มาต่อให้อีกแล้ว
คืนนั้นที่ร้านข้าวต้ม เปลี่ยนไปเหมือนไม่ใช่ร้านเดิมที่มากับพี่ปีสอง พี่ๆเพื่อนๆของคณะนั่งเต็มร้านไปหมด
“ คิดยังไงตอนวิ่งรอบมหาลัย ” พี่โบ้ถามกวนพี่หมี
“ กูจะให้ไอคิมถามมึง ตอนมึงโดนแบบพวกกูเนี่ย ” ในวงสนุกสนานมากครับ นอกจากพี่หมี วากข้าวกล้อง ยังมีปีสามที่เป็นพี่รหัสของพี่ปีสองอีกหลายคนมานั้นด้วย
“ ใกล้ได้ใส่ช็อปแล้วดิ เค้านัดวันนัดเวลา ไปให้พร้อมๆนะ ” พี่คนหนึ่งพูดขึ้น ยังไม่รู้ชื่อ
“ เดี๋ยวๆ เค้านดกวันที่ ... สิบโมงด้วย มันมีสอบแล็บกริ๊งที่ คณะวิทย์ไม่ใช่เหรอ ” ไอวาฬพูด
“ เฉพาะพวกไม่ผ่านกลางภาคไม่ใช่เหรอ ” ผมถาม ผมสอบผ่านผมไม่ต้องโดนซ่อม กั่กๆๆ
“ แล้วมึงจะไปพร้อมกันได้ไง ” พี่ฟางพูด
“ เออว่ะ ปีสี่ตั้งใจแกล้งพวกมึง ” พี่หมีพูดขึ้นมาอีกคน แบบนี้พวกผมจะทำยังไงดีล่ะ
“ พอๆ งานเลี้ยงเว้ย มันจะได้รุ่นกันอยู่แล้ว ไม่ต้องไปวุ่นวายหรอก ชนๆๆ ” วากข้าวกล้องตัดบท
“ โจ มึงคืนดีกับสาเหรอ ” วากข้าวกล้องถามพี่โจ
“ เอามาจากไหนพี่ ”
“ กูก็ได้ยินมางั้นนะ ว่ามึงไปเดินเที่ยวกับสาอะ ” พี่โบ้ถามเพื่อนตัวเอง
“ ไม่ใช่ๆ ” พี่โจรีบปฏิเสธ
“ คืนดีก็คืนดีไปเถอะ ไม่มีใครว่าหรอก ” หืม ไหนว่าวากข้าวกล้องไม่ชอบพี่สาไง ทำไมเชียร์กันแบบนั้น
“ พี่ก็ไม่เบานี่ครับ ”
“ เบาไรวะ ” พี่โจย้อนใส่วากข้าวกล้อง พวกในโต๊ะเริ่มนิ่งฟังครับ เข้าใจว่าเรื่องของคนอื่นอะ ของชอบๆ
“ ดาวศิลป์ปีหนึ่งอะครับ ใช่ปล่าว ” โห กินเด็กว่ะ
“ ยังไม่ยี่สิบนะไอดิษ เดี๋ยวก็เข้าคอก ” พี่คนหนึ่งล้อวากข้าวกล้อง มันเริ่มอยู่ไม่สุขครับ เป็นอะไรของมัน
“ ไม่เผื่อให้พวกผมบ้างเลยเหรอครับ พ่อมึงแรงนะคิม เหอะๆ ” ไอโต้งเสริมเอาอีก วากข้าวกล้องนิ่งเลย แล้วมันจะมองหน้าผมทำไม ยังไม่ได้ล้อเลยนะเว้ย
“ มึงกับนัทล่ะโต้ง ” หืม ไอโต้งอ้าปากค้าง ทำท่าจะเถียงต่อ
“ สามคนนี้จะมาเผากันเล่นทำไม ใครคบใครก็เรื่องของคนนั้นดิ ฮุ้ว ” ผมเบื่ออะครับ เป็นบ้ากันสามคน
