อย่าคิดว่าจะรัก...ได้ง่ายๆ....โดยคุณเนท
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อย่าคิดว่าจะรัก...ได้ง่ายๆ....โดยคุณเนท  (อ่าน 338586 ครั้ง)

ออฟไลน์ สาวตัวกลม

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ









1. จุดเริ่มต้น
ตอนที่ผมยังเรียน (คือตอนนี้เรียนจบทำงานแล้วครับ) ที่มหาวิทยาลัยเอกชนที่กรุงเทพฯ แถวๆฝั่งธนฯ เข้าเรียนสาขาธุรกิจระหว่างประเทศ ชีวิตปี 1 ก็ไม่มีอะไรมาก เรียบง่าย มีเพื่อนที่น่ารักอยู่คนหนึ่ง ผมกับไผ่จะสนิทกันมาก เพราะผมเป็นเด็กมาจากต่างจังหวัด ส่วนไผ่มันจะเป็นเด็กกรุงเทพฯ มันก็จะแนะนำผมทุกเรื่อง แนะนำสถานที่เที่ยว ที่เรียน ที่กิน อะไรประมาณนี้
ผมเรียนสายสามัญ แล้วสอบเอ็นฯ ก็เลือกไว้หลายที่ แต่ชื่อผมไปติดที่เชียงใหม่ แต่แม่ผมไม่ให้เรียน ถึงจะมีญาติที่นั่น แต่ท่านบอกว่ามันไกล ยังมาบ่นอีกว่า ทำไมไม่เลือกสงขลา ผมน่ะ ไม่เอาหรอก ถ้าเรียนก็ขอที่ไกลๆ บ้านจะได้ไหม (รู้กันแล้วสิ ว่าผมเป็นคนจังหวัดอะไร จริงๆ ผมมันลูกครึ่งครับ ครึ่งเหนือครึ่งใกล้)
ส่วนไผ่จะเรียนสายพาณิชย์มาก่อน มันบอกว่า บ้านมันอยู่กันเป็นครอบครัว มันก็อยากจะอยู่หอ แต่พ่อแม่มันไม่ให้ เพราะยังมีน้องชายมันอีก 2 คนที่ยังเรียนมัธยมอยู่
ผมนะประทับใจมันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลย มันจะเป็นผู้ชายตัวเล็กๆ สูงประมาณ 163. เองมั้ง เตี้ยกว่าผมอีก แต่ผมก็ไม่ใช่คนสูงอะไรเท่าไหร่ ก็พอเดินไปไหนกัน พวกเพื่อนผู้หญิงจะเรียกแฟนลิฟออยเดินมาแล้วนั่น (ขอเป็นกอล์ฟไมล์ไม่ได้เหรอไง เฉยซะ) ตอนแรกก็มีผู้หญิงมาจีบกับไผ่นะครับ แต่ผมน่ะไม่คิดอะไรหรอก อารมณ์ว่าไม่อยากมีแฟน ส่วนไผ่นี่ ถ้าทางจะไปชอบจริงๆ ไม่สนใจผู้หญิงเลย ผมว่ามันต้องเป็นเกย์แน่ๆ เพราะมันจะชวนผมไปนั่งกินข้าวโรงอาหารที่พวกเด็กช่างมันนั่งกันน่ะครับ ที่นั่นเขาเรียกโรงร้อน เพราะมันมีแต่พัดลม มืดๆ แต่อาหารเยอะครับ (มหาวิทยาลัยนี้มีสาขาแผนกช่างด้วยครับ) เด็กช่างก็มองมันเหมือนกันนะครับ ก็มันน่ารักนี่ครับ ตัวมันเล็กๆ ดี ผมยังชอบเลย ... อ้าว ~ ไงล่ะนี่!
แล้วในที่สุดเหตุมันก็เกิดขึ้น!!! เป็นช่วงที่ขึ้นปี 2 แล้ว และผมก็สนิทกับไผ่มากจริงๆ มันก็โครตจะไว้ใจผมเลย
“เฮ้ย ไผ่ นายมองกลุ่มนั้นบ่อยไปป่าวว่ะ มันหันมามองแล้วนะ” ผมสะกิดไผ่ เพราะเห็นว่ามันจะมองแต่กลุ่มนี้ประจำ กินข้าวก็จะมากินเวลานี้ประจำ วันไหนไม่มีเรียนเช้า มันก็ลากผมมากินเวลานี้ตลอด เป็นมาเกือบอาทิตย์แล้ว
“เออ... ป่าวนี่หว่า” มันได้สติ ก็ก้มหน้ากินก๋วยเตี๋ยวที่ตอนนี้ ไม่ร้อนแล้ว
“อย่ามาเลย เห็นมองอย่างเดียว ไม่กินสักที จนก๋วยเตี๋ยวมันเย็นแล้ว” มันชะงักครับ
“เออ.... เรามีเรื่องจะบอกนาย แต่...” มันทำเป็นอึกๆอักๆ
“ไรว่ะ... มีไรก็บอกมา...” ผมนี่ก็ช่างสังเกตซะจริง ทั้งแขนทั้งตัวบิดไปมาอยู่ได้”
“คือ... เราชอบพี่คนนั้น...” ผมรู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่ผู้หญิง เพราะมันจะเจาะจงมานั่งฝั่งซ้ายโรงอาหารด้านในลึกๆ ที่มีแต่เด็กช่าง และไม่ค่อยมีผู้หญิงนั่ง และเดินมา
“คนไหนว่ะ” ผมก็หันซ้ายหันขวา
“เอ้ย... อย่าหันไปสิว่ะ” มันทำหน้าตกใจ และหันมาดึงแขนผม “มึงไม่ตกใจเหรอว่ะ” แล้วก็ทำหน้าตื่นๆ
“อย่างกับเราดูไม่ออก อาการนายมันออกตั้งนานรู้ป่ะ” ตอนนี้ผมเลิกสนใจข้าว แล้วพุ่งความสนใจมาที่ตัวมัน
“เรายังชอบนายเลย เราไม่ค่อยชอบเพื่อนผู้หญิงเท่าไหร่ เพราะเราคงมีน้องสาวมั้ง ก็เลยไม่อยากจะหาเพื่อนผู้หญิง” ก็ดูสิครับ น้องผมนี่ก็ช่างวุ่นวายกับชีวิตผมมาก และมันก็ไม่ค่อยให้ผู้หญิงที่ไหนเข้าใกล้ผม มันบอกว่ามันอยากได้พี่เขยมากกว่าพี่สะใภ้ ดูมันนะครับ อยากให้พี่มันมีผัว แต่ก็เป็นจริงอย่างมันว่า T_T
“เอ้ย... แต่เราคิดกับนายแค่เพื่อนนะ” มันมีสีหน้าตกใจ
“รู้แล้ว แค่บอกว่า ชอบเพราะนายดูน่ารักดี อยากได้น้องชายอย่างนาย” มันมีสีหน้าดีขึ้น ที่ผมพูดกับมันแบบนั้น ผมคิดจริงๆ ครับ เพราะน้องชายผมมันลิงมาก ซนสุดๆ ตอนเด็กๆ ผมไม่ค่อยอยากจะกับมัน แต่พ่อผมจะถูกใจมันมาก คงเพราะสีผิวมันเหมือนพ่อ รูปร่างก็ไปทางพ่อผม ส่วนผมกับน้องจะไปทางแม่มากกว่า สีผิวรูปร่างได้แม่มาหมด แต่ใบหน้านี่ก็ได้ทางพ่อมา ก็ลูกครึ่งนี่ครับ
“แล้วไป” มันทำเป็นถอนหายใจ แล้วหันไปทางกลุ่มนั้นอีก ส่วนกลุ่มนั้น ผู้ชายมันมองก็มองมาทางโต๊ะผมด้วย
“คนนั่นป่ะว่ะ หรือคนข้างๆ” ผมสะกิดถามมัน
“คนที่คิ้วหน้าๆ น่ะ... พี่เขาชื่อเอ๋” ว่าไปนั่น มันไปรู้จักชื่อเขาได้ไงนี่ ผมล่ะงง
“เหรอ ไม่ใช่ไอ้หน้าเก็กนั่นนะ” ผมก็ทำเป็นมองแล้วถามไผ่
“ไม่ใช่พี่มีน” มันรีบบอกปฏิเสธทันที
“เอ้ย นายไปรู้จักชื่อพวกเขาตั้งกะเมื่อไหร่ฟร่ะ” ผมถามด้วยความสงสัย พร้อมส่งสายตาประมาณว่า มึงเล่ามาให้กูฟังเดี๋ยวนี้
“เออ ค่อยเล่าได้ป่ะ ค่อยไปเล่าที่ห้องนาย ที่มันคนเยอะ” ผมนี่อยากจะตบหัวมันสักที ทีมันมองพี่เค้า ไม่ยักอาย
แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อพี่คนชื่อเอ๋เดินลุกขึ้น เพื่อนๆ เขาก็ลุกขึ้นตาม แล้วมาหยุดที่โต๊ะผม แล้วไอ้หน้าเก็กมันก็พูดออกมา
“น้องมีปัญหาอะไรเหรอครับ เห็นมองมาทางพี่นานแล้ว” มันถามกึ่งๆ จะสุภาพนะ(มั้ง)
“เปล่าครับ” ผมรีบตอบทันที ไอ้หน้าเก็กก็หันมามองผมด้วย
“พี่ว่า น้องสองคน ลุกตามมาคุยกับพี่ดีกว่า” มันไม่พูดเปล่าแถมยังดึงแขนเพื่อนผมอีก ผมก็ลุกทันที ต้องปกป้องเพื่อนครับ เพราะมันตัวเล็กกว่าผม
“น้องก็ด้วย” แล้วไอ้หน้าเก็กก็เปลี่ยนมาจับแขนผมแทน
“ได้ครับ แต่ปล่อยผมก่อน” ดีที่คนในโรงอาหารไม่ค่อยเยอะ แต่มันทำเป็นวางอำนาจมาก ผมเริ่มไม่พอใจแล้วสิ หน้าผมก็เริ่มเปลี่ยนๆ เหมือนกัน
“ครับ ที่ไหนครับ” ไผ่หันไปบอกคนชื่อพี่เอ๋ แล้วอีกมือก็มาจับแขนผมไว้ เหมือนรู้ว่าผมกำลังโกรธขึ้นมาแล้วบ้าง
“ถ้าไม่รังเกียจ น้องไผ่คุยธุระกับพี่ก่อนนะครับ” คนชื่อพี่เอ๋พูดขึ้นทันที โห....สุภาพซะ ผิดกับไอ้หน้าเก็ก
พวกนั้นก็พาผมกับไผ่เดินมาทางด้านหลังตึกช่าง แล้วเดินลัดขึ้นไปตึกที่สูงที่สุดในมหาลัย ตอนแรกก็กลุ่มใหญ่ แต่พอเดินผ่านตึกช่าง คนอื่นๆ ก็เดินแยกๆ ออกไป มารู้อีกทีก็ยืนกันอยู่ข้างๆ ตึกนั่นแล้ว
“พวกน้องเดินไปรอตรงนี้ประตูทางออกนั่นนะครับ” พี่เอ๋พูดขึ้น แล้วเดินเข้าตึกไป ผมก็งงสิครับ ไม่แพ้เจ้าไผ่มันแต่มันไม่มีอาการกลัวเลย เหมือนจะตื่นเต้นมากกว่า
“อะไรของพวกมันว่ะ” ผมก็บ่นออก ส่วนไผ่ก็เดินไปอย่างว่าง่ายเหมือนโดนยาสั่ง
“เอ้ย.. นายจะทำตามมันเหรอ เราว่าไปกันเถอะ” ผมดึงแขนเสื้อมันขึ้น
“เนท! โอกาสมาถึงแล้ว ช่วยเราหน่อยนะ” ไอ้นี่เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน
“ไม่กลัวมันเหรอ” ผมก็ถามออกไป มันสายหน้า แต่สายตามันก็กลัวๆ มั้งครับ ยืนกอดหนังสือแน่นเลย
ไม่ทันไรเสียงรถเก๋งโตโยต้าสีบรอนส์ก็พุ่งออกมาจากตึก เลี้ยวซ้ายมาทางที่ผมกับไผ่ยืน โห...โหลดซะด้วย สงสัยพ่อแม่คงรวย แต่หน้าไม่ให้เล๊ยยย
“ขึ้นมาสิ” ไอ้หน้าเก็กมันใส่แว่นกันแดด แล้วลดกระจกลงมาสั่ง มันเป็นคนขับ งั้นก็รถมัน
“นายน่ะ มานั่งข้างหน้า” มันสั่งขณะที่ผมจะเปิดประตูข้างหลัง
ผมกับไผ่มองตากันงงๆ แล้วไผ่ก็พูดให้ผมไปนั่งหน้า มันจะนั่งข้างหลัง เพราะมันเห็นพี่เก๋นั่งอยู่แล้ว ดูแล้วเหมือนสองคนนี้มันวางแผนมานะครับ ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจ ใส่อะไร ก็มารู้อีกทีหลังจากนี้ไม่กี่ชั่วโมง ที่เปลี่ยนชีวิตผมกับไผ่ไป
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-09-2010 18:47:12 โดย THIP »

ออฟไลน์ สาวตัวกลม

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
1. จุดเริ่มต้น(ต่อ)
ขณะนั่งในรถ ผมก็หันไปถามไอ้หน้าเก็กว่าเราจะไปไหนกัน มันก็บอกว่า จะพาไปคุยที่ห้องของมัน ผมก็เห็นท่าไม่ดีแล้ว ก็เลยบอกให้คุยกันในรถก็ได้ แต่มันไม่หันมาพูดอีกเลย ส่วนไอ้ด้านหลังนั่น (ผมเล่าคร่าวๆนะครับ ว่าคุยไรกันมั่ง)
“ชื่อไผ่เหรอครับ” พี่เอ๋หันไปสนทนากับไผ่ ส่วนมันก็ผยักหน้างึก
“เรียนแผนกอะไรครับ” พี่เอ๋ยังคงถามต่อ
“ผมเรียนบริหารฯ ธุรกิจระหว่างประเทศ” มันตอบเสียงเบาๆ
“คนเรียนกันเยอะนี่ครับ”
“แล้วพี่เรียนอะไรครับ” ไผ่มันถามมั่ง
“พี่เรียนช่างยนต์ครับ”
ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าช่างมันมีไรบ้าง ความอยากรู้ก็ดันบังเกิดขึ้นมาซะนี่ ก็เลยหันไปถาม
“แผนกช่างนี่นี่เรียนกันกี่แผนกครับ” ก็บวกด้วยความเป็นห่วงไผ่ก็เลยลองหันไปถาม เพราะเสียงมันเบาๆ กลัว แต่คนตอบกลับเป็นไอ้หน้าเก็กคนขับ มันก็พูดพลาๆ ไปเรื่อยๆ เราก็ฟังมั่ง ไม่ฟังมั่ง มัวเอียงหูฟังข้างหลัง แล้วก็เสียงไอ้หน้าเก็กก็เงียบไป แต่มันคงรู้ว่าผมไม่สนมันมั้ง ก็เลยเป็นฝ่ายถามเอง
“นายชื่ออะไร.”
“ชื่อเนท” ผมก็งงนะ อยู่ๆ ก็ถามขึ้น แต่ก็ตอบไป
“แล้วคุณล่ะ” เอาแล้วไง ความไม่เป็นมิตรของผมก็ก่อตัวขึ้น แต่เรื่องไรจะเรียกพี่ ทำมาเป็นหาเรื่องเรา
“มีน” ไอ้หน้าเก็กตอบสั้นๆ แล้วเสียงข้างหลังก็ดังขึ้น
“เอ้ย มีน มึงจอดตรงเซเว่นแป๊บ จะแวะซื้อไรกินหน่อย” พี่เอ๋ถามขึ้นแล้วไอ้หน้าเก็กก็ทำตาม พวกผมสองคนก็ต้องลงตาม จากนั้นผมก็ลากไผ่มาคุยกันสองคน ขณะที่อีกสองคนนั้นกำลังเข้าไปซื้อของกัน
“ไผ่! กลับเถอะว่ะ เราว่ามันแปลกๆ นะ นายไม่กลัวเหรอ” ผมพูดกับมันด้วยความกังวลจริงๆ
“ก็กลัว แต่ก็อยากคุยกับพี่เขาอีก โชดดีขนาดนี้ นายช่วยเราก่อนนะ” มันคิดถึงแต่ผู้ชาย ผมได้แต่คิดว่า ความรักทำให้คนตาบอด
“ช่างมึงแล้วกัน” ผมพูดหยาบแล้วครับ แต่นานจะพูดกับมันที แล้วพี่เอ๋ก็เดินออกมาถามว่าจะกินไร ส่วนไอ้หน้าเก็กก็ยังยืนดูอะไรไม่รู้ตรงชั้นหนังสือ
“เนทกินไร เดี๋ยวเราเลี้ยง” ไผ่ถามผมขึ้น แต่พี่เอ๋แกก็ขัดขึ้น บอกว่าจะเรียกเอง ผมก็คิดได้ ดี๋!!!! เอาให้เข็ด ผมเลยลากไผ่เข้ามาแล้วหยิบตระกร้าสีแดง จากนั้นก็เริ่มหยิบตั้งกะช็อกโกเลตจนไปถึงตู้น้ำ
“เอ้ย ไผ่ นายชอบนี่ไม่ใช่เหรอ กินป่ะ” ผมไม่พูดเปล่าหยิบใส่ตระกร้าเลย ส่วนมันก็มองหน้าผมงงๆ
“เนท มากไปแล้ว” มันสะกิดแขนผม
“อ้าว ก็พี่สองคนเขาจะเลี้ยงไม่ใช่เหรอ แล้วนายก็ยังหิวอยู่ไม่ใช่เหรอ” ผมหันมาพูดกับมัน แต่เสียงนี่สิ ต้องดังให้อีกสองคนได้ยิน
“ตามสบายครับน้อง อยากทานอะไร หยิบได้เลย” พี่เอ๋ก็ยังหันมายิ้มให้อีก ในใจผมคิดว่า ไอ้พี่เอ๋มันต้องเล็งไผ่แน่ๆ แต่ผมก็หยิบไปเรื่อยๆ นะ ทั้งเรย์ ฮานามิ โอริโอ จนไอ้ไผ่มันกระตุกแขน
“เอ้ย พอแล้ว เกรงใจพี่เขาหน่อย” มันเดินมาดึงแขนและทำท่าจะดึงกลับ แต่ผมดักมือมันไว้
“ได้ไง ต้องพิสูจน์สิว่ะ ถ้าไอ้พี่เอ๋มันชอบแกจริง แค่นี้มันจ่ายได้ ไม่ถึงพันหรอก” ผมพูดจบก็เดินจูงมือมันหันมาที่ตู้น้ำ ในใจผมก็คิดว่า เอาให้เข็ด
“ไผ่ชอบสเลิฟบี้ไม่ใช่เหรอ เอาแก้วใหญ่เลยนะ ส่วนเราชอบโค๊ก” ไม่รอช้าผมกดทันที หันกลับมาอีกที ไอ้หน้าเก็กมันก็ยืนกอดอกมองอยู่ไกลๆ พอถึงเวลาคิดเงินผมก็ให้ไผ่ถือตระกร้าแทน พี่เอ๋รีบมารับในทันที สุภาพบุรุษซะ!
ส่วนผมกับไผ่ก็ยืนยิ้มพร้อมยื่นน้ำให้พนักงานงานคิดเงิน สรุปก็ไม่ถึงพันจริงๆ รู้งี้ซื้อพวกสบู่ ยาสีฟัน แฟ๊บ ยาฉีดยุ่งไปด้วยดีกว่า
พอเข้ามานั่งในรถได้สองคนข้างหลังก็คุ้ยขนมในถุงขึ้นมาทันที 1 ใน 3 ไผ่มันไม่กินเลย แต่มันก็กลัวพี่เอ๋จะเสียน้ำใจแกะเรย์ขึ้นมาค่อยๆ เคี้ยว แล้วส่งอีกถุงให้ผม ผมก็รับมาโดยดี แล้วก็แกะกินทันที แต่ก็รู้สึกถึงสายตาคนข้างๆ ผมก็เลยหันไปถาม
“พี่กินไหมครับ” พร้อมยื่นถุงไปที่หน้า
“ก็อยากกินนะ แต่ไม่มีมือ” ผมคิดในใจ เหรอ สมน้ำหน้ามึง
“ผมป้อนไหมครับ” เล่นมุขนี้แม่งเลย
“ก็เอาสิ” รับมุขอีก
“เอ้า..” ทันทีทันใดผมก็จอแผ่นมันฝรั่งตรงหน้าไอ้หน้าเก็ก มันหันมามองแล้วก็งับมันฝรั่งเข้าปาก ผมก็หยิบให้มันกินอีก กินอีก จนอีกคำมันงับนิ้วผม แล้วหันมามองหน้า ผมก็รีบชักมือกลับทันที ไอ้นี่ลาม!
“ขอบใจ อิ่มแล้ว” มันหันหน้ามายิ้มลอดแว่น โอ๊ยยยยย กวดตีน บอกตรงๆ ว่าผมไม่เห็นความหล่อ ความดีของมันเลย ถึงมันจะหน้าตาดีก็ตามเถอะ
“รถติดจังครับ” ไผ่พูดขึ้นพร้อมสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของมัน
“ใกล้ห้างก็งี้แหละ เดี๋ยวก็ถึงแล้วซอยหน้าไง” พี่เอ๋หันมาพูด แล้วคงชี้บอกมั้ง
“หอของมีนมัน เราไปคุยธุระที่นั่นนะ” เสียงเพราะซะไม่มีเลยนะพี่ ผิดกับไอ้ข้างๆ ผม
พอมาถึงหอ ไอ้หน้าเก็กเก็บรถเข้าที่ เราก็เดินแบกถุงขนมกันขึ้นไปรอลิฟย์ ห้องไอ้หน้าเก็กมันอยู่ชั้น 6 พอเปิดเข้าไปก็เจอตู้ เตียง โต๊ะตัว ทีวี เกมเพลย์ มีเสื้อช็อปแขวนอยู่ ห้องไอ้หน้าเก็กเป็นห้องแอร์ กว้างดี ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ เห็นตรงหน้าทีวีจะมีแผ่นเกมส์เยอะมาก สงสัยมันจะชอบเล่น เข้ามาก็นั่งไม่ถูกแล้วครับ เก้ๆกังๆ ยังไงไม่รู้ พี่เอ๋ก็บอกให้เราสองคนนั่ง พวกผมก็นั่งง่ายซะเชียว บอกนั่งก็นั่งพื้นเลย นั่งๆ กินๆ ไปสักพัก พี่เอ๋ก็ชวนพวกผมเล่นเกมส์เพลย์กัน ผมน่ะเล่นเป็นอยู่แล้ว เพราะที่บ้านเปิดร้านเน็ตร้านเกมส์ ส่วนไผ่นี่ไม่ต้องพูดถึง บ้านมันไม่มีหรอกครับ แต่ดูแล้วมันอยากเล่น ผมก็สอนมันเล่นน่ะ เออ.. ไม่อยากจะบอกเลยว่า ความดีของไอ้หน้าเก็กก็มีดีตรงที่มีเกมส์เพลย์ให้เล่นนี่ล่ะครับ พวกพี่สองคนก็มองผมเล่นแบบทึ่งๆ 555 ไม่รู้ซะแล้วกูลูกใคร เล่นได้สักพักผมก็อยากเข้าห้องน้ำ ไม่ใช่ไรครับเปลี่ยนให้คนอื่นเล่น ผมชนะมาหลายรอบแล้ว เดี๋ยวพวกเขาจะเบื่อกัน
พอผมออกจากห้องน้ำ ไผ่ก็เข้ามาคุยกับผมตรงประตูห้องน้ำ บอกให้ผมกลับไปก่อน มันมีเรื่องจะคุยกับพี่เก๋ ผมก็โวยสิครับ มาด้วยกันจะให้ผมกลับก่อน และผมก็เป็นห่วงมันด้วย พอเดินกลับมาถึงที่เล่นเกมส์ พี่เอ๋เขาก็พูดขึ้น
“ขอโทษด้วยครับ น้องเนทกลับก่อนได้มั้ย เดี๋ยวพี่ให้ไอ้มีนไปส่งน้อง” พี่เอ๋พูดสุภาพมาก
“ได้ไงครับ มาด้วยกัน ก็ต้องกลับด้วยกันสิ” ผมก็โวยนิดๆ นะ
“น่า.... เนทกลับก่อนนะ พี่เขาคงมีเรื่องจะคุยกับเราจริงๆ” มันเข้ามาดึงแขนผมเบาๆ เว้ยๆๆ ช่างมันแล้ว ความรักบังตามันแล้ว
“แล้วแต่นายนะ” ผมพูดด้วยใบหน้าที่แสดงได้ชัดว่าไม่พอใจไผ่มาก
“น้องเนทไม่ต้อห่วงนะครับ พี่จะส่งน้องไผ่ถึงบ้านแน่ พี่แค่จะคุยธุระจริงๆ” พี่เอ๋ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพเช่นเคย เอ้อ...กุแพ้คนสุภาพ
“ให้แน่นะพี่...” พูดเท่านั้น ผมก็หยิบสมบัติผมแล้วเดินออกจากห้อง ไอ้หน้าเก็กมันก็เดินตามออกมาส่งด้วย
“ไม่ต้องส่งหรอก ผมกลับเองได้” ผมพูดขณะที่ไอ้หน้าเก็กกำลังกดลิฟย์
“ไม่ได้ พามาต้องพาส่ง” แล้วมันก็หันมายิ้มให้ผม วูบ! ใจผมตกไปอยู่ตาตุ่มแล้วครับ หยิบแบบว่า ไม่รู้หวังดีหวังร้าย
พอลงมาถึงข้างล่างไอ้หน้าเก็กก็บอกให้ผมรอ เดี๋ยวมันไปเอารถก่อน ถึงผมจะปฏิเสธ มันก็ไม่ยอมท่าเดียว ช่างแม่งแล้ว อยากเสนอกุก็สนองล่ะกัน
แต่นะ... ถ้าขับมาส่งผมจริงๆ ก็ไม่ไกลหรอก หอผม ไม่สิ อพาทเม็นท์ผมอยู่ใกล้มหาลัยจะตาย แต่วันนั้นเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงห้องผม T_T พอถึงผมก็หันไปขอบคุณ พอจะลงไอ้หน้าเก็กก็ถามขึ้น
“ไม่คิดจะเชิญไปกินน้ำหน่อยเหรอ” ผมก็หันมางงๆ มันมามุขไหน กุไม่เล่นด้วย
“เออ...” ตอบไม่ถูกครับ เพราะมันหันมายิ้มให้ผม
“งั้นขอเข้าห้องน้ำหน่อย คงได้นะ” จนคำพูด
“ก็ได้ครับ” ผมล่ะเซ็งครับ มันพูดและท่าทางผิดกับเมื่อกี้มาก มันไรมันว่ะ

