]* love is a drug! *[RIP my Bro______________UP! Aug 22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]* love is a drug! *[RIP my Bro______________UP! Aug 22  (อ่าน 720422 ครั้ง)

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: ]* love is a drug! *[enviable _____UP sep 3
«ตอบ #30 เมื่อ04-09-2010 15:08:25 »

ว้าว พระเอกจะเปิดตัวแล้ว

ออฟไลน์ foyer

  • 「★ the sons of a battlecry」
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +822/-2
Re: ]* love is a drug! *[enviable _____UP sep 3
«ตอบ #31 เมื่อ05-09-2010 01:29:57 »

/

/

จนกระทั่งขึ้น ม.หก

ผมไปดูแข่งบาสกับเพื่อนสนิท(ไอ้ขัน อยู่คนละห้อง แต่กลุ่มเดียวกัน) คือผมจะมีกลุ่มในห้อง(เด็กเรียน) กับกลุ่มนอกห้อง(เด็กเล่น)อ่ะคับ ผมสนิทกับกลุ่มเด็กเล่นมากกว่า เรียนมาเยอะ พอแระ...

พอดีเพื่อนผมมันชอบพี่ที่เล่นบาสอยู่คนนึง..... เห็นมันบอกอยู่คอนโดเดียวกันด้วย นั่งไปนั่งมา บังเอิญเหลือบไปเห็นคนๆ นึงโดยไม่ตั้งใจ.......

OH MY BUDHA! หน้าตา ทรงผม เสื้อผ้า ยังกะหลุดออกมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น

ใจผมเต้นตึกๆๆ

ผมเป็นคนบ้าการ์ตูนมากคับ....ขนาดลักษณะท่าทาง การพูด การเดิน การกิน ผมยังเหมือนตัวการ์ตูน (ไม่ใช่ตาหวานนะ คอนเฟิร์มว่าลักษณะท่าทางของผมแมนโคตรๆ ส่วนหน้าตา เชิญจิ้นเอาเองคับ 55+)

พอมาเจอคนแบบเค้าคนนั้น....ผมก็เลย...........อยากรู้จัก (เอิ๊กส์)
สารภาพตอนนั้นผมไม่ได้คิดสนใจเลยว่าเค้าจะเป็นเหมือนผมรึเปล่าสักกะติ๊ด ขอลุยก่อนอ่ะ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน (ก็คนนี้มันโดนนนมากกกหนิ)

ตั้งสติได้....ก็เลยสะกิดเรียกเพื่อนให้หันไปดู บอกว่าคนนั้นน่ารักดีว่ะ โคตรอยากรู้จักเลย ทำไงดี
แต่จังหวะนั้นมันไม่กล้าง่ะ....คนเชี้ยไรวะ โคตรน่ารัก ทำตัวไม่ถูก

ผมนั่งจ้อง เพ่งพลังจิตไปที่คนๆ นั้น...เค้าก็เดินเข้าๆ ออกๆ สนามหลายรอบ จนในที่สุด สวรรค์ก็เป็นใจ
ส่งเค้ามานั่งบนสแตนเดียวกับผม และที่สำคัญ เค้านั่งอยู่ข้างล่างผมนี่เอง......จ๊าก

ผมหันไปบอกเพื่อน...
“เฮ้ย ขัน อยากรู้จักว่ะ ช่วยหน่อยดิ ขอเบอร์ให้หน่อย” ผมกระซิบแล้วพยักหน้าไปยัง...เค้าคนนั้น (น่ารักขั้นเทพ)
"มึงก็ไปขอเองเด้....น้ำพุ" มันมองผมแบบ...อะไรของเมิงกรูจะดูบาส
"กูไม่กล้า นะๆๆ มึงขอให้กูหน่อย" ผมคะยั้นคะยอมัน
“เออ อะไรวะไอ้นี่.... กูช่วยก็ได้ แต่มึงต้องไปขอเบอร์พี่ปอนด์ให้กูก่อนนะเว้ย ถ้ามึงกล้า กูก็กล้า” โห....งานยากว่ะ
พี่ปอนด์เค้าแข่งอยู่นะเว้ย กูจะเสนอหน้าลงไปกลางสนามตอนนี้ได้ไง
“โหย....ไรว้า” ผมโอดครวญ ทำหน้าผิดหวังอย่างแรง เพราะผมคิดว่าผมไม่กล้าอ่ะ

จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรครับ......แต่แล้วจู่ๆ
ไอ้พี่ปอนด์มันเดินออกมานอกสนามเฉยเลย...ไม่รู้ทำไม แต่จังหวะนั้น ไอ้ขันมันเต้นเร่าๆ แล้วคับ ผมก็เริ่มออกอาการตื่นเต้นเช่นกัน เพราะดูเหมือนโอกาสจะมาถึงแล้ว
“พุ เอาไงวะ พี่ปอนด์ออกมาแล้ว ไปเร็วๆ” โดนมันเร่งคับ พี่ปอนด์เดินออกไปแล้ว แต่ผมอ่ะ สองจิตสองใจ...
เอาวะ ด้านได้ อายอด...555+ ผมเดินกึ่งวิ่งผ่านหน้าเค้าคนนั้นที่นั่งอยู่บนสแตน พุ่งตรงไปหาพี่ปอนด์ทันที

“พี่คับพี่ แป๊บนึงคับ” ผมตะโกนเรียกพี่ปอนด์ที่ดูเหมือนจะเดินกลับเข้าไปนั่งข้างสนามอีกรอบ
พี่เค้าหันมาทำหน้างง “คือ...ขอเบอร์พี่ได้ป่าวคับ?” เกิดมากูไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ให้ตายเหอะ...

“เอาไปทำอะไรคับ?” พี่เค้าถามแบบคนเล่นตัวนิดนึง
“เอ่อ...คือ เพื่อนผมให้มาขออ่ะคับ”
“คนไหนคับ เพื่อนน้อง?”
“นั่งอยู่บนสแตนคับ มันให้ผมมาขอ” ย้ำ ไม่ใช่กรูนะ
“เขียนใส่มือเหรอ?” สงสัยเห็นผมตั้งท่าเอาปากกาจ่อมือมั้ง
“คับ”
“อืม....งั้นเดี๋ยวรอตรงนี้แป๊บนึง พี่ไปเขียนใส่กระดาษให้ดีกว่า” แล้วพี่เค้าก็เดินไปคับ ผมยืนงง รีบหันไปหาไอ้ขัน แล้วทำปากบอกมันว่ารอแป๊บนึง

สักพัก พี่ปอนด์เดินมาหาผมอีกที...พร้อมเศษกระดาษที่มีเบอร์โทรศัพท์เขียนไว้ (ให้ง่ายมากกก ไม่นึกว่าจะง่ายขนาดนี้)
พอได้กระดาษปั๊บ ผมรีบก้มหัวขอบคุณแล้ววิ่งไปที่สแตนทันที (ไม่สนใจไรแล้วโว้ย)

“ได้มาแล้วว่ะ” ผมยื่นกระดาษให้ไอ้ขัน มันทำหน้าซาบซึ้งสุดๆ
“อย่าลืมขอเบอร์คนนั้นให้กู” ผมรีบทวง เพราะความรู้สึกมันฟ้องว่า ถ้าไม่รู้จักตอนนี้ ต่อไปก็อาจจะไม่ได้เจอกันอีก
“เออๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่กูเอง” พูดจบมันลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ เค้าคนนั้นทันทีคับ เฮ้ย~ กล้ากว่ากูอีก

พวกนั้นคุยไรกันผมได้ยินไม่ถนัดอ่ะคับ จนเค้าหันหลังมามองผม......หง่ะ ช้อค หน้าชา...อาย....โคตร
“น้ำพุ คนเนี้ย....ชื่อ เคน” ไอ้ขันตะโกนบอกแข่งกับเสียงเชียร์บาส
ผมอายจนทำอะไรไม่ถูก เหมือนหน้าจะระเบิดเองได้อัตโนมัติ
"หวัดดี" เค้าทัก
"แหะๆๆ หวัดดี"
เคนยิ้มให้ผมแล้วก็หันไปคุยกับไอ้ขันต่อ......ผมพยายามทำใจให้สงบ เพ่งสมาธิไปที่การแข่งขัน

ทีมไอ้พี่ปอนด์แพ้ไปแล้ว กำลังรอทีมใหม่มาแข่งต่อ
“ไอ้พุ มึงมานั่งด้วยกันตรงนี้สิวะ มัวแต่อายแล้วเมื่อไรจะได้คุยกันสักที” ไอ้บ้า ประจานกูเพื่อ

ผมก้าวลงไปอีกขั้นนึง ย้ายไปนั่งข้างไอ้ขัน ที่นั่งอยู่ข้างเคน จะบอกว่าขาผมสั่นกึกๆ เลยอ่ะคับ
ไอ้ขันมันพยายามช่วยให้ผมมีส่วนร่วมในการสนทนา แต่ผมเขินคับ ไม่รู้จะเขินบ้าเขินบออะไรขนาดนั้นเหมือนกัน

คุยกันได้พักใหญ่ๆ แม่ไอ้ขันโทรตามให้กลับบ้านด่วน.....ผมอึ้ง หน้าซีด มือเย็น
ตอนที่มันพูดว่า “เดี๋ยวมึงอยู่นี่กับเคนละกัน กูต้องกลับแล้ว โชคดีมึง” แล้วมันก็ทิ้งผมไปซะอย่างงั้นเลยคับ ไอ้เพื่อนชั่ว

ผมนั่งแข็งเป็นท่อนไม้...ตามองอยู่ที่สนามบาสอย่างเดียว ทำเหมือนไม่ได้รู้จักเคนแม้แต่น้อย
“ทำไมนั่งไกลกันจัง ขยับมานั่งด้วยกันดิคับ” เคนกวักมือเรียกผมที่นั่งเหมือนโดนสาปอยู่ที่เดิมตั้งแต่ไอ้ขันไป
ผมขยับมานั่งข้างเค้า...แล้วก็เงียบไม่พูดอะไร

“หึหึ” ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ หันไปมองเห็นเคนกำลังกลั้นหัวเราะผมอยู่ ขำอาไรฟระ คนกำลังเครียดปนตื่นเต้น(มาก)
“.......................”
“ใจคอจะไม่พูดอะไรเลยเหรอ?” เค้าถามขำๆ
“กะ....ก็.....ไม่รู้จะพูดอะไร?” อายโว้ย
“เห็นขันบอกว่า น้ำพุให้มาขอเบอร์เราเหรอ?” ไอ้ขัน....ไอ้เพื่อนเลว ขายกูอีกแล้ว แถมยังไม่ขอเบอร์ให้กูก่อนอีก โกรธโว้ย
“อืม ให้ได้ป่ะล่ะ?” กูขอเองก็ได้วะ แม่ง...
“ทำไมถึงอยากได้เบอร์เราล่ะ?”
“ก็.......อยากรู้จัก”
“ทำไมถึงอยากรู้จักล่ะ?” ถามมากไปมั้ย
“ก็อยากรู้จักไง..............ตกลงจะให้ป่ะเนี่ย?” 
“หึหึ” เคนหัวเราะในลำคอ แล้วแกล้งทำเป็นดูบาสต่อ........ไอ้นี่แม่งลีลาโคตร

ผมเองก็ไม่รู้จะทำไง ก็เลยต้องจำใจยุติการขอเบอร์ไว้ก่อน เพราะผมไม่ชอบเซ้าซี้ใคร
“เป็นเซียนขอเบอร์คนอื่นเหรอ เห็นเมื่อกี้ก็ลงไปทีนึงและ” เฮ้ย เห็นด้วยเหรอวะ
“ป่าว...ขันมันให้เราไปขอ” แก้ตัวก่อนเข้าใจผิดคิดว่าเราหม้อ (ถึงจะจริงก็เหอะ)
“อ่อ.....แล้วน้ำพุมาดูบาสบ่อยมั้ย?” เคนชวนผมคุยอีก
“ก็บ่อย แล้วเคนล่ะ?”
“ไม่บ่อยอ่ะ บ้านเราอยู่ไกล”
“บ้านอยู่ไหนเหรอ?”
“xxx”............ไกลโคตรป้า! อุตสาหะถ่อมาถึงนี่เลยเหรอ งั้นวันนี้ก็ destiny เข้าเต็มรักเลยสิตรู

“แล้วบ้านน้ำพุล่ะ?” เคนถามอีก
“เราอยู่แถวxxx...ทำไมมาดูไกลจังอ่ะ?”
“ก็เราเล่นบาสอยู่ทีมโรงเรียน อาจารย์ให้มาดูไว้เล่นๆ เผื่อได้มาแข่งแบบพวกนี้” อ่อ....ชอบเล่นบาสเหมือนกรูเลย เพอร์เฟค

“แล้วมาคนเดียวเหรอ?” ผมเริ่ม (กล้า) ถาม.....
“ป่าว...มากับเพื่อน แต่พวกมันไปซื้อของกัน เดี๋ยวเกมจบก็มา”
เราคุยกันไปเรื่อยๆ สลับกับดูบาสไปด้วย จนกระทั่งจบเกม..........

คนเริ่มทะยอยลงจากสแตน ผมเริ่มใจเต้นแรงอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าใกล้จะได้เวลาจากกัน (แต่ยังไม่ได้เบอร์โทร!)
“เคน.....เอ่อ” เบอร์น่ะ ยังไม่ให้กรูเลยนะ ขอหน่อยเหอะ จะได้โทรจีบ
“อ๋อ...เบอร์ใช่ป่ะ ยังไม่ได้ให้เลย นำพุมีมือถือป่าวล่ะ?” สมัยนั้นทุกคนยังไม่จำเป็นต้องมีมือถือครับ ยังไม่ฮิต เคนก็เลยถามแบบนั้น
ผมรีบคุ้ยหาโทรศัพท์ในกระเป๋า มือสั่นหงึกหงัก

“เราไม่มีมือถือนะ มีแต่เบอร์บ้าน” เคนไขข้อข้องใจ ก่อนผมจะถามซะอีก ผมรีบเมมทั้งที่มือยังสั่นไม่หยุด (เคนมันไม่มีมือถือจริงๆ นะคับ มันบอกไม่จำเป็น แล้วก็กลัวคนอื่นโทรจิกเลยเพิ่งจะซื้อตอนใกล้จบ ม.หกอ่ะคับ -*-)
“ตื่นเต้นเหรอ?”
“อะ....เอ่อ........แหะๆ” ผมรีบเก็บมือถือในกระเป๋า เห็นเคนอมยิ้มอยู่
“ท่าจะตื่นเต้นจริงแฮะ....เห็นนั่งตัวแข็งตลอดเลย” ได้โปรด อย่าล้อ.............กรูอาย
“ไหนดูดิ๊........โห มือเย็นเจี๊ยบเลย”
เฮ้ย.....ตกใจดิคับ อยู่ๆ เคนก็ดึงมือผมไปจับซะงั้น ไอ้บ้า ผมรีบดึงมือออก หน้าแทบระเบิด
ผมมันก็ทำเก่งได้แต่กับคนที่มาชอบผมเท่านั้นแหล่ะ ถ้าผมไปชอบเค้าเอง ผมจะขี้อายมาก

“น้ำพุกลับยังไงเหรอ?” ถามอีก
“เอ่อ....กลับเอง เราขับรถมา”
“เพื่อนเรามันมาแล้วอ่ะ”
เคนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง......เง้อ ผมจะละลายคาสแตน เท่ได้อีก........คนเชี้ยไรเนี่ย

“หง่ะ” ผมรีบหันไปมองหาเพื่อนเค้า....เห็นยืนอยู่กลุ่มนึงสี่ห้าคนได้ หนึ่งในนั้นผมว่ามีน้องตุ๊ดรวมอยู่ด้วยนะ กำลังกวักมือเรียกเคนเลย
เงอะ..... แฟนมันป่าววะเนี่ย...(คิดไปไกล) กลัวมีแฟนแล้วอ่ะ แต่ช่างเถอะ เป็นเพื่อนกันไปก่อน โอกาสยังมี

ผมลุกขึ้นยืนบ้าง
"ให้ไปส่งมั้ย?" ผมน่าจะถามมากกว่านะ
“ไม่เป็นไร เคนไปกับเพื่อนเหอะ แล้วเดี๋ยวคืนนี้เราโทรหานะ”
“เอางั้นเหรอ....ก็ได้”
“งั้น ไปนะ บาย”
“อ่า...บาย”

/

เยส!!!..............ในที่สุด ผมก็ได้รู้จักเคนแล้ว โชคดีสุดๆ เลยวันนี้
พอกลับมาถึงบ้าน กินข้าวเสร็จปุ๊บ ผมก็เข้าไปหมกตัวในห้อง แล้วก็คิดๆๆ ว่าคืนนี้จะโทรไปคุยอะไรกับเคน

ถ้าคุณเคยดูหนังเรื่องปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น จะบอกให้ว่าผมทำเหมือนว่าน ที่ต้องเขียนสคริปไว้ก่อนโทรหาต่าย แบบนั้นเด๊ะเลยคับ ผมจำไม่ได้อ่ะ ว่าคุยไร เพราะโทรคุยกันก็เรื่อยเปื่อยอ่ะคับ
แต่จำได้อย่างหนึ่งว่าตั้งแต่โทรไปครั้งแรก.......โดนเลยครับ
โดนใจผมเนี่ยล่ะ...เพราะเค้าพูดจาส่อแววว่ามีใจ (เล่นด้วย)

และไม่ว่าเคนจะเล่นๆ หรือคิดจริง ที่แน่ๆ ผมบ้าตายไปกับมันแล้วคับ.......!



H
เค้าคือ...เคน!
ต้องเดาต่อว่าจะเป็นพระเอกรึเปล่า? ฮ่าๆๆ  o18

ปล. ตอบคุณ sky-cafe น้ำพุสกินเฮดแบบไม่ได้ตั้งใจคับ ผมแหว่งทั้งหัวเลยไม่สามารถตัดทรงอื่นได้
ตอนเดินกลับบ้านมีแต่คนมอง อายจนไม่รู้จะเอาหัวไปซ่อนไว้ตรงไหน ฮ่าๆๆ 

ปล. 2 ชอบสกินเฮดเหมือนกัน! (สังเกตดิส)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2015 18:27:26 โดย foyer »

daizodiac

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]* love is a drug! *[sight for sore eyes _____UP sep 5
«ตอบ #32 เมื่อ05-09-2010 03:00:25 »

น้องพุไม่ซึนแล้ว ว อิอิ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]* love is a drug! *[sight for sore eyes _____UP sep 5
«ตอบ #33 เมื่อ05-09-2010 09:14:42 »

ฮิ้ววววววววววววววววว เคนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

>//////////<
ขนาดนี้ก็ถือว่ากล้าแล้วนะ อายแทนอ้ะ :m1:

ปล.สกินเฮด สุดยอดดดดดดดด

ออฟไลน์ Red_sister

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
Re: ]* love is a drug! *[sight for sore eyes _____UP sep 5
«ตอบ #34 เมื่อ05-09-2010 09:22:55 »

555 พุอย่างกล้าอ่ะ
แต่ขอเบอร์แล้วมือสั่นอ่ะ ไม่ไหวนะ 5555

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: ]* love is a drug! *[sight for sore eyes _____UP sep 5
«ตอบ #35 เมื่อ05-09-2010 15:54:16 »

ใหม่ๆก็อย่างนี้แหละ พอเขี้ยวแล้วมันก็รุกแหลก 5555

ออฟไลน์ mamotic

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: ]* love is a drug! *[sight for sore eyes _____UP sep 5
«ตอบ #36 เมื่อ05-09-2010 19:27:13 »

กรี๊ด กรี๊ด!!!!  ฮะฮะ ^^"

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: ]* love is a drug! *[sight for sore eyes _____UP sep 5
«ตอบ #37 เมื่อ05-09-2010 20:16:42 »

 :pig4:

ออฟไลน์ foyer

  • 「★ the sons of a battlecry」
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +822/-2
Re: ]* love is a drug! *[sight for sore eyes _____UP sep 5
«ตอบ #38 เมื่อ06-09-2010 00:43:19 »

/

ผมค่อนข้างเพ้อๆ ไปกับเคน เค้าคือสเปคผมจริงๆ คับ ผมชอบเค้ามาก หาแบบนี้ไม่มีในโรงเรียนแน่นอน

หน้าตาแบบพระเอกการ์ตูนน่ะคับ น่ารัก ตี๋ๆ ตัวสูง (โคตรๆ สูงกว่าไอ้เอ็มอีกง่ะ) นักกีฬา (ที่สำคัญเล่นบาสเนี่ยล่ะ)
ดูภายนอกเพอร์เฟค แต่ที่จริง.... คนเรามันก็ต้องมีข้อเสียบ้าง (เสียแต่ว่าตอนนั้นผมดูแค่หน้าตาอย่างเดียว อย่างอื่นไว้ทีหลัง)

ผมกับเคนโทรคุยกันทุกวัน วันสองวันแรกผมโทรไปหาเค้า เวลาเดิมๆ 4 ทุ่ม พอดีวันที่สามหลังจากรู้จักกัน ผมโทรไปหาเค้าช้าง่ะ เคนเลยโทรมาเอง....ผมดีใจแทบตายแหน่ะ

ด้วยความที่...เคนอยู่คนละโรงเรียนกับผม แถมบ้านยังอยู่ไกลกันอีก
นานๆ ทีเราถึงจะนัดเจอกันอ่ะคับ ผมเองก็ไม่ค่อยว่างด้วย ต้องเรียนพิเศษ
แล้วคนที่รู้เรื่องนี้ก็มีแค่ผม ไอ้ขัน แล้วก็เพื่อนๆ กลุ่มผมคับ รวม 8 คน

ผมเคยพาเคนมาเจอเพื่อนๆ ที่โรงเรียน เพื่อนพากันช้อค.....เพราะความหน้าตาดีของมันอ่ะคับ
แล้วผมก็เพิ่งรู้ มันดังมาก ดังข้ามโรงเรียน เพราะตอนพามา มีคนทักมันก็หลายคน

นี่กรูกำลังเอื้อมมือไปคว้าดาวหรือเปล่าวะเนี่ย ชักสงสัยตัวเองและ

/

ผมจีบเคนประมาณเกือบ 3 เดือน จะว่ามันเล่นตัวก็ไม่เชิงหรอกคับ สามเดือนที่ว่านี่คือ ผมคิดว่าชัวร์และ
กรูจีบติดแน่และ......หนีไม่พ้นต้องได้เป็นแฟนกัน แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างงั้นเนี่ยดิ

คนเรามักจะรู้ใจตัวเองช้าไป ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้นแหล่ะ....

มีอยู่วันนึง....ผมไปหาเคนที่บ้าน เพราะเค้าท้า (มันเคยจะมาบ้านผมหลายรอบ แต่ผมห้ามเด็ดขาด)

ผมไปนะคับ แต่เรื่องไรจะไปคนเดียว ผมเอาน้องไปด้วย....คนที่ชอบเล่นด้วยกันตอนเด็กๆ คนนั้นล่ะคับ ชื่อฟิว (ญาติกัน)
ผมขับรถไปกับไอ้ฟิว.......

พอถึงบ้านเคน....มันเป็นตึกแถวสามคูหา สี่ห้าชั้นอ่ะคับ....หลังใหญ่มากอยู่ติดถนน
พอเข้าไปถึง...อึ้งกว่า คือ....บ้านมันมีข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างเลยคับ ไฮโซทั้งนั้น แถมทุกห้องติดแอร์หมด รวยกว่าที่ผมคิดไว้มากมาย ผมกับไอ้ฟิวยืนอึ้ง....อยู่หน้าประตู (รู้สึกเจียมตัวขึ้นมาทันที)

“เอาน้ำอะไรมั้ย?” เคนถาม.....มันเดินพามาในห้องครัวซึ่งจัดอินทีเรียเหมือนในบ้านคนจีนรวยๆ อ่ะคับ
“อะไรก็ได้อ่ะ น้ำเปล่าก็ได้” ผมเกรงใจมันสุดๆ
“กินน้ำ........เป็นมั้ย?” จำไม่ได้ว่าอะไร ชื่อแปลกๆ แต่มันเป็นน้ำสมุนไพรหวานๆ อะไรสักอย่าง
ผมพยักหน้า....แล้วเคนก็รินน้ำ(?) ใส่แก้วให้ผมกับไอ้ฟิว

ไอ้ฟิวกินไปไม่กี่อึกมันก็วาง.......มันบอกไม่ชอบ ไม่อร่อย แต่ผมว่าก็อร่อยดี เลยช่วยมันกินจนหมด ที่สำคัญเกรงใจเคนด้วย

“แล้วตอนนี้ใครอยู่บ้านบ้างอ่ะ?” ผมถามเคน ก็เห็นบ้านเงียบๆ
“ไม่มีหรอก ป๊ากับม๊าไปขายของ อากงกับอาม่าก็อยู่ที่ร้าน น้องก็ไปสอบ” หง่ะ ถ้ากรูไม่พาไอ้ฟิวมาล่ะแย่เลย...

บ้านเคนมีร้านขายส่งอยู่อีกที่หนึ่งคับ ไม่ไกลกันมาก   
จากนั้นเคนก็พาเดินขึ้นไปดูบ้าน........รวยสาดเลยไอ้นี่ แล้วก็พาผมนั่งมอไซต์ไปดูร้านมัน โรงเรียนมัน......
ตอนนั่งมอไซต์....ก็ต้องซ้อนสามล่ะคับ เพราะไอ้ฟิวมาด้วย

ผมนั่งหน้าสุด เคนขับ ไอ้ฟิวซ้อนหลัง (นั่งสบายสุด เพราะน้องผมมันจะค่อนข้างตัวใหญ่ เวลาไปขับมอไซต์เล่นกับพี่ผมอีกคน....ผมก็ซ้อนหน้าประจำล่ะคับ เพื่อความสมดุล)

นั่งรถเล่นกันเสร็จ ก็กลับมาตายรังอีกครั้ง ไอ้เคนมันเปิดวีซีดีการ์ตูนให้ผมกับน้องดู ปัญญาอ่อนว่ะ แต่ผมก็ดู 55+
นั่งจนเกือบจะหลับ.......อยู่ๆ เคนก็เรียก

“น้ำพุ ขึ้นไปด้วยกันหน่อยดิ มีอะไรจะให้” ผมก็มึนๆ ก่อนบอกน้อง เดี๋ยวมานะ
เดินตามเคนขึ้นไปบนห้อง.....คาดว่าเป็นห้องนอนเคนนั่นแหล่ะ พอเข้ามาปุ๊บ เคนปิดประตู แล้วเดินไปบนชั้นหนังสือ เหมือนจะหาอะไรสักอย่าง....ผมก็ยืนงง มันจะให้อะไรกูว่ะ

สักพักมันหันมายิ้มๆ บอกว่า.... “ที่จริงไม่มีอะไรจะให้หรอก เราเรียกพุขึ้นมาคุยเฉยๆ”
“............อ่าว......” ผมยืนอึ้ง พอรู้ว่าโดนหลอก

“คุยอะไร?” ถามแบบเริ่มระแวง ไม่ไว้ใจมันอ่ะ.....บอกตรงๆ ยังกลัวๆ เรื่องแบบนั้นอยู่ เพราะตอนเจอกันข้างนอกหรือตอนโทรคุยกัน ไอ้นี่มันจะแอบหื่นเล็กๆ
“ก็........เรื่องของเรา” เคนเปิดประเด็น “พุคิดยังไงกับเราเหรอ?” โห....ถามอย่างงี้เอามีดมาแทงกูดีกว่ามั้ง
แกล้งโง่ป่ะเนี่ย......ผมยังไม่ตอบอะไร

ไอ้เคนเดินไปนั่งบนเตียง ส่วนผมยืนเคว้งอยู่กลางห้อง
“เปิดแอร์มั้ย? ร้อนป่าว” เคนถาม จะเดินไปคว้ารีโมตแอร์
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็ลงไปแล้ว” กลัวเปลืองแล้วก็แอบกลัวมันด้วย

จากนั้นก็เงียบกันไปพักนึง

“พุชอบเราจริงๆ รึเปล่า?” เคนก้มหน้าถาม.....ขมวดคิ้ว หน้าตาเคร่งเครียดมาก
“..........ชอบดิ” ผมตอบอย่างมั่นใจ ทั้งที่ยังไม่แน่ใจ งงมั้ย
ไอ้เคนขยับตัวไปนั่งพิงหัวเตียง ชันเข่าขึ้นสองข้างแล้วก้มหน้า เหมือนมันมีเรื่องทุกข์ใจนักหนา

“เรายอมรับว่าเราก็รู้สึกดีกับพุ ดีมากด้วย แต่เรากลัว... พุก็รู้เรื่องแฟนเก่าเราใช่ป่ะ เรายังลืมไม่ได้....แล้วก็กลัวว่าเรื่องมันจะเกิดขึ้นซ้ำแบบนั้นอีก เราไม่อยากเจ็บ...ไม่อยากเสียใจอีกแล้ว” คือเรื่องของเคน เล่าสั้นๆ ว่ามันโดนแฟนทิ้งคับ ไอ้นี่มันเป็นคนอ่อนไหวอย่างน่าประหลาด แล้วก็คิดมากสุดๆ ด้วย
“จากที่ผ่านมา....เราเลยไม่กล้าคบใคร แล้วถึงจะคบ ก็ต้องดูให้ดีๆ อ่ะ เพราะเวลาเรารักใคร เราจริงจังมาก พุเข้าใจใช่มั้ย? ไม่โกรธเราใช่มั้ย?” ไอ้เคนโหมดนี้ โคตรซีเรียส ผมอึ้งพูดไม่ออก แต่พยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้น

“อืม ไม่โกรธหรอก เราเข้าใจ ถ้าเป็นเราๆ ก็ต้องดูให้ดีๆ เหมือนกัน”
“.............................”
“แต่เราก็ดูดีแล้ว ว่าเราชอบเคน ลองคบกันดูก็ไม่น่าจะเป็นไร”
“แต่เราไม่แน่ใจ....เดี๋ยวให้เราลืมๆ เรื่องนั้นให้ได้ก่อน แล้วค่อยคุยกันอีกทีนะ”
“แต่เราชอบเคนจริงๆ นะ” ผมยังดันทุรัง แต่เคนลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้ามากอดผมซะงั้น

งงอ่ะ...
จากนั้นก็ผละออก กอดคอดันให้ออกจากห้อง............
ผมค่อนข้างเหวอ.....งงกับอารมณ์ของเคนตอนนี้โคตรๆ เคนพาผมเดินลงมาห้องนั่งเล่น
เห็นไอ้ฟิวยังนั่งดูการ์ตูนอยู่

“ไงเรา....ดูจบยัง?” ไอ้เคนถามน้องผม
ฟิวพยักหน้าเงียบๆ (ตอนหลังมันบอกผม แม่งดูจบไปสามรอบแล้ว 55)

ฟิวหันมามองผมอย่างมีคำถาม มันคงสงสัยว่าผมขึ้นไปทำอะไรกับเคนตั้งนานสองนาน
ผมล้มลงนั่งข้างฟิว.......งงว่ากำลังโดนเคนปฏิเสธกลายๆ หรือเปล่า? ตายล่ะ.....หน้าแหกเลยกรู

ไอ้เคนยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น....ผมเองก็ด้วย
เคนเปลี่ยนการ์ตูนแผ่นใหม่ ผมก็นั่งดูจนเริ่มง่วง แม่โทรตามกลับบ้านแล้ว เพราะหกโมงต้องใช้รถ แต่ผมยังไม่อยากกลับ

“นอนตักหน่อยดิฟิว” ผมบอกน้อง....เพราะง่วงมาก ไม่ไหวแล้ว น้องผมนั่งเฉย ขยับขาให้ผมล้มตัวลงนอนหนุนได้ถนัด
ผมนอนไปซักพัก ไอ้เคนมาจากไหนไม่รู้ ขอนอนหนุนขาผมเฉยเลย ผมก็ให้มันนอนไป.....ในใจนึก
ไอ้นี่มันจะเอายังไงแน่วะ

ที่จริงความสัมพันธ์ของเรามันยังเป็นแค่การดูๆ กันอยู่อ่ะคับ ผมเองก็รู้ว่ามันชอบ (ตอนนั้นเลยไม่เศร้าไงคับ)
แต่มันไม่กล้าเป็นแฟนผม (สัญชาตญาณดีโคตร)

จากที่คบกันมาได้ประมาณปีนึง ผมถึงรู้ว่าเคนเป็นคนประเภทจริงจังกับชีวิตมากมายจนเกินไป ยิ่งเรื่องระหว่างเรา มันคิดว่าเป็นอะไรที่เปราะบางมากๆ

บางทีผมก็หงุดหงิดกับความเรื่องมากของมันนะ... ดูเหมือนจะมีปัญหาชีวิตอยู่ตลอดเวลา (เรื่องของมัน เรื่องที่บ้าน ที่โรงเรียน) มันเครียดเรื่องที่ตัวเองเป็นเกย์เนี่ยแหล่ะ ที่จริงเคนบอกผมว่ารู้ตัวตั้งแต่ ม.หนึ่งแล้วแต่ยังทำตัวปกติ คบ ผญ อยู่ แต่ตอนหลังๆ มันไปคบ ผช. พ่อมันรู้เข้า เคนเลยโดนเล่นงาน เพราะพ่อมันรับไม่ได้อ่ะ จนกระทั่งมันโดนแฟนทิ้งก่อน ตอนนี้พ่อมันเลยเฉยๆ (ดีนะพ่อกรูยังไม่รู้)


แล้วจากตอนแรกที่ผมจีบมัน....ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ามันกำลังพยายามจีบผม ซะงั้น....

จริงๆ ตอนนั้นผมโดนไอ้เอ็มรุกหนัก มันเหมือนเป็นช่วงชีวิตที่ต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
กราฟมันเริ่มจะแปรผกผันกันซะแล้ว ระหว่างเอ็มกับเคน
คือ.....ผมเริ่มเบื่ออาการมีปัญหาของเคน ส่วนเอ็ม...จากที่มันพยายามทำอะไรให้ผมหลายอย่าง แต่สุดท้ายผมกลับมาสะดุดอยู่แค่ประโยคที่ไม่มีสาระหรือเกี่ยวเนื่องอะไรเลย

คือ...ไม่มีใครเคยพูดอะไรแบบนี้กับผมอ่ะคับ เพราะผมหน้าค่อนข้างนิ่งมาก   
ผมซึ้งแค่ว่ามันสังเกตเห็นมุมหนึ่งของผมแล้วกล้าพูดออกมาแค่นั้นแหล่ะ

จากนั้น...ผมก็เลยคิดหนัก เหมือนจะเริ่มมีใจให้ไอ้เอ็ม (บวก ความอดทนตื๊อของมัน)

ผมเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาไอ้ฟิว....เพราะมีมันคนเดียวที่รู้จักเคนแล้วก็เอ็ม
น้องผมมันก็ถามว่า
"ไม่ชอบพี่เคนแล้วเหรอ พี่เคนหล่อ...." เหอๆ (มันเชียร์เคน)
ผมเลยเล่าเรื่องที่ไอ้เอ็มพูดให้มันฟัง

“เรื่องแค่เนี้ยยย” ไอ้ฟิวร้องเสียงเป็ดมากๆ
“เออ ตอนนี้พี่ไม่รู้จะเอาไงว่ะ ถ้าจะคบเอ็ม ก็จะมีมันแค่คนเดียว แต่ถ้าคบเคน พี่ก็จะมีมันแค่คนเดียวเหมือนกัน” ฟังดูดีเนอะ จะพูดอ่ะ พูดไงก็ได้นี่หว่า ตอนนั้นคิดแบบนี้ วันต่อมาคิดอีกอย่างไปเลยผมอ่ะ
“ไม่เชื่อหรอก” ฟิวโต้ทันที คือผมมีประวัติกิ๊กชาวบ้านเค้าไปทั่วอ่ะคับ (คนอื่นเรียกเจ้าชู้) ส่วนไอ้เอ็ม ผมเคยเล่าให้ฟิวฟังว่าไม่ชอบ ไม่เปค

ไอ้เอ็มหน้าออกแนวเด็กเรียนแบบกวนตรีนอ่ะคับ ใส่แว่น แต่โคตรหื่น ปากจัด แถมปากหมา(กับคนอื่น)ด้วย ที่ผมชอบ คือมันหุ่นดี ปากหวาน(กับผม) ขี้อ้อน เรียนเก่ง

แต่ถ้าพูดถึงเคน ลักษณะหน้าตาท่าทางมันจะขี้เก็ก(ที่สุดในโลกอ่ะ) ยังไม่เคยเห็นมันเก็กหลุด (อ้อ มีครั้งนึง)

ข้อเสียของมันคือ รวมทุกอย่างของความงี่เง่าเอาไว้ ชอบสร้างปัญหา (ประสาทมากๆ) แต่ไอ้เคนจะไม่พูดตรงๆ นะคับ มันจะแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง.....เบื่อหน่ายในแบบของมัน

/

มีระยะหนึ่งที่ผมเซ็งๆ เคน แต่เราก็ยังโทรคุยกันเกือบทุกวัน มันเหมือนเป็นหน้าที่ที่ต้องโทรอ่ะคับ (สำหรับผมอ่ะนะ)

ผมเหนื่อยกับการต้องรักษาน้ำใจมัน เพราะระยะสี่ห้าเดือนมานี้ มันไม่ยอมให้ผมวางสายเลย ผมนอนตีสามแทบทุกคืน ต้องตื่นไปเรียนเช้าอีกง่ะ เหนื่อยมากๆ (บางคืน ถึงเช้า......จะบ้าตาย)

อีกอย่างไอ้นี่ออกแนวจิตป่วยอ่ะคับ....ชอบพูดให้ผมหึง (แต่ก็เข้าใจอ่ะนะ หน้าตาอย่างมันคงมีคนมาชอบเยอะ) แต่ผมไม่ได้เป็นแฟนมันนิ ก็เลยได้แค่รับฟัง ให้คำปรึกษา...
ผมก็เล่าให้มันฟังเหมือนกันเรื่องที่เพื่อนชอบมากอด (ที่จริงทำมากกว่านั้น) ..... มันก็เงียบๆ ไปนะ แล้วทำหน้าแบบเมินใส่ผม บ้าบอของมันไรก็ไม่รู้


กลับมาที่เอ็ม.....คือจากวันที่มันพูดประโยคที่ทำให้ผมเปิดใจได้ในตอนนั้น ผมก็เริ่มเทใจไปให้มันและ บวกกับที่ผมรำคาญที่ไอ้เคนงี่เง่าด้วย
(หลายคนคงคิดว่าเรื่องแค่นี้เองเหรอ 55 ไม่รู้ดิ ผมเป็นคนทำอะไรมักไม่ค่อยมีเหตุผลรองรับเพียงพอ ขอแค่มันโดนใจ เรื่องเล็กหรือใหญ่ เกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ผมไม่ได้แบ่งแยกทั้งนั้น)

จนมีอยู่วันหนึ่งหลังเลิกคลาส......เหลือผมกับไอ้เอ็มสองคน เพราะเพื่อนมันคอยเปิดช่องให้อยู่ตลอดแหล่ะ
ผมถามเอ็มภายในห้องเรียนที่ไม่มีคนอยู่

“เอ็ม มึงยังอยากคบกูอยู่ป่ะ?” ไม่รู้ตอนนั้นคิดอะไร ผมอยากให้โอกาสมันมั้ง

ไอ้เอ็มยืนตะลึง สงสัยไม่นึกว่าผมจะเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อนล่ะมั้ง เพราะที่ผ่านมาผมเลี่ยงที่จะพูดเรื่องนี้ตลอด
“ทำไมพุ มึงตกลงยอมคบกับกูแล้วใช่มั้ย!?” ท่าทางไอ้เอ็มทำหน้ามีความหวัง ราวกับว่ารอที่จะพูดคำนี้มานาน

“อืม.....ลองคบกันดูก็ได้” ลอง ลอง ลอง แค่ลองนะ ลองเฉยๆ นะ ถ้าจะเลิกกลางคันก็ไม่ผิดใช่มั้ย (พยายามเข้าข้างตัวเองสุดๆ)
พอไอ้เอ็มได้ยิน มันทำหน้าดีใจ ยิ้มน้ำตาคลอเลยทีเดียว แล้วก็วิ่งพุ่งเข้ามาชาร์จตัวผม โผเข้ากอดซะแน่น

“มึงพูดแล้วนะ ห้ามคืนคำนะเว้ย มึงเป็นแฟนกูแล้วนะพุ โอ้ย ดีใจสุดๆ เลยว่ะ”
“บ้าไปแล้วมึง” ผมยิ้มขำๆ อาการของมัน ไอ้เอ็มระดมจูบผมใหญ่เลยวันนั้น....สงสัยจะเก็บกด 55+   

/

จากวันนั้นผมก็เลยคบไอ้เอ็มเป็นแฟน (คนแรก)..........ส่วนเคน (ผมติ๊ต่างเอาเองว่าตอนนี้มันก็แค่เพื่อน) แต่ก็ยังคงปฏิบัติตัวเหมือนเดิม......(เริ่มเห็นด้านมืดของผมกันรึยังคับ เลวก็เลว ผมไม่พูดให้ตัวเองดูดีหรอก)

ผมเป็นคนขี้รำคาญติดอันดับโลก เพราะฉะนั้น อะไรที่มันมากเกินไป.....ผมจะต่อต้าน จนถึงขั้นอาจแตกหัก
ไอ้เอ็มมันชอบทำอะไรที่มีคำว่า ‘เกินไป’ ลงท้ายมาแต่ไหนแต่ไร แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ผมพอรับได้
ประมาณว่าถึงจะน้ำเน่า แต่ก็ยังเห็นเงาจันทร์ (55 เกี่ยวมั้ย?)

แต่พอได้เป็นแฟนกันเนี่ยดิ.....ผมจะบ้าตายกับมันคับ (น้ำมันเริ่มดำมืดจนมองเงาจันทร์ไม่เห็นแล้ว)
ไอ้เอ็มแทบจะประกาศให้โลกรู้เลยมั้ง ว่าเป็นแฟนผม เจอหน้าครั้งแรกตอนเช้า มันต้องเข้ามากอดหอมแก้มแสดงความรักโชว์ชาวบ้านทุกที.....ผมอายนะไม่ใช่ไม่อาย แต่หนีมันไม่พ้นเนี่ยดิ อยู่ห้องเดียวกันยิ่งซวย แทบจะได้กัน ประจานเพื่อนทั้งห้องอยู่แล้ว

ในโรงเรียนว่าเครียดแล้ว ไอ้เอ็มแม่งยังหื่นนอกสถานที่อีก คราวนี้ผมไม่ยอมให้มันทำตามใจชอบครับ เลยกลายเป็นเรื่องตลก ผมวิ่งหนี ส่วนไอ้เอ็มวิ่งไล่กอด มันจะปล้ำผมอ่ะ ไอ้บ้า.....

“เอ็ม...มึงทำอย่างงี้กูไม่ชอบนะโว้ย ไม่ต้องกอด ต้องจูบกูตลอดเวลาก็ได้ กูอายคนอื่นเค้า” ผมพูดจริงจัง แบบโมโหด้วยอ่ะ
“ทำไมล่ะ ก็กูรักมึง กูก็ต้องแสดงความรักกับมึงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เอาน่า อย่าซีเรียส เดี๋ยวไม่หล่อนะ.....กูไม่อยากให้แฟนกูหน้าบึ้ง ยิ้มนะค้าบ ยิ้มนะๆๆ” มันยังทำเนียนมากอดคอ แล้วก็หอมแก้มผมอีก
“อย่ามาปัญญาอ่อน เอ็ม....แบบนี้กูไม่ชอบจริงๆ นะ” ผมผลักหน้ามันออก แล้วทำตาดุ

“อย่าทำหน้าโหดดิคับที่ร้าก......เอ็มรักพุนะคับ คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่าง... อย่าไปแคร์ พุไม่ดีใจเหรอ...ที่มีคนรักพุมากขนาดนี้อ่ะ”
“เออๆ ปล่อยได้แล้ว”
“อย่ารำคาญเอ็มเลยนะคับ เอ็มทำไปทั้งหมดก็เพราะรักพุนะ” ใช้คำว่ารักได้สิ้นเปลืองสุดๆ
“อืมๆ ไม่รำคาญเล๊ย กูด่าอยู่ทุกวันเนี่ย” พยายามจะเก็กหน้าโหดคับ แต่ทำได้ไม่นาน ผมเผลอหลุดยิ้มออกมาหน่อยนึง (ก็มันเป็นคนตลก) ไอ้เอ็มเลยไม่เกรงกลัวคำเตือนของผมเลย



H
....... :a5:
 :pig4:

ออฟไลน์ kazhiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-2
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #39 เมื่อ06-09-2010 01:17:44 »

เอ็มแอบฮา  5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
« ตอบ #39 เมื่อ: 06-09-2010 01:17:44 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






lasom

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #40 เมื่อ06-09-2010 03:54:28 »

พุดูเบลอๆ มึนๆ ดีนะ แต่เข้าใจนะว่าทำไมมีคนชอบเยอะ
อ่านแบบเบลอๆล่ะเหมือนกัน จะเช้าล่ะนิ :laugh:
สนุกดี ชอบบบบบบบ :L2:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #41 เมื่อ06-09-2010 12:42:22 »

เอ็มเค้าก็น่ารักของเค้านะ ฮ่าๆ :laugh:
ส่วนเคน...ห่างกันไปเฉยๆเลยหรือเปล่าคะน้ำพุ :confuse:

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #42 เมื่อ06-09-2010 13:31:25 »

เราเชียร์ เอ็มด้วยคน
เอ็มเป็นคนที่พุอยู่ด้วยแล้วสบายใจ
ถึงจะหื่นไปบ้าง ก็เถอะ

ออฟไลน์ sin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #43 เมื่อ06-09-2010 15:14:44 »

อ่านเพลินดีจัง ^//^

ออฟไลน์ Nichdia

  • สักวันผมจะเจอ...
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #44 เมื่อ06-09-2010 15:35:38 »

เอ็มคงดีใจสุดๆ ชอบพุมานานหลายปี

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #45 เมื่อ06-09-2010 15:46:44 »

แต่ละคนก็มีข้อดีข้อด้อยอะนะ อยู่ที่ว่าเราจะทนข้อด้อยของคนไหนได้มากกว่า

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #46 เมื่อ06-09-2010 17:40:21 »

หรือว่าพระเอกจะเป็น M
แต่แอบสงสารเคนอ่ะ T^T

ออฟไลน์ Red_sister

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #47 เมื่อ06-09-2010 18:12:13 »

555 เอ็ม หลุดอย่างรุนแรง

เคนเครียดมากๆเลย พุเลยไม่เอา
เอ็มฮาได้ใจ 555 จะได้กันในห้องเรียน 555

หื่นอย่างแรง

ออฟไลน์ mamotic

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #48 เมื่อ06-09-2010 19:47:09 »

จี๊ด จี๊ดๆๆๆๆ  ....  อยากจะกรี๊ดดังๆ


 :z6: ไม่ไหวแล้วเฟ้ย   :laugh:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #49 เมื่อ06-09-2010 20:05:23 »

 :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
« ตอบ #49 เมื่อ: 06-09-2010 20:05:23 »





ออฟไลน์ foyer

  • 「★ the sons of a battlecry」
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +822/-2
Re: ]* love is a drug! *[wrong impression _____UP sep 6
«ตอบ #50 เมื่อ07-09-2010 01:33:17 »

/

เคยรู้สึกเอือมกันบ้างมั้ยคับ.......?

ผ่านไปประมาณหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น....ผมชักจะเริ่มเบื่อความหน้าด้านของไอ้เอ็มแล้วดิ
(อย่าเพิ่งรุมตื๊บผมนะคับ)

วันหนึ่ง...ห้องผมต้องไปทำกิจกรรมนอกโรงเรียน ไปร้องเพลงประสานเสียงอะไรสักอย่างอ่ะ จำไม่ได้
ดูเหมือนว่าโรงเรียนของเคนก็ได้ไปด้วย งานเดียวกัน แต่ว่าโรงเรียนผมร้องก่อน...

ผมรู้จากเคนแล้วแหล่ะ ว่ามันจะมา แต่พอผมร้องจบปั๊บ ผมไม่ได้รอมันคับ รีบหนีกลับบ้านก่อน
เหตุผลง่ายๆ แค่ไม่อยากเจอ.......

กลับถึงบ้าน เย็นๆ เพื่อนโทรมารายงาน ว่ามีคนมาถามหาผม หน้าตาหล่อมาก
พูดแค่นี้รู้เลยว่าใคร......ปรากฏว่าไอ้เคนไปตีซี้เพื่อนผมเรียบร้อย ไม่รู้แอบหลอกถามอะไรรึเปล่า ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
ก็ฟัง เท่าที่เพื่อนมันเล่า มันบอกว่าไอ้เคนทำท่าเซ็งๆ ที่ไม่ได้เจอผม แล้วเพื่อนก็ซักใหญ่เลย ว่ารู้จักกันได้ไง บลาๆๆ

ผมก็ปล่อยให้เรื่องมันเป็นไปอ่ะคับ
จริงๆ ตอนนั้นไม่ได้สนใจว่าไอ้เอ็มมันจะรู้รึเปล่า เพราะผมก็ไม่ได้บอกเคนว่ามีแฟนแล้ว แล้วก็ไม่ได้บอกเอ็มว่ากิ๊กกับเคนอยู่
(ผมมันก็ชั่วอย่างงี้ล่ะคับ) ขอซีเรียสนิดนึง......

ส่วนเอ็มผมไม่รู้มันคิดยังไงเหมือนกัน เพราะพอเจอกันอีกที มันไม่เห็นจะถามหรือมีปฏิกิริยาอะไรเลย
ด้านไอ้เคน...ไม่มีใครบอกมันคับ ว่าผมเป็นแฟนเอ็ม......เพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้ สุดท้ายคนอย่างไอ้น้ำพุ ก็เลยลอยนวลอยู่ได้จนบัดนี้…


ความลับมันไม่มีในโลกหรอกคับ จริงๆ แล้ว...

อยู่มาวันหนึ่ง...ผมเริ่มแน่ใจ + ทนต่อไปไม่ไหว...

ชีวิตเหมือนมีดาวเอ็ม โคจรอยู่รอบๆ ตลอดเวลา

รำคาญมากคับ ความเป็นส่วนตัวไม่มีเลย ผมอึดอัดมากกับการแสดงออกอย่างเว่อร์ๆ ของมัน
เลยตัดสินใจ.......”หยุด” แค่นี้ดีกว่า

ตอนนั้นนั่งเรียนกันอยู่....เอ็มมันแย่งที่นั่งเพื่อนผม มานั่งข้างๆ
ด้วยความสุดทน (แต่พยายามทน) ผมเลยนั่งทำงานไปเงียบๆ ไม่ได้สนใจมัน......หน้าตาเคร่งเครียดมาก
ไอ้เอ็มเลยถามว่าเป็นไร มีเรื่องไร เซ้าซี้น่ารำคาญ ผมไม่ค่อยได้ตอบมันหรอก

จนสุดท้ายมันถามว่า
“มีไรจะบอกเอ็มรึป่าว?” น้ำเสียงมันเปลี่ยน ผมเลยเงยหน้าขึ้นมอง...
เอ็มทำหน้าซีเรียส แต่พยายามฝืนยิ้ม
“อืม มี” ผมตอบเสียงเรียบ
“เหรอ...งั้นบอกมาเลยไม่ต้องเกรงใจ กูรับได้” หง่ะ มันพูดเหมือนรู้เลยแฮะ

ผมลำบากใจ แต่ก็จำเป็นต้องพูด.....

“เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเหอะเอ็ม” พอได้ยิน เอ็มทำท่าเหมือนช้อค ตาค้างไปสักพัก

“กูว่าแล้ว......” และก็หันหน้าหนี ยิ้มแบบขื่นๆ ออกแนวสมเพชตัวเอง (หง่ะ รู้สึกผิดสุดๆ)
“เป็นเพื่อนกันน่าจะดีกว่า” ผมพยายามปลอบใจมัน(และตัวเอง) แต่ไม่สำเร็จ  
“กูคิดไว้และว่าต้องเป็นแบบนี้....” ย้ำไมเนี่ย
“ตอนคบกันกูก็พอจะรู้แล้ว มึงไม่เคยมองกูเลย.....แม้แต่ตอนเป็นแฟนกันมึงก็ไม่เคยมองกู ถามจริงเหอะ มึงให้ความหวังกูทำไม มึงทำให้กูรักมึงทำไม.... มึงเคยคิดจะชอบกูบ้างมั้ยพุ ไม่เคยเลยใช่มั้ย?” เอ็มพูดน้ำตาคลอ กัดกรามแน่น....มันจ้องหน้าผมด้วยความเสียใจอย่างมาก
“เอ็ม.....คือ....กู” พูดไม่ออก
“ก็ได้ รั้งไว้ก็เท่านั้น เพื่อนก็เพื่อน ถ้ามึงต้องการ” พูดจบมันก็ลุกออกจากโต๊ะ เดินไปนอกห้อง...

ผมรู้สึกผิดมากที่ไปคบกับเอ็มทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจตัวเองว่าชอบมันจริงๆ รึเปล่า

ผมอยากลอง? ผมสงสาร? ผมอยากเล่นสนุก? ผมอยากมีแฟน?

ผมไม่รู้ตัวเองคิดยังไงแน่ เพียงคิดแค่ว่าเป็นแฟนกันน่าจะมีความสุข เพราะเอ็มเป็นตัวสร้างสีสันของห้อง ทุกคนยิ้มได้ หัวเราะได้เวลาอยู่กับมัน ที่จริงผมก็ด้วย แต่ทำไมทุกครั้งที่กลับบ้านหรือทุกครั้งที่มันลวนลามผม ผมกลับทุกข์มากกว่า

คืนนั้นเคนโทรมาหาผมเหมือนเคย ผมเศร้า เลยบอกให้มันร้องเพลงให้ฟังหน่อย...
เคนมันก็ตามใจ ไปหยิบกีตาร์ร้องเพลงผ่านสายโทรศัพท์ให้ผมฟัง แต่ผมกลับนึกถึงเรื่องเอ็มตลอดเลย

/

สุดท้ายผมก็ปล่อยให้อะไรๆ ผ่านเลยไป
แม้ว่าจะรู้สึกผิดมากมายกับการกระทำของตัวเอง แต่ผมก็ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปคุยหรือขอโทษเอ็ม
ผมเป็นแฟนมันได้แค่อาทิตย์กว่าๆ เท่านั้นเอง ในขณะที่มันใช้ความพยายามเป็นปีเพื่อจะจีบผม

วันต่อมา...เอ็มไม่คุย ไม่มองหน้า ผมรู้สึกเจ็บแปล๊บในใจ ที่ทำให้ตัวเองเสียเพื่อนดีๆ ไปคนนึง
ผมไม่ได้ให้อภัยตัวเองที่ทำแบบนั้น.... อยากให้มึงรู้ไว้จริงๆ ไอ้เอ็ม

เพื่อนหลายคนถามถึงเหตุผลที่เลิกกับมัน
ผมตอบแบบกำปั้นชกดิน “แค่ลองคบกัน” เหมือนที่เคยพูดไว้ตอนแรก ผมมันคนประเภทดีกับเพื่อนทุกคน แต่ชั่วกับเรื่องความรัก

เพื่อนๆ ไม่ได้ว่าอะไรที่ผมทำเหมือนเห็นแก่ตัวแบบนั้น ไม่มีใครด่า รุมประนาม หรือเกลียดผมเลยสักคน เหมือนเค้าจะเข้าใจกันว่าลองคบแล้วไม่รอดก็เลิก
แม้แต่ไอ้เอ็มเองก็เหอะ ที่ผ่านมาหลังจากนั้นผมไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง รู้สึกอะไร อาจจะเพราะผมไม่อยากรู้ด้วย แต่มันคงทำใจได้ในเวลาต่อมา (ก็เป็นเดือนน่ะ) เลยพอจะได้คุยกันบ้างนิดหน่อย จากที่ไม่คุยไม่มองหน้าเลย (แค่นี้ก็บุญแล้วกรู)

/

คนเรามักจะรู้ใจตัวเองช้าไป...
ประโยคนี้มันเกิดขึ้นกับผมแล้ว

เคนไงคับ

ผมไม่ได้ชอบมันอย่างที่ตัวเองคิดหรอก



แม้ว่าเราสองคนจะกิ๊กกันมานานเป็นปี แต่ความรู้สึกของผมกับมันอ่ะสวนทางกัน
ไอ้เคนเหมือนจะชอบผมมากขึ้นๆ
แต่ในขณะเดียวกัน ผมกลับชอบมันน้อยลงๆ จนไม่รู้ตัวว่าเลิกชอบมันไปตอนไหน

ผ่านไปประมาณ ห้าหกเดือนได้มั้ง มันนัดเจอผมบ่อยขึ้น โทรจิกผมบ่อยขึ้น
แม้แต่ตอนเรียนพิเศษมันยังมานั่งเฝ้า.... (เคนไม่เรียนพิเศษ)
ผมต้องอัญเชิญให้มันกลับไปก่อนอยู่บ่อยๆ เพราะกว่าจะเรียนเสร็จก็เย็นค่ำ
ไม่อยากจะทรมานมัน... แลดูไร้สาระ + เสียเวลา

มีอยู่ครั้งนึง ไปสมัครสอบเอ็นท์ด้วยกัน
แล้วพอดีมีกลุ่มน้องตุ๊ดกับ ผญ. เดินตามไอ้เคน....ผมก็เห็นแล้วแหล่ะ ว่าไม่รอดแน่

และก็จริงๆ พวกนั้นมาขอเบอร์ มากรี๊ดกร๊าดบอกชอบมัน
ไอ้เคนมองหน้าผม แบบขอความช่วยเหลือ
ผมไม่รู้จะช่วยยังไง คิดไม่ทัน
ไอ้เคนเลยรีบแก้สถานการณ์ ก่อนที่พวกน้องตุ๊ดจะคลั่งสลบตายคาตรีนไปซะก่อน

เคนมันบอกว่ามีแฟนแล้ว ให้(เบอร์) ไม่ได้หรอก แล้วมองหน้าผม แบบสื่อข้อความทางสายตา
เฮ้ยๆๆ...อย่าพูดว่ากูแฟนมึงนะเว้ย ยังไม่อยากซวย ผมก็ข่มขู่ทางสายตากลับไป

โชคดีที่มันไม่พูด แต่รีบล็อคคอลากผมเดินหนีออกมา

“ทำไมไม่ช่วยเลย” มันกระซิบว่าอยู่ตรงขมับ
“ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง” ปล่อยกูได้แล้ว....คนมองเยอะแยะ (แค่หน้าตาคนก็มองมันล่ะ แสดจริง)
“อะไรก็ได้.....ปล่อยให้คนอื่นมาขอเบอร์เราได้ไงห่ะ”
“.....................” และจะให้กูทำยังไง! กูไม่ได้เป็นแฟนมึงนิ.......ยังเจ็บใจอยู่นะตอนนั้น (แต่ตอนนี้คนอื่นคงคิดว่าผมเป็นแฟนมันไปแล้ว -*- ชิ)

และมันก็พาผมมายังที่ลับตาคน.....เพื่อ...........อะไร ก็ไม่รู้ ไม่ใช่มันนิ
ผมกะเคนลากเก้าอี้มา (รอไอ้ขันคับ มันไปไหนไม่รู้อ่ะ ลืมแล้ว) ตอนแรกผมว่าจะนั่งที่ที่คนภายนอกมองเห็น
แต่ไอ้เคนเสรือกลากเก้าอี้ไปจุดอับ คือถ้าใครไม่เดินผ่านเข้าไปทางนั้นจะไม่เห็นเลยว่าทำไรกันอยู่

ตอนแรกไม่รู้จะทำอะไรรอ ผมก็เลยเอาหนังสือภาษาปะกิตมาอ่านอ่ะคับ ช่วงนี้ใกล้เอ็นท์และ...
ไอ้เคนมันก็บ่นๆๆ ไม่ให้ผมอ่าน (ไอ้นี่เกลียดวิชาอังกิด มันบอกว่าโง่มาก) ผมก็ไม่มีสมาธิหรอก
โดนไอ้คนหน้าตาดีกวนอยู่ 55+ อย่าอิจฉากันเลยนะ

มันก็กวนงุ๊งงิ๊งๆ ของมันไปเรื่อยล่ะไอ้เนี่ย... พออยู่กันสองคนแล้วปัญญาจะอ่อนยวบขึ้นทันตาเห็น
แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่น เก็กยังเรียกพ่อ...

ตอนแรกผมนั่งอยู่ตรงที่ที่คนมองเห็นใช่ป่ะคับ....หนึ่งในนั้นคือพี่ยาม (รปภ.) ที่มองพวกผมสองคนแปลกๆ ตั้งแต่มาแล้ว
ผ่านไปสักพักไอ้เคนมันก็หลอกล่อให้ผมไปนั่งกับมัน... เหอๆ รู้นะคิดไรอยู่
แต่ขอโทษกูมะกลัวมึงหรอก (ซะเมื่อไหร่)

“พุจะเลือกคณะไรเหรอ?” ได้ข่าวว่าถามไปแล้ว เหมือนจะหาเรื่องคุยอะคับ ไม่มีไรหรอก
“xxxอ่ะ เคนล่ะ?”
“เรายังไม่รู้เลย”
“เลือกเหมือนเราดิ” พูดไปงั้นแหล่ะ
“โห....เราวาดรูปไม่เก่ง” ไม่ได้อยากให้เรียนจริงๆ หรอกเว้ย

“งั้นเก่งอะไร”
“มาลองดิ จะได้รู้” พร้อมยิ้มแบบหื่นเล็กๆ
“เก่งแต่ปากดิไม่ว่า” ผมชอบไปท้ามันคับ เพราะคิดว่าไงๆ มันก็ไม่กล้าทำไรเราหรอก ดูจากที่ผ่านๆ มาอ่ะ (มั้งนะ)  
“ช่าย ปากก็เก่ง ลองดูมั้ยล่ะ?” แล้วมันก็ยื่นหน้าเข้ามา ทำท่าจะจูบ
เงอะ....ไม่เอาเว้ย

“เฮ้ย....ไอ้บ้า ไม่เล่น” ผมรีบผลักมันออก ไอ้เคนหัวเราะเยาะเย้ย แต่ไม่ได้ว่าไร มันชอบเล่นแบบหมาหยอกไก่เงี้ยเรื่อยแหล่ะ

ผมเลยก้มหน้าอ่านหนังสือ พอดีจังหวะนั้น พี่ยามเดินเข้ามา ทำทีจะมาเอาวัสดุอุปกรณ์อะไรแถวๆ นั้น
ผมหายใจโล่งเลยคับ...เกือบมีคนเห็นจริงๆ

แต่ที่น่าแปลกใจ ไอ้พี่ยามมองผมด้วยสายตาแบบว่า กูรู้นะ พวกมึงทำไรกัน
เง้อ....รู้แล้วจะเข้ามาดูทำไมล่ะฟระ



H
ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ผิดหวัง
แต่เรื่องมันเป็นแบบนี้จริงๆ!!!  o22

ปล. ช่วยอ่าน warning กันด้วยนะวัยรุ่น
ปล. 2  :pig4:  อาจมีเซอร์ไพร์สโผล่ขึ้นมาอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-09-2010 03:01:33 โดย foyer »

aekporamai2

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]* love is a drug! *[break up_____UP sep 7
«ตอบ #51 เมื่อ07-09-2010 02:07:50 »

.....................

