ว่าจะมาต่อตอนดึกนิดๆครับ ดันโดนคนเจ็บแกล้งเอายาแก้แพ้ให้กิน หลอกผมว่ายาเนี่ยกินไม่ง่วงเพราะราคาแพง ผมก็ซื่อเชื่อ กินปั้บไม่นานร่วงตุบเลย ตื่นเช้าเลยไง แฮะๆๆ มาต่อให้อีกรอบ บทจะขยันนี่ฉุดไม่อยู่จริงๆ ปรบมือๆ
![:katai2-1:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/katai2.gif)
เหอะๆๆ
***********************************************************************
หน้าที่ 43 วรรคที่ 3
หลังจากที่วากดิษได้ยินผมพูดว่าพ่อ เค้าเดินไปเปิดไฟ แล้วยืนกอดอกมองผม
“ ไม่ได้หนักอะไรขนาดนั้นหรอก แต่กูเห็นว่าพ่อเลี้ยงเรียกพี่เคนให้กลับมาเตรียมดูแลไร่แทน ”
“ .......... ”
“ คิม คิมเว้ย ตอบกูสิวะ ” วากดิษขยับมานั่งกอดผม และขอโทรศัพท์จากผม
“ ไม่เป็นไร ..... จักร พรุ่งนี้กูกลับนะ มึงมารอรับที ”
“ อืม ขอโทษจริงๆนะเว้ย กูคงเมาถึงโทรบอกมึง ขอโทษนะ ” มันวางสายแล้วครับ
“ น้อง เกิดอะไรขึ้น ” วากดิษยังกอดผมอยู่ครับ
“ พ่อป่วยน่ะ ลุกไม่ขึ้น ”
“ ไปหาท่านกันไหม ..... พี่พาไป ”
“ ไม่ต้องๆ เราจะนั่งรถไปเอง ”
“ พี่อยากไปด้วย ” ผมซบลงที่อกของมัน
“ ดิษทำงานของตัวเองให้จบก่อนเถอะ ” วากดิษลูบหัวผมอีกล่ะ ชอบจริงหัวกูเนี่ย
“ งั้นนอนกัน ไม่ต้องกังวลนะ ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นขอให้เชื่อใจพี่ ” อืม ตอนนี้ผมคงไม่มีทางอื่นนอกจากเชื่อใจเค้า
ตลอดทั้งคืนผมนอนไม่หลับหรอกครับ ผมคิดเรื่องสารพัดเลย สิ่งแรกคือทำไมพ่อถึงเลือกพี่เคนไปดูแลแทนถ้าท่านไม่ไหว ผมไม่ใช่คนโลภในสมบัติอะไรหรอกนะครับ แต่ผมเรียนสายนี้มา ต่างกับพี่เคนที่จบสายปกครองทำงานบริษัทที่กรุงเทพฯ อันนี้คงต้องถามแน่ ต่อมาคือ ถ้าผมมีโอกาสกลับไปที่ไร่ เรื่องหุ้นก็จะได้ไม่มีอะไรคาใจผมกับดิษ ถึงแม้มันจะมีอะไรลึกๆ แต่ถ้าผมยกหุ้นให้ไปเลย ก็คงจะจบ ....... และถ้าผมห่างกับดิษ พี่ริชกับพี่พานจะได้มีโอกาสสานรักกันด้วย
“ เมื่อคืนนอนไม่หลับใช่ไหม ” ดิษตื่นมาทำอาหารให้ผมครับ
“ เป็นใครจะหลับลง ”
“ คิดอะไรบ้าง บอกได้ปะ ”
“ มันต้องมีอะไรที่อยากเก็บไว้ส่วนตัวมั่งแหละ ” ผมแกล้งพูดลองใจ จะดูว่ามันจะแสดงท่าทางยังไง
“ ก็จริง ..... แต่พี่น่ะไม่มีกับคิมหรอก ” ตามันใสแป๋วเลยอะ เฮ้อ
“ ผมไปด้วย ” พอเรามาถึงที่ทำงาน ไอเดย์รู้ข่าวเป็นคนแรกรีบมาจองตั๋วเลยครับ ส่วนวากดิษขอไปดูงานก่อน
“ ไม่ๆ พ่อกูป่วยไม่หนัก ”
“ ลุกไม่ขึ้น เรียกไม่หนักเหรอ ผมจะไปอะ ” พี่ริช พี่พาน รวมถึงผู้บริหารบางคนที่สนิทกันก็นั่งร่วมอยู่
“ ทำไมคิมไม่ไปเที่ยวเช้าล่ะ รอเที่ยวบ่ายทำไม ” หัวหน้าบุคคลถามผมครับ
“ มีงานต้องจัดการนิดหน่อยครับ ”
“ ฝากบอกท่านว่า เราจะไปเยี่ยมท่านแน่นอนนะ ” ที่ก็หัวหน้าครับ
“ ขอบคุณครับ ” พวกหัวหน้าคนอื่นๆทยอยออกไปแล้ว เหลือแค่รองริชกับหัวหน้าพาน
“ เดย์พี่ขอคุยกับพี่สองคนหน่อย ”
“ รับปากว่าจะให้ผมไป ครั้งนึงลุงดูแลผม ที่ผมผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ลุงเป็นส่วนสำคัญนะ ”
“ ก็ได้ๆ ไปทำใบลาช่วงบ่ายไป ” มันเดินออกไปละครับ
“ คิมมีอะไรเหรอ ”
“ ผมบอกพี่สองคนเพราะ ..... อยากให้ช่วยดิษ ” เค้าสองคนมองหน้ากัน
“ ทำไมล่ะ ”
“ ที่ไร่อาจมีเรื่องสำคัญต้องเปลี่ยนแปลง ...... ถ้าผมต้องกลับไปอยู่ไร่ พวกพี่ต้องช่วยดิษให้มากนะครับ ”
“ คิมพูดอะไรน่ะ ” พี่ริชชี่ถามผม
“ มันมีเรื่องคาใจ ผมอยากให้มันจบๆไป ”
“ ดิษรู้เรื่องหรือปล่าว ” พี่พานถาม
“ ไม่รู้ ”
“ ถ้าคิมไป พวกพี่ก็จะคบกันได้หมายถึงแบบนั้นเหรอ ”
“ ดิษห้ามพวกพี่ไม่ได้อีกไง ” พี่พานชักสีหน้าเครียดขึ้นมาครับ
“ ทำไมคิมต้องคิดกลับไร่โดยไม่คุยกับดิษ ...... จะให้พี่สองคนคบกันต่อหน้าเค้าเหรอ คิมจะฆ่าดิษหรือไง ”
“ คิม ทุกวันนี้เราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจจะคบกัน ”
“ พวกพี่จะมีโอกาสมากขึ้นไง พอละผมจะไปคุยงาน ” สองคนนั้นหัวเสียเลยครับ แต่ผมเลือกเดินเลี่ยงออกไป เพื่อออกไปที่สำนักงานทนายความประจำห้าง
“ สวัสดีครับพี่ๆ ” พี่ต้นกำลังนั่งอ่านอะไรไม่รู้ครับ เดินออกมารับผม ส่วนลุงทนายก็อยู่ด้วย
“ นั่งก่อนคิม ”
“ พี่ต้น ..... สัญญามอบสิทธิในหุ้นของผมอยู่ไหนครับ” ผมถามก่อนเลยครับ
“ เอ่อ ” ลุงทนายเงยหน้ามอง
“ มีด้วยเหรอ เอาสัญญามาให้ผมดูซิ ” พี่ต้นต้องยอมไปเปิดเอาเอกสารให้ลุงทนายดู
“ คิมไม่รู้เหรอว่า โรจน์มอบหุ้นพร้อมกับโอนสิทธิออกเสียงให้ ”
“ ผมรู้ไม่นานนี้ แต่ดิษขอเอาไปใช้ประโยชน์ ” ลุงทนายมองหน้าพี่ต้น
“ ต้นได้อธิบายรายละเอียดหรือให้คิมอ่านสัญญาที่ว่านี่หรือปล่าว ”
“ อย่าว่าพี่ต้นเลยครับ ผมไม่อ่านเอง ” ลุงทนายก้มลงอ่านอีกรอบ ก่อนจะแปลให้ผมฟัง
“ คิมจะไม่มีสิทธิอะไรเลยจนกว่าจะแปรสภาพเสร็จ พอแปรสภาพเสร็จหุ้นของคิมก็ยังให้ดิษจัดการจนแล้วเสร็จ หมายถึงคิมจะต้องลุ้นว่าดิษจะเอาไปลงทุนยังไง ...... ต้นทำไมมีสัญญาแบบนี้ ใครเป็นคนสั่งให้ทำ ”
“ อย่าตำหนิกันเลยครับ ผมมาวันนี้ไม่ต้องการเอาเรื่อง ”
“ แล้วเอายังไงดี ” ผมลากเก้าอี้มาหาลุงทนาย
“ ผมอยากให้ลุงร่างสัญญาโอนหุ้นให้ดิษทั้งหมด แล้วให้พี่ต้นบอกให้ดิษลงนามรับ ”
“ ไม่นะคิม ดิษไม่รับหรอก ” พี่ต้นตอบออกมา
“ ทำแบบนั้นทำไมคิม ” ผมเล่าเรื่องของพ่อที่ป่วย กับเรื่องที่ไร่ของผมอาจต้องการคนดูแล ซึ่งผมจะอาสาเอง
“ แต่ทำแบบนี้ ไม่รวบรัดเกินไปเหรอ ..... เหมือนคิมจะทิ้งดิษเลยนา ”
“ ผมมีเหตุผลของผม ผมขอให้ลุงช่วย จะได้ไหมครับ ..... ถ้าไม่ได้ผมร่างเองนะครับ ” ลุงทนายจนใจเลยเอาแบบสัญญามาตกแต่งให้ แล้วให้ผมลงนาม
“ ...... ลุงจะคุยกับดิษเอง ต้นมันฟังแต่ที่ดิษขอ ไม่รู้จักอธิบาย ”
“ ทำตามที่ผมขอนะครับ ผมขอตัวกลับไปเยี่ยมพ่อก่อน ”
หลังเสร็จเรื่องทั้งหมด ผมให้ไอเดย์มารอที่หอ ส่วนดิษเองตอนนี้ก็มาอยู่ด้วย
“ พี่จะตามไปหลังเสร็จงานนะ ” ผมยิ้มๆให้ ไอเดย์ช่วยถือกระเป๋านำผมไปก่อน
“ จะโทรหา ”
“ เดี๋ยว ....... คิม ” วากดิษกอดผมแน่นเลยครับ ไม่แค่นั้น มันยังซุกจมูกที่ซอกคอของผมด้วย
“ จั๊กจี้นะเว้ย ”
“ พี่รู้สึกเหมือนครั้งที่คิมจะกลับไร่ ตอนโดนไอโจทำร้าย ...... คิมสัญญากับพี่ก่อนว่าจะไม่หนีพี่ไป ” เอาไงดีวะ
“ เรากลับไปไร่ออกบ่อย ทำเป็นตื่นเต้น ” ในที่สุดผมก็ไม่ยอมสัญญาครับ วากดิษดูไม่สงสัยอะไร เลยขับรถพาผมกับไอเดย์ไปที่ขนส่งเพื่อกลับไปที่ไร่
ผมกับไอเดย์ไม่ได้คุยอะไรกันมากนักระหว่างเดินทาง มีบ้างที่มันคุยเล่นกับไอวินครับ จากนั้นเย็นๆเราก็มาถึงขนส่ง โดยที่ไอจักรรับอาสามาพาเข้าหมู่บ้าน
ไอจักรเล่าว่า พี่เคนมาถึงเมื่อวาน พอถึงไร่หลายคนอยู่ในอาการไม่ค่อยสดใสเหมือนทุกครั้ง ผมมาที่เรือนใหญ่เพื่อเจอแม่ก่อนครับ
“ คิม กลับมาทำไมไม่บอกแม่ล่ะลูก ” แม่ของผมเดินมากอด
“ เดย์ขึ้นไปชั้นบน ทำความสะอาดก่อนไป ” ผมบอก มันก็อยากเจอพ่อผมแต่ก็ฟังผมด้วยครับ
“ แม่ ทำไมไม่บอกคิมว่าพ่อป่วย ”
“แม่ก็ทำตามที่พ่อบอก ..... มาเถอะลูก ” ผมเดินไปที่ห้องด้านล่างซึ่งปกติพ่อกับแม่ผมจะนอนข้างบน
“ แม่รอนะ ”
ผมเปิดประตูเข้าไป ก็เจอพ่อของผมนอนหลับอยู่ ผมของพ่อขาวแล้วเหรอ ผมเอามืออุดปากตัวเองเอาไว้ไม่อยากให้พ่อสะดุ้งตื่น นี่เหรอไม่หนักน่ะ ไอจักรมึงหลอกกูได้นะ
“ อ่ะ แฮ่มมมมม ..... โอ๊ะ ” พ่อของผมกระแอมเหมือนจะไอ แล้วก็ตัวกระตุก ผมรีบวิ่งไปที่เตียง
“ พ่อ ”
“ ไอคิม .... แค่กๆ ” ผมมองหาแก้วน้ำใกล้ๆ เอาหลอดจุ่ม แล้วให้พ่อจิบ
“ ...... เฮ้อ เองมาทำไม ”
“ เกินไปแล้วนะพ่อ ทำไมไม่บอกผม ”
“ ข้าปวดหลัง สติสตางค์ยังดี จะบอกเองทำไมวะ อย่ามางอแงนะ ”
“ พ่อลุกไม่ขึ้น ขยับตัวก็ไม่ได้ เกิดจากอะไรพ่อ ” พ่อผมเอนหัวลง
“ เวรกรรมคงตามมาแล้ว ข้าเคยเห็นพ่อไอข้าวกล้องนอนพะงาบก็คิดถึงชะตากรรมตัวเองนานแล้ว ”
“ อะไรกันพ่อ ”
“ เราเลี้ยงวัวเลี้ยงสัตว์ส่งให้เค้าฆ่า ไม่ทำกรรมตรงๆก็ทำอ้อมๆ ..... เองก็ต้องมีปัญหาที่กระดูกก็เพราะพ่อทำกรรมไว้มาก ”
“ พ่อ ”
“ ช่างเถอะลูก .... มันเป็นกรรมของพ่อ ” พ่อของผมมีปัญหาที่กระดูกหลังทุกส่วนเลย วันเกิดเหตุพ่อผมปวดร้าวจนก้าวขาไม่ได้ กลิ้งตกลงมาจากบันได สลบไปวันนึง วันที่ไอจักรโทรไปน่ะพ่อผมฟื้นแล้ว แต่ลุกไม่ได้ พอผมเห็นอาการพ่อเลยไม่ถามเรื่องของพี่เคน ผมรอไอเดย์มาสวัสดีพ่อ แต่พอเห็นเข้ามันก็ยกมือไหว้แล้วเดินร้องไห้ออกไปเลย
“ ข้าวกล้องล่ะ ”
“ ติดงานครับ ”
“ งั้นทำไมเองไม่ติด ..... ข้าให้หุ้นเองไปแล้วไม่ใช่เหรอ เองน่าจะได้ตำแหน่งอะไรบ้าง ” ผมก้มหน้าลง ผมคงต้องบอกพ่อ
“ พ่อ ...... ผมโอนหุ้นให้ดิษไปหมดแล้ว ”
“ ว่าอะไรนะ โอ๊ะ ...... โอย ให้ไปแล้ว ” พ่อของผมตกใจมากเลยครับ
“ ขอโทษนะพ่อ คิมไม่มีทางเลือก ”
“ เฮ้อ มันเป็นของขวัญที่พ่อข้าวกล้องให้เองเป็นของขวัญแต่งงานนะ ..... ทำไมไม่เก็บไว้ ”
“ พ่อพักผ่อนเถอะนะครับ ” พูดไปมันจะไม่จบอะครับ ชิ่งดีกว่า
ผมเดินออกมาจากห้อง ก็เจอพี่เคนกำลังนั่งอยู่
“ สวัสดีเฮีย ”
“ ไงวะ ” พี่เคนสวมกอดผม ผมร้องไห้กับพี่เคนอยู่พักใหญ่เลยครับ ก่อนจะพอกันเดินออกไปชมไร่คุยปัญหากันต่อ
“ ทำไมข้าวกล้องไม่มาวะ ”
“ ผม ..... ผมไม่ให้มันมา ” พี่เคนส่ายหน้า
“ เฮียว่าเองมีเรื่องบาดหมางกันอีกแล้วแน่เลย ”
“ อะไรกันเฮีย ”
“ เหอะๆ แคทชอบแซวว่าถ้าไม่มีปัญหากัน จับแกแยกกับข้าวกล้องไม่ได้ ถ้าแยกกันต้องมีปัญหา ” ขยันจับผิดกูจริงๆ ฮุ้ว ป้าแคทนี่ก็เหลือเกิน ตัวไม่อยู่ยังจะหลอกหลอนผมอีก
“ อันนั้นผมจะจัดการเอง แต่เฮียเรื่องดูแลไร่ เฮียจะว่ายังไง ”
“ ไปได้ยินมาจากไหน ”
“ ไอจักรบอก ” พี่เคนผงกหัว
“ พ่อบอกเฮียนานแล้ว เฮียก็สงสัยนะ แค่ไม่คิดว่าเป็นเรื่องสุขภาพ ...... แต่เฮียก็คิดจะกลับมาตามที่พ่อสั่งนะ ”
“ แต่เฮีย งานเฮีย เมียกับลูกล่ะ ” พี่เคนมีลูกน้อยคนนึงนะครับ
“ บอกตามตรง เฮียก็ไม่รู้ว่ะ พ่อบอกว่าจะเรียกเราทุกคนมาพร้อมกัน หลังจากเริ่มเดินได้ ”
“ เฮีย ผมก็จะบอกตรงๆ ..... ผมขอกลับมาช่วยเฮียได้ไหม ”
“ เฮ้ยนี่หรือว่า ...... เลิกกับข้าวกล้องจริงๆ ” เฮียก็นะ
“ ไม่ใช่เฮีย ”
“ ถ้าไม่เลิกกันก็อย่าเพิ่งตัดสินใจ เรามีเรื่องให้คิดให้ตัดสินใจแน่ แต่ใจเย็นๆดีกว่า ” ผมเดินกลับมาที่เรือนใหญ่ แม่ของผมให้พวกเราไปกินข้าวกับพ่อที่ห้อง โดยแม่เป็นคนป้อนข้าวให้พ่อ
“ นอนกินสบายสิ ” ผมแกล้งแซว พ่อของผมยิ้มๆ
“ เดี๋ยวคิมไปรอรับแขกให้พ่อหน่อย หน้าไร่นะ ”
“ ใครจะมาพ่อ ” พ่อของผมไม่บอก แค่ให้ไปรับ ผมเดินมากับไอเดย์ซึ่งมันหน้าเศร้ามากๆ
“ เข้มแข็งหน่อยสิวะ เห็นปะพ่อกูกินข้าวหมดเป็นชามๆ ” ผมบอก
“ มันก็แค่นั้นอะพี่ ..... แววตาลุงเหมือนปลงๆ ”
“ ปลงสิดี เลิกคิดมากไอดิษน้อย ”
“ เฮ้อพี่ .... ไม่คิดถึงดิษของใหญ่บ้างเหรอ ” ติดเรทจนได้
“ อย่าลามกเดี๋ยวกูเตะ ” ผมนั่งคุยไปเรื่อยจนในที่สุด ก็มีรถคันนึงขับเข้ามา
“ มาแล้วมั้งพี่ ” ผมเดินยกมือสวัสดีแต่ไกล แต่พอเดินเข้ามาใกล้ ทำไมรถมันคุ้นจังวะ
“ นั่นมัน ...... ”
“ สวัสดีครับพี่คิม ” ไอวินเปิดประตูออกมา พร้อมกับกั้งครับ
“ ไอเดย์มึงรู้มาก่อนไหมเนี่ย ”
“ ไม่นะครับ ..... วินหลอกเราเหรอ ” ไอวินยิ้มร่าเลยครับ
“ มีคนชวนมาน่ะ นั่งอยู่นั่นไง ” ผมมองเข้าไปใกล้ ก็ถึงกับผงะ ตีนเย็นเลย แฮ่
“ ดิษ ” มันเปิดประตู พร้อมกับส่งสายตาใส่ผม
“ คืออาทราบข่าวแต่มาไม่ได้ เลยกำชับให้ผมมาเยี่ยมให้ได้ ” กั้งบอกผม แต่ตอนนี้กูกลัวไอคนที่เดินมาทางผมอะ
“ก่อเรื่องแล้วหนีกลับไร่ ....... วันนี้อดนอนแน่ๆคิม ”
“ หวายๆ จะฟันกันถึงเช้าเลยเหรอครับ ” ไอเดย์นี่ก็เล่นไม่รู้เวลา
“ ไม่ขำ ..... เยี่ยมลุงโรจน์ก่อนแล้วเตรียมใจไว้เลย ” หรือว่า พี่ริช พี่พาน พี่ต้น จะรุมหักหลังผม ไม่นะเว้ย
ผมโดนลากมาพร้อมกับคนที่เหลือ ไม่นานทุกคนก็ได้พบกับพ่อของผม กั้งเอากระเช้าและของฝากจากพ่อของเดย์มาให้เยอะเลยครับ
“ โทรบอกท่านสิลูก ” พ่อผมบอกกั้ง
“ ตอนนี้ติดประชุมครับ ” สงสัยไม่อยู่เมืองไทย เพราะใครจะประชุมกันสี่ห้าทุ่ม
“ ทุกคนพักผ่อนเถอะ ปะๆ ” พ่อของผมขยับมือไล่ พวกเราพาเหรดกันขึ้นมาที่เรือนใหญ่ชั้นบน
“ นอนมุ้งกันปะ ” ไอเดย์เด็กดื้อเริ่มมั่วครับ
“ มุ้งมันร้อนเว้ย ” ผมบอก นับไปก็มี ผมกับดิษ วินกับเดย์ กับกั้ง
“ กั้งนอนห้องเดี่ยว วินกับเดย์นอนที่ห้อง ..... คิมไปเรือน เราต้องคุยกัน ” เห็นนิ่งมาตลอด ถึงเวลาฆ่ากูหมกเรือนแล้วสิ งื้อ
ดิษเดินนำผมลงมา แต่ก็มาเจอกับแม่ของผมเข้าพอดี
“ ง่วงกันมากไหมลูก ”
“ ไม่ครับแม่ มีเรื่องที่ลูกของแม่ทำไว้เยอะมาก ต้องคุยกันครับ ”
“ ข้าวกล้องเล่าให้พ่อฟังแล้วใช่ไหมลูก ” หืม
“ คือ ...... ท่านถามผมน่ะครับ ผมเลยเล่า ”
“ พ่อถามอะไรดิษ ” ผมถาม
“ ถามว่าทำไมคิมกลับมาคนเดียว พี่ก็เลยเล่าเรื่องที่คิมโมโหคิดว่าพี่อยากมีลูก กับเรื่องนั้นด้วย .... เรื่องหุ้น ”
“ พ่อบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับคิมและข้าวกล้องแค่สองคน ขอให้แม่ไม่อยู่ด้วย ถ้ายังไม่เหนื่อยมาก ก็คุยกับพ่อก่อน ...... พ่อกลัวว่าถ้าไม่พูดให้รู้วันนี้ จะมีโอกาสหรือปล่าวน่ะลูก ” แม้แต่แม่ก็ไม่ให้รู้เหรอ เรื่องสำคัญอะไรกัน
“ งั้นผมคุยกับพ่อก่อนครับ ” ผมกับวากดิษเดินเข้ามาในห้องอีกรอบ
“ ปิดประตู ล็อคห้อง แล้วนั่งสบายๆลูก ”
“ พ่อครับ ถ้าเรื่องพวกนั้นผมจะปรับความเข้าใจกับคิมครับ ” วากบ้าพูดขึ้นก่อน
“ ฮ่ะ .... ฮ่าๆๆ แกมั่นใจตัวเองมากไปข้าวกล้องเอ้ย คิมมันไม่ใช่คนที่ยอมปล่อยอะไรง่ายๆ ข้ารู้ดี ”
“ พูดอะไรอะพ่อ ”
“ ....... เพราะที่เองเป็นแบบนี้ ส่วนนึงเพราะข้าเองด้วย วันนี้ข้าจะพูดให้ฟังทุกเรื่อง ” ทำไมหัวของผมมันหมุนไปหมุนมา เหมือนถูกของแข็งฟาดก็ไม่รู้สิ ทำไมพ่อถึงพูดเหมือนเคยทำผิดกับผมกันนะ
***********************************************************************
คำนวณดูจะเหลืออีก 2 กระทู้คงจะผ่านหน้านี้ละครับ นานๆจะเป็นเรื่องของผมแบบเต็มเหนี่ยวเนอะ ขอมั่งๆ แฮะๆๆ ไม่ต้องกลัวขาดตอนนะครับ รับงานประสานภายนอกมาทำ ได้สิทธิไม่ต้องเข้าสำนักงานก็ได้ (แต่ก็จะแอบไปดูพี่ดิษเค้าแหละ ไม่รู้แกล้งปกติหรือปล่าว) นู้นเลยกำหนดเสร็จ 15 ฉะนั้นต่อยาวแน่นอน
ขอบคุณทุกคนนะครับ