พอเข้าห้องมาถึง มันก็อึ้งๆ อ่ะครับ
“ลูกคุณหนู” คำแรกที่มันพูด จนเกือบจะหันแล้วเตะมันออกจากห้องจริงๆ
“จะเข้าห้องน้ำก็เชิญ..” ผมพูดแล้วชี้ไปทางประตูห้องน้ำ
จะว่าที่ไอ้หน้าเก็กมันพูดก็ถูก ขนาดผมพาไผ่มาเที่ยวห้องมันยังพูดคำนี้ ทำไงได้ครับ นั่นเพราะคุณนายแม่ผู้บังเกิดเกล้าของผม คงกลัวลูกลำบาก แถมยังไอ้ห้องนี้อีก มันอยู่ชั้น 7 ครับ เป็นห้องแบบว่า พวกสามีภรรยาเขาอยู่กัน ไม่รู้ทำไงดีครับ ตอนนั้นห้องมันก็เหลือแต่ชั้นนี้ แม่ผมก็ถูกใจไปหมด ผมอธิบายผังห้องผมให้นะครับ ห้องมันก็ไม่ใหญ่มาก เป็นห้องแอร์ ห้องน้ำในตัว มีระเบียง เตียงห้องผมก็ขนาดคิงไซด์ วางตรงข้ามกับโต๊ะเครื่องแป้งที่มันยาวมาก ด้านประตูที่เปิดก็มีตู้เสื้อผ้าตู้เบ่อเร้อ นอกระเบียงมีเครื่องซักผ้าขนาดเล็ก โทรทัศน์ 19 นิ้ว ซีดี 1 เครื่อง ตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งยาวๆ ตู้เย็นตู้เล็กๆ ที่วางฝั่งตรงข้ามห้องน้ำ สรุปคือเฟอร์นิเจอครบถ้วน ทั้งหมดนี้เงินคุณนายแม่ครับ ตอนแรกเห็นห้องนี้ผมโอเคแค่เตียงครับ นุ่มดีครับ กลับมาเหนื่อยๆ ผมก็ทิ้งตัวลงนอนเลย
พอไอ้หน้าเก็กเข้าห้องน้ำ ผมก็ขยับเน็คไทออกนิดหน่อย วางมือถือ กระเป๋าตังค์ไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง ส่องกระจกดูหน้าตัวเอง ก้มๆ เงยๆ สักพัก ไอ้หน้าเก็กก็เดินออกมาจากห้อง และนั่นเป็นบทสนทนาที่ทำให้ผมกับมันต้องมาเกี่ยวพันกัน
“นั่งห้องนายสักพัก คงไม่ว่าน่ะ” มันพูดออกมาแล้วก็เดินออกไปสำรวจนอกระเบียง อาการตอนนี้มันก็ใกล้จะมืดแล้ว เสียงอื่นๆ ก็ค่อยๆ เงียบลง (เอออ...ที่นี่เป็นห้องเก็บเสียงครับ พอเปิดประตูออกไปจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย พออยู่ในห้องก็ไม่ได้ยินข้างนอก พอผมมาอยู่ได้สักพักถึงจะรู้สึกได้)
“มันใกล้จะมืดแล้ว ว่าคุณน่าจะกลับได้แล้วนะ” ผมพูดขณะที่ไอ้หน้าเก็กมันเดินเข้ามาพอดี ผมน่ะยืนนิ่งแบบไม่พอใจอยู่ตรงปลายเตียง มันก็เดินเข้ามา แล้วก็มากดๆ ซีดีผมเฉยเลย แล้วมันก็พูดขึ้น
“น่า...ขออยู่สักพักล่ะกัน ให้โอกาสสองคนนั้นเขาได้คุยกัน” มันหันมายิ้มแปลกๆ ผมเริ่มเอะใจ
“พูดงี้หมายความว่าไงคุณ” ผมก็ถามขึ้นทันที แต่มันกลับนั่งลงตรงปลายเตียง
“ก็เพื่อนนายมาชอบเพื่อนฉัน ส่วนเพื่อนฉันก็ชอบเพื่อนนาย” อะไรน่ะ งั้นไอ้ไผ่ก็สมหวังน่ะสิ
“จริงเหรอ” ผมถามแบบคนอยากรู้มาก
“พวกเดียวกัน ดูออกง่ายจะตาย” มันเงยหน้าขึ้นมามองผม พร้อมกับยิ้มมุมปาก แล้วมันก็เอื้อมมือมันมาจับแขนผม
“นายก็ด้วย” มันสรุปเองครับท่าน ผมตกใจสะบัดแขนทันที
“เอ้ย ไอ้บ้า กุไม่ใช่....” ยังไม่ทันปฏิเสธจบ มันดึงผมเข้าหามันทันที ผลก็คือล้มลงบนเตียงทั้งคู่ ตัวผมก็อยู่บนตัวมัน ชักไม่ได้การแล้วกุ “ปล่อยเว้ย” ผมตะโกนใส่หน้ามัน และเตรียมจะลุก มันกลับผลักผมลงกับที่นอน
ตกใจสิครับ ทำอะไรไม่ถูกตัวผมแข็งไปเลย ตาต่อตาก็ประสานกัน เอ้ย.. ไม่ใช่ มันมองหน้าผมนิ่ง ผมก็แทบลืมหายใจ ยังไม่ทันจะพูดอะไร ปากมันมาถูกปากผม คราวนี้ผมตาโตเลยครับ สองแขนสองมือผลักมันขึ้น มันก็เซไปข้างๆ ผมก็ลุกแล้วตบหน้ามันไปทีนึง แล้วมันก็เอามือมันลูบแก้มที่มีรอยฝ่ามือผมไปเต็มๆ มันหันมามองผมด้วยตาแบบว่า มึงมาตบกุทำไม
ผมน่ะอยากด่ามันมาก แต่ด่าไม่ออก ได้แต่นั่งหอบบนเตียง แล้วมันก็ขยับเข้ามาหาผม ผมก็เพิ่งคิดได้ ซวยแล้วกุ มันจะฆ่ากุมั้ย มันเป็นเด็กช่างน่ะ มันเข้ามาดึงเน็คไทของผม แล้วก็ผลักผมลงบนเตียง (ตายแน่! มันต้องฆ่ากุหมกห้องแน่... ) มันจับสองแขนผมยกไว้เหนือหัวผม แล้วมันก็เอาเน็คไทมามัดข้อมือผม คิดในใจ กุตายแน่...
“เก่งนักน่ะ ทำเป็นคุณหนู มึงน่ะเป็นเกย์ไม่แพ้เพื่อนมึงหรอก” โอ๊ยยย มันหยาบกับผมแล้ว สันดานเด็กช่างออกแล้วกุ
“ผมขอโทษพี่ ปล่อยผมเถอะ” คำพูดผมหลุดออกมาจากปากในที ที่รู้ว่ามันคิดจะทำอะไรผม
“อยากรู้มึงจะเก่งแค่ไหน” แล้วมันก็กระชากเสื้อผมออก
“ช่วย...” ไม่ทันได้พูด มันปิดปากผมด้วยปากมัน แล้วลิ้นมันก็เข้ามานปากผม ผมก็เกร็งไปทั้งตัว แล้วมือมันก็ลูบบนหน้าอกผม มือมันเลื่อนมาบีบหัวนมผม ตัวผมแข็งไปทั้งตัว พอมันลุกออกจากตัวผม ผมได้แต่นอนหอบ แต่มันไม่จบแค่นั้น เพราะว่า มันถอดเสื้อยืดมันออก แล้วขึ้นมาคร่อมบนตัวผม มือมันจับกางเกงแล้วรูดซิบผมออก ผมคิดได้อย่างเดียวว่า มันจะข่มขืนกุแน่ ไม่เอา!!! ผมกำลังจะตะโกนร้อง มันก็เอาเสื้อมันยัดใส่ปากผม อื้อ.. ตายแน่แล้วกุ
“ตัวขาวอย่างที่คิดจริงๆ” อยากบอกว่า หน้ามันหื่นกามมาก แต่ว่า...มันคิด.. มันคิดอะไรของมัน นี่มันวางแผนกันเหรองั้นไอ้ไผ่เพื่อนผมก็ต้องโดนแบบผมสิ แล้วผมก็เริ่มดิ้นต่อ ตะโกนในใจว่า ใครก็ได้ช่วยด้วย (นางเอกจริงๆ เลยกุ)
“กุก็ว่าจะลองกับก้นผู้หญิงหรือพวกตุ๊ดดี เห็นไอ้เอ๋มันบอกว่าเจ๋ง งั้นกุก็ลองกับมึงล่ะกัน ท่ามึงจะยังไม่เคย” ผมก็ยังคงดิ้นคลุกๆ อยู่บนเตียง
“ฤทธิ์มากนะมึง ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย” เออสิ...กุผู้ชาย แล้วมันก็เอามือมันมาจับคางผม ผมถึงหยุดดิ้น อีกมือมันก็ดึงกางเกงผมหลุดออกมา โอ๊ย กางเกงในด้วย! มือมันมาจับน้องชายผมแล้ว มันชักขึ้นชักลงจนตัวผมเกร็งขึ้นมาอีกรอบ ไม่นานน้องชายผมก็แข็งขึ้นมาจนได้ ในชีวิตนี้ไม่เคยมีใครมาจับของๆ ผมเลย คิดในใจว่าอยากตายจริงๆ แล้ว
แล้วแรงผมก็ไม่รู้หายไปไหน เหมือนขามันไม่มีแรง ไม่ทันต้องคิดอีก มันยกขาผมขึ้นพาดบนบ่ามัน แล้วสอดนิ้วเข้ามาที่ก้นผม ผมตกใจมาก เกร็งตัวถอยหนีทันที แต่มันหนีไม่ได้ หน้ามันตอนนั้นเหมือนจะมีอารมณ์มาก มันสอดนิ้วเข้าไปผมไม่รู้หรอกนะว่ากี่นิ้ว เพราะผมเจ็บ ร้องก็ไม่ได้เพราะเสื้อมันอยู่ในปากผม มันสอดเข้าสอดออกอยู่นานจนผมมึนไปหมดแล้ว มันถอนออกแล้วลุกขึ้นไปยืนกับพื้น มันถอดกางเกงมันออก (บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นผมไม่มีอารมณ์จะเชยชมความหล่อของมันหรอกน่ะ) มันหันซ้ายหันขวาเหมือนหาอะไร แล้วมันก็เอื้อมมือไปหยิบโลชั่นนีเวียทาผิวของผม
มันกลับมาหาผมอีกครั้ง ยกขาผมขึ้น แล้วบีบโลชั่นลงมาโป๊ะตรงก้นผม แล้วสอดนิ้วเข้ามา ตัวผมก็เกร็งขึ้นมาอีก คราวนี้ผมไม่ยอมแล้ว กุต้องดิ้นให้ถึงที่สุด มันก็คงคิดว่าผมจะไม่ยอม อยู่ๆ มันก็มาเลียต้นขาผม แรงผมหายไปเฉยเลย ไม่ทันไรเหมือนมีอะไรมาดุนอยู่ตรงก้นผม ผมกำลังจะดูพอดี ไอ้หน้าเก็กมันก็สอดของๆ มันเข้ามาในก้นผม ผมตาเหลือกเลยครับ ได้แต่ร้องโอ๊ยๆ ในใจ ผมรู้สึกว่าของๆ มันเข้ามาในตัวผมจนแน่น ผมจุกมาก น้ำตาไหลทันที ผมเกร็งตัวอีกครั้ง เพราะมันกำลังจะดึงของมันออกไม่ทันไรมันก็สอดของมันเข้ามาอีกหลายๆ ครั้ง จุกครับผมจุกมาก แล้วมันก็ดึงเสื้อมันออกจากปากผม
“อยากได้ยินเสียงมึงร้อง” ตามันเยิ้มยังไงไม่รู้
“ไอ้เหี้ย!” คำแรกที่นึกได้คือด่ามัน แล้วมันดันของๆ มันเข้ามาในตัวผมอีก พูดไม่ออกครับ มันก็ได้อย่างที่มันต้องการ ผมก็ได้แต่ร้อง อื้อๆ อ้าๆ ไป สมใจมึงแล้วสิ ผมทำอะไรไม่ได้ แขนผมก็โดนมันมัด
“ข้างหลังมึงแน่นมาก” มันทำไปพูดไป โอ๊ย กุไม่อยากฟัง ออกไปจากตัวกุสักที ตัวผมสั่นไปตามแรงของมัน ความเจ็บมันเปลี่ยนไป ตัวผมขนลุกไปหมด แล้วน้องชายผมก็ตั้งขึ้นด้วย
มันออกจากตัวผมในทันที แล้วดึงผมขึ้นมานั่ง ผมซบเข้ากับคอผม ได้จังหว่ะผมกัดหูมันทันที มันร้องโอ๊ยแล้วบีบคางผมแน่น ผมก็มองหน้ามันเหมือนกัน
“เก่งนักนะ มึงดูตัวมึงในกระจกนั่น” มันหันหน้าผมไปทางกระจก ตัวผมในกระจกเหรอนี่ ผมได้แต่ตกใจ
“หันหลัง” มันสั่งผม แต่ตอนนั้นทำไมผมต้องทำตามมันด้วย คงเพราะผมกำลังตะลึงที่เห็นตัวเองในกระจก มันจับผมหันหลังแล้วเอาเข่ายันที่ตอนไว้ ส่วนแขนผมมือผมก็ยันกับที่นอนไว้ ตอนนั้นคิดไม่ออกครับ
“มึงมีอารมณ์เหมือนกันนี่” ไอ้บ้าเอ้ย มาจับของๆ กุก็ต้องมีสิว่ะ มันเอามือมาลูบหลังผมจนทั่ว เข้ามาไซร้ที่หลังคอผมอีก แล้วสอดของๆ มันเข้ามาตัวผม ผมร้องอ๊ากเลย มันดันเข้าดันออกอยู่นาน เสียงมันเหมือนมีความสุขมาก แต่ผมไม่สุขกับมัน
“พอแล้ว” ผมหลุดคำนั้นออกไปจริงๆ มันไม่ไหวแล้ว เหมือนตัวผมจะแยกออกจากกัน เหมือนมันจะได้ยินมันลดความเร็วลง และโน้มตัวเข้ามาหาผม
“เรียกชื่อกุสิ เรียกมีน” เสียงมันสั่นมาก ผมกัดปากนิ่ง มันก็จับน้องชายผมชักแล้วครับ
“อ๊า” เสียงร้องของผมก็ออกมา
“เรียกมีน” เสียงมันกระเซ่ามาก ผมก็ไม่แพ้มัน ไม่รู้อารมณ์เปลี่ยนไปได้ไง ผมอยากปล่อยของๆ ผมออกแล้ว
“มีน” ผมเรียกชื่อมันออก รู้สึกว่าตาผมพร่าไปหมด แล้วผมก็เรียกชื่อมันอีกยิ่งเรียกมันก็ยิ่งใส่เข้ามาในตัวผมไม่ยั้ง ผมทั้งเรียกทั้งร้องจนผมปล่อยของผมออกไปแล้ว ตัวผมแทบจะทรุดลงให้ได้ แต่คงเพราะมือมันจับเอวผมอยู่ แล้วก็กระแทกของๆ มันเข้ามาในตัวผมอย่างแรงสองสามครั้ง ของๆ มันก็พุ่งเข้ามาในก้นผม ผมรุ้สึกได้ ตัวผมเกร็งขึ้นมาอีก แล้วทั้งผมทั้งมันก็ทรุดลงกับที่นอน
“เอาของมึงออกไปสักที” ผมพูดทั้งน้ำตา แต่แทนที่มันจะทำ มันกลับกอดผมเข้าหาตัวมันแน่น
“มึงเป็นของกุแล้ว ห้ามยุ่งกับใครเด็ดขาด” จะเอาอะไรกับกุอีก ไอ้เหี้ย ด่าในใจไม่สาสม
“ไอ้เหี้ย มึงจะเอาไงกับกุ บอกให้ปล่อยกุน่ะ” ผมดิ้นแล้วต้องรุ้สึกเจ็บ เพราะของมันยังอยู่ในตัวกุ
“เลิกด่าผัวสักที มึงเป็นเมียกุแล้ว” มันดึงตัวมันออก แล้วยืนหน้ามาหาผม
“ใคร! มึงข่มขืนกุ ไอ้สัตว์ ออกไปจากห้องกุเลย” ผมด่ามันกลับ ตอนนี้ผมลุกขึ้นนั่งแล้วชี้ไปที่ประตู
“ปากดีนักน่ะ เดี๋ยวเจออีกรอบ” แค่ได้ยินเท่านั้น ผมก็ถอยทันที
“หยุดร้องได้แล้ว ตอนนี้กุรู้สึกชอบมึงขึ้นมาแล้ว มึงทำให้กุอารมณ์ถึง ไม่เลวเหมือนกัน” ปากมันหมามากครับ ตอนนั้นผมอยากบีบคอมันมาก มันบ้ากามชัดๆ
“กุไม่ใช่อย่างว่า ไประบายกับอีตัวนู้น” พอเลือดขึ้นหน้า ผมก็ด่าเป็นด่า
“เมียกุ ปากร้ายเหมือนกันนะ” คำก็เมีย สองคำก็เมีย
“กุผู้ชายเว้ย ไม่ใช่เมียมึงด้วย” ผมไม่รู้จะทำไง ยกหมอนเขวี้ยงใส่มัน แต่มันกลับหัวเราะ
“โอ้ๆ ผิดไปแล้ว” มันเข้ามากอดผม ไม่ทันตั้งตัว มันจูบมาที่ปากผม รู้สึกได้ว่ามันกำลังเล่นกับปากผม ยิ่งผมปิดปากแน่นมันก็ทั้งดูดทั้งดุนริมฝีปากผม สมองผมตอนนั้นเบลอไปหมด เจ็บก็เจ็บ ปวดก็ปวด
“มาให้กุกอดซะ” ไม่พูดเปล่า มันลากตัวผมเข้าไปหามัน แล้วเอาผ้าห่มมาห่อตัวผมไว้ แล้วดึงเข้าไปซบกับอกมัน มันทั้งกอดทั้งหอมผมไปทั้งหน้า เกิดมาไม่เคยให้ใครกอดขนาดนี้แถมเป็นผู้ชายอีก แล้วทำไมผมต้องยอมมันด้วย มันทำกับผมจนเจ็บ
“กุทำมึง กุก็ต้องรับผิดชอบ มึงต้องเป็นแฟนกุ” พูดเอง เออเอง ไอ้เลว!
“ไม่จำเป็น กุไม่ท้องหรอก” ยังปากดีครับท่าน
“เดี๋ยวกุก็ทำให้มึงท้องหรอก” ดูปากมันนะครับ “กุเหนื่อยแล้ว ใช้งานกับมึงจนหมดแรงแล้ว มึงก็หยุดสักที” แล้วอะไรนี่พูดไปกุผิดเหรอ ที่มึงมาขืนใจกุนี่
“พูดผิดหรือเปล่า ไอ้..” โมโหครับ เลยเงยหน้าจะด่า แต่มันกลับเอามือมาปิดปาก
“มึงเป็นแฟนกุแล้ว ต่อไปก็ต้องเชื่อกุ ห้ามนอกใจ ห้ามสุงสิงกับใครยกเว้นเด็กไอ้เอ๋” มันหมายถึงไผ่ครับ
“แล้วมึงห้ามให้ใครเอาด้วย” โอ๊ยยยยยย ผมอยากจะชกปากมัน มันพูดไปยิ้มไป ไอ้เลวววว ฝันไปเถอะว่ากุจะทำตามมัน ต้องสลัดมันให้ออก
ตอนนี้ต่างคนต่างเงียบ แล้วไงไม่รู้ ก็หลับด้วยกันทั้งคู่


ออฟไลน์ สาวตัวกลม

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
พอดีได้อ่านเรื่องนี้มาแล้วชอบมากค่ะ อยากให้ทุกคนได้อ่านกัน(ขอเจ้าของเรื่องแล้วน้า  ขอบคุณนะค่ะคุณเนท) :-[

goro

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาเชียร์ด้วยคน   
เรื่องนี้  หวาน น่ารัก  ถึงใจ ดี o13

wanwang

  • บุคคลทั่วไป
เปนกำลังใจคับ ยังงัยก็คนสงขลาเหมือนกัน :o9:
หุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุ :like6:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตามมาติดๆ

 o17 o17

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
อะนะ  :o8: :o8: :o8:

เปิดฉากมาก็... o3 o3 o3 o3 o3
เข้าข่าย "ตอนเดียวก็เสียวได้"  o17

ปล. หมายถึงเสียวไส้ว่ามันจะเกิดอะไรต่อไปเน้อ อย่าคิดลึก  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

inimeg

  • บุคคลทั่วไป
เหอๆ มาให้กำลังใจ

เจ้ตัวกลมของน้องต๊อบก่อน.....

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
 :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6:

กระชากอารมณ์  ผสมความมันส์ กระสันต์ในความรู้สึก ลึกๆในความวาบหวาม...

อ่านไปเพื่อนสาวลุ้นตัวโก่งเลยคร๊าาาาาาาาาาาา

เอามาต่ออีกนะคะ มันส์มากกกกกกก ชอบผู้ชายหื่นอย่างมีนจังเยย :haun5: :haun5: :haun5: :haun5: :haun5:

ปล.ปูเสื่อ แกะถั่ว จิบไวน์แดง.....แอร๊ยยยยยยยยศ์ ชอบมุขนี้อีกแระ :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:

ออฟไลน์ สาวตัวกลม

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
มาต่อแล้วจ้า :impress2:
**************************
1. จุดเริ่มต้น(จบ)
ไม่รู้ผมหลับไปนานแค่ไหน รู้สึกตัวตื่นเพราะรู้สึกว่านอนไม่ค่อยสบายตัว อึดอัดไปหมด ตอนนั้นไม่รู้หรอกครับว่ากี่โมง แต่มองไปรอบห้องไม่เห็นไอ้หน้าเก็กนั่น ผมก็ลุกขึ้นทันที สิ่งแรกที่นึกได้คือวิ่งเข้าห้องน้ำ ตัวมันชาๆ ไปหมด รีบล้างตัวและรู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างมันไหลออกมาจากก้นผม พอมองไปผมถึงกับอึ้งไปเลย ได้แต่ด่าตัวเองในใจ แม่ง! ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย
(ผมอยากบอกว่า ตอนแรกผมไม่รู้ตัวหรอกว่าผมเป็นเกย์ แค่คิดว่าไม่ค่อยชอบผู้หญิง แต่ไม่ได้สนใจผู้ชายนะครับ ไอ้ความรู้สึกว่าชอบนี่ คงมีแต่กับไอ้ไผ่คนเดียว เพราะผมรู้สึกว่า ชอบผู้ชายที่หน้าตาน่ารักแบบมัน เท่านั้น)
ผมนุ่งผ้าขนหนูออกมา สิ่งแรกที่นึกออกคือโทร.หาไผ่ ... ดีใจครับที่มันรับ
“ไผ่อยู่ไหน” คำแรกที่ผมถามมัน
“อยู่บ้านสิ เพิ่งกลับมาตอน 5 ทุ่ม” มันพูด แล้วมันก็หรี่เสียงมันลง
“อ้าว ไม่ได้คุยกับไอ้พี่เอ๋เหรอ” ผมก็งง ไม่รู้จะถามไร แต่ก็ถามไปก่อนล่ะว่ะ
“คุย.. คุยกันแล้ว โอเคแล้ว” โอเคไรมันว่ะ
“เรางง หมายความว่าไงว่ะ”
“คือ เราคบกับพี่เอ๋น่ะ เขาขอเราคบด้วย” เสียงมันบ่งบอกว่ามันคงอายมาก แต่น้ำเสียงมันดีใจ
“แล้วโดนเขาทำอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงผมร้อนรนขึ้นมาทันที
“เอ้ย... ถามไรว่ะ ป่าวน่ะเว้ย พี่เค้าไม่ได้ทำอะไรเรา” ผมรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
“ถามไรแปลกๆ ก็พี่เค้าเห็นว่ามันดึกแล้ว เขาก็เลยเอามอเตอร์ไซด์พี่มีนขับไปส่งเราที่บ้าน” คือรถเก๋งนี่เป็นของพี่เอ๋ ส่วนไอ้หน้าเก็กมันมีมอเตอร์ไซด์ ก็ว่าแล้วน้ำหน้าอย่างมันจะมีรถขับเหรอ แต่ผมก็ไม่เข้าใจนะครับ ว่าทำไมเด็กช่างมันต้องขับมอเตอร์ไซด์ด้วย สงสัยจะฮิตกันมั้ง
“แล้วพี่มีนเขายังอยู่ห้องเนทเหรอ” อยู่ๆไผ่ก็ถามขึ้น
“เปล่า มันมาส่งเราแล้วก็กลับเลย” ไม่ได้ครับ ผมบอกไม่ได้ว่าผมโดนมัน...
“เหรอ แค่นี้ก่อนได้ป่ะ เราจะไปอาบน้ำ” มันบอกผมก็วางสายเลย แล้วมองมือถือว่า ตอนนี้มันกี่โมงแล้ว เที่ยงคืนแล้วนี่หว่า ผมหลับไปไม่รู้เรื่องเลย พอวางมือถือลง หันมาเห็นเตียงตัวเอง แทบจะล้มทั้งยืน มันเลอะไปหมด ผมยืนตัวสั่นเลย พอนึกได้ก็ดึงผ้าห่ม ผ้าปูเตียง ปลอกหมอนออกทันที แล้วจับโยนใส่เครื่องซักผ้า ยัดๆ มันลงไปหมดนั่นแหละ เทผงซักฟอกไปครึ่งถุง น้ำยาซักผ้าอีกถุง อารมณ์นั้นแบบว่า ขยะแขยงมากๆ ผมโกรธจนน้ำตาไหล ได้แต่ยืนดูเครื่องซักผ้ามันทำงานอยู่อย่างนั้น
ตอนนั้นไม่ไหวแล้วครับ เหนื่อยมากไม่อยากคิดอะไรแล้ว คิดได้อย่างเดียวว่า จะไม่ขอเจอหน้ามันอีก แล้วผมก็เดินเข้ามาข้างใน ล้มตัวลงนอนบนเตียงหลับไปเลย รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เช้าแล้ว ผมก็ลุกขึ้นอาบน้ำ วันนี้มีเรียนตอนสายๆ แต่สมองไม่คิดอยากจะไปเรียนเลย แต่ที่ไปคือ ต้องไปหาไผ่ อยากคุยกับมันมาก ออกจากห้องน้ำผมก็เดินไปที่ระเบียง พอเห็นผ้าที่อยู่ในเครื่องซักผ้า ผมก็คิดถึงเรื่องเมื่อคืนอีก ไม่อยากจะหยิบมันออกมาเลย ผมก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ แล้วเดินเข้ามาเพื่อจะแต่งตัว กำลังจะหยิบเสื้อผ้าอยู่ ผมก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูห้องผม พอผมถอยหลังจากตู้ออกมา คนที่เดินเข้ามาในห้องคือไอ้หน้าเก็ก ผมงงว่ามันเข้ามาได้ไง
ไม่ทันที่ผมจะถาม มันหยิบกุญแจห้องผมให้ผมดู ผมโมโหมากครับ
“เอามานี่” ผมกระชากจากมือมันทันที
“งกไปได้” มันยังทำหน้าตากวนตีนอีก
“ออกไปได้แล้ว” ผมพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“ไล่ผัวซะแล้ว” มันยังมีหน้ามาพูดกับผมอีก ผมโมโหมาก ว่าแล้วผมก็ยกมือจะตบมันให้ได้ แต่มันหลบทัน
“มึงออกไปจากห้องกุเลย” ผมไล่มันครับ แต่เหมือนมันจะไม่ได้ยิน เดินเข้ามาหาผม ผมก็ถอยติดตู้เสื้อผ้า และเหมือนจะถูกใจมันมากที่เห็นผมกลัว
“ไม่ทำอะไรมึงหรอก เป็นห่วงถึงได้เข้ามาดู” มันมองไปรอบห้อง คงเห็นเตียงผมเปลี่ยนไป มันก็หันมาถาม
“เอาผ้าไปซักเหรอ” ผมเงียบไม่ตอบ มันก็เดินออกไปนอกระเบียง
“เดี๋ยวกุตากให้” มันไม่พูดเปล่า มันหยิบผ้าปูผมขึ้นมาตาก แต่ปากผมไวกว่า
“ไม่ต้อง จะทิ้งแล้ว” มันชะงัก หันมามองผม แล้วหันกลับไปดึงผ้าออกมาตากไว้ตรงราวระเบียง
ช่าแม่งแล้ว ผมหันกลับมาหยิบเสื้อผ้า แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปแต่งตัว อารมณ์นั้นกลัวมันครับ กลัวมันจะปล้ำผมอีก ต้องเซฟตัวเอง ผมออกมาก็ทำเป็นเหมือนมันไม่อยู่ในห้อง ทาแป้ง หวีผม แต่งตัว หยิบโน้นหยิบนี่ มันก็ยังยืนมองผมอยู่ (ไม่อยากบอกเลยว่า ผมเริ่มดูว่า มันก็เท่ห์ดีน่ะ ตัวมันสูงยาว โดยเฉพาะขามัน ขามันยาวมาก สมส่วนไปหมด ดูล่ำๆนิดๆ ผิดกับพี่เอ๋ที่ดูตอนแรกเหมือนผู้ชายเจ้าสำอางมั้งครับ ผมใช้คำไม่ค่อยถูก ชมใครไม่ค่อยเป็น)
“เดี๋ยวไปส่ง” มันถามผม โดยที่มันยังยืนกอดอกมองผมอยู่
“ขอบใจ แต่เราไม่ชอบให้คนแปลกหน้าไปส่ง” แล้วไงล่ะ บอกผมจะกวนตีน ก็กวนจริงๆ ครับ
“แปลกหน้าตรงไหน” มันเดินเข้ามาหาผม “อย่าเรื่องมาก เดี๋ยวกุก็เอามึงตอนนี้เลย เห็นมึงแต่งตัวแล้วอารมณ์มันขึ้น” ผมสะบัดมือมันทันที
“หน้าด้าน” ได้แต่ด่าครับ มันเร่งให้ผมหยิบของ แล้วลากผมออกจากห้อง
พอลงมาถึงด้านล่าง ผมยังคงออกฤทธิ์อยู่ครับ ไม่ยอมท่าเดียว จนมันคงจะรำคาญเหมือนกัน
“นี่ มึงอยากให้กุประกาศออกไปใช่ไหม ว่ากุเป็นผัวมึง” เท่านั้นแหละครับ ผมเงียบเลย ยืนนิ่ง ทำตามที่มันบอก
ไม่ถึง 15 นาที ก็มาถึงมหาลัย ดีที่ว่าคนน้อยครับ ไม่ค่อยมีใครสนใจใคร แล้ววันนั้นมันไม่ได้ใส่เสื้อช็อป แต่ที่นี่ไม่ค่อยไม่ใครสนใจใครหรอกครับ มันพาผมมาจอดตรงหน้าตึกช่าง ผมลงเสร็จก็เดินทันที มันก็หันมาเรียกแต่ผมไม่สนใจ เดินอย่างเดียว กดโทรหาไผ่ พอรู้ไผ่อยู่ไหนก็รีบเดินไปทันที
ผมไม่รู้หรอกน่ะว่ามันตามมาหรือเปล่า เดินเข้ามาในโรงอาหาร เห็นไผ่มันนั่งอยู่กับพี่เอ๋แล้วก็เพื่อนๆของพี่เค้า ผมอยากจะเดินหันหลังกลับ แต่มีเสียงไอ้หน้าเก็กมันพูดขึ้นมา
“กุไปรับน้องเนทมาแล้ว” มันมาไงว่ะ ในนั้นก็ยิ้มรับกันทุกคน ผมได้แต่เงียบแล้วเดินไปนั่งกับไผ่
“หิวไหมว่ะเนท” ไผ่ถาม แต่ผมส่ายหน้า
“พวกมึง กุบอกพวกมึงก่อนน่ะ น้องไผ่นี่แฟนกุ ห้ามมายุ่งนะเว้ย” เสียงพี่เอ๋ดังขึ้น เพื่อนๆ เค้าก็เฮกันเสียงดัง ผมนี่แทบอยากจะหายๆ ไปจากตรงนั้น แต่ไผ่มันนั่งอายม้วนต้วนเลย เพื่อนกุไปซะแล้ว
“มึงบอก กุก็บอกมั่ง” ไอ้หน้าเก็กไม่พูดเปล่า มานั่งติดผม “น้องเนทก็แฟนกุด้วย พวกมึงๆ ห้ามยุ่งนะเว้ย” ผมถึงกับอึ้งไปเลย คิดด่ามันในใจ ไอ้หน้าด้าน ไอ้เลว ไอ้เหี้ย ไอ้ ไอ้.... ผมอยากจะบ้า ไผ่มันก็มองหน้าผมงงๆ ไม่เอาแล้วเว้ย กุต้องลุกไปจากตรงนี้ ผมลุกพรวดทันที ไอ้ไผ่ก็ลุกตาม
“เราไปเรียนแล้วนะ” ผมพูดไม่มองหน้าใคร แล้วก็เดินจ้ำๆ รู้สึกไอ้ไผ่ก็เดินตามมา มันเข้ามาจับแขนผมแล้วก็ถาม
“ไหนบอกว่า พี่เขาแค่ไปส่งไง” ผมไม่ตอบเดินขึ้นตึกเรียนข้างๆ โรงอาหารไป มันก็ยังจะคะยั้นคะยอถามอีก จังหวะเดินผ่านชั้นที่เป็นห้องน้ำชาย ผมลากมันเข้าไปทันที
“มึงเป็นไรว่ะ แปลกๆ ที่โทรมาหากุแล้วน่ะ” ไผ่มันถามด้วยความเป็นห่วงจริงๆ ครับ
“กุเล่าให้ฟังก็ได้ แต่มึงห้ามไปเล่าให้ใครฟังน่ะ แล้วมึงต้องเล่าเรื่องมึงให้ฟังด้วย” ผมตัดสินใจเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฟัง แต่ไม่ได้บอกว่าโดนไอ้หน้าเก็กมันขืนใจ ไผ่ก็ตั้งหน้าตั้งฟังอย่างดี ผมก็ให้มันเล่าให้ฟังมั่ง สรุปคือ ไอ้พี่เอ๋มันก็จ้องไผ่อยู่นานเหมือนกัน มันรู้สึกว่ามีคนมองมัน พอมันรู้ว่าเป็นไผ่ มันก็คอยมารอไผ่ตรงโรงอาหารประจำ มันบอกว่าไอ้หน้าเก็กมันก็สนใจผมด้วย แต่มันไม่คิดว่าไอ้หน้าเก็กมันจะจู่โจมผมทันที (ที่เราคุยกันนี่ มันเลยเวลาเข้าเรียนไปแล้ว และสรุปว่าผมกับมันก็ไม่ได้เรียนวิชานั้น และลงมาคุยกันข้างล่างที่ห้องอินเตอร์เน็ตในตึกนั้น เข้าไปนั่งกันไกลๆ ไม่ได้เล่นเน็ตครับ ไปนั่งคุยกันมากกว่า)
ผมก็ไม่ทันเอ๊ะใจว่าทำไมไอ้ไผ่ถึงให้ผมมานั่งห้องเน็ต นั่งกันไปได้เกือบสองชั่วโมง จนพี่ที่คุมห้องเขาเข้ามาเหมือนจะไล่เราแล้ว แต่พี่คนนี้จะพูดจาสุภาพมาก คงเห็นหน้าไผ่มั้งครับ (ไผ่นี่มันก็มีเสน่ห์กับทุกเพศจริงๆ) พวกเราก็ลุกขึ้นเก็บของแล้วเดินออกไป ผมว่า จะชวนไผ่ไปเดินซื้อของที่ห้างใกล้ๆหน่อย แต่ไม่คิดว่ามันนัดกับพี่เอ๋ไว้ พอเห็นพวกนั้นมันเดินมา หน้าผมเปลี่ยนไปทันที
“ไผ่นัดพวกเค้าไว้เหรอ” ผมถามมันอย่างไม่พอใจ
“ก็พี่เอ๋ชวน” มันตอบเสียงอ่อยๆ มันเห็นผู้ชายสำคัญกว่าเพื่อน
“นะ เนทไปกับเรานะ ไม่อยากไปคนเดียว” เออ..เจริญนะเพื่อนกุ เด็กบริหารฯ เดินกับเด็กช่าง
ผมก็ยืนรอให้พวกนั้นเดินเข้ามา พี่เอ๋เดินมาถึงก็ยืนซะติดไอ้ไผ่เลย ส่วนไอ้หน้าเก็กมันก็มายืนอยู่ข้างๆ ผม ผมฟังพวกนั้นมันพูดอย่างเดียวว่าจะไปที่ไหน ไปยังไง นั่งรถใครไป ไม่พูดอะไรเลย จนมันตกลงว่าจะไปไหนกันนั่นแหละ
“พี่เอ๋ ผมขอนั่งรถพี่น่ะครับ” ไม่ทันที่ไอ้หน้าเก็กมันจะหันมาถาม ผมชิงพูดก่อน มันก็เงียบๆ ไม่พูดไร ผมก็พูดต่อ
“มันร้อนน่ะครับ ไม่อยากนั่งรถเมล์” จริงๆ ผมรู้ว่าไอ้หนาเก็กมันจะให้ผมซ้อนมอเตอร์ไซด์มัน ผมไม่เอาหรอก เดี๋ยวเกิดมันพาไปที่อื่นทำไงล่ะครับ
“ได้ครับ เอ้ยไอ้มีนน้องเค้าคงไม่อยากไปกับมึงว่ะ มันคงไม่ไว้ใจมึง” พวกมันพูดกันหน้าตาเฉย ไม่อายใครเลยนะมึง นี่มันหน้าตึกน่ะเฟ้ย ทุกคนก็หัวเราะ ไม่พูดอะไร ก็จัดแจงกันไปหายานพาหนะของตัวเอง แล้วตามๆ กันไป
กลุ่มพี่เค้ามีกันอยู่ 6 คน แต่ละคนก็มีรถขับกันทั้งนั้น มีพี่เอ๋คนเดียวที่ขับรถเก๋ง นอกนั้นก็มอเตอร์ไซด์ ที่ผมดูมีแต่ของไอ้หน้าเก็กมั้งครับ ที่ดูสวยเด่นแต่เพื่อน แต่ตอนนั้นไม่คิดอยากจะนั่งรถมันหรอกครับ

เหตุการณ์ที่ทำให้ผมปวดหัวก็มาอีกแล้วครับ
พอมาถึงห้างพวกนั้นก็อยากทำนู้นทำนี่ อยากกินนู้นกินนี่ ผมกับไผ่ก็ได้แต่เงียบไว้ก่อน พอเดินผ่านแม๊คฯ ผมสะกิดไผ่ แล้วพูดเสียงดังๆ
“ไผ่อยากกินแม๊คฯเหรอ เราก็อยากกินนะ ไม่ได้กินนานแล้ว” แล้วพี่เอ๋ก็รีบแถๆ เข้ามาทันที
“น้องไผ่อยากกินเหรอครับ เดี๋ยวพวกพี่เลี้ยงนะครับ” พวกเพี่อนๆ พี่เอ๋ก็เฮกันใหญ่ เหมือนจะได้กินของฟรี แต่พี่เขารีบพูดขึ้นมาก่อน
“เฮ้ย กุเลี้ยงแต่แฟนกุเว้ย พวกมึงจ่ายกันเอง ไอ้มีน มึงก็เลี้ยงแต่มึงนะเว้ย พวกเปรตๆ ที่ยืนอยู่ไม่ต้อง” พวกเพื่อนพี่เค้าก็โห่กันใหญ่ ผมไม่รอช้ารีบจูงมือไผ่เข้าไปในร้าน พวกเพื่อนๆ เค้าก็ไปหาที่นั่งก่อน ไม่อยากบอกเลยว่า เหมือนพาลิงออกมาเที่ยวไงไม่รู้ เสียงดังชริหายเลย พี่เอ๋กับไอ้หน้าเก๋กก็เดินตามผมกับไผ่มาที่เคาร์เตอร์ ผมจำไม่ได้หรอกว่าสั่งอะไรบ้าง แต่ก็หมดไปหลายร้อย ไม่เป็นไร ถือว่าลาภปาก อิ่มจังตังค์อยู่ครบ
พอมาถึงโต๊ะ ผมกับไผ่ก็นั่งกินโดยมีไอ้สองพี่เด็กช่างนั่งประกบผมกับไผ่ ผมไม่สนใจกินอย่างเดียว ส่วนไผ่กับพี่เอ๋โครตจะสวีทกันเลย ส่วนผมไม่สนครับ กินอย่างเดียว จนมันหันมาถาม
“ไม่ป้อนหน่อยเหรอ”
“ไม่ เราหิว” ตอบไร้อารมณ์มาก
“เมียกุ ไม่โรแมนติกเลยเว้ย” ผมหันกลับไปทันที
“มีมือก็หยิบเองสิ นั่นไงเฟรนฟราย” มันกวนมา ผมก็กวนกลับ ไม่พอครับ ผมหยิบเฟรนฟรายใส่ปากตัวเองไปคำนึง กะจะหยิบอีกคำ มันก็จับมือผมเพื่อจะเอาเฟรนฟรายไปใส่ปากมันแทน มันทำไปยิ้มไป แค่นั้นล่ะครับเสียงโห่กันใหญ่เลย
“อิจฉาคนมีความรักว่ะ” มีพี่คนนึง ชื่อไก่ครับ หันมาพูดแซว ผมชักมือกลับทันที
“พวกมึงเงียบไปไปเลย น้องเค้าอายแล้วนะเว้ย” ไอ้หน้าเก็กมันพูดขึ้น ผมก็ได้แต่นั่งดูดน้ำไปล่ะครับ
“น้องไผ่ดูหนังกันไหมครับ” พี่เอ๋ถามไอ้ไผ่ แล้วหันหน้าไปมองเพื่อนๆ เพื่อนแกบางคนก็บอกว่า ไม่เอาไม่มีตังค์ สรุปเลยนะครับ มีผมกับไผ่ พี่เอ๋ ไอ้หน้าเก็กกับพี่ไก่ดูหนังกัน ส่วนคนอื่นกลับบ้าน
ก็อย่างว่า จำไม่ได้ว่าดูเรื่องอะไร เพราะทั้งเรื่องผมไม่สมาธิจะดู ผมให้ไอ้ไผ่มันเลือกครับ ไอ้นี่มันคงไม่ดูหนังสู้รบกันเลือดสาดหรอกครับ แต่ผมไม่สนใจครับ ก่อนเข้ามาโรงหนัง ผมก็ขอซื้อน้ำ ซื้อข้าวโพดมาไว้ก่อน (ซื้อมางั้นๆ แหละครับ เอาไว้กันหมาครับ)
“ไผ่ซื้อของเข้าไปกินน่ะ” ผมพูดขึ้น แต่ดูท่าไอ้ไผ่มันจะปฏิเสธ แต่พี่เอ๋ยืนตังค์ ผมก็ซื้อครับ

“รับชุดไหนดีครับ” คนขายมันถามขึ้น หน้าตาก็ดีซะด้วย และผมก็อยากจะรู้จริงๆ ว่าคนขายมันรับแต่คนหน้าตาดีๆ มาขายข้าวโพดเหรอครับ แต่ผมก็ยิ้มให้ เพราะผมนึกถึงคำพูดมันเมื่อวานแล้วแค้นครับ สักหน่อยดีกว่า
“ครับ ผมอยากได้ชุดนี้กับชุดนี้ เอาโค้กแก้วใหญ่นะครับ” พูดจบผมก็ยิ้ม ส่วนไอ้ไผ่ก็ยืนดูเมนูในกระดาษอยู่
“ครับ เอาแบบเค็ม หรือแบบหวานครับ” คนขายถาม ผมก็ทำเป็นมองตู้ข้าวโพด
“เอาผสมกันได้มั้ย” ถามแล้วก็ยิ้มอีก ยิ้มหวานๆ เลย คนขายรับคำ แล้วยิ้มตอบ ดีมากคุณคนขาย
ผมรับเอาข้าวโพดมาสองชุด แล้วยื่นเงินจ่ายตังค์ ไอ้ไผ่ก็ไม่สนใจผมเลย หยิบได้ก็รีบเอาไปให้พี่เอ๋ทันที ผมก็ยืนรอเงินทอน แล้วอยู่ๆ คนขายก็ถามขึ้น
“พี่เรียนที่มหาลัย... นี้เหรอครับ” ถามมาผมก็ตอบไป
“ครับ” ผมยิ้มให้อีก จังหวะที่คนขายจะอ้าปากถามอีก ไอ้หน้าเก็กก็เข้ามาหยิบข้าวโพดและน้ำจากมือผมไป คนขายมันก็เลยก้มหน้างุดๆ ทันที พอผมหันไป หน้าไอ้เก็กเหมือนมันจะกินเลือดกินเนื้อคนขายให้ได้ แล้วมันก็ดันผมออกจากตรงนั้น แล้วพูดที่ข้างหูผม
“เผลอหน่อยไม่ได้ ยิ้มล่อผู้ชายเลยน่ะ” ผมหันควับทันที
“ไอ้....” ยังไม่ทันดา มันก็ดันผมเดินไปตรงโรงหนังแล้ว มันทำตัวติดกับผมมาก พอเข้าไปในโรงหนังมันก็มืดๆ เดินๆ ตามกันไป นั่งแถวๆ ตรงกลางได้ ผมงี้อยากจะนั่งริมๆ แต่ไม่รู้ใครมันซื้อตั๋ว ผมก็ลืมเรื่องตรงนี้ไปซะสนิท สรุปว่า พี่เอ๋เดินเข้าไปก่อน แล้วก็ไผ่ ผม ไอ้หน้าเก็ก พี่ไก่ ไม่ต้องพูดถึง 2 คนข้างผม สวีทกันอีกตามเคย ส่วนผมนั่ง โดยเอาแก้วน้ำกับถุงข้าวโพดกั้นไว้ พอเริ่มดูหนังกันไปเรื่อยๆ ไอ้หน้าเก็กมันก็หยิบน้ำหยิบถุงข้าวโพดไปวางตรงที่พี่ไก่นั่ง ผมคว้าไว้ไม่ทัน เหมือนมันจะรู้ มันจับมือผมแน่น ผมก็ยื้อไว้ มันก็ยิ่งบีบมือผมแน่น ช่างมันแล้วเว้ย มันเอามือผมไปวางบนตักมัน แล้วมันก็ลูบมือผมอยู่นั่นแหละ ดูหนังไปแรกๆ ก็มีสมาธิดี แต่หลังๆเริ่มไม่ไหวครับ ผมรำคาญ ก็ดึงมือกลับ แต่มันไม่ยอมปล่อย มือมันก็เลยมาอยู่บนตักผมแทน คราวนี้มันสอดมือมันมาที่มือผม ผมหยิบหนังสือมาปิดตรงตัก กะจะให้โดนมือมัน แต่มันก็ไม่ยอมปล่อย พอมันปล่อยมันก็เอามือมันมาลูบขาผมแทน ผมสะดุ้งเลย หันไปหามัน มันก็ยิ้มแล้วทำมือจุ๊ๆ ผมอยากตบหน้ามันมากครับ แต่ผมไม่ทำ ผมหยิกมือมันแทน มันสะดุ้งหันมามองหน้าผม ผมก็ลอยหน้าใส่มันเลย คราวนี้มันเล่นหนักกว่าเดิม ไม่อายใครเลยแต่ผมอาย มันดึงพนักพิงขึ้น แล้วเขยิบตัวเข้ามาหาผม เอามือมาสอดเอวผม ผมดิ้นไม่ได้เลยครับ เพิ่งรู้ว่ามันแรงเยอะมาก ไผ่มันก็หันมามองผมแล้วยิ้มให้ แต่ผมยิ้มไม่ออกครับ ผมได้แต่นั่งนิ่งๆ สักพักผมก็หันไปกระซิบข้างๆหูมัน มันก็เอียงมาให้ผมพูด
“ไอ้ลามก ไอ้ตัณหากลับ ไอ้บ้า” มันมองหน้าผมนิ่งๆ แล้วยิ้มให้ หันมากระซิบเหมือนกัน
“เหรอจ๊ะ เมีย” ผมนิ่งเลยครับ ไม่พูดอะไร เปลี่ยนมาหยิกตรงท้องมันแทน มันสะดุ้งทีนึง แล้วมาจับมือผมไว้แน่นอีกแล้ว ยิ่งผมแกล้งมัน ผมยิ่งขยับไปไหนไม่ได้ จนสุดท้ายผมก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดมันเฉย ถือว่าครั้งนี้มึงชนะไอ้หน้าเก็ก
พอหนังจบผมรีบลุกทันที กุไม่อยู่แล้วกุจะกลับ เหมือนไผ่มันจะรู้รีบเดินมาห้ามผม
“เราจะกลับแล้วนะ นายกลับกับพี่เอ๋เถอะ” ผมหันมาบอกมันด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดี
“กลับด้วยกันสิ” พี่เอ๋พูดขึ้นบ้าง (ผมอยากบอกว่า พี่เอ๋เขาสุภาพบุรุษจริง แล้วก็สุภาพจนได้เรื่องเลยครับ แต่เดี๋ยวผมค่อยเราให้ฟังทีหลังว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่เอ๋และไผ่)
“เดี๋ยวกุไปส่งเอง” ไอ้หน้าเก็กมันเข้ามาโอบไหล่ผม ผมได้แต่ยืนงงๆ “แล้วเจอกันพรุ่งนี้” มันพูดจบก็ลากผมออกมาทันที พอมาถึงที่จอดรถ ผมสะบัดมันอย่างแรง คราวนี้มันหันมาพูดกับผม
“จะเรื่องมากไปถึงไหน พามาเดทแล้วยังไม่ชอบอีก” ผมอยากตบปากมันรอบที่ร้อยจริงๆ
“ใครอยากมากับนาย” พูดจบผมก็หันหลังให้มัน พอจะก้าวเดินมันดึงผมอย่างแรง แล้วลากไปหลบอยู่ตรงบันไดข้างๆ ผมตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก แต่ต้องไปตามแรงมันดึง เท่านั้นแหละครับ มันก้มลงมาจูบปากผม ตัวผมสั่นทันที แล้วผลักมันออก
“ไอ้เหี้ย มึงทำกุอีกแล้วนะ” ผมโมโหหน้าแดงมาก
“หุบปากไปเลย จะกลับไม่ใช่เหรอ กุจะไปส่ง” มันเสียงดังใส่ผม ผมก็ยิ่งโมโห
“ไม่ต้อง กุกลับเองได้”
“มึงจะกลับดีๆ หรือมึงอยากเล่นหนังสดแถวนี้” ผมชะงักไปเลย ขนาดในโรงหนังมันทำได้ ตรงนี้มันต้องทำได้
“กุมีเรื่องจะคุยกับมึง คุยกันดีๆ ไม่ได้หรือไง” มันลดเสียงพูดเป็นปกติ ผมก็ได้แต่เงียบ ก็ได้ว่ะ คุยกันให้รู้เรื่องไปเลย
“ก็ได้” ผมตอบและเดินตามมันไป พอขึ้นซ้อนท้ายรถมันได้ มันขับเร็วมาก จนผมต้องกอดมันไว้ มันตั้งใจครับ ไอ้เลวนี่

พอถึงที่ ผมก็เดินๆ ไม่สนใจมัน มันจอดรถกับที่แล้วเดินตามผมเร็วจริงๆ แล้วลิฟท์มันก็เป็นใจจริงๆ ไม่มีคนเล๊ย ผมยังไม่ทันกดชั้นมันรีบกดทันที แล้วมายืนเบียดผมพอผ่านไป 2 ชั้น มันเข้ามาโอบเอวผมเลย เอาแล้วสิ กุจะโดนอะไรไหม ... พอลิฟท์เปิด มันจูงมือผมทันที พอยืนอยู่หน้าห้อง มันหยิบอะไรไม่รู้ในกระเป๋ากางเกงมัน ส่วนผมก็หยิบกุญแจขึ้นมา ไม่ทันจะหยิบขึ้นมา มันเอาของที่อยู่ในมือมันไขห้องผม! มันเอากุญแจมาจากไหน ผมได้แต่มองมันงงๆ แล้วมันก็ผลักผมเข้าห้อง ได้ยินเสียงล็อกห้องลงโซ่ พอหันไป มันดันตัวผมลงบนที่นอน ผมก็เอามือป้องซ้ายป้องขวา หลบหน้าไปทางซ้ายทางขวา มันก็ยิ่งกอดผมแน่น
“กุอยากกอดมึง อยู่นิ่งๆสิว่ะ” ใครจะยอมเล่า ไอ้เหี้ยนี่
“ปล่อยเว้ย” ผมก็ร้องออกไปครับ มันหยุด ไม่ถึงอึดใจ มันรวบแขนผมไว้ด้วยมือข้างเดียวของมันเข้าหาตัวมัน มืออีกข้างจับคางผมไว้ แล้วมันก็จูบผม ผมเม้มปากปิด มันก็บีบคางผมจนปากผมเผยอออก ลิ้นมันสอดเข้ามา ตัวผมเริ่มชาขึ้นมาแล้ว มันทั้งดูดทั้งดึงลิ้นผม เรี่ยวแรงผมหายไปทันที มือมันปล่อยคางผมแล้วมาลูบที่ต้นคอผมแทน
“ฟังกุหน่อย” มันหยุดจูบ มองหน้าผมแทน
“เรื่องเมื่อวานกุขอโทษ แต่กุตั้งใจ” ไอ้เหี้ยนี่ งั้นไม่ต้องพูดก็ได้ถ้ามึงตั้งใจ ผมได้แต่เม้มปาก
“กุจะทำให้มึงชอบกุให้ได้ เพราะกุชอบมึง เข้าใจไหม” ผมไม่ตอบ มันคลายมือที่จับมือผมไว้แน่น แล้วเอามือมันสองข้างมาลูบหัวลูบหน้าผม จูบหน้าผากผม ตอนนั้นผมพูดไม่ออก ในหัวมันโหวงๆ ไงไม่รู้ แต่รู้สึกสงบลงมาก
“เราเป็นผู้ชายนะ” คำแรกที่พูดออกไป พูดเพราะซะด้วย
“ช่างปะไร กุชอบมึงแบบนี้แหละ กุจะถามอีกคำถาม ‘จะคบกับผมได้ไหมครับ’ ” ผมอึ้งไปเลย มันพูดสุภาพกับผม
“.........” รู้ได้ว่าผมเงียบไปหลายนาที
“ว่าไง คบกับผมไหมครับ” อย่ามาสุภาพกับกุนะ เดี๋ยวกุใจอ่อน
“ผมชอบเนทครับ คบกับผมน่ะ” แค่นั้นล่ะครับ กำแพงที่สร้างไว้ต่อต้านมันล้มลงทันที ผมยิ้มออกไปได้ไงไม่รู้ พอมันเห็นผมยิ้ม มันก็จูบหน้าผากผมอีก
“ถ้ากุจะเอามึง กุจะขอก่อน” แล้วไงเนี่ยมึงกลับมาในโหมดเด็กช่างได้ไง
“ไอ้ลามก” เรื่องด่านี่ผมไวนัก มันก็ยิ้มให้ผมอีก
“งั้นวันนี้กุขอเอามึงนะ” เหมือนเพิ่งได้สติ พอคิดจะลุกออกจากใต้ตัวมัน แต่สายไปแล้วครับ มันล็อกผมไว้แล้ว
“วันนี้กุจะทำเบาๆ มึงจะได้รู้ว่ากุชอบมึง” ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นอะไร มันพูดอะไรผมก็ไม่ขัดขืน สรุปคือ ผมกับมันก็มีอะไรกันอีก แต่คราวนี้ ผมกลับรู้สึกดีไปด้วย มันเก่งครับ แต่เหมือนในใจผมยังรู้สึกขัดแย้งกันอยู่ดี
.
.
.
ตอนหน้า ผมจะเล่าตอนที่ผมกับไอ้หน้าเก็กคบกันแล้วนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






inimeg

  • บุคคลทั่วไป
เหมยเพื่อนสาวจ๊ะ

จิบไวน์ถั่วแดงเหรอจ๊ะ
หุๆ

ต๊อบกินไวน์ถั่วดำจ่ะ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
มันโคตร เถื่อน เร้าใจ
หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
 :impress2: :impress2: :impress2:

bass

  • บุคคลทั่วไป
เอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :haun5: :haun5: :haun5: :haun5: :haun5:


ได้ใจจริงจริ๊ง


ไอ้หน้าเก๊ก


 :haun5: :haun5: :haun5: :haun5:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
 :haun1:

หุหุหุ ...

คนอ่านหัวใจจะ Y ค่ะ

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
 :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6: :like6:

มันส์อีกตามเคย ไม่ต้องถามก็ให้รู้ไว้เลยว่า อยากอ่านต่อ


กรี๊ดดดดดดดดดดดด ให้มีน ทีนึง

 :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:

ปล. ละเลียดเนื้อนุ่มของเสต็กภายในปาก พลางจิบไวน์จากฝรั่งเศส..............กรี๊ด ชอบมุขนี้อีกแระ (มุขไรของแกวะ แสรด) :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
อีกไม่นาน...รักแน่  :o9: :o9:

ปล.กระแซะๆ รีฯบน กะลังหิวพอดีเลย ขอกินเสต๊กสักคำสองคำจิ :impress:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ มาแนวเถื่อน ๆ แบบนี้   :haun5:  :haun5:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
อ๊าก เถื่อนได้ใจ  :impress2:



inimeg

  • บุคคลทั่วไป
พี่ตัวกลม....

แบ่งๆ คนอ่านมาทางต๊อบบ้างจิคับ หุๆ พึ่งลงเองง่า จะแซงแล้ว....

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
^
^
^
อย่ากระนั้นเลยน้องกระต๊อบ
พี่ตามทวงเรื่องของน้องเช้าเย็น
ไม่เห็นมาต่อสักที
งอนจนหายงอนแล้วเนี่ย
 :o11: :o11: :o11: :o11: :o11:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1

ออฟไลน์ สาวตัวกลม

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
2. ระหว่างที่ผมกับมันคบกัน

ผมตื่นขึ้นมาอีกวัน เป็นวันเสาร์ผมไม่มีเรียน ก็ว่าจะตื่นสายสักหน่อย แต่... พอมองไปรอบห้อง เริ่มนึกถึงเรื่องเมื่อวาน ผมหันมาทางขวา ก็เห็นใครคนนึงนอนอยู่ข้างๆ ผม ผมลุกพรวดเลยครับ พอเห็นว่าเป็นใครผมตั้งสติก่อน ผมไม่เคยนอนกับใคร พอนึกว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น แล้วผมต้องมานอนกับผู้ชายแล้ว ผมทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ครับ
พอลุกขึ้นยืนได้ โอ๊ยยยยย ผมเจ็บมากครับ โดนมันทำติดๆ กันสองครั้ง ใครทนได้ก็บ้าแล้ว ผมก็แข็งใจเดินเข้าห้องน้ำ น้ำจากฝักบัวรดบนตัวผม รู้ตัวเลยว่าผมไม่สบายแน่ๆ ตัวมันร้อนไปหมด แล้วมันก็มีบางอย่างออกมาจากก้นผม แต่คราวนี้มันเจ็บครับ ไม่เท่านั้นสิครับ มีเลือดไหลออกมาด้วย ผมตกใจมาก! นี่ผมเป็นอะไร อารมณ์นั้นมันโมโหครับ ไอ้หน้าเก็กมันจะฆ่าผมให้ตายใช่ไหมเนี่ย ผมคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันตัว เดินไปถึงตัวมัน ก็ลากมันตกเตียงเลย มันคงงงครับ
“ทำไรว่ะ” มันลุกขึ้นงัวเงีย นั่งตรงขอบเตียง
“ไอ้เหี้ย ตื่น! ออกจากห้องกุได้แล้ว” ผมไล่มันครับ
“ตื่นถึงก็บ้าเลยน่ะ” มันยังมีหน้ามาถามผมอีก
“ออกไปเลย” ผมก้มลงเก็บเสื้อผ้า แล้วโยนใส่ตัวมัน มันงงครับ
“เฮ้ย มาไล่ผัวได้ไง” มันเอามือป้อง แต่ปากมันสิครับ
“ใคร ไอ้เหี้ย ออกไปเลย” ผมก็โยนกางเกงที่กองตรงพื้นใส่มัน มันเข้ามาดึงมือผมไว้
“เฮ้ย ตั้งสติก่อนสิว่ะ กุทำอะไรให้มึงอีก” มันดึงผมเข้าไปกอด
“ยังจะถาม มึงทำกุเจ็บ มึงจะฆ่ากุหรือไง ไอ้เหี้ย” ไม่อยากบอกเลยครับ ว่าสัตว์เลื้อยคลานพันธุ์นี้ คลานเต็มห้องผมเลย T_T
“อะไรมึงว่ะ ตื่นถึงก็อาละวาด” มันตะคอกใส่ผม ผมถึงกับสะดุ้ง น้ำตาคลอเลย
“เฮ้ย! ตัวร้อนๆ เป็นไข้เหรอ” มันเอามือมาจับหน้าผม แค่นั้นล่ะครับน้ำตาผมก็ไหลออกมาเอง
“ก็เออสิ” คำแรกผมยังเสียงดังใส่ แต่อีกคำ “เจ็บ...ก้น...” ผมก้มหน้างุดๆ บอกมันไม่เต็มเสียงเท่าไหร่
“แล้วทำไมไม่บอกดีๆ กุบอกแล้วไงว่า กุรับผิดชอบตัวมึง” มันพูดแล้วก็ดึงตัวผมให้นอนลง ผมก็ทำตามครับ
“นอนอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวไปซื้อยาให้ หรือจะไปหาหมอ” ผมส่ายหน้า เป็นความหมายว่าไม่ไปครับ มันรีบใส่เสื้อผ้า แล้วไปเปิดตู้เสื้อผ้าผม ดึงเสื้อยืดมาให้ผมใส่
ประมาณ 15 นาทีได้ มันก็กลับขึ้นมา ท่าทางมันจะหอบนะครับ เหงื่อเต็มตัวเลย มาถึงก็หยิบยา หยิบน้ำมาให้ผม
“กินยาก่อนล่ะกัน แล้วค่อยกินโจ๊ก กุเห็นมันขายอยู่หน้าปากซอย ก็เลยซื้อมาให้” ผมพูดไม่ออกครับ ทำตามมันบอกอีกแล้ว มันจะป้อนข้าวให้ผมด้วย แต่ผมไม่เอา (ยกเว้นแม่ผมแล้ว ไม่มีใครทำแบบนี้ให้ผมหรอก แต่จริงๆผมเขินครับ) ผมก็ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียวไม่มองมันเลย
“นี่กุได้เมียดื้อเหรอว่ะเนี่ย แถมยังขี้น้อยใจอีก” ผมเงยหน้าจ้องมัน “แถมยังดุอีก” มันพูดแล้วก็หัวเราะ ผมยื่นโจ๊กกลับไปให้มัน
“หิวน้ำ” ผมพูด ไอ้หน้าเก็กก็รีบไปหยิบมาให้ กินเสร็จผมก็ล้มตัวลงนอนทันที ไม่อยากมองหน้ามัน ผมรู้สึกว่าเตียงมันเด่งขึ้น และได้ยินเสียงประตูห้องน้ำ มันคงจะอาบน้ำสินะ ดี! อาบๆ แล้วกลับไปเลย ผมทำท่าจะหลับเพราะฤทธิ์ยา ไอ้หน้าเก็กมันก็ลงมานอนกอดผมเฉยเลย
“เราจะนอน นายกลับไปเถอะ” ผมพูดทั้งๆ ที่หลับตา มันก็ยิ่งเขยิบเข้ามากอดผม
“นอนไป ไม่สบายแล้วจะอยู่คนเดียวได้ไง กุอยู่เป็นเพื่อน” มันไม่พูดเปล่า ก้มลงมาหอมแก้มผม บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นไม่มีแรงจะต้านมัน ง่วงนอนมากกว่า ผมนอนหลับไปจนถึงเย็น รู้สึกตัวอีกที เห็นมันนั่งอยู่หน้าทีวีแล้ว ผมลุกขึ้นมานั่งถามมัน
“ยังไม่กลับอีกเหรอ” มันหันมามอง แล้วลุกขึ้นไปตรงตู้เย็น มันเดินกลับมาพร้อมจานข้าวที่อยู่ในมือ แล้วยื่นให้ ผมงงครับ แต่ก็รับมาโดยดี
“กินซะ แล้วก็กินยา” มันมานั่งใกล้ๆ แล้วเอามือมันมาจับๆหน้าผม ตอนนั้นผมอยากบอกว่า ผมประทับใจไอ้หน้าเก็กมาก ผมรู้สึกดีกับมันขึ้นมาบ้าง แต่ผมก็คิดว่า มันทำผม มันก็ต้องรับผิดชอบ

สรุปคือวันเสาร์-อาทิตย์มันอยู่กับผมทั้งวัน แล้วมันจะอยู่วันจันทร์อีกวัน แต่ผมไล่มันกลับ มันไม่ยอมท่าเดียว พอบ่ายๆ มันก็ออกไป แล้วเข้ามาหาผมอีกทีตอนเย็น แต่มันไม่ได้เข้ามาตัวเปล่า มันหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้า และก็เกมส์เพลย์ ผมคิดในใจว่า มันต้องมีเรื่องปวดหัวมาให้ผมอีกแน่ และเป็นจริงอย่างที่คิด
“กุจะมาอยู่กับมึงสักพัก พอดีไอ้เอ๋มันขอมาอยู่ที่ห้อง” ไม่พูดเปล่าว่างกระเป๋า วางของเสร็จ ก็เดินมากอดผมอีก (ไอ้หน้าเก็กนี่มันก็บ้า เจอผมทีไรเข้ามากอดทุกที จนตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องที่ต้องทำทุกครั้ง และทำจนเป็นปกติไปแล้ว)
“แล้วไง” ผมถาม จะสะบัดตัวหนี มันก็ยิ่งกอดแน่น
“ถือว่าช่วยมันเถอะ มันชอบเด็กมันมาก มันไม่ได้อยู่หอแบบเรา” ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรไอ้ไผ่มันก็เพื่อนผม ก็ได้ว่ะ แต่ยังไงผมต้องโทรไปคุยกับมันเหมือนกัน เป็นห่วงมัน
“อืม จะมาอยู่กี่วันล่ะ”
“ก็เรื่อยๆ” มันยิ้มให้ผมอีกแหละ ถึงปฏิเสธยังไงมันก็คงไม่ไป
“แต่มีข้อแม้ว่า นายต้องไม่ยุ่งกับเรา ถ้าเราไม่ยอม” ผมสั่งเด็ดขาด คราวนี้ผมไม่ยอมมันแน่
“ก็แล้วแต่เมียสิจ๊ะ” มันพูดกวนประสาทผมอีกแล้ว บอกตรงๆ ว่าผมไม่ชอบให้มันใช้คำนี้เลย
“ขออย่างได้ป่ะ คำว่า เมีย นี่ เลิกเรียกได้ไหม เรามีชื่อ”
“คร๊าบบบบ เนท” เฮ้อ... ได้แต่ปลง มันจะทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

มาถึงตอนนี้ ชีวิตผมก็ตัวติดกับมันตลอด จนพี่เอ๋ยังแซวเลย พี่เอ๋เล่าให้ไผ่ฟังว่า ไม่เคยเห็นมันเป็นขนาดนี้ มันมีผู้หญิงมาจีบมันเยอะ มันก็เอาๆ ไปงั้นๆ แต่พอมาเจอผมมันหยุดเลย มาเรียนทุกวัน ท่าทางจะรักจริงหวังแต่ง ผมนี่คันหูชะมัด อยากจะเชื่อตายล่ะ เดี๋ยวมันเบื่อผมก็ไปเองแหละ ตอนนั้นผมยังใจแข็งอยู่ครับ(แต่จะได้นานแค่ไหนล่ะครับ ต้องติดตาม)

ผมนั่งเล่นกับไผ่ที่ห้องเน็ตรอพวกนั้น แล้วนี่กลายเป็นว่าผมต้องมานั่งรอแฟนตัวเองที่เป็นผู้ชายเหรอนี่ ผมก็กลัวเพื่อนๆ คนอื่นสงสัยนะครับ แต่ที่นี่มันดีอย่างคือไม่ค่อยมีใครสนใจใคร เหมือนเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติไปเลย ผมก็คุยกับไผ่ว่าอยากได้โน๊ตบุ๊ค เพราะไม่อยากมาใช้คอมฯในห้องเน็ต หรือไปใช้ที่บ้านมัน หลังๆ งานมันเยอะ ก็คุยๆ ไปเรื่อย นั่งจวนจะครบ 2 ชม. พี่คนคุมห้องก็เดินเข้ามาหาพวกเราอีกแล้ว คงจะมาไล่เราแน่ๆ เพราะผมไม่ค่อยอยากจะเล่นเน็ตเท่าไหร่ แต่กลายเป็นว่าพี่เขาเข้ามานั่งคุย
“น้องสองคนเรียนแผนกอะไรครับ” ผมกับไผ่ก็มองหน้ากัน แล้วก็ตอบเขาไป
“อยู่ปีไหนแล้วครับ” ผมก็ตอบไป
“มีเรียนวันไหนบ้างครับ” คราวนี้ผมไม่ตอบ แต่ไผ่มันตอบแทน
“แล้วเป็นคนกรุงเทพฯหรือเปล่า” ทั้งผมและไผ่เงียบครับ แต่ไผ่มันคงเห็นผมไม่ค่อยพอใจแล้ว
“เออ..พี่เรียนคอมฯเหรอครับ” ไผ่มันถามออกไป
“ครับ ..พี่ลืมแนะนำตัว พี่ชื่อติ๊กนะครับ” ผมกับไผ่ก็พยักหน้า
“เมื่อกี้ผมกับเพื่อนคุยกันเรื่องคอมฯ โน๊ตบุ๊ค ว่าจะซื้อมาใช้”
“เหรอครับ พี่แนะนำให้ได้นะครับ อยากได้แบบไหนล่ะครับ” ดูท่าทางพี่ติ๊กคนนี้จะกระตือรือร้นมาก
“ไม่รู้” ผมตอบสั้นๆ
“งั้นลองเปิดดูในเน็ตไหมครับ พี่พอจะแนะนำได้บ้าง” แล้วพี่ติ๊กก็จัดแจงเปิดๆ หาๆ ให้ดู ตอนนั้นผมก็เริ่มสนใจแล้ว เพราะอยากได้จริงๆ ฟังๆ ไปก็ได้ความรู้เยอะ ผมกับไผ่ก็เลยลืมเวลาไปเลย แล้วมือถือไผ่ก็ดังขึ้น มันรับและหันไปมองตรงหน้าต่างกระจก เห็นคุณเด็กช่างสองคน ยืนอยู่ข้างนอก (คือห้องคอมฯ นี้มองจากข้างนอกเข้ามาไม่ได้ แต่จากข้างในมองเห็นข้างนอก) พอรู้ตัวผมกับไผ่ก็ขอตัวพี่ติ๊กกลับทันที พี่เขาคงงงๆ แต่ก็ไม่ว่าอะไร
“ไผ่ทำอะไรอยู่ งานเยอะเหรอ” พี่เอ๋พุ่งคำถามออกมาทันที
“เปล่าครับ รอพี่เอ๋ แต่พอดีพวกเรากำลังคุยกันเรื่องโน๊ตบุ๊คกับพี่ที่คุมห้องเน็ต” ไผ่มันซื่อจริงๆ
“ผมอยากได้ ก็เลยปรึกษาพี่เขา” คราวนี้ไอ้หน้าเก็กมันก็หันมามองผม ช่างจังหวะมันเหมาะเจาะจริงๆ ไอ้คุณพี่ติ๊กก็เดินออกมาพอดี
“น้องเนทครับ” แถมยังมาเรียกผมอีก “นี่เบอร์พี่ครับ ถ้าอยากรู้เรื่องคอมฯ ก็ถามพี่ได้ครับ ยินดีเป็นที่ปรีกษา” เอาแล้วไง ดันมาตอนที่ไอ้หน้าเก็กอยู่อีก ผมต้องโดนมันเหน็บใส่แน่ ( แค่ผมคุยกับเพื่อนผู้หญิงในห้องมันยังพูดกระแทกผมเลย)
“ขอบคุณครับ” ผมรับมาแล้วก็สอดใส่กระเป๋าเสื้อ พี่ติ๊กก็เดินกลับเข้าห้องไป พวกผมก็เดินไปทางตึกช่าง เพราะรถทั้งสองคนจอดอยู่แถวๆ นั้น ตลอดทางเดินไอ้หน้าเก็กมันไม่พูดกับผมเลย ผมก็ไม่พูด วันนี้ผมไม่อยากไปไหน อยากกลับห้องไปนั่งทำการบ้านให้เสร็จ จึงแยกกับไผ่ตรงประตู ผมซ้อนมอเตอร์ไซด์ไอ้หน้าเก็กกลับห้อง ก็อยากจะบอกว่าคนแถวนั้นเริ่มสนใจพวกเราสองคนแล้ว แต่ผมก็ไม่พูด ไม่คุยกับใคร อยากพูดอะไรก็พูดไป เพราะผมเป็นคนไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านอยู่แล้ว
พอถึงห้องไอ้หน้าเก็กมันก็ออกอาการเลยครับ
“เอากระดาษที่ไอ้หน้าตี๋ให้มาเด่ะ” มันขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เป็นอะไรอีก เขาให้เราน่ะ”
“ก็นั่นแหละ เอามา.. กุไม่ชอบหน้ามัน” อะไรของแม่งว่ะ กุต้องทำตามที่มันพูดหรือไง
“ไม่ให้ เขาให้เราจะทิ้งได้ไง” ผมปฏิเสธมันเสียงแข็ง
“นี่มึง อยากติดต่อกับมันใช่ไหม” มันเดินเข้ามาแล้วเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อผม
“นี่! มากไปแล้วนะ เราจะเป็นเพื่อนใคร แล้วนายมาเกี่ยวอะไรด้วย” ผมก็ชักจะโมโหขึ้นมาแล้ว แต่มันก็หยิบไปจนได้ แล้วมันก็ฉีกทิ้งโยนออกไปนอกระเบียง
“ทิ้งก็ทิ้งไป เราเมมไว้ในเครื่องแล้ว” ผมพูดกวนใส่มันเลย ไม่ได้เมมไว้หรอกครับ จริงๆ รับมาก็ว่าจะทิ้งเหมือนกัน
“มึงถึงขนาดเมมไว้เลยเหรอ เอามือถือมา” มันเดินเข้ามาจะเอามือถือที่อยู่ในกางเกงผม
“ไม่ให้ มึงเกินไปแล้ว เรื่องของกู” ผมยื้อมันไว้ ถ้าบอกไม่ยอม ผมก็ไม่ยอมครับ
“นี่อยากได้มันเป็นผัวอีกคนล่ะสิ” ปากมันหมามากเลยครับ คิดแต่เรื่องอกุศล ผมผลักมันเต็มแรง มันก็วิ่งเข้ามาหาอีก คราวนี้ผมกระโดดขึ้นเตียงทันที มันวิ่งวนอยู่รอบเตียง ผมก็วิ่งไปอีกทาง
“แน่นะมึง วันนี้กูเอามึงแน่” ได้ยินคำนั้นผมหยุด มันก็หยุด ผมเขวี้ยงมือถือใส่มันเลย อยากได้ใช่ไหมเอาไปเลย มันรับได้ โป๊ก!!! แต่หน้ามันเสือกไปชนกับสันกำแพงเต็มๆ มันร้อนโอ๊ยเลย พอมันหันมา ผมตกใจ! หน้าผากมันเลือดไหล ผมรีบเข้าไปดูมันทันที
“เราขอโทษ ไปหาหมอเถอะ” ผมเอาเท็ทชู่เช็ดตรงหน้าผาก แต่เลือดมันไม่หยุดไหล
“ไม่ต้อง แผลแค่นี้” มันเสียงดังใส่ผม ผมยิ่งตกใจ รีบไปหยิบยาและพลาสเตอร์ตรงโต๊ะมา กำลังจะเช็ดให้มัน มันทำเป็นหลบๆ แต่ผมก็จับหน้ามันหันมา แล้วเอากระดาษเท็ทชู่ชุบยา ทาลงไปตรงที่เลือดมันไหล มันสะดุ้ง แต่ก็ให้ผมทา แล้วมันก็หยิบมือถือกดๆ ดู พอรู้ว่าไม่มีมันก็ยิ้ม
“เดี๋ยวนี้กวนตีนหนักขึ้นน่ะ” มันเงยหน้าขึ้นมาคุยกับผม
“แล้วใครกวนตีนก่อนล่ะ” ผมดึงพลาสเตอร์แปะหัวมันไปสองอัน แปะเข้าไปแรงๆ จนหน้ามันหงาย
“เมื่อไหร่มึงจะเลือกยั่วโมโหกูสักที” มันเริ่มอีกแล้วครับ
“กุไปยั่วโมโหมึงตรงไหน มึงบ้าของมึงเอง” ผมก็ย้อนเข้าให้สิ
“กุบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าอย่าคุยกับใครนอกจากไอ้ไผ่” มันเป็นพ่อผมหรือไง ถึงได้สั่งๆ
“จะไม่ให้กุมีเพื่อนเลยเหรอ” ผมชักจะรำคาญมันแล้ว
“กุหมายถึงไม่ให้มึงไปมั่วกับใคร”
“นี่! สมองจะคิดแต่เรื่องเหี้ยๆ หรือไง” ตอนนี้ผมขึ้นมั่ง “คนที่มั่วน่ะมึง” ผมย้อนมั่ง
“เฮ้ย... มึงด่ากุเหรอ” กุไม่ยอมแล้ว วันนี้จะด่าให้เจ็บเลย
“เออ... อย่างมึงน่ะ ดีนักเหรอ ได้ข่าวว่า เอาคนเขาไปทั่ว คลำๆ ไม่มีหางก็เอาหมด” ตอนนั้นไม่รู้คิดไงถึงด่ามันแรงมาก
“ใครบอกมึง” มันหันมาถามเสียงดังๆ กับผม
“ไม่ต้องใครบอกหรอก กูดูก็รู้ คนอย่างมึงน่ะ ตัณหาจัด เอาๆ ไปทั่ว ติดโรคมามั่งหรือเปล่าก็ไม่รู้” ผมยังคงลอยหน้าลอยตาด่ามันต่อ แต่มันไม่เถียงผมสักคำ
“เออ... กุผิดเอง นั่นมันก่อนที่จะเจอมึงเว้ย ไอ้เหี้ยเอ๋มันต้องเล่าให้มึงฟังแน่ ไว้พรุ่งนี้ก่อนมันโดนกุตบปากแน่”
“ไอ้สันดาน” ผมยังทิ้งทวนด่ามันไปอีกคำ แค่นั้นแหละครับ มันดันผมลงบนเตียง
“ปากดีจริงน่ะ เมียกุ จะดูว่าตอนเอามึงจะปากดีกว่านี้ไหม” มันยิ้ม แล้วปากมันก็มาโดนปากผม มันดูดปากผมจะให้ผมเผยอปากออกให้ได้ อีกมือมันก็ดึงเสื้อผมออก ผมไม่ยอมเอามือทุบตัวมัน มันกลับมาคว้าข้อมือทั้งสองข้างของผมแทน มันเปลี่ยนมาดูดตรงคอแทน กัดคอผมจนคิดว่ามันต้องแดงแน่ๆ
“ไม่เอา นี่มันยังกลางวันอยู่น่ะ” ผมลองพูดเผื่อมันจะหยุด แล้วมันก็หยุดจริงๆ มันเดินลุกขึ้นไปเปิดแอร์ แล้วก็ปิดม่านตรงระเบียง แล้วมือมันก็แกะกระดุมเสื้อของมันออก ผมมองมันครับ คราวนี้รู้ตัวว่าผมลุกมานั่งตั้งใจมองมันจริงๆ มันหุ่นดีมากครับ ตอนนี้บอกตรงๆ ว่าผมชอบหุ่นมัน ขามันยาวมาก พอเห็นแผงอก เออ.. ผมใจเต้นเลยครับ มันเดินเข้ามาหาผม แล้วมาแกะกระดุมผม ก้มลงจูบผมอีกครั้ง
“วันนี้กูขอเอามึงน่ะ” ไม่รอคำตอบจากผม กดผมลงกับเตียง เข้ามาเลียตรงหัวนมผม ทั้งจับทั้งบีบทั้งเลีย จนผมร้องขึ้นมา
“พอแล้ว” พอผมจะพูดอะไรออกมา มันก็เอานิ้วมันสอดเข้ามาในปาก
“เอ้า! เลียสิ” มันให้ผมเลียนิ้วมัน แล้วมันก็เอานิ้วชี้กับนิ้วกลางสอดเข้ามาในปาก มือสั่นๆของผมจับมือมันไว้ แล้วผมก็เลียๆ จนมือมันเต็มไปด้วยน้ำลายผม มารู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่มันกำลังถอดกางเกงผม มันก้มลงมากัดน้องชายผม ผมสะดุ้งทันที
“ไม่เอา!” ผมเอามือมาปิดของๆ ผมทันที
“บอกให้เลียนิ้ว” มันเงยหน้าขึ้นมา แล้วสั่งผม ผมก็เลียนิ้วมันต่อ ส่วนมันก็เอาน้องชายผมเข้าไปในปากมัน รู้สึกได้ว่ามันกำลังดูดของผมอยู่ ดูดๆเลียๆ จนน้องชายผมเริ่มตั้งแล้ว มันยกขาผมขึ้นข้างนึง แล้วเอานิ้วที่ผมเลียมาดุนๆ ตรงก้นผม ผมเกร็งตัวทันที แล้วมันก็ดันนิ้วเข้ามาในก้นผม สอดเข้าสอดออกอยู่นาน จนผมรู้สึกปั่นป่วนอยู่ตรงท้อง น้องชายผมก็ยิ่งตั้งใหญ่ ผมรู้สึกว่าปวดตรงปลายๆของน้องชายผม
“มีน” จนผมเผลอเรียกชื่อมัน เหมือนมันจะรู้ มันจับน้องชายผมแน่น และชักขึ้นชักลง ผมรู้สึกได้ ว่าใกล้จะออกเต็มที่แล้ว
“จะเสร็จแล้วเหรอ” มีนมันถามผมขึ้น ผมได้แต่พยักหน้า มันก็ยิ่งเร่งจังหวะให้ผม จนของๆ ผมออกมา เลอะเต็มหน้าท้องผม ผมหอบหายใจแรงๆ ผมเห็นมันกำลังรูดซิบกางมันลง แล้วก็งัดน้องชายมันออกมา ตอนมีอะไรกับมันผมไม่เคยดูน้องชายมันเลยว่าใหญ่แค่ไหน พอเห็นผมก็อึ้ง กลืนน้ำลายพูดอะไรไม่ออก ไม่ทันตั้งตัว มันสอดของๆมันเข้ามาในตัวผม
“อ๊าก...มีน” ผมร้องออกมา พร้อมกับเรียกแต่ชื่อมัน มันก็ยิ่งสอดของมันเข้ามาอย่างแรง ในตอนแรกผมจุก เหมือนร่างกายมันจะไม่รับ พอมันสอดเข้ามาหลายๆ ครั้ง ความรู้สึกมันเริ่มเปลี่ยน
“อ๊ะ...อย่ารัด” มีนมันพูดออกมา ผมไม่รู้หรอกอาการรัดๆ มันเป็นยังไง คงตอนที่ผมเกร็งมั้ง หน้าตามันเหมือนจะไม่ไหวแล้ว แล้วมันก็ยกขาผมอีกข้างขึ้น คราวนี้มันกระแทกลงมาแรง ผมจำไม่ได้ว่านานกี่นาที แต่ตัวผมมันชาไปหมดแล้ว มันกระแทกมาอีกครั้งแล้วก็ปล่อยน้ำเข้ามาในตัวผม ตัวผมกระตุกทันที รู้สึกว่าของๆ มันไหลออกจากก้นผม แล้วมันก็ทิ้งตัวนอนหอบอยู่ข้างๆ ผม ส่วนผมก็นอนขดตัวหันข้างให้มีน มันดึงตัวผมเข้าไปกอด
“กุจะบอกอะไรมึง แต่มึงห้ามโกรธกุน่ะ” ผมไม่ตอบได้แต่นิ่ง มันดึงผ้าห่มมาคลุมตัวผมกับมัน
“ตอนแรกกุก็แค่จะลองกับมึง แต่ตอนนี้กุชอบที่จะเอามึง กุเอาผู้หญิงแต่ไม่ถึงอารมณ์เท่ามึง” มันพูดแล้วก็กดปากมันมาที่หัวไหล่ผม “กุถึงรู้แล้วว่ากุเป็นเกย์แน่ๆ เพราะมึง กุไม่เคยมีอารมณ์ขนาดนี้ มึงเข้าใจที่กุพูดป่ะ” ผมยังคงเงียบให้มันพูดพล่ามไปคนเดียว แต่คำพูดมันไหลเข้าหัวผมตลอด “กูยังคิดว่าทำไมกุเงี่ยนได้ขนาดนี้ แค่เห็นหน้ามึง” ผมชักเริ่มทนมันพูดไม่ไหว ก็หันไปหามัน แล้วตบปากมันไปที แต่ไม่แรงมากหรอกครับ
“โรคจิตหรือไง ชอบพูดแต่เรื่องอย่างนี้ กุรู้แล้วไม่ต้องพูด” ผมจ้องหน้ามัน มันก็จ้องหน้าผมตอบ
“งั้นกุถามมึงอีกอย่าง ชอบกุไหม” หน้าตามันจริงจังมาก
“........” ผมก็เงียบอีก
“ชอบผมมั้ยครับ” คราวนี้มันพูดเพราะ “ผมชอบเนทมากๆ เนทชอบผมน่ะ” อีกแล้วครับท่านๆ ผู้อ่าน ผมจะแพ้มันอีกแล้ว
“เนทครับ บอกชอบผมน่ะ” ผมจำได้แม่นเลย ว่ามันถามผมสามประโยคนี้ เหมือนกำลังเอาใจผมไปแล้ว
“ถ้าไม่ชอบจะให้ทำเหรอ” คราวนี้ผมหลุดไปบ้าง ตอนนั้นผมคิดว่าผมตอบตามความรู้สึกผมจริงๆ
มันยิ้มแล้วกอดผมแน่น ไม่รู้แล้วครับ ผมคิดว่า ผมชอบมันจริงๆ เข้าแล้ว...เอาว่ะ จะลองคบกันมันจริงๆ แต่ถ้ามันนอกใจมันได้เจ็บตัวแน่


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ เถื่อนได้ใจจิง ๆ  o13

Back in Black

  • บุคคลทั่วไป
เถื่อนสะใจ

bass

  • บุคคลทั่วไป
 :impress: :impress: :impress: :impress: :impress:


อยากได้ แบบนี้ จังเยยยยยยยยยยยยย




 :o11: :o11: :o11: :o11: :o11:


มีนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
“ถ้าไม่ชอบจะให้ทำเหรอ”
^
^
^
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
อ่านแล้วจะละลาย
แค่เพียงสบตา ก็รู้ว่าเธอคือคนที่หามานาน
 :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :like6: :like6:

 :-[ :-[ :-[

อ่านไปยิ้มไป  เขินไป  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ สาวตัวกลม

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
มาต่อแล้วค่ะ
*********************************
ตอนนี้ผมได้รู้เรื่องราวชีวิตมันมากขึ้น มันเล่าให้ฟังว่า มันเป็นเด็กเรียนสายช่าง เรียนสายปวช. ปวส. โรงเรียนลูกในเครือมหาลัยผม และเพิ่งมาต่อในมหาลัยเทียบเท่าปี 3 ปี 4 ผมก็ว่าทำไมตอนผมอยู่ ปี 1 ถึงไม่เห็นมัน พอผมขึ้นปี2 จะเห็นกลุ่มนี้ ที่โรงอาหารประจำ มันบอกว่าแรกๆ ก็เห็นผมกับไผ่บ่อยๆ ตอนแรกดูไม่ออกว่าไผ่เป็นเกย์ แต่หลังๆ ไผ่มันจะออกอาการ แถมยังวานเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มพวกผมไปถามไปสืบเรื่องพวกมัน (มาคิดดูแล้วไอ้ไผ่มันก็ร้ายใช่ย่อย ถึงขนาดแอบสืบเลย เป็นผมคงไม่กล้า) พี่เอ๋เขาก็สงสัยว่าทำไมไผ่มันชอบมองพวกพี่เค้า ผมก็เพิ่งรู้จากปากมันว่า มันสนใจพี่เอ๋ตั้งแต่ช่วงเปิดเทอมแรกๆ แล้ว แต่มันไม่กล้าบอกผม ก็ผมมันสนใจใครซะที่ไหน มีนมันเล่าให้ฟังอีกว่า พี่เอ๋เป็นเกย์ เคยมีแฟนเป็นกระเทย แต่คบกันไม่นาน พอเรียนปวส.จบก็ไม่ติดต่อพี่เอ๋เลย ตอนที่พี่เอ๋บอกมันว่าพี่เอ๋เป็นเกย์ มันก็อึ้งๆ เพราะกลัวว่าพี่เอ๋จะมาทำอะไรมันหรือเปล่า แต่พี่เอ๋แกชอบผู้ชายน่ารัก หรือไม่ก็แบบที่แต่งเป็นผู้หญิงไปเลย
ผมถามมันว่า มันเป็นเกย์หรือเปล่า มันคิดอยู่นาน มันก็เล่าให้ฟังต่อ มันโดนพี่เอ๋ยุให้มาจีบผม และยังคอยบอกว่า ผู้ชายที่เป็นเกย์ดูยังไง และมีดียังไง ช่วงนั้น มันบอกว่า มันเอาผู้หญิงแล้วไม่ได้อย่างใจมัน มันก็คิดว่าจะลองแบบที่พี่เอ๋ยุ พอจังหวะมันกับพี่เอ๋มาเจอผมกับไผ่ซะก่อน สรุปมันเป็นเวรกรรมของผมใช่ไหมที่มาเจอมัน T_T
“แต่กุชอบมึงจริงๆ นะเว้ย” มันย้ำกับผมบ่อยมาก ผมก็ได้แต่พยักหน้า บางครั้งเหมือนมันหวังรอให้ผมบอกว่า ชอบมันด้วย แต่ผมมันพวกปากแข็ง แต่ทำไมมันถึงได้ทนผมได้นะ

ช่วงนั้นพอผมสอบเสร็จผมก็กลับบ้าน ผมกับมันก็ไม่ได้เจอกันเดือนนึง เพราะเป็นช่วงปิดเทอม แต่มันก็โทร.มาหาผมนะครับ แต่ไม่ได้คุยกันนาน คุยกันพอรู้ว่า อยู่ที่ไหนทำอะไร เท่านั้น พอเปิดเทอมผมกลับมาโดยที่ไม่ได้บอกมัน และมันก็หายเงียบไปก่อนเปิดเรียนอาทิตย์นึง ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร (ถ้าผมไม่อยู่มันก็จะมาอยู่ห้องผมมั่ง มันยังพูดว่า ห้องของมันกลายเป็นรังรักของพี่เอ๋กับไผ่ไปแล้ว)
วันแรกที่มาเรียน ผมก็นั่งคุยกับไผ่ เพราะไผ่เขาจะรอพี่เอ๋ แต่ตอนนี้พวกผมเปลี่ยนที่นั่งรอจากโรงอาหารมานั่งที่สวนที่มีเสาโรมันแทน ผมนั่งคุยกับไผ่กับเพื่อนในกลุ่มไปเรื่อยๆ ด้วยความที่เราไม่ได้เจอเพื่อนนาน มีเรื่องอยากคุยเยอะแยะ ผมก็คุยๆ ไปทั่ว ไหนจะเรื่องลงทะเบียน เรื่องวันเรียน จะว่าคุยเพลินก็ได้ ผมจำได้ว่าตอนนั้นเสื้อผ้านักศึกษาเขาจะฮิตแบบพอดีตัว หรือไม่ก็ใส่ฟิตๆ ผมกับไผ่ก็อินเทรนกับเขาด้วย อย่างกางเกงก็เข้ารูป ยิ่งคนตัวเล็กหุ่นดีๆ อย่างผมกับไผ่ใส่แล้วมันยิ่งดูดีไปหมด เพื่อนๆ ทั้งผู้หญิงผู้ชายก็เอามือถือมาถ่ายกันใหญ่ ผมกับไผ่ไม่คิดอะไรหรอก ไม่มีใครเขาคิดอะไรด้วย แต่ก็มีไอ้คนบ้า 2 คนที่ยืนมองพวกผมอยู่นานแล้วนั่นแหละ ผมกับไผ่มารู้สึกตัวอีกที ก็เพื่อนผู้หญิงเขาทักขึ้นมา ว่าแฟนไผ่ยืนมองอยู่ตรงฟุตบาทนานแล้ว พอผมกับไผ่เดินไปหาสองคนที่ยืนอยู่ มันทั้งโห่ทั้งแซวครับ อายจริงๆ!! ผมว่าที่ทั้งสองคนไม่พอใจ คงจะเป็นเสื้อผ้าที่ผมกับไผ่ใส่มากกว่า
บอกตรงๆ ว่าผมดีใจครับที่จะได้เจอมัน แต่ผมมันพวกปากแข็งครับ วันนั้นมีนไม่ได้เอารถมอเตอร์ไซด์มา พี่เอ๋ขับรถมาคนเดียว เพราะไผ่บอกว่าพี่เอ๋จะพาพวกผมสองคนไปกินข้าวที่บางขุนเทียน ชายทะเล คนขับเป็นพี่เอ๋ดังนั้นไผ่จึงนั่งข้างหน้า ส่วนผมกับมีนนั่งข้างหลัง และเป็นการเริ่มบทสนทนากัน (ออกตัวก่อนนะครับ ว่าบทสนทนาอาจไม่ตรงซะทีเดียว แต่ความหมายมันประมาณนี้)
“วันนี้พี่กับไอ้มีนจะพาไผ่กับเนทไปกินข้าวที่บางขุนเทียนนะครับ” พอออกรถได้ พี่เอ๋ก็พูดขึ้นมา
“ผมบอกเนทแล้ว ว่าจะไปกัน เนทมันไม่เคยไป” ไผ่หันไปบอกพี่เอ๋
“ฮะ ยังไม่เคยไป แต่เขาบอกอาหารอร่อย” ผมก็ยิ้มตอบ แล้วหันไปมองไอ้ที่อยู่ข้างๆ ผม แต่มันก็ยังนิ่ง
“ประมาณครึ่งชม. คงถึงมั้งครับ” พี่เอ๋ยังคงความสุภาพเสมอต้นเสมอปลาย เพราะงี้แหละไผ่มันถึงทั้งรักทั้งหลง
“เออ...คือน้องไผ่ครับ เสื้อที่ใส่อยู่ พี่ว่ามันไม่คับไปเหรอ” อยู่ๆ พี่เอ๋ก็พูดขึ้น
“ฮะ ก็เห็นเขาอินๆ กัน ผมกับเนทก็เลยไปซื้อมาใส่มั่ง” ไอ้คุณไผ่ก็ตอบไปอย่างซื่อตามแบบฉบับมัน
“พี่เอ๋ไม่ชอบเหรอ เมื่อกี้พวกเพื่อนๆ ผมเขาถ่ายรูปกันใหญ่เลย ตอนนี้แผนกบริหารเขาฮิตกันมาก” ผมเสนอหน้าตอบไปมั่ง
“ก็ชอบนะครับ แต่พี่กลัวจะอึดอัดกัน พี่เห็นพวกผู้หญิงเขาก็ใส่ฟิตๆ เหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะฮิตมาถึงพวกผู้ชาย”
“แต่ไผ่ไม่ใส่ทุกวันหรอก เห็นวันนี้เปิดเทอมก็เลยอยากลองใส่ เขาก็ใส่กันทั้งนั้น” ไอ้คุณไผ่ก็ยังพาซื่อตอบ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกับไผ่ซื้อแบบผ้าหนาๆ มาใส่กัน พวกผู้หญิงมองกันตาเดียวเลย” ผมพูดไปยิ้มไป ตอนนี้แหละครับ หน้าไอ้มีนมันเริ่มเปลี่ยนแล้ว
“เด็กเขาอินเทรนกัน นายจะไปห่วงอะไรว่ะ ไผ่มันไม่ใส่ไปล่อตะเข้หรอก มึงคิดมากไปได้” ได้ยินคำนี้ผมหันไปหามันเลย มันยังคงทำเป็นลอยหน้าลอยตา แต่ผมรู้ว่ามันเหน็บผม
“ไอ้มีน มึงพูดไรว่ะ กุไม่ได้คิดอย่างนั้น แค่เป็นห่วงไผ่มัน” พี่เอ๋หันมาตะหวาดใส่มัน
“ไผ่มันไม่คิดมากหรอกพี่เอ๋ มันรู้ว่าพี่เอ๋เป็นห่วง” ผมพูดแต่หน้าผมกลับหันไปหามัน มันก็หันมาหาผม แล้วก็หันกลับไป แค่นั้นแหละครับ ผมเริ่มโกรธมันแล้ว ผมรู้ที่มันพูดน่ะ มันหมายถึงผม ตลอดทางผมก็ไม่พูดกับมันเลย จนมาถึงร้าน อยากบอกว่าร้านใหญ่มาก ผมจำชื่อไม่ได้ครับ แต่ร้านอยู่ด้านซ้าย พอจอดรถเสร็จผมกับไผ่ก็ลงมารอ แล้วพี่เอ๋เขาก็พาเดินไป นั่งเกือบสุดด้านใน และสงสัยคงไปกันตอนบ่ายหรือเปล่า ถึงไม่ค่อยมีคนนั่งเท่าไหร่ พอนั่งได้ที่ปุ๊บ ผมกันไผ่ก็สั่งทันที ในเมนูมันก็จะมีเครื่องหมายที่บอกว่าเป็นอาหารจานเด็ดของร้าน ตอนนั้นก็สั่งไปเยอะ ใจก็เกรงใจพี่เอ๋เหมือนกัน แต่พี่เอ๋แกใจดีตามใจผมสองคนมาก ส่วนไอ้มีนก็นั่งเงียบ หยิบเอาบุหรี่ขึ้นมาสูบ พออาหารมา ผมก็เริ่มบรรจงทานกันล่ะครับ คงไม่ต้องอธิบายนะครับว่าพวกเรานั่งกินกันยังไง ไผ่มันก็นั่งตัวติดกับพี่เอ๋เหมือนเคย ส่วนผมก็ต้องนั่งกับมีน พอเห็นอาหารผมลืมเรื่องในรถไปชั่วขณะ ก็ขอทำตัวเป็นเมียที่แสนดี เอ้ย..ไม่ใช่ครับ ขอทำตัวดีๆ หน่อย ตักๆ กับข้าวให้มีนกิน มันก็ยิ้มๆ นะครับ แต่ความลามกของมันไม่มีลดไปไหน มันก็ยังชอบนั่งลูบขามั่ง แขนมั่ง หัวมั่ง ผมมั่ง ผมคิดว่าตอนนั้นมันคงอารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว
แล้วมือถือผมก็ดังขึ้น พอรู้ว่าเป็นใครผมรับทันที น้องชายผมครับ
“ว่างไงเน็ต” ชื่อน้องชายผม คือในที่นี้มีไผ่คนเดียวที่รู้จักครอบครัวผม
“อืม...ครับ ถึงเมื่อวาน วันนี้ไปเรียน” มันถามว่าผมสบายดีไหม เพราะแม่กับพ่อฝากมาถาม ตอนนั้นผมต้องการคุยเป็นการส่วนตัวกับน้องผม ผมก็เลยนั่งหลบๆ มานอกโต๊ะ ไอ้มีนมันมองผมใหญ่เลยครับ มันคงไม่คุ้นชื่อน้องผม เพราะผมไม่ค่อยเล่าเรื่องที่บ้านให้ฟัง ถ้ามันไม่ถาม
“คร๊าบบบ รู้แล้ว ไม่ต้องห่วง กุก็คิดถึงมึง” คือที่บ้านผมจะพูดกันเพราะมาก เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อแม่นะครับ แต่พอน้องมันมึงมาผมก็มึงกลับทันที พอผมวางสาย แล้วกลับเข้ามาตรงโต๊ะ คือทั้งสามคนก็มองผมเป็นตาเดียวกันเลย
“คุยกับใครว่ะ” ไอ้ไผ่มันถามขึ้น
“เด็กชายเน็ตโทรมาว่ะ” ผมพูดไปยิ้มไป
“อ้อ...เหรอ” ไอ้ไผ่รับคำ พี่เอ๋กับไอ้มีนก็งงครับ ว่าบุคคลที่ผมพูดอยู่นี่เป็นใคร ผมก็ไม่พูดอะไรต่อ ยังคงนั่งกินต่อ ส่วนไอ้มีนเริ่มอยู่ไม่สุขแล้วครับ มันสั่งเบียร์มากิน แล้วก็นั่งอัดมะเร็งอยู่อย่างนั้น จะว่าผมกวนตีนมันก็ได้ครับ
ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง เพราะมีข้อความเข้ามา น้องชายผมครับ มันส่งมาว่า ‘ถ้าวางก็ให้โทรหาที่บ้านด้วย’ พอผมกดดูเสร็จผมก็ยิ้ม ไผ่มันก็คงรู้ว่าผมกวนตีนไอ้มีน มันส่งสายตาปรามๆ มาทางผมแต่ผมก็เฉย
“เดี๋ยวกุ ไปห้องน้ำก่อน” คราวนี้ไอ้มีนมันลุกขึ้นเลยครับ ผมมองมันเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป แล้วก็ขำ
“น้องเนท แกล้งมันใช่ไหม” พี่เอ๋หันมาถามผม
“เปล่าครับ มันเป็นบ้าของมันเอง”
“ที่โทรเข้ามา น้องชายเนทครับ บ้านนี้เขาคุยกันเพราะๆ” ไผ่มันเฉลยให้พี่เอ๋ฟัง พี่เอ๋แกก็ขำ
“เลิกแกล้งมันเถอะ แค่นี้มันก็จะคลั่งตายแล้ว” พี่เอ๋แกพูดขึ้นมา ผมก็ได้แต่ยิ้ม บอกตรงๆ ครับ ตอนนั้นไอ้มีนมันเป็นคนไม่มีเหตุผลเอามากๆ
พวกผมนั่งทานกันประมาณ 3 ชม.ได้ พอเห็นว่าคนเยอะแล้วก็เลยกลับ ตอนนั้นหมดไปหลายพันเหมือนกัน พอเห็นราคาแล้วผมเกรงใจพี่เอ๋มาก แต่เห็นพี่เอ๋กับมีนแชร์กันจ่าย ( เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผมไปนั่งกินที่นั่น)
พี่เอ๋ขับรถมาส่งผมกับมีน ส่วนแกก็ไม่พ้นที่จะไปขออยู่ห้องมีนแทน พอเข้ามาถึงห้องปุ๊บ มันก็เดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำเฉยเลย ท่ามันจะงอนผมเอามากๆ เอาว่ะ ไม่แกล้งมันแล้วก็ได้... วันนี้อยากเอาใจมันหน่อย ไม่เจอกันตั้งเดือน จริงๆ ผมก็คิดถึงมันเหมือนกัน (เขินครับ) ผมเปิดแอร์ ปิดม่าน เปิดเพลง แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า นุ่งแต่ผ้าขนหนูผืนเดียว ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมยั่วมัน พอมันเดินออกจากห้องน้ำ ผมก็เดินสวนเข้าห้องน้ำไป มันก็หันมามองงงๆ
“เดี๋ยวอาบน้ำก่อน” ผมก็หันไปบอกแล้วยิ้มให้ทีนึง ไม่เกินสิบนาทีผมก็เดินออกมา เห็นมันนั่งเช็คมือถือผมอยู่ เสื้อผ้ามันก็ยังไม่ใส่ นุ่งแต่ผ้าขนหนู ผมก็ทำเป็นเช็ดหัวอยู่หน้ากระจก มันมองผมผ่านกระจก ผมก็มองมันผ่านกระจกเหมือนกัน มันเอื้อมมาจับก้นผม ผมก็หันหน้าไปหามัน ด่ามันว่าลามก มันยิ้มแล้วลากตัวผมเข้าไปกอด
“เรื่องยั่วคน มึงเก่งจังนะ” ปากมันพูด มือมันก็ลูบก้นผมไป “แต่มึงยังมีคดีเมื่อกลางวันอยู่” มันทำเป็นยิ้ม
“ก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอว่าใครโทรมา” ผมพูดแล้วเอามือลูบแก้มมันมั่ง
“วันนี้กุเอามึงหลายรอบแน่” มันไม่พูดเปล่า เอาลิ้นมาเลียหน้าอกผม ตัวผมเกร็งขึ้นมาทันที
“ไม่เอา พรุ่งนี้มีเรียน” ผมเอามือดันไหล่มันออก
“กี่โมง” มันเงยหน้าถาม
“10 โมง” แค่นั้นแหละครับ มันจับผมลงกับที่นอนทันที
“รอบเดียวคงพอหรอกนะ ไม่เจอมึงตั้งเดือนนึง” แค่นั้นแหละ ผมโดนมันทำไปสามรอบ T_T
(อย่าให้ผมเล่าเลยครับว่าโดนแบบไหนบ้าง เพื่อนๆ ไปจินตนาการกันเองนะครับ!)

*** บรรยายเยอะมาก T_T

ออฟไลน์ สาวตัวกลม

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
น้องต๊อบเป็นคนแนะนำให้เอาเรื่องนี้มาโพสในเล้านะเนี้ย
ยังไงก็อย่าลืมติดตามงานเขียนของน้องต๊อบบ้างเน้อ
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ค่อยอัพก็ตาม เหอๆๆๆๆๆๆ :o9:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด