********** ตอนพิเศษ 4 (อวสาน) **********
“เอ่อ....ก็หลายๆ อย่างนะครับ เรื่องที่ว่าทำไมพี่ไปเจอกันได้” ผมตอบตามตรงไป
“...............ก็ ตอนแรกต่อเค้าน่าสงสารสุดๆ เลย ตอนนั้นทั้งๆ ที่เรื่องเรียนก็ยากมากแล้ว
แต่ต่อก็ดันมีปัญหาชีวิตส่วนตัวอีก สภาพดูไม่ได้เลยละ ทั้งกลายเป็นขี้เมา ร้องให้แทบจะทุกวัน
ไหนจะคนที่ชื่อบอลนั่นอีก ก็เห็นแก่ตัวมาก เค้าไม่ยอมตัดขาดจากต่อทั้งๆ ที่ตัวเองมีแฟนแล้ว
พอต่อจะเลิกก็ดันมาอาละวาดอีก ทำเอารูมเมทคนก่อนของต่อ ประสาทเสียไปเลย”
“...........แล้วพี่ก็เลยเข้าไปช่วยดูแลต่อใช่ไหม” ผมแกล้งถามลองเชิง
พี่เบิร์ดมีสีหน้ายิ้มๆ แก้มแดงระเรือขึ้นเล็กน้อยพอได้ยินคำถามผม
“ก็......เป็นคนไทยเหมือนกัน แถมยังรู้จักกันมาก่อน เลยต้องเข้าไปช่วยนะละ” พี่เบิร์ดตอบเลี่ยงๆ
“...............พี่เบิร์ด ผมถามจริง พี่ก็รู้นิว่าต่อเค้าคิดยังไงกับพี่ แล้วพี่ละ พี่ชอบต่อบ้างหรือเปล่า” ผมถามยิงเข้าประเด็นเลย
พวกเรามีเวลาน้อย ผมไม่อยากให้เสียเวลามาก การถามตรงๆ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
“...................” พี่เบิร์ดเงียบแทนคำตอบ
ผมก็ไม่ได้ถามต่อ เราสองคนเดินกันเงียบๆ เข้าไปในป่า ตามหลังนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เข้าไป
จู่ๆ พี่เบิร์ดก็พูดขึ้นมาเองว่า
“พี่ก็ไม่รู้ซิเบส..............พี่ไม่ได้รังเกียจต่อเค้านะ ............จะว่าไปพี่รู้สึกดีๆ กับต่อเสียด้วยซ้ำ.........”
พี่เบิร์ดหยุดเว้นจังหวะก่อนจะพูดต่อว่า
“แต่พี่ก็ไม่แน่ใจ พี่กลัว กลัวว่ามันจะไม่ใช่ความรัก............”
“แล้วพี่ก็จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปหรือครับ” ผมถามกลับไป
“............พี่ก็รู้ พี่ไม่อยากทำให้ต่อเค้ารอเก้อเหมือนกัน.......แต่พี่ก็กลัวว่า ถ้าพี่รับรักไปง่ายๆ แล้วมาวันนึง พี่รู้ตัวว่ามันไม่ใช่ สุดท้ายจะเป็นการทำร้ายต่อเสียเปล่าๆ” พี่เบิร์ดพูด
“แต่ตอนนี้มันก็เป็นการทำร้ายต่อทางอ้อมแล้วนะครับ เค้ารักพี่ เพราะพี่ดีกับเค้า เค้าถึงอยากจะทำอะไรหลายๆ อย่างให้พี่...........การรอคอย มันทรมานนะครับ”
“พี่เข้าใจ” พี่เบิร์ดแทรกขึ้นมา
“พี่รู้ ว่าต่อเค้าก็ทรมานที่ต้องรอ ...........แต่พี่ก็กลัวนะ กลัวว่าต่อจะแค่ซึ้งใจที่พี่ทำดีด้วย เค้าอาจจะไม่ได้รักพี่จริงๆ หรือเปล่า ถ้าวันนึง เค้าเปลี่ยนใจละ แล้วพี่จะทำยังไง”
พี่เบิร์ดเงียบไปซักพัก ก่อนจะพูดต่อว่า
“สมัยก่อน...พี่เคยคิดว่า แค่รัก สามารถเปลี่ยนแปลงคนได้ แค่รักสามารถทำให้คนเรามีความสุขได้....เบสก็คงคิดว่าความคิดแบบเด็กๆ ซินะ
............พอพี่โตขึ้น ถึงได้รู้ว่าพี่คิดผิด เมื่อก่อน......พี่เคยมีความรัก พี่ทุ่มเทให้คนๆ นึงหมดใจ .....
แต่สุดท้าย คนที่ดิ้นรน ทุรนทุรายจะเป็นจะตายให้ได้ ก็มีแต่พี่ เค้าไม่เคยรักพี่มาก่อนเลย”
“.........คนๆนั้นคือใครหรือครับ .....เพราะผิดหวังในรักครั้งนั้นพี่เบิร์ดก็เลยปิดใจตัวเองมาตลอดเลยงั้นหรือครับ” ผมถามกลับไป
“ก็ไม่ถึงกับปิดใจตัวเองหรอกนะ....แค่กลัว ไม่อยากเจ็บแบบนั้นอีกแล้ว.........