“ จริงของมึง คิม ยกให้เดือนปีหนึ่งหน่อย เอ้า ” พอเลี้ยงกันเสร็จ ก็แยกย้ายกันเหมือนเคย กำลังจะเดินกลับหอ
แต่วันนั้นวันศุกร์ กลุ่มผู้นำเลยชวนกันไปต่อ เราไปต่อกันที่ห้องของพี่ปีสามคนนึง
“ ง่วงว่ะพี่ กลับหอไงอ่า ” ผมง่วงนอนอะ อยากนอนมากๆ แต่พี่โจติดลมไปแล้ว
“ ไปนอนในห้องรับแขกเด้น้อง ” ผมโบกไม้โบกมือแล้วขอตัวไปนอน ในวงก็มีพี่ๆที่สนิทกัน ปีหนึ่งก็ครบทีม ยกเว้นไอโต้ง เพราะคนละสายกัน
ผมทั้งเมาทั้งง่วงเลยนอนหลับเป็นตาย แต่ต้องสะดุ้งเพราะมีคนมาเตะจนตื่น กำลังฝันว่ามีอะไรกับผู้หญิงเลย ฮุ้ว แต่มันเหมือนจริงมากนะ รู้สึกอุ่นวาบๆด้วย ผมลุกเอามือควานหาทางไปห้องน้ำ
“ เฮ้ย ไรวะเนี่ย ” พอส่องกระจก ก็ต้องตกใจ มีรอบแดงเป็นจ้ำๆที่หัวนม กับท้องน้อย ผมรีบมองดูที่เป้า ซวยละกู มีคนลักหลับกูปล่าววะ
“ ฮ่าๆๆ มึงจะมั่วไปไหมไอคิม ใครจะบ้าอม ค. มึง ” ตอนสายๆ พอกลับมาที่หอ ผมเล่าเรื่องให้พี่โจ พี่โบ้ วากข้าวกล้อง กับเพื่อนๆฟัง
“ พูดจริงไหมเนี่ยคิม ” พี่โจถาม ผมถกเสื้อกับรอยตรงใต้กางเกงให้ดู
“ ดูเอาเองอ่ะ ” ตาค้างกันหมด
“ ใครนอนกับมันในห้อง ” วากข้าวกล้องเริ่มขมวดคิ้ว เครียดกันใหญ่เลยทีนี้
“ หลายคนพี่ น่าสงสัยผู้หญิงนะ ” พี่โบ้พูด
“ ไม่ๆ ผู้หญิงนอนข้างนอก ” พี่โจบอก เอาแล้วกู ถ้าเป็นแบบนี้ กูโดนผู้ชายขืนจู๋ เอ้ย ขืนใจสิวะ
“ เชี้ยเอ้ย ใครวะ ” พวกพี่ๆจับกลุ่มคุยกันโขมง ไม่กลัวกูอายเลยนะ
“ พวกผมกลับก่อนครับพี่ เจอกันวันจันทร์เว้ยคิม ” เพื่อนๆลากลับหอตัวเองครับ พวกพี่ที่เหลือก็เริ่มทยอยกลับ ตอนนี้มีสองคนไม่ยอมไปไหน
“ พี่ดิษไม่กลับเหรอครับ ” ผมถามตามมารยาท จะนอนอะ ยังไม่หายปวดหัวเลย
“ โง่อะไรขนาดนั้น ” ด่าใครวะ
“ เมาจนดูแลตัวเองไม่ได้ ต่อไปไม่ต้องไปกินที่ไหนแล้ว ”
“ ห้ามผมได้ไงพี่ ไม่โทษไอคนั้อม ค. ผมล่ะ มาโทษผมทำไม ใช่ปะพี่โจ ” ผมหันไปหาพี่โจ ไอวากข้าวกล้องมันชอบพาลคนอื่น
“ แกนั้นแหละ ไม่รู้จักระวัง ถ้ามากกว่านี้ไม่เดินขาถ่างเหรอ ” ไมไปเข้ากันซะได้ แต่มันเริ่มจะลึกนะ
“ นอนกับไอโจระวังจะถ่างเข้าซักวัน ของมันไม่ใช่เล็กๆนะ ”
“ กับผมไม่มีหรอกพี่ แต่กับพี่ดิไม่แน่ สาวๆยังบ่นกับผมเลยว่าพี่ใหญ่ แถมซาดิสม์ ”
“ ไอโจ !!! ”
“ อ้าวๆๆ คุยกันเรื่องอะไรเนี่ย ฮุ้ว เถียงกันไปสองคนเลยไป รำคาญโว้ย ” พี่สองคนหัวเราะไล่หลังผม เซงว่ะ คนจะหลับจะนอน มาคุยเรื่องของเล็กของใหญ่ ไอพวกลามก
และวันที่ผมรอคอยก็มาถึง วันรับรุ่นที่ปีสี่นัดพวกเราทุกคน ผมไปตั้งแถวกันตั้งแต่แปดโมง วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ไม่มีการเรียนการสอน
“ ทำไมมากันน้อยจัง ” ปีสี่คนนั้น คงจะเป็นประธานถามไอหนิงผู้แทนปีหนึ่ง
“ ติดสอบแล็บครับ ” พี่ปีสามกับปีสอง ตั้งแถวข้างๆ ส่วนตรงข้ามกับแถวพวกผม คือปีสี่ โดยปีสองปีสามกับปีสี่ใส่เสื้อช็อป
“ เฮ้ย พวกกูมายืนรอตั้งนาน มึงมาไม่ครบกันเหรอ ” ปีสี่ถามมาจากในแถว
“ มีบางส่วนติดสอบซ่อมครับ ”
“ อ้างอะไร // ไม่เห็นหัวเลย / จะมารับรุ่นอีกเหรอ /// ไอพวกบ้า /// ” มีอีกสารพัดที่จะด่า
“ ปีสอง ปีสามกอดคอ ”
“ ลุกนั่งสามร้อยครั้ง ” เอาอีกแล้ว มึงจะรับรุ่นหรือแดกรายรุ่น
“ สามร้อยครั้ง !!! ” พี่ๆของเราขานรับ ผมเริ่มจะเดือดแล้วสิ ไหนว่ามีเหตุผล ไหนว่าชอบความถูกต้อง ผมทนไม่ไหวแล้วครับ วันนี้จะโดนยับ ใครจะตัดรุ่นผมไม่สนละ
“ พี่ครับ ” ผมยกมือขึ้น
“ อะไรคุณ ” พี่ที่อยู่หน้าแถวถามผม
“ ปีหนึ่งที่เหลือติดสอบซ่อม เราจะแก้ไขยังไงครับ ถ้าพวกผมผิด พี่ลงโทษพวกผมเลยครับ ” สติแตกละผม ไม่ฟังไม่ห่าอะไรละ พวกเพื่อนๆเริ่มมองหน้า แม้แต่พี่ๆปีสองกับปีสามก็หันมามอง กูไม่รู้แหละ โมโหว่ะ
“ ในห้องวันนั้น ทำไมไม่พูด !!! ” ตะคอกกูเหรอ
“ ถ้าเปิดโอกาสให้ถาม ผมก็ยินดีครับ ”
“ ไอมั่ว / มึงเก่งใช่ไหม / ... ” ปีสี่ตะโกนไม่หยุด
“ ไอเดือนปีหนึ่ง พอแล้วเฮ้ย ” มีพี่ปีสองคนหนึ่งพูดบอกผม
“ พวกพี่ไม่เป็นไรหรอก ” เสียงนี้พี่โบ้ จังหวะที่กำลังเถียงกันอยู่ พวกเพื่อนๆที่สองเสร็จก็วิ่งหน้าตั้งกันมา
“ คุณออกมา พวกที่วิ่งออกมาหน้าแถว ” ผมโดนเรียกออกไปหน้าแถว อยู่ตรงกลางระหว่างแถว โคตรกดดันเลย
“ ถ้าให้ตัดรุ่นคนพวกนี้ ผมจะรับรุ่นที่เหลือทุกคน ” สร้างความเกลียดชังอีก บ้าไปไหม
“ ปีสามว่ายังไง ประธานออกมา ” พี่หมีเดินออกมาหน้าแถว
“ ถามเพื่อนๆดูซิ ว่าจะตัดไหม ถ้าไม่ตัด แสดงว่าพวกคุณก็ไม่เอาไหนเหมือนกัน ”
“ พี่ ” ผมเริ่มทนไม่ไหวอีกแล้ว พยายามจะถาม
“ หุบปาก !!! / เงียบไปไอเก่ง / พูดอีกเพื่อนมึงซวยหมดแน่ // พี่มึงด้วย ” ผมจำใจต้องเงียบ
“ ไม่ตัดครับ !!! ” ปีพี่สามตะโดนออกมาพร้อมกัน
“ รักมันมากหรือไง // ไอพวกนอกคอก / ไอ ... ” ปีสี่ด่าสาดเสียจนปีสามต้องก้มหน้าเงียบ
“ ปีสอง พวกคุณจะไม่เอาไหนตามพี่ก็เชิญ ประธานปีสองถามเพื่อน จะตัดรุ่นคนพวกนี้ไหม ”
“ ไม่ตัดครับ !!! ” พี่ปีสองก็พูดอีก
“ ปีหนึ่ … ”
“ ไม่ตัดครับ !!! ” ยังไม่ทันจบประโยค พวกผมตะโดนออกมาซะก่อน
ปีสี่เอาเสื้อช็อปที่คงเตรียมไว้ให้พวกผมเกาะออกจากถุง โยนลงพื้น แล้ววิ่งไปตั้งวงกลมขนาดใหญ่ บางกลุ่มถือไม้มาประสานกันคล้ายๆซุ้ม ผมเริ่มสับสน เริ่มกลัว นี่มันอะไรกัน
“ เอาสมุดเชียร์กับสมุดกิจกรรมที่ปีสามแจกให้วันแรกเดินไปวางกองกันในวงของปีสี่ ผมจะตัดรุ่นพวกคุณทั้งรุ่น ” ผมกับเพื่อนๆที่มาทีหลัง ต้องเดินไปก่อน ช่วงที่เดินไปก็ต้องฟังเสียงด่าไปด้วย พอถึงตรงซุ้ม
“ คลานไป ” ผมกัดฟันคุกเข่าลงคลานนำ เป็นคนแรก เหลือบไปมองเพื่อนผมทุกคนกำลังตามกันมา แม้แต่ปีสองกับปีสามก็ต้องทำแบบเดียวกัน
“ โอ๊ะ เวรเอ้ย ” กระดูกมันทิ่มเอาอีก ผมกัดฟัน น้ำตาเล็ดออกมา คลานครั้งนี้ไกลมาก
“ เลือด ! ” ผู้หญิงปีสี่ที่ยืนเป็นซุ้มคนหนึ่งอุทาน ไอเสียงที่ตะโดนด่าก็เงียบลงทันที
“ ชิบ ... ตามไอปันๆ ” ไม่นานไอคนที่พูดนำของปีสี่ก็เดินมา แต่ช่วงที่เรียก ผมคลานไปเรื่อยๆ เลือดเริ่มออกมากขึ้น ผมรู้ว่ามันไม่เป็นอะไร แต่ก็อดตกใจไม่ได้ มันไหลออกมามากกว่าทุกครั้ง
“ พอแล้ว คนนี้ลุก ” ผมหันไปมองหน้า พอมองดีๆ ก็หน้าตาดีนี่หว่า แต่ใจหมามาก
“ ผมจะคลาน พี่ๆผมโดนมามากแล้ว โอ๊ะ ” มันเหมือนเจ็บจิ๊ดๆเป็นครั้งคราว เวลามันขึ้นมาที ไม่ต้องพูดถึง
“ นี่ ลุก ” มันเดินตามผมที่กำลังคลานไปเรื่อยๆ ใกล้ถึงแล้ว พอออกจากซุ้ม ตอนจะลุกเหมือนตอนที่วากข้าวกล้องแดกผมเลย มันลุกไม่ขึ้น
“ จับมือ ลุก ”
“ ไม่เป็นไร ”
“ ดื้อ อึ๊บ ” ไอคนนั้นประคองผมยืน ผมโยนสมุดกิจกรรมกับสมุดเชียร์ข้ามเข้าไปในวง มันช่วยพยุงจนเริ่มหายเจ็บ แต่เลือดก็ไหลอยู่
“ อีกเดี๋ยว ทนหน่อย หุบปากด้วย ไม่ต้องปากอะไรแล้ว ” ไอคนนั้นแอบมากระซิบ ก่อนจะเดินไป หมายความว่าอะไรวะ
พอทุกคนโยนสมุดกิจกรรมกับสมุดเชียร์ไปในวงครบทุกคน ปีสอง กับปีสามก็ยืนกันมั่วๆ แต่พวกผมยืนเป็นแถว
“ เผาทิ้งซะ ” ไอปีสี่คนนั้น น่าจะที่ชื่อปันสั่งให้เผาสมุด ไอบ้า สมุดที่เซ็นว่าเข้ากิจกรรมกี่ครั้ง สมุดเชียร์ มึงเผาหมดเลยเหรอ
“ ฮูวววววววววววว ... เฮ ... ” จู่ๆปีสี่ก็กอดคอกัน แล้วกระทืบเท้า สลับกับตะโกนฮูวๆ ฮ่าๆๆ บ้าๆบอๆอีกมากมาย
“ เอ ! ... ซี ! … ฮูววว ” สักพัก ปีสามวิ่งอ้อมพวกผม หน้าตาพวกผมแต่ละคนตอนนี้เหมือนโดนผีหลอก ไม่ก็ช็อกแดก นี่ทำอะไรกันวะ
“ !@!@#!! ” ประโยคอะไรไม่รู้แหละอีกเยอะ พอไฟเริ่มมอด ปีสี่ที่ล้อมไฟอยู่ สลายกันไปตั้งแถวตรงสองแถวหันหน้าชนกัน มีช่องว่างตรงกลาง ปีสามวิ่งสลายวงไปตั้งวงใหม่อีกฝั่งหนึ่งของปีสี่ ปีสองก็วิ่งไปตั้งวงอีกด้าน ทันใดนั้นก็เงียบลง
“ ปีหนึ่งทุกคน แถวตรง ไปตั้งแถวตรงนั้น ” มันคงเรียกไอร่องนั้นว่าทางเข้าแหละ
“ ประธานปีสอง ประธานปีสาม เชิญครับ ” จะทำอะไรกูอีกล่ะ
“ น้องทุกคน คือ ... รุ่นที่ ... รุ่นของน้องมี ... เป็นสัญลักษณ์ มีทั้งหมดหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสี่คน ” พี่ฟางประธานปีสองพูดที่หน้าแถวของผม ก่อนจะเดินไป
“ ทุกคนทราบกฎระเบียบ กฎสังคม และกฎของหมู่ครบแล้ว พี่ๆถึงมอบรุ่นให้ ” พี่หมีพูด และเดินหลีกไป ก่อนที่ไอคนที่ชื่อปันจะเดินมา
“ สมุดกิจกรรมกับสมุดเชียร์ที่ถูกเผา อย่าเสียดาย มันไร้ค่า เมื่อเทียบกับการที่ทุกคนเป็นพี่กับน้องของเรา ขอบคุณที่สู้ ขอบคุณที่ทน และขอบคุณที่ต้องการเป็นน้องของเรา ... ” สิ้นเสียงของมัน ปีสี่เดินเรียงแถวไปหยิบเสื้อช็อปที่วางอยู่บนพื้นมามอบให้พวกผมทีละคน เหมือนฝันจริงๆ ไอภาพเมื่อกี้นี้เรื่องจริงเหรอ พอเรารับเสื้อมาไว้ หลายคนยังไม่กล้าดีใจออกนอกหน้า กลัวมันจะหลอกอีกอะ แต่ผมต้องเชื่อจริงๆ เพราะคณาจารย์ในคณะเดินมาที่ลานกันจำนวนมาก
“ ยินดีด้วยๆ ” คณบดีเดินมาปรบมือให้พวกผม
“ เฮ ! … จบแล้วโว้ยย ฮ่าๆๆ ” หลายคนดีใจ หลายคนถึงกับร้องไห้ โอย ... ประเพณีอันยาวนาน จบลงซะที
“ น้อง พี่รหัสกับพ่อรหัสมึงใคร ” พี่ปีสี่คนหนึ่งเดินมาถาม
“ พี่โจ กับพี่ดิษครับ ”
“ แม่ง แสบพอๆกับพี่ๆมึงเลย ฮ่าๆ ” ช่วงจบของงาน พี่ปีสี่นัดจัดงานเลี้ยงที่คณะ โดยทุกชั้นปีและคณาจารย์จะมาร่วมด้วย เป็นสัญลักษณ์การสิ้นสุดลงของฤดูกาลรับน้องคณะของผมอย่างเป็นทางการ
“ ตอนรวมในแถว มึงถามออกไปได้ไงวะ ” พี่หมีมาต่อว่าผมใหญ่ พวกพี่ๆกลุ่มผมมารวมในห้องผมกับพี่โจ ส่วนเพื่อนๆนัดเจอกันตอนเย็นที่ร้านข้าวต้ม
“ จะรู้เหรอ โมโหอะ เล่นอะไรนักหนา ”
“ คิมอารมณ์ร้ายกว่าที่คิดว่ะ น่ากลัว ” เหอะๆ พี่โจพูดครับ
“ ลูกพ่อเลี้ยงนี่พี่ ต้องได้พ่อมั่งเด้ ” ผมพูด
“ พี่ปันบ่นอุบเลย ” พี่หมีพูดต่อ วากข้าวกล้องยังนั่งเฉยๆไม่พูดไม่จา
“ พี่ๆส่งซิกส์ให้จนปากจะฉีกแม่งก็ไม่ฟัง ” พี่โบ้เอาอีกคน ผมไปทำอะไรผิดมากมายเนี่ย
“ เค้าให้เงียบๆเว้ย พอถามตัดรุ่นเสร็จ เค้าจะรับเลย มึงอะทำพี่ปันต้องเล่นกลอนสด ไอคิมเอ้ย ” พี่ตวงเสริมเอาอีกคน นี่ผมไปขัดคอเขาเหรอ เหอะๆ
“ ดีไม่มากกว่านี้ ไม่งั้นพี่ปันกูพูดไม่ออกแน่ ”
“ เฮ้ยๆ เดี๋ยวพี่ นี่เตรียมกันไว้เหรอ ” ผมเริ่มรู้สึกตัว
“ เออดิ ไอโง่ !!! ” วากข้าวกล้องสวนมาเลยครับ อ้าว นี่พวกมึงเตรียมกันไว้แล้วเหรอเนี่ย เหอะๆ เล่นบ้าๆ
“ ไหนจะเลือดออกอีก ปีนี้ไม่มีมึงกูว่าไม่สนุกนะเนี่ย ฮ่าๆ ” พี่ฟางล้อผม
หลังจากวันนั้น คณะของเราแทบจะเป็นสีชมพู ใครไปใครมาทักกันหมด ที่ทำไม่รู้จักก็เปลี่ยนไป ทุกคนรักกันมากจนผมไม่เชื่อตาตัวเอง ... อย่างนี้เองเหรอ ที่เค้าต้องรับน้อง