ออฟไลน์ foyer

  • 「★ the sons of a battlecry」
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +822/-2
Re: ]* love is a drug! *[break up_____UP sep 7
«ตอบ #52 เมื่อ08-09-2010 00:24:23 »

/

พอยามออกไป ไอ้เคนเข้ามาเล่นแผลงๆ อีกแล้ว
จำไม่ได้เหมือนกันว่ามันตีเนียนเข้ามากอดมาหอมแก้มด้วยเรื่องอะไร... แต่ก็สมยอมมันไปเรียบร้อย

ผมจะนั่งเฉยๆ น่ะ....ส่วนมันก็หาเรื่องไซร้ไปทั่ว ไม่ได้มีอารมณ์ด้วยหรอก แค่อยากทำไรก็ทำไปเหอะ
“เลิกอ่านได้แล้ว” ไอ้เคนพยายามจะแย่งหนังสือ เพราะตอนมันไซร้คอ ผมแกล้งทำไม่สนใจมัน
ทำเป็นไม่รู้สึกรู้สา แต่จริงๆ แอบเสียวเหมือนกันนะนั่น ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่หว่า
“เลิกยุ่งกับคอเราก่อนดิ” เก็บอาการสุดๆ แล้วกู นะโมตัสสะ ภะคะวะโต.....อะระหะโต.............ฮืออ ขนลุก ต้องทำเฉย เดี๋ยวมันจะหาว่าเราอ่อน
“โห...ใจแข็งเป็นบ้า ไม่หวั่นไหวบ้างเลยเหรอ?” มันแกล้งเอาสองมือมาประกบข้างแก้มผม แล้วก้มหน้ามาจูบปากเบาๆ (พี่จ้าวแว้บเข้ามาเลยตอนนั้น)
“จะมีอารมณ์ได้ไง นี่มันที่สาธารณะ” ผมสะบัดหน้าออก อยากกลับบ้านแล้วโว้ย...ไอ้มือปลาหมึกนี่
“อ่ะนะ...ก็นึกว่าอยากเหมือนกัน ตรงนี้ไม่มีใครเห็นซักหน่อย”
“อยากคนเดียวอ่ะดิ แล้วเมื่อกี้ยามเดินมาไม่เห็นรึไง” เริ่มรู้สึกอายหน้าแดงแบบดีเลย์ซะงั้นอ่ะผม

และก็ไม่ทันขาดคำ พี่ยามเดินมาจริงๆ คับ ไอ้เคนกับผม เด้งตัวออกจากกันแทบไม่ทัน

“มองหาพ่อเหรอวะ/มองไรหนักหนา” เคนกับผมบ่นขึ้นมาพร้อมกันเบาๆ สายตาจ้องหน้ายามแบบอาฆาตเล็กๆ
แต่พี่แกดันยิ้มแบบมีเลศนัยให้ผมสองคน

จากนั้นมันก็กลายเป็นว่าไอ้เคนไม่สามารถทำไรผมได้ เพราะพี่ยามเค้าเดินมาดูเรื่อยๆ คล้ายจะมาขัดจังหวะหรืออะไรแบบนั้นมั้ง ฮ่าฮ่า สะใจ แต่แอบหมั่นไส้พี่ยามว่ะ

ไอ้เคนหน้าบึ้ง ดูหงุดหงิดเล็กๆ แต่พอสักพักไอ้ขันมา...มันและผมก็อารมณ์ดีขึ้น
อันนี้เป็นตอนไอ้เคนเก็กหลุด คือมันเล่นกับไอ้ขัน แบบหยอกกันแรงๆ อ่ะคับ แล้วทีนี้ ไอ้เคนพลาดล้มหัวฟาดพื้นเสียงดังลั่นเลย...ผมกับไอ้ขันก็กลัวมันจะหัวแตก แต่ไม่แตก ฮ่าฮ่า

ไอ้เคนหน้าเจื่อนเลย....คงอายมาก เลยทำตัวไม่ถูก ได้แต่นั่งงงและไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากไอ้ขัน ฮ่าฮ่า

/

และแล้วก็ได้เวลาเอ็นทรานซ์ ผมเลยบอกเคนว่าสอบเสร็จค่อยโทรคุยกัน...ตอนแรกมันจะไม่ยอมด้วยซ้ำ ไอ้นี่...งี่เง่า
โทรคุยกันทุกวัน ไม่เบื่อบ้างไงวะ......อีกอย่างตอนสอบ ผมไม่อยากคุยไร้สาระ
มันก็ทำเป็นตกลงไปงั้นแหล่ะ จริงๆ ก็แอบโทรมาเหมือนเดิม.......ยังไงล่ะเนี่ย ชักพูดไม่รู้เรื่อง

พอดีมีวันนึงที่ได้สอบสนามเดียวกัน วิชาเฉพาะอ่ะ
ก็เจอมัน....เห็นหน้าแล้วแอบเซ็งเล็กๆ ทั้งที่จริงแล้วน่าจะดีใจ เพราะไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ มัวแต่ยุ่ง ติวนั่นอ่านนี่เยอะแยะ

“สอบเสร็จรอเราด้วยนะ” เคนบอก ก่อนผมจะขึ้นไปสอบ
“ไมเหรอ?”
“เดี๋ยวไปกินข้าวกัน” หง่ะ...ไม่อยากรออ่ะ ไอ้เคนสอบสองวิชา เช้าบ่าย ผมสอบวิชาเดียว........จะให้รอก็นะ..........
อยากรีบกลับบ้านไปอ่านหนังสือสอบพรุ่งนี้ต่ออ่ะ ยังอ่านไม่จบเลย แต่ก็เกรงใจมัน

“สอบเสร็จค่อยไปได้ป่าว พรุ่งนี้เรามีสอบ หนังสือก็ยังอ่านไม่จบ”
“เหมือนกันแหล่ะ....แต่เราอยากกินข้าวด้วยอ่ะ รอนะๆ ๆ เดี๋ยวไปแล้ว โชคดีในการทำข้อสอบนะครับ”
“เฮ้ย.........”
แล้วเคนก็วิ่งไปอีกตึกนึง ที่มันสอบ โดยทิ้งผมยืนยกมือค้างกลางอากาศ
ม่าย...........ยยยย

/

ทำไงได้.........จะให้หนีกลับก่อนทั้งที่คุยกันไว้แล้ว มันไม่ใช่นิสัยผม
ผมนั่งรอคนเดียว...เปลี่ยวเหงา รอจนกระทั่งไอ้หน้าพระเอกการ์ตูนญี่ปุ่น เดินแกมวิ่ง ยิ้มแป้นแล้นมาแต่ไกล

“รอนานป่าว?” ขอร้อง...อย่าถามโง่ๆ
“ไม่นานเลยมั้ง เกือบสามชั่วโมง” ผมตอบหน้างอ
“อ่ะ ขอโทษ ขอโทษน้า....เดี๋ยววันนี้อยากกินไร ตามใจน้ำพุทุกอย่าง” งั้นกูอยากกลับไปกินข้าวบ้านกู
“พรุ่งนี้จะสอบแต่ยังอ่านไม่รู้เรื่องเลย ไม่มีรมณ์อยากกินไรหรอก” ประชดซะเลย ปล่อยกูให้เสียเวลาทำไม
“โห ไมเครียดจัง....ดูดิ คิ้วชนกันแล้ว อย่าเครียดสิครับเดี๋ยวหน้าแก่เร็วนะ“ อย่ายิ้ม อย่ามุข ไม่ตลก อย่ามาจับหน้ากูด้วย ผมปัดมือมันออก

“โอเค ไปไหนก็ไป...อยากรีบกลับไปอ่านหนังสือแล้ว” เวลาจริงจัง ผมก็จริงจังแล้วก็ทุ่มเทมากคับ ใครจะมาล้อเล่นกับความตั้งใจของผมไม่ได้ อย่าคิดว่าเว่อร์เลยคับ มันไม่ใช่เรื่องแค่นี้สำหรับผม สอบเอ็นท์ครั้งนี้ผมต้องเต็มที่กับมันให้มากที่สุด จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง ว่าทำไมกูไม่อ่านอันนั้นอันนี้มาก่อนวะๆๆ

“น้ำพุเหมือนไม่อยากไปกับเราเลยอ่ะ...งั้นกลับก็ได้นะ เดี๋ยวไปส่ง”
เฮ้ย ปล่อยกูรอตั้งนาน แล้วเสือกไม่ไป..........โมโหดิ
“ไปดิ อุตส่าห์รอแล้ว”
“พูดเหมือนฝืนใจจะไปด้วยเลยอ่ะ”
ผมถอนหายใจแรงๆ
“อยากไปก็ไปดิเคน ก็ไม่ได้ว่าไรสักหน่อย” ตัดบท ไม่อยากต่อปากต่อคำด้วยอ่ะคับ
“อืม...งั้นไปกินที่ xxx นะ” ไกล.......สาด
“ตามใจ” พอผมพูดคำนี้แบบเซ็งๆ ไอ้เคนหน้าหงิกเลยคับ มันคงรู้ว่าผมไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ แต่มันก็ดื้อด้านอยากจะไปให้ได้

ผมกะมันเคยตกลงกันไว้ว่าจะไม่คุยโทรศัพท์ ไม่เจอหน้ากันสักพัก เพราะต้องสอบ
แต่นี้ทำไม เคนมันไม่ทำตามที่ตกลงสักอย่างเลยวะ

“เป็นไรนั่งเงียบเลย?” เคนถาม ตอนนั่งอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ ร้านนึงซึ่งไกลจากบ้านผมมาก แต่ใกล้บ้านเคนมาก -*-
“เฮ้อ.....ห่วงเรื่องสอบพรุ่งนี้” ตอบไปตรงๆ
“เครียดมากไม่ดีนะ มันกดดัน...พักสมองบ้าง”
“แล้วนี่ไม่อ่านหนังสือหรือไง?” ผมถาม.....เห็นมันชิวจริงๆ ได้ข่าวว่าเรียนไม่ค่อยได้เรื่อง... ทำไมไม่ตั้งใจเลยฟระ

“ก็อ่านผ่านๆ บ้างแล้ว....55+ เข้าไปก็ไปนั่งเดาอยู่ดี” ดีมาก........
“น้ำพุติวให้มั่งดิ.....เราไม่เก่งอังกิดเลย”
“จะให้ติวยังไง หนังสือไม่มีสักเล่ม”
“ก็เนี่ย....เดี๋ยววันนี้ไปค้างบ้านเรา” ฝันป่าววะ..

“ไอ้บ้า พรุ่งนี้เราสอบชีวะ” กูจะเอาชุดที่ไหนใส่ แล้วกูจะเอาหนังสือที่ไหนอ่าน เลคเชอร์ ชีทเรียนพิเศษอยู่บ้านกูหมดเลย......คิดตื้นๆ
“ไม่เห็นเป็นไรเลย...อยากได้อะไร บ้านเรามีทุกอย่าง” พูดแบบกำปั้นชกดินมากๆ
“ไม่ได้....หนังสืออยู่ที่บ้านเราหมดเลย อีกอย่างตอนนี้มันไม่สะดวกหรอก”
“ไม่กล้าอ่ะดิ๊”
“....................” ผมเริ่มโมโหแล้วคับ พูดกวนตีนอย่างงี้ต่อยกันเลยดีกว่ามั้ง
“กลับก่อนนะ”
“อ้าวเฮ้ย”
ผมเดินหนีออกมาจากร้านเลยคับ... ค่าอาหารปล่อยมันจ่ายไป (ปกติไทยแชร์ 55+)

ไอ้เคนวิ่งตามมาตอนที่ผมเดินมาได้ไกลแล้ว... (ผมไม่ได้เอารถมานะคับ พ่อมาส่งอ่ะ)
“รอด้วย” มันวิ่งมาทัน ก็เอาแขนมาเกี่ยวคอผม
“หนัก!”
“งอนไร?”
“ไม่เคยงอนเว้ย”
“งอนเหรอคับที่รัก” ใครที่รักมึง ไอ้มั่ว

“บอกว่าไม่เคยงอน จะกลับบ้านแล้ว แยกกันตรงนี้เลยละกัน” พอดีเห็นรถเมล์กำลังมา พอเคนเห็นผมโบกรถ
มันโวยวาย
“อ้าว....ไหนว่าจะไปค้างบ้านเรา” กูพูดเมื่อไหร่วะ
“ไม่ค้าง...ไว้วันหลัง” แล้วผมก็เดินขึ้นรถไปเลย ไม่เหลียวมามองหน้าเคนสักติ๊ด

/

“ไร?” กระเป๋ายังไม่ทันเก็บตังค์ ไอ้เคนโทรมาอีกและ
“อะไร?” จะย้อนกูเพื่อ
“โทรมามีไร?” ถามดีๆ แล้วนะ อย่ากวนตีน
“ก็เห็นกลับบ้านคนเดียว กลัวจะเหงา เลยโทรมาคุยเป็นเพื่อน”
“.................” อ่ะนะ
“รีบหนีกลับบ้านก่อนเลยนะ...ชอบทิ้งเราเรื่อยเลย” น้ำเสียงยังรื่นเริงอยู่ งั้นแสดงว่ากรูยังไม่ผิด (เข้าข้างตัวเองอีกและ)
“ก็รถเมล์มาแล้ว....เคนก็รีบกลับน่ะ”
“คับ งั้นถึงบ้านแล้วโทรบอกด้วยนะ” ต้องรายงานกันขนาดนั้น...
“อืม” ขี้เกียจพูดด้วย
“กลับบ้านดีๆ นะ ระวังตัวด้วย”
“อืม...เคนก็เหมือนกันนะ”

คุยอีกสักพักก็วางสาย......เฮ้อ
จะมีใครรุมตื๊บผมมั้ยคับ.......ถ้าผมจะบอกว่ารำคาญเคนมากเลยง่ะ มันจะอะไรกันนักกันหนา
(จริงๆ ตอนคบไอ้เอ็มยิ่งกว่านี้อีก แต่มันเป็นอารมณ์ประมาณว่า.......มึงอย่ามาเซ้าซี้น่ารำคาญอีกคนจะได้มั้ย)

พอมาถึงบ้าน ผมก็อาบน้ำอ่านหนังสือทันที (ยังไม่โทรบอกเคน)
จนกระทั่งผ่านไปชั่วโมงนึง เสียงโทรศัพท์ดัง

“คับ” ไอ้เคนแน่ๆ
“หวัดดีคับ คุณ....xxx ใช่มั้ยคับ?” อ้าว....ใครวะเนี่ย
“คับ”
“ผมเก็บกระเป๋าตังค์คุณได้บนรถเมล์อ่ะคับ ให้เอาไปคืนที่ไหนดี?” ตายห้า.......กรูทำตกไว้ตอนไหนวะ ไม่รู้ตัวเลย

“อ่า.....เหรอคับ ขอบคุณนะคับ ที่เก็บไว้ให้” เกือบแย่ละ....ถ้าหายไปจริงๆ กรูจะเอาบัตร นร. ที่ไหนไปสอบ (ในกระเป๋าตังค์ผมจะมีโน๊ตเล็กๆ ลิสต์เบอร์โทรที่บ้าน + ญาติๆ ไว้อ่ะคับ ผมจำไม่ได้ ลืมบอกไปว่าผมย้ายบ้านอีกแล้วง่ะ)

คุณคนนี้คงลองคุ้ยกระเป๋าผมดูมั้ง.........อ้าว งั้นก็เจอรูปผมกะไอ้เคนถ่ายคู่กันดิ เหอๆ ช่างมันก่อน

“ไม่เป็นไรคับ....แล้วผมจะคืนได้ที่ไหนดีครับ?”
“เอ่อ......คุณสะดวกที่ไหนดีกว่าครับ ผมเกรงใจ”
“งั้นที่ xxx ละกันครับ”
“เป็นตอนเช้าๆ ได้มั้ยคับ พรุ่งนี้ผมติดสอบเอ็นท์ฯ แล้วต้องใช้บัตร นร.”
“อ่า...............” อ้ำอึ้งงี้ อย่าบอกนะว่าไม่ได้

“เช้าก็ได้คับ แต่ขอเปลี่ยนเป็นที่ xxx แทนนะครับ” จ๊ากกกก........ไกลจากสนามสอบกรูมากมาย
“โห.......” เผลออุทานง่ะ
“ก็ได้คับ” แล้วก็ต้องจำยอมเสียงอ่อยๆ “คุณชื่ออะไรเหรอครับ?” ผมถาม
“เรียกพี่นัทก็ได้ครับ น้องล่ะ?” สงสัยสำรวจบัตรแล้วรู้ว่าผมเด็กกว่า
“ผมน้ำพุครับ”

ผมวางสายด้วยความเซ็ง....ทำไมซวยอย่างงี้วะกรู ต้องรีบตื่นเช้าไปเอากระเป๋าตังค์อีก
ผ่านไปประมาณ 5 วิ เสียงโทรศัพท์ดังอีกและ

“คับ” ผมรับสาย
“ไมเมื่อกี้โทรไปสายไม่ว่าง” เสียงไอ้เคน (ปกติโทรเบอร์บ้านกันครับ เพื่อความประหยัด และนาน...)
“คุยกับคนที่เก็บเป๋าตังค์เราได้บนรถเมล์อ่ะ”
“อ้าว.....ลืมไว้ได้ไง” ถ้ารู้กูคงไม่ลืมหรอก.....
“จะรู้มั้ยเนี่ย”
“ทีหลังระวังๆ หน่อยละกัน ของสำคัญอ่ะ มีรูปเราอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวใครเอาไปทำเสน่ห์ล่ะแย่เลย” คิดได้เนอะ

“แล้วไหนบอกว่า ถึงบ้านแล้วจะโทรบอกเรา”
“กำลังจะโทร พอดีมีเรื่องก่อน” แหะๆ.....เนียนๆ
“อืม....รู้ป่ะเนี่ย รอโทรศัพท์อยู่ตั้งนาน น้ำพุไม่ยอมโทรมาสักที”
“คับ ขอโทษ” กูขี้เกียจ

แล้วมันก็ชวนคุยไร้สาระอีกประมาณ 15 นาที ผมทนไม่ไหว ขอวางสาย
“อย่าเพิ่งวางดิ๊ คุยเป็นเพื่อนกันก่อนนะ น้าๆๆ” ทำเป็นอ้อน.........อ้อนตรีนใช่ป่ะ
“ไว้ค่อยคุยวันหลัง เดี๋ยวอ่านหนังสือต่อแล้ว”
“ก็ได้....งั้นตั้งใจอ่านนะ พรุ่งนี้ก็ขอให้ทำข้อสอบได้ทุกข้อเลย” สาธุ
“เคนก็เหมือนกันนะ” พักนี้พูดประโยคนี้บ่อยมาก เฮ้อ

วันต่อมาก่อนออกไปเอาเป๋าตังค์ ผมบอกคนที่บ้านไว้ก่อนเลย....ถ้ามีคนโทรมาตอนเย็น บอกว่านอนแล้ว ไม่ว่าง ไม่อยู่อะไรก็ได้ ผมขี้เกียจคุยกับไอ้เคนคับ ไม่มีอารมณ์อ่ะ.....มันดื้อด้าน + งี่เง่าไงบอกไม่ถูก ถ้าถามว่าชอบมันไหม ก็ชอบอยู่....แต่รำคาญ  



H
ขออนุญาตอีดิท
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2011 12:51:28 โดย foyer »

daizodiac

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]* love is a drug! *[pin my wings_____UP sep 8
«ตอบ #53 เมื่อ08-09-2010 02:14:48 »

ไม่ต้องแจ้งลบหรอกค่ะ
ยังอยากเห็นพัฒนาการน้องพุไปเรื่อยๆ =]

lasom

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]* love is a drug! *[pin my wings_____UP sep 8
«ตอบ #54 เมื่อ08-09-2010 03:48:10 »

base on true จริงๆ :m20:

ออฟไลน์ sin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
Re: ]* love is a drug! *[pin my wings_____UP sep 8
«ตอบ #55 เมื่อ08-09-2010 11:08:33 »

ตามอ่านอยู่น้า

ชอบนิสัยน้ำพุ ตรงๆดี ^//^

ออฟไลน์ mamotic

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: ]* love is a drug! *[pin my wings_____UP sep 8
«ตอบ #56 เมื่อ08-09-2010 11:27:45 »

^^ คนแบบนี้ก็มีในโลก!!!

/
ผมเป็นแฟนมันได้แค่อาทิตย์กว่าๆ เท่านั้นเอง ในขณะที่มันใช้ความพยายามเป็นปีเพื่อจะจีบผม


T^T ของนิอะแฟนกันวันเดียวก็เคยมีเลย แล้วก็บอกเลิกเองด้วย  งั้นนิก็ไม่ดีมากๆดิ  (ผิดไปแล้ว...ตรูขอโทษ)

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: ]* love is a drug! *[pin my wings_____UP sep 8
«ตอบ #57 เมื่อ08-09-2010 19:18:53 »

พี่นัทจะเข้ามาเป็นตัวจริงของน้ำพูรึป่าวหว่า
เคนง๊องแง๊งไปหน่อย  ขนาดสอบนะเนี่ย

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: ]* love is a drug! *[pin my wings_____UP sep 8
«ตอบ #58 เมื่อ08-09-2010 21:24:28 »

สนุกออกค่ะ เรื่องของน้ำพุ รู้สึกว่ามันคือชีวิตจริงๆ (แล้วมันก็แอบจริงบ้างไรบ้าง)
แหะๆ อย่าแจ้งลบเลยเนอะๆๆ รออ่านทุกวันแหละ แต่บางทีงานเยอะ เลยมาช้าอะ :sad4:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]* love is a drug! *[pin my wings_____UP sep 8
«ตอบ #59 เมื่อ10-09-2010 00:51:03 »

ตามมาอ่านนนน

อย่าแจ้งลบนะคะ  ยังอ่านอยู่


พุ นิสัยไม่ร้ายนะ แค่ไม่ใช่พระเอก อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด