ขอบคุณ คุณ j-muay ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน
ขอความกรุณาเพื่อนๆ อย่านำเอาเรื่องราวในเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากคุณ j-muay ก่อนนะครับ
ขอบคุณครับ
หมูพูห์

**********************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขอนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับกรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0**********************************************************
My baby = 1 = ****************************
“คุณภากร คนไหนคะ”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น รีบวางหนังสือพิมพ์และลุกขึ้นยืนทันที
“ครับ ผมภากร”
“ยินดีด้วยค่ะ คุณได้ลูกชายกับลูกสาว เป็นฝาแฝดแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งคู่ แฝดพี่เป็นผู้หญิง แฝดน้องเป็นชายค่ะ
เดี๋ยวอีกสักครู่ตามไปดูได้นะคะ”
“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ”
เขาขอบคุณพระเจ้าในใจด้วย ที่ประทานทารกน้อยที่สมบูรณ์และแข็งแรงให้เขาถึงสองคน
**********************
เสียงทารกน้อยร้องไห้จ้าทำให้หญิงสาวสะดุ้งตื่น เธอชะโงกดูนาฬิกาที่หัวเตียงก่อนจะหันมาสะกิดสามีที่ยังหลับสนิทอยู่ข้างๆ
“โจคะ ลูกร้อง...”
“อืมม์....”
“ตื่นซีคะ ที่รัก.. หลับอยู่ได้ยังไง ลูกร้องเสียงออกดัง เร็วเถอะค่ะ เดี๋ยวตื่นกันหมดพอดี”
“อือ... ของคุณหรือของผม...”
“ของคุณค่ะ”
“อีกแล้วเหรอ....” ชายหนุ่มงัวเงียลุกขึ้นนั่ง
“ถ้าครั้งนี้คุณหลอกผมอีก ผมจะกลับมาปรับคุณนะ โอเค..”
“โอเคค่ะ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียง เดินไปหาลูกที่ห้องซึ่งมีประตูเปิดทะลุถึงกันและจะเปิดไว้ตลอดเพื่อให้ได้ยินเสียงเวลาลูกร้องไห้โยเยกลางดึก
เขาหายเงียบไปไม่กี่ นาที ทารกน้อยก็เงียบเสียงลง
..
..
..
ณัฐวดีนอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข ไม่อยากเชื่อเลยว่าชีวิตที่เคยผิดพลาดและไม่สมหวังของเธอจะได้พบกับความสุขอย่างเช่นวันนี้
เธอโชคดีที่ได้มาพบเขา เธอบอกไม่ได้ว่ารักเขามากเพียงใด รู้แต่ว่าชีวิตนี้เธอขาดเขาไม่ได้แล้ว
เธอสะดุ้งและลืมตาขึ้นทันทีที่รู้สึกหนักอึ้งที่กลางลำตัว
“อุ๊ย! ไม่เอานะ โจ.. ตัวคุณหนักออก ขยับไปนอนที่ของคุณซีคะ”
“เสียใจ ที่รัก..”
ชายหนุ่มขยับตัวใหม่ แต่ครั้งนี้เขาขึ้นมาคร่อมร่างหญิงสาวไว้ทั้งตัวเลย
“ผมบอกแล้วใช่มั้ย ถ้าหลอกผมอีกคุณจะต้องถูกผมปรับ” เขาไม่พูดเปล่าแต่ซุกไซ้ซอกคอหญิงสาวไปด้วย
“เมย์ไม่ได้หลอกคุณนะคะ ก็ลูกร้องจริงๆ นี่นา”
“ใช่... ลูกร้อง... พอผมถาม.. คุณก็บอกว่าของผมทุกทีเลย คุณรู้มั้ยว่ายายหนูนอนหลับปุ๋ย ไม่มีเสียงร้องสักแอะ”
“แหม!.. คุณก็.. มันพลาดกันได้นี่คะ”
“โอเค!.. เมื่อคุณพลาดได้ คุณก็ต้องรับผิด และยอมให้ผมลงโทษ”
“แต่นี่มันดึกแล้วนะคะ ทอม.. พรุ่งนี้คุณต้องไปร้านแต่เช้านะคะ”
“ไม่สนหรอก ไหนๆ ก็ตื่นมาทำธุระให้ลูกแล้ว ผมต้องทำธุระกับแม่ด้วยเลย”
เขาหาเรื่องเจ๊าะแจ๊ะเธอด้วยเหตุผลนี้ทุกที ช่วยไม่ได้..เธอหลอกให้เขาลุกไปดูลูกหลายคืนแล้ว
ทุกครั้งเจ้าหนูเจมส์จะเป็นฝ่ายร้องโยเย ทั้งๆ ที่เขาและเธอตกลงกันแล้วว่า เขาจะเป็นคนดูแลแฝดพี่คือยายหนูเจนนี่
ส่วนเธอดูแลเจ้าหนูเจมส์แฝดน้อง แต่หลายคืนมาแล้วที่เขาต้องตื่นและลุกขึ้นกลางดึกเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมให้หนูน้อยทั้งสอง
เพราะเจ้าหนูเจมส์ความรู้สึกไวกว่าพี่สาว ฉี่เปียกทีไรเป็นต้องตื่นทุกที
ในขณะที่เจนนี่ยังหลับปุ๋ยอยู่เลย แม้จะเปียกแฉะไปหมดแล้วก็ตาม
***********************
ภากรอุ้มทารกแฝดวัย 5 เดือนไว้ในอ้อมแขนข้างละคน แฝดหญิงซบอยู่ที่ไหล่กำลังเคลิ้มหลับ
แฝดชายจอมเฮี้ยวดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ที่เอว เขาเดินไปหาณัฐวดีที่กำลังแต่งตัวอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
“ผมไปเป็นเพื่อนมั้ย ที่รัก..”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เมย์นัดเจอเขาที่อำเภอเลย เสร็จเรื่องแล้วจะรีบกลับค่ะ คุณเองก็ต้องอยู่ดูลูกด้วย
ยายหนูยิ่งโยเยไม่ยอมให้ใครอุ้มอยู่ ไม่สบายทีไรเป็นต้องอ้อนคุณพ่อทุกที สู้น้องเจมส์ของแม่ก็ไม่ได้ ใช่มั้ยคับ
ใครขออุ้มก็ไปกับเค้าหมดเลย....”
ณัฐวดีหยอกเย้าลูกชายอย่างอารมณ์ดี วันนี้เธอนัดโยธินสามีเก่าทางพฤตินัยไปหย่าขาดจากกันตามกฎหมาย
หลังจากรอจนครบกำหนดระยะเวลาตามที่ตกลงกับโยธินไว้
ภากรเดินตามไปส่งหญิงสาวที่รถ
“ความจริงถ้าผมไปด้วย เสร็จธุระของคุณแล้ว เราจะได้จัดการเรื่องของเราต่อเลย”
ณัฐวดีเงยหน้าขึ้นมองสามีแล้วหัวเราะ
“อะไรกันคะ โจ.. เมย์ไม่เคยได้ยินคุณพูดเรื่องนี้มาก่อนเลย
ยังเคยนึกน้อยใจอยู่หลายครั้งว่าคุณอาจไม่คิดจริงจังกับเมย์ก็ได้..”
“เหลวไหล... คิดยังงั้นได้ไง ไม่รู้หรือว่าคุณเป็นคนสำคัญคนหนึ่งในชีวิตของผม”
ณัฐวดีขมวดคิ้ว กึ่งสงสัยและไม่พอใจ
“คนสำคัญคนหนึ่ง…แปลว่ายังมีคนอื่นอยู่ในหัวใจของคุณอีกหรือคะโจ.. ใครคะ บอกได้มั้ย..”
ชายหนุ่มก้มลงกระซิบข้างหูหญิงสาว
“ก็แฝดตัวน้อยๆ ของคุณและผมไง อีกหน่อยก็จะเติบใหญ่ขึ้นหล่อเหมือนผม..สวยเหมือนคุณไงจ๊ะ ที่รัก..”
เขาหยุดอธิบายและเธอก็ไม่สามารถซักถามอะไรได้อีก เมื่อถูกเขาจุมพิตละเรื่อยจากใบหูมาที่ลำคอขาวเนียนและพรมจูบทั่วใบหน้างามก่อนจะหยุดนิ่งที่ริมฝีปาก
แม้จะรู้สึกขัดเขินเพราะไม่ได้อยู่ในที่ลับตา หากแต่สัมผัสที่ได้รับช่างอบอุ่นและอ่อนหวานนุ่มนวล
จนเธอมิอาจขัดขืนและปฏิเสธการแสดงออกถึงความรักที่เขามีต่อเธอ
ซึ่งในวันนี้เธอรู้ซึ้งเต็มอกแล้วว่าเขารักเธอและลูกมากเพียงใด
ณัฐวดียิ้มอย่างขัดเขิน เมื่อสบสายตาหวานซึ้งของภากร
“แน่ใจนะ ว่าไม่ให้ผมไปด้วย”
“แน่ใจค่ะ คุณอยู่บ้านดูลูกๆดีกว่านะคะ เมย์จะรีบกลับ ไว้เราค่อยหาฤกษ์ดีๆ ไปเข้าโบสถ์ตอนเช้า
แล้วเลยไปจดทะเบียนตอนสายๆ ดีมั้ยคะ”
“โอเค!.. ตามใจคุณ”
“เมย์รักคุณค่ะ โจ.. ถึงไม่มีทะเบียนสมรส เมย์ก็จะขอรักคุณคนเดียวจนวันตาย.”
“RRRR.....”
ภากรวางหนังสือพิมพ์ลงและลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์
เขาเพิ่งจะได้พักผ่อนเมื่อห้านาทีนี้เพราะเจ้าหนูเจมส์แฝดน้องเพิ่งหลับสนิท
ในขณะที่พี่สาวหลับไปก่อนแล้วนานกว่า 20 นาที
“สวัสดีครับ”
“เมย์ออกไปชั่วโมงกว่าแล้ว นายนัดเธอที่ไหน เดินหาทั่วหรือยัง”
โยธินโทรมาตามณัฐวดี เขาว่ารอเธอเกือบชั่วโมงแล้ว..
แต่ยังอารมณ์ดีพอที่จะกระเซ้าภากรว่า หรือเธอเกิดเปลี่ยนใจไม่อยากหย่าจากเขาก็ได้...
วางสายจากโยธินภากรเดินงุ่นง่านไปมา เขาติดต่อณัฐวดีไม่ได้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ทำไมป่านนี้เธอยังเดินทางไปไม่ถึง ทั้งๆ ที่จุดนัดพบอยู่ไกลจากบ้านไม่เกินครึ่งชั่วโมงแม้รถจะติดบ้างก็ตาม
“RRRR...”
ชายหนุ่มถลาเข้าไปคว้าโทรศัพท์ โดยไม่ทันระวังมือจึงปัดถูกกรอบรูปร่วงลงพื้น
เขากรอกเสียงทักปลายสายอย่างร้อนรน ในขณะที่สายตาจับจ้องที่พื้นห้อง
รู้สึกโกรธตัวเองที่ซุ่มซ่าม ณัฐวดีรักกรอบรูปเซรามิคชิ้นนี้มาก ตัวกรอบแตกเป็นสองท่อน
เศษกระจกเกลื่อนกระจายอยู่บนรูปเธอที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขภายในอ้อมแขนมีแฝดน้อยทั้งสองนอนหลับตาพริ้ม
ชายหนุ่มยืนนิ่งฟังเรื่องราวและคำบอกเล่าจากปลายสาย
รู้สึกชาวูบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาขยับส่วนใดของร่างกายไม่ได้
ในขณะที่สายตาก็ไม่อาจละจากใบหน้าหญิงสาวในภาพถ่ายได้เช่นกัน
********************