มาต่อแล้วจ้า

**************************
1. จุดเริ่มต้น(จบ)
ไม่รู้ผมหลับไปนานแค่ไหน รู้สึกตัวตื่นเพราะรู้สึกว่านอนไม่ค่อยสบายตัว อึดอัดไปหมด ตอนนั้นไม่รู้หรอกครับว่ากี่โมง แต่มองไปรอบห้องไม่เห็นไอ้หน้าเก็กนั่น ผมก็ลุกขึ้นทันที สิ่งแรกที่นึกได้คือวิ่งเข้าห้องน้ำ ตัวมันชาๆ ไปหมด รีบล้างตัวและรู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างมันไหลออกมาจากก้นผม พอมองไปผมถึงกับอึ้งไปเลย ได้แต่ด่าตัวเองในใจ แม่ง! ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย
(ผมอยากบอกว่า ตอนแรกผมไม่รู้ตัวหรอกว่าผมเป็นเกย์ แค่คิดว่าไม่ค่อยชอบผู้หญิง แต่ไม่ได้สนใจผู้ชายนะครับ ไอ้ความรู้สึกว่าชอบนี่ คงมีแต่กับไอ้ไผ่คนเดียว เพราะผมรู้สึกว่า ชอบผู้ชายที่หน้าตาน่ารักแบบมัน เท่านั้น)
ผมนุ่งผ้าขนหนูออกมา สิ่งแรกที่นึกออกคือโทร.หาไผ่ ... ดีใจครับที่มันรับ
“ไผ่อยู่ไหน” คำแรกที่ผมถามมัน
“อยู่บ้านสิ เพิ่งกลับมาตอน 5 ทุ่ม” มันพูด แล้วมันก็หรี่เสียงมันลง
“อ้าว ไม่ได้คุยกับไอ้พี่เอ๋เหรอ” ผมก็งง ไม่รู้จะถามไร แต่ก็ถามไปก่อนล่ะว่ะ
“คุย.. คุยกันแล้ว โอเคแล้ว” โอเคไรมันว่ะ
“เรางง หมายความว่าไงว่ะ”
“คือ เราคบกับพี่เอ๋น่ะ เขาขอเราคบด้วย” เสียงมันบ่งบอกว่ามันคงอายมาก แต่น้ำเสียงมันดีใจ
“แล้วโดนเขาทำอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงผมร้อนรนขึ้นมาทันที
“เอ้ย... ถามไรว่ะ ป่าวน่ะเว้ย พี่เค้าไม่ได้ทำอะไรเรา” ผมรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
“ถามไรแปลกๆ ก็พี่เค้าเห็นว่ามันดึกแล้ว เขาก็เลยเอามอเตอร์ไซด์พี่มีนขับไปส่งเราที่บ้าน” คือรถเก๋งนี่เป็นของพี่เอ๋ ส่วนไอ้หน้าเก็กมันมีมอเตอร์ไซด์ ก็ว่าแล้วน้ำหน้าอย่างมันจะมีรถขับเหรอ แต่ผมก็ไม่เข้าใจนะครับ ว่าทำไมเด็กช่างมันต้องขับมอเตอร์ไซด์ด้วย สงสัยจะฮิตกันมั้ง
“แล้วพี่มีนเขายังอยู่ห้องเนทเหรอ” อยู่ๆไผ่ก็ถามขึ้น
“เปล่า มันมาส่งเราแล้วก็กลับเลย” ไม่ได้ครับ ผมบอกไม่ได้ว่าผมโดนมัน...
