" บันทึกของคิม " จบเล่ม 30/04/2559 รายงานตัว เปิดเล่มใหม่ 05/10/2559
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: " บันทึกของคิม " จบเล่ม 30/04/2559 รายงานตัว เปิดเล่มใหม่ 05/10/2559  (อ่าน 1225755 ครั้ง)

ออฟไลน์ KimDit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-1
Re: บันทึกของคิม รายงานตัว 10/08/2558
«ตอบ #6690 เมื่อ15-08-2015 01:18:24 »

 :hao6: แวะมาอัพเดท เพิ่งรู้ว่า แมนฯยู เตะด้วย ระหว่างรอบอลมานี่ก็กำลังพิมพ์บันทึกอยู่ครับ แต่มันมีเรื่องเมื่อกี้เอง อยากเล่าๆ เผื่อจะหายคิดถึงพี่วาก แฮะๆๆๆ

ค่ำที่ผ่านมา หลังจากคืนความสุขให้คนทั้งชาติ แฮะๆๆ วากดิษเค้ารอดูอะครับ ก่อนหน้านั้นผมเปิดช่องๆนึง ดูหนังอยู่ด้วย
" น้องติดละครด้วยเหรอ " พี่วากถาม
" นางเอกน่ารักดี " ตอบไปแล้วเพิ่งรู้สึกว่าพลาดแฮะ
" หึหึ จะดูว่าน่ารักขนาดไหนเชียว "

พอละครจบช่วงแรกไป ลุงตู่ก็มา วากดิษเค้าติดตามสิ่งที่ลุงพูดเพราะ เค้าบอกว่าลุงพูดถึงเกษตรกรเยอะมาก และก็มีอะไรหลายอย่างที่ถ้าตั้งใจฟัง จะนำไปใช้กับธุรกิจของเราได้ ผมเลยนั่งฟังไปด้วย

หลังลุงพูดจบ ละครก็กลับมาฉายต่อ พอพี่วากเห็นหน้านางเอกปั้บ ก็ขยับมาใกล้ผมเลย
" ชอบผู้หญิงผมสั้นตั้งแต่เมื่อไร " พลาดจริงๆด้วยกู
" โหยไรเนี่ย แค่บอกว่าน่ารักเฉยๆ "
" น่ารักของน้องน่ะคือชอบเค้านั่นแหละ " พูดจบก็กอดผมอีก แต่ผมก็ปล่อยมันครับ

หนังเค้าสนุกดีครับ ผมชอบบทของพระนางคู่นี้ ดูสนุกๆดี ดูไปดูมาคล้ายคู่พี่โจกับพี่นากครับ คนนึงยุกยิกๆ อีกคนขรึมๆ แต่พักนึงวากดิษก็ลุกไปจากผม ทีแรกผมรู้สึกสบายตัวครับ แต่คิดอีกที กลัวจะมีอะไรผิดปกติเลยเดินตามไป

ปรากฏว่าภาพที่เห็นตรงหน้า ทำเอา ......
" เฮ้ย ดิษเป็นอะไรน่ะ ร้องไห้ทำไม " วากดิษเสียบหูฟังแล้วก็น้ำตาไหล
" ป่ะ ปล่าวหรอก ..... หนังจบแล้วเหรอ "
" เราพูดอะไรผิดไปหรือปล่าว หรือว่าเพราะหนัง เราเลิกดูก็ได้ " ผมกำลังจะเดินไปปิดโทรทัศน์ วากบ้าก็มาดึงมือของผมไว้ และดึงผมนั่งลงข้างๆ พร้อมกับให้ผมฟังเพลงๆนึง

*** ไม่มีเจตนาจะโปรโมทอะไรให้ใครนะครับ

เพลงที่ว่าชื่อ รักที่ไม่เห็นทาง ลองเซิร์ชดูนะครับ อยากให้ฟังแล้วนึกถึงตามไป

ขณะที่เพลงเล่นไป วากดิษซุกหัวข้างๆผม มันไม่ร้องไห้แล้ว แต่เป็นผมที่น้ำตาซึมแทน
" ไอวากบ้า ตกลงคิดจะคบกูจริงไหมเนี่ย " ระหว่างนั้น ผมนึกถึงช่วงเวลาที่เราเรียนมหาลัยด้วยกันเลยครับ
" ถ้าตอนนั้นมีเพลงนี้ พี่ก็คงร้องไห้ตามเพลงอยู่ดี "
" ทำไมล่ะ "
" ห้ามใจตัวเองไม่ให้รักน่ะมันบรรยายความเจ็บออกมาไม่ได้หรอก .... นอกจากร้องไห้ออกมา "
" ...... " มันตั้งให้เพลงวนไปวนมา ผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีก นอกจากกอดมันแน่นๆ

อารมณ์เพลงล้วนๆเลย เหอะๆ ขอไปรอดูบอลก่อน พิมพ์เสร็จเมื่อไรจะรีบมาต่อเลยนะครับ ผมเลือกต่อเรื่องของพานริชกับวิกฤตบ้านวากดิษก่อนนะครับ ใบแทรกเอาไว้ก่อน แฮะๆๆ

อาการของวากดิษไม่ได้ร้ายแรงอะไรครับ แต่มันอดคิดถึงเรื่องดวงเรื่องโชคลางไม่ได้ เพราะวากดิษก็บอกว่าฝันเห็นพ่อ อาจจะคิดถึงมากไปเอง แต่นั่นก็ดีครับ ทำให้เราได้ไปทำบุญกัน ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้นะครับ

รักทุกคนๆ  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2015 01:41:45 โดย KimDit »

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
Re: บันทึกของคิม รายงานตัว 10/08/2558
«ตอบ #6691 เมื่อ15-08-2015 01:24:28 »

กำลังฟังเพลงนี้เลยครับพี่ 


ฝากบอกพี่ดิษด้วยนะครับ  ว่าดูแลสุขภาพด้วยครับ

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
คนที่อยู่ในอารมณ์รักนี่ จิตใจมันอ่อนไหวง่ายเน๊าะ อ่านแล้ว น้ำตาซึมเลย

พี่ว๊ากอย่าคิดมากยังไงๆน้องคิมก็รักพี่ว๊ากคนเดียว อิอิ (คิดว่า)

ดูแลสุขภาพด้วยนะทั้งสองคน

อนุโมทนาบุญด้วยนะที่ไปทำบุญมา มีเวลาก็พยายามทำบ่อยๆนะครับ

ขออำนาจบุญกุศลให้น้องคิม น้องดิษ รวมทั้งบุคคลใกล้ชิตมีความสุขดวามเจริญ

ผ่านพ้นอุปสรรคต่างไปด้วยดีครับ

 :mew1:  รออัพครั้งต่อไปครัช :katai3:

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ดิษเป็นคนอ่อนไหวกับเรื่องของคิม คิมก็เอาใจคนแก่หน่อยค่ะ แซวเล่นน๊าา ^^

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
เพราะรักจึงอ่อนแอ และเพราะแคร์จึงอ่อนไหว
อาจเพราะงานเครียด ป่วย สูญเสียคนสำคัญ
ทำให้ดิษมีภาวะหัวใจอ่อนแอ(สภาพจิตใจ)

กำลังใจสำคัญมาก แต่ดิษเองก็ต้องให้กำลังใจตัวเองด้วย
อย่าคิดอะไรที่ทำร้ายความรู้สึกตัวเอง ทำยากแต่ต้องพยายาม

เพราะอาจเป็นโรคซึมเศร้าแบบไม่รู้ตัว ภายนอก ยิ้มหัวเราะ
แต่ข้างในมืดมน.

