/
/
จนกระทั่งขึ้น ม.หก
ผมไปดูแข่งบาสกับเพื่อนสนิท(ไอ้ขัน อยู่คนละห้อง แต่กลุ่มเดียวกัน) คือผมจะมีกลุ่มในห้อง(เด็กเรียน) กับกลุ่มนอกห้อง(เด็กเล่น)อ่ะคับ ผมสนิทกับกลุ่มเด็กเล่นมากกว่า เรียนมาเยอะ พอแระ...
พอดีเพื่อนผมมันชอบพี่ที่เล่นบาสอยู่คนนึง..... เห็นมันบอกอยู่คอนโดเดียวกันด้วย นั่งไปนั่งมา บังเอิญเหลือบไปเห็นคนๆ นึงโดยไม่ตั้งใจ.......
OH MY BUDHA! หน้าตา ทรงผม เสื้อผ้า ยังกะหลุดออกมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น
ใจผมเต้นตึกๆๆ
ผมเป็นคนบ้าการ์ตูนมากคับ....ขนาดลักษณะท่าทาง การพูด การเดิน การกิน ผมยังเหมือนตัวการ์ตูน (ไม่ใช่ตาหวานนะ คอนเฟิร์มว่าลักษณะท่าทางของผมแมนโคตรๆ ส่วนหน้าตา เชิญจิ้นเอาเองคับ 55+)
พอมาเจอคนแบบเค้าคนนั้น....ผมก็เลย...........อยากรู้จัก (เอิ๊กส์)
สารภาพตอนนั้นผมไม่ได้คิดสนใจเลยว่าเค้าจะเป็นเหมือนผมรึเปล่าสักกะติ๊ด ขอลุยก่อนอ่ะ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน (ก็คนนี้มันโดนนนมากกกหนิ)
ตั้งสติได้....ก็เลยสะกิดเรียกเพื่อนให้หันไปดู บอกว่าคนนั้นน่ารักดีว่ะ โคตรอยากรู้จักเลย ทำไงดี
แต่จังหวะนั้นมันไม่กล้าง่ะ....คนเชี้ยไรวะ โคตรน่ารัก ทำตัวไม่ถูก
ผมนั่งจ้อง เพ่งพลังจิตไปที่คนๆ นั้น...เค้าก็เดินเข้าๆ ออกๆ สนามหลายรอบ จนในที่สุด สวรรค์ก็เป็นใจ
ส่งเค้ามานั่งบนสแตนเดียวกับผม และที่สำคัญ เค้านั่งอยู่ข้างล่างผมนี่เอง......จ๊าก
ผมหันไปบอกเพื่อน...
“เฮ้ย ขัน อยากรู้จักว่ะ ช่วยหน่อยดิ ขอเบอร์ให้หน่อย” ผมกระซิบแล้วพยักหน้าไปยัง...เค้าคนนั้น (น่ารักขั้นเทพ)
"มึงก็ไปขอเองเด้....น้ำพุ" มันมองผมแบบ...อะไรของเมิงกรูจะดูบาส
"กูไม่กล้า นะๆๆ มึงขอให้กูหน่อย" ผมคะยั้นคะยอมัน
“เออ อะไรวะไอ้นี่.... กูช่วยก็ได้ แต่มึงต้องไปขอเบอร์พี่ปอนด์ให้กูก่อนนะเว้ย ถ้ามึงกล้า กูก็กล้า” โห....งานยากว่ะ
พี่ปอนด์เค้าแข่งอยู่นะเว้ย กูจะเสนอหน้าลงไปกลางสนามตอนนี้ได้ไง
“โหย....ไรว้า” ผมโอดครวญ ทำหน้าผิดหวังอย่างแรง เพราะผมคิดว่าผมไม่กล้าอ่ะ
จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรครับ......แต่แล้วจู่ๆ
ไอ้พี่ปอนด์มันเดินออกมานอกสนามเฉยเลย...ไม่รู้ทำไม แต่จังหวะนั้น ไอ้ขันมันเต้นเร่าๆ แล้วคับ ผมก็เริ่มออกอาการตื่นเต้นเช่นกัน เพราะดูเหมือนโอกาสจะมาถึงแล้ว
“พุ เอาไงวะ พี่ปอนด์ออกมาแล้ว ไปเร็วๆ” โดนมันเร่งคับ พี่ปอนด์เดินออกไปแล้ว แต่ผมอ่ะ สองจิตสองใจ...
เอาวะ ด้านได้ อายอด...555+ ผมเดินกึ่งวิ่งผ่านหน้าเค้าคนนั้นที่นั่งอยู่บนสแตน พุ่งตรงไปหาพี่ปอนด์ทันที
“พี่คับพี่ แป๊บนึงคับ” ผมตะโกนเรียกพี่ปอนด์ที่ดูเหมือนจะเดินกลับเข้าไปนั่งข้างสนามอีกรอบ
พี่เค้าหันมาทำหน้างง “คือ...ขอเบอร์พี่ได้ป่าวคับ?” เกิดมากูไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ให้ตายเหอะ...
“เอาไปทำอะไรคับ?” พี่เค้าถามแบบคนเล่นตัวนิดนึง
“เอ่อ...คือ เพื่อนผมให้มาขออ่ะคับ”
“คนไหนคับ เพื่อนน้อง?”
“นั่งอยู่บนสแตนคับ มันให้ผมมาขอ” ย้ำ ไม่ใช่กรูนะ
“เขียนใส่มือเหรอ?” สงสัยเห็นผมตั้งท่าเอาปากกาจ่อมือมั้ง
“คับ”
“อืม....งั้นเดี๋ยวรอตรงนี้แป๊บนึง พี่ไปเขียนใส่กระดาษให้ดีกว่า” แล้วพี่เค้าก็เดินไปคับ ผมยืนงง รีบหันไปหาไอ้ขัน แล้วทำปากบอกมันว่ารอแป๊บนึง
สักพัก พี่ปอนด์เดินมาหาผมอีกที...พร้อมเศษกระดาษที่มีเบอร์โทรศัพท์เขียนไว้ (ให้ง่ายมากกก ไม่นึกว่าจะง่ายขนาดนี้)
พอได้กระดาษปั๊บ ผมรีบก้มหัวขอบคุณแล้ววิ่งไปที่สแตนทันที (ไม่สนใจไรแล้วโว้ย)
“ได้มาแล้วว่ะ” ผมยื่นกระดาษให้ไอ้ขัน มันทำหน้าซาบซึ้งสุดๆ
“อย่าลืมขอเบอร์คนนั้นให้กู” ผมรีบทวง เพราะความรู้สึกมันฟ้องว่า ถ้าไม่รู้จักตอนนี้ ต่อไปก็อาจจะไม่ได้เจอกันอีก
“เออๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่กูเอง” พูดจบมันลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ เค้าคนนั้นทันทีคับ เฮ้ย~ กล้ากว่ากูอีก
พวกนั้นคุยไรกันผมได้ยินไม่ถนัดอ่ะคับ จนเค้าหันหลังมามองผม......หง่ะ ช้อค หน้าชา...อาย....โคตร
“น้ำพุ คนเนี้ย....ชื่อ เคน” ไอ้ขันตะโกนบอกแข่งกับเสียงเชียร์บาส
ผมอายจนทำอะไรไม่ถูก เหมือนหน้าจะระเบิดเองได้อัตโนมัติ
"หวัดดี" เค้าทัก
"แหะๆๆ หวัดดี"
เคนยิ้มให้ผมแล้วก็หันไปคุยกับไอ้ขันต่อ......ผมพยายามทำใจให้สงบ เพ่งสมาธิไปที่การแข่งขัน
ทีมไอ้พี่ปอนด์แพ้ไปแล้ว กำลังรอทีมใหม่มาแข่งต่อ
“ไอ้พุ มึงมานั่งด้วยกันตรงนี้สิวะ มัวแต่อายแล้วเมื่อไรจะได้คุยกันสักที” ไอ้บ้า ประจานกูเพื่อ
ผมก้าวลงไปอีกขั้นนึง ย้ายไปนั่งข้างไอ้ขัน ที่นั่งอยู่ข้างเคน จะบอกว่าขาผมสั่นกึกๆ เลยอ่ะคับ
ไอ้ขันมันพยายามช่วยให้ผมมีส่วนร่วมในการสนทนา แต่ผมเขินคับ ไม่รู้จะเขินบ้าเขินบออะไรขนาดนั้นเหมือนกัน
คุยกันได้พักใหญ่ๆ แม่ไอ้ขันโทรตามให้กลับบ้านด่วน.....ผมอึ้ง หน้าซีด มือเย็น
ตอนที่มันพูดว่า “เดี๋ยวมึงอยู่นี่กับเคนละกัน กูต้องกลับแล้ว โชคดีมึง” แล้วมันก็ทิ้งผมไปซะอย่างงั้นเลยคับ ไอ้เพื่อนชั่ว
ผมนั่งแข็งเป็นท่อนไม้...ตามองอยู่ที่สนามบาสอย่างเดียว ทำเหมือนไม่ได้รู้จักเคนแม้แต่น้อย
“ทำไมนั่งไกลกันจัง ขยับมานั่งด้วยกันดิคับ” เคนกวักมือเรียกผมที่นั่งเหมือนโดนสาปอยู่ที่เดิมตั้งแต่ไอ้ขันไป
ผมขยับมานั่งข้างเค้า...แล้วก็เงียบไม่พูดอะไร
“หึหึ” ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ หันไปมองเห็นเคนกำลังกลั้นหัวเราะผมอยู่ ขำอาไรฟระ คนกำลังเครียดปนตื่นเต้น(มาก)
“.......................”
“ใจคอจะไม่พูดอะไรเลยเหรอ?” เค้าถามขำๆ
“กะ....ก็.....ไม่รู้จะพูดอะไร?” อายโว้ย
“เห็นขันบอกว่า น้ำพุให้มาขอเบอร์เราเหรอ?” ไอ้ขัน....ไอ้เพื่อนเลว ขายกูอีกแล้ว แถมยังไม่ขอเบอร์ให้กูก่อนอีก โกรธโว้ย
“อืม ให้ได้ป่ะล่ะ?” กูขอเองก็ได้วะ แม่ง...
“ทำไมถึงอยากได้เบอร์เราล่ะ?”
“ก็.......อยากรู้จัก”
“ทำไมถึงอยากรู้จักล่ะ?” ถามมากไปมั้ย
“ก็อยากรู้จักไง..............ตกลงจะให้ป่ะเนี่ย?”
“หึหึ” เคนหัวเราะในลำคอ แล้วแกล้งทำเป็นดูบาสต่อ........ไอ้นี่แม่งลีลาโคตร
ผมเองก็ไม่รู้จะทำไง ก็เลยต้องจำใจยุติการขอเบอร์ไว้ก่อน เพราะผมไม่ชอบเซ้าซี้ใคร
“เป็นเซียนขอเบอร์คนอื่นเหรอ เห็นเมื่อกี้ก็ลงไปทีนึงและ” เฮ้ย เห็นด้วยเหรอวะ
“ป่าว...ขันมันให้เราไปขอ” แก้ตัวก่อนเข้าใจผิดคิดว่าเราหม้อ (ถึงจะจริงก็เหอะ)
“อ่อ.....แล้วน้ำพุมาดูบาสบ่อยมั้ย?” เคนชวนผมคุยอีก
“ก็บ่อย แล้วเคนล่ะ?”
“ไม่บ่อยอ่ะ บ้านเราอยู่ไกล”
“บ้านอยู่ไหนเหรอ?”
“xxx”............ไกลโคตรป้า! อุตสาหะถ่อมาถึงนี่เลยเหรอ งั้นวันนี้ก็ destiny เข้าเต็มรักเลยสิตรู
“แล้วบ้านน้ำพุล่ะ?” เคนถามอีก
“เราอยู่แถวxxx...ทำไมมาดูไกลจังอ่ะ?”
“ก็เราเล่นบาสอยู่ทีมโรงเรียน อาจารย์ให้มาดูไว้เล่นๆ เผื่อได้มาแข่งแบบพวกนี้” อ่อ....ชอบเล่นบาสเหมือนกรูเลย เพอร์เฟค
“แล้วมาคนเดียวเหรอ?” ผมเริ่ม (กล้า) ถาม.....
“ป่าว...มากับเพื่อน แต่พวกมันไปซื้อของกัน เดี๋ยวเกมจบก็มา”
เราคุยกันไปเรื่อยๆ สลับกับดูบาสไปด้วย จนกระทั่งจบเกม..........
คนเริ่มทะยอยลงจากสแตน ผมเริ่มใจเต้นแรงอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าใกล้จะได้เวลาจากกัน (แต่ยังไม่ได้เบอร์โทร!)
“เคน.....เอ่อ” เบอร์น่ะ ยังไม่ให้กรูเลยนะ ขอหน่อยเหอะ จะได้โทรจีบ
“อ๋อ...เบอร์ใช่ป่ะ ยังไม่ได้ให้เลย นำพุมีมือถือป่าวล่ะ?” สมัยนั้นทุกคนยังไม่จำเป็นต้องมีมือถือครับ ยังไม่ฮิต เคนก็เลยถามแบบนั้น
ผมรีบคุ้ยหาโทรศัพท์ในกระเป๋า มือสั่นหงึกหงัก
“เราไม่มีมือถือนะ มีแต่เบอร์บ้าน” เคนไขข้อข้องใจ ก่อนผมจะถามซะอีก ผมรีบเมมทั้งที่มือยังสั่นไม่หยุด (เคนมันไม่มีมือถือจริงๆ นะคับ มันบอกไม่จำเป็น แล้วก็กลัวคนอื่นโทรจิกเลยเพิ่งจะซื้อตอนใกล้จบ ม.หกอ่ะคับ -*-)
“ตื่นเต้นเหรอ?”
“อะ....เอ่อ........แหะๆ” ผมรีบเก็บมือถือในกระเป๋า เห็นเคนอมยิ้มอยู่
“ท่าจะตื่นเต้นจริงแฮะ....เห็นนั่งตัวแข็งตลอดเลย” ได้โปรด อย่าล้อ.............กรูอาย
“ไหนดูดิ๊........โห มือเย็นเจี๊ยบเลย”
เฮ้ย.....ตกใจดิคับ อยู่ๆ เคนก็ดึงมือผมไปจับซะงั้น ไอ้บ้า ผมรีบดึงมือออก หน้าแทบระเบิด
ผมมันก็ทำเก่งได้แต่กับคนที่มาชอบผมเท่านั้นแหล่ะ ถ้าผมไปชอบเค้าเอง ผมจะขี้อายมาก
“น้ำพุกลับยังไงเหรอ?” ถามอีก
“เอ่อ....กลับเอง เราขับรถมา”
“เพื่อนเรามันมาแล้วอ่ะ”
เคนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง......เง้อ ผมจะละลายคาสแตน เท่ได้อีก........คนเชี้ยไรเนี่ย
“หง่ะ” ผมรีบหันไปมองหาเพื่อนเค้า....เห็นยืนอยู่กลุ่มนึงสี่ห้าคนได้ หนึ่งในนั้นผมว่ามีน้องตุ๊ดรวมอยู่ด้วยนะ กำลังกวักมือเรียกเคนเลย
เงอะ..... แฟนมันป่าววะเนี่ย...(คิดไปไกล) กลัวมีแฟนแล้วอ่ะ แต่ช่างเถอะ เป็นเพื่อนกันไปก่อน โอกาสยังมี
ผมลุกขึ้นยืนบ้าง
"ให้ไปส่งมั้ย?" ผมน่าจะถามมากกว่านะ
“ไม่เป็นไร เคนไปกับเพื่อนเหอะ แล้วเดี๋ยวคืนนี้เราโทรหานะ”
“เอางั้นเหรอ....ก็ได้”
“งั้น ไปนะ บาย”
“อ่า...บาย”
/
เยส!!!..............ในที่สุด ผมก็ได้รู้จักเคนแล้ว โชคดีสุดๆ เลยวันนี้
พอกลับมาถึงบ้าน กินข้าวเสร็จปุ๊บ ผมก็เข้าไปหมกตัวในห้อง แล้วก็คิดๆๆ ว่าคืนนี้จะโทรไปคุยอะไรกับเคน
ถ้าคุณเคยดูหนังเรื่องปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น จะบอกให้ว่าผมทำเหมือนว่าน ที่ต้องเขียนสคริปไว้ก่อนโทรหาต่าย แบบนั้นเด๊ะเลยคับ ผมจำไม่ได้อ่ะ ว่าคุยไร เพราะโทรคุยกันก็เรื่อยเปื่อยอ่ะคับ
แต่จำได้อย่างหนึ่งว่าตั้งแต่โทรไปครั้งแรก.......โดนเลยครับ
โดนใจผมเนี่ยล่ะ...เพราะเค้าพูดจาส่อแววว่ามีใจ (เล่นด้วย)
และไม่ว่าเคนจะเล่นๆ หรือคิดจริง ที่แน่ๆ ผมบ้าตายไปกับมันแล้วคับ.......!H
เค้าคือ...เคน!
ต้องเดาต่อว่าจะเป็นพระเอกรึเปล่า? ฮ่าๆๆ

ปล. ตอบคุณ sky-cafe น้ำพุสกินเฮดแบบไม่ได้ตั้งใจคับ ผมแหว่งทั้งหัวเลยไม่สามารถตัดทรงอื่นได้
ตอนเดินกลับบ้านมีแต่คนมอง อายจนไม่รู้จะเอาหัวไปซ่อนไว้ตรงไหน ฮ่าๆๆ
ปล. 2 ชอบสกินเฮดเหมือนกัน! (สังเกตดิส)