“เหรอ แค่นี้ก่อนได้ป่ะ เราจะไปอาบน้ำ” มันบอกผมก็วางสายเลย แล้วมองมือถือว่า ตอนนี้มันกี่โมงแล้ว เที่ยงคืนแล้วนี่หว่า ผมหลับไปไม่รู้เรื่องเลย พอวางมือถือลง หันมาเห็นเตียงตัวเอง แทบจะล้มทั้งยืน มันเลอะไปหมด ผมยืนตัวสั่นเลย พอนึกได้ก็ดึงผ้าห่ม ผ้าปูเตียง ปลอกหมอนออกทันที แล้วจับโยนใส่เครื่องซักผ้า ยัดๆ มันลงไปหมดนั่นแหละ เทผงซักฟอกไปครึ่งถุง น้ำยาซักผ้าอีกถุง อารมณ์นั้นแบบว่า ขยะแขยงมากๆ ผมโกรธจนน้ำตาไหล ได้แต่ยืนดูเครื่องซักผ้ามันทำงานอยู่อย่างนั้น
ตอนนั้นไม่ไหวแล้วครับ เหนื่อยมากไม่อยากคิดอะไรแล้ว คิดได้อย่างเดียวว่า จะไม่ขอเจอหน้ามันอีก แล้วผมก็เดินเข้ามาข้างใน ล้มตัวลงนอนบนเตียงหลับไปเลย รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เช้าแล้ว ผมก็ลุกขึ้นอาบน้ำ วันนี้มีเรียนตอนสายๆ แต่สมองไม่คิดอยากจะไปเรียนเลย แต่ที่ไปคือ ต้องไปหาไผ่ อยากคุยกับมันมาก ออกจากห้องน้ำผมก็เดินไปที่ระเบียง พอเห็นผ้าที่อยู่ในเครื่องซักผ้า ผมก็คิดถึงเรื่องเมื่อคืนอีก ไม่อยากจะหยิบมันออกมาเลย ผมก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ แล้วเดินเข้ามาเพื่อจะแต่งตัว กำลังจะหยิบเสื้อผ้าอยู่ ผมก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูห้องผม พอผมถอยหลังจากตู้ออกมา คนที่เดินเข้ามาในห้องคือไอ้หน้าเก็ก ผมงงว่ามันเข้ามาได้ไง
ไม่ทันที่ผมจะถาม มันหยิบกุญแจห้องผมให้ผมดู ผมโมโหมากครับ
“เอามานี่” ผมกระชากจากมือมันทันที
“งกไปได้” มันยังทำหน้าตากวนตีนอีก
“ออกไปได้แล้ว” ผมพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“ไล่ผัวซะแล้ว” มันยังมีหน้ามาพูดกับผมอีก ผมโมโหมาก ว่าแล้วผมก็ยกมือจะตบมันให้ได้ แต่มันหลบทัน
“มึงออกไปจากห้องกุเลย” ผมไล่มันครับ แต่เหมือนมันจะไม่ได้ยิน เดินเข้ามาหาผม ผมก็ถอยติดตู้เสื้อผ้า และเหมือนจะถูกใจมันมากที่เห็นผมกลัว
“ไม่ทำอะไรมึงหรอก เป็นห่วงถึงได้เข้ามาดู” มันมองไปรอบห้อง คงเห็นเตียงผมเปลี่ยนไป มันก็หันมาถาม
“เอาผ้าไปซักเหรอ” ผมเงียบไม่ตอบ มันก็เดินออกไปนอกระเบียง
“เดี๋ยวกุตากให้” มันไม่พูดเปล่า มันหยิบผ้าปูผมขึ้นมาตาก แต่ปากผมไวกว่า
“ไม่ต้อง จะทิ้งแล้ว” มันชะงัก หันมามองผม แล้วหันกลับไปดึงผ้าออกมาตากไว้ตรงราวระเบียง
ช่าแม่งแล้ว ผมหันกลับมาหยิบเสื้อผ้า แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปแต่งตัว อารมณ์นั้นกลัวมันครับ กลัวมันจะปล้ำผมอีก ต้องเซฟตัวเอง ผมออกมาก็ทำเป็นเหมือนมันไม่อยู่ในห้อง ทาแป้ง หวีผม แต่งตัว หยิบโน้นหยิบนี่ มันก็ยังยืนมองผมอยู่ (ไม่อยากบอกเลยว่า ผมเริ่มดูว่า มันก็เท่ห์ดีน่ะ ตัวมันสูงยาว โดยเฉพาะขามัน ขามันยาวมาก สมส่วนไปหมด ดูล่ำๆนิดๆ ผิดกับพี่เอ๋ที่ดูตอนแรกเหมือนผู้ชายเจ้าสำอางมั้งครับ ผมใช้คำไม่ค่อยถูก ชมใครไม่ค่อยเป็น)
“เดี๋ยวไปส่ง” มันถามผม โดยที่มันยังยืนกอดอกมองผมอยู่
“ขอบใจ แต่เราไม่ชอบให้คนแปลกหน้าไปส่ง” แล้วไงล่ะ บอกผมจะกวนตีน ก็กวนจริงๆ ครับ
“แปลกหน้าตรงไหน” มันเดินเข้ามาหาผม “อย่าเรื่องมาก เดี๋ยวกุก็เอามึงตอนนี้เลย เห็นมึงแต่งตัวแล้วอารมณ์มันขึ้น” ผมสะบัดมือมันทันที
“หน้าด้าน” ได้แต่ด่าครับ มันเร่งให้ผมหยิบของ แล้วลากผมออกจากห้อง
พอลงมาถึงด้านล่าง ผมยังคงออกฤทธิ์อยู่ครับ ไม่ยอมท่าเดียว จนมันคงจะรำคาญเหมือนกัน
“นี่ มึงอยากให้กุประกาศออกไปใช่ไหม ว่ากุเป็นผัวมึง” เท่านั้นแหละครับ ผมเงียบเลย ยืนนิ่ง ทำตามที่มันบอก
ไม่ถึง 15 นาที ก็มาถึงมหาลัย ดีที่ว่าคนน้อยครับ ไม่ค่อยมีใครสนใจใคร แล้ววันนั้นมันไม่ได้ใส่เสื้อช็อป แต่ที่นี่ไม่ค่อยไม่ใครสนใจใครหรอกครับ มันพาผมมาจอดตรงหน้าตึกช่าง ผมลงเสร็จก็เดินทันที มันก็หันมาเรียกแต่ผมไม่สนใจ เดินอย่างเดียว กดโทรหาไผ่ พอรู้ไผ่อยู่ไหนก็รีบเดินไปทันที
ผมไม่รู้หรอกน่ะว่ามันตามมาหรือเปล่า เดินเข้ามาในโรงอาหาร เห็นไผ่มันนั่งอยู่กับพี่เอ๋แล้วก็เพื่อนๆของพี่เค้า ผมอยากจะเดินหันหลังกลับ แต่มีเสียงไอ้หน้าเก็กมันพูดขึ้นมา
“กุไปรับน้องเนทมาแล้ว” มันมาไงว่ะ ในนั้นก็ยิ้มรับกันทุกคน ผมได้แต่เงียบแล้วเดินไปนั่งกับไผ่
“หิวไหมว่ะเนท” ไผ่ถาม แต่ผมส่ายหน้า
“พวกมึง กุบอกพวกมึงก่อนน่ะ น้องไผ่นี่แฟนกุ ห้ามมายุ่งนะเว้ย” เสียงพี่เอ๋ดังขึ้น เพื่อนๆ เค้าก็เฮกันเสียงดัง ผมนี่แทบอยากจะหายๆ ไปจากตรงนั้น แต่ไผ่มันนั่งอายม้วนต้วนเลย เพื่อนกุไปซะแล้ว
“มึงบอก กุก็บอกมั่ง” ไอ้หน้าเก็กไม่พูดเปล่า มานั่งติดผม “น้องเนทก็แฟนกุด้วย พวกมึงๆ ห้ามยุ่งนะเว้ย” ผมถึงกับอึ้งไปเลย คิดด่ามันในใจ ไอ้หน้าด้าน ไอ้เลว ไอ้เหี้ย ไอ้ ไอ้.... ผมอยากจะบ้า ไผ่มันก็มองหน้าผมงงๆ ไม่เอาแล้วเว้ย กุต้องลุกไปจากตรงนี้ ผมลุกพรวดทันที ไอ้ไผ่ก็ลุกตาม
“เราไปเรียนแล้วนะ” ผมพูดไม่มองหน้าใคร แล้วก็เดินจ้ำๆ รู้สึกไอ้ไผ่ก็เดินตามมา มันเข้ามาจับแขนผมแล้วก็ถาม
“ไหนบอกว่า พี่เขาแค่ไปส่งไง” ผมไม่ตอบเดินขึ้นตึกเรียนข้างๆ โรงอาหารไป มันก็ยังจะคะยั้นคะยอถามอีก จังหวะเดินผ่านชั้นที่เป็นห้องน้ำชาย ผมลากมันเข้าไปทันที
“มึงเป็นไรว่ะ แปลกๆ ที่โทรมาหากุแล้วน่ะ” ไผ่มันถามด้วยความเป็นห่วงจริงๆ ครับ
“กุเล่าให้ฟังก็ได้ แต่มึงห้ามไปเล่าให้ใครฟังน่ะ แล้วมึงต้องเล่าเรื่องมึงให้ฟังด้วย” ผมตัดสินใจเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฟัง แต่ไม่ได้บอกว่าโดนไอ้หน้าเก็กมันขืนใจ ไผ่ก็ตั้งหน้าตั้งฟังอย่างดี ผมก็ให้มันเล่าให้ฟังมั่ง สรุปคือ ไอ้พี่เอ๋มันก็จ้องไผ่อยู่นานเหมือนกัน มันรู้สึกว่ามีคนมองมัน พอมันรู้ว่าเป็นไผ่ มันก็คอยมารอไผ่ตรงโรงอาหารประจำ มันบอกว่าไอ้หน้าเก็กมันก็สนใจผมด้วย แต่มันไม่คิดว่าไอ้หน้าเก็กมันจะจู่โจมผมทันที (ที่เราคุยกันนี่ มันเลยเวลาเข้าเรียนไปแล้ว และสรุปว่าผมกับมันก็ไม่ได้เรียนวิชานั้น และลงมาคุยกันข้างล่างที่ห้องอินเตอร์เน็ตในตึกนั้น เข้าไปนั่งกันไกลๆ ไม่ได้เล่นเน็ตครับ ไปนั่งคุยกันมากกว่า)
ผมก็ไม่ทันเอ๊ะใจว่าทำไมไอ้ไผ่ถึงให้ผมมานั่งห้องเน็ต นั่งกันไปได้เกือบสองชั่วโมง จนพี่ที่คุมห้องเขาเข้ามาเหมือนจะไล่เราแล้ว แต่พี่คนนี้จะพูดจาสุภาพมาก คงเห็นหน้าไผ่มั้งครับ (ไผ่นี่มันก็มีเสน่ห์กับทุกเพศจริงๆ) พวกเราก็ลุกขึ้นเก็บของแล้วเดินออกไป ผมว่า จะชวนไผ่ไปเดินซื้อของที่ห้างใกล้ๆหน่อย แต่ไม่คิดว่ามันนัดกับพี่เอ๋ไว้ พอเห็นพวกนั้นมันเดินมา หน้าผมเปลี่ยนไปทันที
“ไผ่นัดพวกเค้าไว้เหรอ” ผมถามมันอย่างไม่พอใจ
“ก็พี่เอ๋ชวน” มันตอบเสียงอ่อยๆ มันเห็นผู้ชายสำคัญกว่าเพื่อน
“นะ เนทไปกับเรานะ ไม่อยากไปคนเดียว” เออ..เจริญนะเพื่อนกุ เด็กบริหารฯ เดินกับเด็กช่าง
ผมก็ยืนรอให้พวกนั้นเดินเข้ามา พี่เอ๋เดินมาถึงก็ยืนซะติดไอ้ไผ่เลย ส่วนไอ้หน้าเก็กมันก็มายืนอยู่ข้างๆ ผม ผมฟังพวกนั้นมันพูดอย่างเดียวว่าจะไปที่ไหน ไปยังไง นั่งรถใครไป ไม่พูดอะไรเลย จนมันตกลงว่าจะไปไหนกันนั่นแหละ
“พี่เอ๋ ผมขอนั่งรถพี่น่ะครับ” ไม่ทันที่ไอ้หน้าเก็กมันจะหันมาถาม ผมชิงพูดก่อน มันก็เงียบๆ ไม่พูดไร ผมก็พูดต่อ
“มันร้อนน่ะครับ ไม่อยากนั่งรถเมล์” จริงๆ ผมรู้ว่าไอ้หนาเก็กมันจะให้ผมซ้อนมอเตอร์ไซด์มัน ผมไม่เอาหรอก เดี๋ยวเกิดมันพาไปที่อื่นทำไงล่ะครับ
“ได้ครับ เอ้ยไอ้มีนน้องเค้าคงไม่อยากไปกับมึงว่ะ มันคงไม่ไว้ใจมึง” พวกมันพูดกันหน้าตาเฉย ไม่อายใครเลยนะมึง นี่มันหน้าตึกน่ะเฟ้ย ทุกคนก็หัวเราะ ไม่พูดอะไร ก็จัดแจงกันไปหายานพาหนะของตัวเอง แล้วตามๆ กันไป
กลุ่มพี่เค้ามีกันอยู่ 6 คน แต่ละคนก็มีรถขับกันทั้งนั้น มีพี่เอ๋คนเดียวที่ขับรถเก๋ง นอกนั้นก็มอเตอร์ไซด์ ที่ผมดูมีแต่ของไอ้หน้าเก็กมั้งครับ ที่ดูสวยเด่นแต่เพื่อน แต่ตอนนั้นไม่คิดอยากจะนั่งรถมันหรอกครับ
เหตุการณ์ที่ทำให้ผมปวดหัวก็มาอีกแล้วครับ
พอมาถึงห้างพวกนั้นก็อยากทำนู้นทำนี่ อยากกินนู้นกินนี่ ผมกับไผ่ก็ได้แต่เงียบไว้ก่อน พอเดินผ่านแม๊คฯ ผมสะกิดไผ่ แล้วพูดเสียงดังๆ
“ไผ่อยากกินแม๊คฯเหรอ เราก็อยากกินนะ ไม่ได้กินนานแล้ว” แล้วพี่เอ๋ก็รีบแถๆ เข้ามาทันที
“น้องไผ่อยากกินเหรอครับ เดี๋ยวพวกพี่เลี้ยงนะครับ” พวกเพี่อนๆ พี่เอ๋ก็เฮกันใหญ่ เหมือนจะได้กินของฟรี แต่พี่เขารีบพูดขึ้นมาก่อน
“เฮ้ย กุเลี้ยงแต่แฟนกุเว้ย พวกมึงจ่ายกันเอง ไอ้มีน มึงก็เลี้ยงแต่มึงนะเว้ย พวกเปรตๆ ที่ยืนอยู่ไม่ต้อง” พวกเพื่อนพี่เค้าก็โห่กันใหญ่ ผมไม่รอช้ารีบจูงมือไผ่เข้าไปในร้าน พวกเพื่อนๆ เค้าก็ไปหาที่นั่งก่อน ไม่อยากบอกเลยว่า เหมือนพาลิงออกมาเที่ยวไงไม่รู้ เสียงดังชริหายเลย พี่เอ๋กับไอ้หน้าเก๋กก็เดินตามผมกับไผ่มาที่เคาร์เตอร์ ผมจำไม่ได้หรอกว่าสั่งอะไรบ้าง แต่ก็หมดไปหลายร้อย ไม่เป็นไร ถือว่าลาภปาก อิ่มจังตังค์อยู่ครบ
พอมาถึงโต๊ะ ผมกับไผ่ก็นั่งกินโดยมีไอ้สองพี่เด็กช่างนั่งประกบผมกับไผ่ ผมไม่สนใจกินอย่างเดียว ส่วนไผ่กับพี่เอ๋โครตจะสวีทกันเลย ส่วนผมไม่สนครับ กินอย่างเดียว จนมันหันมาถาม
“ไม่ป้อนหน่อยเหรอ”
“ไม่ เราหิว” ตอบไร้อารมณ์มาก
“เมียกุ ไม่โรแมนติกเลยเว้ย” ผมหันกลับไปทันที
“มีมือก็หยิบเองสิ นั่นไงเฟรนฟราย” มันกวนมา ผมก็กวนกลับ ไม่พอครับ ผมหยิบเฟรนฟรายใส่ปากตัวเองไปคำนึง กะจะหยิบอีกคำ มันก็จับมือผมเพื่อจะเอาเฟรนฟรายไปใส่ปากมันแทน มันทำไปยิ้มไป แค่นั้นล่ะครับเสียงโห่กันใหญ่เลย
“อิจฉาคนมีความรักว่ะ” มีพี่คนนึง ชื่อไก่ครับ หันมาพูดแซว ผมชักมือกลับทันที
“พวกมึงเงียบไปไปเลย น้องเค้าอายแล้วนะเว้ย” ไอ้หน้าเก็กมันพูดขึ้น ผมก็ได้แต่นั่งดูดน้ำไปล่ะครับ
“น้องไผ่ดูหนังกันไหมครับ” พี่เอ๋ถามไอ้ไผ่ แล้วหันหน้าไปมองเพื่อนๆ เพื่อนแกบางคนก็บอกว่า ไม่เอาไม่มีตังค์ สรุปเลยนะครับ มีผมกับไผ่ พี่เอ๋ ไอ้หน้าเก็กกับพี่ไก่ดูหนังกัน ส่วนคนอื่นกลับบ้าน
ก็อย่างว่า จำไม่ได้ว่าดูเรื่องอะไร เพราะทั้งเรื่องผมไม่สมาธิจะดู ผมให้ไอ้ไผ่มันเลือกครับ ไอ้นี่มันคงไม่ดูหนังสู้รบกันเลือดสาดหรอกครับ แต่ผมไม่สนใจครับ ก่อนเข้ามาโรงหนัง ผมก็ขอซื้อน้ำ ซื้อข้าวโพดมาไว้ก่อน (ซื้อมางั้นๆ แหละครับ เอาไว้กันหมาครับ)
“ไผ่ซื้อของเข้าไปกินน่ะ” ผมพูดขึ้น แต่ดูท่าไอ้ไผ่มันจะปฏิเสธ แต่พี่เอ๋ยืนตังค์ ผมก็ซื้อครับ
“รับชุดไหนดีครับ” คนขายมันถามขึ้น หน้าตาก็ดีซะด้วย และผมก็อยากจะรู้จริงๆ ว่าคนขายมันรับแต่คนหน้าตาดีๆ มาขายข้าวโพดเหรอครับ แต่ผมก็ยิ้มให้ เพราะผมนึกถึงคำพูดมันเมื่อวานแล้วแค้นครับ สักหน่อยดีกว่า
“ครับ ผมอยากได้ชุดนี้กับชุดนี้ เอาโค้กแก้วใหญ่นะครับ” พูดจบผมก็ยิ้ม ส่วนไอ้ไผ่ก็ยืนดูเมนูในกระดาษอยู่
“ครับ เอาแบบเค็ม หรือแบบหวานครับ” คนขายถาม ผมก็ทำเป็นมองตู้ข้าวโพด
“เอาผสมกันได้มั้ย” ถามแล้วก็ยิ้มอีก ยิ้มหวานๆ เลย คนขายรับคำ แล้วยิ้มตอบ ดีมากคุณคนขาย
ผมรับเอาข้าวโพดมาสองชุด แล้วยื่นเงินจ่ายตังค์ ไอ้ไผ่ก็ไม่สนใจผมเลย หยิบได้ก็รีบเอาไปให้พี่เอ๋ทันที ผมก็ยืนรอเงินทอน แล้วอยู่ๆ คนขายก็ถามขึ้น
“พี่เรียนที่มหาลัย... นี้เหรอครับ” ถามมาผมก็ตอบไป
“ครับ” ผมยิ้มให้อีก จังหวะที่คนขายจะอ้าปากถามอีก ไอ้หน้าเก็กก็เข้ามาหยิบข้าวโพดและน้ำจากมือผมไป คนขายมันก็เลยก้มหน้างุดๆ ทันที พอผมหันไป หน้าไอ้เก็กเหมือนมันจะกินเลือดกินเนื้อคนขายให้ได้ แล้วมันก็ดันผมออกจากตรงนั้น แล้วพูดที่ข้างหูผม
“เผลอหน่อยไม่ได้ ยิ้มล่อผู้ชายเลยน่ะ” ผมหันควับทันที
“ไอ้....” ยังไม่ทันดา มันก็ดันผมเดินไปตรงโรงหนังแล้ว มันทำตัวติดกับผมมาก พอเข้าไปในโรงหนังมันก็มืดๆ เดินๆ ตามกันไป นั่งแถวๆ ตรงกลางได้ ผมงี้อยากจะนั่งริมๆ แต่ไม่รู้ใครมันซื้อตั๋ว ผมก็ลืมเรื่องตรงนี้ไปซะสนิท สรุปว่า พี่เอ๋เดินเข้าไปก่อน แล้วก็ไผ่ ผม ไอ้หน้าเก็ก พี่ไก่ ไม่ต้องพูดถึง 2 คนข้างผม สวีทกันอีกตามเคย ส่วนผมนั่ง โดยเอาแก้วน้ำกับถุงข้าวโพดกั้นไว้ พอเริ่มดูหนังกันไปเรื่อยๆ ไอ้หน้าเก็กมันก็หยิบน้ำหยิบถุงข้าวโพดไปวางตรงที่พี่ไก่นั่ง ผมคว้าไว้ไม่ทัน เหมือนมันจะรู้ มันจับมือผมแน่น ผมก็ยื้อไว้ มันก็ยิ่งบีบมือผมแน่น ช่างมันแล้วเว้ย มันเอามือผมไปวางบนตักมัน แล้วมันก็ลูบมือผมอยู่นั่นแหละ ดูหนังไปแรกๆ ก็มีสมาธิดี แต่หลังๆเริ่มไม่ไหวครับ ผมรำคาญ ก็ดึงมือกลับ แต่มันไม่ยอมปล่อย มือมันก็เลยมาอยู่บนตักผมแทน คราวนี้มันสอดมือมันมาที่มือผม ผมหยิบหนังสือมาปิดตรงตัก กะจะให้โดนมือมัน แต่มันก็ไม่ยอมปล่อย พอมันปล่อยมันก็เอามือมันมาลูบขาผมแทน ผมสะดุ้งเลย หันไปหามัน มันก็ยิ้มแล้วทำมือจุ๊ๆ ผมอยากตบหน้ามันมากครับ แต่ผมไม่ทำ ผมหยิกมือมันแทน มันสะดุ้งหันมามองหน้าผม ผมก็ลอยหน้าใส่มันเลย คราวนี้มันเล่นหนักกว่าเดิม ไม่อายใครเลยแต่ผมอาย มันดึงพนักพิงขึ้น แล้วเขยิบตัวเข้ามาหาผม เอามือมาสอดเอวผม ผมดิ้นไม่ได้เลยครับ เพิ่งรู้ว่ามันแรงเยอะมาก ไผ่มันก็หันมามองผมแล้วยิ้มให้ แต่ผมยิ้มไม่ออกครับ ผมได้แต่นั่งนิ่งๆ สักพักผมก็หันไปกระซิบข้างๆหูมัน มันก็เอียงมาให้ผมพูด
“ไอ้ลามก ไอ้ตัณหากลับ ไอ้บ้า” มันมองหน้าผมนิ่งๆ แล้วยิ้มให้ หันมากระซิบเหมือนกัน
“เหรอจ๊ะ เมีย” ผมนิ่งเลยครับ ไม่พูดอะไร เปลี่ยนมาหยิกตรงท้องมันแทน มันสะดุ้งทีนึง แล้วมาจับมือผมไว้แน่นอีกแล้ว ยิ่งผมแกล้งมัน ผมยิ่งขยับไปไหนไม่ได้ จนสุดท้ายผมก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดมันเฉย ถือว่าครั้งนี้มึงชนะไอ้หน้าเก็ก
พอหนังจบผมรีบลุกทันที กุไม่อยู่แล้วกุจะกลับ เหมือนไผ่มันจะรู้รีบเดินมาห้ามผม
“เราจะกลับแล้วนะ นายกลับกับพี่เอ๋เถอะ” ผมหันมาบอกมันด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดี
“กลับด้วยกันสิ” พี่เอ๋พูดขึ้นบ้าง (ผมอยากบอกว่า พี่เอ๋เขาสุภาพบุรุษจริง แล้วก็สุภาพจนได้เรื่องเลยครับ แต่เดี๋ยวผมค่อยเราให้ฟังทีหลังว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่เอ๋และไผ่)
“เดี๋ยวกุไปส่งเอง” ไอ้หน้าเก็กมันเข้ามาโอบไหล่ผม ผมได้แต่ยืนงงๆ “แล้วเจอกันพรุ่งนี้” มันพูดจบก็ลากผมออกมาทันที พอมาถึงที่จอดรถ ผมสะบัดมันอย่างแรง คราวนี้มันหันมาพูดกับผม
“จะเรื่องมากไปถึงไหน พามาเดทแล้วยังไม่ชอบอีก” ผมอยากตบปากมันรอบที่ร้อยจริงๆ
“ใครอยากมากับนาย” พูดจบผมก็หันหลังให้มัน พอจะก้าวเดินมันดึงผมอย่างแรง แล้วลากไปหลบอยู่ตรงบันไดข้างๆ ผมตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก แต่ต้องไปตามแรงมันดึง เท่านั้นแหละครับ มันก้มลงมาจูบปากผม ตัวผมสั่นทันที แล้วผลักมันออก
“ไอ้เหี้ย มึงทำกุอีกแล้วนะ” ผมโมโหหน้าแดงมาก
“หุบปากไปเลย จะกลับไม่ใช่เหรอ กุจะไปส่ง” มันเสียงดังใส่ผม ผมก็ยิ่งโมโห
“ไม่ต้อง กุกลับเองได้”
“มึงจะกลับดีๆ หรือมึงอยากเล่นหนังสดแถวนี้” ผมชะงักไปเลย ขนาดในโรงหนังมันทำได้ ตรงนี้มันต้องทำได้
“กุมีเรื่องจะคุยกับมึง คุยกันดีๆ ไม่ได้หรือไง” มันลดเสียงพูดเป็นปกติ ผมก็ได้แต่เงียบ ก็ได้ว่ะ คุยกันให้รู้เรื่องไปเลย
“ก็ได้” ผมตอบและเดินตามมันไป พอขึ้นซ้อนท้ายรถมันได้ มันขับเร็วมาก จนผมต้องกอดมันไว้ มันตั้งใจครับ ไอ้เลวนี่