ตอนนั้นพี่ยังเรียนอยู่ ชั้นม.6เอง คนๆ นั้นเป็นเพื่อนสนิทของพี่.......
พี่มารู้ที่หลังว่า เค้าแค่ต้องการให้พี่คอยรับใช้เค้าเท่านั้นละ เค้าก็เลยมาทำดีกับพี่
ทำให้พี่คิดว่าเราสองคนรักกัน เพื่อที่พี่จะได้ทำดีกับเค้า
ตอนนั้นพี่ยอมคนๆ นั้นทุกอย่างเลยนะ ทั้งช่วยทำรายงาน ทำการบ้าน เลี้ยงข้าว พาไปดูหนัง
พี่เพ้อฝันถึงขั้นอยากจะอยู่กินกับคนๆ นี้ไปชั่วชีวิตเลยด้วยนะ หึหึหึ ขำชะมัด เพ้อมากเลยตัวพี่ในสมัยก่อน”
“เลวชะมัด มันเลวมากเลยนะ .....เอาความรู้สึกคนอื่นมาเล่นแบบนี้ นี่มันไม่เรียกว่าเพื่อนสนิทแล้วนะ” ผมอดจะสบถออกมาไม่ได้ เมื่อได้ยินเรื่องราวแต่หนหลังของพี่เบิร์ด
“.......แต่ทุกวันนี้เค้าก็กลับใจได้แล้วนะ เพราะจริงๆ เค้าก็เป็นคนดีมากๆ คนนึงเลยละ แต่เป็นคนน่าสงสาร ขาดความอบอุ่น ทำให้เค้าทำเรื่องแย่ๆ แบบนั้น............เมื่อ 3ปีก่อน พี่เคยบังเอิญเจอเค้าคนนั้น เจอในสภาพที่แย่สุดๆ เลยละ
เค้ามาขอโทษพี่ใหญ่เลยนะ ที่เคยทำไม่ดีกับพี่ไว้ สุดท้าย กรรมก็สนองเค้า.....เอาเถอะ ทุกวันนี้ พี่ไม่ติดใจอะไรแล้ว เราสองคนกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้งแล้ว เห็นว่าในที่สุด เค้าก็รักเป็นแล้วละ”
“พี่เบิร์ดนะ...ใจดีแบบนี้เรื่อยเลย ......ทีกับคนอื่นใจดีได้ แต่กับคนที่รักตัวเอง ทำไมใจร้ายจังครับ”
“.........พี่ก็มีความเห็นแก่ตัวแบบของพี่นะ พี่ไม่ใช่คนดีนักหรอกเบส.........” พูดถึงตรงนี้พี่เบิร์ดก็ยิ้มออกมา
“จะว่าไป เพราะเรื่องของโต้งกับเบสนะละ ทำให้พี่เชื่อมั่นในรักอีกหน ต้องขอบใจทั้งสองคนเลยนะ”
พูดถึงตรงนี้ พวกผมก็เริ่มได้ยินเสียงน้ำตกแล้วละ เราคงเดินมาใกล้ถึงน้ำตกแล้ว มีคนเดินสวนทางกลับไปทางที่พวกเรามาบ้างประปราย
พวกต่อกับโต้งก็เร่งฝีเท้าตามมาติดๆ จนในที่สุดพวกเราก็รวมตัวกันอีกครั้ง
ไกด์พาพวกเราเดินข้ามโขดหิน เพื่อไปยังน้ำตก ช่วงเดือนนี้ น้ำยังไม่เยอะนัก แต่ก็ยังมีเยอะพอที่จะดูออกว่าเป็นน้ำตก เห็นว่าถ้าเป็นช่วงเดือนหน้า น้ำจะเยอะกว่านี้
คณะของพวกเรา แวะเล่นน้ำกันที่นี่ บางคนก็ถอดเสื้อลงไปเล่นน้ำตก บางคนก็แค่ถอดรองเท้าแกว่งขาเล่น
สายน้ำที่ไหลเทลงมา รวมตัวกันเป็นบึงเล็กๆ แล้วไหลผ่านไปตามทางเป็นทางเดินน้ำ และสุดท้ายก็รวมกันออกไปที่คลอง
บึงน้ำค่อนข้างลึก และน้ำก็เย็นจัด ต่อชวนพวกเราลงไปเล่นน้ำกัน แต่ผมกลัวหนาว เลยไม่ลงไป มีแต่โต้งกับต่อที่ลงไปเล่นน้ำตกกัน
ในบางจุดมีเชือกห้อยลงมาจากต้นไม้ใหญ่ข้างทางด้วย ไว้ให้นักท่องเที่ยว โหนตัวกระโจนลงน้ำเล่นกัน เป็นที่สนุกสนาน สำหรับคนที่ชอบผจญภัยพาดโพน
ผมกับพี่เบิร์ด เลือกโขดหินที่สะอาดและแห้ง นั่งเล่นน้ำกันเบาๆ ข้างตัวพวกเรามีเสื้อของต่อกับโต้งวางพับอยู่
ส่วนสองหนุ่มนั่นก็กำลังสนุกกับน้ำตกกันใหญ่เลยเชียว
“หึ มาทะเล แต่กลับมาเล่นน้ำตกกันก่อนทะเลซะอีก” ผมพูดอย่างขำนิดๆ
“นั่นซินะ.....เล่นกันเป็นเด็กเลย” พี่เบิร์ดขำตามผม
“ต่อนี่เค้าหน้าตาดีนะ มีคนมาชอบเค้าเยอะไหมที่โน่น” ผมแกล้งเนียนถามพี่เบิร์ดต่อ
“ก็....มีบ้างนะ ฝรั่งบางคนก็ชอบคนเอเชีย ต่อเค้าก็ป๊อบพอตัวนะ นิสัยก็ดี มีน้ำใจช่วยคนอื่น เรียนก็ดีพอตัว แถมยังเป็นนักกีฬาด้วย”
“แล้วทำไมพี่เบิร์ดไม่สนใจต่อละ”
พี่เบิร์ดนิ่งไปก่อนจะพูดว่า
“ก็ไม่รู้ซิ...........มีบ้างบางทีที่พี่ก็อยากจะเปิดใจรับต่อเข้ามานะ ....
แต่ตอนนี้ ต่อเค้ายังแค่เหงานะละ เหงาจากการโดนแฟนเก่าทำร้ายจิตใจ ใครไปทำดีด้วยเค้าก็คงชอบหมดละ
พี่ไม่อยากทำให้พวกเรามองหน้ากันไม่ติดถ้าเราไปกันไม่ได้ คิดว่าคบกันแบบนี้ต่อไปน่าจะดีกว่านะ”
“แล้วพี่ไม่เสียใจหรือ พี่คิดมากไปเองหรือเปล่า พี่จำได้ไหม วันที่ผมกับโต้ง แยกทางกัน เพราะผมแคร์สายตาคนรอบข้าง วันที่พี่ให้กำลังใจผม พี่บอกผมไว้ว่าอะไร และพี่ยังพูดประโยคนั้นกับโต้งอีก ผมรู้นะ โต้งเค้ามาเล่าให้ผมฟัง”
ผมเว้นจังหวะก่อนที่จะพูดเน้นย้ำคำสำคัญ
“เบสจะเสียใจไหม ถ้าซักวันนึงเบสมามองย้อนกลับไป ในวันนั้น วันที่เบสสามารถที่จะสร้างความสุข ให้ทั้งกับตัวเองและคนที่เบสรักได้ แต่เบสไม่ทำ
...........ประโยคนี้ละที่พี่พูดกับผม และทำให้ผมคิดจะทำตามที่ใจต้องการ” ผมพูดถึงคำพูดที่พี่เบิร์ดเคยสอนผม
พี่เบิร์ดที่ได้ยิน ถึงกับนั่งเงียบ มีสีหน้าและแววตาที่เหม่อลอย มองไปข้างหน้า
ผมไม่พูดอะไรต่อ ผมคิดว่า ผมพูดสิ่งที่ควรพูดออกไปแล้ว คำพูดประโยคนั้น เคยช่วยให้ผมได้คิด
ผมหวังว่าวันนี้ คำพูดประโยคนั้นจะช่วยให้พี่เบิร์ดได้คิดบ้าง
เราสองคนนั่งอยู่เงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร ในขณะที่รอบๆตัวพวกเรา มีแต่เสียงโหวกเหวก เสียงหัวเราะหยอกเอินของคนที่มาเที่ยวน้ำตก
“ถ้าวันนั้น” จู่ๆ พี่เบิร์ดก็พูดขึ้น
“ถ้าวันนั้น.....” ผมพูดย้อนทวนคำพี่เบิร์ด
“เปล่า....ไม่มีอะไรหรอก” พี่เบิร์ดพูดแล้วก็หันมายิ้มให้ผม
สีหน้าพี่เบิร์ดดูดีขึ้น ผมแอบเชื่อจากใจลึกๆว่า พี่เบิร์ดน่าจะได้คิดแล้ว
บางที ผมกับโต้งอาจจะยุ่งไม่เข้าเรื่อง ถึงไม่มีพวกเรา ซักวันพี่เบิร์ดก็ต้องคิดได้อยู่แล้วละ
สัญชาติญาณของผมบอกว่า ไม่เป็นไรแล้วละ
ผมยิ้มตอบกลับไป
“สวัสดีครับ มานั่งเล่นอะไรกันแถวนี้ ผมนั่งด้วยได้ไหมครับ” ไกด์ท๊อป เดินเข้ามาทักพวกผม
-----------------------------------------------------------------------------------------
ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวาย นั่งเล่นได้ไม่นาน แว่บมาโพสให้แค่นี้นะครับ