มีดราม่าด้วยอะ เป็นของเพื่อนฝูงนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าทำเอาไม่ได้นอนเลย กลับมาก็อยากลงบันทึก หึหึหึหึ
******************************************************************************
หน้าที่ 43 วรรคที่ 4
จากนั้นผมนั่งลงข้างๆเตียง ส่วนวากดิษขยับมานั่งด้านหลังผม
“ พ่อ นี่ดึกมากแล้วนะ นอนก่อนดีไหม ” ผมบอก
“ ข้านอนมาทั้งวัน ตอนนี้ไม่ง่วงเลย ..... ที่สำคัญถ้าข้าไม่พูด ถ้าดิษจะมองเองเป็นคนแบบนั้น มันไม่ยุติธรรมสำหรับเอง ”
“ แบบไหนดิษ มองเป็นคนแบบไหน ” ผมหันไปหาวากบ้า มันถอนหายใจเบาๆ
“ คือพี่บอกพ่อว่า ..... คิมมักจะหนีปัญหากลับมาที่ไร่ ไม่ยอมถามพี่ตรงๆ ”
“ ก็ใช่ แต่มันก็ไม่ถูกทั้งหมดนะเว้ย ” ผมบอกวากดิษ คืออีกเรื่องคือคนดูแลไร่นี้ไงครับ
“ พวกเองไม่พูดจากันเรื่องอะไร ” สงสัยพ่อผมคงจะจัดการปัญหาของผมสองคนก่อนจะพูดเรื่องสำคัญ
“ ผมเห็นดิษอุ้มเด็กแล้วก็ร่าเริง ผมไม่เคยเห็นเค้ายิ้มมีความสุขแบบนั้นอะ ..... ก็เลย ”
“ นั่นเป็นหลานของแจง พี่ก็อุ้มเอาใจพ่อของเค้าเฉยๆ ”
“ เอาจริงเอาจังไปไหม ” ผมถามต่อ
“ เดี๋ยวนะๆ ข้าวกล้องแกมีความคิดจะมีลูกเหรอ ” วากบ้าชักสีหน้าจริงจังละครับ
“ พ่อครับ ผมไม่ชอบเด็ก ..... ถ้าผมมีลูก ชีวิตตอนเด็กของผมจะไม่มีวันหายไปจากหัวของผมแน่ แล้วผมก็ไม่คิดเอาเด็กมาลบปมด้อยตัวเอง ” รู้สึกจะเท่ เอ้ย เด็ดเดี่ยวไปไหมพ่อวากข้าวกล้อง
“ เรื่องหุ้นล่ะ ” ข้ามหัวข้อนี้ไปไวจังอะ
“ ยังไม่จบนะพ่อ ”
“ เออน่า ข้าจะเล่าทีเดียว ข้าว่ามันตอบเรื่องคาใจพวกเองได้ ” อะไรจะสารพัดประโยชน์ขนาดนั้น
“ เรื่องหุ้นผมไม่ได้หลอกคิมครับ ผมยังบอกเค้าทั้งหมดไม่ได้ ...... นี่อ่านสิ ” วากดิษสะพานกระเป๋าอยู่ เค้าดึงเอกสารซองนึงออกมา แล้วส่งให้ผมอ่าน
“ อะไรเนี่ยหุ้นส่วนอะไร ” ผมอ่านคร่าวๆก็ตกใจนะครับ เพราะในนี้เขียนทำนองว่าดิษตกลงมอบผลประโยชน์ที่หาได้จากห้างโดยการทำงานของเค้าให้ผมครึ่งนึงแล้วก็มีสำเนาใบโอนสิทธิของผมอยู่ด้วย
“ พี่เคยให้โฉนด บัญชีธนาคารไว้กับคิมตอนแต่งงาน จำได้ไหม ” เออแฮะ
“ อืม ”
“ คิมไม่ได้เปิดดู ไม่ได้เอาบัญชีไปปรับเล่ม เลยไม่รู้ว่าพี่ทำตามที่สัญญามาตลอด ” ผมเริ่มคิดตามช้าๆ
“ งั้น ..... ทำไมต้องขอสิทธิของเราล่ะ ”
“ หนังสืออันนั้นพี่ใช้ขู่หุ้นส่วนคนอื่นว่าพี่ได้สิทธิขาดถอนสิทธิกลับไปไม่ได้ นอกจากช่วยให้เค้าฟังพี่ พวกนั้นก็จะไม่ไปรังควาญคิมกับพ่อของแจงด้วย ” ตอนนี้ความรู้สึกเหมือนมีน้ำมันราดลงที่กองไฟ เรื่องมันสว่างจนแสบตาเลยแหละ เหอะๆ
“ ทำไมคิดทำคนเดียวไม่บอกเรา ”
“ ก็ มันเป็นภาระของพี่ไม่ใช่เหรอ ..... ” พ่อของผมฟังอยู่เงียบๆ ก่อนจะขอให้หยิบน้ำให้ สงสัยตั้งท่าเตรียมเล่าเรื่องละครับ
“ ข้าวกล้อง ..... คิม ฟังนะ เมื่อก่อนตอนคิมเล็กๆ คิมสนิทกับข้าวกล้องมาก เวลานั้นปู่กับย่าของลูกเค้าให้แฟนเก่าของพ่อมาไล่แม่ไปจากไร่ แม่ของลูกเสียใจเลยหนีพ่อไป ” ที่แท้เป็นเรื่องนี้เอง
“ ครับ แล้วยังไงต่อ ”
“ ตอนนั้นเคนถูกปู่กับย่าขอไปเลี้ยง แคทยังไม่โตเท่าไร ...... คิมน่ะท่าทางเหมือนเด็กไม่เต็ม ส่วนคิงยังไม่เกิด ”
“ อะไรนะพ่อ ”
“ ครอบครัวของพ่อเลือกเอาเคนไป แต่ไม่เลือกคิมไปเลี้ยงเพราะสาเหตุนี้ ” พ่อของผมเริ่มหน้าแดงๆครับ ผมเลยเลือกไม่ขัดดีกว่า เอาไว้ถามทีเดียว
“ ข้าวกล้องมันดูแลคิมดีนะ ถ้านับว่าเป็นแค่เด็ก ข้าก็เลยรักมากอยากได้มันมาเป็นลูกคนโต เผื่อเคนไม่มีโอกาสกลับมา พ่อคุยกับแม่เองก่อนจะหนี แต่แม่ไม่ยอม บอกว่ามันยังมีพ่อแท้ๆ ไม่ควรไปแย่งเอาลูกคนอื่นมา ” เล่าตรงกันกับที่แม่ผมเล่าเลยครับ
“ ผมขอบคุณจริงๆครับพ่อ ” อันนี่วากดิษพูด
“ ทีนี้ ตอนที่แม่เองหนีไป ข้าไม่อยู่ไร่ พอกลับมารู้เรื่องก็เลยไปให้ไอกอง (น้องชายแม่ผมเอง - น้าเค้าอยู่ที่ไร่ตลอด ผมอาจจะเคยพูดถึงชื่อแบบผ่านๆ) ไปหาทางพาแม่เองกลับมา เพราะแม่เองน่าจะเข้าใจผิดว่าข้าจะกลับมาอยู่กับแฟนเก่า แฟนเก่าข้าเป็นรุ่นน้อง ได้เป็นอาจารย์มหาลัย ย่าของเองน่ะเคยมาจิกหัวด่าแม่ของเองว่าชั้นต่ำ ไม่มีการศึกษา แต่แม่เองก็ทนมาตลอด ในที่สุดก็หมดความอดทน” มิน่าพ่อของผมถึงไม่ให้ผมเรียกท่านแบบคนจีน ที่แท้เพราะพวกเค้าทำร้ายแม่ผมนี่เอง
“ ข้าคิดจะให้ลูกคนนึงตามไอกองไปพาแม่เองกลับ .... ฮึ ....... ฮึก ” ทำไมต้องสะอื้นอะ
“ พ่อ ..... พ่อครับ พ่อเป็นอะไร ” พ่อของผมน้ำตาไหลออกมา ใจของผมเหมือนโดนบีบจนผมพูดแทบไม่ออก เรื่องนี้มันอัดแน่นในอกของพ่อผมขนาดนี้เชียวเหรอ
“ ข้าเลือกให้เองไป ..... ฮึก เพราะแม่เองจะต้องเห็นใจเด็กที่ไม่เต็ม ฮืออ .... แล้วกลับมาที่ไร่ ” ดิษถอนหายใจพรวดๆ แล้วเอาทิชชู่ไปซับน้ำตาให้
“ พ่อครับ เราพักก่อนดีไหม ” วากดิษดูจะยังอารมณ์เย็น แต่ผมน่ะสติลอยไปลอยมาคว้าไม่เจอแล้ว
“ ไม่หรอก ข้าอยากเล่าให้จบ .... ฮึ ฮึก น้ำตาให้มันไหลไป ”
“ อย่างงั้นเล่าต่อเถอะครับ ” วากบ้าเดินกลับมานั่ง
“ ข้าน่ะสอนเองพูด ฮึกก .... สอนให้พูดว่ากลับมาอยู่กับพ่อนะ ฮึก ข้าสอนเองอยู่สามวันจนเองจำขึ้นใจ .... ฮือ ข้าจำได้ว่าก่อนไปข้ายังขู่เองว่า ถ้าแม่ไม่กลับมา .... ข้าจะส่งข้าวกล้องไปอยู่ที่อื่น ” ผมเองก็เริ่มจะน้ำตาซึมแล้วครับ วากดิษขยับมากุมมือผมเอาไว้ พร้อมกับกระซิบบอกผมว่าใจเย็นๆฟังให้จบ
“ เองร้องไห้ ...... บอกข้าว่า เองก็คิดถึงแม่ แต่อย่าไล่ข้าวกล้องไป .... เองจะพาแม่กลับมาให้ได้ เองยืนขอข้านานมาก ..... แม้แต่ขึ้นรถไปกับไอกองเองก็เอาแต่ถามไอกองว่าข้าวกล้องจะโดนไล่ไหม ฮือ ” ระหว่างที่เล่า พ่อผมร้องไห้น้ำตาไหลออกมามากเหลือเกิน ผมแทบจะทนไม่ไหว อยากขอให้พ่อหยุดเล่า ไม่ใช่เพราะโกรธที่พ่อว่าผมไม่เต็ม แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงเสียใจขนาดนี้
“ พอไปถึงบ้านของแม่เอง .... ไอกองเล่าว่าแม่เองไม่ยอมกลับ ... ฮึก เองอดข้าวจนกระเพาะมีปัญหา ฮืออ แต่เองเอาแต่พูดว่าแม่กลับมาอยู่กับพ่อนะ ฮืออ ตามที่ข้าสอนเองไป ” ถึงตอนนี้ทั้งผมทั้งวากดิษตอนนี้น้ำตาไหลเรียบร้อย ที่กระเพาะอาหารผมมีปัญหาที่แท้เป็นเรื่องนี้เอง และก็ไม่น่าแปลกใจที่ดิษรู้อาการนี้ของผม
“ แม่เองตัดสินใจกลับมา ...... แม่เองบอกกับข้าตอนมาถึง ให้สาบานว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไร ป่วยแค่ไหน ฮือ ..... เองจะทำอะไร พ่อต้องไม่ทำร้ายเองและต้องตามใจเองทุกอย่าง ไม่ให้เองต้องลำบาก ไม่อย่างนั้นแม่เองจะไม่อยู่กับพ่ออีกเลย ”
“ ฮึก ..... แสดงว่าที่พ่อยอมรับผมกับข้าวกล้อง ก็เพราะเรื่องนี้ ” พ่อของผมขยับมาที่สั่นไม่หยุดมาลูบหน้าของผม
“ วันที่พ่อไอข้าวกล้องบอกข้าเรื่องเองสองคน ข้าไม่มีอะไรให้หนักใจ ข้ายอมรับได้เลย แต่ข้าน่ะ เอาความบกพร่องของเองมาใช้ ฮือ พ่อผิดไปแล้ว พ่อขอโทษนะลูก ” ผมขยับไปกอดแขนของพ่อ แล้วก้มลงร้องไห้ มือของพ่อผมยังสั่นหงึกๆเหมือนกันทนปวดอยู่
“ คือ ..... คือ ทำไมตอนนี้คิมดูไม่เหมือนคนไม่เต็มเลยครับ ” คนเค้าจะซึ้งกัน นี่ก็แซมตลอด
“ เฮ้อ หลังจากแม่เองกลับมา ข้าก็พากันไปเลี้ยงฉลอง ..... ที่ภาคใต้ ที่ๆเองเจออุบัติเหตุ ”
“ พ่อ มันไม่เกี่ยวนะ ..... คนทำมัน ...... ” ผมพูด ก่อนจะหันไปมองหน้าวากดิษ
“ ความจริงแล้วผมเป็นคนทำให้คิมหนีขึ้นต้นไม้ ก่อนจะตกลงมาครับ ”
“ ถ้าข้าไม่พาพวกเองไปล่ะ ” พ่อผมนี่โทษตัวเองหมดทุกอย่างแล้วนะเนี่ย อย่างที่ไอเดย์ว่าไว้เลย ว่าพ่อผมดูปลงๆ
“ พ่อ ถึงไม่เกิดที่ใต้ ก็ต้องเกิดจนได้แหละพ่อ ” ผมพูดแทน
“ ตอนนั้นข้าคิดแล้วว่าเองต้องแย่กว่าเดิมแน่ เวรกรรมอะไรของลูกคนนี้ ..... ก่อนนั้นเองก็ไม่เต็ม ไปไหนมาไหนไอข้าวกล้องจะพาไป ” วากบ้าหยิบรูปใบนึงให้พ่อผมดู รูปที่มันพกติดตัวนั่นแหละครับ
“ ใช่แล้ว อันนี้หลังตกต้นไม้ใช่ไหม ”
“ ครับพ่อ ” พ่อของผมยิ้มออก
“ กระทั่งแผลเป็นของมัน เองยังช่วยปิดให้เลย ดีแล้วๆ ” พ่อผมส่งรูปคืน ตอนนี้ไม่ได้สะอึกสะอื้นแล้วครับ
“ แต่มันผิดคาด เองดันกลายเป็นคนละคน จริงอยู่ที่หลงๆลืมๆ แต่เองไม่พูดจาตลกๆเหมือนก่อนหน้านั้น แล้วก็พูดเก่งหัวดี ”
“ งั้นพ่อสบายใจเถอะครับ ตกต้นไม้น่ะดีแล้ว ” วากดิษพ่นออกมา ผมนี่หันขวับเลย
“ ไอดิษ !!!! อย่าๆ ...... พ่อ ทำไมหลังจากนั้นผมถึงไม่ติดไอตัวนี้เลยล่ะ ไหนว่ามันดูแลผมดี๊ดี ” หึหึ คิ้วตกเลยมึง
“ ข้าก็แปลกใจ หลังจากเองเริ่มดีขึ้น เองไม่ติดข้าวกล้องเหมือนก่อนจริงๆ แต่จากนั้นไม่นานพ่อมันก็มารับมันไป ”
“ ครับ ผมก็ร้องไห้มากเหมือนกัน .... ” ผมหันไปยิ้มให้มัน มันก็ยิ้มตอบครับ
“ เฮ้อ .... เองโตขึ้นมา หน้าหวานๆเหมือนแม่ แต่เองนิสัยผิดกันเลย ดื้อมากๆ ส่วนนึงเพราะข้ารักษาคำสาบาน ข้าไม่เคยตี ไม่เคยด่า ไม่เคยห้ามอะไรเอง แต่ข้าน่ะรักเองมากนะ ” ก็จริงอีกครับ มีอยู่ครั้งนึงพ่อเหมือนจะลงมือกับผม แต่ก็ไม่ได้ทำ
“ ผมรู้สึกได้นะครับ เพราะลูกคนอื่นพ่อกล้าปล่อยไปไกลๆ .... แต่คิมน่ะพ่อให้อยู่ใกล้ตัว ” วากดิษนี่ช่างเอาใจนะมึงอะ
“ พ่อ ถ้ารักผมขนาดนั้น ทำไมพ่อไม่ให้ผมกลับมาที่ไร่ แต่เลือกพี่เคน ”
“ ไม่ได้นะ แล้วพี่ ...... ” พ่อของผมพยายามยกมือ ทำนองว่าขอพูดก่อน
