ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร ลืมไปหมด ลืมจ่ายภาษี ลืมจ่ายบัตรเครดิต
![:z3:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/01.gif)
ตรูจะบร้า
เป็นเพราะงกจัดไม่ถึงดิวไม่ไปจัดการ พอถึงดิวดันลืมไปเลย มานึกได้หนึ่งวันหลังจากนั้น
(เริ่มบ่นเหมือนน้องเหลิม
![laugh :laugh:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/laugh.gif)
ไม่มีอะไรค่ะแค่รำพันเล็กน้อย ไม่มีอะไรแค่จ่ายค่าปรับไป
![:o12:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/onion072.gif)
โกรธตัวเองจริงๆ)
********************************************************
*
วันอังคาร*
แย่แล้ว...วันนี้เขาตื่นสาย เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงบ้านเที่ยงคืน นอนหลับสนิทเพราะมันอิ่มมาก
อิ่มจนวันนี้กะว่าข้าวเช้า กลางวันไม่ต้อง กินมื้อเดียวแต่อิ่มไปสามมื้อ
เช้าตื่นแทบไม่ไหว มาสายจนได้กู เก้าโมงครึ่ง ไอ้พี่ไก่จะเล่นหรือเปล่าวะ
ค่อยเดินย่องเข้าไปที่โต๊ะ ทำไมวันนี้ห้องมันเงียบผิดปกติ ไม่กล้ามองสบตาใคร ก้มหน้าก้มตาทำงานไปก่อนดีกว่าจะได้เนียนๆ
แต่นั่งไปตั้งนาน...บรรยากาศมันแปลก เงียบผิดปกติ เงียบอย่างกับไม่มีใครมาทำงานเลย
พอลุกยืนขึ้นมองไปรอบๆ...เออ..
“ไปไหนกันหมด...แผนกเราไม่มีใครมาเลยจริงๆ”
ตัดสินใจโทรหาพี่ม้าที่อยู่อีกแผนก “พี่ม้า...ทำไมแผนกผมไม่มีคนมาเลย พี่รู้รึเปล่า”
คิดเล่นๆว่าโดนหวัด 2009เล่นไปทั้งแผนกแล้วล่ะมั้ง
“อ้าว...ทำไมเหลิมไม่รู้...อ๋อ..เหลิมไม่ได้ไปเมื่อคืน เสียดายมากนะเหลิม สนุกม้ากมาก
ทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งกิน ทั้งดื่ม จนนายบอกว่าอนุญาตให้มาสายได้วันนี้”
เจ๊แกยังมีหน้ามาพูดทำให้เขาอยากไปได้อีก
พี่ม้าชวนคุยต่อ “แล้วทำไมเราไม่ไปล่ะ เมื่อคืน พี่ก็ร้อรอนะ เห็นพี่ไก่บอกจะตามไปไม่ใช่เหรอ”
ไม่อยากจะด่าหัวหน้าตัวเองให้คนอื่นฟัง กลัวน้อตหลุด ระเบิดอารมณ์ขึ้นมา เลยข่มใจตอบพี่ม้ากลับไป
“ผมก็กำลังจะไป... พอดีเพื่อนมันโทรมาขอร้องให้ไปกินอาหารทะเลที่เยาวราชเป็นเพื่อนมันน่ะ
บอกว่าไม่ว่าง มันก็อ้อนวอน ขอร้องหลายครั้งหลายหน ก็เลยต้องไป”
แน่ล่ะพี่ตั้งมันเลี้ยงปลาหมึกปิ้ง ยำกุ้งแห้ง แล้วก็ปูอัดไง กินซะอิ่มอ้วกเลย เหอๆ
“มิน่าล่ะ น้องเหลิมไปกินอาหารทะเลเลยทิ้งพวกพี่ไปเลย”พวกพี่ต่างหากที่ทิ้งเขาไปก่อน ไม่อยากจะพูด เชอะ
“นี่ถ้าพี่ม้ามาพาผมไปด้วยตั้งแต่แรก ผมก็ไปแล้วนะ พี่นั่นแหละทิ้งผมก่อน”
“อูย....แหมๆๆ พี่ไม่อยากจะเถียงกับเธอ เป็นอันว่าวันนี้เหลิมก็นั่งทำงานคนเดียวไปแล้วกันนะ คราวนี้ก็โดนทิ้งซะบ้าง เชอะ”
แล้วพี่ม้าก็วางสายไปอย่างรุนแรง ก็ยังงงๆว่าเขาทำผิดอะไรกัน“แล้วทำไมต้องมา ‘เชอะ’ใส่ด้วยวะ”
ราวกับว่าเขาไปจีบเจ๊แล้วทิ้งแกไป
“นี่กูทำอะไรผิดไปอีกว่ะเนี่ย” แต่เขาบอกกับตัวเองว่าทองดีไม่ต้องกลัวไฟ ในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
แค่ไม่ได้ไปเมาหัวราน้ำ ไม่ได้ไปร้องเพลงยันเช้ากับเพื่อนที่ทำงานแค่ครั้งเดียว ถ้ามันจะผิดมากมายก็ให้มันรู้ไป
แต่ไหนๆก็ไม่มีใครมาทำงานแล้ว งั้นเขาเข้าพันทิพย์ไปลั้ลลาดีกว่าวันนี้จะเข้าเวบอะไรดีนะ
เข้าไปเฉลิมไทยติดตามข่าวบันเทิงผัวเมียเตียงหัก ตรวจไม่ตรวจDNA
หรือเข้าเฉลิมกรุงตามข่าวนักร้องAFดี
หรือจะเข้าสยามสแควร์ไปจ๊ะจ๋ากับเด็กๆสักหน่อย
อืม...ไปเช็กเมลล์ก่อนดีกว่า ไปลบเมลล์ที่พี่ตั้งส่งมา เออ...แต่ทำไมวันนี้เงียบๆไปไม่มีเสียงโทรมากวนแฮะ สงสัยยังไม่ตื่น
เข้าไปเช็กเมลล์ก็แล้ว อ่านเมลล์ก็แล้ว เล่นเกมก็แล้ว ก็ยังไม่มีใครมาทำงาน
ทำไมเอาเปรียบกันขนาดนี้นะ มันเงียบเกินไป วังเวงเหมือนผีจะหลอก
หรือว่าเขาควรจะทำงานได้แล้ว ทำก็ได้.....เล่นมานานแล้วนี่ หยิบงานขึ้นมาอย่างไว ตั้งใจ ตั้งสติ ทำใจก่อนทำงาน
ทำงานไปได้ครึ่งชั่วโมง เริ่มเข้าใจความจริงที่ว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม แล้วเขาก็เป็นมนุษย์
แต่วันนี้ทำไมสังคมของเขากลับหายไปหมด หรือว่าเขาเริ่มไม่เป็นมนุษย์คนอื่นเลยเลิกคบ
![laugh :laugh:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/laugh.gif)
พยายามเพ่งสมาธิมาที่งานรวบรวมสติทำงานต่อ กำลังทำงานเพลินๆเสียงโทรศัพท์ดังอีกแล้ว ใครอีกล่ะ
“โหล....” เสียงทุ้มคุ้นเคยตอบกลับมา “ขอสายคุณเฉลิมฉลองครับ”
ตอนแรกยังจำไม่ได้ว่าใครโทรมาได้แต่นึกว่าใครหว่ารู้ชื่อเต็มๆของกู แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะที่ตามมาก็จำได้แล้ว
“เฮ้ย...พี่ตั้งรู้เบอร์ที่ทำงานได้ยังไง จำได้ว่าไม่ได้บอกนี่”
“ยากอะไร..รู้ชื่อบริษัท...ไปเสิร์ชหาในกูเกิ้ล..หาอะไรก็เจอ” พี่ตั้งทำเสียงฉลาดมาก...โธ่..กะอีเรื่องแค่นี้
“ก็รู้ว่าลุงเกิ้ลแกเก่ง...แล้วโทรมาไม..มีไร...ยุ่งนะ..ทำงานอยู่”
ที่จริงคือเพึ่งจะทำ เพึ่งจะเป็นคนดี เพึ่งจะเป็นพนักงานที่ดี...พี่โทรมาให้ใจแตกอีกละ (โทษพี่ไปเลย)
พี่ตั้งเสียงร่าเริงมาเชียว“ยุ่งแล้วคุยโทรศัพท์ได้ไง...”
นั่นแน่มีย้อน..ก็ “ก็ผมไม่ได้เป็นใบ้นี่...ทำไมจะพูดไม่ได้”
“เหลิม...เหลิม...”เรียกชื่ออีกแล้ว เรียกอยู่ได้ มีอะไรทำไมไม่พูด
“เรียกทำไม...มีอะไร..ก็พูดมาสิ” เริ่มรำคาญแล้วนะ
“มาเยี่ยมพี่หน่อย...นะ” เยี่ยมทำไม
อ๋อนึกแล้ว... “พี่อยู่โรงพักไหน...ไปทำไรมาล่ะ เมื่อวานเรากินแต่น้ำเก็กฮวยนี่...ฮั่นแน่พี่แอบไปดื่มต่อแหงเลย”
“เมาแล้วไปขับทำไมล่ะพี่” แล้วยังกล้าโทรมาให้ไปเยี่ยมอีก ไม่อายบ้างรึไง
“เหลิมฟังก่อน...พี่ไม่ได้เมาแล้วขับ...แต่พี่ไปเจอคนเมาแล้วขับ...แล้ว...” พูดไม่ชัดเจนแล้วก็ช้าไม่ทันใจ....
“แล้วพี่รู้จักเค้าเหรอ แล้วเค้าไปโดนจับ พี่เลยโดนติดร่างแหงั้นเหรอ..หรือว่ายังไง..”
“ไม่ใช่...พี่ไม่รู้จัก อย่าเพิ่งพูดสวนมาสิฟังพี่พูดก่อน..”น่านโดนด่าเลย เงียบก็ได้วะอยากพูดช้าทำไมล่ะ
“เค้าขับรถมาชนพี่”อ้าว...ซวยสิ
“เฮ้ย....แล้วพี่เป็นไรมากรึเปล่า”
“เป็น..พี่ถึงอยากให้เหลิมมาเยี่ยม...นี่พี่อยู่โรงพยาบาล” อ้าว....งานเข้ากูแล้ว
“ฉิ..หาย...แล้วเป็นไร..ขาหัก แขนหัก หัวแตก สมองเสื่อม...หรือไตวาย”
ก็เสียงแกฟังดูก็ปกติธรรมดาไม่เหมือนคนเจ็บป่วยตรงไหน กวนยังไงก็กวนเหมือนเดิม แถมยังหัวเราะได้สบายใจ
“หัวโนนิดหน่อย หน้าอกกระแทกด้วย แต่ตรวจเช็กร่างกายก่อน เหลิมมาหน่อย กำลังเบื่อๆ” บ้าตาย...
“นี่พี่ตั้งผมทำงานอยู่นะ...จะให้โดดงานไปได้ไง ทำไมพูดง่ายจัง”
พี่ตั้งบ่นเสียงอุบอิบอยู่ในลำคอ “แล้วเหลิมไม่ห่วงพี่บ้างเหรอ..คนอะไรใจดำ”
ทำเสียงตัดพ้อต่อว่า ทำมาน้อยใจแต่เหมือนๆคำสุดท้ายจะด่าตรูนี่หว่า
“พี่อย่ามาพูดแบบนี้นะ ดูถูกน้ำใจกันอย่างแรง ไอ้ห่วงก็ห่วงอยู่”นี่พูดไปก็สงสัยตัวเองทำไมเขาต้องมานั่งอธิบายเหตุผลด้วยหว่า
“แต่งานผมก็ต้องรับผิดชอบ..เอางี้แล้วกันเลิกงานผมไปหาพี่ พี่อยู่โรงบาลไหน”
คราวนี้ได้ยินเสียงพี่ตั้งตอบมาอย่างร่าเริงจนเริ่มสงสัยว่าเจ็บจริง ป่วยจริง หรือว่าสะตอกันแน่...
“พี่อยู่โรงพยาบาลพญาทวาย เหลิมมาไม่ยาก ใกล้บ้านเหลิม มาไวๆนะ”
น่าน...มาตัดสินความยากง่ายในชีวิตเขาอีกคนแล้ว ตามมาด้วยคำสั่งให้ไปเร็วๆอีก น่าเบื่อจริงๆ
ตกลงนี่เขาไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตกันและกันของพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ
เลยรับปากไปส่งๆ “เออๆๆ..เดี๋ยวเลิกงานแล้วไป แค่นี้นะงานเยอะ”
วางสายแล้วก็รีบทำงานต่อ อย่างน้อยตอนเย็นจะได้ออกตามเวลาได้ เริ่มไม่สนใจใครจะมาทำงานไม่มาทำงาน
เขาทำคนเดียวก็ได้ ไม่ต้องแคร์ แต่จะทำงานสบายๆก็ไม่ได้ ต้องทำตัวเป็นเลขาทั้งวัน
คอยรับโทรศัพท์เรื่องของทั้งแผนกเดี๋ยวคนนู้นโทรหาคนนี้ คนนั้นโทรหาคนนี้ อูย...ปวดหัว ไม่รู้จะมีธุระอะไรกันนักหนา
จนเย็นก็ไม่มีใครมาทำงาน ให้มันได้อย่างนี้สิฉลองกันคืนเดียว หยุดกันทั้งแผนกองค์กรคงจะเจริญรุ่งเรือง
แต่พอจะออกจากที่ทำงานตามเวลาเป๊ะ เสียงโทรศัพท์ก็กรีดดังขึ้นเหมือนจะแกล้ง รับสายก็จำเสียงได้ทันที
“โหล..ใครรับสายน่ะ” มาแล้ว...หัวหน้าไก่ที่เคารพ...โทรมาทำไมตอนนี้..ตอนที่เขาจะกลับ...
“ผมเองพี่”
“ผมน่ะใคร...”เง้อ จะกวนกันใช่ไหม อยากได้ก็จะจัดไปไม่ให้เสีย“กระผม..นายเฉลิมฉลองขอรับ”
พี่ไก่หัวเราะร่วนเชียว สบายจริงนะหยุดงานไปทั้งวันแล้ว...แต่เขาไม่สบายไปด้วย ทำงานคนเดียงเหงาจะตาย
“โทรมามีไรพี่ ผมกำลังจะกลับ”
“วันนี้มีใครมาทำงานบ้าง....” แน้..มีหน้ามาถาม เป็นหัวหน้าประเภทไหนทิ้งงานไปทั้งวันแต่โทรมาถามตอนเย็นเพื่อ.......
“มีผมมาคนเดียว...คนอื่นไม่มีใครมาเลย”
ไอ้พี่ไก่เงียบไปสนิทคงนึกไม่ถึงว่าจะพร้อมใจกันโดดงานกันหมดทุกผู้ทุกคนขนาดนี้ เลยครางเสียงอ่อยๆ
“อะเหรอ....ตายห่า...นึกว่าจะมากันบ้าง แล้ว...แล้ว...มีใครโทรมาหาพี่ไหม”
ผมต้องใช้เวลาไปรื้อโน้ตที่จดวันนี้ทั้งวันมาดู “เดี๋ยวนะพี่...มากมาย” ของพี่ไก่เยอะจริงๆครับ ทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัว
“ที่โทรหาพี่ไก่นะ...น้องจิ๊บ..” พี่ไก่ขานรับ “อืม..”แต่ผมไม่รู้ว่าจดหรือเปล่า “เดี๋ยวพี่ไก่ยังไม่หมด"
“น้องต้อย พี่แมน พี่ฟอง....เอาอีกป่าวเยอะนะแต่ผมจดๆโน้ตแปะไว้ที่โต๊ะพี่หมดแล้ว พรุ่งนี้มาดูแล้วกัน”
เลิกงานแล้วเขาอยากกลับ ไม่อยากยุ่งเรื่องธุระใครอีก
“เดี๋ยวก่อน..พี่แมนโทรมาด้วยเหรอ พี่แมนบอกว่าไงอ่านให้พี่ฟังหน่อย”เสียงพี่ไก่ตื่นเต้นมาก
หรือว่าพี่แมน...พี่แมนที่...พี่แมนเป็นใครวะ...ไม่รู้จัก ไหนดูโน้ตก่อนว่าสั่งว่าไง
“แป๊ปนะพี่...พี่แมนบอกว่า...ให้พี่ไก่ไปหา...ที่...ไหนหว่า..ร้าน...คร่อกคร่อก...ร้านอะไรน่ะพี่ชื่อทุเรศมากเลย”
คนดีหรือคนบ้าวะตั้งชื่อร้านคร่อกๆ เสียงพี่ไก่หัวเราะก้าก อารมณ์ดีจริงๆ สงสัยมีคนชวนกินเหล้า
“ร้านเหล้าของเพื่อนพี่เองแนวดีนะ แนวประสาท ฮ่าๆเดี๋ยว....แล้วไอ้แมน เค้านัดวันไหนเหลิม กี่โมง”
“พี่แมนนัด...วัน...นี้...เวลา....เวลานี้ล่ะพี่ แหะๆ..พี่ไปเลยนะ หกโมง ที่พี่แมนนัด”
เสียงพี่ไก่สบถ....ดังลั่น “แล้วทำไมไม่บอกไวๆ..ไอ้เหลิมนี่...พี่ต้องรีบไปแล้ว”
พี่ไก่วางหูไปอย่าง...ไร้ซึ่ง...คำขอบคุณให้ผมสักคำ
คนเรา มาดึงเค้าไว้ให้พูดเรื่องตัวเองตั้งนาน คำขอบใจสักคำไม่มี ไอ้พี่แล้งน้ำใจ
แต่ว่า....จะบ่นไปทำไมตัวเขาเองก็มีนัดนี่หว่า รีบไปดีกว่า
กว่าเขาจะไปถึงโรงพยาบาลก็ทุ่มกว่า หิวข้าวเป็นบ้า....ไม่ใช่เรื่องของเขาเลย ทำไมต้องมาเยี่ยมพี่ตั้งด้วยก็ไม่รู้
แต่เขายังไม่ลืมซื้อของไปเยี่ยม..ก็กะว่ากินด้วยได้นี่ล่ะ
ครั้นพอไปเห็นหน้าคนป่วยที่แสดงสีหน้าเมื่อเห็นเขา แล้วมีความสุขก็แอบปลื้มใจ ทักพี่ตั้งไปคำ
“พี่กระดิกหางทำไม...เอ้ย...ยิ้มทำไม?” บ้ารึเปล่าวะยิ้มซะปากฉีก
“ดีใจที่เหลิมมาเยี่ยม...เหนื่อยมั้ย?”พี่ตั้งถามแปลก ทำงานมาทั้งวัน นั่งรถมานี่ก็โคตรติด บอกไม่เหนื่อยก็โกหกแล้ว
“เหนื่อยสิ...หิวด้วย...พี่กินข้าวยัง?”
พี่ตั้งไม่ตอบมองหน้าเขาแล้วก็ยิ้ม เอ...หัวโขกกระจกจนสติแตก หรือคิดอีกทีอาจเป็นไปได้ที่วันนี้เขาน่ารัก
ปกตินี่เขาน่ารักมาตลอด วันนี้ก็ไม่แตกต่าง ไม่แปลกตรงไหน
“เอ้า...ยิ้มเข้าไป..ถามก็ไม่ตอบ สมองกระทบกระเทือนเหรอพี่?” กวนตีนคนป่วยนี่จะบาปมั้ย ก็นะ หน้าพี่ตั้ง...เอ๋อน่ากวนจริงๆ
“หิวข้าว..กินข้าวก่อนนะพี่” เดินไปรื้อหาจานช้อนที่โต๊ะ
เสียงพี่ตั้งพูดไปหัวเราะไป เออสติคงเสียจริงๆ “พี่ก็นึกว่าเหลิมซื้อมาเยี่ยมพี่ ตกลงซื้อมากินเองเหรอ”
ชักอายว่ะ...นึกว่าพี่ตั้งไม่ได้สนใจว่าเขาถืออะไรมาด้วย เลยต้องพูดแก้ตัวอุบอิบ
“ซื้อมาเยี่ยม แต่เห็นพี่ไม่ตอบว่ากินข้าวรึยัง ไม่ตอบถือว่ากินแล้ว ก็กลัวของเสีย นี่ช่วยกินกันเสีย ผมช่วยพี่แท้ๆเลย”
พี่ตั้งหัวเราะ “โอเคๆ...งั้นช่วยพี่ พี่หิว แต่พี่กินแล้วจริงๆ ถึงแม้จะกินไปนิดเดียวเพราะรอเหลิมอยู่”
*********************
![Embarrassed :-[](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/embarrassed.gif)
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