มวฟฟ จุ๊บขอโทษคนอ่าน แฮ่ ไปสอบใบอนุญาตว่าความมาครับ รอผลสอบเดือนหน้า หึหึหึ ช่วงนี้เวลาเยอะเลยแหละ บันทึกอันหน้าเอายาวๆเลยเนอะ ไม่มีคนทวงแล้วเฉื่อยชา ใครไม่รู้เนอะๆๆ
*******************************************************************
ใบแทรก รักแรกของวากดิษ
* ใบนี้ถ้าอ่านแล้วสับสนเรื่องงานของผมไม่ต้องใส่ใจนะครับ เล็งเนื้อหาพอ แฮ่
หลังจากที่ผมเล่าเรื่องใบแทรกอันก่อนไป คนที่ตามอ่านคงจะเดาหน้าตาของวากดิษได้แล้ว สิ่งแรกที่ผมคิดมานานแล้วแต่ไม่อยากถามก็คือ ...... หน้าตาแบบมันอะเคยมีแฟนกี่คน แล้วก็รักแรกของมันคือใคร
“ ถามได้ไงว่าใคร ก็คิมไง ” เพราะรู้ว่ามันจะตอบแบบนี้ไง ฮ่าๆๆ
“ ไม่เอาๆ เอาผู้หญิงดิ ” วากบ้าเริ่มขมวดคิ้วใส่ผม
“ ทำไมต้องถามเรื่องแบบนั้น ...... ให้พี่ถามคิมบ้างมะ ” ช่วงที่ถามเนี่ย เป็นช่วงที่กำลังแต่งตัวออกมาทำงานครับ
“ ดิษบอกว่ารู้หมดไม่ใช่เหรอ แต่เราไม่เคยรู้จักตัวตนเก่าๆของดิษเลย ” คราวนี้ไม่แค่ขมวดคิ้วละครับ ทำตาเข้มใส่ด้วย
“ คิมไม่อยากรู้หรอก ..... ใส่ด้วยนะเนกไทน่ะ เป็นหัวหน้าแล้ว ”
“ ครับท่านกรรมการ ” กูกะแล้วไง มันต้องโมโห ฮุ้ว
ระหว่างทางผมเลือกไม่คุยเรื่องเก่าแล้วครับ เพราะพี่ท่านดูจะอ่อนไหวกับเรื่องนี้มาก แต่ผมไม่หายสงสัยซักทีเลยกะจะไปถามพี่พานซึ่งเค้าคบอยู่กับพี่ริช (ใบแทรกนี้นำเรื่องหลักนิดเดียว รายละเอียดค่อยเล่าเนอะๆๆ)
“ อย่าไปถามเรื่องพี่กับคนอื่นด้วยนะ ” ก่อนลงจากรถยังไม่วายกำชับผมอีก
“ ครับ ” ผมรับปากสั้นๆ เพราะไม่ฟังมันหรอก ฮ่าๆ
ห้างที่ผมทำงานเพิ่งจะแปรสภาพครั้งใหญ่ผ่านมา เราขายหุ้นตั้งเป็นบริษัทจำกัดครับ เรื่องนั้นมันเกี่ยวกับผมนิดหน่อย แต่เป็นสาเหตุที่ผมได้เป็นหัวหน้า กลุ่มก้อนของผมเค้าตอบแทนเรื่องความสามารถครับ ก็ได้ขยับกันหลายคน ชื่อ ตำแหน่งก็เปลี่ยนไป
“ สวัสดีคร้าบหัวหน้า ” นี่เลยลูกน้องผมเด็กนักเรียนนอก ไอเดย์ครับ
“ เรียกไปเหอะ มีกันอยู่แค่ห้าหกคน ” มันมีข้อตกลงเพิ่มเติมในส่วนของผมครับ ถ้าผมเป็นทนายคิม (จะเกาหลีเต็มตัวละนะ ฮ่าๆ) ก็จะพิจารณากันใหม่
“ ผมจะไปช่วยกันขนของที่แผนกนะพี่ ” ขนของเหรอ
“ พี่ไปด้วย ” ผมเดินคู่มากับไอเดย์ไปที่แผนกเดิมของผม ซึ่งเค้าเปลี่ยนชื่อเรียกเป็นฝ่าย ที่ผมอยากมาเพราะผมคิดถึงที่ทำงานเก่าๆครับ โต๊ะ เก้าอี้ ผมอยากเก็บไว้
“ อ้าวคิม ” พี่ริชก็กำลังจัดข้าวของครับ
“ ดีครับผู้จัดการ ”
“ ไม่ต้องเลย ....... ที่ฝ่ายจัดเสร็จแล้วเหรอ ”
“ ยังหรอกพี่ อยากมาดูสถานที่ ” พี่ริชยิ้มให้ เหมือนจะเข้าใจครับ เลยบอกว่าเดี๋ยวให้คนยกของไปให้ ผมก็กลับมาที่ห้องของผมไม่นานก็มีคนช่วยกันยกโต๊ะกับของมาให้ผม
“ พี่พาน ...... ทำไมยกมาให้ผมล่ะ ” คนที่มาดันเป็นพี่พานครับ พี่พานเองมีคดีเยอะเลยจมอยู่ระดับเดียวกับผม
“ ทำไมห้องนี้ดูดีกว่าของพี่ล่ะ กรรมการเลือกให้เหรอ ” แซววากดิษครับ เหอะๆ
“ ไม่ต้องแซวเค้าเลย เออ พี่พาน พี่รู้จักดิษนานหรือยัง ”
“ นานสิ ” ตั้งแต่พี่พานยอมรับว่าคบกับพี่ริช เค้าดูอ่อนโยนลงครับ ไม่แข็งกระด้างเท่าไร แต่ผมกลัวมันจะไม่นานครับ เพราะสิ่งนึงที่ผูกสองคนนี้ไว้คือเรื่องบนเตียง (อุบไว้อีกล่ะ รออ่านนะๆ)
“ ถามจริง ห้ามโกหก มันมีแฟนมากี่คน ใครเป็นรักแรก ”
“ เรื่องไม่เป็นเรื่องเลย ” พี่พานวางกล่องลง แล้วทำท่าจะเดินกลับไปครับ
“ เฮ้ยพี่ ไม่เห็นแก่ที่ผมช่วยเลยนะ ” ความจริงก็ไม่ได้ช่วยอะไรอะครับ เรื่องเค้าคบกับพี่ริชแหละ
“ คิม เรื่องอดีตบางเรื่องเค้าไม่อยากพูด คิมก็อย่าไปซักไซร้เลยน่า เดี๋ยวจะเจ็บใจปล่าวๆ ” ไปละครับ ฮุ้ว รักแรกเค้านี่ใช่พี่แจงหรือปล่าว เพราะผมได้เห็นอีกด้านนึงของพี่แจงแล้ว เลยคิดไปทั่วแล้ว (เคลียร์ใจกันละครับ ทุกเรื่องอยู่บันทึกฉบับหน้า งืมๆ)
วันนั้นงานเรามีน้อยมากครับ ส่วนของผมมีแค่สัญญากับข่าวสารที่ไอเดย์แปลมาให้ผมวิเคราะห์ ไม่มีงานหนักๆ เลยอดคิดเรื่องรักแรกของมันไม่ได้ซักที
“ นั่งคิดเรื่องพี่จนหน้ามุ่ยเลยสินะ ”
“ อ่ะ ..... อ้าว ท่านกรรมการ มาเมื่อไรครับ ” แกล้งกลบเกลื่อนครับ เดี๋ยวไม่เนียน วากบ้าแสยะยิ้มให้
“ ห้ามก็ไม่ฟัง งั้นเย็นนี้จะพาไปเจอ ...... ห้ามนอนร้องไห้ล่ะ ” พูดเสร็จก็ไป อะไรจะกดดันกูขนาดนั้น ไม่สนแหละ นาทีนี้ขอเห็นเป็นพอ
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็น ผมเดินขึ้นไปหาวากดิษที่ห้องทำงาน ปรากฏว่ากำลังคุยงานกับผู้บริหารท่านอื่นอยู่ ผมก็เลยลองมองดิษจากมุมนี้ครับ
คนๆนี้เหรอที่บอกว่าชอบผม พูดแบบไม่อายก็คือมันหน้าตาดีนะ ไม่นับเรื่องมรดกของพ่อเค้าอีก ทำไมผมถึงเพิ่งคิดได้นะ ผมเจอดิษอีกครั้งตอนอายุยี่สิบกว่า ผ่านเรื่องราวมากันก็เยอะ ทำไมนะ ทำไมผมถึงเพิ่งคิดได้ในวันนี้ว่า ..... ผมโชคดี
“ พร้อมไหม ที่รัก ” เดินออกมาละครับ
“ อืมๆ ” วากดิษเดินนำผมลงมา ก่อนจะขับรถพาผมมาที่ร้านอาหารแห่งนึง ซึ่งไกลจากตัวเมืองพอสมควรครับ
“ น้องครับ พี่มาหา (ชื่อคน) ครับ ” วากดิษเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนึงขึ้นครับ
“ ค่ะ ขอไปบอกก่อนนะคะ ” พนักงานเดินหายไปข้างใน พักนึงก็มีผู้หญิงที่ ........
“ นั่น ...... ดิษหรือปล่าว ” วากดิษยิ้มหวานเลย ทำไมมันยิ้มแบบนั้นให้ล่ะ
“ ใช่ นึกว่าจะลืมแล้ว ”
“ ฮิ คงจะลืมลงหรอก ..... แล้วนั่น ” คงเป็นพี่อะครับ พี่ผู้หญิงที่ผมเห็นนั้นสวยมากครับ สวยขนาดที่ถ้าเจอในที่เที่ยว ผมคงไม่กล้าเดินไปใกล้
“ น้องชายเราเอง ” นาทีนั้นหัวใจผมกระตุกวูบเลยครับ กูน้องชายมึงเหรอวะ ฮึ่มมมม
“ งั้นเข้ามาคุยกันเถอะ ” พี่เค้าเดินเข้าไปก่อน ส่วนดิษหันมามองหน้าผม
“ ปะ ” ดิษไม่ได้จับมือผม แค่พยักหน้าให้
“ ดิษ ...... ”
“ หืม เดี๋ยวพี่เค้ารอนะ ” ผมก้าวขาไม่ออกครับ
“ เรารอข้างนอกก็ได้ ”
“ ไหนๆก็มาแล้ว ทำมันให้จบ ” วากดิษผลักผมเข้าไปครับ
หลายคนคงเริ่มสงสัยว่าทำไมผมถึงมีอาการแบบที่ว่า ส่วนนึงผมเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์นึงมา มันทำให้ผมกลัวว่าวากดิษจะคิดมีลูกครับ ทำไมให้เกิดเรื่องเยอะแยะเลย (อยู่ในบันทึกหลักอีกแหละ) ยิ่งผู้หญิงคนนี้ที่อาจเป็นรักแรกของวากดิษด้วยแล้ว ผมยิ่งจิตตกเพิ่มขึ้นอีก เลยเป็นอย่างที่บอกไป
“ ดิษ ทำไมไม่ติดต่อกันเลยล่ะ ” มาแล้วครับ พี่ผู้หญิงเกริ่นนำ
“ เราทำขนาดนั้นจะให้ติดต่อไปได้ยังไง ”
“ ..... น้องก็อยู่นะ พูดไม่อาย ” วากดิษกอดคอผมครับ
“ น้องคนนี้เรารักกันมากน่ะ ...... เค้าบอกว่าอยากเห็นรักแรกของดิษ ” พี่ผู้หญิงหัวเราะขึ้นมาอีก
“ สนิทกันจริงๆเลยเหรอ ” ยิ่งฟังผมยิ่งรู้สึกเน้นหน้าอกอะ
“ อืม ”
“ งั้นก็ดีเลย ตอบคำถามต่อหน้าน้อง ” วากดิษยิ้มบ้างครับ
“ อะไรล่ะ ”
“ เลิกกับเราเพราะอะไร ” ตายห่ะ อย่าตอบให้กูอายนะเว้ยๆ
“ ..... เธอไม่ยอมเรา ”
“ เหอะ !!! ” นี่มันจะมาเพื่ออะไรวะเนี่ย พูดจาน่าโดนตบอะ
“ ที่จริงอีกเรื่องคือ เรารู้สึกแอบชอบรุ่นพี่อีกคนนึงด้วย ”
“ ถ้าวันนี้เรายอมเธอล่ะ เธอจะจีบหรือคบเราไหม ” โห นี่กูกำลังฟังเค้าพูดอะไรวะเนี่ย
“ คือ ..... ที่มาวันนี้จะมาขอโทษ เราได้ยินว่าเธอเสียใจมากที่เราทิ้งเธอ ...... วันนี้เรามีคนที่รัก ถึงรู้ว่าถ้าเราถูกทำแบบเธอ เราคงตายแน่ๆ ”
“ ที่แท้ก็มีแฟน ..... เรื่องนั้นเราไม่เคยลืมนะ แต่พอรู้ว่าเหตุผลเป็นแบบนั้น เราก็โอเค ” หืม
“ โอเคยังไง ”
“ ฮิ ดีใจที่ไม่หลงเธอมากไปกว่านั้นไง เธอนี่ใช้ได้นะเนี่ย เห็นหล่อสุภาพ ก็คิดเรื่องทำร้ายผู้หญิง ” ทั้งชมทั้งด่าเลยไง เหอะๆ
“ ขอโทษนะ ”
“ เราเป็นรักแรกจริงๆเหรอ ” พี่ผู้หญิงถามวากบ้าอีกรอบ
“ อืม ” พี่ผู้หญิงยื่นมือให้วากดิษ
“ เสียดายนะที่ไม่ได้ไปไกลกว่านั้น ” ยังจะพูดอีก หมายถึงพี่ผู้หญิงครับ ส่วนวากดิษมึงก็ไม่ปล่อยมือเค้าซักทีนะ
“ ไกลกว่านั้น เธอนั่นแหละจะเสียใจ ” พูดกันเสร็จ พี่ผู้หญิงชวนทานข้าวที่ร้านของเค้า แต่วากดิษคงรู้ว่าผมไม่ไหวแล้ว เลยบอกว่าจะกลับมาคราวหลัง
พอขึ้นรถ ผมก็หันหน้าออกหน้าต่าง ไม่ได้มองหน้าวากดิษครับ
“ ตอนเรียนพี่ไม่หล่อขนาดนี้หรอก อย่าจินตนาการไปไกล ”
“ ไม่ต้องพูดเลย ” จะบอกว่าตอนนี้แค่หน้ามันก็ไม่กล้ามองละครับ รักแรกเค้าสวยขนาดนี้ ตอนเรียนนี่วากบ้าคงจะยิ่งกว่านี้มากกว่า
“ ถามมาเถอะน่า ไม่งั้นพี่จะพูดเอง ”
“ วันนั้นถ้าเค้ายอมล่ะ ” วากดิษเอามือข้างนึงมาลูบหัวผมครับ
“ ยอมจริง พี่คงเลิกกับเค้าเหมือนเดิม ”
“ ทำไม ” วากดิษยิ้มให้
“ พี่เคยทำอย่างว่าลับหลังเค้ากับคนอื่น ถึงรู้ว่าเซ็กส์สำหรับพี่ ถ้าไม่ใช่กับคนที่รัก มันก็แค่เรื่องเปลืองแรง .... นิสัยของพี่น่ะชอบทำอะไรเหมือนกับมั่นใจหน้าตารูปร่าง แต่ความจริงพี่กลัวไม่ได้ความรักจากคนอื่น ” ผมเริ่มจะเข้าใจมากขึ้นครับ
“ ที่บอกพี่ผู้หญิงว่าเลิกเพราะเค้าไม่ยอม ก็หลอกเค้าสิ ”
“ อืม จะให้บอกว่าพี่ไม่รักเค้า คบต่อไปก็เซง แบบที่คิมชอบพูดใส่สาวๆเหรอ ” ไม่วายกัดกูๆ
“ แต่ไม่เข้าใจอะ ทำไมไม่บอกตรงๆ ”
“ พี่ขอเป็นคนเลวให้เค้าลืมดีกว่า ” ผมเข้าใจดิษแล้วครับ เค้ามีวิธีจัดการกับผู้หญิงคนเก่าๆด้วยวิธีนี้ ทำให้ไม่เคยมีปัญหาตามมาแบบผมเลย จะว่าไปเหมือนจะยอมถูกทิ้งด้วยซ้ำไป
“ แล้ว ....... ”
“ สงสัยอีกเหรอ ไม่แล้วนะน้อง พี่ไม่มีนิสัยจีบคนแบบหว่านเสน่ห์ พาขึ้นรถขึ้นห้องจริงๆนะ ” หึหึ แสดงว่าทั้งวันนี้ปั้นหน้าเพื่อทำให้กูเครียดสิ
“ ไม่ใด้สงสัยเรื่องนั้น ...... จะถามว่ารักแรกของจริงอะใคร ” ถามไปก็ลุ้นเองนะ คึคึคึคึคึ
“ ก็นั่งข้างพี่ไง ” จากนั้นก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะครับ
***********************************************************************
ดิษชอบกัดผมว่าเสียดายที่ตัวเค้าไม่ใช่รักแรกของผม แต่ผมก็มักจะแก้คืนว่า ชอบขอให้เป็นคนสุดท้ายไม่ใช่เหรอ เค้าก็จะยิ้มออกครับ
เสริมว่า พี่ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนมหาลัยเรียนอีกคณะนึง วากดิษได้ยินข่าวจากเพื่อนเก่าๆพวกพี่หมี พี่ส้มอะครับ ระหว่างวันก็ถามเรื่องร้านของพี่เค้า บอกว่าผมไม่หยุดแน่ถ้าไม่ให้เจอหน้ากัน (พี่พานแม่มไปฟ้องดิษอีกว่าผมถาม หึหึ) ก็ทำนองนี้ครับ
ปล.แล้วก็มีคนถามว่าหล่อกว่าก้องภพเลยเหรอ บอกยากครับ แต่เอาอย่างยุติธรรม (ไม่รู้บอกไปเค้าอ่านเจอจะโดนไหมนะนิ งืมๆ) ให้ดาราหล่อกว่าครับ แฮะๆๆ ดิษอาจจะต่างตรงที่ตาดุกว่า พอๆเลิกคลั่งดารา รออ่านบันทึกผมเสาร์อาทิตย์ดีกว่า