“ คิมเอ้ย เคนมันเป็นลูกจ้างงานการไม่มั่นคง ตอนนี้มีเมียมีลูก แต่ลูกยังเล็กไม่ได้เข้าโรงเรียน กลับมาที่ไร่ยังมีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัวได้ทัน ..... แคทเค้านิสัยแบบนั้นคงหาแฟนไม่ได้ง่ายๆ ตัวคนเดียวเค้าไปรอด ....... ส่วนคิงอยากเป็นอาจารย์ มันเรียนมหาลัยมีชื่อ แล้วก็เรียนดี ถ้ามันได้เป็นอาจารย์ข้าก็จะหมดห่วงด้วย ”
“ งั้นผมล่ะพ่อ ” ทำไมโหว่อยู่คนเดียว เนอะ
“ เดิมทีตอนเองยังมีอาการหลงลืม ข้าตั้งใจไว้แล้วว่าเองจะเป็นคนเดียวที่ไม่ต้องทำงาน ข้าจะหาเงินให้เองใช้ได้ตลอดชีวิต ..... เพราะเอง แม่ถึงกลับมา และข้าต้องชดใช้สิ่งที่ทำไว้ ดังนั้นเองต้องเป็นคนที่สบายที่สุด ” ที่แท้ก็แบบนี้
“ พ่อก็ไม่ได้ผิดมากมายซักหน่อย ..... ทำไมต้องร้องไห้ขนาดนั้นด้วย ”
“ เหอะๆๆๆ ” เอ้า จู่ๆก็หัวเราะ
“ อะไรอะพ่อ ”
“ ใครจะไปคิดว่า ดันมีตัวละครโผล่เข้ามาเปลี่ยนทุกอย่าง ” พ่อผมหันไปหาวากบ้า
“ ผมเหรอครับ ” เออ คงไม่ใช่คนอื่นหรอก เหอะๆๆ
“ พอข้าเห็นมันกลับมา ข้าก็คิดจะฝากมันดูแลเองอยู่แล้ว ..... เพราะข้าวกล้องดูมั่นคง ข้ากะให้มันช่วยดูแลเองเหมือนกัน แต่ในเมื่อมันหลงขนาดจะเอาเองทำเมีย ข้าก็ไม่ถือ ”
“ ฮ่าๆๆ ” เอา ฮาเข้าไป
“ ฮุ้ว พ่ออะพูดอะไรไม่คิดถึงคนหล่อมั่ง ” พ่อของผมลูบหน้าของผมอีกครั้ง
“ เอ้อพูดไปแล้ว ...... ข้าไม่คิดเลยว่า เด็กบ๊องที่ไม่เต็มคนนั้น มันจะโตมาแล้วหน้าตาดีขนาดนี้ .... เองกล้ามากที่ไม่คิดอาศัยข้า ทั้งๆที่ข้าพร้อมให้ทุกอย่าง ตอนนั้นเองไปตั้งกลุ่มในหมู่บ้านมีคนยี่สิบสามสิบ ข้ากลัวเองหลงทาง แต่บทจะเลิกเองก็หยุด บางครั้งข้าก็กังวลกับความเด็ดขาดตัดสินใจเร็วของเองนะ ”
“ จะกลับมาเรื่องลูกแล้วใช่ปะ ” ข้ามไปตั้งไกล กลับมาจนได้ ฮุ้ว
“ รู้ทันอีก ไอหมานี่ ” พ่อด่าผมหยอกๆ วากบ้าก็ลูบหัวผมซะงั้น มึงจะรับมุขพ่อกูไปถึงไหน
“ เรื่องลูก ข้าว่าที่เองคาใจไม่หาย คงเป็นเพราะอยู่กับข้าและแม่มาตลอด ..... ตอนเองอายุน้อยกว่านี้ เองทำคนอื่นไว้มาก คงคิดว่าไอข้าวกล้องดูดี มีคนรุมชอบ เป็นพ่อพันธุ์ได้ ก็เลยกลัวมันคิดจะมีลูก ข้าว่าถูกไหม ” อืม พ่อพันธุ์นั่นแหละ
“ ครับ ” ที่ผ่านมา ผมอะไม่เคยชมหน้าตามันหรอกครับ เพราะผมไม่ได้มองเต็มสองตาซักครั้งตั้งแต่คบกัน คือทำนองว่าเห็นหน้ามันแล้วรู้สึกเขินทุกทีเลย
“ เหตุผลที่มันบอกมาก็ส่วนนึง ..... แต่ข้าอยากบอกเองในส่วนของข้านะ การมีลูกมันต้องเกิดจากความรักและความพร้อม ข้าน่ะไม่พร้อม ถ้าเองคิดว่าทำไมข้าถึงมีลูกตั้งสี่คน เพราะอะไรเองฟังนะ คนแรกไอเคนเพราะข้าอยากให้ครอบครัวยอมรับ คนที่สองแคทเป็นลูกสาวแม่เองดีใจมาก ข้าเฉยๆ ส่วนเองนะข้าอยากมีเพราะไอเคนไม่อยู่ แต่พอเห็นเองท่าทางไม่เต็ม ข้าก็ไม่คิดมีอีก ...... เห็นไหมว่าข้าคิดมีลูกทำไม เพื่อความสุขส่วนตัวของข้าทั้งนั้น ถามว่าถ้าครอบครัวข้ายอมรับล่ะ ข้าอาจจะไม่คิดมีลูกก็ได้ ”
“ จริงอ่ะพ่อ ”
“ ทุกๆวันที่พวกเองโตขึ้น จิตใจและร่างกายของข้าจะเสื่อมถอยลงทุกวัน เองจะอดคิดถึงไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว แค่เดินออกจากบ้านข้าก็ต้องแบ่งสมองออกเป็นสองส่วน ทำมันเกิดมาแล้วไม่รักไม่ดูไม่ได้ ...... ข้าอยู่กับความกลัวกับลูกสี่คน ถ้าไม่มีแม่เองที่คอยปลอบข้า ข้าก็ไม่คิดว่าวันนี้เราจะอยู่กันได้ไหม ”
“ แต่พ่อ .... ถ้าไม่มีพ่อกับแม่ ผมจะ .... ”
“ เองศรัทธาอะไรข้าไม่สนนะ สำหรับข้าทุกคนเกิดมาเพราะกรรม ไอเรื่องที่มันไม่สามารถคิดล่วงหน้าได้ เองอย่าไปเอามาติดใจ เองเกิดเพราะต้องเกิด ตอนทั้งสี่คนเกิดข้าไม่รู้หรอกว่าจะหน้าตาท่าทางเป็นยังไงข้าก็เลือกไม่ได้ ถ้าเองไม่อยากอยู่คนเดียว เองก็ต้องหาคู่ ตอนนี้สำคัญเองรักข้าวกล้องมันไหม พร้อมไหมที่จะอยู่ด้วยกัน ..... เรื่องลูกไม่เกี่ยวกับยุคสมัยอะไรหรอก เค้าว่าหน้าที่สืบพันธ์เป็นของคน ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของคน เองทำไม่ได้คนอื่นมันก็จะทำ เองก็ไปหาหน้าที่อื่นทำ ทำให้มันดี ชีวิตคนไม่ได้สุดที่การสืบพันธ์หรอกนะไอคิม ” พ่อผมนี่ร้ายแฮะ ผมรู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูกเลย
“ ผม .... ผมดีขึ้นแล้วครับพ่อ ”
“ ข้าวกล้องก็ด้วย คิมมันไม่ได้จะแค่อยู่เพื่อตัวมันเองนะ .... มันสลัดเขี้ยวเล็บออกไปมาก มันพยายามเลิกนิสัยฉายเดี่ยว เองควรมองมันใหม่ ปรับความเข้าใจกันดีๆ เฮ้อ ..... ข้าคงตายตาหลับแล้ว พวกเองไปนอนเถอะ ”
“ พ่อ นอนนิ่งๆนะ ” ผมเอาผ้าขาวชุบน้ำ เช็ดคราบน้ำตา และขอเปลี่ยนหมอนให้ เพราะหมอนนี่เปียกโชกเลย