พอถึงที่ ผมก็เดินๆ ไม่สนใจมัน มันจอดรถกับที่แล้วเดินตามผมเร็วจริงๆ แล้วลิฟท์มันก็เป็นใจจริงๆ ไม่มีคนเล๊ย ผมยังไม่ทันกดชั้นมันรีบกดทันที แล้วมายืนเบียดผมพอผ่านไป 2 ชั้น มันเข้ามาโอบเอวผมเลย เอาแล้วสิ กุจะโดนอะไรไหม ... พอลิฟท์เปิด มันจูงมือผมทันที พอยืนอยู่หน้าห้อง มันหยิบอะไรไม่รู้ในกระเป๋ากางเกงมัน ส่วนผมก็หยิบกุญแจขึ้นมา ไม่ทันจะหยิบขึ้นมา มันเอาของที่อยู่ในมือมันไขห้องผม! มันเอากุญแจมาจากไหน ผมได้แต่มองมันงงๆ แล้วมันก็ผลักผมเข้าห้อง ได้ยินเสียงล็อกห้องลงโซ่ พอหันไป มันดันตัวผมลงบนที่นอน ผมก็เอามือป้องซ้ายป้องขวา หลบหน้าไปทางซ้ายทางขวา มันก็ยิ่งกอดผมแน่น
“กุอยากกอดมึง อยู่นิ่งๆสิว่ะ” ใครจะยอมเล่า ไอ้เหี้ยนี่
“ปล่อยเว้ย” ผมก็ร้องออกไปครับ มันหยุด ไม่ถึงอึดใจ มันรวบแขนผมไว้ด้วยมือข้างเดียวของมันเข้าหาตัวมัน มืออีกข้างจับคางผมไว้ แล้วมันก็จูบผม ผมเม้มปากปิด มันก็บีบคางผมจนปากผมเผยอออก ลิ้นมันสอดเข้ามา ตัวผมเริ่มชาขึ้นมาแล้ว มันทั้งดูดทั้งดึงลิ้นผม เรี่ยวแรงผมหายไปทันที มือมันปล่อยคางผมแล้วมาลูบที่ต้นคอผมแทน
“ฟังกุหน่อย” มันหยุดจูบ มองหน้าผมแทน
“เรื่องเมื่อวานกุขอโทษ แต่กุตั้งใจ” ไอ้เหี้ยนี่ งั้นไม่ต้องพูดก็ได้ถ้ามึงตั้งใจ ผมได้แต่เม้มปาก
“กุจะทำให้มึงชอบกุให้ได้ เพราะกุชอบมึง เข้าใจไหม” ผมไม่ตอบ มันคลายมือที่จับมือผมไว้แน่น แล้วเอามือมันสองข้างมาลูบหัวลูบหน้าผม จูบหน้าผากผม ตอนนั้นผมพูดไม่ออก ในหัวมันโหวงๆ ไงไม่รู้ แต่รู้สึกสงบลงมาก
“เราเป็นผู้ชายนะ” คำแรกที่พูดออกไป พูดเพราะซะด้วย
“ช่างปะไร กุชอบมึงแบบนี้แหละ กุจะถามอีกคำถาม ‘จะคบกับผมได้ไหมครับ’ ” ผมอึ้งไปเลย มันพูดสุภาพกับผม
“.........” รู้ได้ว่าผมเงียบไปหลายนาที
“ว่าไง คบกับผมไหมครับ” อย่ามาสุภาพกับกุนะ เดี๋ยวกุใจอ่อน
“ผมชอบเนทครับ คบกับผมน่ะ” แค่นั้นล่ะครับ กำแพงที่สร้างไว้ต่อต้านมันล้มลงทันที ผมยิ้มออกไปได้ไงไม่รู้ พอมันเห็นผมยิ้ม มันก็จูบหน้าผากผมอีก
“ถ้ากุจะเอามึง กุจะขอก่อน” แล้วไงเนี่ยมึงกลับมาในโหมดเด็กช่างได้ไง
“ไอ้ลามก” เรื่องด่านี่ผมไวนัก มันก็ยิ้มให้ผมอีก
“งั้นวันนี้กุขอเอามึงนะ” เหมือนเพิ่งได้สติ พอคิดจะลุกออกจากใต้ตัวมัน แต่สายไปแล้วครับ มันล็อกผมไว้แล้ว
“วันนี้กุจะทำเบาๆ มึงจะได้รู้ว่ากุชอบมึง” ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นอะไร มันพูดอะไรผมก็ไม่ขัดขืน สรุปคือ ผมกับมันก็มีอะไรกันอีก แต่คราวนี้ ผมกลับรู้สึกดีไปด้วย มันเก่งครับ แต่เหมือนในใจผมยังรู้สึกขัดแย้งกันอยู่ดี
.
.
.
ตอนหน้า ผมจะเล่าตอนที่ผมกับไอ้หน้าเก็กคบกันแล้วนะครับ