือนนักสืบแมวดำจอมลามกหรอก...ตื้อติดหมัด น่ารำคาญสุดยอดมาร์โก้มัวนึกครึ้มอกครึ้มใจ ไม่ทันระวังกาย...
เมื่อเดินเลี้ยวมุมตึก ใบหน้าจึงชนเข้ากับใบหน้าของใครอีกคนไม่แรงนัก
ชายหนุ่มตาสลับสีสะดุ้งโหยงเมื่อตกอยู่ในอ้อมกอดของใครคนหนึ่งแบบปัจจุบันทันด่วน...
“ ไปไหนมาเนี่ย? ” มาร์โก้ กายาเร่ ถามแทบในวินาทีที่เห็นหน้าเดือนดับถนัดตา
ไม่เห็นเข้าร่วมประชุม...คิดว่าวันนี้อาจไม่ได้เจอแล้ว แอบโหวงเหวงโหลงเหลงจิตอยู่พอทำเนา
“ คิดถึงเหรอจ๊ะ? มายฮันหนี ” คำถามแหลมคมดั่งลูกศรย้อนกลับ ทำเอามาร์โก้หน้าบูบี้หมดอารมณ์
“ ไม่เลยสักนิด ” ราชาช็อกโกแลตส่งเสียง หึ ในลำคอ ก่อนพลิกตัวหนีวงแขนของแมวดำจอมตื้อ
“ ไปกินข้าวได้แล้ว เห็นคุณพี่อิงกับน้องบิลล์หาให้ควั่ก ชอบทำให้พี่น้องห่วงหน้าพะวงหลัง นิสัยไม่ดี...” แอบตลกด่าซะเลยเชียว ตึกนี้เป็นถิ่นแมวตาเพชรอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวถูกฆ่าหั่นศพ...
“ เรียกคุณพี่อิงกับน้องบิลล์ เนียนปากสนิทดีเชียวนะ... มายฮันหนี พอตกล่องปล่องชิ้นกับฉัน
รู้จักเข้าหาเด็กเข้าหาผู้ใหญ่ของสามี...เยี่ยมครับนาย ใช่เลยพี่น้อง ” เสียงแหวของหนุ่มตาสลับสีดังลั่นไล่หลังมาให้ได้ยินว่า หนังหน้าหนาตราช้าง...ใครเป็นเมียแกไม่ทราบ?
แต่เดือนดับไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม วิ่งตื๋อไปนั่งประจำเก้าอี้ตนเองในห้องจัดเลี้ยง ก่อนเจ้าภาพกล่าวเชิญเสียอีกด้วยซ้ำ

......................................................................................
“ แนะนำก่อนเลย นี่คุณอาของผม วาลอน เราเติบโตมาด้วยกันเหมือนพี่น้องท้องเดียว
ส่วนด้านนี้ที่ยืนคอยบริการอยู่คือ เลขาคาร์ลอส พวกคุณคงรู้จักดีอยู่แล้ว
เชิญทานตามสบายนะครับ พี่อิง น้องบิลล์...ผมเลี้ยงดูปูเสื่อเต็มที่ ” มาร์โก้นั่งหัวโต๊ะยาว พร้อมด้วยอาหารมากมายละลานตาน่าลิ้มลองเต็มพื้นที่ตรงหน้า
หนุ่มตาสองสีเอ่ยแนะนำเพื่อนร่วมมื้ออาหารคนสำคัญทีละท่าน...โดยตั้งใจแกล้งละเว้นเดือนดับไว้คนหนึ่ง
นักสืบแสนรู้ เลือกจองเก้าอี้นั่งข้างมาร์โก้ไว้ก่อน
เดาทางได้ไม่ยากเกินแกง ราชาช็อกโกแลตเป็นเจ้าภาพย่อมต้องนั่งหัวโต๊ะอยู่แล้ว
ราชาแมวตาสองสีนึกหงุดหงิด
อยากกะซวกไส้นักสืบจอมยุ่งนักที่บังอาจมานั่งเป็นจระเข้ขวางคลองไม่ยอมให้ขายขนมจีบบิลล์ได้สะดวกโยธิน
ถัดจากเดือนดับ เป็นที่นั่งของน้องชายนักเทนนิสคนเก่งตามฟอร์ม
ส่วนอิงดินผู้นั่งหน้าบูดเป็นหมาโมโหหิว เนื่องจากมีแขกไม่ได้รับเชิญนับญาติว่าเป็นน้องเพิ่มอีกนาย
ต้องทนนั่งติดกับท่านจ้าวยักษ์ตาเขียวโจทย์เก่าซึ่งนั่งถัดจากมาร์โก้...ตรงกันข้ามกับนักสืบหัวเห็ดอีกที
พิเศษ...สำหรับน้องหมาอองเดรขนสวย กำลังเคี้ยวเนื้อบดชามยักษ์หมุบหมับอยู่บนพื้นห้องจัดเลี้ยง ด้านหลังเก้าอี้ของวาลอน
ฝ่ายเลขาหน้าเสี้ยมคอยเดินบริการวนไปมารอบโต๊ะ เติมน้ำดื่มให้ เก็บจาน...
คาร์ลอสทำหน้าที่เสมือนพ่อบ้านส่วนตัวของมาร์โก้ กายาเร่ ก็ไม่ปาน
เดือนดับจิ้มฟัวกราชั้นเลิศกระแทกปากพร้อมสลัดรวมเครื่องหลายชนิดด้วยหน้าตาเป็นสุข
ก่อนทิ้งช้อนส้อมกระทบจานแกร๊ก ชักสีหน้าตื่นตะลึงกะทันหัน
“ เป็นไรอ่ะ พี่เดือน เจอหนอนมังสวิรัติ ( หนอนผัก) รึไง? ” บิลล์ใส่ใจใคร่รู้ อย่างที่ชาวบ้านชาวนาชาวไร่ไทยเรียกเจือก
เดือนดับส่ายหน้าปฏิเสธเป็นระวิง พลางชี้นิ้วสั่งระริกไปที่จานออเดิร์ฟไส้กรอกทอดน่าอร่อย
ผ่าเป็นสี่แฉกให้สุกง่ายและสวยงาม แลดูเหมือนขาปลาหมึกยักษ์
Thanks: Ragnarok ฝากรูป“ ฉันที่อยู่ในสัจจะโลกามาตลอด ไม่สามารถกินของไม่เสมือนจริงแบบนั้นได้ ” เดือนดับพูดดื้อๆ
“ ทำไมล่ะ พี่เดือน? ” บิลล์เหวอ...สำหรับจิ้งจอกเก้าหาง ไส้กรอกก็คือไส้กรอก นี่แหละเสมือนจริงที่สุดแล้ว
“ หมึกพอลมีกี่หนวด? ” นักสืบแมวดำถามกลับเสียงเฉียบ
จิ้งจอกน้องชายลองนับนิ้วไปเรื่อย หนึ่ง...สอง ปากร้องอ๋อ...ในที่สุด
“ แปดหนวด...” บิลล์ตอบเสียงดังชัดแจ๋ว
ท่ามกลางความโล่งอกของกองเชียร์รอบข้างผู้ร่วมลุ้นระทึกหนักเหมือนลุ้นลอตโต้รางวัลที่หนึ่ง
มนุษย์ปกติ ไม่ต้องคิดมาก ย่อมตอบสบายสไตล์สิวๆ ว่าแปดหนวด...
แต่เนื่องจากบิลลี่ ไม่ใช่ ธรรมดาอย่างชาวบ้านชาวช่อง
เลยคาดหวังคำตอบไม่ได้ว่าจิ้งจอกอพยพจากดาวดวงอื่นจะตอบว่าประการใด?
“ ถูกต้อง...นั่นไง แล้วไอ้หมึกไส้กรอก นี่มันมีกี่หนวด? ” สี่หนวด เท่าที่เห็นกับตา...ถ้านับเนื้อแฉกล่ำๆ ของไส้กรอกเป็นขาได้
“ ปลาหมึกที่แท้จริง ต้องมีแปดหนวดสิ...มนุษย์ลัทธิสัจจะนิยมอย่างฉัน กินปลาหมึกที่มีแปดหนวดเท่านั้น ” ขณะที่ อิงดินและเพื่อนร่วมโต๊ะคนอื่นๆ แอบแช่งชักนักสืบแมวดำในใจ...
กินยากกินเย็นเข็นครกขึ้นภูเขานัก ขอให้อดตายตัวแห้งเป็นพยาธิตัวแบนอยู่แถวนี้แหละ“ ใครบอกเล่าว่ามันเป็นรูปปลาหมึกน่ะ...? ” จิ้งจอกจิ้มก้นไส้กรอกให้ตั้งขึ้น พร้อมกับเปิดขวดซอส เหยาะซอสมะเขือเทศลงไป...
“ เค้าทำเป็นรูปดอกไม้ต่างหาก...สี่แฉกแบบดอกโคลเวอร์นำโชคไง...” สมเป็นศาสดามองโลกในแง่บวกแบบบิลล์ๆ
จิ้งจอกแยกเขี้ยวขาวแหง ก่อนยัดดอกโคลเวอร์ไส้กรอกเข้าปากท่านพี่เดือนดับที่มัวอ้าปากเอ๋ออยู่...
อิงดินตัดเนื้อหมูแฮมรมควันอบชิ้นย่อมเข้าปาก..พลางนึกค่อนแคะรำคาญน้องแฝดเรื่องมาก
มีอะไรให้กิน เอ็งก็กินไปเถอะน่า ไอ้น้องเดือนมืดประสาทต๊องส์ตกขอบ
ชิวาว่ากินเพลิดเพลิน...ระหว่างคิดเรื่อยเปื่อยเรื่องสัพเพเหระ จนกระทั่งรู้สึกแปลกพิกล
เอ...ก็ว่าตักอาหารไว้ไม่มาก ทำไมของกินในจานมันไม่หมดสักที? เนื้อไก่ หมู แกะ เพียบ...ราวกับเสกสั่ง..มันมาจากไหน? หันไปข้างเคียง...พบ ที่มา ของปริมาณอาหารมหาศาลได้ไม่ยาก
วาลอน กับ บิลลี่ กำลังแข่งกันใช้ช้อนส้อมตักอาหารใส่จานของอิงดินอย่างเมามันส์สนุกมือ...
ท่ามกลางสายตาช็อคค้างของสมาชิกร่วมโต๊ะที่เหลือ
ชิวาว่าเห็นดังนั้น...ดวงตาปกติขนาดโตมากแล้ว ยังโตจนแทบทะลุเบ้าได้อีก ณ เวลานี้
“ เฮ้ย...ทั้งสองคน ทำบ้าอะไรกันเนี่ย? หยุดเดี๋ยวนี้เลย ” หมากระเป๋าร้องเสียงหลง
“ กินๆ เข้าไปซะ...ไม่ค่อยกินข้าวกินปลานี่เอง ถึงได้ตัวแคระแกร็นเป็นหมาจิ๋วอยู่อย่างงี้น่ะ ” วาลอนเข่นเสียงดุหมาขนาดเล็ก
“ พี่อิงกินเยอะๆ จะได้โตไวๆ เป็นผู้จัดการของผม ต้องใช้พลังงานพลาสม่าเหนือชาวประชาคนอื่นนะ ” บิลล์สำทับเสียงแข็งอย่างไม่ยอมแพ้ท่านจ้าวยักษ์ตาเขียว
จำไม่เห็นได้เลยว่าเคยใช้พลังพลาสม่าอีตอนไหน...อิงดินกุมขมับวิงเวียนคิดแต่แรกเริ่ม...เรื่องเกิดจาก วาลอนเนียน แอบตักอาหารใส่จานอิงดินที่มัวบันเทิงกับการกินไม่รู้เรื่องรู้ราว
บิลล์ ผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายทอดสดกระจ่างสายตาเข้าให้...จิ้งจอกยิ้มเผล่เต็มหน้า
ไม่รู้ว่าเพราะเกิด
หวง ท่านพี่เปลือกหอยจับใจ
หรือเป็นเพราะยีน
ขี้แกล้ง ในตัวบิลล์อันมีมาแต่อ้อนแต่ออกทำงานระบบออโต้ ร่ำร้องว่าอยากรังแกวาลอนแบบจัดหนัก
การประลองยุทธแข่งกันให้อาหารชิวาว่าอิงดินเลยเกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน...ด้วยประการละฉะนี้
สำหรับชาวเอเชีย ฉันเป็นตัวผู้ไซส์มาตรฐานสากลเฟ้ย
พวกแกสองคนนั่นแหละที่ตัวเป้งไซส์เทพเกินขีดจำกัดประชากร อิงดินฮึดฮัดโวยวายในใจ
“ อายุอานามขนาดฉัน มันไม่โตไม่เติบไปมากกว่าที่เห็นแล้วเฟ้ย...
เล่นตักกันมาจนพูนจานเท่ายอดเขาเอเวอร์เรสต์ ให้ฉันกินหมดชาติไหนไม่ทราบ? ” อิงดินฉุนขาด...สองคนนี้ เล่นซุกซน เป็นเด็กสองขวบไปได้ โดยเฉพาะตาเฒ่าหัวงูวาลอน วัยกลับถนัดใจ...น่าโมโหยิ่งนัก
“ พูดอะไรน่ะ พี่อิง ไม่รู้หรอกเหรอ?...ตัวผู้ชาวเอเชียอย่างพวกเราน่ะ สามารถโตได้จนถึงอายุสี่สิบเลยนะ ”สมาชิกทุกคนทั้งโต๊ะยาวหันมามองจ้องจิ้งจอกเก้าหางเป็นตาเดียว...จริงเร๊อะ?
“ ล้อเล่นน่า...น้องบิลล์ ” ราชาช็อกโกแลตอึ้ง...กับความรู้ใหม่ประดับสมอง ครูประถมไม่เห็นเคยสอน ไม่เคยพบเคยเห็น
ชนชาติเอเชียช่างล้ำลึกนัก มาร์โก้...เป็นเอเชียมาเนียนับตั้งแต่เกิดแท้ๆ ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน
ยังศึกษามาไม่พอเพียงจริงๆ“ ก็ล้อเล่นน่ะสิ...” จิ้งจอกเล่ห์กะเท่บอกเสียงเฉยหน้าเป็น ก่อนยื่นส้อมไปจิ้มสเต็กปลาในจานใหญ่ข้างหน้า...
ทว่าวาลอนไวกว่า ฉวยเลื่อนจานมาตักกินเองแทนด้วยความหมั่นไส้
บิลลี่ครางหงิงไม่พอใจพี่ยักษ์ เลยเปิดศึกครั้งใหม่...ยื้อแย่งจานปลากับวาลอนเอะอะเสียงขรม
ทุกอย่างดำเนินไปท่ามกลางความอิดหนาระอาเอือมของพี่น้องฝาแฝด...
และความเริงรื่นของมาร์โก้ ผู้มองเห็นบิลล์ น่ารักน่าใคร่น่าเอ็นดู ทุกอากัปกิริยาอาการ...

ราชาช็อกโกแลตลอบสังเกตว่าเดือนดับค่อนข้างทานน้อยกว่าคนอื่นมากโข...
ไส้กรอกกินไปแค่ชิ้นเดียว คือชิ้นที่บิลล์ป้อนใส่ปากเท่านั้น
“ อาหารไม่อร่อย? คุณไม่เห็นค่อยตักทานเลย ” มาร์โก้กระซิบถามเดือนดับเสียงเบา
“ มายฮันหนี ป้อนฉันสิ...จะกิน ” เดือนดับตอบยิ้มๆ
ที่จริงนักสืบหนุ่มมักทานน้อยอิ่มเร็วแข่งกับเวลา ต้องเร่งรีบทำคดีให้เสร็จสิ้น
มัวเสียเวลาในการกินมากนักไม่ได้...เลยติดนิสัย กินได้น้อย ทานร้านอาหารบุฟเฟ่ต์แต่ละทีไม่คุ้มค่าลงทุน
“ อย่าหวัง...” มาร์โก้ปากว่าอย่างนั้น แต่กลับส่งสัญญาณให้คาร์ลอสยกจานไส้กรอกเดิมออกไป...
ครั้นยกกลับมาใหม่อีกหน...ครานี้ทั้งจานกลายเป็นไส้กรอกปลาหมึกแปดหนวดอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง...
Thanks: Ragnarok ฝากรูปเดือนดับเห็นดังนั้น จึงแสร้งกระบิดกระบวนขวยเขินท่าสาวน้อยไร้เดียงสาแถมตบบ่ามาร์โก้ดังผัวะ ไหล่แทบหลุด...
“ แหม ได้รับการเป็นใยเป็นห่วงเอาอกเอาใจจากคุณพี่มาร์โก้คนสวย น้องเดือนล่ะแสนสุดปลาบปลื้มลืมสติ ” ลืมไปเลยตลอดชีพก็ได้นะ ไม่มีใครว่า...มาร์โก้นึกขุ่นเคืองไม่น้อย
ชิ ฉันสั่งให้น้องบิลล์กินอร่อยๆ ไม่ระคายเคืองปากต่างหาก ไม่ใช่เพื่อให้นายกินได้สักหน่อย
แต่เห็นตักกินก็แอบดีใจบ้างอะไรบ้างแหละ ก็ธรรมดาๆ นะ...เดี๋ยวจะหาว่าเจ้าภาพเลี้ยงดูไม่ดี 
ทันใดนั้น...เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นจากด้านข้างของนายน้อยหนุ่มแห่งอาณาจักรกานาชเอ็มไพร์
“ เป็นอะไรของนาย? คาร์ลอส...” วาลอนถาม ทั้งที่ยังไม่ยอมคืนจานปลาให้บิลล์กินโดยสะดวก
“ รับใช้มาหลายปี เพิ่งเคยเห็นนายท่านทั้งสองสนุกสนาน มีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะได้ถึงเพียงนี้...
ถ้าท่านพ่อท่านแม่ผู้ล่วงลับของนายท่านทราบต้องดีใจมากแน่ กระผมในฐานะพ่อบ้านรู้สึกขอบคุณสวรรค์จริงๆ ครับ ” คาร์ลอสเอาผ้าเช็ดหน้าผืนจ้อยคอยเช็ดกันน้ำหูน้ำตาไหล...พร้อมสูดขี้มูกฟืดป้อยๆ
“....คาร์ลอส ” มาร์โก้ กายาเร่เรียกชื่อเลขาคู่บัลลังก์เข้มๆ
“ พ่อแม่ฉันยังไม่ถึงคราวม่องเท่ง...” ราชาช็อกโกแลตพูดเสียงเรียบ...
ทั้งโต๊ะ...จ้องเลขาหน้าเสี้ยมเป็นตาเดียว...
“ อีกอย่าง ” “ นายเป็นเลขาต่างหาก ไม่ใช่พ่อบ้าน...” วาลอนกล่าวเสริมโทนเสียงนุ่มทุ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเอกบุรุษ
ทั้งโต๊ะ จ้องเลขาหน้าเสี้ยมเป็นตาเดียว...ต่างคนต่างเงียบกริบ
“ ผมพูดให้เข้าบรรยากาศไปอย่างงั้นแหละครับ นานๆ ทีได้โอกาส อยากเป็นพ่อบ้านบ้าง อะไรบ้างไง?
ที่นี่ดันไม่มีตำแหน่งว่าง ผมเลยต้องทนเป็นเลขาอยู่อย่างนี้ ห่างไกลความฝันสุดลูกตาลุกหูเลยครับ น่าเบื่อน่าท้อแท้ ” เลขาคาร์ลอสถอนใจยาว
มนุษย์เรามีความใฝ่ฝันแปลกแยกกันตามอัธยาศัย...เหลือเชื่อว่าผู้ที่ฝันใฝ่อยากเป็น
พ่อบ้าน มีอยู่จริงด้วยแฮะ
แถมยืนตัวเป็นๆ อยู่ตรงหน้าพวกอิงดินนี่เลย
“ แหมๆ คุณคาร์ลอสไม่มีคู่ให้สวีท...เลยแอบเล่นมุก ดีกว่ายืนตบยุงแก้เหงาใช่ไหมล่า? ” บิลลี่แซวเลขาเจ้าบทบาทขำขัน
“ ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ...ผมน่ะเมียหนึ่งลูกสองแล้วล่ะ ” คาร์ลอสตอบหน้าตาเมินเฉยไร้อารมณ์ดิบ
เสียงร้อง
เหอ...ด้วยความตกใจสุดขีดจากแขกผู้มาเยือนทั้งสามดังกึกก้อง
เจ้าหมาน้อยอองเดรทนเสียงประสานชวนเสียวแก้วหูไม่ไหว เลยโก่งคอหอนคลอเป็นทำนองเพลงตามด้วย...
จนสะท้อนลั่นสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณห้องจัดเลี้ยง
......................................................................................
Thanks: Ragnarok ฝากรูป