ผมเดินไปที่โรงอาหาร เจอท่านวากข้าวกล้องกำลังยืนคุยกับพวกสาวๆโรงครัวอยู่ จริงๆแล้วครั้งที่พวกผมมาเที่ยวกัน ท่านวากกับพี่โจค่อนข้างจะเป็นที่ชื่นชอบ ... ชิ เมื่อก่อนสาวๆก็ติดผมแจเหมือนกันแหละ
“ มาทำไม ” กูยังจำได้นะ วันนี้มึงทำท่าบ้าๆบอๆใส่กู
“ มาหาลุงโรจน์ ”
“ มีเรื่องอะไร ” มันไม่ยอมพูด
“ กลับมาทำไมไม่บอกพี่ๆ คนอื่นเขาเป็นห่วง ”
“ คนอื่นนี่รวมพี่ด้วยปะ ” มันทำตาโตแบบอึ้งๆ ก่อนจะเงียบอีก ผมพามันเดินไปสวัสดีพ่อของผม พ่อก็แสนดีชวนมันนั่งคุยในห้องทำงาน ซึ่งผมก็ไปด้วยแหละ
“ ได้ข่าวว่าพ่อแกจะเปิดโรงสีในชุมชน มีคนคัดค้านไหม ” พ่อผมถามเรื่องงานกับท่านวาก
“ ถามไปเขาจะรู้เหรอพ่อ ไม่เห็นจะช่วยงานพ่อแม่เลย ”
“ บ้า ดิษนี่ขยันมาก เขาทำงานช่วยพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว งานในโรงงาน ดิษเขาทำหมด ไม่เหมือนแกหรอกไอคิม ” หน้าตาแบบนี้น่ะนะ ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ
“ ลุงครับ วันนี้ทำไมคิมถึงรีบกลับมาที่บ้านขนาดนี้ล่ะครับ ” เผือกเรื่องชาวบ้าน
“ คือ ... ” พ่อผมเล่าให้ไอท่านวากฟังแบบหมดไส้หมดพุง เรื่องเก่าเรื่องใหม่ เรื่องเด็กผู้ใหญ่ เล่าหมดทุกอย่าง มันก็ชอบหันมายิ้ม ไม่ก็หัวเราะเยาะ พ่อนะพ่อ ทำอย่างกับมันเป็นลูกคนโต
“ ดึกแล้ว ดิษนอนที่นี่แล้วกันนะลูก ” พอเผาผมเสร็จก็ชวนมันนอนที่ไร่อีก แม่ผมก็เป็นไปอีกคน
“ ครับ ผมต้องนอนที่บ้านหลังเดิมใช่ไหมครับ ” รู้ดีอีก ไอวากข้าวกล้อง
“ มันจะเหงาไปนะ นอนบ้านไอคิมสิ ” อ้าว พ่อ ไม่ดีหรอก
“ บ้านพักคนงานก็นอนได้ ให้มันไปนอนนั้นดิ ”
“ คิม พูดกับพี่เพราะๆสิจ้ะ ” ผมเผลอไปอะ ไอนั้นมองหน้าผมแบบเคืองๆ ถ้านอนด้วยกันคืนนี้โดนหั่นแน่กู
“ ไป พาพี่ไปนอนที่บ้านแกด้วย ไปๆ ดึกแล้ว ”
บ้านพักหลังนี้ของผม ต้องเข้าไปในไร่อีกพอสมควร บ้านหลังนี้ก็คือหลังที่ผมมีอะไรกับโฟมนั้นแหละครับ
“ บ้านหลังนี้ ออกแบบเองอีกหรือปล่าว ” เข้ามาก็ยุ่งอีกล่ะ
“ หลังนี้พ่อสร้างให้ ”
“ อืม ค่อยเป็นบ้านคนหน่อย ”
“ เว้ย ! ” มันใช้มุกเก่าอีกแล้ว ถอดเสื้อถอดกางเกงโชว์สัดส่วนตามเคย
“ ใส่กางเกงแล้ว หันมา ” ผมหันกลับไปมอง แต่
“ ไอเชี้ย ! ทำไมมึงลามกขนาดนี้วะ ” สุดทนละ ครั้งนี้มันมายืนจ้อหน้าผมจังๆ เห็นทุกสัดส่วนเลย โอย ทำไมของมึงมากมายขนาดนี้วะ
“ เฮ้ยยยย !!! มึงจะทำอะไรอะ ” ไอวากข้าวกล้องจับผมกดลงกับพื้น สายตาของมันดูดุร้าย ไม่เหมือนที่มันเคยมองผมมาก่อน ... มันค่อยๆโน้มหน้าเข้ามาหา เสียงลมหายใจของมันเริ่มใกล้เข้า ผมสัมผัสได้ ... ที่ปาก ใบหูของผม
“ หยุดๆๆ ” ผมเหวี่ยงมันลงไปกองข้างๆ แล้ววิ่งไปหยิบไม้พลอง
“ อย่าทำอะไรบ้าๆนะ กูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึง ” ผมชี้ไม้พลองไปที่มัน มันไม่สนใจครับ ลุกขึ้นและค่อยๆเดินเข้ามาหา ร่างกายมันกำยำใหญ่โตดีจริงๆ ยิ่งตอนนี้ยิ่งน่ากลัว
“ หึ ไม่อยากลองดูหรือไง ว่าผู้หญิงเขารู้สึกยังไงห๊ะ ! ”
“ เดินเข้ามาอีก กูดีมึงหมอบนะเว้ย ” มันยังยิ้มไม่เลิก มันค่อยๆขยับ และก้มหน้าลง ผมถือโอกาสฟาดมันกลางหลัง มันนอนหมอบครางหงิงๆ ฮ่าๆ ไออ่อน
“ ตีกูทำไม อู้ย ”
“ กูตีไอตุ๊ดวิปริต ชอบกูใช่ไหมล่ะ คนที่อมค. ของกู คือมึงใช่ไหม ” ผมกราดใส่เป็นชุด มันลุกขึ้นและสวมชุดอย่างหลวมๆ ก่อนจะมานั่งลูบหลังตัวเอง
“ ด่ากูมากไปนะ ” ยังมาทำหน้ายิ้มอีก ไอหนังกระบือ
“ ทำไม ”
“ กูไม่ใช่ตุ๊ด ที่ทำเมื่อกี้อยากจะแกล้งมึง ส่วนที่มึงหาว่ากูไปอมของมึงน่ะ ถ้ากูจะทำจริง กูไม่แอบหรอก ” เออ จริงของมัน
“ คืนนี้กูไม่กล้านอนกับมึงหรอก คราวที่แล้วน้องมึงก็แทงตูดกูตอนนอน ” มันย่นหน้ามองผม
“ กูนี่นะ ” มันเอามือชี้ที่ตัวเอง กวนว่ะ
“ ถ้ากูทำกูก็ขอโทษ ... มึงทำแบบนี้ทำไม ไม่รักพ่อแม่หรือไง ” มึงนี่เปลี่ยนเรื่องไวดีจริง
“ กูไปทำอะไร ” มันหันขวับมาค้อนใส่ กูทำอะไรผิดอีกวะ
“ ยังไงกูก็แก่กว่าสองปี พูดจาดีๆหน่อย ”
“ เออ เรียกมึงพี่ก็ได้ ” มันยิ้มอีกละ
“ วันนี้ ดีที่มึงยังควบคุมตัวเองได้ แต่ในเมืองมันต่างกันเยอะ มึงอาจจะโดนใครจับก็ได้ ”
“ สอนได้สอนดี ตัวเองเก่งนักแหละ ” ไม่รู้ทำไมไม่อยากพูดดีๆกับมัน
“ กูเคยพลาดมาก่อน คนที่ไปหาพ่อกูที่ทำงานนั้นแหละ ” อ้าว พูดไม่ออกเลย
“ สมัยก่อน ตอนกูปีหนึ่งแบบมึง กูทำตัวสนุกสนาน เริ่มไม่ช่วยงานพ่อกับแม่ จนกูคบกับผู้หญิงคนนึง คนนี้เอากูไปหากินสารพัด ไถเงินพ่อกูเป็นว่าเล่น กูเลิกกันตอนปีสอง เพราะกูอายคนอื่น อายแทนที่บ้าน ” ชีวิตรันทดจังท่านข้าวกล้อง
“ มึงดีนะ ที่พ่อและแม่รักมาก ... อาจจะดีกว่ากู ” ผมเห็นมันเศร้าแล้วสงสารจับใจเลย มันพูดให้ผมเชื่อซะสนิท
“ กู ... ผมก็เห็นพ่อกับแม่ไม่ได้รังเกียจอะไรนี่ ” ปลอบใจมันหน่อย เดี๋ยวเด็กเสียใจ ฮ่าๆๆ
“ แม่น่ะดีมากๆ แต่พ่อกูเห็นว่ากูเป็นส่วนเกิน ”
“ อะไรส่วนเกิน ”
“ ลูกเมียน้อยน่ะ มึงยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ” มิน่าพ่อก็ขาว แม่ก็สวย ลูกดันผัวสีแทน นี่คงเป็นปมในใจของมันเลยสิ
“ กูไม่อยากใช้ชื่อเล่น ก็เพราะพ่อกูตั้งชื่อนี้ให้ ... ในเมื่อไม่อยากให้กูเกิด กูก็ไม่อยากทำให้ลำบากใจ ”
“ คิดมากไปแล้ว ถ้าไม่รัก ไม่ห่วง เขาจะเลี้ยงมาทำไมจนโตขนาดนี้ ” ตัวโตนะ หึหึหึ
“ หึ ยิ่งกูโต กูยิ่งไม่เหมือนพ่อ กูเพิ่งรู้ไม่นานนี้หรอก ” มันเริ่มตัดพ้อต่อ
“ คงเป็นช่วงที่ทำตัวเหลวแหลกใช่มะ ” ผมเดา มันพยักหน้า ไม่น่าเป็นเด็กมีปัญหาเลย
“ มึงปลอบคนอื่นได้ แต่ดูแลตัวเองไม่ได้ ทำไมสมองเล็กจัง ” ด่ากูอีกไอนี่
“ เออ ... อย่าคิดมากเรื่องที่พูดมาได้ไหม ”
“ อะไรนะ ” ผมสงสารมันอะ
“ บ้านก็มีขนาดนี้ พ่อก็ไม่ได้รังเกียจ แม่ก็รัก มึงอย่าคิดมากได้ไหมอะ ” ผมขอร้องมัน
“ มึงอีกละ ” ทำไมมันหยุมหยิม จุกจิกงี้วะ
“ เออๆ ได้ไหมอะ ” มันเอื้อมมือมาลูบหัวผม
“ คิม พี่เสียใจที่นายจำพี่ไม่ได้ แต่พี่ดีใจที่ได้ยินคำนี้จากนาย ” หา ... พูดอะไรอีกละ แล้วทำไมสรรพามเปลี่ยนไป
“ ... ตอนเราเที่ยวที่ภาคใต้ พ่อพี่ไปกับแม่ของพี่ พี่ถูกหลายๆคนเรียกว่าลูกเมียน้อย ” เรื่องเด็กๆก็เก็บมาคิด
“ มีเด็กแค่คนเดียว ที่ไม่เคยพูดแบบนั้น ” มันพูดไปยิ้มไปอย่างกับคนบ้าอะ
“ เค้าเอาเกมส์ไอโอฮาร์ดซาร์ดมาให้พี่เล่นให้ดู ” คุ้นๆเหมือนหนังเก่าไหม ... ผมว่าเหมือนเคยได้ยินมันพูดที่ไหน หรือมันก็พูดกับผม
“ หึหึ บอกว่ากลัวผี ไม่กล้าเล่นคนเดียว ” บ้าๆ เกมส์ออกจะสนุก ยิงกบาลซอมบี้อะ
“ พี่ดีใจมาก ไม่เคยใครให้ความสำคัญพี่มาก่อน ถึงจะแค่ให้เล่นเกมส์ให้ดูก็ยังดี ” เริ่มแปลกขึ้นทุกทีละ
“ เรานอนด้วยกันทุกคืน หลังจากไปเที่ยวซื้อของ กลับมาก็มานอน เล่นเกมส์ พี่มีความสุขมากๆ ” นี่ถ้าไม่คิดว่ามันเป็นเสือผู้หญิงตัวพ่อ จะคิดว่ามันกำลังสารภาพรัก
“ รู้ไหมว่าพี่รอคิมมานานขนาดไหน ” อ้าวๆ ชักจะไม่ดีนะ
“ นายคือเด็กคนนั้น ” มันพูดจบก็ลุกเปิดประตูออกไป ผมได้แต่นั่งอึ้ง ผมกับมันรู้จักกันมาก่อนจริงๆด้วย มันพูดกับผมแบบเปิดอกเป็นครั้งที่สอง คืนนี้ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างกูนอนไม่หลับแน่ๆ
“ คิมจะไปไหน ” ผมเปิดประตูบ้านออกมา โดนท่านวากข้าวกล้องดึงแขนไว้
“ มีธุระนิดหน่อย นอนรอในบ้านนะ เดี๋ยวรีบกลับมา ” มันดีดบุหรี่ทิ้ง และไปใส่รองเท้า
“ ทำอะไรพี่ ”
“ มีธุระด่วนไม่ใช่หรือไง จะไปด้วย ”
“ พี่ไปไม่ได้ ผมมีธุระจริงๆ ... ขอร้อง ” มันนิ่งลง ทำหน้าเข้าใจ ผมหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์และควบไปที่บ้านใหญ่ทันที
“ แม่ครับ ผมมีอะไรจะขอคุยด้วย ” แม่ของผมกำลังเก็บข้าวของอยู่ ถึงกับงง
“ มีอะไรจ้ะ ”
“ ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่า ผมกับพี่ดิษรู้จักกันมาก่อน ” วันนี้ให้ตายยังไงก็ต้องรู้ให้ได้ ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ผมจำได้แม้กระทั่งเคยลื่นล้มตรงไหนบ้างตอนเด็กๆ ทำไมนะ ทำไมเรื่องนี้ผมถึงไม่แม้แต่เอะใจอะไรซักอย่าง
“ ... คุณคะ ” พ่อของผมเดินอ้อมหลังมา
“ เรื่องมันไม่น่าจำ เลยไม่อยากจำเองหรือปล่าว ” พ่อผมพูด
“ เฮ้อ ... ดิษจะฟื้นมันมาทำไม ”
“ พูดอะไรกัน ผมไม่เข้าใจ ”
“ พ่อว่าแกไม่อยากจะฟังมันหรอก นี่พูดจริงๆนะ ” ก็เพราะไอพูดแบบนี้แหละ มันถึงต้องรู้ให้ได้
“ ดิษมัน ... ”
“ ลุงโรจน์ครับ ... ผมขอคุยกับเขาเองเถอะครับ ” มีเรื่องลึกลับอะไรกันวะ