“ ดีแล้วลูก ดีแล้ว ” ผมกอดพ่ออีกครั้ง ก่อนที่ดิษก็จะกราบลงที่เท้า จากนั้นเราสองคนถึงเปิดประตูออกมา
“ โห ..... นี่อะไรกันเนี่ย ” ทุกคนที่แยกย้ายกันไปนอน คนงาน ญาติๆ กลับมานั่งอยู่ที่ใต้ถุนกันหมด
“ เป็นไงบ้างลูก พ่อสั่งเสียเหรอ ” แม่ผมนี่มือเย็นหมดแล้ว ผมเดินมาใกล้ๆ
“ พ่อน่ะ เค้ารักแม่ขนาดนั้น ไม่รีบไปไหนหรอก..... คิมขอบคุณแม่นะครับ พ่อบอกผมแล้ว ”
“ หืม เรื่องอะไรลูก ...... เรื่องที่คิมไปตามแม่เหรอ ” ผมยิ้มให้
“ ผมรักแม่นะ ” ผมกอดแม่โยกไปมา พวกที่ยืนงงตาโตเลย เพราะปกติผมไม่มีทางทำแบบนี้ต่อหน้าพวกเค้า พ่อผมบอกแล้วไงว่านิสัยเก่าๆเป็นยังไง
จากนั้นเราก็ขอให้แยกย้ายกันไปอีกรอบ ระหว่างเดินไปบ้านของผม วากดิษไม่ได้พูดอะไร ผมเลยตัดสินใจถามมัน
“ เราคุยกันต่อดีไหมดิษ ”
“ ที่ไหนดี ” ผมมองไปเรือนรับรอง
“ เรือนรับรองดีไหม คุยกันให้หมดทุกเรื่องเลย ”
“ เอาสิ ...... เราจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆซะที ” แบบไหนว้า แฮะๆๆ
*************************************************************************
สองวันนี้อาจจะแค่แวะมาหานะครับ ตามที่บอกว่างานต้องเสร็จงานก่อนวันที่ 15 นี้ ก็เลยต้องดูความพร้อม แฮะๆๆ ส่วนดราม่าของใครก็บอกเลยดีกว่า เป็นของหมอกริชกับแบงค์ครับ ไม่รู้ออกหัวก้อย ดีที่วากดิษอยากไปส่งพี่กริชก็เลยอยู่ห้ามทัพทัน สองคนนั้นหวิดวางมวยกันครับ เฮ้อๆๆ เป็นคู่ที่ยื้อยากมาก เอาไว้ขอคิดดีๆก่อนว่าจะเล่าดีไหม เพราะยังไม่แน่นอน แต่ผมว่ามีอะไรที่น่าคิดมาก อาจจะเคยเกิดกับหลายๆคู่ทั้งหญิงทั้งชายครับ ไหนๆก็นอนไม่หลับ ใครหลงมาอ่านก็ติดไวรัสกริชแบงค์ไปละกัน จะได้อึนด้วยกัน ฮ่าๆๆ
วรรคหน้า ขอเกริ่นก่อนว่า ...... ชอบถามถึงว่าผมหวานกันไหม หวานยังไง ผมว่าตลอดหลายปี วรรคหน้าเป็นอะไรที่ผมไม่อยากพิมพ์ที่สุดเลย เขียนเองอ่านเองยังเขินเลย งืมๆๆ
ปล. ตื่นเช้าเมื่อวาน แกล้งคืนละครับ พี่ท่านเอาแต่อวดเก่งจะไปทำงาน แต่จับหน้าอกตลอด ตอนโดนชนคงจะกระแทกอะ แต่จะโชว์ว่าแข็งแรง ผมเลยบดยาใส่น้ำให้กินซะ นอนหลับเลย เหอะๆๆๆๆ วันนี้เค้าก็ได้พักอีกวัน (ผมก็ไม่เข้า) ตกเย็นก็นัดเจอพี่กริชจนเป็นเหตุให้ไม่ต้องนอนจนเวลาเนี่ย ฮุ้วว
อ่านให้สนุกน้า