ส่วนคิมเองก็ดูแลตัวเองให้แข็งแรงทั้งกายและจิตใจ  :L2:

ดูแลกันและกันน๊ะทั้งสองคน




ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Nano PL

  • ขอร้อง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 869
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-7
สู้ๆนะครับ ^^

ออฟไลน์ Mamoru

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
 :mew2: จะรออ่านเรื่องนี้ไปจนแก่เลยแล้ว คิมดิษฐ์ก็ต้องอยู่เล่าไปตลอดดดด

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
555555 ทำไมขำ พี่คิมดูแลพี่วากดีๆนะ แบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกัน

ออฟไลน์ nanazaa002

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
ฟังตามแล้วนึกถึงตอนแรกๆเลย
 :hao5:

ออฟไลน์ [Y]i_love_you

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :o12: พี่นี่แทบจะร้องตามท่านว้าก  :o12:  อารมณ์อ่อนไหวจัง ไม่ว่าเมื่อก่อนท่านว้ากจะผ่านเรื่องแย่ๆอะไรมา ยังไงวันนี้ก็มีน้องอยู่ข้างๆแล้ว มั่นใจในรักที่น้องมีให้เหอะ เนอะๆๆๆๆ
***พี่เป็นติ้งคิมดิษยังสัมผัสได้เลยว่าน้องรักท่านว้ากมว๊ากกกกกกก***

ออฟไลน์ ดวงตะวัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
รักกัน ดูแลกันตลอดไปนะคะ

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
รักน้องคิม พี่ว้าก ยิ่งอ่านยิ่งรัก  :mew1:
ว่าแล้วก็ขอไปเปิดเพลงนั้นฟังมั่ง
(แล้วก็แอบคิดว่าละครเรื่องนั้นเรื่องอะไรหว่า  :hao7:)

พี่ว้ากคงคิดมากในหลายๆเรื่อง กว่าจะผ่านหลายๆเรื่องมาได้
ทั้งเรื่องพ่อ เรื่องสุขภาพ เรื่องหนูคิมมี่ด้วย

รักและขอติดตามคู่นี้ไปตลอดเช่นกันนะ
รักที่สุด :impress2:

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

ออฟไลน์ bomm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มุมหนึ่งของพี่วากก็น่ารักนะ ให้กำลังใจกันและกัน  :กอด1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ดิษนี่แกร่งได้กับทุกเรื่อง
แต่ถ้าเป็นเรื่องของคิม
จะกลายเป็นอ่อนไหวทันที
ก็ดิษรักคิมมากนี่นา
สงสัยกลัวคิมเปลี่ยนใจ

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
จะบอกว่ารู้แล้วน้องคิมดูเรื่องอะไร รวมทั้งเพลงประกอบเรื่องนี้ด้วย
ดูเรื่องเดียวกันเลย  :hao7:
 นั่งฟังเพลงแล้วอินไปกับพี่ว้าก นี่แสดงว่าพี่ดิษฐ์ยังห่วงเรื่องคิมอยู่มากนะ
จิตใจยังหวั่นไหว ไม่มั่นใจ กลัวคิมอยากแต่งงานกับผู้หญิงสักคนในอนาคตเปล่า
เศร้าไปด้วยเลยย. แงๆๆ

คิมมี่สู้ๆนะ เป็นกำลังใจให้พี่ดิษฐ์เสมอๆ
ถึงพี่ดิษฐ์จะรู้ว่าคิมรักพี่เค้าแต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้เนอะ
ค่อยๆเติมความรักกันแบบนี้ไปเรื่อยๆนะ สู้ๆๆ
รักเสมอๆ :mew1:

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
มารอพี่คิมพี่ดิษครับ

วันนี้ทำหลายอย่างเลยครับ เพลียเลย



พี่ดิษกับพี่คิมอย่านอนดึกนักนะครับ เดี๋ยวแก่ไวไม่หล่อนะพี่ฮ่าๆๆๆ  พี่ๆดูแลกันด้วยนะครับ   จุ๊บๆฮ่าๆๆ:mew1:

ออฟไลน์ KimDit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-1
ตื่นมาก็ต่อเลยนะนิ งืมๆๆ

**********************************************************************

หน้าที่ 44 วรรคที่ 2

หลังจากที่วากดิษระเบิดใส่พี่พานกับพี่ริช เรื่องที่สองคนนั้นตัดสินใจจะดูใจกัน ผมกะว่าจะตามไปถามเหตุผล แต่วากดิษเดินกลับเข้าไปในห้องซึ่งเต็มไปด้วยผู้บริหารและนักกฎหมาย ผมเลยต้องนั่งรออยู่ข้างนอก แต่พอนานเช้ากลัวพวกคนในห้างจะนินทา ในที่สุดก็ไม่ได้ถามเหตุผลครับ ต้องกลับไปนั่งทำงานต่อ
“ ช่วงนี้พี่ดิษดูเคร่งเครียดมากเลยอะพี่ ” พวกน้องๆตัวดี พอเห็นผมกลับมานั่งก็คุยเรื่องสำคัญกันทันที
“ อืม อาจจะเพราะเค้าเป็นหัวหน้าพวกลิงมั้ง ” ผมพูดกวนพวกมันเล่นๆ
“ ไม่ใช่ดิพี่ ผมกลัวพี่เค้าจะ ...... ” มันจะเว้นวรรคกันทำไม
“ อะไร กลัวอะไร ”
“ อาจจะเป็นโรคซึมเศร้าก็ได้นะพี่ ” ผมเงยหน้าแทบจะทันที
“ ปากอะพวกมึง ถามหน่อย ทำไมพวกมึงถึงสนใจเรื่องของพี่ดิษนักวะ ” พวกน้องๆเริ่มจะน้องเสีย เพราะผมใส่อารมณ์หน่อยๆแล้วครับ
“ ก็ ...... แบบเราห่วงอะครับ ขอโทษที่ทำให้โมโหนะพี่ ”
“ เออๆ พี่อารมณ์ร้อนไป เข้าใจว่าห่วง แต่อย่าพูดอะไรแบบนั้น มันไม่เป็นมงคล ” ไอสองตัวนั้นวิ่งหายไปละครับ

พูดไปแล้วผม ระยะหลังนี้วากดิษก็มีมุมที่ทำให้ผมแปลกใจบ่อยๆนะครับ เช่นไม่ชวนผมกลับไปที่บ้านของเขาเลย ชอบพาไปดูหนัง ทั้งๆที่ปกติมันไม่ชอบไปไหนนอกบ้านเท่าไร ไม่ก็สั่งอะไรแพงๆมากิน ทั้งที่นิสัยพี่ท่านเป็นคนอดออมมาก สุดท้ายคือนอนดึกขึ้น

ช่วงเย็น ผมเดินไปแอบมองวากดิษที่ห้องทำงาน แต่คณะนั้นไม่มีทีท่าจะจะออกมาง่ายๆ ผมได้ยินว่านอกจากเรื่องของห้างแล้ว ยังมีธุระส่วนตัวเรื่องทางบ้านของวากดิษด้วย
“ สวัสดีครับพ่อ ” พ่อของผมโทรมาหา ตอนนี้ท่านยังอยู่ที่นี่ คืออยู่บ้านของวากดิษ
“ เออนี่ เลิกงานกันหรือยัง ”
“ เลิกแล้วพ่อ แต่ดิษยังไม่กลับ ”
“ เองกลับมาก่อนสิ เดี๋ยวมันก็ตามมาเองแหละ ” อยากจะบอกพ่อว่า ช่วงนี้เค้าไม่ตัวติดกับผมอย่างเคย แต่ไม่อยากให้พ่อเครียดครับ ตอนนี้ท่านยังเดินไม่ได้ แต่ที่มาเพราะต้องฝืนตัวเองมาช่วยจัดการกับพวกญาติทางพ่อของดิษ
“ ครับ ” ผมตกปากรับคำแล้วก็เก็บของครับ
“ กลับแล้วเหรอรูปหล่อ ”
“ อ้าวพี่พาน จะกลับเหมือนกันเหรอครับ
“ เฮ้อ พี่คงจะกลับก่อน ..... ริชบอกว่าจะขอคุยกับดิษหน่อย ”
“ พี่สองคนใจเย็นหน่อยนะครับ ผมจะคุยกับดิษให้ ” ” พี่พานยืนยิ้มให้ผม
“ คิมนั่นแหละที่ต้องใจเย็นๆ พี่สองคนยังไม่ได้คืบหน้าขนาดนั้น เจออุปสรรคขนาดนี้อาจจะเลิกไปเองก็ได้ ”
“ กล้าพูดนะพี่ หลอกตัวเองเก่งจริงๆ ” ผมแซวครับ ถามว่าทำไมผมถึงบอกว่าพี่พานหลอกตัวเอง เพราะพี่เค้ากล้าคุยกับผมมากขึ้นๆ ก่อนหน้าที่เรียกว่าพยายามหลบหน้าก็น่าจะพูดแบบนั้นได้
“ ริชน่ะเป็นคนที่ดูยากนะคิม ” แต่อันนี้เห็นด้วยครับ
“ พี่กลัวเหรอ ” พี่พานมองซ้ายมองขวา
“ ในนี้พูดซี้ซั้วไม่ได้นะ นั่งคุยกันข้างนอกเถอะ ” ลืมไปครับ เหอะๆๆ พี่พานกะจะเดินออกด้านหน้า แต่ผมนึกครึ้มๆเลยเดินผ่านหน้าห้องผู้จัดการแบบ .... ช้าๆ หึหึ

ผมกับพี่พานนั่งคุยกันที่ด้านข้างของลานจอดรถ ซึ่งผมเพิ่งมาจัดพื้นที่ให้เอาไว้พูดคุยกัน
“ คิมนี่ก็ช่างคิดนะ มุมนี้หลบพวกหัวหน้าได้สบายๆเลย ” ผมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“ เป็นลูกน้องก็คิดแบบลูกน้องไงพี่ วันไหนเป็นหัวหน้าผมจะคิดอีกแบบ ” พี่พานหัวเราะ
“ นิสัยโหดไม่เบานะ ดิษคงไม่เคยเห็นเลยสิท่า ”
“ กับดิษ ผมไม่จำเป็นต้องใช้นิสัยแบบนั้นหรอกพี่ ออกจะปลอดภัย ” พี่พานนั่งลงที่เก้าอี้ ผมก็นั่งลงข้างๆด้วยครับ
“ คิมรู้ไหมว่าทำไมเรื่องของพี่สองคนถึงไม่ง่าย ”
“ มันไม่มีอะไรง่ายหรอกพี่ ทำไมถึงคิดว่าเป็นเรื่องยากง่ายครับ ” ผมถามเพราะ ผมไม่รู้จักพี่พานเท่าไร
“ จีบคนอื่น ก็มีติดยากติดง่ายไง ”
“ พี่คงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะครับ โลกของพวกผม ไม่ใช่แบบนั้น ” พี่พานเริ่มสนใจครับ
“ เราอยู่คนละโลกเหรอ พูดตลกๆ ”
“ สำหรับคนอื่นผมไม่รู้นะ แต่ในความคิดผม พี่ริชหรือแม้แต่ดิษ เค้าไม่คิดจะคบใครแค่ให้มาจีบหรอกครับ ”
“ ก็ต้องจีบก่อนสิแหม ”
“ ชายหญิงมันอาจจะเกิดจากมุมนั้นได้เสมอพี่ ผมก็ทำบ่อย .... แต่พอเรื่องนี้ มันไม่ใช่ว่าจะเรื่อยๆเรียงๆแล้วถึงจะคบกันได้นะพี่ ถ้าพี่ไม่เชื่อในความรักแบบนี้ จีบเล่นๆไปก่อน เผื่อรักมั่นทีหลัง ผมไม่คิดว่าพี่ริชจะยอมพี่หรอก ” พี่พานยิ้มร่า
“ พี่คบคนมามากนะคิม อีกอย่างริชกับพี่เราได้กันจนเริ่มจะผูกพันกันแล้ว ”
“ ตามใจ ผมแค่เตือน กลัวจะมานั่งร้องไห้ทีหลัง ” พี่พานตีไหล่ผมหยอกๆ
“ ปล่อยให้เป็นไปแบบนี้แหละ ปะ กลับเถอะ ..... ช่วงนี้ไปไหนมาไหนกับดิษตลอด นี่จะกลับก่อนเหรอ ” เพิ่งจะสนใจ ชิชะ
“ ผมขึ้นรถไปก็ได้ ” พี่พานส่ายหน้า
“ ไปกับพี่ก็ได้ ไปที่ไหนล่ะ ” ผมบอกสถานที่ ที่จะให้ไปส่ง จากนั้นผมสองคนก็เดินทางมาที่บ้านของดิษ ซึ่งบรรยากาศเงียบเหงามาก มีแค่พ่อของผมกับแม่ที่อยู่เฝ้าบ้านให้ ส่วนบรรดาคนงานที่เคยทำงานด้วย พอพ่อวากดิษเสียไป ก็พากันขอกลับบ้านกันหมด
“ หนุ่มที่ไหนมาส่งวะ ” พ่อผมตะโกนข้ามรั้วออกมา เสียงนี่ไม่หายตามอาการเลยครับ
“ เข้ามาก่อนก็ได้พี่ ” ผมพาพี่พานไปสวัสดีพ่อ
“ สวัสดีครับ ผมชื่อพานเป็นพี่ในที่ทำงานของคิมครับ ” พ่อของผมมองแบบไม่ค่อยแสดงอารมณ์
“ มันเคยพูดถึงคุณ แต่ดูจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไร ”
“ มัน ..... นี่ดิษเหรอพ่อ ” ผมถาม พ่อของผมพยักหน้า ส่วนพี่พานยิ้มออกมาครับ
“ ผมเคย ...... ”
“ อ้าว ใครมาน่ะคุณ ” แม่ของผมคงกำลังทำงานบ้านอยู่ครับ เดินออกมาเจอพวกผมพอดี
“ เพื่อนในที่ทำงานมาส่งไอคิม ”
“ ดิษเค้าคัดแต่หน้าตาดีๆมาทำงานนะเนี่ย ” พอมีคนชม พี่พานหัวเราะร่าเลยครับ
“ แม่หมายถึงผมครับพี่ ”
“ อ้าวเหรอ เหอะๆ งั้นผมกลับก่อนดีกว่าครับ สวัสดีครับ ” พี่พานดูไม่ขัดเขินอะไร เพราะจริงๆก็เจอหน้ากันมาแล้วในงานศพพ่อท่านวากดิษ เพียงแต่ไม่มีโอกาสได้แนะนำตัวกันเท่านั้นเองครับ
“ ไปอาบน้ำล้างตัวไป แล้วมานั่งคุยกัน ” พ่อของผมจะสั่งให้ผมไปอาบน้ำหลังเรียนเสมอครับ อารมณ์เด็กแนวก็ไม่ชอบหรอก แต่ไม่อยากขัดใจ พอโตมาถึงรู้ว่าทำแบบนี้แหละดี แฮะๆๆ

ผมเดินขึ้นมาก็ต้องผ่านหน้าห้องของพ่อวากดิษที่เราเคยทำเอาไว้ให้ท่าน ช่วงที่พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ในห้องนี้ผมเคยเจอกับเหตุการณ์มากมายจนไม่อยากคิดถึงมันอีก เพราะมันสับสนปนเปกันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นตอนที่สั่งให้ผมเลิกกับดิษ ตอนที่ดิษมากราบเพื่อขอคบกับผม จนถึงวันที่ให้เงินผมไปซื้อเสื้อเพื่อไปงานแต่งเพื่อนพี่โต้ง
“ พี่คิมสวัสดีครับ ” พอหันหลังไปก็เจอข้าวจ้าวแต่งชุดนักศึกษาเดินมาทางผม
“ ข้าวจ้าว หล่อนะเนี่ย ” ข้าวจ้าวแกล้งยกกระเป๋ามาบังหน้าอก
“ อย่านะครับพี่ เดี๋ยวผมติดใจ ” ไม่รู้เพราะอะไร แต่ข้าวจ้าวมีนิสัยตรงข้ามกับดิษเลยครับ แนวๆขี้เล่น ยิ้มง่าย เรียกว่าสดใสก็ใช่ เพียงแต่สูงไม่เท่ากับดิษเท่านั้น ถ้าสมัยเรียนดิษมีนิสัยแบบข้าวจ้าว ผมว่าหัวกระไดหอไม่แห้งแน่ๆ
“ นี่ไปทำอะไรมาล่ะ ” ข้าวจ้าวเดินจูงผมเข้ามาในห้องของพ่อวากดิษ  ไม่รู้ทำไมถึงต้องพาเข้ามา
“ ผมไปหาซื้อหนังสือตามที่รุ่นพี่บอกมาครับ ”
“ ขยันมาก แต่ทำไมต้องใส่ชุดนักศึกษา ” ข้าวจ้าวเริ่มทำหน้าบูดครับ
“ พวกพี่ๆจะคัดผมไปเป็นลีดเดอร์อะครับ แต่ผมเต้นไม่เป็น ”
“ ลีดเดอร์ไม่ต้องเข้าเชียร์นี่ ดีออก ” ผมแซว
“ พวกพี่ๆที่คุมไม่น่ากลัวครับ เชียร์เฉยๆสบายกว่า ” ผมเอามือแตะไหล่ของข้าวจ้าว
“ เวลาที่เราอยู่ในรั้วมหาลัย อะไรที่ไม่เคยลองก็ลองดู ทำไม่ได้ก็ไม่มีใครตำหนิหรอก ”
“ พี่คิมจะไม่เข้าไปดูผมหน่อยเหรอครับ พี่เคยทำงานเชียร์ น่าจะแนะนำผมได้ ” ผมได้แต่ยิ้ม
“ เรามันคนละตระกูลกันเลยข้าวจ้าว คณะพี่หาลีดหน้าตาแบบข้าวจ้าวไม่ได้ง่ายๆหรอก ”
“ งั้นพวกพี่ก็เป็นพันทางสิครับ หน้าตาไม่เข้าพวก ”
“ แรงละ ปะ พ่อพี่คงรอแล้ว ” ผมกับข้าวจ้าวเดินออกมาจากห้อง ก็เจอวากมหาลัยชื่อข้าวกล้องมองด้วยสายตาน่ากลัวมั่ก
“ โห กับน้องก็ไม่เว้น ” ข้าวจ้าวแซวพี่มันครับ
“ โตแล้วไม่ต้องทักทายพี่แล้วสินะ ” ผมทำปากโอ้โหกับข้าวจ้าว เข้มเหลือเกิน หมั่นไส้ เหอะๆๆ
“ สวัสดีครับพี่วาก ” วากดิษแสยะยิ้ม
“ เรียกเองนะ ทั้งสองคนเลยหมอบท่าเตรียม ” ผมหันหน้ามองกับข้าวจ้าว
“ แต่เราก็วากนะเว้ยดิษ ” ผมต่อรอง ส่วนข้าวจ้าวเหมือนโดนหักหลังครับ ขอโทษนะ มันเป็นธรรมชาติเวลารับน้อง ฮ่าๆ
“ จะหมอบหรือจะคลาน ”
“ หมอบครับหมอบ ” ผมแตะๆข้าวจ้าวให้ทำตาม
“ เข้าไปห้องนั้นทำไม ”
“ โฮ่ววว ให้เงยหน้าพูดกันดิคร้าบ เดี๋ยวก็หน้ามืด ” ผมแซว ข้าวจ้าวดูจะเกรงๆ แต่ผมรู้ว่าดิษจะแกล้งน้องครับ เพราะคงเห็นชุดนักศึกษาแล้วคันมือ
“ พอละๆ สงสาร มายืนๆ ”
“ เล่นไรอะพี่ พวกผมไม่โหดแบบนี้หรอก ” แหม พวกผม
“ สนุกๆน่า แล้วเข้าไปทำไม ”
“ คิดถึงพ่อครับ เมื่อก่อนตอนพ่อรักษาตัวที่โรงพยาบาล ผมก็นั่งเล่นบ่อยๆ ”
“ ......... ” พอข้าวจ้าวตอบ ดิษถึงกับยืนนิ่งไปเลย
“ ข้าวจ้าวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่านะ จะได้นั่งคุยกันต่อ ” ข้าวจ้าวพยักหน้าแล้วเดินขึ้นห้องไป
“ พ่อเรากะว่าดิษต้องตามมา แล้วก็มาจริงด้วย ”
“ กลับหอกันเถอะนะ ” ดิษพูดชวนผม แต่นาทีนี้ผมไม่ปล่อยดิษกลับหอหรอกครับ เพราะอย่างน้อยต้องให้เค้าระบายออกมาบ้าง
“ ไมเอา อยู่นี่คึกคักดี ” ผมพูดจบก็เดินขึ้นห้องของวากดิษ นั่งรอพักนึง วากดิษก็ไม่ตามขึ้นมา ผมเลยล้างตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นถึงเดินลงมานั่งรวมกับคนอื่นๆ
“ พ่อกลับไปพักฟื้นที่ไร่จะดีกว่านะครับ ..... อยู่ที่นี่ผมกลัวว่าญาติจะมาระราน ” พอเดินมาถึง วากดิษก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา
“ พวกนั้นหายไปเป็นสิบปี โผล่มาตอนเพื่อนข้าใกล้ตาย มันก็ไม่รู้จักเตรียมอะไรเลย ” พ่อของผมคงพูดถึงพ่อวากดิษครับ
“ คุณคะ เราจะยุ่งกับเรื่องของครอบครัวเค้าเหรอ ”
“ ครอบครัวเค้า ครอบครัวไหน ยังไงไอคิมกับไอดิษก็ครอบครัวเดียวกัน ผมจะยุ่งจนได้นั่นแหละ ” พ่อผมเองๆ เหอะๆๆๆ
“ มีลุงอยู่ด้วย ผมสบายใจครับ ในงานศพ แม่ของผมกลายเป็นเมียน้อยได้ยังไงก็ไม่รู้ ” ข้าวจ้าวเสริมขึ้นมา
“ ถามไอคิมนู้นมันเรียนกฎหมาย ตกลงเมียอะไร เมียหลวงใช่ไหม ”
“ เค้าเป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย เรียกเมียหลวงเหมือนอามีเมียน้อยนะพ่อ ” พ่อของผมแกล้งทำปากล้อเลียน
“ ปกป้องเหลือเกินแม่ย่าน่ะ ”
“ คุณคะ ไม่ต้องแซวลูกเลยนะ คิมต้องเป็นกำลังใจให้อาผู้หญิงด้วยนะลูก ถึงเค้าไม่เกี่ยวข้องทางสายสัมพันธ์กับข้าวกล้อง แต่เค้าก็เป็นคนที่พ่อตาข้าวกล้องรักมาก บ้านแม่บอกว่าแม่ตายยังพอทน แต่พ่อตายทุกอย่างจะขาดสะบั้น ญาติฝ่ายพ่อคงไม่คิดจะคุยกับดิษดีๆหรอกนะลูก ”
“ ผมตั้งใจไว้ว่าจะไม่ให้อะไรพวกเค้าครับ ” เหตุการณ์ช่วงนี้ เกี่ยวกับใบแทรกส่วนนึงที่ผมเคยเล่าไป โดยญาติฝ่ายพ่อเค้าไปยื่นคำร้องตามศาลท้องที่ต่างๆให้นำทรัพย์สินมาใช้หนี้ ซึ่งรู้อยู่แก่ใจว่า ไม่เหลือหนี้อะไรแล้ว แต่ก็ดื้อจะทำ
“ ข้าคิดว่าจะแบ่งให้บ้าง ” พ่อของผมถาม
“ เค้าดูหมิ่นคิมต่อหน้าผม ผมรับไม่ได้ครับ ”
“ ดิษ ถ้าหมายถึงวันนั้น ...... เราไม่ติดใจ ” วันนั้นคือวันที่ผมโดนชี้หน้าในห้องไกล่เกลี่ยว่าเป็นคู่เกย์ เรียกผมว่าพวกผิดเพศ คบหากันแบบผิดธรรมชาติ แล้วก็บอกว่าดิษควรเอามรดกแบ่งคืนทางนั้น เพราะพ่อของดิษช้ำใจที่ลูกเป็นเกย์จนตรอมใจตาย ควรจะให้คนที่มีทายาทสืบสกุลมากกว่าเอาไว้ใช้สุขสบายกับคู่เกย์ ซึ่งพูดต่อหน้าศาลด้วย จนท่านเองก็ทนไม่ไหว และเตือนว่าถ้าพูดอีก ตัวผมอาจจะฟ้องร้องพวกเค้าได้
“ แต่สำหรับพี่ เค้าฝากแผลที่ลึกที่สุดลงกลางใจพี่ ” วากดิษกุมมือของผมเอาไว้แน่น ผมได้แต่มองตาของเค้า พูดอะไรไม่ออกครับ
“ เฮ้อ ตอนนี้คงมีแค่เองที่ต้องเผชิญหน้า พวกเราทุกคนเป็นได้แค่กำลังใจ ” วากดิษยิ้มออกครับ

ช่วงค่ำ แม่ของข้าวจ้าวกลับมาเพื่อคุยกับพวกผม ซึ่งทุกคนตัดสินใจให้ดิษเป็นตัวแทน เพราะแม่ของข้าวจ้าวไม่สามารถเจอหน้าญาติฝ่ายพ่อได้อีกแล้ว ส่วนข้าวจ้าวยังไม่พร้อมเท่าที่ควร
“ ตลอดหลายสิบปี หนูเองคิดว่าเค้าจะเห็นความดีของเราบ้าง ” แม่ข้าวจ้าวเริ่มระบายออกมาบ้างแล้วครับ
“ มันก็เห็นแต่ไม่พูดถึง ” พ่อของผมพูด
“ อย่ากังวลไปเลย มีลูกชายเข้มแข็งขนาดดิษ ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ ” แม่ของผมให้กำลังใจอีกคน พวกผู้ใหญ่น่ะหัวเราะกลบเกลื่อนไป ยกเว้นผมกับข้าวจ้าว

เรานั่งกินข้าวฝีมือของแม่ผมเรียบร้อย แม่ท่านวากต้องขอตัวกลับไปที่โรงพยาบาล เพราะเหตุผลสองข้อ หนึ่งคือท่านทำใจยังไม่ได้ และสองมีงานค้างอยู่นิดหน่อย ทำฆ่าเวลาและให้เวลารักษาไปด้วย
“ เธอพูดแบบนี้ ชั้นไม่อยากให้ข้าวกล้องอยู่ที่นี่เลย ” ขณะที่แม่ท่านวากกำลังจะขับรถกลับ ผมก็เห็นพ่อเข็นรถเข็นออกไปหา ผมเลย .... เผือกซะเลย แฮ่ะๆๆๆ
“ หนูเองก็ห่วงค่ะพี่ สำหรับหนูพี่เค้าไม่เคยทำเรื่องไม่ดีเลย แต่กับข้าวกล้องหนูกลัวว่าเค้าจะทำใจลำบากกว่าหนู ” หูงี้ผึ่งเลยผม
“ นิสัยของมันนี่ไม่น่าให้อภัย ถ้ามันมาเข้าฝัน ชั้นจะกระทืบมัน ” อาได้ยินคงจะมาหรอกพ่อ คึคึคึคึ
“ หวังว่าคิมจะมีพลังอย่างที่เราคิดนะคะ ” หืม ผมเป็นยอมมนุษย์เหรอ
“ เหอะๆ จะได้รู้ว่ามันเกิดมาคู่กันจริงไหมก็ครั้งนี้ล่ะ ” แม่ของวากดิษขึ้นรถแล้วครับ ผมรีบมุดหนีกลับมาที่ชานบ้าน ก่อนจะวิ่งขึ้นไปตามหาวากดิษ

“ ดิษ อยู่ไหนอะ ”
“ ที่ระเบียงครับ น้องมาสิ ” ระหว่างทางข้าวจ้าวก็สอดหน้ามากระซิบว่าอยากคุยกับผมต่อ ผมก็พยักหน้าให้
“ นั่งรับลมเหรอครับพ่อวากหน้าเข้ม ” ผมแซวเล่นครับ
“ เมื่อกี้ วิ่งหลบพ่อตลกมากเลยนะ ”
“ อะไรของดิษ เราปล่าว ” วากดิษจับตัวผมมายืนตำแหน่งใหม่ แล้วก็ชี้นิ้วไปสองที่ ซึ่งก็คือจุดที่ผมแอบ กับที่พ่อผมส่งแม่ของข้าวจ้าวเมื่อกี้เอง
“ คนที่ไหนจะมาแอบส่องคนอื่นแบบนี้ บ้าปะ ” วากดิษยิ้มหวานให้ผม แล้วก็กอดผมจากด้านหลัง
“ มุมนี้เห็นทุกอย่าง แต่คนมองขึ้นมาไม่เห็นเรา ...... พี่มองพ่อจากมุมนี้บ่อยๆ ”
“ เหมือนมุมที่ไร่เลยสินะ ”
“ ช่วงนี้พี่งี่เง่ามากเลยใช่ไหม พี่รู้ว่าคิมคิดแต่ไม่พูด ” ผมดิ้นๆจนหลุดจากแขนของมัน
“ เราละเมอบอกหรือไงถึงได้รู้น่ะ ”
“ พี่แกล้งทำนิสัยแปลกๆ คิมก็ไม่ยอมพูดซักที ทำไมเหรอ ” อ๋อ มึงแกล้งเหรอ ฮึ่ยยย เล่นซะกูป่วนเลย ฮุ้ว
“ คิดว่ากำลังใช้ความคิดแล้วเผลอตัวไง ...... ใช่คิมห่วง แต่คิมก็กลัวเราจะทะเลาะกัน ”
“ น่ารักนะเนี่ย ฮะๆๆ ” และผมก็ไม่ได้ถามเรื่องพี่ริชกับพี่พานอีกจนได้ พอวากดิษขอตัวไปอาบน้ำ ผมก็แว้บไปหาข้าวจ้าวต่อ

“ พี่คิมครับ พี่ข้าวกล้องไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่ผู้ใหญ่คิดใช่ไหมครับ ” ข้าวจ้าวเวอร์ชั่นนี่เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย พี่น้องคู่นี้นี่นะ
“ ทำไมถึงอยากรู้ล่ะ ”
“ ผมไม่มีพ่ออีกแล้ว แม่ของผมกำลังใจย่ำแย่ ถ้าพี่ดิษพึ่งไม่ได้ พวกผมพังแน่ ”
“ เห็นร่าเริงนี่ แอบเก็บเอาไว้ลึกเลยนะเนี่ย ฮะๆๆ ” ข้าวจ้าวกัดฟันกรอดๆ ไม่เล่นกับกูเหรอวะ เหอะๆๆ
“ ผมชอบคิดอะไรเข้าข้างตัวเองอะพี่ ก็พอจะลืมไปได้ ”
“ ข้าวจ้าว ”
“ ครับ ”
“ พี่รู้ว่าเราสองคนไม่สนิทมากพอจะฝากความไว้ใจในเรื่องที่เสี่ยงแบบนี้ แต่ ....... แต่เชื่อพี่เถอะ มันร้ายกว่าที่ข้าวจ้าวคิดมากเลยล่ะ ญาติฝ่ายพ่อน่ะไม่ได้กินมันหรอก ” ข้าวจ้าวยังไม่แสดงสีหน้าใดๆครับ
“ พี่จะหลอกผมเหมือนแม่หรือปล่าว ”
“ หืม อาน่ะเหรอ ” ข้าวจ้าวพยักหน้า
“ แม่เคยบอกผมว่า ท่านจะดูแลผม ปกป้องผมหลังจากพ่อเสียไป แต่ท่านถูกญาติฝ่ายพ่อต้อนจนเอาตัวเองไม่รอด ปล่อยผมให้ร้องไห้คนเดียว ” ที่แท้ที่กัดฟันนี่ คือแค้นนี่เองครับ
“ แม่ของข้าวจ้าวอยู่โดยที่พ่อปกป้องมาตลอด ถึงท่านเป็นหมอเป็นผู้บริหาร แต่บางเรื่องเช่นเรื่องที่เกิดขึ้น มันมีอารมณ์ความรู้สึกมาเกี่ยว ท่านถูกโจมตีแบบไม่ได้ตั้งตัว เลยมีสภาพแบบนั้น แต่ตอนนี้เราตั้งตัวกันได้แล้ว ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม ”
“ ขอบคุณครับ ”
“ เออ เข้ามหาลัยน่ะ รักษาไว้ดีๆนะ ” พอผมพูดจบ ข้าวจ้าวก็หน้าแดงครับ ว่าผมลามกแล้วก็หวดแขนผมด้วยครับ เหอะๆๆ
“ พี่นี่นิสัย ..... ”
“ หมายถึงหน้าตาน่ะ รักษาไว้ดีๆ ทะลึ่งจริง ” พูดจบก็หัวเราะกันครับ ผมเดินออกมาก็เจอแม่ของผมยืนยิ้มอยู่
“ เข้าออกห้องพี่น้องเค้าไม่ได้ว่างเลยนะลูก ” ผมเดินมาเกาะไหล่ของแม่
“ ผมกังวลแทนดิษน่ะแม่ ”
“ พ่อก็คิดแบบนั้น ถึงให้แม่มาบอกให้ลูกไปหา ” คิวเยอะจริงกูวันนี้ ฮุ้ว
“ ผมไปบอกดิษก่อนนะแม่ ”
“ เมื่อกี้ ดิษเดินออกมาหาลูก แม่บอกแล้วว่าจะมาคุยกับพ่อ ” ได้ยินดังนั้นผมเลยเดินลงมาหาพ่อเลย

“ เหนื่อยไหม ” ได้ยินคำถามนี้ หายเหนื่อยเลยผม แฮะๆๆ
“ ไม่ครับพ่อ สบายมาก ”
“ เมื่อกี้ไอดิษบอกข้าว่าเองแอบฟังข้าคุยกับแม่เลี้ยงมันแล้ว ”
“ เฮ้ยๆๆๆ ไม่จริงพ่อ ” แม่ของผมหัวเราะลั่นเลย
“ ดูสิๆ ” พ่อของผมก็หัวเราะด้วย
“ ข้าก็ไม่คิดจะปิดบังอะไรเองหรอก แค่บังเอิญไปส่งแล้วนึกได้เลยพูด ข้าน่ะคิดจะบอกเองอยู่แล้ว ” รู้สึกผิดเลยอะ วากบ้าเอ้ย คืนนี้กูเอามึงแน่ ฮึ่ยยย
“ ครับพ่อ ” ตีหน้าเศร้าก่อนแล้วกัน
“ แต่อันนี้ลับ เองเข็นข้าไปที่สวนปะ ทายากันยุงซะด้วย ” แม่ของผมไม่เดินตามมาด้วยครับ บอกว่าจะดูละคร เหอะๆๆ

*******************************************************************

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ KimDit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-1
หน้าที่ 44 วรรคที่ 3

พ่อของผมให้ผมเข็นมาที่โต๊ะหินอ่อน แต่ท่านไม่ได้ลุกจากรถเข็นนะครับ
“ บ้านนี้ต้องเจอเรื่องเปลี่ยนแปลงทั้งๆที่ยังไม่พร้อม ข้าอยากให้เองเก็บเอาไว้เป็นประสบการณ์ เกิดวันหนึ่ง ..... ” ผมหยุดเข็นไปเฉยๆ
“ พ่อครับ อย่าแช่งตัวเองได้ไหม ”
“ เฮ้อ คิมเอ้ย ถ้าเราเห็นแล้วแกล้งไม่เห็น เท่ากับเราประมาทเราโง่ ” ความจริงแล้ว ผมก็ไม่มีทางรับไม่ได้หรอกถ้ามันเกิดขึ้น
“ ครับพ่อ ”
“ ก่อนหน้านี้ พ่อบอกว่าถ้าพ่อมันตาย ไอดิษจะเป็นมากกว่าคนอื่น เองคิดว่าทำไม ”
“ ผมว่าลึกๆดิษมันรักพ่อ ติดที่มันขัดกับความคิดของมัน .... ตรงที่พ่อไม่เคยทำเหมือนรักมันเลย แล้วมันจะรักพ่อด้วยเหตุผลอะไร ผมมองแบบนี้ ” ผมเลยตอบไปแบบนั้น เพราะดิษดูเป็นคนใช้เหตุผลทุกเรื่องมาตลอด ยกเว้นเรื่องผมนะ แฮะๆๆ
“ เองถูกส่วนนึง แต่ส่วนที่เองไม่เข้าใจคือมุมมองของคนเป็นพ่อ ”
“ ยังไงล่ะพ่อ ”
“ มันเลี้ยงลูกแบบให้เกิดความกลัว กระตุ้นได้ตามใจมันมาตลอด ..... สำหรับคนเป็นพ่อแล้ว ที่ต้องการคือลูกที่เชื่อฟังกันทั้งนั้น แต่มันเลือกที่จะไม่ยอมให้ลูกต้องเจอกับปัญหาแบบมัน ” ดูจะซับซ้อนมากเลยครับ
“ ปัญหาอะไรครับ ”
“ พ่อของไอดิษเป็นคนใจอ่อนมาก คบหาคนง่าย มันเสียทุกอย่างเพราะถูกโกง ..... ข้าเลยให้เงินมันไป ” พ่อของผมดูจะก้มหน้าอีกแล้ว ท่าทางเหมือนวันที่คุยกับผมเลย
“ ทำไมไม่คุยกันก่อนหน้านี้ล่ะพ่อ ”
“ อย่างมันจะอยากให้ใครรู้เหรอ ” จริงครับ เหอะๆๆ
“ งั้นมันเกี่ยวอะไรกับดิษครับ ”
“ เมียคนแรกมันรักมากจริงๆ ข้าเป็นคนพามันไปสู่ขอ เพราะบ้านมันเป็นยังไงเองคิดเอาเองได้ ” อืม คงจะไม่เคยยอมรับอาเค้ามาตลอดนั่นแหละ หิวแต่เงิน ด่าแม่ม ฮ่าๆๆ จะว่าไปแอบคิดถึงไอโต้งเพื่อนสนิทผมนะครับ มันเคยบอกผมว่าอยากให้ผมไปสู่ขอยัยนัท
“ มันตั้งใจจะสร้างครอบครัวที่ดี แต่เพราะตั้งใจกันมากไป แม่ของข้าวกล้อง พอคลอดลูกแล้วสุขภาพไม่แข็งแรง ป่วยเสียชีวิตไป ทีนี้มันก็ตราหน้าญาติพี่น้องว่าคือคนที่ทำให้เมียมันตาย มันไม่ไปเจอญาติอีกเลย แต่พวกนั้นหาว่ามันหนีหนี้ที่ติดค้างญาติเลยหนีไป ...... ก่อนที่มันจะฝากข้าวกล้องกับข้าน่ะ มันบอกว่ามันจะทำให้ข้าวกล้องเป็นคนที่เข้มแข็ง ไม่ล้มเหลวเหมือนมัน ” ผมเริ่มจะซึมซับหัวอกของอาท่านมากขึ้นแล้วครับ เพราะพ่อผมเป็นเพื่อนรักของพ่อวากดิษ ท่านคงคุยกันแทบทุกเรื่อง เผลอๆจะสนิทยิ่งกว่าเมียกว่าลูกด้วยซ้ำไป
“ แต่อาไม่ทำเกินไปเหรอครับพ่อ ”
“ ใช่สิ มันทำเกินไปอยู่แล้ว ..... ไอทำให้เข็มแข็งน่ะคิดดี แต่มันคิดต่อปอีกว่า ข้าวกล้องยังไปได้ไกลกว่านั้น มันไม่เคยหยุดกระตุ้น ไม่เคยหยุดบังคับลูกมันเลย ” พอได้ยินคำว่าไปได้ไกล ผมหวนนึกถึงวันที่ท่านพูดกับผมว่า ถ้าผมกับข้าวกล้องไม่คบกัน จะไปได้ไกลกว่าที่เป็น สิ่งนี้คงหลอกหลอนกัดกินท่านเหมือนกัน
“ เฮ้อ ผมรู้สึกแย่ ” พ่อของผมตีมือของผมโผะๆๆ
“ เองจะรู้สึกแย่ทำไม ก็เพราะเองแหละ มันถึงคืนสติได้ก่อนตายไปแบบคนโง่ ”
“ อะไรพ่อ ผมเนี่ยนะ ”
“ เออสิ สำหรับไอดิษมันช่วยข้า แต่พ่อของดิษเองเป็นคนช่วยไว้ ” ผมเกาหัวแกรกๆเลย
“ ไม่เข้าใจอะพ่อ ” พ่อของผมยิ้มออกมา
“ ข้าจะถือโอกาสพูดแทนมัน ....... ตอนที่ข้าวกล้องเสเพล เคยมีครั้งที่มีผู้หญิงไปก่อกวนพ่อมัน มันเล่าให้ข้าฟังว่ามีผู้หญิงมาเกาะกินลูกมัน ข้าขอให้มันใจเย็นๆ มันเถียงว่าเลี้ยงมากับมือ แต่ไปเสียกับเรื่องแบบนี้ มันเสียความรู้สึก ” ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นคนที่มันเปิดซิงตัวเองก็ได้ครับ
“ ข้าเลยบอกมันไปว่า ถ้าลูกมึงมีเมีย มึงจะเสียลูก เพราะไม่มีทางที่เมียมันจะยอมให้ผัวเป็นทาสมึง ” พ่อผมนี่ก็ด่าแรงเหมือนกันนี่
“ อาไม่สติแตกเลยเหรอครับ ”
“ มันจะกล้าอะไรกับข้าล่ะ หลังจากนั้นมันก็สกัดลูกมันแทบทุกทาง จนถึงครั้งที่เองตามมันไปที่บ้านของแม่มัน นึกออกไหม ” ผมอึ้งมากกว่าครับ นึกอะนึกออกอยู่แล้ว แต่พ่อผมนี่ไม่เคยปล่อยผมเลยจริงๆ
“ นึกออกดิพ่อ แล้วทำไมอะ ”
“ พ่อมันน่ะป่วยเลยนะ ที่ได้ยินว่าลูกมันอกหัก จนหนีไปบ้านแม่ ” อาเองก็แคร์ลูกมากเหมือนกันครับ
“ พอเรื่องของเองกับดิษแดงขึ้นมา มันตรอมใจไปอีก เพราะมันไม่อยากมีปัญหากับข้า แต่ท้ายที่สุดมันก็พูดกับข้าว่า ข้าคิดผิด ”
“ ผิดเรื่องอะไรพ่อ ”
“ มันบอกว่าวันนี้ดิษกับคิมตกลงแต่งงานกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน แต่ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของมันกับข้าวกล้องแย่ลงตรงไหนเลย .....ข้าเลยสวนมันว่า นั่นเพราะลูกข้าต่างหาก มันก็หัวเราะแล้วบอกว่าใช่ และมันยอมรับว่าความสุขของลูกมันต่างหากที่มันต้องการ ไม่ใช่ความสำเร็จ ”
“ พ่อ พ่อไม่โกรธใช่ไหม ที่ผมเป็นแบบนี้ ” ยิ่งฟังผมยิ่งรู้สึกรักพ่ออะ น้ำตาปริ่มๆเลย
“ มานั่งตรงหน้านี่ ...... ไม่โกรธ ไม่ว่า ข้าดีใจ ” ผมหัวเราะกันแบบไม่มีเหตุผล ก่อนที่ผมจะพาพ่อมาส่งที่ห้องรับแขก และแม่ของผมก็รับช่วงต่อ แปลกที่แม่ไม่ถามเลยว่าไปไหนกันมาตั้งนาน สงสัยจะเตี๊ยมกันมาก่อนแล้ว

ผมค่อยๆเดินผ่านทุกซอกทุกมุมในบ้านของวากดิษ รูปครอบครัวของอาทุกภาพอาไม่เคยยิ้มเลย ทำให้ทุกคนในภาพไม่เคยยิ้มออกมาเหมือนกัน แต่ผมก็สะดุดกับภาพสุดท้ายที่อาไปเที่ยวกับพวกผม ท่านพยายามชูนิ้วสองนิ้วและพยายามยิ้มด้วย
“ คิม ” วากดิษเดินออกมาหาจนได้ครับ
“ ถอดเสื้อโชว์ใครครับพี่วาก ”
“ กล้าถามนะ โชว์คนเดียวนั่นแหละ เข้าห้องกันไหม ” พอวากดิษคล้อยหลัง ผมกระโดดขี้หลังมันเลยครับ
“ ฮ่าๆๆ หนักไหม ”
“ อารมณ์ดีจากไหนเนี่ย ฮึบ .... พี่มารอให้คิมว่าเรื่องที่พี่บอกพ่อว่า ..... โอย คิมเล่นอะไรน่ะ ” พอเข้าห้องมาแล้ว ผมแกล้งซุกจมูกลงที่ซอกคอ กับลูบหน้าอกมันเล่น
“ มีอะไรจะบอก ”
“ หืม ” ผมพยายามคิดหาคำที่จะบอกกับดิษเรื่องความในใจของพ่อเค้า แต่มันบรรยายออกมาสั้นๆไม่ได้ ครั้นจะเล่ายาวๆก็กลัวดิษจะยังไม่มีความพร้อมพอจะรับฟัง
“ คือ ...... ”
“ คือ ....... ” มันทวนตามผมอะ กวนว่ะ
“ ข้าวกล้องนายรู้ไหมว่า นายคือชีวิตของพ่อนาย ” วากดิษยืนนิ่งไป ผมพูดออกไปก็หลับตาปี๋เลยครับ กลัวมันโมโหจนทุ่มผมลงบนเตียง
“ มีต่อไหม ”
“ อ่ะ ห๊ะ ..... ก็ ถ้านายไม่อยากให้พ่อตายจากใจ นายต้องเป็นข้าวกล้องที่มีชีวิตให้ได้นะ ” วากดิษหัวเราะในลำคอ ก่อนจะให้ผมนั่งลงที่เตียงโดยปลอดภัย แล้วหันหน้ากลับมาหาผม
“ มีข้อแม้อยู่ข้อนึง ”
“ ว่ามาสิ ”
“ คิมก็ต้องเป็นคิมของพี่ด้วย พี่จะได้เป็นข้าวกล้องที่มีชีวิตได้ไง ” นักพูดนี่ไม่ยอมเลยว่ะ
“ ได้คร้าบ ผมยอมนานแล้วมั้งครับ ” วากดิษกอดเอวผม เราอยู่นิ่งๆท่านั้นนานทีเดียวครับ ก่อนจะล้มตัวลงนอน

“ คิมเหนื่อยมาทั้งวัน ตอนนี้ไม่มีอะไรให้กังวลแล้วนะ ”
“ ความจริงมันก็มีอยู่ ” แกล้งพูดอ้อมๆครับ มันหัวไวยังไงก็รู้ว่าผมพูดถึงพี่ริชกับพี่พาน หึหึ
“ ไม่มีแล้ว ”
“ หมายความว่ายังไง ”
“ พี่ริชบอกพี่ว่า เค้าจะไม่สานต่อกับพาน ” ผมเด้งตัวขึ้นนั่ง แต่วากบ้ามันดันผมลงไปนอนอีก ผมก็ดิ้นสู้มันสิครับ
“ ปล่อยโว้ยๆ ”
“ แรงเยอะนัก งั้นก็ไม่ต้องนอน ..... ยิ่งสู้พี่จะยิ่งบังคับนะ ตั้งแต่ยอมหน่อยนี่รู้สึกว่าจะดื้อขึ้น ” ผมโดนมันกดทั้งมือทั้งขาเลยอะ ดิ้นไม่หลุดก็เลยปล่อยๆไป เหอะๆๆ แต่ครั้งนี้มันร้อนแรงมากเลย หมายถึงตัวมันอะ ผมหอบอย่างเดียว แฮ่

“ เป็นไงบ้าง ”
“ ไม่ต้องเลย ” ไม่บอกมันหรอก เดี๋ยวจะได้ใจแฮ่ะๆๆๆๆ
“ ไม่โกรธนะๆ ” มันพูดไปก็ลูบแขนผมไป
“ ผ้าปูน่ะเปลี่ยนด้วยนะ เหงื่อออกขนาดนี้นอนไม่ได้หรอก ” ผมบอกมัน วากดิษก็ยิ้มๆ ทีแรกจะอุ้มผมไปนั่งโซฟา แต่ผมขยับหนีมานั่งเอง จากนั้นวากดิษก็เปลี่ยนผ้าปูให้
“ ก็คิมดิ้นน่ะ พี่เลยคึกมากหน่อย ท้องเกร็ง เอวเคล็ดเลยมั้งเนี่ย ” มันลูบๆหน้าท้องตัวเองอีก กวนเหลือเกิน
“ สรุปเรื่องพี่ริชกับพี่พาน ดิษไม่ได้บังคับอะไรใช่ไหม ”
“ พี่ทำเพื่อเค้าสองคนนั่นแหละ แต่ที่พี่ริชจะเลิก พี่ไม่เกี่ยวนะ ” ผมเอาผ้าห่มมาคลุมตัวเอาไว้ รู้สึกได้ถึงสายตาหื่นๆ ฮึ่ย
“ ทำไมกลายเป็นแบบนี้ ต้องเพราะพี่พานแน่ๆ ”
“ นี่ วันนี้พี่ไม่อยากต่ออีกนะ พูดถึงพานอีกแล้ว จะยั่วพี่ใช่ไหม ” ผมหันขวับ
“ ห้ามคิมคิดไม่ได้หรอก ปูเสร็จแล้วก็มาล้างตัวเถอะ จะได้นอน ”
“ คร้าบ ” วากดิษยิ้มหวานเข้าไปล้างตัวกับผม จากนั้นเราก็เข้านอนซักที เฮ้อ พี่พานนะพี่พาน พี่จะได้มีความรักกับเค้าไหมเนี่ย

*******************************************************

เมื่อคืนก็ถามเค้าอยู่นะครับว่า ทำไมอ่อนไหวเหลือเกิน เค้าบอกว่าเวลาฟังเพลงชอบอินแบบเต็มที่ รู้สึกได้ปลดปล่อย เค้าทำบ่อยๆ แล้วผมก็เอาที่ตอบผมไปถามด้วยแหละ เค้าว่าไงรู้มะ
" พี่ต้องกลัวคิมไปคบผู้หญิงด้วยเหรอ ...... ลืมวิธีจีบหรือยัง ให้สอนไหม " เยอะเย้ยมากกกก

ปล.แล้วก็มีคนเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์อีกรายด้วยครับ เมื่อคืนทราบข่าว วันนี้แหละจะไปสวดศพ เป็นรุ่นพี่ที่เคยมาเล่นที่บ้านครับ ไม่ได้สนิทกันมากนัก แต่กับวากดิษเค้าบอกว่าเคยคุยกันบ่อยๆ

ขอบคุณทุกแรงใจนะครับ

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
มารอให้กำลังใจพี่วา๊ากดิษกับพี่คิมครับผม

ออฟไลน์ Zarch krub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อ่านตั้งแต่ทำงานที่แรกจนตอนนี้ที่ที่สามแหละ ดิษยังน่ารักกับคิมไม่เคยเปลี่ยนเลย 5555

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
บันทึกของคิมอ่านไปลุ้นไปทุกวรรคเลยเชียว

คิมรักและดูแลดิษให้เยอะๆเลยนะ

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
คุณพ่อน้องคิม สุดยอดค่ะ พี่อ่านที่คิมเขียนก็ได้รับแง่คิดดีๆมาด้วย
ขอบคุณคิมนะคะที่เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง  เป็นกำลังใจให้เสมอจ้า :L1:


ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
 :pig4:

คุณพ่อน้องคิมกับคุณพ่อน้องดิษนี่เป็นเพื่อนที่รักกันมากจริงๆและไม่ยอมเสียของรักไปให้ใครอื่นด้วย

ต้องเอาอยู่รวมกันรักร่วมกัน นับถือจริงๆ คารวะน้ำใจและความรักของคุณพ่อทั้งสองด้วยความจริงใจสุดๆ

ให้รักและดูแลกันดีๆตลอดปีและตลอดไปครับ

 :mew1:

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
รักคู่นี้จังเลยวุ้ย  :mew1:
ขอบคุณที่มาต่อนะ เป็นกำลังใจให้พี่ดิษฐ์สู้ๆ มีคิมอยู่เป็นกำลังใจที่วิเศษสุดแล้ว o13

เรื่องพี่พานจะเป็นยังไงเหนอ แอบสงสารพี่พานอ่ะ
พี่ริชจะเลิกจริงๆอ่ะ แงๆๆๆ :ling1:

ออฟไลน์ ดวงตะวัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
คุณพ่อน้องคิมน่ารักจังเลย รู้เลยว่าคิมเหมือนใคร o13

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
คู่ชีวิตจริงๆ พี่คิมพี่ดิษ

เรื่องคนอื่นก็ปล่อยเค้าไปตามทางเค้าเถอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด